sansook
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 40 คน [?]




คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...
โค้ดนี้เป็นภาพพื้นหลังนำไปวางที่ช่อง Script Area ค่ะ https://youtu.be/K2vg5yDgVX4
Group Blog
 
 
ตุลาคม 2552
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
21 ตุลาคม 2552
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add sansook's blog to your web]
Links
 

 
ตอนที่ 11 จูบแรก





“โอย....อึดอัดชะมัดเลย” ณชนกเดินบ่นกระปอดกระแปดขณะสยายผมออกแผ่เต็มแผ่นหลัง

“ในที่สุดนางซินฯ ก็แปลงร่างซะที” ธีรดานั่งยิ้มเริงร่าอยู่บนเตียง

“นางซินฯ อะไรกันเฮ้อกลุ้มใจเมื่อไหร่คุณแม่จะเลิกจับคู่ให้ซักทีก็ไม่รู้หมกผมอยู่ในวิกทุกวันหัวณชาจะเน่าอยู่แล้ว” ณชนกยังบ่นไม่เลิก

“แต่วิกผมของณชาเหมือนจริงมากเลยนะ ถ้าไม่บอกว่าของปลอมดาคงดูไม่ออก” ธีรดาหยิบวิกผมขึ้นมาพินิจ

“ไม่เหมือนได้ไง กว่าจะได้มากว่าจะหัดใส่กว่าจะใส่ได้แบบนี้ เราไปนั่งเรียนมาเป็นอาทิตย์ๆ”

“เคยแต่เห็นพวกหนังพวกละครเขามีแต่กลางคืนครับกลางวันค่ะ แต่ดูณชาสิกลางวันครับกลางคืนค่ะเลยนะเนี่ย” ธีรดาพูดปนขำ

“ตอนนี้บอกตรงๆ อยากค่ะทั้งกลางวันกลางคืนแล้ว เดี๋ยวเราไปอาบน้ำก่อนก็แล้วกันดานอนก่อนก็ได้นะ” ณชนกทำเสียงดี๊ด๊าเมื่อนึกถึงช่วงเวลาที่เธอจะได้แช่ตัวอยู่ในอ่างอาบน้ำ

“ยังหรอกเมื่อกี้พี่หิรัญชวนเราไปนั่งรับลมตรงระเบียง ไปนั่งชมจันทร์กับคนรักก่อนนอนเอาเรี่ยวเอาแรงดีกว่า” ธีรดาผุดลุกขึ้น

“เอาเชียวคืนนี้ก็อย่าเผลอหลงเข้าไปนอนชมจันทร์กับพี่หิรัญที่ห้องเขาล่ะ”

“บ้าเหรอณชาพูดจาไม่สร้างสรรค์เลย แนะนำแบบนี้พี่หิรัญมาได้ยินดาถูกตีหัวลากเข้าห้องแน่ๆ” ธีรดาบอกยิ้มๆ

“ดึกดื่นค่อนคืนไม่รู้จักหลับจักนอน พวกอินเลิฟเขาเป็นแบบนี้ทุกคู่ไหมเนี่ย จะกินก็ต้องได้ยินเสียง จะนอนก็ต้องได้เห็นหน้าอิจฉาจังเล๊ย” ณชนกพูดขึ้นลอยๆ จนธีรดาอดไม่ได้ที่จะหันมาส่งค้อนงามๆ เป็นรางวัล

“นึกว่าจะแห้วซะแล้วสิเรา” หิรัญที่นั่งรอจนเริ่มกระวนกระวายเอ่ยน้ำเสียงยินดีเมื่อเห็นแฟนสาวเดินออกมาจากห้อง

“ไม่ออกมาได้ยังไงล่ะคะพี่หิรัญเล่นขู่ว่าถ้าไม่ออกมาจะหนีน้องดาไปหมักเบียร์ที่เยอรมันตั้งหลายเดือน” ธีรดาเดินส่งยิ้มมาแต่ไกล

“ได้ยินเสียงน้องณชาแว่วมาไกลๆ ว่าอิจฉา เอ.....น้องเขาอิจฉาอะไรน๊า” หิรัญลุกขึ้นยืดตัวเต็มความสูงจ้องมองคนรักแล้วยิ้มน้อยๆ

