sansook
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 40 คน [?]




คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...
โค้ดนี้เป็นภาพพื้นหลังนำไปวางที่ช่อง Script Area ค่ะ https://youtu.be/K2vg5yDgVX4
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
20 พฤศจิกายน 2552
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add sansook's blog to your web]
Links
 

 
ตอนที่ 21 พายุที่สงบ



ย่างเข้าวันที่ห้าหลังจากเจ้าฟ้าครามเข้าพิธีสมรสกับไหมแก้วตามขนบธรรมเนียมประเพณีของชาวล้านนา วันนี้เรือนไหมแก้วกำลังโกลาหลกับการเตรียมต้อนรับประมุขแห่งคุ้มประคำหลวงที่แจ้งว่าจะมาพักผ่อนและรับขวัญลูกสะใภ้ ถึงแม้เจ้าหลวงเวียงครามจะเห็นดีเห็นงามกับการครองเรือนของบุตร แต่เจ้านางดวงรัศมีกลับโกรธเคืองจนแทบตัดแม่ตัดลูกเมื่อรับรู้ว่าเจ้าหนุ่มหาได้ใส่กับคำทัดทานของนาง

ถึงแม้เจ้านางผู้เด็ดขาดจะไม่ยอมรับแต่ก็ไม่อาจขัดขวางงานสมรสที่เพิ่งผ่านพ้น เมื่อทำอันใดไม่ได้นางจึงยอมปล่อยให้ทุกอย่างดำเนินไปแล้วค่อยคิดหาทางแก้คืน

ร่างแกร่งยืนพิงเสาต้นใหญ่ในท่าสบายๆ ขณะสายตาจ้องมองหญิงสาวร่างบางที่กำลังยืนหยิบนั่นจับนี่มือเป็นระวิงด้วยแววตาที่เต็มล้นไปด้วยความรัก

“ไหมแก้วจะเตรียมการทำไมให้ยุ่งยาก”

เมื่อเห็นว่าหญิงสาวไม่มีท่าทีจะหยุดมือและความโกลาหลของคนบนเรือนคนที่ยืนนิ่งมาซักพักจึงอดที่จะเอ่ยถามไม่ได้

“เจ้าพ่อกับเจ้าแม่มาทั้งทีจะเตรียมการต้อนรับเล็กๆ ได้อย่างไร”

“ที่เรือนหลวงแก้วกาญจน์ก็เตรียมการได้ใยน้องจะต้องลงแรงให้เหน็ดเหนื่อย”

มือหนาเกลี่ยไล้แก้มนวลเนียนอย่างรักใคร่

“ไหมแก้วไม่เหนื่อยหรอกเจ้า...”

หญิงสาวเอนกายลงซบกับอกอุ่น วงแขนแข็งแรงกอดกระชับเรือนร่างบอบบางอย่างแสนรัก ไหมแก้วเป็นอย่างนี้เสมอเธอทั้งงดงามละอ่อนหวาน เจ้าแม่เดินทางมาแบบนี้ก็ดีบางทีพอมาเห็นไหมแก้วอคติที่นางมีอาจจะลดลงจนยอมรับได้

“พี่อยากชมสวนเวลานี้น้องไปนั่งรับลมกับพี่จะดีกว่า เรื่องพวกนี้เป็นหน้าที่ของบ่าวไพร่ใยต้องมานั่งลงแรงให้เหน็ดเหนื่อย”

“หน้าที่ดูแลท่านทั้งสองเป็นหน้าที่ของไหมแก้วเจ้า บ่าวไพร่ไหนเลยจะดูแลได้สมบูรณ์เท่ากับเราซึ่งเป็นลูก”

“ไหมแก้วน้องไม่ต้องยึดจารีตให้มากความดอก พี่รู้ว่าหน้าที่ลูกคือสิ่งไหนเฉกเช่นเดียวกับรู้ว่าการเป็นสามีที่ประเสริฐจะต้องทำอย่างไร ตัวน้องเป็นเมียต้องอยู่ในฐานะของเมียต้องเป็นสตรีที่งดงามเพื่อเสริมสร้างบารมีให้สามีเป็นที่น่าเกรงขาม”

