พฤศจิกายน 2550
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
9 พฤศจิกายน 2550

เกือกน้อย



เกือกน้อย

เกือกน้อยเป็นรองเท้าเล็กๆคู่หนึ่ง วางขายอยู่ในร้านรองเท้าตั้งหลายปีมาแล้ว จนนานเข้าเกือกน้อยก็กลายเป็นรองเท้าที่ดูล้าสมัย ไม่น่าสวมใส่ เจ้าของร้านเอาเกือกน้อยไปซุกไว้ที่มุมร้านพร้อมกับบ่นว่า

“ เมื่อไหร่เจ้ารองเท้าคู่นี้จะขายได้สักทีนะ อยู่ในร้านเกะกะจะตายไป เฮอ ”

ทุกๆวันจะมีคนเข้ามาซื้อรองเท้าในร้านนี้เป็นประจำ เพื่อนๆของเกือกน้อยถูกขายหมดออกไปทีละคู่ๆ

“ลาก่อนนะ เกือกน้อย หวังว่าสักวันคงมีใครสนใจเธอบ้าง” เพื่อนๆร่ำลาเกือกน้อยเป็นการใหญ่

“ ขอให้พวกเธอโชคดี ว่างๆก็กลับมาเยี่ยมฉันบ้างก็แล้วกัน”

เกิอกน้อยลาเพื่อนรองเท้า ด้วยสายตาละห้อย พึมพำเสียงอ่อยๆกับตัวเอง

“ ทำไมไม่ใครซื้อฉันเลยล่ะ ไม่มีใครอยากเป็นเจ้าของฉันบ้างเลยหรือ”

เกือกน้อยได้แต่เฝ้าถามตัวเองอยู่ร่ำไป

เช้าวันหนึ่งเกือกน้อยก็เลยตัดสินใจออกเดินหาเจ้าของด้วยตัวเอง เกือกน้อยเดินย่ำออกจากร้านมาถึงถนนใหญ่ด้วยใจตื่นเต้นกึ่งหวาดหวั่น นี่เป็นครั้งแรกที่รองเท้าคู่เล็กๆอย่างเกือกน้อยได้ออกจากซอกอับๆในร้านสู่โลกกว้าง

“โอ้โฮ ตึกอะไรล่ะ สูงจังเลย สงสัยกว่าเราจะก้าวไปถึงยอด คงเมื่อยตายพอดี”

เกือกน้อยแหงนหน้ามองดูตึกสูงเบื้องหน้าอย่างตื่นตาตื่นใจ แล้วเกือกน้อยก็ต้องพลันสะดุ้งโหยงเมื่อได้ยินเสียงดังปี้น ปี้นแสบแก้วหูใกล้ๆ

“ อุ๊ย เสียงอะไรน่ะ หนวกหูจัง อ๋อ...เจ้าตัวสี่ขานี่เอง ดูซิ เดินเร็วกว่าเราตั้งเยอะ”

เกือกน้อยเดินผ่านผู้คนที่กำลังเร่งรีบ ไม่มีใครสนใจรองเท้าเล็กๆที่ยืนแอบๆอยู่ข้างถนนเลย

“พวกเขาจะรีบไปไหนกันนะ แต่ละคนหน้าตายุ้งยุ่ง”

สายแล้ว เกือกน้อยเดินผ่านร้านค้ามากมาย ฝ่าความสับสนวุ่นวายบนท้องถนน ทั้งเสียงดังอึกทึกจากรถยนต์ เสียงเอะอะจากผู้คน ฝุ่นละอองคละคลุ้ง แดดก็เริ่มร้อน เมื่อยก็เมื่อย ทั้งเหนื่อย ทั้งกลัว ทำอย่างไรดีล่ะเกือกน้อย

“โน่นไง ” เกือกน้อยบอกตัวเองอย่างดีใจ เพราะใกล้ๆกันนั้น มีรองเท้าคู่สวยอีกคู่หนึ่งยืนอวดโฉมตัวเองอย่างสง่างาม เกือกน้อยไม่รอช้ารีบเดินเข้าไปหา ยิ้มแย้มอย่างเป็นมิตร

