sansook
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 40 คน [?]




คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...
โค้ดนี้เป็นภาพพื้นหลังนำไปวางที่ช่อง Script Area ค่ะ https://youtu.be/K2vg5yDgVX4
Group Blog
 
 
ตุลาคม 2552
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
20 ตุลาคม 2552
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add sansook's blog to your web]
Links
 

 
ตอนที่ 10 ตัวป่วนบุกเรือน



อีกสองวันก็จะถึงกำหนดงานทำบุญเลี้ยงพระ ที่เรือนไหมแก้วกำลังพลุกพล่านไปด้วยผู้คนที่มาช่วยกันเตรียมงาน ธีรดลย์ ล้อมเดช และทิวากำลังจัดที่นั่งสำหรับพระสงฆ์กันอย่างขะมักเขม้น ในขณะที่กลุ่มผู้หญิงช่วยกันเตรียมอาหารและจัดดอกไม้

“วันนี้คุณดลคิดจะค้างที่นี่หรือเปล่าครับ” ทิวาถามขณะจัดนั่นวางนี่มือเป็นระวิง

“แกถามคุณดลแบบนั้นคิดอะไรอยู่หรือเปล่าฮึไอ้ทิว” ล้อมเดชยืดตัวถาม
“ไอ้ล้อมฉันถามคุณดลแกจะเจือกทำไมฮึ” ทิวาสวนกลับ

“เอ้า ฉันก็แค่ถามฉันรู้ว่าแกชอบเรือนไทยแบบนี้ ก็เลยคิดว่าแกกำลังอยากมานั่งเขียนภาพที่นี่ใช่ไหมล่ะ” ล้อมเดชถามอย่างรู้ทัน

“หรือแกไม่อยากมา ทำเป็นว่าแต่ฉันตัวแกก็อยากมาเหมือนกันใช่ไหมล่ะ”
“โอย...ถ้าเป็นบ้านหลังนี้ฉันขอบายว่ะกลัวได้นางแบบโดยไม่ได้รับเชิญ” ล้อมเดชส่ายหน้าไม่คิดเอาด้วย

“นางแบบอะไรของแกฮึ” ทิวาถามสีหน้าสงสัย

“แกลองขอนอนค้างที่นี่ซักคืนหนึ่งสิรับรองได้เรื่อง ใช่ไหมครับคุณดล” ล้อมเดชหันไปขอเสียงสนับสนุนจากเจ้าบ้าน

“ไม่ต้องขอให้ยุ่งยากหรอกครับเพราะคืนนี้ผมตั้งใจชวนคุณทั้งสองนอนเป็นเพื่อนอยู่แล้ว คุณภูกับคุณรันก็บอกว่าจะค้างด้วย ส่วนคุณวิเห็นบอกว่าค้างแน่นอนดูท่าคุณทิวาก็น่าจะต้องค้างด้วยเช่นกัน” ธีรดลย์บอกยิ้มๆ

“คนค้างเยอะแยะแบบนี้ผมคงต้องกลับไปนอนเฝ้าบ้าน สมัยนี้โจรมันเยอะมากันหมดบ้านแบบนี้กลับไปโดนโจรยกเค้าได้เศร้ากันทั้งบ้าน” ล้อมเดชบอกปัดอย่างมีเหตุมีผล

“เห็นน้องจิ๊บบอกว่าชอบสวนกุหลาบเลยขอค้างที่นี่อีกคน และคนของผมก็จัดห้องทางปีกซ้ายให้แล้วเห็นท่าคุณล้อมคงปฏิเสธไม่ได้แล้วมังครับ”

“หา ! คุณดลพูดเล่นพูดจริงครับนั่น” ล้อมเดชถามสีหน้าตกใจกับข่าวร้ายที่เพิ่งได้ยิน

“จริงครับ”

“โอย....น้องจิ๊บนะน้องจิ๊บทำไมถึงทำอะไรไม่ปรึกษาผมแบบนี้” ล้อมเดชโอดโอย

“มีอะไรเหรอไอ้ล้อม” ทิวาหยุดมือหันไปถามเพื่อน

“บอกไงดีล่ะ ให้คุณดลเล่าดีกว่ามั๊งขืนนินทาเจ้าบ้านชนิดเผาขนคืนนี้ฉันคงได้นิมนต์หลวงพ่อเผ่นมานอนกอดแก้ผวา” ล้อมเดชโยนภาระหน้าตาเฉย

