|
|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
31 | |
|
|
|
8 มกราคม 2564
|
|
|
|
เจ๊าะแจ๊ะนอนโรงพยาบาลครั้งแรก
เลี้ยงเจ๊าะแจ๊ะมาถึงวันนี้ก็เป็นเวลา 15ปี 3เดือน 15วัน ไม่เคยวิกฤติถึงต้องเข้านอนโรงพยาบาลมาก่อน ครั้งนี้ หลังจากการป่วยหนักครั้งที่แล้ว ที่ขาอ่อนแรงเดินไม่ได้ ไม่กิน จนผอม แม่ต้องบังคับป้อนอาหาร ป้อนน้ำ ป้อนยา ครั้งนี้จู่ๆ เธอหายใจหนักและถี่มาก นาทีละ60-70ครั้ง จนยืดคอ หายใจทางปาก เธอมองตาแม่ตลอดเวลา เพราะแม่จับมาอุ้มบนตัก เช็ดตัว เพราะเห็นหัวร้อน ตัวอุ่น นึกว่าเป็นไข้ หอบ ผ่านไปสักพัก เห็นไม่ได้การ เจ๊าะแจ๊ะยังหอบถี่เช่นเดิม รีบพาไปโรงพยาบาลสัตว์ เจ้าเดิม ระหว่างทางเจ๊าะแจ๊ะร้องเสียงเหมือนเจ็บปวดและติดขัด แม่ใจไม่ดี ได้แต่ปลอบว่าเดี๋ยวถึงโรงพยาบาลแล้วลูก ถึงโรงพยาบาลจับยืนชั่งน้ำหนัก เธอไอแค้กๆ แล้วสำรอกน้ำออกมาปนเลือดจางๆ เยอะเลย ไม่ใจคอไม่ดี หมอรีบให้ออกซิเยน เช็คปอด เจาะเลือด เอ็กซเรย์ อัลตร้าซาวน์ด หลายอย่าง แล้วแต่หมอจะทำเถอะ เพื่อให้แจ๊ะรอด
ผลคือ น้ำท่วมปอด เพราะปอดติดเชื้อ มีอาการของหัวใจโต ลิ้นหัวใจรั่ว หมอฉีดยาขับปัสสาวะ คืนนั้น 2 เข็ม เพื่อขับน้ำจากปอด เข้าตู้ให้ออกซิเยน ให้น้ำเกลือ เพราะเริ่มมีสภาวะขาดน้ำ
แม่กับพี่กลับบ้านก่อนคืนนั้น ก่อนกลับบอกเจ๊าะแจ๊ะว่า ถ้าไม่ไหว อยากไปก็ไปเลย แม่รักแจ๊ะนะ ....พูดกับหมาแบบนี้จริงๆ และพี่ก็พูดกับหมอว่า ถ้าไม่ตอบสนองกับการรักษา ไม่ปั๊ม ให้ไปแบบสบายๆไม่เจ็บปวดทรมาน ในห้องมีหมาแมวอยู่ในตู้ ให้น้ำเกลืออีก 4 ตัว เจ้าของแมวมาเฝ้าอุ้มแมวร้องแง๊วๆอยู่ น่าสงสาร แม่กลับบ้านสวดมนต์ภาวนาให้เจ๊าะแจ๊ะก่อนนอน
เช้าโทรไปถามอาการ หมอบอกว่าอาการดีขึ้นกว่าเมื่อวาน หายใจไม่ถี่มากแล้ว ลดเหลือไม่เกิน 40 ครั้งต่อนาที หลังเที่ยง เมื่อให้ยา ให้อาหารแล้ว หมอจะลอง เอาออกจากตู้ให้ออกซิเยน ให้หายใจเองปกติ ถ้าดีขึ้น ก็จะเอาออก
แม่อาบน้ำแต่งตัวจะไปเยี่ยมเจ๊าะแจ๊ะที่รพ.หลังเที่ยง ทีนี้เกิดหนาวสั่น ตัวร้อนรุมๆ ปวดหัวขึ้นมาซะงั้น ไม่เหมาะกับการไป เยี่ยมแจ๊ะ เลยรีบกินยา ใช้การโทรถามอาการเอา เย็น พี่เลิกงาน ไปเยี่ยมดูอาการ เจ๊าะแจ๊ะร้องตามเกาะแขน คงอยากกลับบ้าน..หมอให้อยู่ รพ.ดูอาการอีกคืน
วันที่ 3 หมอโทรมาแจ้งผลการรักษา ดูท่าอาการปลอดภัย แม่โล่งใจเป็นที่สุด แม่ไปเยี่ยม เจ๊าะแจ๊ะไม่ต้องให้ออกซิเยนแล้ว แต่ไม่ยอมกินน้ำ อาหาร ป้อนยายาก หมอให้น้ำเกลือต่อ ตอนแรก เข้าไปหา เจ๊าะแจ๊ะมองตามเฉยๆ เพราะเห็นมีคนเข้าไปในห้อง คงเพราะใส่แมสก์ บังหน้าตา และไม่ได้เรียก เจ๊าะแจ๊ะไม่ได้ยินเสียง จำไม่ได้ ก็มองแล้วก็ละสายตาไป
