โค้ดนี้เป็นภาพพื้นหลังนำไปวางที่ช่อง Script Area ค่ะ
https://youtu.be/K2vg5yDgVX4
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ตอนที่ 15 ตัวช่วย
|
|
เกือบสองอาทิตย์ที่ณชนกเริ่มดำเนินการก่อสร้างเรือนรับรอง หญิงสาวลงมือควบคุมดูแลการวางผังและรูปแบบของตัวเรือนด้วยตัวเอง ใบหน้าสวยเฉี่ยวมีแววเคร่งขรึมพลางก้มลงมองแปลนอาคารในมือ เธอจะบอกเจ้าตี๋นั่นยังไงดีกับปัญหาที่กำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้
หญิงสาวร่างบางในคราบหนุ่มน้อยหน้ามนยืนชั่งใจมาพักใหญ่อยู่หน้าเรือนไหมแก้ว เรือนรักแห่งตำนานและเรือนร้างที่น่าหวาดเกรง จะขึ้นไปก็กลัวจนขนหัวตั้งจะไม่ขึ้นงานก็จะไม่เสร็จ ถึงจะรู้สึกแปลกใจที่ดูเหมือนธีรดลย์จะไม่เดือดร้อนกับการที่ต้องอยู่ร่วมกับคน...ภพอื่น...แต่เธอก็ไม่อยากจะละลาบละล้วงถามไถ่ว่าชายหนุ่มใช้ของขลังชนิดไดถึงได้ไม่สติแตกอย่างคนอื่นเขา
คุณมีอะไรจะคุยกับผมหรือเปล่า? เสียงทุ้มเอ่ยถามเมื่อเห็นหญิงสาวยืนยึกยักอยู่หน้าเรือนมาเกือบห้านาที
เอ่อ....คือ....ฉันมีเรื่องจะคุยกับคุณ
ขึ้นมาสิ ชายหนุ่มผายมือเชื้อเชิญ
แต่.... ใบหน้าสวยมีแววกังวลชัดเจนอยู่บนสีหน้า
คุณกลัวคุณไหมแก้วเหรอ?
หญิงสาวกวาดตามองไปรอบๆ เรือนอย่างไม่ไว้วางใจนัก ก่อนจะพยักหน้าหงึกหงัก
จะกลัวทำไมกลางวันแสกๆ แบบนี้ผีที่ไหนจะออกมาท้าแสงตะวันกันล่ะคุณ คุณไหมแก้วเป็นสาวไทยไม่ใช่ฝรั่งที่จะนิยมอาบแดดในยามนี้ ธีรดลย์พูดอย่างคึกคะนอง
ปากดีแบบนี้กลางคืนไม่กลัวมั่งหรือไง คุณธีรดลย์ฉันถามจริงๆ เถอะคุณไม่คิดจะกลัว...เอ่อ....เอ่อ...คนบนเรือนนี้เลยเหรอ เมื่อสุดที่จะทนหญิงสาวจึงเอ่ยถามออกไปตรงๆ
ถามแปลก...กลัวสิทำไมผมจะไม่กลัว แต่มันทำยังไงได้ล่ะในเมื่อผมไม่มีทางเลือก อีกอย่างผมรู้สึกผูกพันกับเรือนหลังนี้ มันเหมือนผมกำลังติดค้างอะไรซักอย่าง แต่ไม่รู้ว่ามันคืออะไร ตอนนี้ผมรู้แค่ว่าผมไม่อยากไปไหนไกลผมรักเรือนหลังนี้ ณชนกคุณขึ้นมาข้างบนก่อนสิผมก็มีเรื่องอยากจะคุยกับคุณเหมือนกัน
คุณลงมาข้างล่างไม่ได้เหรอ....ฉันบอกตรงๆ นะว่าเวลาที่ฉันขึ้นไปอยู่บนเรือนนั่นมันรู้สึกขนลุกยังไงไม่รู้ บอกพลางลูบแขนป้อยๆ