“แกนี่มันลีลาจนน่าแจกตีนจริงๆ นะไอ้ล้อม” ทิวาหมั่นไส้จนแข้งขาเริ่มกระดิก

“ก็มันพูดยากนี่หว่าฉันไม่รู้จะเริ่มยังไง”

“แกพูดให้ฉันคิดแล้วไม่เคลียร์ให้กระจ่างแบบนี้ กะจะให้ฉันอยากรู้จนกินไม่ได้นอนไม่หลับหรือยังไง ทำเป็นมีลับลมคมในไปได้” ทิวาต่อว่า

“เอาไว้กลับบ้านฉันจะเล่าให้แกฟังก็แล้วกัน วันนี้มันไม่สะดวกจริงๆ เพื่อน” ล้อมเดชหันซ้ายหันขวาเหมือนกลัวใครมาได้ยิน

“แล้วคุณหิรัญล่ะค้างด้วยหรือเปล่าครับคุณดล” ล้อมเดชถามขึ้น
“ค้างครับแต่คงค้างที่เรือนหลวง”

“เอ้า แบบนั้นมันตัดช่องน้อยแต่พอตัวนี่ครับ ถ้าคุณหิรัญค้างที่โน่นผมก็ขอเสียสละไปค้างที่โน่นด้วยก็แล้วกัน ส่วนหลังนี้ผมขอบอกอย่างลูกผู้ชายว่างานนี้ผมไม่ค้างร้อยไม่ค้างพันไม่ค้าง ต่อให้เอาช้างมาฉุดผมก็ไม่อยู่ล้านเปอร์เซ็นต์” ล้อมเดชประกาศชัดถ้อยชัดคำ....

***********************

เกือบสามทุ่มล้อมเดชนั่งกระสับกระส่ายอยู่ตรงระเบียง ชายหนุ่มนั่งจ้องหน้าภรรยาสาวที่กำลังหยอกล้อหลานชายอย่างสนุกสนานแววตาตัดพ้อ...น้องจิ๊บนะน้องจิ๊บก่อนจะตัดสินใจอะไรทำไมไม่ปรึกษากันบ้าง....ถ้าคืนนี้นอนๆ ไปเกิดเห็นใครเดินขวักไขว่ขึ้นมาเขาจะทำยังไงยิ่งคิดจิตก็พาลหลอนจนขนแขนขนขาพาเหรดกันลุกชัน

“เอ้า ไอ้ล้อมแกไปนั่งปลีกวิเวกอะไรอยู่ตรงนั้นฮึ” ทิวาหันไปถาม

“ฉันกำลังนั่งทำใจ”

“ทำใจอะไรเหรอคะ ทำตัวพิกลใหญ่แล้วนะพี่ล้อม” จิราภาถามขึ้นบ้าง

“ก็....เอ่อ....ก็...พี่ไม่เคยไปค้างที่อื่นน้องจิ๊บก็รู้” ล้อมเดชเสตอบเป็นอย่างอื่น ....ขืนตอบไปตรงๆ ว่ากลัวผีคุณไหมแก้ววงสนทนาที่กำลังออกรสอยู่นั่นได้กระเจิดกระเจิงกันพอดี...

“ทำเป็นรักบ้านขึ้นมาเชียวนะไอ้กะล่อน ทีเมื่อก่อนลองได้ออกนอกบ้านดี๊ด๊ายังกะปลากระดี่ ฉันรู้หรอกที่นี่มันไม่มีแสงสีเหมือนในเมืองใช่ไหมล่ะแกถึงทำหน้าเซ็งเป็นส้มตำค้างคืนแบบนั้น” วิลาสินีแสดงความคิดเห็นอันล่อแหลมออกมา

“ไอ้วิตั้งแต่ท้องปากคอเราะร้ายน่าดูเลยนะ ไอ้ทิวหาอะไรยัดปากเมียแกหน่อยไปแพ้ท้องแล้วพาล สร้างความร้าวฉานแบบนี้เพื่อนเดือดร้อนนะเว้ย” พอสิ้นเสียงของล้อมเดชบรรดาเพื่อนต่างโห่ฮาขึ้น