พอเรียกเจ๊าะแจ๊ะๆๆๆๆ เท่านั้นแหละ ร้องครวญครางขึ้นมาทันทีทันใด ตะกายกล่อง จะออกมาหาแม่ แต่ติดสายน้ำเกลือ แม่ลูบหัวลูบตัว น่ังคุยกับหมาอยู่เกือบชั่วโมง หมอมารายงานความคืบหน้าการรักษาและค่าใช้จ่าย น้ำในปอดลดลง จะให้ยาลดการอักเสบปอดต่อ ให้อยู่ รพ.ต่ออีก 1 คืน แม่กลับบ้าน เจ๊าะแจ๊ะร้องเรียกเสียงดังตามหลัง เป็นที่น่าเวทนา ตอนค่ำพี่ไปเยี่ยมเพื่อดูอาการและคุยกับหมออีกครั้ง พี่ก็เป็นหมอเขาคุยกับหมอรู้เรื่องดีกว่าแม่
วันรุ่งขึ้น หมอโทรมาแจ้งอาการ และการรักษา บอกว่าถ้าจะกลับก็ให้กลับได้แล้วหลังเที่ยงวันนี้ เพราะไม่มีน้ำในปอดแล้ว แต่กลับบ้านต้องให้เจ๊าะแจ๊ะ กินน้ำให้ได้วันละไม่ต่ำกว่า 150ซีซี และกินยาให้ครบ ตามที่ให้ไป
พอเย็นแม่ก็ไปรับเจ๊าะแจ๊ะกลับพร้อมยาอีก 6 อย่าง เจ๊าะแจ๊ะดีใจมาก รีบโผเข้าหาอ้อมแขน ก่อนกลับบอกหมอให้สอนวิธีป้อนยาเม็ดให้ดูหน่อย เจ้าหน้าที่คนหนึ่งอุ้ม คนหนึ่งก็ใช้คีมเหล็กเหมือนกรรไกรหัวทู่ปลายโค้ง คีบยาแคปซูล ใส่ปาก เจ๊าะแจ๊ะก็แยกเงี้ยวกัดคีมตลอด เป็นแบบนี้อยู่สัก10ครั้ง ก็ป้อนยาไม่สำเร็จ จนมีอีกคนเข้ามา ทำรวดเร็วทิ่มคีมเข้าไปในคอลึกๆ ก็เรียบร้อย แต่เท่าที่เห็น คีมทิ่มปาก ทิ่มฟัน ทิ่มเพดานเจ๊าะแจ๊ะทุกครั้ง เธอคงเจ็บบ่าดู เลยไม่ยอม ถ้าไม่มีเราดูอยู่เขาคงมีวิธีรวดเร็วให้หมาได้กินยาลงคอ แต่เจ้าของยืนดูอยู่ เลยไม่กล้าทำอะไรรุนแรงนัก(รึเปล่า)
พอถึงบ้านอุ้มลงจากรถ เธอรีบเดินสำรวจลานบ้าน พุ่งไปที่ชามใส่น้ำ กินน้ำอยู่หลายครั้ง แล้วฉี่ ข้าวหอมพอเห็นเจ๊าะแจ๊ะมา ก็ตรงเข้ามาดมร้องแหงวๆ มาเลียขาให้ ข้างที่ยังมีพลาสเตอร์ปิดอยู่ เหมือนกับมาถามว่าหายดีแล้วเหรอ เป็นที่น่าเอ็นดู ส่วนมะลิมาเมียงมอง เจ๊าะแจ๊ะเห็นก็วิ่งไล่มะลิ จนหนีเข้าไปหลบใต้รถ แล้วเจ๊าะแจ๊ะก็ยืนหอบซี่โครงบาน แป๊บเดียว จากที่ยืนก็เริ่มขาอ่อนแรง ขาถ่างออกๆ จนล้มแปะนอนพื้น
เฮ้อ....สภาพไม่แข็งแรง ยังเที่ยวไล่กวดน้อง แม่ต้องอุ้มเข้าไปนอนในบ้าน คราวนี้เลยนอนแซ่ว หายใจหอบอีก จนถึงเวลากินอาหารเย็น แม่ต้มอกไก่ให้หอมๆ เจ๊าะแจ๊ะทำจมูกฟุดฟิด ลุกจากที่นอน ตามกลิ่นไปในครัว พอแม่ยีเนื้อไก่ให้กิน เธอก็กินจนหมดชาม ยืนเลียชาม ขออีก แม่ได้ที ยัดยาเม็ดลงในเนื้อไก่ ใส่ปนกันไป เธอก็กินหมดด้วยความหิว
แม่สบายใจ ไม่ต้องเสี่ยงถูกกัดนิ้วอย่างเดิม ยาเม็ดทั้งก่อนและหลังอาหาร แม่ยัดใส่เนื้อไก่ต้ม เนื้อหมูต้ม ให้เจ๊าะแจ๊ะกิน แต่ยาที่ต้องใช้ไซริ้งก์ นางก็แยกเขี้ยวกัดหลอดยาเหมือนเดิม ไม่ยอมกินง่ายๆ แม่รู้วิธีทำให้ง่ายขึ้น ก็ใช้ผ้าขนหนูห่อตัวเธอ ยกปากให้สูง คอยหาจังหวะฉีดยาเข้าข้างปากนาง พอเสร็จก็ชมนาง ว่า เจ๊าะแจ๊ะเก่งจังเลยลูก...กินแล้วจะได้แข็งแรงไปเที่ยวได้ พูดไปเรื่อย แต่เจ๊าะแจ๊ะก็เข้าใจนะคะ หันมามองหน้าแม่ ทำตาปริบๆ แล้วก็เดินไปกินน้ำ แก้ขมคอ ที่ถุกแม่ฉีดเข้าปากไป แล้วก็กลับไปนอนบนเบาะของเธอต่อ ช่วงนี้จะนอนแยะกว่าปกติ