“ก็อิจฉาที่น้องดามีพี่หิรัญเป็นคนรักไงล่ะคะ สงสัยจะอิจฉากับชีวิตของคนปกติ ก็อยากเลือกเองช่วยได้ที่ไหน น้องดาอยากให้พี่ดลจีบณชาติดจริงๆ เปลี่ยนจากเพื่อนมาเป็นญาติแบบนี้มีแต่เรื่องดีกับดีพี่หิรัญว่าไหม”

“เท่าที่เห็นสีหน้าของคุณดลพี่ว่าดูท่างานนี้กว่าจะสปาร์คก็คงอีกนาน คุณธีรดลย์คงยังทำใจไม่ได้ที่ต้องไปจีบทอมมาเป็นแฟน “ หิรัญสันนิษฐานไปตามที่เห็น

“น้องดาชักอยากรู้แล้วล่ะสิว่าผู้ชายที่ทางบ้านณชาเลือกให้หน้าตาเป็นยังไง สงสัยจะขี้เหร่มากเลยเนอะณชาถึงได้ร้อยไม่เอาพันไม่เอาแบบนี้ พูดแล้วก็เคืองแทนสมัยนี้มันยุคไหนแล้วทำไมครอบครับณชาถึงได้โบราณแบบนี้ก็ไม่รู้ ถ้าน้องดารู้ตัวไอ้ผู้ชายบื้อๆ คนนั้นรับรองสวย” ธีรดาเริ่มมีอารมณ์
“น้องดาอย่าทำดุสิครับ เห็นแล้วพี่สยอง” หิรัญเย้าแหย่

“ซ้อมกลัวไว้บ้างก็ดีเวลาแต่งงานไปจะได้กลัวน้องดาเหมือนพวกพี่ล้อม” ธีรดาได้ทีรีบข่มเหง

“กลัวแบบนั้นมันไม่สร้างสรรค์ดูไร้เหตุผลไม่ดีหรอก เราอยู่กันด้วยความรักความเกรงใจ และให้เกียรติซึ่งกันและกันดีกว่า”

“พูดจาดูดีจังเลยนะคะ แต่ผู้ชายไทยใจเกินร้อยต้องกลัวภรรยาเป็นที่ตั้งชีวิตในภายภาคหน้าถึงจะได้เจริญรุ่งเรือง” ธีรดาโปรยเส้นทางให้ตัวเอง

“แล้วน้องดาพร้อมที่จะเป็นแม่บ้านให้พี่หรือยัง” อยู่ๆ หิรัญก็ถามโต้งๆขึ้น
ธีรดาถึงกับพูดไม่ออกเมื่อเจอคำถามชวนให้ใจเต้นตึกตัก หญิงสาวยืนอึ้งตัวเบาหวิวกับคำถาม “ว่าไงครับพร้อมหรือยัง?” หิรัญเอื้อมมือไปกุมมือบางแล้วถามย้ำอีกครั้ง

“เอ่อ...คือ....เอ่อ” ธีรดาได้แต่อ้ำอึ้ง

“อ้าว...ติดอ่างซะแล้ว” หิรัญหัวเราะขบขันเมื่อเห็นใบหน้านวลเนียนเริ่มแดงเข้ม

“ก็น้องดาไม่รู้จะตอบยังไงนี่คะ” คนตอบหน้าง้ำงอ

“ถ้าน้องดาไม่รู้จะตอบยังไงพรุ่งนี้พี่ไปถามคุณแม่น้องดาดีกว่า” หิรัญทำตาเจ้าเล่ห์

“ขอให้กล้าเถอะคุณแม่น้องดาดุจะตาย ส่วนคุณพ่ออย่าให้เซ่ดดุ๊ดุ พรุ่งนี้ไม่รู้ว่าจะพกปืนมาด้วยหรือเปล่า” ธีรดาขู่แววตาเป็นประกาย

“ต่อให้พกปืนใหญ่มาพี่ก็ไม่หวั่นหรอกจ๊ะ นาทีนี้พี่หน้ามืดเพราะอยากได้เมียจนลืมตายแล้วล่ะครับ”