“เฮ๊ย..พวกเราไอ้ล้อมกลัวเมียด้วยว่ะฮ่าๆ ” ทิวาที่ถูกทับถมมาตลอดหันไปยักคิ้วให้สมาชิกคนใหม่ แล้วหัวเราะร่าออกมา

“หรือแกไม่กลัวเมียฮึไอ้ทิว ทำมาว่าแต่ฉันทีแกยังกลัวไอ้วิมันเลย แถมกลัวมานานกว่าฉันตั้งเยอะไม่อยากจะพูดเลยให้ตาย” ล้อมเดชไม่ยอมแพ้ง่ายๆ

“เมียไม่ใช่ผีมีเหรอฉันจะกลัว ที่ฉันยอมเพราะฉันรักเมียหรอกเว๊ย ใช่ไหมจ๊ะคุณเมีย” ทิวาหันไปทำเสียงอ่อนเสียงหวานกับภรรยาสาว

“แหวะ....อี๋ขนลุก...พูดออกมาได้แกไม่คิดอายเพื่อนอายฝูงมั่งรึไงไอ้ทิว ไอ้วิแกดูผัวแกสิคำพูดคำจาของมันเลี่ยนชะมัด” ล้อมเดชทำท่าขนลุกขนพอง

“พวกแกจะกัดกันทั้งคืนไหมฉันจะได้ให้คุณภูล่ามพวกแกไว้คนละเสา” ภรัณยาถามขึ้นบ้าง

“เอ้าไอ้ป่องแกก็เอากับเขาด้วยเรอะนั่งลูบท้องปลอบลูกของแกไปเลยนะไอ้รัน นึกว่าท้องแล้วจะสงบที่ไหนได้ยังแรงดีไม่มีตกเลยนะเนี่ย” ล้อมเดชหันไปแยกเขี้ยวใส่เพื่อนสาว

“ต๊ายไอ้ล้อมปากแกเหรอนั่น แกกล้าดียังไงถึงมาเรียกฉันแบบนั้น ไอ้วิไอ้ล้อมมันว่าแกป่องแน่ะ” ภรัณยาหันไปหาแนวร่วม

“อ้าวๆ ไอ้รันแกอย่าหาตัวช่วยดิฉันว่าแกคนเดียวนะนั่น อย่างไอ้วิมันต้องเรียกไอ้เป้ง เห็นสภาพของแกสองคนฉันชักห่วงน้องจิ๊บแล้วสิว่าถ้าอุ้มท้องลูกฉันตัวจะป่องแอ่นเป้งขนาดไหน” ล้อมเดชหันไปยิ้มแหย่ภรรยา

“พี่ล้อมพูดจาแบบนี้คืนนี้นอนข้างนอกก็แล้วกัน ภาคินไปหาตระกร้อมาครอบปากน้าล้อมไปลูกปากคอเราะร้ายจริงๆ” จิราภาชี้มือไปทางล้อมเดชหน้าตาเอาเรื่อง

“แหมๆ แต่ละคนถล่มล้อมเดชเป็นยุทธภูมิสงครามเชียวนะ ภาคินมาใกล้ๆ น้าเดชดีกว่าอยู่ใกล้ๆ แม่เสือทั้งหลาย

เดี๋ยวจะพาลสยองไม่อยากมีเมียขึ้นมาแม่รันได้กลุ้มใจตายกันพอดี” ล้อมเดชกวักมือเรียกหลานชายไหวๆ

“สรุปผู้ชายกลุ่มเราเป็น ผ.บ.ท.บ. กันหมดใช่ไหมครับเนี่ย” ทิวาพูดขึ้น

“โอ้โห...ทิวเอ๊ยแกพูดจาดูดีมากเลยเพื่อน อย่างฉันมันเป็นผู้บังคับบัญชาที่บ้านอยู่แล้ว” ล้อมเดชทำท่ายืดอกอวดตัว

“ใครบอกล่ะไอ้ล้อม ผ.บ.ท.บ. ตามความหมายของฉันมันเป็น...ผู้ใบ้ที่บ้านเว้ย...ดูอย่างพี่ภูสิใบ้รับประทานจนไม่ได้ยินเสียงแล้วเนี่ย” พอทิวาพูดจบเสียงฮาก็กระหึ่มขึ้นอีกรอบ