ตอนนี้คงไม่ได้เที่ยวค้างที่ไหน เพราะภาวะ ต้องดูแลให้ยาเจ๊าะแจ๊ะต่อไป ไม่รู้อีกนานแค่ไหน ทั้งโรคหัวใจ โรคปอด
ดีที่ช่วงนี้ สภาวะโควิดแพร่กระจาย เลยไม่อยากออกจากบ้าน อยู่ดูแลเจ๊าะแจ๊ะ กับข้าวหอม มะลิไปนี่แหละค่ะ พี่ซื้อไซรับมาเป็นตัวผสมยาเม็ดให้กินง่ายๆบางมื้อ
วันที่ 10 ม.ค. ก็ต้องพาเธอไปเจาะเลือด รับยาเพิ่มอีก ภาระที่เลี่ยงไม่ได้ หมาของเรา เราหามาเลี้ยงเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว ตั้งแต่เล็กแต่น้อยแล้วนี่นา ต้องดูแลให้ดีเท่าที่จะทำได้
ได้ทีเลยสอนลูกสาว 2 คนว่าถ้าไม่มีเวลาหรือรับผิดชอบ ชีวิตสัตว์ได้ ก็อย่าหามาเลี้ยงเพราะมันน่ารัก อยากเล่นอยากหัวกับมัน เพราะถ้าเอามาเลี้ยงแล้ว ต้องมีทั้งเวลาสุขและเวลาทุกข์ รวมทั้งต้องเสียทรัพย์แต่ละครั้ง เป็นพันเป็นหมื่น และต้องสละเวลาดูแล ไม่ใช่แค่ 1ปี 2 ปี แต่นานถึง 15-17ปี ทำได้หรือไม่ ถ้าทำได้เลี้ยงไป ถ้าทำไม่ได้ ไปเล่นหมาแมว ตามร้านขายสัตว์เลี้ยงเถอะ สบายกว่ากันแยะเลย
สวัสดี
Create Date : 08 มกราคม 2564 |
Last Update : 8 มกราคม 2564 10:45:33 น. |
|
15 comments
|
Counter : 1681 Pageviews. |
|
|
|
|
ผู้โหวตบล็อกนี้... |
คุณเริงฤดีนะ, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณtoor36, คุณจันทราน็อคเทิร์น, คุณทนายอ้วน, คุณThe Kop Civil, คุณmariabamboo, คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณสองแผ่นดิน, คุณSweet_pills, คุณที่เห็นและเป็นมา, คุณหอมกร |
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 8 มกราคม 2564 เวลา:11:21:08 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 8 มกราคม 2564 เวลา:12:45:25 น. |
|
|
|
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 8 มกราคม 2564 เวลา:13:56:57 น. |
|
|
|
โดย: หอมกร วันที่: 8 มกราคม 2564 เวลา:15:41:04 น. |
|
|
|
โดย: mariabamboo วันที่: 8 มกราคม 2564 เวลา:17:32:40 น. |
|
|
|
โดย: Sweet_pills วันที่: 9 มกราคม 2564 เวลา:10:17:12 น. |
|
|
|
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 9 มกราคม 2564 เวลา:20:17:44 น. |
|
|
|
โดย: หอมกร วันที่: 10 มกราคม 2564 เวลา:14:59:18 น. |
|
|
|
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 10 มกราคม 2564 เวลา:21:12:26 น. |
|
|
|
| |
|
|
ตะลีกีปัส |
|
|
|
|
อ่านตามก็ให้สงสารไปเจาะแจะนัก
ส่งกำลังใจให้กลับมาแข็งแรงโดยเร็ววัน