“ไหมแก้วรู้เจ้า”

“รู้แต่น้องก็ไม่ทำ เวลานี้น้องเป็นเมียพี่มีศักดิ์เป็นถึงชายาของเจ้าที่วันหน้าจะต้องขึ้นปกครองคนอีกมากหลาย น้องต้องรู้จักปกครองบ่าวไพร่ งานการบางอย่างน้องก็มิควรหยิบให้เสื่อมเกียรติ” ใบหน้าคมคายขึงขังเมื่อเอ่ยถึงหน้าที่

“การปกครองบ่าวไพร่หาใช่ต้องจิกใช้จนเรามิต้องทำอันใด ใช่อยู่การงานบางอย่างเราก็มิควรทำแต่การจะปกครองคนเราต้องยึดหลักพระเดชพระคุณ พระเดชมีได้แต่อย่าให้มากเกิน เลี้ยงดูบ่าวไพร่เฉกเช่นเดียวกับคนในครอบครัวไหนเลยบ่าวไพร่จะเนรคุณ อยากได้บริวารดีเราต้องรู้จักเมตตาหาใช่แค่วางอำนาจให้เป็นที่เกรงกลัว”

“แต่บ่าวไพร่ก็คือข้ารับใช้ใยจะต้องใส่ใจให้มากความ”

“เจ้าพี่มิควรพูดเยี่ยงนั้น บ่าวไพร่ก็คือมนุษย์ มนุษย์ทุกคนมิมีใครต้องการอยู่ภายใต้การถูกกดขี่ข่มเหง หากเราทุกคนเลือกได้ ทุกคนย่อมต้องการมีชีวิตที่เป็นอิสระอยู่ในบรรยากาศแห่งความรัก ความห่วงใย และได้อยู่กับความรู้สึกเสมือนหนึ่งเป็นพี่เป็นน้อง”

“ดูท่าพี่คงจักหาคำมาแก้ต่างมิได้ มิแปลกใจว่าใยบ่าวไพร่ถึงได้ภักดีกับน้องนัก” ใบหน้าคมคายฉายรอยยิ้มเมื่อได้ฟังความคิดของนางในดวงใจ

“สิ่งเหล่านี้คือความเป็นจริง”

“เอาล่ะๆ พี่มิเถียงแล้ววันนี้น้องเหน็ดเหนื่อยมาพอแล้วมาเถอะไปนั่งรับลมกับพี่ที่สวนจักดีกว่า งานบนเรือนน้องก็ทำไปตั้งมากปล่อยให้บ่าวไพร่ทำบ้างจะเป็นไร นั่นไงไหมงามมานั่นแล้ว”

เจ้าหนุ่มโบ้ยปากไปทางหน้าเรือนเมื่อเห็นหญิงสาวรูปร่างสูงโปร่งเดินใกล้เข้ามา

“พี่งามกลับมาแล้ว” เสียงหวานเรียกขานอย่างยินดีเมื่อเห็นคนที่กำลังเดินเข้ามาว่าเป็นใคร

“ใจเย็นๆ ไหมแก้วดูทำเสียงเข้าตื่นเสียจนเรือนไหวแล้วนั่น”

ใบหน้าหวานแย้มยิ้มมาแต่ไกลเมื่อได้ยินเสียงของญาติผู้น้อง

ไหมแก้ววิ่งออกไปรับญาติผู้พี่ที่กำลังเดินขึ้นเรือนด้วยความดีใจ ก่อนจะเอ่ยถามหาบิดาน้ำเสียงร้อนรน

“พ่อล่ะพี่งาม”

“พ่อครูก็อยู่ที่เรือนไง ไหมแก้วน้องเป็นอะไรพี่กับพ่อครูไปธุระมิถึงสามวันดูเจ้าสิทำยังกับไม่เจอพวกเรามาเป็นแรมเดือน” ญาติผู้พี่เอ่ยน้ำเสียงขบขัน

