ฟอร์ด มอเตอร์ ก็เหมือนกัน ภาพประวัติศาสตร์ที่บริษัทปฏิวัติระบบอุตสาหกรรมรถยนต์ ด้วยระบบ Assembly Line อันตื่นตาตื่นใจกลายเป็นอดีตไปในที่สุด Model T No Choice Car รถรุ่นเดียวสีดำที่ฟอร์ดนำเสนอ (ไม่ต้องให้ลูกค้าเลือกมาก) ถูกค่ายรถ GM แซงตัดหน้าด้วยวิถีดำเนินธุรกิจแบบใหม่
เอ้า อีกสักตัวอย่างหนึ่ง ในแวดวงไฮเทคไม่มีใครไม่รู้จัก The Big Blue ยักษ์ใหญ่สีฟ้า IBM ผู้สร้างสรรค์นวัตกรรมคอมพิวเตอร์ระดับโลก ก่อนหน้านั้น IBM ก็ทำหลายอย่าง รวมทั้งเครื่องพิมพ์ดีดไฟฟ้าหัวจุกก๊อกแก๊กเสียงดัง ซึ่งสาวๆชาวเลขานุการนักพิมพ์ดีดคุ้นเคยกันดี
IBM มองเห็นอนาคตของคอมพิวเตอร์ที่จะมาแทนที่งานเอกสารทุกชนิด ก็เลยรังสรรค์ประดิษฐกรรม Main Frame ขึ้นมาสำหรับออฟฟิคองค์กรขนาดใหญ่ แน่นอน หน่วยงานที่จำเป็นและต้องใช้เครื่องประเภทนี้มีอยู่จำนวนไม่น้อย หนึ่งในผู้ใช้ Main Frame รุ่นแรกๆ ก็คือ กรมสรรพากรของเมืองมะกัน ทีนี้ล่ะ ไม่ผิดพลาดเรื่องข้อมูลและการคำนวณเงินภาษีของประชากร (เรื่องเงินเรื่องทองเรื่องใหญ่) ความสำเร็จจาก Main Frame อัจฉริยะ ของ IBM นี้เอง ทำให้ชาวบิ๊กบลูผู้มีวัฒนธรรมองค์กรสวมเชิ๊ตขาว กางเกงน้ำเงิน ผูกไทค์น้ำเงินทั้งบริษัท หลงภาคภูมิเลือดสีน้ำเงินของตนยิ่งนัก ใครที่ไหนจะมาแข่งได้ ผู้บริหารเองก็มั่นอกมั่นใจว่ามองตลาดทะลุปรุโปร่งไว้แล้ว ตลาดสำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์น่ะหรือ ทั้งโลกอาจจะมีแค่ 5 ตัวเท่านั้นละมั้ง (I think there is a world market for maybe five computers Watson Thomas Senior, Chairman of IBM) ใครนะ..แว่วๆว่าจะผลิต PC มาแข่ง จะมีตลาดรึ ใครจะใช้ ในเมื่อ Main Frame สามารถลากต่อไปได้ทุกที่ PC เก็บไว้ให้เด็กๆเล่นดีกว่า
อะหา..สายตายาว(เกินไป)เป็นเหตุ เมื่อ IBM ตกขบวนรถไฟ PC เบื้องหน้าที่โตมหาศาล และกินตลาดในส่วน Main Frame เข้ามาทุกขณะ จนท้ายสุด ต้องกล้ำกลืนเลือดหยิ่ง ออก PC ตามมาเมื่อตลาดฟ่องฟูไปแล้ว
IBM คือกรณีศึกษาที่ชัดเจนที่สุด ความจริงมีเรื่องราวต่างๆอีกมากมาย เกี่ยวกับความหลงอดีตของยักษ์สีฟ้าในกาลต่อมา จนเกิดวิกฤตแห่งวิกฤตในองค์กร เมื่อไม่สามารถแข่งขันกับใครได้ ก่อนที่ Loiuse Gertsner CEO คนนอก เข้าไปเป็นอัศวินม้าขาวชุบชีวิตยักษ์สีฟ้าไว้ มีใครรู้บ้างมั้ยว่า วินาทีนั้น IBM วิกฤตถึงขนาดแทบจะไม่มีเงินสดเหลืออยู่เลย
