<<
เมษายน 2551
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
18 เมษายน 2551

Don Quixote : ฝันเฟื่องเพื่อมนุษย์ ฤาคือคนบ้า



มาชวนไปดูละครกัน

จากวรรณกรรมอมตะของเสปนที่เป็นหนึ่งในสิบของบทประพันธ์ที่โลกยกย่องให้อ่าน
ดอน กีโฮเต้ ของ มิเกล เดอ เซอร์วานเต้ มาเป็นละครเพลงที่นำกลับมาเล่นอีกครั้ง
“สู่ฝันอันยิ่งใหญ่ ” ( Don Quixote : Man of La Mancha)

เคยดูตั้งแต่เป็นภาพยนตร์ที่ ปีเตอร์ โอทูล เล่น
ยืนตัวผอมเปล่งเสียงร้องเพลง To Dream, The Impossible Dream
ต่อหน้า อัลดอนซ่า ที่แสดงโดย โซเฟีย ลอเร็น
(เชื่อมั้ย กลายเป็นเพลงโปรดของปัญญาชนยุคนั้น
ที่ผลักดันให้เข้าป่าหาอุดมการณ์เชียวล่ะ)

เคยดูเป็นละครเวทีของคณะ 28 ที่น้าหง่าว ยุทธนา มุกดาสนิท
และ พี่ป้อม รัศมี เผ่าเหลืองทอง ที่ใช้ความพยายามอย่างยิ่งยวด
ในการสรรค์สร้างและบรรจงลงโรงที่โรงละครแห่งชาติ

ตั้ว ศรัญญู วงศ์กระจ่างเล่นสลับรอบเป็นอัศวินกับจรัล มโนเพ็ชร
(เจ้าของบทเพลง รางวัลแด่คนช่างฝัน) มีนรินทร ณ บางช้าง
เปล่งเสียงร้องเป็นโสเภณีแจ้งเกิดอย่างยอดเยี่ยมมาก

ทั้งหมดคือเรื่องราวที่ผ่านไปกับกาลเวลาเมื่อยี่สิบปีมาแล้ว
(สังเกต ปี พ.ศ.ที่คณะละครตั้งขึ้น แต่ละครเรื่องแรกคือ กาลิเลโอ
เคยเล่ามาบ้างแล้ว)

กลับมาปี 51 ล่วงรู้มาว่า เจมส์ ข้าวมันไก่ (เรืองศักดิ์ ลอยชูศักดิ์)
นักร้องหนุ่มหน้าหยกมารับบทเป็น อัศวินผู้เฒ่า ดอนกีโฮเต้
อันเป็นวาระที่ท้าทายยิ่งนัก เป็นความฝันของเหล่าศิลปิน
ที่จะไขว่คว้าโอกาสทองอันมีไม่บ่อยนัก

สำหรับเพื่อนๆที่ไม่เคยรับรู้เรื่องราวมาก่อน
จะขอเล่าให้ฟังคร่าวๆโดยไม่สปอยล์เนื้อหา

ดอน กีโฮเต้ คือ เรื่องราวของผู้เฒ่าคนหนึ่งที่คลั่งไคล้ในวิถีของอัศวิน
วันๆหมกมุ่นอยู่กับการอ่านและฝันเฟื่องถึงแต่เรื่องการสู้รบปราบอธรรม์ทั้งหลาย จนในที่สุด ความฝันได้สุกงอม

ชายผู้เฒ่าออกจากบ้านดำเนินวิถีชีวิตเยี่ยงอัศวินที่ฝันถึง
ใส่เสื้อเกราะ และเตรียมศัตราวุธพร้อมพรัก
(คือบรรดาเศษผ้าและภาชนะเครื่องครัวเก่าๆซอมซ่อ)
วิ่งรี่เข้าปราบศัตรูร้ายหมายเลขหนึ่ง (คือกังหันลมที่หมุนติ้ว)
เข้าไปพักในพระราชวังแห่งหนึ่ง (คือซ่องข้างทาง)
และได้เจอ เจ้าหญิงผู้สูงศักดิ์ ดัลซิเนีย
(คืออัลดอนซ่า โสเภณีกร้านโลกประจำซ่อง)