“บ้า...เมียอะไร” ธีรดาแทบม้วนหน้าม้วนหลังเมื่อได้ยินจุดมุ่งหมายของแฟนหนุ่ม

“ฮ่าๆ หน้าแดงเป็นตูดลิงแล้วนะนั่น”

“ว๊าย....พี่หิรัญทำไมถึงปากคอเราะร้ายแบบนี้...นี่แน่ะ” ธีรดาฟาดมือลงบนอกกว้าง

หิรัญจับมือเล็กๆ ไว้แล้วดึงร่างบางอ้อนแอ้นเข้ามากอดไว้แน่น ชายหนุ่มหัวเราะขบขันอย่างเอ็นดูเมื่อเห็นแม่เสือตัวน้อยหน้าหงิกหน้างอ “เวลาน้องดางอนพี่ช๊อบชอบ”

“ปล่อยนะพี่หิรัญจะทำให้น้องดาโมโหใช่มั๊ย” ธีรดาสะบัดแขนไปมาสีหน้าเอาเรื่อง

“อย่าทำเสียงดุสิพี่กลัว” หิรัญลูบเรือนผมดำขลับเบาๆ แล้วกระซิบบอก

“ประชดน้องดาเหรอ?”

“เปล่าจ๊ะ”

“เปล่าแล้วขำทำไม?”

“ก็พี่กลัวจริงๆ นี่ครับ”

“ปล่อยได้แล้วน้องดาจะกลับห้อง” เมื่อหิรัญยังกวนอารมณ์ได้ดีไม่มีตกธีรดาจึงแสดงอาการเคืองกลับไปบ้าง

“โอ๋...พี่ก็แค่แหย่เล่นทำเป็นงอนไปได้มาเถอะวันนี้พี่อยากนั่งตากน้ำค้างคุยกับน้องดาซักคืน” หิรัญโอบเอวคอดบางเดินไปนั่งบนเก้าอี้หวายตัวใหญ่

“อุ๊ย! “ หญิงสาวอุทานน้ำเสียงตระหนกเมื่อชายหนุ่มดึงเธอให้นั่งลงบนตัก ธีรดาเด้งตัวจะลุกขึ้นแต่อีกคนกลับกอดรั้งเธอไว้

“ขอนั่งกอดก่อนนอนไม่ได้เหรอ” หิรัญขอร้องเสียงอ้อน

“ไม่ได้เดี๋ยวใครมาเห็นเข้าน้องดาจะเสียหาย”

“ดึกขนาดนี้ใครเขาจะถ่างตามาแอบดู นานแล้วนะที่เราไม่ได้ใกล้ชิดกันแบบนี้ น้องดา...แต่งงานกับพี่ได้ไหม...” หิรัญกอดรัดร่างบอบบางไว้แนบอก เกยคางลงบนไหล่กลมกลึง

เสียงกระซิบที่ดังอยู่ข้างหูทำให้ธีรดานั่งตัวแข็งทื่อ หญิงสาวรู้สึกวูบวาบแปลกๆ เมื่อมีลมอุ่นๆ เป่ารดอยู่ที่ต้นคอ “คะ ! .....พี่หิรัญว่าอะไรนะคะ?” ธีรดาหันไปจ้องหน้าชายหนุ่มเหมือนกับเป็นสิ่งของที่แปลกประหลาดนักหนา

“พี่กำลังขอน้องดาแต่งงานทำไมน้องดาต้องทำหน้าตกใจขนาดนั้นด้วยล่ะครับ” หิรัญจ้องกลีบปากงามที่กำลังเผยอแย้มอย่างลืมตัว

“ก็....” ธีรดาอ้ำอึ้งเพราะไม่รู้จะบอกยังไง

หิรัญเงยหน้าขึ้นมองหญิงสาวบนตักด้วยหัวใจที่เริ่มเต้นไม่เป็นจังหวะ เมื่อใบหน้างามอยู่ห่างกันไม่ถึงคืบ ชายหนุ่มเกี่ยวเอวคอดบางด้วยแขนข้างหนึ่งส่วนอีกข้างประคองใบหน้าสวยหวานไว้ในอุ้งมือ “พี่รักน้องดาแต่งงานกับพี่เถอะนะ” มือหนาดึงร่างบางอ้อนแอ้นเข้าหาตัวแล้วค่อยๆ หยัดกายขึ้น...

