พฤศจิกายน 2550
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
1 พฤศจิกายน 2550

กาลิเลโอ

25 ตุลาคม 2550



เพิ่งฟังรายการ CEO Vision ทาง 96.5 จบ เรื่อง ชีวประวัติของกาลิเลโอ
เลยขอแจมด้วยในเวปนี้ คิดว่า หลายคนก็คงฟังรายการนี้อยู่

เรารู้จักกาลิเลโอในฐานะของนักวิทยาศาสตร์ นักค้นคว้า
ผู้ต้านทฤษฎีเก่าๆซึ่งมีศาสนจักรเป็นศูนย์กลาง
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการค้านความเชื่อโลกคือศูนย์กลางจักรวาล
การค้านการทดลองเรื่องทฤษฎีโน้มถ่วงของโลก
ซึ่งอริสโตเติลเคยทดลอง เรื่องการปล่อยขนนกและก้อนหินลงสู่พื้นดิน
ต่อมาเซอร์ไอแซค นิวตันได้ขยายผลการทดลองของกาลิเลโอ
กลายเป็นทฤษฎีแรงโน้มถ่วง - Gravity’s Law

แต่มีอีกมุมมองหนึ่งในแง่ของความเป็นมนุษย์ปุถุชน
ที่ต้องการเอมอิ่มกับรสชาติอาหารโอชา
มนุษย์ปุถุชนที่สะพรั่นกลัวกับการถูกกักขังและความตาย
มนุษย์ปุถุชนที่ต้องการดำเนินชีวิตตามครรลองปกติ

ในบทละคร “กาลิเลโอ” Bertolt Brecth นักเขียนบทละครชาวเยอรมันชื่อดัง
ได้นำประวัติกาลิเลโอ กาลิเลอิ มาตีความหมายอีกมุมมองหนึ่ง

ในเรื่องกาลิเลโอถูกบังคับให้ขอโทษและลบล้างในสิ่งที่ตัวเองค้นพบ
มิฉะนั้นจะถูกฝังตายทั้งเป็นในถ้ำ ระหว่างความตายและการมีชีวิตอยู่
กาลิเลโอเลือกอย่างหลัง เพราะการมีชีวิตอยู่
หมายถึงการได้สูดลมหายใจบริสุทธิ์ การได้กินอาหารอิตาลีดีๆ
การได้ดื่มไวน์รสชาติเยี่ยม
การได้มีโอกาสร้องเพลง ชมความบันเทิงสนุกสนาน

เหนืออื่นใด การมีชีวิตอยู่หมายถึงโอกาสที่จะได้ทดลอง
และค้นคว้าวิทยาศาสตร์ใหม่ แม้จะต้องหลบๆซ่อนๆก็ตาม

เมื่อกาลิเลโอประกาศยอมจำนนต่อแรงกดดัน
ขอลบล้างการค้นพบใหม่ๆที่ตรงข้ามกับคำสอนของศาสนจักร
บรรดาลูกศิษย์ที่เคยชื่นชมก็ผิดหวัง
เพราะคิดว่าอาจารย์กาลิเลโอน่าจะยืนหยัดในความคิดของตัวเอง
แม้จนชีวาวาตม์ก็ตาม
ลูกศิษย์ส่วนใหญ่จึงประณามและทิ้งประโยคนัยสำคัญดังนี้
“บ้านเมืองนั้นอับเฉาแน่ ถ้าขาดแคลนวีรบุรุษ”
กาลิเลโอ โต้กลับไปทันที
“ บ้านเมืองนั้น อับเฉาแน่ ถ้าจำเป็นต้องมีวีรบุรุษ”