มาเถอะ ....มาเถิด ณชนกถึงกับหูผึ่งเมื่อเสียงทุ้มที่เชิญชวนมีเสียงหวานละมุนของผู้หญิงผสมผสานอยู่ด้วย บรรยากาศยามสายที่เจิดจ้าไปด้วยไอร้อนของดวงตะวันพลันวูบสลัว อากาศที่กำลังอบอ้าวในคราแรกแปรเปลี่ยนเป็นร่มรื่น สายลมที่นิ่งสงบค่อยๆ พัดพลิ้วจนบรรยากาศเย็นลงทุกขณะ
หัวใจดวงน้อยเริ่มพุ่งพล่านเมื่อจิตสำนึกที่มีใกล้ขาดผึง หญิงสาวกลั้นลมหายใจเมื่อสายลมเย็นๆ พาดผ่านร่างกายแล้วหมุนมวนอยู่รอบๆ ตัว เสียงวิหกที่ดังขับขานอยู่ปลายยอดไม้เงียบกริบเมื่อสายลมบางๆ พัดโชยกลิ่มหอมอ่อนๆ ของหมู่มวลมาลีเข้ามาปะทะจมูก
กลิ่นกุหลาบดอกไม้ของย่าไหมแก้ว.... หญิงสาวพึมพำเหมือนรำลึกได้
มาเถิด.....ขึ้นมา.....เรารอพวกเจ้าอยู่.....รอมานานเหลือเกิน.....ขึ้นมา..... เสียงหวานหากเย็นยะเยือกแว่วลอยมาตามลม
ร่างบอบบางก้าวขาเดินตรงขึ้นเรือนเหมือนคนเลื่อนลอย ความรู้สึกนึกคิดของเธอคล้ายคนกำลังอยู่ในห้วงแห่งนิทราอันลึกล้ำ......หรือว่านี่คือความฝัน.....เธอกำลังนอนหลับอยู่งั้นเหรอ?.....ความเงียบงันจากสรรพสิ่งรอบกายยิ่งทำให้เธอรู้สึกเหมือนกำลังล่องลอยอยู่ในความฝัน.....
เมื่อเท้าก้าวเข้าสู่ตัวเรือนพลันทุกอย่างก็พร่าเลือนเหมือนเธอกำลังข้ามไปอยู่ยังอีกฝั่งหนึ่งของโลกที่เธอไม่รู้จัก อาการกึ่งหลับกึ่งตื่นที่เป็นทำให้เธอรู้สึกเหมือนสติที่มีถูกสิ่งอื่นควบคุมอยู่ วูบหนึ่งเธอเหมือนเห็นใครบางคนกำลังขยับร่างอยู่ใกล้ๆ ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างเมื่อร่างโปร่งบางของหญิงสาวปริศนากำลังล่องลอยใกล้เข้ามา
คุณเป็นใคร?....คุณต้องการอะไร? ถึงจะกลัวจนขนหัวลุกแต่หญิงสาวก็ยังมีแก่ใจถามไถ่ออกไป
เป็นใครงั้นเหรอ?.....หึหึ.......
คุณคือย่าไหมแก้วใช่ไหม?....
ดวงตาเศร้าสร้อยเปล่งประกายสุกใสแวววาวเมื่อคำถามที่เธอเอื้อยเอ่ยยุติลง เรือนร่างโปร่งบางหากวาวใสค่อยๆ ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ กลิ่มหอมจางๆ ของดอกกุหลาบทวีความรุนแรงขึ้นทุกขณะ...จนเริ่มอบอวลไปทั่ว
ท่าทีของหญิงสาวปริศนาดูเปลี่ยนไปเมื่อคำถามที่สองจบลงจนเธอต้องถามซ้ำอีกครั้ง คุณต้องการอะไร?