ธีรดาจ้องตาของชายหนุ่มด้วยหัวใจเต้นระทึก ถึงจะคบหากันมานานแต่เธอกับหิรัญก็ไม่เคยอยู่แนบชิดขนาดนี้ หญิงสาวพยายามฝืนร่างกายแต่ดูเหมือนว่าดวงตาคมเข้มคู่นั้นกำลังสะกดให้เธอหยุดนิ่ง....ริมฝีปากสีเข้มได้รูปค่อยๆ แตะลงบนกลีบปากนุ่มของเธอ ก่อนที่จะค่อยๆ ใช้ความชำนาญในชั้นเชิงหลอกล่อชักจูงให้หญิงสาวเดินไปตามแรงอารมณ์

ฝ่ามือใหญ่สอดเข้าใต้เสื้อนอนตัวหลวมลูบไล้ผิวเนื้อนุ่มนิ่ม ขณะริมฝีปากอุ่นยังคงบดขยี้ซอกซอนจนอีกฝ่ายยอมรับจุมพิตวาบหวามอย่างปฏิเสธไม่ได้ ธีรดาสะดุ้งสุดตัวเมื่อปลายนิ้วอุ่นจัดสะกิดตะขอยกทรงให้หลุดแยกออกจากกัน

“พะ...พะ..พี่หิรัญน้องดากลัว...” ธีรดาเบิกตาโพลงผละออกจากอกอุ่นแล้วกางมือผลักร่างหนาออกจากตัวอย่างลนลาน

“น้องดา...พี่ขอโทษ......” หิรัญถึงกับหน้าเสียเมื่อเผลอแสดงความหื่นจนอีกคนตื่นตระหนก

“น้องดา...ต้องกลับไปนอนแล้ว” ธีรดาลนลานลุกขึ้นวิ่งแจ้นกลับห้องโดยไม่คิดหันกลับไปมองหน้าอีกคนให้ใจสั่นหวั่นไหว

“น้องดา...” หิรัญยืนหน้าเหวอมองตามร่างบอบบางไปอย่างสุดแสนเสียดาย “เอ้า...แล้วแบบนี้สรุปจะได้แต่งหรือไม่ได้แต่งล่ะเนี่ย” ชายหนุ่มยืนเกาหัวแกรกๆ

“วิ่งแจ้นไปแบบนั้นจะโกรธไหมนั่น เฮ้อ...ไม่น่าใจร้อนเลยเรา” หิรัญพึมพำอย่างกังวลคืนนี้นอกจากสาวเจ้าจะไม่ประทับใจบางทีพรุ่งนี้เธออาจจะโกรธจนไม่ยอมมองหน้าเขาอีก....จะซวยไหมหนอเรา....

************

“อ้าวธิดาวิ่งหนีใครมา” ณชนกที่กำลังนั่นประทินโฉมอยู่หน้ากระจกหันไปถามเพื่อน

“ปะ...ปะ...เปล่าจ๊ะ” ธีรดาหลบตากระโดดขึ้นเตียงดึงผ้าห่มคลุมโปง

“ใช่เร้ออาการหน้าตื่นแบบนี้ดูท่าจะมีเรื่อง” ณชนกกระโดดขึ้นเตียงดึงผ้าห่มของเพื่อนออก

“ไม่มีอะไรจริงๆ” ธีรดาผุดลุกขึ้นควานมือหาผ้าห่ม

“ไม่มีอะไร แต่ทำไมถึงแก้มแดงเป็นตูดลิงแบบนี้ล่ะ” ณชนกชี้มือจับผิดเพื่อน

“ก็....นี่แน่ะ” ธีรดาที่เขินจนควบคุมตัวเองไม่อยู่ฟาดมือลงบนแขนเพื่อนเต็มแรง

“อูย...ธิดามาตีเราทำไมเนี่ย นั่นแน่เขินแบบนี้แสดงว่าพี่หิรัญทุบหัวธิดาแล้วลากเข้าห้องมาใช่ม๊า”

“บ้าเหรอณชา...พี่หิรัญไม่ได้ทำอะไรแบบนั้นซักหน่อย....ก็แค่...”