แล้ววิถีการผจญภัยของดอน กีโฮเต้ ก็ดำเนินไปอย่างสนุกสนาน
บนภาระกิจและปฎิญาณของอัศวินด้วยสังขารที่อ่อนเปลี้ย
ท่ามกลางการเฝ้ามองอย่างฉงนของคนรอบข้างว่า
นี่คือคนบ้าสุดขั้วที่หลุดมาจากขุมไหน

จนกระทั่งวันหนึ่งอัศวินผู้เฒ่าตื่นขึ้นมา
รำลึกได้ว่าตัวเองไม่ได้เป็นอะไรเอ่ยนอกจากคนแก่ที่กำลังรอวันปลิดขั้ว....

แต่ในภวังค์ฝันเฟื่องระหว่างที่สวมบทบาทอัศวินต่างหากล่ะ
ที่กระตุกมโนธรรมสำนึก ชั่วดีของมนุษย์ให้ตื่นขึ้นมา
พร้อมกับความกล้าหาญที่จะต่อสู้กับความอยุติธรรมทั้งปวง
ที่จะโอบอุ้มความเหนื่อยอ่อนของมนุษยชาติ
ที่จะยอมร่วมทนทรมานไปกับความทุกข์ยากของผองชน
ที่จะฝันสุดไกล (แม้ไปไม่ถึง)เพื่อโลกใหม่ของทุกคน


นี่คือบทคัดย่อของละครเพลงเรื่องนี้ที่อยากจะเชิญชวนให้ทุกคนไปชม
แล้วมาช่วยกันตอบว่า คนบ้าคือใคร

คนที่กล้าฝันถึงสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ฤาคือ คนบ้า
คนที่ก้าวออกจากนอกกรอบเพื่อค้นหาตัวตนที่แท้จริง ฤาคือคนบ้า
คนที่ดำเนินชีวิตในวิถีที่ควรจะเป็น มากกว่าปล่อยให้เป็นไป ฤาคือคนบ้า


ไปร่วมค้นหาคนบ้าใน ดอนกิโฮเต้ : Man of La Mancha
หรือพากย์ไทย สู่ฝันอันยิ่งใหญ่ที่รัชดาลัย เธียเตอร์ เร็วๆนี้ (บัตรคงสมราคากับความยิ่งใหญ่ของละคร 500-1,300 บาท)
เปิดแสดงทั้งหมด 13 รอบ เริ่ม 13 มิ.ย. แสดง อังคาร-พฤหัส
ละครคงยาวประมาณ 3 ชั่วโมง

บางที อาจจะเจอคนบ้าอยู่ในตัวตนของเราก็ได้




 

Create Date : 18 เมษายน 2551
12 comments
Last Update : 18 เมษายน 2551 9:44:14 น.
Counter : 1469 Pageviews.

 

เพลงสู่ฝันอันยิ่งใหญ่

ขอแปะเนื้อเพลงหน่อย

" สุดมือ เอื้อมคว้าข้าจะฝัน
กล้าหาญ รานรบอริร้าย
ชีวิต จะปลิดปลดมิลดละง่าย
จะไป ถิ่นอันคนกล้ายังถอย
อะไร ชั่วแท้จะแก้ไข
อันไหน ถ้าใจรักสลักร้อย
แรงน้อย เหนื่อยอ่อนสู้มิรู้ถอยดั่ง
ใจหวัง จะลอยลิบหยิบดาว

จะไกลแค่ไหน ไม่เคยสิ้นหวัง
จะไม่มีหยุดยั้ง พลังฝันอันเร่งเร้า
ไม่ลังเลและขลาดเขลา สู่เป้าหมายอันใฝ่หา
อาจจะล้มเซถลามากี่ครั้งก็ยังรักยุติธรรม...

สิ่งดีงามจะค้ำจุนโลกไว้ ตายแล้วยังนอนตาหลับ
โลกจะดีกว่านี้ควรต้อนรับ ประทับใจทุกคนได้...