“ก็ไหมคิดถึงแล้วก็เป็นห่วงพ่อกับพี่งามนี่เจ้า ไปวันเดียวก็เหมือนนานเป็นปีๆ นั่นแหละ”

“แล้วเวลาพี่ไปไหนไกลๆ ไหมแก้วคิดถึงพี่บ้างไหม”

เจ้าหนุ่มไม่ยอมเสียเปรียบรีบถามแทรกขึ้นทันใด

“เจ้ามิต้องห่วงดอกว่าแม่ไหมแก้วจะไม่ห่วง พอเจ้าลงเรือนไม่ถึงสามก้าวแม่น้องสาวของงามก็ชะเง้อมองจนคอยาวเป็นห่านเพราะความคิดถึงแล้วล่ะเจ้า”

ไหมงามช่วยตอบเพราะอดหมั่นไส้ไม่ได้

ใบหน้าคมคายก็ถึงกับบานฉ่ำเมื่อได้ฟังคำบอกเล่าดวงตาคมกริบจ้องมองใบหน้างดงามอย่างมีความหมาย.....จนแทบคว้าแม่เอวบางเข้ามาสวมกอดให้คลายความเสน่หา....พอเห็นประกายตาฉ่ำหวานของเจ้าหนุ่มคนถูกกล่าวถึงได้แต่หลบตาก้มหน้าอย่างเอียงอาย

“พี่งามมาเหนื่อยๆ ไปนั่งพักก่อนเถอะ”

หญิงสาวเสไปเรื่องอื่นแล้วดึงข้อมือของญาติผู้พี่พาเดินไปนั่งบนตั่งกว้างกลางลานบ้าน

“พี่มิเหนื่อยดอกไหมแก้วเตรียมการไปถึงไหนแล้ว” ถามพลางสอดส่ายสายตามองไปรอบๆ

“ตอนนี้คงมีแต่เรื่องสำรับกับการฟ้อนต้อนรับท่านเจ้าหลวงกับชายา ส่วนเรื่องอื่นๆ เรียบร้อยหมดแล้ว”

“เรื่องสำรับให้พี่กาญจน์ตระเตรียมจักดีกว่า รับใช้กันมานานย่อมรู้ใจกันดี ส่วนเรื่องช่างฟ้อนประเดี๋ยวพี่จะจัดการให้ ไหมแก้วมิต้องกังวลดอก”

“ไหมงามพูดถูกน้องมิต้องตระเตรียมดอกไปเถอะไปนั่งรับลมชมสวนกับพี่จักดีกว่า อากาศกำลังร่มเชียว” เจ้าหนุ่มรีบสนับสนุน

“แต่พี่งามมาเหนื่อยๆ จะมิพักก่อนหรือ“ ถามน้ำเสียงใส่ใจ

“พี่ไปธุระแค่คุ้มใกล้ๆ มิได้เดินทางไกลเสียหน่อยใยจะต้องพักให้เกียจคร้าน ไหมไปนั่งเล่นที่สวนกับเจ้าท่านเถอะทางนี้ประเดี๋ยวพี่จักดูแลให้”

เมื่อญาติผู้พี่ยืนกรานหนักแน่น แม่งานที่วุ่นวายมาทั้งวันจึงยอมล่าถอย เจ้าฟ้าครามผุดรอยยิ้มออกมาเมื่อเห็นคนหัวดื้อยอมละงานเสียที ชายหนุ่มเดินเข้าไปโอบเอวคอดบางแล้วดึงแกมลากออกไปทันที

ไหมงามมองตามหลังคนทั้งสองไปด้วยใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความสุข ชีวิตคู่ของไหมแก้วในยามนี้ถือว่าเป็นความสุขที่ใครๆ ต่างก็พากินอิจฉา ในฐานะคนเป็นพี่เธอหวังเหลือเกินว่าชีวิตคู่ของญาติผู้น้องจะพบกับความสุขเช่นนี้ไปตราบชั่วนิจนิรันด์

หญิงสาวมองไปรอบๆ ตัวบ้านแล้วหยุดนิ่งที่พานเงินขนาดใหญ่ ที่ไหมแก้วนำใบตองมาเย็บเป็นบายศรีประดับด้วยดอกไม้สด เพื่อรับรองแขกบ้านแขกเมือง....พรุ่งนี้แล้วสินะที่ไหมแก้วจะต้องเผชิญกับความทุกข์ใจ....