พวกเราต้องการความช่วยเหลือ.....เราต้องการเจ้าทั้งสอง เสียงหวานหากเย็นยะเยือกเหมือนดังกระซิบอยู่ข้างหู หญิงสาวห่อไหล่เล็กน้อยเมื่อสัมผัสกับไอเย็นของสายลมที่ยะเยือกไปจนถึงไขสันหลัง
ทำไมต้องเป็นฉัน ฉันไปเกี่ยวอะไรด้วยฉันไม่เข้าใจ แล้วทำไมคุณถึงไม่ยอมไปผุดไปเกิดจะมาวนเวียนอยู่อย่างนี้ทำไม
ทำไมต้องเป็นเจ้างั้นหรือ?... ผีสาวเอียงคอกรอบหน้าบางใสคลี่ยิ้มหวานละมุน ที่ต้องเป็นเจ้าก็เพราะเราเคยมีชีวิตอยู่ร่วมกันมา ทุกอย่างถือกำเนิดจากพันธะสัญญา เรารอพวกเจ้าเพียงเพราะต้องคำมั่นที่พันธนาการให้พวกเราต้องวนเวียนอยู่อย่างนี้ไปชั่วกาล....ไหมแก้ว!....เพราะเจ้าเราถึงไปไหนไม่ได้
ณชนกสะดุ้งเฮือกเมื่อได้ยินคำเรียกขานจากผีสาวชัดๆ เต็มสองหู อะ...อะ...ไร...คุณพูดว่าอะไรนะ...อะไรคือไหมแก้ว....คุณคือไหมแก้วไม่ใช่เหรอ?....
หลายร้อยปีที่เจ้าดับสูญแต่เรายังเฝ้ารอการกลับมา......เจ้าละทิ้งพวกเราเพียงเพราะปวดร้าวจากพิษรัก....พิษรักที่เจ้าไม่มีวันเข้าใจว่าใครอีกคนก็ทุกข์ทนไม่ต่างกัน....ไหมแก้ว....เจ้าต้องแก้ไขแล้วปลดปล่อยพวกเราให้เป็นอิสระ....เจ้าต้องช่วยพวกเรา.....นั่นคือหน้าที่
มันเกิดอะไรขึ้น....ฉันไม่เข้าใจ....ฉันไปทำอะไรให้พวกคุณฉันไม่ใช่ไหมแก้วฉันชื่อณชา ฉันไม่ได้มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับพวกคุณ ใช่อยู่ที่ฉันมีเชื้อสายสืบทอดจากคนตระกูลนี้แต่ฉันก็เป็นฉัน
พวกเรารอเจ้าอยู่ รอมานานเหลือเกินกว่าเจ้ากลับมา
ณชนกจ้องกรอบหน้าบางใสอย่างกังขา อะไรกันตลอดเวลาทุกคนเข้าใจผิดกันมาตลอดเลยเหรอว่าคนที่วนเวียนอยู่บนเรือนนี้คือ....ไหมแก้ว....หากผู้หญิงตรงหน้าไม่ใช่ย่าไหมแก้ว...แล้วเธอเป็นใครกัน?....
ถ้าฉันในวันนี้คือการจุติใหม่เรื่องราวแต่หนหลังมันก็ควรจบสิ้นไม่ใช่เหรอ? "
ผิดแล้ว...ไหมแก้ว....ทุกอย่างสูญสิ้นแต่พันธะสัญญายังคงอยู่ ในเมื่อเรายังผูกพันต่อให้ผ่านไปนานเท่าใดสายใยเหล่านั้นก็ไม่อาจสูญสลายไปกับกาลเวลา
แล้วฉันควรทำยังไง? คุณจะให้ฉันทำยังไงฉันไม่รู้ว่าฉันเคยผูกพันอะไรกับคุณ ฉันไม่รู้จริงๆ
หากเจ้ารู้เจ้าจะช่วยเราไหม?