ผู้ทะนง เท่านั้นจึงจะมี
บาดแผลนี้ ถี่เป็นแถวแนวเลือดไหล
ความหวัง ที่ตั้งมั่นคือความฝันใฝ่
โลกจะสวย..ด้วยความฝันบินสู่...ฟ้า"

 

โดย: กูรูขอบสนาม IP: 124.121.90.115 18 เมษายน 2551 11:08:30 น.  

 

นี่ลิ้งค์ไปยูทูปโปรโมขั่นเวอร์นี้ที่เจมส์ร้องครับ

ผมว่าใช้ได้เลยทีเดียวแหละ

//www.youtube.com/watch?v=h2r05KwgG1Q

 

โดย: คอละครเวที IP: 58.64.123.75 19 เมษายน 2551 1:30:00 น.  

 

ปล.ทีเรียกป้อมเรียกว่า พี่

เรียกยุทธนา เรียกว่า น้า

ป้อมเขาแก่กว่าผม 2 ปีนะครับ อิอิอิ

 

โดย: คอละครเวที IP: 58.64.123.75 19 เมษายน 2551 1:47:34 น.  

 

ฮืมม์ น้าเข้ามาตอบเองเลยหรือเนี่ย
ว่าแต่ว่าบัตรทำไมแพงจัง ไม่ใช่ข้างบนที่เขียนนะ
ไปดูใหม่ 500-3,000 บาท
แถว 500 นี่ ต้องเอากล้องส่องม้าไปด้วยหริอเปล่า
สงสัยงวดนี้จะอด..ว้า

 

โดย: กูรูขอบสนาม 19 เมษายน 2551 6:26:13 น.  

 

ครับ....ผมก็ว่าแพงไป

แต่ทาง28 และผมไม่ได้เป็นผู้กำหนดราคาบัตรอ่ะครับ มันเป็นราคามาตรฐานของลครเพลงที่เล่นที่นี่ทุกเรื่อง
ประกอบกับฝรั่งมันคิดค่าลิขสิทธ์เป็นเปอร์เซนต์สูงต่อรอบในทุกรอบครับ
ไม่เหมือนสมัยก่อนที่เคยเอามาทำ มันคิดเหมาในราคาถูก จำได้ว่าไม่เกิน10000 us.$

แต่ไม่ต้องห่วงว่าบัตรราคาถูกจะไกลไปนะครับ โรงเขาไม่ใหญ่ เล็กว่าโรงลครแห่งชาติมาก ใหญ่กว่าเฉลิมกรุงหน่อยเดียว.....แล้วเห็นเขาลดราคาบัตรด้วย สงสัยไม่ค่อยมีคนจอง อิอิอิ
นั่งแถวหลังสุดก็ยังเห็นชัดครับ


ปล.ตกลงจะเรียกผมว่าน้าจิงๆเหรอ...ผมอ่อนกว่าป้อมจริงๆนา 55555

 

โดย: คอละครเวที IP: 58.64.123.75 19 เมษายน 2551 7:23:36 น.  

 

สงสัยมาตรฐานละครเพลงของเขา
คงเทียบจากสิงคโปร์ ฮ่องกง แน่ๆเลย

เอาล่ะ เอาล่ะ น้าอุตส่าห์เข้ามาชวนถึงที่
ต้องไปให้กำลังใจหน่อย
500 บาทยังคงพอมี

ความจริงเราเคยเจอกันแล้วนะ ตอนเสวนางานภาพยนตร์ "ผีเสื้อและดอกไม้ " ที่เอสพลานาด
ปีที่แล้ว

น้าจำได้มั้ยเอ่ย

 

โดย: กูรูขอบสนาม IP: 124.121.91.157 19 เมษายน 2551 9:09:26 น.  