“เห็นกัดเจ้าล้อมอยู่ดีๆ ทำไมถึงโยนไม้มาทางพี่ล่ะทิว” ภูนเรศที่นั่งสงบเสงี่ยมพูดขึ้นบ้าง

“แหมเพื่อนทิวก็ช่างกล้าแหย่ ให้พี่ภูเป็นแบบนี้น่ะดีแล้ว ขืนเก๊กโหดมีหวังหลานฉันได้เป็นลูกกำพร้าส่วนเพื่อนรันก็ได้เป็นม่ายพอดี เพราะแม่เสือภรัณยาคงจับพี่ภูหักคอจิ้มน้ำพริก” ล้อมเดชเสริมทัพ

“เพื่อนล้อมปากดีแบบนั้นระวังเพื่อนรันจระเข้ฟาดหางนะเพื่อน” วิลาสินีชี้มือเตือน

“พุงป่องเป็นแตงโมลูกโตๆ ขนาดนั้นแค่ยกขาเดินมันก็แทบเอาตัวไม่รอด ฉันยังจะต้องกลัวอะไรมัน” ล้อมเดชยังเชื่อมั่นในทางรอดของตัวเอง

“แต่แขนยังใช้ได้อยู่นะไอ้เพื่อนปากมอม” พูดไม่ทันจบภรัณยาหยิบก้อนน้ำแข็งเขวี้ยงใส่ล้อมเดชจนได้ยินเสียงโป๊กพร้อมกับเสียงโอ๊ย...ตามมาทันควัน

“อูย....ไอ้รันแกจะบ้าเรอะเขวี้ยงมาได้ฉันเจ็บนะ ฉันไม่เอาไม้หน้าสามฟาดกะบาลแกก็ปราณีเท่าไหร่แล้ว” ภรัณยาชี้มือเอาเรื่อง

พอเห็นสีหน้าเพื่อนเอาจริงล้อมเดชจึงลุกขึ้นเดินไปนั่งเบียดจิราภาหวังใช้ร่างกายของภรรยาเป็นที่หลบภัย “โอย.....ทำไมแต่ละคนจ้องทำร้ายแต่ฉันกันนะ โอย....น้องจิ๊บครับช่วยพี่ล้อมด้วยไอ้เพื่อนใจร้ายมันรังแกพี่” ล้อมเดชพึมพำแล้วหันไปโอยโอยทำเสียงออดเสียงอ้อนหวังให้ภรรยาสาวสวยช่วยปลอบใจ

“โอ๋....นิ่งเตะค่ะนิ่งเตะ” จิราภาปลอบไปหัวเราะไป

บรรยากาศกลางลานยังคงคึกคัก เมื่อบรรดากลุ่มก๊วนของล้อมเดชยังคงกัดกันเรื่องนั้นเรื่องนี้จนแทบไม่มีช่องว่างให้หยุดหัวเราะ ธีรดลย์เหลือบไปมองณชนกที่พูดคุยหยอกล้อกับกลุ่มของล้อมเดชจนดูสนิทสนม น่าแปลกที่ดูทุกคนไม่ได้รู้สึกแปลกอกแปลกใจกับความวิปริตผิดเพศของเธอเหมือนกับที่เขารู้สึก

หิรัญนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่ข้างๆ ธีรดาชายหนุ่มแอบสะกิดแฟนสาวเมื่อเห็นแววตาของธีรดลย์ดูสับสนจนน่าสงสาร “น้องดาพี่ว่าเราคงต้องทำอะไรซักอย่างแล้วล่ะมั๊ง”

“ปล่อยให้เป็นแบบนี้ซักเดือนก็ดีขืนบอกไปตอนนี้มันก็ไม่สนุกสิคะ” ธีรดากระซิบตอบน้ำเสียงสะอกสะใจ

ธีรดลย์เห็นน้องสาวกำลังกระซิบกระซาบอะไรซักอย่างกับหิรัญก็ถึงกับมึนเล็กๆ เอ...ตกลงน้องสาวเขาจะจับปลาสองเพศหรือยังไงนั่น ยัยแต๋วแหววนั่นก็แปลกไม่รู้จักหึงหวงแฟนเลยหรือไง หลายวันมานี้เขาสังเกตเห็นว่าสามคนนั่นมักจะไปไหนมาไหนด้วยกันเสมอจนไม่รู้ว่าหิรัญเข้าหาสองคนนั่นวิธีไหนถึงได้สนิทชิดเชื้อจนล้ำหน้าขนาดนั้น