ฉันคงช่วยคุณไม่ได้หรอก เพราะฉันไม่รู้จะช่วยยังไง หรือว่าคุณต้องการให้ฉันทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ ฉันทำได้นะกับเรื่องแค่นั้นและฉันยินดีที่จะทำ
หญิงสาวโปร่งบางเหมือนกำลังเลือนลางจางหาย ใบหน้างดงามเมื่อครู่หมองหม่นลงทันใด ดวงตาสุกสกาวในคราแรกปรับเปลี่ยนเป็นทุกข์โศก ชั่ววินาทีเธอเหมือนได้ยินเสียงสะอื้นไห้คล้ายปวดร้าวนักหนา ไม่มีทางผีไม่มีทางร้องไห้....แต่คำสันนิษฐานของเธอกลับต้องพับเก็บลงทันใดเมื่อเสี้ยววินาทีต่อมาหยาดน้ำตาวาวใสดังผลึกแก้วก็หยาดหยดลงมาอาบแก้มนวล
ณชนกยืนตะลึงมองภาพพร่าเลือนตรงหน้าอย่างสับสน ถึงเธอจะไม่เดือดร้อนกับหยาดน้ำตาของอีกคนแต่น่าแปลกที่เธอกลับรับรู้ถึงความปวดร้าวของแรงอารมณ์ที่หล่อนกำลังรู้สึก ใบหน้าคนเป็นเผือดซีดเมื่อเสียงสะอื้นไห้ดังระงมเหมือนไม่ได้มีแค่หญิงสาวแปลกหน้าเท่านั้นที่เจ็บปวด
กรอบหน้างดงามอ่อนหวานหากโปร่งใสแปรเปลี่ยนเป็นหม่นหมอง เมื่อการรอคอยของเธอกำลังถูกปฏิเสธ ณชนกนิ่งงันเมื่อเห็นใบหน้าโปร่งใสดูระทมทุกข์เสียงสะอื้นคล้ายเจ็บปวดจนสุดจะทานทนสร้างความร้าวรานให้กับความรู้สึกของเธอจนเหมือนปลายมีดแหลมคมกำลังกรีดลงบนเนื้อผิว
ห้วงเวลาที่คนบนเรือนไหมแก้วต้องทนทุกข์เวียนวนอยู่อย่างนี้มันผ่านมากี่ปี่กี่วันกันหนอ พวกเขาต้องรอคอยและรอการหลุดพ้นมานานแค่ไหน หากเธอคือคนที่พวกเขารอคอยจริงๆ เธอควรที่จะวางเฉยหรือควรที่จะช่วยเหลือ...หญิงสาวเริ่มลังเล
ก็ได้...ก็ได้ฉันช่วยก็ได้...หยุดทำเสียงปวดร้าวนั่นเสียที คุณกำลังทำให้ฉันปวดใจรู้ไหม เมื่อทนเห็นความทุกข์ทรมานของวิญญาณสาวไม่ไหวหญิงสาวจึงหลุดคำมั่นออกไป
กรอบหน้าบางใสหยุดชะงักแล้วเปลี่ยนเป็นยินดีเมื่อได้ยินคำพูดที่เธอเฝ้ารอมานาน เจ้าจะช่วยเราใช่ไหม?
ถ้าทุกอย่างมันเกี่ยวกับฉันและฉันสามารถช่วยคุณได้ฉันก็ยินดี ณชนกแทบยกมือขึ้นตีปากตัวเองที่ดันไปรับปากโดยไม่รู้ว่าตัวเองจะต้องเจอกับอะไร
เจ้าช่วยเราได้....ไหมแก้ว ดวงตาแห้งผากหมองเศร้ากลับทอประกายฉ่ำใสจนมีแสงสะท้อนแวววาวดังเกร็ดเพชร
แล้วจะให้ฉันช่วยเธอยังไง? ฉันไม่ใช่แม่มดหมอผีที่จะเสกหม้อดินกับผ้ายันต์ได้หรอกนะ
มากับเราสิ...แล้วเจ้าจะรู้ว่าต้องทำยังไง มือบางหากโปร่งใสยื่นออกมารับมือเรียวที่กำลังยื่นไปหา หญิงสาวมองมือบางโปร่งสีนวลเรืองรองด้วยประกายตาหวาดหวั่น เมื่อมือเธอสัมผัสกับมือหล่อนไอเย็นที่อยู่รายล้อมก็แทรกผ่านเข้าสู่เนื้อผิวจนรู้สึกเยือกเย็นไปทั้งร่าง