 

เผิญมีคนเข้ามาถามในกระทู้ที่ไปโพสที่พันทิป
"จริงเหรอ ที่ว่า ดิ อิมพอสสิเบิ้ลดรีม เป็นเพลงคนจะเข้าป่า"

ได้ตอบเสียยืดยาว เลยเอามาขยายในนี้

...ไม่ถึงกับเป็นคำตอบสำเร็จรูปหรอกนะคร้าบ แต่เปรียบเปรยให้ฟัง
กูรูจะย้อนกลับสมัยที่ภาพยนตร์เรื่องนี้เข้ามาฉายในบ้านเราในพากย์ไทยว่า
"ฝัน" ประมาณ ปี 2515 หรือ 2516 ถ้าจำไม่ผิดน่าจะก่อน 14 ตุลาคม 2516
กูรูยังโตไม่ทัน แต่มีพี่น้องอยู่ในวัยน่าศึกษาร่วมแสวงหาเหมือนกัน

ช่วงนั้นมีหนังฝรั่งดีๆเยอะมาก ที่ฉุกและจุดประกายความคิด นอกเหนือจาก "ฝัน" เช่น

Francesco and Claire หรือ Brother Sun, Sister Moon
เรื่องของหนุ่มเจ้าสำราญที่วันๆมีแต่ชีวิตไร้สาระ
กระทั่งวันหนึ่งเกิดเบื่อทางโลกและเริ่มเข้าทางทางธรรม
ในที่สุดก็ได้ตัดสินใจบวชเป็นบาทหลวง
แล้วไปใช้ชีวิตอย่างต่ำต้อยกับคนโรคเรื้อน
มีความสุขในบั้นปลาย ยิ่งใหญ่ขนาดจักรพรรดิลงมา
ก้มเท้าจุมพิต (เรื่องเกิดในโรมัน ประมาณนั้น)

โจนาธาน ลิฟวิงสตัน นางนวล มาจากหนังสือของ ริชาร์ด บาค
ทั้งเรื่องมีแต่นกนางนวลบินไปบินมาตลอด เพลงเพราะมากๆ
."Be" "Sky Bird" " Lonely Looking Star"

หนังรักบางเรื่องก็จัดอยู่ในกลุ่มที่สร้างแรงบันดาลใจนี้เช่นกัน
"The Way We Were" ที่ บาร์บาร่า สไตร์แซนด์
เล่นเป็นแอคตีวิทส์สาวตกหลุมรักกับผู้ชายแสนธรรมดาคนหนึ่ง
ที่ต้องการใช้ชีวิตแบบชนชั้นกลาง Elite
ในที่สุดเธอก็ไม่สามารถดำเนินเส้นทางเดียวกันได้
ก็ต้องขอแยกทางออกมาเป็น "สุดทางรัก"

และหนังกึ่งตลกบางเรื่อง ก็คือ Paper Chase ภาษาไทยว่า "เรียนแหลก"
พูดถึงชีวิตนักศึกษาใน Ivy League (รู้สึกจะเป็นฮาวาร์ดหรือพรินซตัน)
ที่แข่งกันเรียนเป็นบ้าเป็นหลัง พระเอกของเราก็เช่นกัน
แต่พระเอกมีวิธีเรียนแบบพินิจพิเคราะห์อย่างถ่องแท้และเข้าถึงแก่นวิชาจริงๆ
หลังจากได้เกรด A แล้ว ก็พับใบคะแนนเป็นจรวดปลิวว่อนอย่างสะใจ
(อันนี้ สุดท้ายได้กระดาษแผ่นเดียวเหมือนกันนะ
แต่กว่าจะได้ก็ผ่านการทดสอบความแข็งแกร่งของจิตใจมากมาย)

ยังมีอีกหลายเรื่องครับ
ที่เขียนขึ้นมาเพื่อบอกเล่าบรรยากาศของแวดวงปัญญาชน นักศึกษายุคนั้น
ที่เริ่มตื่นตัวจาก "ฉันจึงมาหาความหมาย" สู่ "เราไม่เหงา เราไม่ซึม เราไม่เซื่อง"

