<<
กุมภาพันธ์ 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28 
17 กุมภาพันธ์ 2553

ร่างพระร่วง ร่างทรงของผู้(ไม่)รู้ตน



เพิ่งมีโอกาสได้จับพลิกอ่านเต็มไม้เต็มมือไม่กี่วันมานี้เอง
"ร่างพระร่วง" ผลงานนวนิยายปรัชญาเชิงพุทธะปนไสยเวท
ของเทพศิริ สุขโสภา มือเก๋าที่หยอดชั้นเชิงวรรณศิลป์
ผ่านพ้นหลายแดด หลายลมประสบการณ์
ด้วยความหนาปึกถึง 550 หน้า
จัดเป็นมหากาพย์เล่มหนึ่งได้ทีเดียว
ไปอ่านบทวิจารณ์ขิองคนอื่นมาเลยรับรู้ว่า
"ร่างพระร่วง" เคยผ่านตากรรมการซีไร้ทมาแล้ว แต่ตกรอบ
โอ้...เสียดายจริงๆ
แต่ไม่เป็นหรอก ความแจ่มจรัสของตัวอักขรในความหนาเกือบ 2 นิ้ว
ยังแล่นพล่านชวนฉงนเป็นปริศนาและคุณค่าแม้นเมื่อจบบรรทัดสุดท้าย

"ร่างพระร่วง" ถือกำเนิดขึ้นมาด้วยปณิธานของคนแต่ง
ที่ต้องการจะสร้าง"วิหาร" ให้กับ ท่านพระพุทธทาส
ในโอกาสครบรอบชาตะ 100 ปี
"วิหาร"ในที่นี้ก็คือ บทบาทการผจญภัยของหนุ่มคนหนึ่ง
ที่พานพบประสบการณ์แปลกๆจากต้นน้ำจนปลายสาย

เรื่องราวของเด็กชายดอน ผู้ไม่มีพรสวรรค์ในการเล่าเรียนเขียนอ่าน
หากมีคาถาอาคม ร่ายเวทมนต์ เมื่อมีโอกาสบวชในชายผ้าเหลือง
บ่มจิตและกายหมกมุ่นอยู่กับของเก่า และกรุพระเครื่อง
จนบังเกิดความเก่งกล้าอาจหาญ
สามารถใช้ชายตาเหลือบชั่วแปลบก็ล่วงรู้
หยั่งซึ้งถึงรูปลักษณ์กรุพระเครื่องทั้งหลายแหล่
ด้วยกิเลสในตัวตน กอปรกับอหังการ์ในวิญญาณ
นายดอน เมื่อเติบใหญ่จึงกลายเป็น อาจารย์ดอน
ผู้เป็นที่หวาดเกรงและนับหน้าถือตาถึงความเป็นเซียนพระเครื่อง
สามารถชีเป็นชี้ตาย ให้กับพระเครื่องทุกองค์ที่ผ่านมือ
จึงมีคนที่ได้และเสียประโยชน์มากมายจากคำตัดสินสั้นๆของเขา

กระนั้นก็ตาม แว่บหนึ่งของอาจารย์ดอน
มักจะหวลระลึกถึงวัยเด็กที่ตัวเองและพ่อน้อมได้มีโอกาสนำทาง
พระรูปหนึ่งจากเมืองใต้ที่เข้าไปจาริกในหมู่บ้านเมืองเหนือลุ่มน้ำยม
ชายหนุ่มเซียนพระเฝ้าย้ำเตือนตน
ขอสักวันได้มีโอกาสเข้าไปเคารพใกล้ชิดกับพระรูปนั้น
แต่เพราะความมัวเมาในอาคมวิชาพระเครื่อง
จึงบดบังกรรมวิถีไปเสียค่อนชีวิต

จนถึงวาระสุดท้าย ก็เหลือเพียงวิญญาณ
ที่ได้ติดตามส่งพระรูปองค์เดิม
ซึ่งก็ละสังขารในเวลาใกล้เคียงกัน

เขาถึงตระหนักว่า ที่ผ่านมา พระที่อยู่ในใจมาตลอด
มีรูปองค์เป็นตัวตนอยู่แล้ว
ใยเสียเวลาไปกับพระเครื่องกรุเก่ามากมายทำไมเล่า

"ร่างพระร่วง" งดงามด้วยภาษาของจิตรกรตวัดปลายพู่กันมาขีดเขียน
นำพาจินตนาการผ่านเมืองเก่าซึ่งครั้งหนึ่งเป็นราชธานีของสยาม
ได้ยลเจดีย์ วัดร้าง แม่น้ำยม แก่งหลวง ละแวกศรีสัชนาลัย
ได้ยินสำเนียงห้วนสั้น คำถิ่นพื้นเมืองจากปากคน ซุ่โขทัย
ได้สัมผัสการปะทะร่างรางของไสยเวทย์กับเหล่าวิญญาณ
ที่รอคอยชาติภพไปเกิดใหม่
ได้ตระหนักถึงปรัชญาเชิงพุทธะกับสัญญะ
ที่คนๆหนึ่งเพียรแสวงหามาตลอด
หากกิเลศและกรรมได้เยื้องบัง
โชคดีที่ได้เจอก่อนดวงมาลย์แตกดับ

ไม่ได้อ่านนิยายดีๆแบบนี้มานานเต็มทีแล้ว




Create Date : 17 กุมภาพันธ์ 2553
Last Update : 17 กุมภาพันธ์ 2553 20:04:58 น. 5 comments
Counter : 2086 Pageviews.  

 
อืม..น่าสนใจ

สงสัยต้องไปหามาอ่าน...


โดย: หมีบางกอก (Bkkbear ) วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:20:33:49 น.  

 
น่าอ่านจังค่ะ..
ไว้จะกลับไปหามาอ่านบ้าง


โดย: ป้าโซ วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:17:32:37 น.  

 
น่าอ่านจังค่ะ


โดย: แก้วกังไส วันที่: 6 เมษายน 2553 เวลา:12:59:45 น.  

 
ได้รับมอบหมายให้อ่านบทที่เจ็ด (เล่ม 2) ปณิธาน..ใครอ่านแล้วช่วยวิพากษ์ให้ด้วยนะ..


โดย: daosiam@gmail.com IP: 1.2.153.196 วันที่: 13 ตุลาคม 2556 เวลา:2:31:38 น.  

 
ไม่เข้าใจคำว่า "พระร่วง" จะขยายความอย่างไรดี


โดย: churace IP: 139.99.104.95 วันที่: 27 กันยายน 2563 เวลา:20:48:10 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

รุ้งพลบ
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




ใช้ชีวิตแสวงหามาหลายปี ปัจจุบันก็ยังแสวงหาไม่รู้จักเสร็จ
บางอารมณ์เหนื่อยๆ ก็หยุดพัก แล้วตรองนิ่งเขียนบันทึกในสิ่งที่พบเห็น

บางอารมณ์ที่โมแรนติค ชอบดูสายรุ้งตอนโพล้เพล้
New Comments
[Add รุ้งพลบ's blog to your web]