กาลิเลโอกลับมาเป็นชายชรางุ่นง่านตามเดิม
ช่างบ่น ช่างกิน ช่างสรรหา
ขณะเดียวกันก็ไม่ยอมหยุดเลิกละการค้นคว้าทางวิทยาศาสตร์
เพื่อเผยแพร่ความคิดของตนโดยไม่ให้ศาสนจักรปิดกั้น
กาลิเลโอจึงบันทึกสิ่งที่ค้นพบลงในกระดาษแผนที่เดินทาง
แล้วให้ศิษย์ที่ยังนับถือ นำคำสอนซึ่งซ่อนอยู่ในแผนที่ดังกล่าว
หนีหลบหลีกออกไปเผยแพร่ในดินแดนที่เสรีภาพทางความคิดไม่ถูกกีดกัน
ด้วยความเชื่อว่า หากความรู้ที่เขาคินค้นเป็นสากลแล้วล่ะก้อ...
สักวันจะถูกเผยแพร่และนำกลับเข้ามาในดินแดนต้นกำเนิดท้ายสุด
(ไม่รู้ว่า กาลิเลโอเข้าใจเรื่อง Knowledge Transferring หรือเปล่า
แต่นี่คือยุคแรกทีเดียว)

เรามองกาลิเลโอคือผู้ที่กล้าคิด ต่อยอด ขยัน ไม่ย่อท้อ
แต่ขณะเดียวกันเขาก็คือปุถุชนธรรมดาที่กลัวตาย
ไม่ใช่ Hero ที่ยอมฝังตัวเองพร้อมกับความเชื่อของตัวเอง

และนี่เองคือจึงทำให้ผลงานการค้นคว้าของกาลิเลโอ
ยังเป็นที่ประจักษ์แก่ชาวโลกในกาลต่อมา


Create Date : 01 พฤศจิกายน 2550
Last Update : 16 พฤศจิกายน 2551 20:54:39 น. 1 comments
Counter : 1288 Pageviews.  

 
คุณ Boring ปิยะมิตรคนหนึ่ง
ได้ส่งเนื้อร้องเพลง กาลิเลโอ
ที่ร้องในการแสดงละครเรื่องนี้ของคณะ 28