“ สวัสดีจ้ะ ฉันชื่อเกือกน้อย เธอมายืนอยู่นานหรือยังจ้ะ “

แทนที่รองเท้าคู่สวยจะยิ้มตอบรับคำทักทาย เจ้าตัวกลับชายตามองเกือกน้อยอยู่แวบเดียวแล้วก็สะบัดหน้าเชิดเดินจากไป ปล่อยให้เกือกน้อยงุนงงอยู่พักใหญ่

“ เขาคงต้องรีบไปกระมัง เลยไม่มีเวลาทักทายกับใคร แต่...เอ๊ะ.....”

เพื่อนๆลองเดาดูซิว่าเกิดอะไรขึ้นกับเกือกน้อย
เด็กผู้หญิงหน้าตาน่ารักคนหนึ่งก้มหน้ามองเกือกน้อย สีหน้าเธอแสดงความแปลกใจ แล้วหันไปพูดด้วยเสียงตื่นเต้น

“ แม่จ๋า รองเท้าคู่นี้ตลกจัง” เด็กหญิงเอื้อมมือมาหยิบรองเท้าดูทีละข้าง เกือกน้อยได้แต่ยิ้มเอียงอาย “สงสัยเขาต้องชอบฉันแน่ๆเลย ดีล่ะจะได้มีเจ้าของเสียที”

“ หนูอยากได้จัง ” ฮืมม์.... เกือกน้อยเชิดคอ หัวใจพองโต สักครู่ ก็มีผู้หญิงอีกคนเดินเข้ามาหาเด็กหญิงพูดเสียงดังน่าตกใจ

“ ต้าย ตาย รองเท้าอะไรเนี่ย สกปรก มอซออย่างนี้ ใครเขาเอามาทิ้งไว้น่ะซิ ”

“ หนูจะเอาไปใส่”

“อย่าเลยค่ะ รองเท้าสวยกว่านี้มีเยอะแยะ เราไปดูในร้านก็ได้”

“ แต่หนูอยากได้..” แล้วเด็กหญิงก็เริ่มร้องไห้งอแง จนผู้หญิงผู้เป็นแม่ต้องฉุดแขนพาเดินจากไป

เกือกน้อยคอหด ก้มหน้ามองดูตัวเอง “ ฉันคงเป็นรองเท้าที่น่าเกลียดมาก”

บ่ายคล้อยแล้ว เกือกน้อยยังหาเจ้าของไม่ได้เลย สู้อุตส่าห์ย่ำเดินจากถนนหนึ่งไปสุดอีกถนนหนึ่ง แล้วก็เดินลากเท้าคอตกมาถึงสนามเด็กเล่น ณ ที่นั้นเกือกน้อยเห็นเด็กผู้ชายหลายคนกำลังวิ่งไล่สนุกสนาน เกือกน้อยเริ่มมีความหวังอีกครั้ง

“ทีนี้แหละ ฉันจะได้มีเจ้าของเสียที ”

คิดได้ดังนั้น เกือกน้อยก็มีกำลังใจ รีบซอยเท้าเข้าไปหาเด็กๆทั้งกลุ่ม เด็กผู้ชายคนหนึ่งเหลือบเห็นเกือกน้อย เลยเดินรี่ตรงเข้ามา ก้มตัวหยิบเกือกน้อยขึ้นมาดู

“ เฮ้ พวกเรามาดูอะไรเนี่ย “ เขาตะโกนเรียกเพื่อนๆที่เหลือเข้ามามุงดูเกือกน้อย

“ โอ้โฮ หนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า ตั้งห้าคน ฉันจะมีเจ้าของทีเดียวถึงห้าคนเลยเหรอ” เกือกน้อยบอกตัวเองอย่างปลื้มใจ