มาถึงเรื่อง Dream ทั้งเพลงและทั้งเนื้อหา
มันช่างเข้ากับความฝันยุคโรแมนติคของคนหนุ่มสาวสมัยนั้นมาก
ทุกคนอึดอัดกับบรรยากาศที่ปิดกั้นทั้งทางวิชาการและการเมือง
พอมีอะไรที่มาปลดปล่อยคล้อยตามได้ก็รู้สึกว่า "ใช่" ทันที
คนกลุ่มหนึ่งจึงชอบและหลงใหลเรื่องนี้เป็นนักเป็นหนา
(กูรูยังไม่ได้ดูนะครับช่วงนั้น มาดูตอนหลังถึงค่อยๆซาบซึ้ง)

ถามอาจารย์ นักศึกษาสมัยนั้นดูซิครับ ว่ายังชอบและร้องเพลง
To Dream ,The Impoosible ได้หรือไม่

เป็นเพลงโปรดของ ศ.รังสรรค์ ธนะพรพันธุ์ ที่กูรูนับถืออย่างสูง
เป็นเพลงโปรดของ อ.เสกสรรค์ ประเสริฐกุล
เป็นเพลงโปรดของกวีซีไร้ท จิระนันท์ พิตรปรีชา
และเป็นเพลงโปรดของอีกหลายๆคนที่ไม่เคยประกาศออกมา
(ทั้ง 3 คนเคยบอกแล้วว่าชอบเพลงนี้)

เผอิญกลุ่มคนในผู้โปรดเพลงนี้ ไปผจญภัยในราวป่าด้วย
ก็คือไปแสวงหาความฝันที่ยิ่งใหญ่เหมือนกับอัศวิน ดอนกีโฮเต้
ที่จะทวงคืนความยุติธรรม์ให้กับมนุษยชาติ

ก็เลยเปรียบเปรยว่า หนังเรื่องนี้ ฉุดประกายความคิดให้คนนึกถึง
พลังความบ้าที่สามารถแปรเปลี่ยนและขับเคลื่อนโลกได้

บางครั้งในบรรยากาศที่ถูกปิดหู ปิดตา ปิดปากจนแทบจะสิ้นลมหายใจ
มีเพียงเพลงหรือหนัง หรือละครบางฉากแวบเข้ามา
เราก็แทบอยากจะฉวยไว้นานๆแล้วบอกว่า นี่คือฉัน It's Me

อยากจะเล่าอีกเรื่องคือ Antigone ฉบับที่เล่นในโรงละครฝรั่งเศส
สมัยที่ปารีสถูกยึดโดยพวกนาซี
ถ้ายังไม่เบื่อเสียก่อน

อ้อ อาจารย์รังสรรค์ ไม่ได้ไปผจญภัยในราวป่ากับพวกเขาด้วยนะครับ




 

โดย: กูรูขอบสนาม 20 เมษายน 2551 17:14:48 น.  

 



กลัวละครเพลงเรื่องนี้จะเป็นเพลงและเรื่องหนักๆ ..พี่ก็เลยยังไม่ได้จองตั๋ว คืออาจจะไม่ดูน่ะ

แต่เมื่อคืน พี่ไปฟังคอนเสิร์ตมา The Exclusive Night 3 by Win Weerachai "Love You...Love Song Concert" ..เพลงไพเราะครับ ขับร้องโดยนักร้องแชมป์สยามกลการ เสียง งี้ สุดๆไปเลย

ในActที่1 เป็นเพลงจากหนังฮอลลีวู้ดดังๆ ราว12เพลง เช่น Man of La Mancha, The Bodyguard, The Phantom of the Opera, Music and Lyrics, Cold Moutain เป็นต้น

Actที่2 เป็นเพลงแจ๊สเพราะๆ นักดนตรีระดับ ป้อม ออโต้บาห์น โก้ มิสเตอร์แซกแมน ประชันกับ ธนิศว์ ศรีกลิ่นดี ขับร้องโดย ซู บราวน์ นักร้องไทยจากนิวซีแลนด์ (ซึ่งอดีตเธอคือแชมป์โค๊กมิวสิคอวอร์ด ที่มีนามสกุลว่า บุญสูงเนิน)