"กาลิเลโอ"
คำร้อง ทำนอง ...สุรชัย จันทิมาธร

(พูด) ท่านผู้ทรงเกียรติ ท่านสุภาพบุรุษ ท่านสุภาพสตรี
ก่อนที่ขบวนแห่ของผู้ประกอบการจะมาถึง
เราขอเสนอ
บทเพลงที่สร้างขึ้นด้วยความยากลำบาก
และความพยายามอันมากมายมหาศาล
กว่าจะได้นำเสนอต่อท่านในที่นี้
บทเพลงนี้มีชื่อว่าความฝัน
และความคิดอันชั่วร้าย
ของนักฟิสิกซ์ ประจำราชสำนัก ท่าน กาลิเลโอ
หรืออีกชื่อหนึ่งว่า การลิ้มลองอนาคต
(ดนตรี)
อันลูกโลกเรามีมากาเล
พระเจ้าแสร้งเสปั้นทรงลงลาย
ทรงสร้างคนทรงสร้างดินทรงสร้างน้ำ
สร้างความชุ่มช่ำ สร้างไฟส่องฉาย
ให้ดวงอาทิตย์หมุนรอบโลกเรา
มีทุกข์สุขเศร้าเวียนวนกันไป
สุขโศกสีสันดั่งวันราตรี
ใจเราน้องพี่ต่างพลีกาย
(ใจกาย..ใจกาย)
ถวายชีวิตไกล้ชิดพระองค์
ภักดีมั่นคงไม่เคยแหนงหน่าย
เมื่อใครหน่ายแหนงสำแดงฤทธิ์
ความพินาจบัดสีจะมาเยี่ยมกราย
(เยี่ยมกราย...)
เยี่ยมกราย ความพินาจบัดสีจะมาเยี่ยมกราย
(เยี่ยมกราย...)
รอบสันตะปาปา ก็คือคาดินัล
รอบลงไปอีกนั่นก็ลดลั่นกันไป
บิชอพเสนาข้าทาสบริวาร
ขโมย ขอทาน คนโซโคควาย
สังคมยอมเขาพระเจ้าคือจอม
คุมความเหม็นหอม คุมความเป็นตาย
(เป็นตาย....)
ข้าแต่พระองค์ (เดี๋ยวก่อน....)
ข้าแต่พระองค์ (เดี๋ยวก่อน....)
(ดนตรี)
ยังมีชายหนึ่งชื่อ กาลิเลโอ
หัวโตพุงโรทิ้งพระคัมภีร์
ส่องกล้องดูดาวด้วยวิทยาการ
อันฉลาดอาจหาญไม่กลัวบัดสี
ไม่มีพระเจ้าไม่มีพระองค์
มีแต่ความหลุ่มหลงงมโง่สิ้นดี
โลกเราดวงเราก็คือบริวาร
ดวงดาวไพศาลเปรียบดั่งผงธุลี
(ธุลี....)
ดวงสุริยันมันก็ลอยอยู่เฉยๆ
ชะเออเอิ่งเอยแบบใหนกันนี่
(ดนตรี)
เอ๊ะมันไม่เข้าที อ๊ะหรือว่าเข้าที
(อะไรกันนะ อะไรกันนะ..)
(ไม่รู้ซิ ไม่รู้ซิ เอ๊ะอะไรกัน ฮึม..)
(ดนตรี)
หนุ่มสาวที่แข็งกระด้าง สุนัขที่แข็งกระด้าง
เด็กวัดที่แข็งกระด้าง
คนงานขิ้เมาไม่ยอมไปทำงาน
(ดนตรี)
เมื่อเป็นเช่นนิ้จะได้ไฉน
พี่น้องทั้งหลายนั่นพระคัมภีร์
กฏเกณฑ์โบราณมันไม่ตลก
สวรรค์นรกมีเชิงบ่งชี้
เชือกที่แขวนคอคนกำแหง
มันยังแข็งแรงหักคอได้ดี
ชีวิตขื่นขมแทบล้มกระอัก
ใครหนอไม่รักอิสระเสรี
(เสรี....)
(ดนตรี)
ฮึม....
ช่างก่อสร้างขุดดินก่อสร้าง
ก่ออิฐจัดวางโบกหิน โบกปูน
สร้างเสร็จสม เขาก็เข้าไปอยู่
เหมือนดั่งปูมันขุดรูของมันอยู่เอง
(ดนตรี)
เมื่อเป็นเช่นนิ้จะได้ไฉน
พี่น้องทั้งหลายนั่นพระคัมภีร์
ไม่ใช่เรื่องราวต้องสาวความเปลือง
เชือกบ่วงเขื่องๆพิษสงยังมี
ชีวิตขื่นขมแทบจมอาจม
อิสราสุขสมคืออิสระเสรี
(เสรี....)
(ดนตรี)
ฉันกำลังมองหา ดวงอาทิตย์ฆ่าเวลา
ส่องโลมไล้จันทราของฉัน
ทั้งอาทิตย์ดวงจันทร์ ขอให้เป็นของเรา
(ดนตรี)
ไม่ได้ ไม่ได้ ไม่ได้หรอกหนา
ฟังคำร้องขอเถอะกาลิเลโอ
จะถอดตะกร้อออกจากปากหมาบ้า
มันหมายความว่าอันตรายอักโข
ความหายนะระรานชีวิต
ความถูกกลับผิดลุกลาม
โอโฮ โอโฮ.....กาลิเลโอ...กาลิเลโอ...
มวลมิตรทั้งผองต้องทุกข์ลำเค็ญ
ไม่ว่าจะอยู่หรือเป็น ต้องลำบากลำบน
จงปลดโซ่ตรวน ที่มันกวนรังควาน
ด้วยความกล้าหาญเยี่ยงนรชน
กาลิเลโอ กาลิเลอี
คือเทียนช่วยชี้พ้นทางมืดมน
ความคิดอ่อนแอแพ้ภัยทั้งปวง
คือสิ่งเหนี่ยวหน่วงหัวใจของตน
อิสระเสรีก็คือดวงวิญญาณ
ตัวเรานี่แหละหนาที่เรียกว่าคน
(คน.......)



โดย: กูรูขอบสนาม วันที่: 5 เมษายน 2551 เวลา:0:01:45 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

รุ้งพลบ
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




ใช้ชีวิตแสวงหามาหลายปี ปัจจุบันก็ยังแสวงหาไม่รู้จักเสร็จ
บางอารมณ์เหนื่อยๆ ก็หยุดพัก แล้วตรองนิ่งเขียนบันทึกในสิ่งที่พบเห็น

บางอารมณ์ที่โมแรนติค ชอบดูสายรุ้งตอนโพล้เพล้
New Comments
[Add รุ้งพลบ's blog to your web]