“สี่ทุ่มกว่าแล้วรันผมว่าพาลูกไปนอนดีกว่า” ภูนเรศเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นเข็มสั้นเข็มยาวชี้บอกเวลาว่าล่วงเข้าสี่ทุ่มและเลยไปเกือบสิบห้านาที

“ฮั่นแน่จะชวนไอ้รันไปต่อแขนต่อขาหลานผมหรือยังไงพี่ภู เดือนหน้าไอ้รันมันก็ท้องแตกแล้วไม่ต้องต่อแล้วครับเดี๋ยวแขนหลานผมจะเกินเอาเปล่าๆ” ล้อมเดชที่ยังคึกไม่เลิกกระเซ้าออกมาจนได้รับเสียงฮาขึ้นอีกรอบ

“คืนนี้ถ้าไอ้ล้อมมันไม่ได้กินตีนก่อนนอนท่าจะฝันร้าย ก่อนนอนของเสิร์ฟตีนให้เพื่อนซักดอกเถอะ” ภรัณยาอุ้มลูกชายขึ้นมาจับขายันโครมลงบนอกเพื่อนแรงๆ ไปหนึ่งที

“ฮ่าๆ มันยังปราณีครับพี่น้องที่เอาตีนเด็กมาเสิร์ฟให้กินก่อนนอน” ล้อมเดชหัวเราะคิกคักแล้วจับขาเจ้าหลานตัวเล็กแน่นก่อนใช้มือเขี่ยฝ่าเท้าจนเจ้าหลานตัวน้อยหัวเราะร่วนออกมา

เสียงของภาคินที่หัวเราะเอิ๊กอ๊ากสร้างความคึกครื้นให้กับคนในกลุ่มขึ้นอีกระลอก ณชนกเหลือบตามองภูนเรศที่กำลังประคองภรรยาให้ลุกขึ้นและอุ้มลูกชายพาเดินกลับไปที่ห้องพักด้วยแววตาอิจฉาเล็กๆ สามีก็หล่อบาดใจส่วนภรรยาก็สวยชนิดผู้ชายเห็นเป็นเหลียว ธีรดาเคยเล่าให้ฟังว่าธีรดลย์เคยหลงรักภรัณยาหากเป็นจริงมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเพราะเป็นใครก็ต้องหลงรักเธอ ขนาดเป็นคุณแม่ลูกสองยังดูดีขนาดนั้นไม่อยากจะนึกย้อนเลยว่าถ้าตอนที่เธอโสดความสวยจะโดดเด่นขนาดไหน

ณชนกเหลือบไปทางธีรดลย์แล้วก็ต้องตกใจ เมื่ออีกคนก็กำลังจ้องมองมาที่เธอไม่ต่างกัน เมื่อเผลอตัวทำให้อีกฝ่ายจับได้คาหนังคาเขาหญิงสาวจึงรีบเบือนหน้าหลบ หันไปชวนธีรดากลับเรือน “ธิดาเราว่ากลับเรือนกันดีกว่าดึกแล้ว พรุ่งนี้เรายังต้องเตรียมงานอีกไม่ใช่เหรอ”

“อ้าวจะรีบกลับไปไหนล่ะน้องณชาบ้านอยู่ใกล้กันแค่นี้เองอยู่คุยกันก่อนสิครับ” ล้อมเดชที่พยายามหาเพื่อนรีบดักทาง

“พรุ่งนี้ณชามีงานค่ะถ้าพี่ยังคุยไม่จบก็มาค้างที่เรือนไหมแก้วบ่อยๆ สิคะจะได้ชินกับเพื่อนใหม่” คนแนะนำยิ้มร่าอย่างรู้ทัน

“ถ้ามาคราวหน้าพี่ของจองนอนที่เรือนหลวงครับ วันนี้พี่ไม่ทันตั้งตัวจริงๆ เลยถูกหิ้วมานอนที่นี่โดยไม่เต็มใจซักนิ๊ด” ล้อมเดชยิ้มแหยๆ