“แค่อะไร?...” ณชนกหรี่ตาถาม

“ไม่บอกไม่ได้เหรอ....ดาเขิน...” ธีรดาดึงหมอนขึ้นมาปิดหน้าปิดตา

“ไม่ได้ไม่บอกมีเรื่อง” ณชนกที่ถูกวิญญาณของความอยากรู้อยากเห็นเข้าครอบงำถึงกับหูผึ่ง

“พี่หิรัญจูบดา...” ธีรดาบอกขณะหน้าแดงก่ำด้วยความขัดเขิน

“หา! พี่หิรัญจูบธิดางั้นเหรอ... โอย...ตื่นเต้น....”

“ตื่นเต้นสิ...” ธีรดาเล่าไปเขินไป

“แล้วเป็นไงมั่งล่ะ....จูบแรกมันดีไหม” ณชนกถามด้วยความอยากรู้เต็มกำลัง

“ถามแบบนี้แล้วดาจะตอบยังดีล่ะ”

“ก็ตอบแบบที่ธิดารู้สึกนั่นแหละ”

“ก็ดี...” ธีรดาตอบสั้นๆ

“แค่นี้...” ณชกทำหน้าผิดหวัง “เราเคยอ่านในหนังสือเห็นเขาเขียนว่ามันจะวูบวาบเหมือนล่องลอยอยู่ในอากาศ แล้วธิดารู้สึกเหมือนที่เขาเขียนหรือเปล่าล่ะ” ณชนกเอาประสบการณ์จากทฤษฎีขึ้นมาเป็นแนวทาง

“ตอนนั้นดามัวแต่ตกใจมันเลยไม่รู้ว่าความรู้สึกมันล่องลอยหรือเปล่า....แต่...ณชาอึ๋ย.....คิดแล้วใจเต้นไม่คุยด้วยแล้ว” ธีรดาดึงผ้าห่มขึ้นคลุมโปงล้มลงนอนอีกครั้ง

“แหมๆ จะเก็บเอาไปฝันหวานคนเดียวหรือยังไงฮึ”

“ถ้าณชาอยากรู้ก็ลองไปชวนพี่ดลจูบดูสิ” ธีรดาเปิดผ้าห่มออกมาแนะนำ

“บ้าเหรอเราแค่อยากรู้ไม่ได้อยากลองซักหน่อย” ณชาถึงกับหน้าแดงเมื่อได้ฟังคำแนะนำ

“ถามเขามันจะรู้ดีเท่าสัมผัสเองได้ยังไง พี่ดลถึงจะตี๋แต่ก็หล่อเหลาไม่ใช่เล่น ณชาไม่สนใจพี่ชายดามั่งเหรอ”

“หล่อตี๋แต่ปากจัดเราไม่เอาด้วยหรอก” ณชนกส่ายหน้าปฏิเสธท่าเดียว

“ก็พี่ดลเข้าใจผิดคิดว่าเรากับณชาเป็นแฟนกันนี่นา ถ้าลองมาเห็นณชาเป็นสาวแบบนี้ขี้คร้านจะน้ำลายหกจนเปลี่ยนขั้ว....”

“เปลี่ยนยังไงเราก็รักไม่ลงหรอก” ณชนกเบ้หน้า

“ณชาเกลียดพี่ดลเหรอ?”