คุณพาฉันมาหาเขาทำไม? ณชนกหยุดเท้าเมื่อเห็นว่าตัวเธอกำลังเดินเข้าไปหาชายหนุ่มผู้เป็นเจ้าของเรือนไหมแก้ว
เจ้าต้องไปกับเขา
ทำไมฉันต้องไปกับอีตานี่ด้วย ฉันช่วยคุณได้ด้วยตัวของฉันเอง บอกอย่างมาดมั่น
พวกเจ้าหลีกเลี่ยงกันไม่ได้หรอก เพราะพวกเจ้านั้นผูกพันกันมาเนิ่นนาน ณชนกนิ่วหน้าอย่างขัดใจเมื่อต้องร่วมหัวจมท้ายกับเจ้าตี๋ที่เธอไม่คิดปรารถนาจะอยู่ใกล้ มันเป็นเวรเป็นกรรมอะไรของเธอนะถึงต้องมาผูกพันกับเรื่องเร้นลับพวกนี้ หญิงสาวยืนจ้องชายหนุ่มหน้าตี๋ที่ยืนตัวแข็งทื่ออยู่หน้าเรือนด้วยสีหน้าฉงนสงสัย ก่อนจะหันไปพินิจหญิงสาวโปร่งใสข้างกายอีกครั้ง
คุณเป็นใคร? เรือนหลังนี้เป็นของย่าไหมแก้วไม่ใช่เหรอ? ถ้าคุณไม่ใช่ย่าไหมแก้วแล้วคุณคือใคร? หญิงสาวถามขึ้นด้วยสีหน้าที่ยังไม่หายจากอาการมึนงง
เราคือใครงั้นหรือ....เราคือไหมงาม....
...ไหมงาม....งั้นเหรอ? หญิงสาวทำท่าครุ่นคิด ฉันไม่เคยได้ยินชื่อของคุณ แล้วก็ไม่เคยมีใครเอ่ยถึงคุณ ทำไมไม่มีใครรู้จักคุณทำไมคุณถึงเรียกตัวเองว่าไหมงามล่ะ....คุณชื่อไหมแก้วไม่ใช่เหรอ? คำถามหลายข้อโพล่งออกจากริมฝีปากสีสวยอย่างสับสนปนเปเพราะไม่รู้ว่าสิ่งที่เธอกำลังเผชิญมันซับซ้อนจนยากที่จะเข้าใจ
เราชื่อ.....ไหมงาม.....
โอเคไหมงามก็ไหมงาม คุณช่วยเล่ารายละเอียดให้ฉันฟังหน่อยสิว่าเรื่องราวที่มีมันเป็นมายังไง แล้วทำไมคนที่อยู่บนเรือนนี้ถึงเป็นคุณ แล้วคุณจะบอกได้หรือยังว่าจะให้ฉันช่วยอะไร
มาสิ.....มากับเรา แล้วเจ้าจะเข้าใจกับทุกสิ่ง ร่างบอบบางผายมือเชิญชวน พอเธอวางมือลงบนมือบางอีกครั้งก็กลับพบแต่ความว่างเปล่าจนไม่อาจสัมผัสได้
บรรยากาศรอบกายเริ่มหนาทึบดำทะมึนจนน่ากลัว หญิงสาวเหมือนกำลังเดินไปข้างหน้าด้วยความรู้สึกลอยคว้างโดยไร้จุดหมาย ร่างบอบบางเดินตามแสงสว่างที่ส่องอยู่เบื้องหน้าลิบๆ อย่างมีหวัง ความอึดอัดที่เธอกำลังเผชิญกำลังลดลงจนรู้สึกเหมือนร่างกายคล้ายเบาหวิว
คุณ!....คุณ! เสียงทุ้มนุ่มเรียกขานเหมือนดังมาจากที่ไกลๆ หญิงสาวนิ่วหน้าเมื่อรู้สึกเหมือนมีใครกำลังเขย่าร่างกายของเธอ
หืม.... ณชนกขยับตัวไปมาค่อยๆ ลืมตาขึ้นช้าๆ ดวงตาคู่สวยกราดมองไปรอบๆ พอเห็นใบหน้าขาวตี๋ของอีกคนโน้มใกล้เข้ามาร่างบางที่แน่นิ่งอยู่เมื่อครู่ก็เด้งลุกพรวดขึ้นทันที
คุณจะทำอะไร?