Act ที่3. Songs in Memory ส่วนใหญ่เป็นเพลงไทย ขับร้องโดย มิลล่า มาลีวัลย์ เจมิน่า เธอเปิดการร้องด้วยเพลง บรรลังค์เมฆ ...ในตอนท้ายๆ เธอชักชวนให้ผู้ชมขึ้นไปร่วมร้องด้วยกันบนเวที ผู้ชมคนนั้น ชื่อ ชรัส

Act ที่4. Divas Show ...โห พลังเสียงของแต่ละคน ทั้ง เกล ดีล่า / นภาดา (สายสุนีย์) สุขกฤต / สุนทรีย์ จวบสมัย / และ อัญชุลีย์ บัวแก้ว แต่ละคน ไม่ยอมน้อยหน้ากันเลย ผลัดกันร้องผลัดกันประสานหลายเพลงมากๆๆ พวกเพลงก็ได้แก่ Moment in Time เป็นต้น

ทั้งหมดนี้ ใช้เวลาการแสดงกว่า 3 ชั่วโมง คนเต็มทุกเก้าอี้ ผู้ชมที่รู้จักเช่น สุดา ชื่นบาน ฉันทนา กิตติยพันธ์ …พี่เองบอกได้เลยว่า รู้สึกคุ้มค่ากับเงินและเวลา หากจัดครั้งที่ 4 อีก ก็จะไปดูอีกครับ




ถ้าหากน้องจะดู Man of La Mancha อยากแนะนำให้จองตั๋วตรง โซน 2,000 หรือ 1,500 ตรง A2 หรือ B2 ครับ



 

โดย: yyswim 20 เมษายน 2551 17:39:18 น.  

 

โอ๊ย อิจฉา อิจฉา ตาร้อนผะผ่าว
เพลงเพราะๆทั้งนั้น คงนอนหลับ ฝันดีทั้งคืนเลย

ถ้าจองตั๋วได้ ไม่รู้หมดหรือยัง
คงดูในอัตราที่กำลังทรัพย์จะอำนวยน่ะครับ

 

โดย: กูรูขอบสนาม IP: 124.121.93.101 20 เมษายน 2551 18:23:23 น.  

 

จำทุกคนที่คุยด้วยที่เอสพานาดวันนั้นได้ครับ

.....แต่ทุกคนล้วนดูเป็นกูรูกันหมด

เลยไม่รู้ชัดว่าคนที่อยู่ขอบสนามเป็นใครแน่ครับ อิอิอิ

 

โดย: คอละครเวที IP: 58.64.125.6 21 เมษายน 2551 1:13:33 น.  

 

คนที่ดูแก่แดดกว่าเพื่อนน่ะ คร้าบ

เออ.เรียกน้าตั้งนานทั้งๆที่น้าก็ยินยันว่าเป็นน้องพี่ป้อม
ความจริงเรียกตามที่คนอื่นเขาเรียกน่ะ
ส่วนพี่ป้อม ไม่เคยเรียกว่า น้าป้อม หรือป้าป้อมเลย เขินๆถ้าต้องเปลี่ยนสรรพนามเรียก

 

โดย: กูรูขอบสนาม IP: 124.121.100.120 21 เมษายน 2551 18:39:51 น.  

 

คุณกูรูฯได้ไปดูละครผมรึยังครับ.......

ถ้ายัง หรืออยากดูอีก....ผมขอเชิญเป็นแขกผม 2 ที่นะครับ
.....ยังไง ติดต่อบอกผมมาที่นี่นะครับ
euthana@hotmail.com

 

โดย: คอละครเวที IP: 58.64.63.74 18 มิถุนายน 2551 5:52:36 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


รุ้งพลบ
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




ใช้ชีวิตแสวงหามาหลายปี ปัจจุบันก็ยังแสวงหาไม่รู้จักเสร็จ
บางอารมณ์เหนื่อยๆ ก็หยุดพัก แล้วตรองนิ่งเขียนบันทึกในสิ่งที่พบเห็น

บางอารมณ์ที่โมแรนติค ชอบดูสายรุ้งตอนโพล้เพล้
New Comments
[Add รุ้งพลบ's blog to your web]