ด้วยความที่เป็นช่างฟ้อนที่มีชื่อเสียงไหมงามจึงเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง เนื่องจากต้องไปถ่ายทอดการฟ้อนสาวไหมให้แก่บุตรหลานของกลุ่มคนชั้นสูงอยู่เสมอจึงทำให้เธอพอรู้มาบ้างว่าเจ้านางดวงรัศมีไม่เห็นด้วยกับการที่เจ้าฟ้าครามมาแต่งงานกับไหมแก้ว

ใบหน้าหวานหม่นลงเมื่อนึกการมาในครั้งนี้ของเจ้านางผู้เด็ดขาด เมื่ออาทิตย์ก่อนเธอเข้าไปถ่ายทอดวิชาให้กับบุตรสาวเจ้านางคนหนึ่ง จึงทำให้เธอรู้มาว่าเจ้านางดวงรัศมีได้หมั้นหมายเจ้านางดุจดารา ธิดาของเจ้าหลวงหนานภพ ทุกอย่างดูเหมือนสงบแต่ลึกๆ เธอรู้ดีว่าความสงบนั้นย่อมแฝงเร้นไปด้วยความขัดแย้งที่น่าสะพรึง.....

*******************

บรรยากาศโดยรอบของเรือนไหมแก้วกำลังร่มรื่นสายลมอ่อนๆ ที่พัดพลิ้วบางๆ ค่อยๆกระโชกโหมพัดแรงขึ้นจนกลีบดอกกุหลาบที่เบ่งบานเริ่มร่วงหล่นปลิดปลิวกันให้ว่อน

“เจ้าพี่กลับเรือนเถอะลมแรงเช่นนี้เห็นทียามค่ำคืนคงมีฝน”

หญิงสาวร่างบางเงยหน้าขึ้นชวน

“ประเดี๋ยวสิพี่กำลังรู้สึกสบาย ไหมแก้วหนาวเหรอมาสิคนดีพี่จะกอดให้คลายหนาว”

ใบหน้าคมคายแย้มยิ้มขณะเอื้อมไปคว้าข้อมือเรียวดึงร่างบอบบางเข้ามากอดไว้กับอกอุ่น

“เจ้าพี่เวลานี้เราอยู่นอกเรือนอย่าทำอะไรให้เป็นที่ครหา” หญิงสาวขืนกายออกจากอกอุ่น

“พี่จะกอดให้ความอบอุ่นกับเมียใครหน้าไหนจะมาครหา พี่หาได้ไปกกกอดหญิงอื่นเสียเมื่อไหร่”

“แต่มันก็ไม่ควรประเจิดประเจ้อเยี่ยงนี้มันไม่งามนะเจ้า”

“โธ่....ไหมแก้วแค่กอดมันไม่งามตรงไหน เอ้าถ้าไม่ให้พี่กอดตรงนี้ก็ขึ้นเรือนกันเถอะไปกอดบนเรือนโน่นก็ได้” รอยยิ้มกรุ้มกริ่มผุดออกมาจากมุมปากสีเข้มเมื่อคิดเย้าแหย่เมียสาวให้ผวาเล่น

“เจ้าพี่!” และก็ได้ผลเมื่อคนถูกชวนแหวเสียงขึ้นทันใด

“ดูทำเสียงเข้าดังลั่นจนใจพี่กระตุกหมดแล้วรู้ไหมนั่น” ชายหนุ่มหัวเราะอย่างเอ็นดู เมื่อเห็นใบหน้างามเผือดซีดดูท่าไหมแก้วจะกลัวการปฏิบัติหน้าที่ของเมียไม่หาย