“เราก็บอกไม่ถูก รู้สึกเหมือนโกรธจนไม่อยากเห็นหน้า” ณชนกบอกไปตามความรู้สึก

“อืม..สงสัยเพราะวันนั้นพี่ดลว่าณชาไปเยอะ ณชาก็เลยเก็บเอามาโกรธไง”

“มันไม่น่าใช่ปกติเราเป็นคนโกรธง่ายหายเร็วธิดาก็รู้ อีกอย่างเราก็เข้าใจนะว่าพี่ชายดาคงจะช๊อคที่เห็นเราสองคนอยู่ด้วยกันแบบนั้น แต่ความรู้สึกเรามันมีมากกว่านั้นเรารู้สึกเหมือนโกรธพี่ชายดาโกรธจนฝังลึกอยู่ในใจ โกรธแบบที่เราก็ตอบไม่ได้ว่าทำไมถึงโกรธมันไม่มีเหตุผลเลย”

“เอ....หรือว่าณชากับพี่ดลเคยมีเรื่องหมางใจกันมาก่อน” ธีรดาครุ่นคิด

“ไม่น่าเป็นไปไม่ได้เพราะเราเพิ่งเคยเจอพี่ชายดานี่นา”

“ถ้างั้นก็แสดงว่าบางทีณชากับพี่ดลอาจเคยทำกรรมร่วมชาติกันมา” ธีรดาเริ่มโยง

“คิดได้ยังไงเนี่ยอย่างเราเนี่ยนะจะเคยทำบุญทำกรรมกับอีตานั่นไม่มีทางเป็นไปได้แน่นอน หน้าตาพี่ชายดาตี๋ขนาดนั้นชาติที่แล้วเกิดอยู่ในเมืองจีนหรือเปล่าเถอะ”

“ก็ไม่แน่นะณชาของแบบนี้มันพูดยาก”

“เอาล่ะๆ พอเถอะเพ้อเจ้อใหญ่แล้วนะ” ณชนกรีบตัดบทเมื่อเห็นว่าธีรดาเริ่มโยงไปไกลขึ้นทุกที

“ณชาเราถามหน่อยสิว่าเรือนไหมแก้วมี..เอ่อ...ผีจริงเหรอ?”

“มาถามหาผีตอนใกล้เที่ยงคืนเนี่ยนะซาดิสไปหรือเปล่าฮึ”

“ก็มันอยากรู้นี่นา เราสังเกตเหมือนพี่ล้อมรู้อะไรเกี่ยวกับเรือนไหมแก้ว แววตาของพี่ล้อมดูกลัวๆ นะที่จะต้องค้างบนเรือน” ธีรดาเอ่ยขึ้น

“เรื่องลี้ลับบนเรือนนั่นเราก็ตอบได้ไม่เต็มปากนักหรอกนะ แต่เราก็รู้สึกเหมือนกันว่าบางทีบนเรือนไหมแก้วอาจจะไม่ได้มีแต่พวกเรา เมื่อก่อนคนเก่าคนแก่เขาเล่าปากต่อปากว่าในคืนเดือนดับบนเรือนนั่นจะมีคนออกมาพลุกพล่าน แต่พอรุ่งสางทุกอย่างจะหายวับจนกลับมาเงียบงันเหมือนเดิม พูดแล้วขนลุก” ณชนกเล่าไปลูบแขนไป

“นั่นสิน่ากลัวจัง....บรื๋อ...” ธีรดาทำท่าขนลุกขนพอง

“แต่ลึกๆ เราก็อยากรู้เหมือนกันนะว่าบนเรือนนั่นมีอะไร แล้วทำไมคนที่เคยอยู่บนเรือนถึงไม่ยอมไปไหน”

“จะอยากรู้ไปทำไมน่ากลัวออกณชาอย่าบอกนะว่าจะไปสืบเรื่องราวเอากับผีน่ะ”

“ก็แค่อยากรู้ไม่ได้บอกซักหน่อยว่าจะไปสืบ นอนเถอะดึกแล้วเรื่องแบบนี้คุยเวลาอื่นดีกว่าเดี๋ยวฝันร้าย” ณชนกลุกเดินไปปิดไฟก่อนจะเดินขึ้นเตียงล้มตัวลงนอนแล้วดึงผ้าห่มขึ้นคลุมจนถึงหน้าอก

เกือบสามสิบนาทีที่เธอพยายามข่มตานอน แต่มันยากเหลือเกินที่จะข่มใจให้หลับใหล หญิงสาวเบิกตาโพลงอยู่ในความมืด เงี่ยหูฟังเสียงหรีดหริ่งเรไรที่กำลังร้องระงมอยู่กลางสวน เสียงแห่งรัตติกาลฟังดูช่างวังเวงใจจนชวนขนลุก ณชนกหันไปมองคนข้างๆ ที่เงียบสงบไปได้ซักพัก เสียงลมหายใจที่ดังอย่างสม่ำเสมอของธีรดาบ่งบอกว่าเธอกำลังดื่มด่ำอยู่กับห้วงเวลาแห่งนิทราอย่างเป็นสุข