ข่าวลับๆแจ้งมาว่า ประธานาธิบดีมะกันขณะนั้น ( George Bush ผู้พ่อ) ถึงกับลงมาปรึกษา Board IBM เองว่า จะจัดการอาการโคม่านี้อย่างไร เพราะ ยักษ์สีฟ้าคือสัญญลักษณ์ของ Hi Tech เมืองลุงแซม หากปล่อยให้ล้ม นั่นหมายถึงความพินาศของอุตสาหกรรม Hi Tech ทั้งหมด (หาอ่านเพิ่มเติม Who Says Elephants Cant Dance : Inside IBMs Historic Turnaround by Louis Gerstner, Jr. กูรูเองเคยเล่าละเอียดไว้ในโรงเรียน ฮ นกฮูก : บันทึกนิยายชั้นเรียน MBA )
Quote: In January 2008, Corporate Responsibility Officer Magazine (CRO) named Eastman one of the five best corporate citizens among chemical companies in the U.S.[1] Eastman was also ranked 64th in CRO magazine's list of 100 Best Corporate Citizens for 2008. [2]
ทิ้งอดีตที่เคยรุ่งเรือง มองมุ่งไปข้างหน้า จึงทำให้ Eastman Chemical มีวันนี้ได้
ภาพประวัติศาสตร์ที่บริษัทปฏิวัติระบบอุตสาหกรรมรถยนต์
ด้วยระบบ Assembly Line อันตื่นตาตื่นใจกลายเป็นอดีตไปในที่สุด
Model T No Choice Car รถรุ่นเดียวสีดำที่ฟอร์ดนำเสนอ
(ไม่ต้องให้ลูกค้าเลือกมาก)
ถูกค่ายรถ GM แซงตัดหน้าด้วยวิถีดำเนินธุรกิจแบบใหม่
GM ไม่ได้ลงทุนด้านเทคโนโลยีมหัศจรรย์ลึกล้ำอย่างใด
เพียงใช้กลยุทธ์การตลาดแบบแบ่งซอย Segmentation
นำเสนอรถยี่ห้อ รุ่นต่างๆที่สนองความต้องการผู้บริโภคที่เริ่มชอบความหลากหลาย
ขณะที่ผู้บุกเบิกอย่างฟอร์ดยังภูมิใจกับเกียรติยศในอดีต
ยังยึดติดวิถีการดำเนินธุรกิจจากมุมมองของบริษัทเป็นหลัก
ในที่สุด GM ก็ขึ้นแท่นเป็นแชมเปี้ยนรถยนต์นานถึง 50 ปี
แทน Ford ซึ่งพลัดตกบังลังก์
เพราะไม่ใส่ใจกับบริบทของพฤติกรรมลูกค้าที่เปลี่ยนไป
เช่นเดียวกับบรรดาองค์กรใหญ่ๆ
เมื่อถึงจุดที่ประสบความสำเร็จครองบังลังก์ยาวนาน
ก็ไม่มีใครเริ่มขยับอะไรต่อ ทำไปเกิดพลาดก็เข้าตัวอีก
สู้อยู่เฉยๆ ค่อยๆคิดค่อยๆทำไปดีกว่า
ลูกค้าก็เหนียวแน่นอยู่ในกำมือแล้ว
มองดูคู่แข่ง ไครสเลอร์เอย ฟอร์ดเอย ก็มีปัญหาภายในองค์กร
ต้องใช้เวลาแก้ไขเรื่องอีรุงตุงนังอีกสักพัก
คิดได้ดังนั้นแล้ว GM ก็เสวยสุข
ชมนก ชมไม้ ชมฟ้าลอยละล่องอยู่เบื้องบน
หารู้ไม่ ยักษ์ใหญ่จากแดนตะวันออกไกล
กำลังโค้งคำนับใกล้เข้ามาทุกที นั่นก็คือ โตโยต้า
ถึงวันนี้แล้ว คงไม่ต้องกล่าวอะไรมากมาย