“ก็เจ้าพี่นั่นประไรเอะอะก็จะขึ้นเรือนเป็นเสียอย่างนี้ไหมแก้วก็ย่ำแย่นะสิเจ้า” ปรายตาตำหนิ

“ไม่ขึ้นได้อย่างไรพี่อยากกอดเมียอยากอยู่ใกล้ๆ พี่ขอกอดตรงนี้น้องก็บอกไม่งามพี่ก็เพียรพยายามหาที่งามๆ จะได้กอดน้องสมกับความปรารถนาดูเถอะกลายเป็นพี่ผิดเสียอย่างนั้น” ทำเสียงตัดพ้อ

“ไหมแก้วซึ้งใจกับความเมตตาที่เจ้าพี่มีต่อไหมแก้ว แต่เจ้าพี่ขาบางคราเราก็ต้องรู้จักประมาณกับความปรารถนาที่มากล้นจนเกินควร ไหมแก้วยังอยู่ตรงนี้และจะอยู่เคียงข้างเจ้าพี่ไปอีกนานแสนนาน” มือเรียวทาบลงหน้าอกด้านซ้ายแล้วเอนกายลงซบกับอกกว้าง

เจ้าฟ้าครามก้มมองกิริยานุ่มละมุนของหญิงงามในดวงใจด้วยความรู้สึกที่เต็มล้นไปด้วยความรัก มือหนากอบกุมมือบางยกขึ้นจุมพิตเบาๆ วงแขนแข็งแรงกระชับร่างอ้อนแอ้นแนบกับอกด้วยความอิ่มเอมกับห้วงรักที่กำลังดำเนินไป

หัวใจแกร่งกระตุกวูบเมื่ออยู่ๆ ก็รู้สึกใจหายขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล ถึงแม้เวลานี้เขาจะกอดเธอไว้แนบชิดแต่ห้วงลึกของจิตใจมันกลับเหว่ว้าเหมือนกับว่าเขากำลังจะสูญเสียสิ่งอันเป็นที่รัก

“เจ้าพี่! เจ้าพี่เป็นอะไรใยร่างกายถึงสั่นไหวเช่นนี้”

หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองเสี้ยวหน้าคมด้วยความตระหนกเมื่อรับรู้ถึงอาการสั่นสะท้านจากกายแกร่ง วงแขนเรียวเล็กโอบกระชับเอวหนาอย่างห่วงใย

“พี่ไม่รู้อยู่ๆ พี่ก็รู้สึกเหมือนกำลังลอยเคว้งอยู่บนเวหา ทุกอย่างดูว่างเปล่าจนหัวใจของพี่เจ็บแปลบคล้ายปวดร้าวจนจวนเจียนจะขาดใจ ไหมแก้วน้องอย่าละทิ้งพี่ไปไหนนะคนดี พี่คงอยู่เป็นผู้เป็นคนไม่ได้หากวันหน้าต้องอยู่เดียวดายโดยไม่มีน้องอยู่เคียงกาย”

ร่างสูงถอนใจเฮือกใหญ่เพื่อคลายอัดอั้นที่ความจุกแน่นไปทั้งอก

“ไหมแก้วจะไม่ไปไหนเจ้าพี่โปรดวางใจ ไหมแก้วเทิดทูลเจ้าพี่ไว้ในหัวใจจนมิอาจทานทนได้หากจะต้องสูญเสีย ร่างกายน้องเป็นของเจ้าพี่รวมถึงจิตวิญญาณที่จะภักดีต่อเจ้าพี่ไปตราบจนชีวิตของน้องจะสิ้นสูญ เจ้าพี่อย่าได้กังวลกับกาลในวันหน้าขอเพียงเรารักมั่นคงมิมีสิ่งใดที่จะมาพรากเราจากกัน”