เมื่อไม่อาจข่มใจให้หยุดนิ่งณชนกจึงตลบผ้าห่มออกพ้นตัว ลุกเดินไปริมหน้าต่างณชนกเปิดหน้าต่างจ้องไปทางเรือนไหมแก้ว...”บนเรือนนั่นจะมีผีอยู่จริงๆ งั้นเหรอ?” หญิงสาวถามตัวเอง

“พวกเรารอเจ้าอยู่......รอมานาน....นานจนไม่คิดว่าเจ้าจะกลับมา” คำพูดของหญิงสาวลึกลับแว่วกลับมาในโสตประสาทอีกครั้ง.....

“เรารอพวกเจ้าอยู่ พวกเขากำลังรออะไร? แล้วทำไมต้องรอ? และทำไมคนที่พวกเขารอถึงเป็นฉัน” ณชนกถามลมถามแล้งขณะที่ตายังจ้องไปที่เรือนไหมแก้ว

“ตามมาสิ...ตามเรามา” เสียงหวานแว่วลอยมาตามลม ณชนกถึงกับหูผึ่งหญิงสาวคิดว่าธีรดาแกล้งจึงหันขวับไปที่เตียง...

...แต่ก็พบกลับความเงียบงันเช่นเดิม ธีรดายังคงนอนหลับสนิทอยู่บนเตียง...ถ้าไม่ใช่เสียงของธีรดาแล้วเสียงที่เธอได้ยินเป็นเสียงใครกัน?....คำถามใหม่ตะโกนก้องอยู่ในใจ ณชนกหันหลับไปนอกหน้าต่างอีกครั้ง.....

หญิงสาวถึงกับเบิกตาโพลงเมื่อเห็นภาพตรงหน้า...ร่างบางผงะถอยยกมือปิดปาก...เพื่อปิดกั้นเสียงหวีดร้องที่วิ่งแล่นมาจุกอยู่ตรงคอหอย...ขณะที่ขนบนร่างกายทุกเส้นลุกเกรียวขึ้นโดยไม่ได้นัดหมาย....






Create Date : 21 ตุลาคม 2552
Last Update : 21 ตุลาคม 2552 13:47:06 น. 3 comments
Counter : 567 Pageviews.

 
สาวกคุณหิรัญเอาแค่นี้ก่อนนะคะเดี๋ยวไก่ตื่น

สำหรับผู้โชคดีติดต่อกลับที่ voraphat9@hotmail.com จ้า

ช้าหมดอดนะจ๊ะ อิอิ เรื่องหน้าท้าชิงลิขิตเงา ใครอยากได้ยกมือขึ้น.......



โดย: sansook วันที่: 21 ตุลาคม 2552 เวลา:13:49:07 น.  

 
สรุปคราวที่แล้วนายดลไม่ได้เจอผี
แล้วคราวนี้ณชาเจออะไรเนี่ย
โหะๆ พี่หิรัญรุกหนักไปหน่อยหนูธิดาวิ่งหนีเลย


รออ่านตอนต่อไปจ้า


โดย: มังกรเขียวหัวยุ่ง (cruduslife ) วันที่: 21 ตุลาคม 2552 เวลา:14:35:31 น.  

 
คืนนี้นอนไม่หลับ แว่บมาเจอตอนใหม่พอดี
ตาหิรัญนี่ทั้งกวน ทั้งหื่นครบรสเลยวันนี้ แต่ยังไง
ก็น่าร้ากอยู่ดี

อ่านมาช่วงท้ายๆแล้วอย่างงี้จะหลับลงไหมคะเนี่ย
หลอนๆมาเลย ...จ้าก..ไม่น่าเลย


โดย: karaked IP: 68.105.5.210 วันที่: 21 ตุลาคม 2552 เวลา:15:57:44 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.