“ รู้แล้วล่ะ ว่าจะทำอะไรกับเจ้ารองเท้าคู่นี้ดี ” เด็กผู้ชายหน้าตาซุกซนอีกคนเอ่ยขึ้น ตามด้วยเสียงถามเซ็งแซ่ของเพื่อนๆ เกือกน้อยก็พลอยเงี่ยหูฟัง อยากรู้อยากเห็นตามไปด้วย

“ เอามาเตะเป็นฟุตบอลเลยมั๊ยล่ะ”

ยังไม่ทันที่เกือกน้อยจะร้องห้ามหรือวิ่งหนี เกือกน้อยก็รู้สึกตัวเองถูกเตะโด่งสูงลิ่วๆขึ้นไปบนฟ้าเสียแล้ว พอตกถึงพื้นดินไม่ทันหายจุกก็ถูกเตะซ้ำอีกครั้ง ครั้งแล้ว ครั้งเล่า เกือกน้อยปวดร้าวไปทั้งตัว จะอ้าปากร้องห้ามก็ตะโกนไม่ออก ทั้งเข็ดยอก ถลอก พกช้ำไปทั้งตัว

มีครั้งหนึ่งพวกเขาเตะเกือกน้อยลอยออกไปที่พงหญ้าข้างนอก เกือกน้อยรีบจ้ำออกจากสนามอย่างรวดเร็วจนพ้นสายตาเด็กผู้ชายทั้งกลุ่ม แล้วค่อยๆเดินเขยกๆไปที่สระน้ำ ก้มหน้ามองเงาตัวเอง

“ไม่มีใครต้องการฉันเลย ไม่มีใครอยากได้รองเท้าที่น่าเกลียดอย่างนี้หรอก ฮือ ฮือ”

แล้วเกือกน้อยก็ร้องไห้อยู่ริมหนองน้ำแห่งนั้นเอง

เกือกน้อยร้องไห้อยู่ไม่นาน ก็เห็นเด็กผู้ชายคนหนึ่งเดินเท้าเปล่ามาที่สระน้ำคนเดียว เขาวักน้ำขึ้นล้างหน้าแล้วเห็นเกือกน้อยอยู่ที่ริมสระ จึงเดินเข้ามาหา หยิบเกือกน้อยขึ้นมาเป่าและปัดฝุ่นที่เกาะมอมแมมออกอย่างทะนุถนอม พึมพำดีใจ ตาเป็นประกาย

“รองเท้าคู่นี้สวยจัง”
ไม่พูดเปล่า เขาสวมเกือกน้อยทั้งสองข้างเข้ากับเท้าตัวเองได้พอดี แล้วก็เริ่มเดินออกไป

นับจากวันนั้น เด็กน้อยกับเกือกน้อยก็อยู่คู่กันตลอด ย่ำเท้าไปไหน ไปด้วยกัน
เกือกน้อยไม่หงอยเหงาอีกต่อไป เกือกน้อยหาเจ้าของที่แท้จริงพบแล้ว

เพื่อนๆล่ะมีเกือกน้อยอยู่ที่บ้านกี่คู่ หลงลืมมันบ้างหรือเปล่า ระวังนะสักวันมันอาจจะน้อยใจและเดินออกไปหาเจ้าของใหม่ก็ได้




 

Create Date : 09 พฤศจิกายน 2550
0 comments
Last Update : 3 มีนาคม 2551 22:30:41 น.
Counter : 807 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


รุ้งพลบ
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




ใช้ชีวิตแสวงหามาหลายปี ปัจจุบันก็ยังแสวงหาไม่รู้จักเสร็จ
บางอารมณ์เหนื่อยๆ ก็หยุดพัก แล้วตรองนิ่งเขียนบันทึกในสิ่งที่พบเห็น

บางอารมณ์ที่โมแรนติค ชอบดูสายรุ้งตอนโพล้เพล้
New Comments
[Add รุ้งพลบ's blog to your web]