“แต่พี่เกรงเหลือเกินเกรงว่าน้องจะจากพี่ไป ไหมแก้วฟังคำพี่ไว้ไม่ว่าวันหน้าจะมีสิ่งใดเกิดขึ้นพี่ขอแค่ให้น้องจงอดทนกับความเป็นไปแล้วช่วยพี่แก้ไขให้บรรเทา อย่าละทิ้งพี่เพียงเพราะปัญหาในยามทุกข์ยากน้องจงเข้มแข็งและอยู่ฝ่าฟันไปกับพี่ พี่ขอเพียงเท่านี้น้องจักทำได้ไหม” สายตาคมจ้องมองขอคำมั่นจากปากนาง

“ต่อให้ทุกข์ยากปานใด น้องก็จักมิหวั่นไปกับปัญหาในยามต้องเผชิญ สิ่งที่จะพรากไหมแก้วจากเจ้าพี่ได้จะมีเพียงความตายเท่านั้น”

“โปรดเถิด....ไหมแก้ว...อย่าเอ่ยถึงความตายพี่หารับได้หากจักต้องสูญเสียน้องไปตลอดกาลเยี่ยงนั้น” มือหนาทาบลงบนกลีบปากสีกุหลาบหวานด้วยสีหน้ากรุ่นไปด้วยความหวาดหวั่น

“เจ้าพี่กำลังกังวลกับการมาของเจ้าแม่ใช่หรือไม่”

“เจ้าแม่มาคราวนี้พี่หวั่นเหลือเกินกับปัญหา ไหมแก้วบางคราในยามเจ้าแม่เรียกหาหากนางเอ่ยถ้อยความที่อาจจะทำให้น้องหมองใจ น้องก็อย่าได้ใส่ใจเอาความรู้ไหม”

“ไหมแก้วเป็นลูกไหนเลยจะกล้าต่อปากหาความ บิดามารดาย่อมเป็นสิ่งประเสริฐที่ควรเทิดทูลถ้อยคำในยามบอกกล่าวย่อมมีความปรารถนาดีเคลือบแฝง หากเจ้าแม่ท่านยังเคืองใจไหมแก้วก็จะอดทนจนกว่าท่านจะยอมรับกับความรักของเรา เจ้าพี่อย่าได้กังวลไหมแก้วจะปฏิบัติตนให้เป็นลูกสะใภ้ที่ดีตราบจนสิ้นลมหายใจ” ดวงตาคู่สวยจับจ้องจริงจังกับคำมั่นที่ลั่นวาจาไป

“เจ้าช่างประเสริฐนักเมียพี่ เวลานี้เจ้าแม่ท่านยังมิรู้จักเจ้าดีพอท่านเลยตั้งแง่เช่นนี้ แต่อีกไม่นานพี่เชื่อเหลือเกินว่าความดีที่น้องยึดถือจะทำให้นางเปลี่ยนใจ......”

“ไหมแก้วจะอดทนกับความเกลียดชังแล้วใช้ความจงรักและภักดีเป็นที่ตั้งเพื่อฉุดรั้งให้หัวใจของเจ้านางท่านอ่อนลงให้จงได้”

ใบหน้าคมคายแย้มยิ้มอย่างมีหวัง ลองไหมแก้วยอมอ่อนเช่นนี้แรงประทะอาจจะไม่หนักหนาอย่างที่เขากำลังกังวล ไหมแก้วคงไม่เข้าใจว่าใยเขาถึงเร่งรีบสร้างทายาท ถึงจะสงสารที่เธอจะต้องมารองรับกับการปรนเปรอที่ดูมากเกินแต่การมีทายาทอาจจะทำให้เจ้านางดวงรัศมีอ่อนลงจนยอมรับกับการแต่งงานในครั้งนี้







Create Date : 20 พฤศจิกายน 2552
Last Update : 20 พฤศจิกายน 2552 11:36:53 น. 1 comments
Counter : 802 Pageviews.

 
สองสามตอนนี้หวานเกินไปแล้ว ฮ่าๆๆ
เม้นท์ไม่ออกเลยค่ะ


โดย: karaked IP: 68.105.5.210 วันที่: 8 มกราคม 2553 เวลา:1:26:21 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.