เอ้า..ถามแปลกผมก็ปลุกคุณไง คุณเป็นอะไรหน้ามืดเหรอ?
คุณจะปลุกฉันทำไม? ฉันก็ตื่นอยู่ไม่เห็นเหรอ หญิงสาวปรายตาตำหนิ ธีรดลย์ถึงอึ้งจนพูดไม่ออกเมื่อได้ฟังคำพูดพร้อมประกายตาขวางๆ ของเจ้าหนุ่มหน้ามน เมาแดดหรือเมาอากาศล่ะแม่คุณตื่นบ้าอะไรคุณคุยอยู่กับผมอยู่ดีๆ ก็ล้มตึงอยู่หน้าเรือน เล่นซะผมตกใจแทบแย่นึกว่าผีคุณไหมแก้วเข้าร่างซะอีก
อะไรนะ! ฉันเนี่ยนะมานอนล้มตึงอยู่หน้าเรือน คุณเมาค้างหรือเปล่าฉันเดินขึ้นมาเอง ฉันยังเห็นคุณยืนอยู่ตรงหน้าบันไดอยู่เลย ฉันตื่นอยู่ตลอดเวลาคุณอย่ามามั่ว
แล้วผมจะโกหกคุณหาสวรรค์อะไร คุณเป็นลมจริงๆ เล่นซะผมตกใจหมดนึกว่าคุณขึ้นสวรรค์ซะแล้วแค่ผีนางรำโบราณผมก็ผวาจะแย่ มาเจอผีผิดเพศแบบคุณเข้าไปอีกไม่อยากจะคิดว่าเรือนไหมแก้วจะหรรษาขนาดไหน
พอได้ยินคำพูดเหน็บแนมหญิงสาวถึงกับกัดริมฝีปากล่างแน่นด้วยความขัดเคือง....ปากมันเรอะนั่น....ผู้ชายอะไรใจแคบไม่เปลี่ยน ขนาดธีรดาประกาศตัวเจ้าบ่าวไปเมื่ออาทิตย์ก่อนเจ้านี่ก็ยังกังวลไม่จบอีกหรือไง...จับอัดให้หายงี่เง่าซักหมัดดีไหมเนี่ย...ปรายตามองเสี้ยวหน้าอีกคนอย่างเอาเรื่อง
คุณเป็นอะไรทำตาขวางยังกับคนโดนผีเข้าแน่ะ
ฉันสบายดีขอบคุณที่ช่วยปลุก
คุณไม่สบายเหรอ? หรือว่าปวดใจที่แฟนหนีไปแต่งงานกับผู้ชายอื่นจนเรี่ยวแรงหดหาย อกเดาะแบบนี้จะทำงานให้ผมได้ไหมเนี่ย ปรายตามองอย่างตำหนิ
ณชนกเหลือบมองใบหน้าขาวตี๋ที่กำลังแกว่งปากหาเรื่องอย่างอดกลั้น เธอบอกตัวเองให้วางเฉยกับถ้อยคำดูแคลนที่อีกฝ่ายกำลังสาดใส่ไม่หยุดด้วยธรรมะที่พระพุทธองค์เคยสั่งสอนไว้ตามหลักศาสนา....โกรธคือโง่....โมโหคือบ้า....ท่องไว้ณชาเอ๋ย...หญิงสาวพร่ำบอกตัวเองเพื่อระงับอารมณ์ให้เย็นลงจนอีกคนเริ่มแปลกใจที่เจ้าแต๋วแหววไม่เดือดอย่างที่คิด
ฉันบอกว่าฉันสบายดี และสามารถทำงานให้คุณได้ไม่ต้องห่วงหรอกฉันแยกแยะได้
ให้มันแน่เถอะไม่ใช่พอเศร้าเข้าหน่อยแล้วมาพาลกับงานของผมล่ะ อกหักแบบนี้สภาพจิตมันจะปกติได้ยังไง นี่แหละไปรักกับคนผิดประเภทมันก็ชีช้ำแบบนี้แหละ เจ้าตี๋ที่ยังไม่รู้ชะตากรรมยังหาเรื่องไม่เลิก
