แต่นั่นแหละ สิ่งที่ Helen จะต้องเรียนรู้ต่อไปก็คือ ภาษาโลก เพราะไม่มีใครจะอยู่โดดเดี่ยวคนเดียวได้ตลอดไป
Helen ได้เข้าเรียนอย่างเป็นเรื่องเป็นราว (Formal Education) ที่ Royal Institute For the Blind หลังจากนั้นครู - ศิษย์ คู่นี้ก็จูงมือเข้ามหานครนิวยอร์ค เพื่อเข้าเรียนโรงเรียนที่สอนคนตาบอดและหูหนวกโดยเฉพาะ
หลังจบการศึกษาก็กลับมามลรัฐแมซซาซูเซ็ท เพื่อเข้าศึกษาต่อระดับอุดมศึกษาสาขาศิลปศาสตร์ที่วิทยาลัยหญิง Radcliffe ซึ่งเป็นสถาบันอุดมศึกษาระดับ Ivy League โด่งดังประมาณ Harvard ซึ่งขณะนั้นยังรับแต่นักศึกษาชาย
แน่นอน ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นย่อมเกินกำลังที่ครอบครัว Keller จะสรรหามาให้ เพราะมีถึง 2 ปากท้องด้วยกัน โชคดีที่ Helen ขอรับทุนอุดหนุนจากเศรษฐีผู้มั่งมี ที่นิยมบริจาคให้ทุนการศึกษาตามมหาวิทยาลัย Helen Keller จึงเป็นบัณทิตคนแรก ในวัย 24 ปี ที่ครบครันความพิการคือทั้งบอด ทั้งใบ้
(และโชคดีมากที่ Helen ไม่ได้เกิดในบ้านเรา มิฉะนั้นก็คงถูกล่ามโซกักขังเป็นจอมนางใต้ถุนเรือนตลอดชีวิต)
เมื่อจบการศึกษาแล้ว Helen ก็เริ่มภาระกิจของทูตสวรรค์ โดยเดินทางไปแสดงปาฐกถา อภิปราย บอกเล่า เร่งเร้าให้รัฐเห็นความจำเป็นของผู้พิการที่รัฐต้องดูแล
แน่นอน Helen เสียใจมาก เพราะคุณครู Annie Sullivan แม้ไม่ใช่แม่ก็ยิ่งกว่าแม่ เป็นดั่งเทียนไขที่ส่องสว่างนำสติปัญญาของเธอกลับคืนมา Helen ยิ่งปวารณาตัวเป็นนักต่อสู้และนักกิจกรรมเพื่อคนพิการอย่างหนักหน่วง บากบั่นอุตสาหะ พูดให้ขวัญกำลังใจแก่ทุกองค์กรที่ส่งเสริมสถานภาพ และโอกาสแก่คนพิการ รวมทั้งตั้งองค์กรการกุศลในชื่อเธอเอง
ในด้านของสังคม Helen มีความคิดก้าวหน้า ค่อนข้างจะโน้มเอียงไปทางระบอบสังคมนิยมรัฐสวัสดิการ รัฐจะต้องช่วยเหลือให้ความเกื้อกูลกับบุคคลที่เกิดมาเคราะห์ร้าย(เช่นเธอ)
Helen ได้เขียนหนังสือหลายเล่มที่เกี่ยวกับชีวประวัติการต่อสู้ของตัวเอง ซึ่งจะไม่ประสบชัยชนะเลย หากไม่มีคุณครู Annie เป็นเพื่อนคู่ใจ
เล่มหนึ่งที่ดังมากก็คือ The Story of My Life เธอคงต้องใช้ความพยายามมากในการสะกดคำแต่ละคำ แต่ละประโยค เพื่อเล่าความจริงของชีวิตออกมา ใครมีหรืออ่านเล่มนี้ จงภูมิใจเถอะว่า คุณกำลังใช้ดวงตาอ่านดวงใจของคนเขียน
วาระสุดท้ายของ Helen Keller สาวน้อยอภินิหารมาถึง เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 1968 เธอได้เสียชีวิตอย่างสงบที่บ้านพักส่วนตัว หลังจากทนทรมานกับอาการอัมพาตมาเป็นเวลาหลายปี
ตอนแรกจะโพสให้ตรงกับวันที่ 1 มิถุนายน
ครบรอบวันเสียชีวิตของ Helen Keller 40 ปีพอดี
แต่เขียนเสร็จ โพสไปเลยดีกว่า เพราะเดี๋ยวถึงวันอาทิตย์
อาจจะวุ่นๆแล้วลืม
สิ่งที่เราได้จากเรื่องราวของครู-ศิษย์ คู่แท้ปฏิหาริย์คู่นี้
ก็คือความมุ่งมั่นที่ไม่ยอมแพ้ต่อชะตากรรม
โชคดีที่ทั้งคู่มีโอกาสได้ร่วมสร้างฝันด้วยกัน
กว่าจะฝ่าฟันกันมาได้ก็สาหัสสากรรจ์ผ่านกาลเวลา
ขอแต่ให้เราเข้มแข็ง ไม่ท้อแท้เท่านั้น
ปฏิหาริย์เกิดขึ้นได้บนฐานความเพียรมานะจากตัวเรานั่นเอง