“ถ้าพี่ล้อมยังคุยไม่อิ่มก็นั่งเล่นอยู่กลางลานนี่แหละรับรองคืนนี้มีเพื่อนคุยจนลืมเหงา” ณชนกอดไม่ได้ที่จะพูดให้อีกคนจิตหลอนเล่น

“อ้าว น้องณชาทำไมทำแบบนี้กับพี่ล่ะครับ คนกำลังลืมๆ แล้วเชียวสะกิดแผลพี่แบบนี้คืนนี้หาไพ่มาเล่นกันดีกว่าเห็นพี่แมนเต็มขั้นพี่ก็กลัวเป็นนะครับ”

“พี่ล้อมวันนี้เป็นอะไรคะทำตัวแปลกๆ หน้าตาก็ซีดๆ เซียวๆ ไม่สบายหรือเปล่าเนี่ย” จิราภาเริ่มจับสังเกต

“ตอนนี้ยังสบายดีจ๊ะ แต่พรุ่งนี้เช้าไม่รู้ว่าจะจับไข้หัวโกร๋นหรือเปล่า” ล้อมเดชหันไปบอกภรรยาสาวสีหน้าหวาดหวั่นอย่างเห็นได้ชัด

“หัวก๋งหัวโกร๋นอะไรพูดไม่เป็นมงคลเลย บรรยากาศยิ่งวังเวงๆ อยู่ด้วยจิ๊บไปนอนมั่งดีกว่า” จิราภาบ่นแล้วลุกขึ้นบ้าง

“เอ้า วงแตกแล้วล่ะสิครับน้องจิ๊บรอพี่ด้วยสิ ไปก่อนนะทุกคนขืนยังนั่งหน้าหล่อมีหวังคืนนี้ได้นอนมันอยู่กลางลานนี่แหละ” ล้อมเดชบอกแล้วลุกแจ้นตามหลังภรรยาไปติดๆ

“โอ้โห...ดูไอ้คนไม่กลัวเมียสิครับวิ่งหางจุกตูดไปโน่นแล้ว” ทิวาตะโกนตามหลัง

“ถ้างั้นผมว่าพวกเราแยกย้ายไปพักผ่อนกันดีกว่า พรุ่งนี้จะได้ตื่นมาเตรียมงานกันต่อ” ธีรดลย์พูดขึ้น

เมื่อมติเห็นชอบเป็นเอกฉันท์ทุกคนจึงลุกขึ้นแยกย้ายกลับไปยังห้องพักของตน ธีรดลย์เดินมาส่งหิรัญที่หน้าบันได ชายหนุ่มเหลือบเลยไปมองใครอีกคนที่ยืนหน้าตาเฉยเมยอยู่อีกด้านแววตาอ่อนลง “ผมฝากน้องสาวด้วยนะครับคุณหิรัญ” ปากบอกฝากน้องสาวแต่สายตากลับจ้องไปทางอีกคน

หิรัญยิ้มน้อยๆ เมื่อเห็นแววตาของธีรดลย์ดูสับสนอลหม่านจนน่าเห็นใจ จะว่าไปธีรดลย์ก็น่าสงสารไม่น้อย ชายหนุ่มเหลือบไปทางณชนก...ถึงแม้รูปลักษณ์ภายนอกของหญิงสาวจะดูห้าวเป็นแมนเต็มขั้นแต่ใบหน้าของเธอก็สวยเฉียบจนใจละลาย

ธีรดลย์คงสับสนกับความรู้สึกของตัวเอง....จะปล่อยใจให้ชอบเธอก็ยังทำใจไม่ได้เพราะอีกคนเหมือนผู้ชายซะขนาดนั้น....แต่จะถอยก็ห่วงน้องสาวคนเดียวที่คิดว่ากำลังเบี่ยงเบน.....เฮ้อถ้ารู้ความจริงขึ้นมาจะพาลซวยไหมหนอเรา.....