แล้วคุณจะมาเป็นเดือดเป็นร้อนกับฉันทำไมฮึ ฉันจะเป็นยังไงมันก็เรื่องของฉัน
ผมก็แค่หวังดีเผื่อคุณอยากได้คนมาดามอก ผมก็แค่อยากจะสงเคราะห์ช่วยเผื่อคุณต้องการ
ฉันไม่สิ้นไร้ไม้ตอกขนาดหาคนมาดามอกไม่ได้หรอกนะ และฉันก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไรกับการที่ธิดาจะไปแต่งงานกับพี่หิรัญเพราะฉันไม่ได้ใจแคบเหมือนคุณ ฉันจะกลับแล้ว
หญิงสาวสะบัดหน้าทำท่าจะลุกจากเตียง
เดี๋ยวสิ คุณบอกว่ามีอะไรจะคุยกับผมไม่ใช่เหรอ? ธีรดลย์คว้าข้อมือของเธอแล้วรั้งไว้
เอาไว้คุยกันวันหลังวันนี้หมดอารมณ์คุย
แหมจะคุยแต่ละทีคุณต้องใช้อารมณ์เลยเหรอ? เอาอารมณ์อย่างอื่นมั้ยเผื่อคุณชอบและอาจจะอยากคุยกับผมนานๆ ใบหน้าขาวตี๋ฉายแววกรุ้มกริ่ม
นี่แนะ..อีตาบ้า คนลามก เสียงนี่แน่ะที่ดังขึ้นพร้อมๆ กับปลายดัชนีนางทิ่มลงบนลูกกะตาของชายหนุ่มสร้างความเจ็บปวดให้กับเจ้าตี๋ปากหาเรื่องไม่น้อย
โอ๊ย.....ยัยบ้า...คุณเอานิ้วมาจิ้มตาผมทำไมฮึ เดี๋ยวก็ตบจูบแล้วปล้ำให้ลืมเพศซะหรอก ชายหนุ่มผงะถอยยกมือขยี้ตาชี้นิ้วขู่ ก่อนจะทำท่าถลาเข้าไปหาร่างบางที่ง้างหมัดเตรียมพร้อม
เอาอีกดอกมั้ยไอ้ตี๋บ้ากาม เสียงเขียวๆ โพล่งขึ้นพร้อมกับท่าเตรียมพร้อม
ธีรดลย์ชะงักเล็กน้อยเมื่อเห็นเจ้าแต๋วแหวววางท่าได้น่าคลุกวงใน แต่เพราะภาพผู้ชายที่ครอบกายของเธอทำให้เขาไม่กล้าพุ่งเข้าไปหา เฮ้อ! ขืนเจ้านี่ยังมีภาพเป็นหนุ่มน้อยแบบนี้เขาจะทำยังไงดี....จะแตะต้องก็ยังทำใจไม่ได้....จะปล่อยไปก็รู้สึกเหมือนต้องการเธอ... ชายหนุ่มยืนขยี้ตาไปมาแล้วนิ่งคิด....
Create Date : 29 ตุลาคม 2552 |
|
5 comments |
Last Update : 30 ตุลาคม 2552 8:34:17 น. |
Counter : 619 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: karaked IP: 68.105.5.210 30 ตุลาคม 2552 0:40:55 น. |
|
|
|
| |
โดย: sansook 30 ตุลาคม 2552 8:41:49 น. |
|
|
|
| |
โดย: น้องเอ๋ IP: 61.47.26.154 30 ตุลาคม 2552 13:04:22 น. |
|
|
|
|
|
|
|
|
“เจ้าต้องไปเขา” ขาดคำว่าอะไรไปรึเปล่าเอ่ย