********************

ภายในเรือนไหมแก้วกลับมาเงียบงันอีกครั้งเมื่อบรรดาขาเม้าทั้งหลายสลายตัว ธีรดลย์อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเดินไปยืนพิงกรอบหน้าต่างทอดสายตามองไปยังสวนดอกไม้ที่อยู่รอบๆ ตัวบ้าน เสียงแมลงกลางคืนที่ดังเซ็งแซ่อยู่ทั่วทั้งบริเวณฟังแล้วช่างเพลินใจ

ชายหนุ่มยิ้มให้กับธรรมชาติที่กำลังดื่มด่ำ ถึงแม้บรรยากาศรอบกายจะมืดมิดจนน่าหวาดกลัว แต่ความสงบของบรรยากาศกลับทำให้เขารู้สึกอิ่มใจ แสงสลัวของโคมไฟที่ส่องอยู่ทั่วบริเวณทำให้สามารถมองเห็นบริเวณสวนสว่างนวลๆ

คิ้วเข้มขมวดเล็กน้อยเมื่อเห็นเงาของใครคนหนึ่งวูบวาบอยู่ในห้องของณชนก ดวงตาเล็กตี๋เพ่งไปที่หน้าต่างห้องของเธออย่างสงสัย ธีรดลย์นึกกระหยิ่มใจไม่น้อยที่บังเอิญห้องของเขากับหญิงสาวอยู่ฝั่งเดียวกัน...

ร่างสูงใหญ่ผงะหงายเมื่อเห็นเงาๆ วูบวาบของผู้หญิงอยู่ตรงหน้าต่างห้องของณชนก ธีรดลย์ขยี้ตาแล้วเพ่งไปที่หน้าต่างห้องของเธออีกครั้ง พอเห็นชัดๆ ชัวร์ๆ ชายหนุ่มก้าวถอยหลังโดยอัตโนมัติขณะที่ขนแขนกำลังลุกเกรียวร่างกายชาวาบจนเย็นยะเยือก...พ่อแก้วแม่แก้ว...

ธีรดลยหมุนตัวเดินกลับไปนั่งลงบนเตียง....ห้องณชนกมีผู้หญิงผมยาวเดินไปเดินมา....ผู้หญิงคนนั้นเป็นใครกันจะว่าเป็นธีรดาก็ไม่ใช่เพราะรูปร่างของคนที่เขาเห็นดูผอมบางและน่าจะมีความสูงกว่าน้องสาวของเขาเล็กน้อย หากจะว่าไปรูปร่างของผู้หญิงปริศนานั่นดูเหมือนณชนก...แต่ณชนกผมสั้น.....เพราะฉะนั้นมันเป็นไปไม่ได้แน่นอน....หากนั่นไม่ใช่หญิงสาวทั้งสองคนแล้วคนที่เขาเห็นเป็นใครกัน?.....






Create Date : 20 ตุลาคม 2552
Last Update : 20 ตุลาคม 2552 10:33:06 น. 5 comments
Counter : 462 Pageviews.

 
มาอัพเร็วทันใจดีจังเลยค่ะ

อยากเจอคนเขียนไวไวจัง

อดใจรอให้ถึงวันที่ 24 อยู่น่ะค่ะเนี๊ยะ

แล้วเจอกันที่งาน ค่ะ



โดย: น้องเอ๋ IP: 61.47.26.153 วันที่: 20 ตุลาคม 2552 เวลา:11:15:37 น.  

 
เข้ามาเม้นต์ก่อน ดึก ๆ จะกลับเข้ามาอ่านรวดเดียวเลยจ้า...ว่าแต่ออกแนว ผี ๆ อ่านดึก ๆ ได้ฟิวส์ดีจัง หุ หุ


โดย: ต่างแดน IP: 80.214.253.79 วันที่: 20 ตุลาคม 2552 เวลา:15:28:29 น.  

 
อีเมลรับหนังสือยังไงค่ะ คุณแสนสุข ส่งไปที่ไหนค่ะ

ช่วยรบกวนบอกหน่อยนะค่ะ ขอบคุณค่ะ


โดย: ติ๊งต๊อง IP: 124.122.79.143 วันที่: 20 ตุลาคม 2552 เวลา:20:47:38 น.  

 
วู้ ขนลุกดีจริงๆ


โดย: มังกรเขียวหัวยุ่ง (cruduslife ) วันที่: 21 ตุลาคม 2552 เวลา:6:05:09 น.  

 
กลุ่มเพื่อนรันนราฮาจริงไ ไปที่ไหนครึ้กครื้นตลอด
แต่จบตอนทำไม มีแบบเสียวสันหลังมาอีกแล้ว


โดย: karaked IP: 68.105.5.210 วันที่: 21 ตุลาคม 2552 เวลา:6:30:40 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.