โรส คนตาพิการ กลับบ้านต่างอำเภอโดยรถบัส คนเดียว
ประสบการณ์ยามขึ้นรถโพธิ์ทองกลับบ้านคนเดียว
เย็นวันศุกร์ หนูและเพื่อน ๆตาดี ในชั้นประมาณ 4 - 5 คน พากันเดินมารวมตัวกันที่ป้ายรถเมล์แห่งหนึ่ง หน้าโรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลัย เพื่อส่งหนูกลับสงขลา
หลังจากที่ทราบว่า หนูจะตัดสินใจเดินทางกลับบ้านด้วยตนเอง เพื่อน ๆ พากันตัดสินใจแทนว่า จะให้หนูขึ้นรถอะไรดี รถสองแถว หรือ รถประจำทาง(รถโพธิ์ทอง) จึงจะให้หนูกลับถึงบ้านโดยปลอดภัย ในที่สุดก็แยกย้ายกันกลับ เหลือเพียงหัวหน้าชั้นสุภาพบุรุษ ที่ยังคอยเลือกรถที่เขาคิดว่า น่าจะปลอดภัยสำหรับหนู
ในที่สุดก็ได้รถเมล์สีเขียวคันใหญ่คันหนึ่ง รถประจำทาง บริษัทโพธิ์ทองขนส่ง เขาพาหนูขึ้นรถ พร้อมกับอวยพรว่า โชคดีนะโรส หนูได้ยินเสียงเขาอวยพรมาจากข้างหลัง หนูกล่าวขอบคุณเขาแล้วจึงรีบขึ้นไปหาที่นั่ง ทีแรกล้ม ๆ ลุก ๆ เก้ ๆ กัง ๆ เพราะเพิ่งขึ้นรถเมล์ครั้งแรกคนเดียวในชีวิต
กระเป๋ารถเมล์หญิงสาวสวยผู้ใจดีเดินมาเก็บเงินค่าโดยสาร ทีแรกเธอจะไม่เก็บเงินหนู แต่หนูตอบเธอไปว่า ไม่เป็นไรค่ะ หนูไม่อยากขึ้นรถฟรีค่ะ เธอจึงยอมเก็บเงินโดยดี ทั้งหมดก็ 15 บาท ค่ะ สำหรับนักเรียนนะคะ แต่ผู้ใหญ่ 20 ค่ะ
นั่งรถไป ฟังเพลงไป คุยกับผู้โดยสารที่นั่งมาข้าง ๆ ในที่สุดผู้โดยสารวัยกลางคนก็ลงจากรถ หนูจึงนั่งคุยกับกระเป๋ารถเมล์ท่านนั้นต่อไป ทราบทีหลังว่า คนขับรถและกระเป๋ารถท่านนั้นเป็นสามีภรรยากัน มีบุตรสาวเรียนอยู่โรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลัยเช่นเดียวกัน แถมยังอยู่ม. 5 อีกต่างหาก แต่คนละห้องกันค่ะ แล้วหนูก็มาถึงจุดหมายโดยสวัสดิภาพ น่าประทับใจมาก คุณพ่อยืนรอรับอยู่แล้ว
สัปดาห์ที่ 2 คราวนี้ชักจะคล่องตัวหน่อย ๆ แต่กระเป๋ารถเมล์เป็นผู้ชาย หนูพยายามยื่นเงินให้ เขาก็ไม่เก็บ ปัดมือออก บอกว่าทำไม่ลง เพราะ หนูเป็นผู้พิการทางสายตา บอกตรง ๆ น้ำตาไหลออกมานิด ๆ ไม่เคยเจอกิริยาแบบนี้
สัปดาห์ที่ 3 ไม่ได้กลับค่ะ พ่อไปธุระ ต่างจังหวัด
สัปดาห์ที่ 4 คราวนี้สนุกมาก คุณกระเป๋ารถเมล์หนุ่มยื่นมือมารับเงินแบบไม่มีข้อต่อรอง แถมตอนลงจากรถ คนขับอวยพรว่า โชคดีนะจ๊ะ
แต่คันที่ 2 ดีตรงที่กระเป๋ารถเมล์จูงหนูไปยืนอยู่ข้างประตูวัด เพราะ คิวรถเมล์สุดท้าย อยู่ตรงประตูวัด ค่ะ รู้สึกขอบคุณเขาแต่ก็ยังขัดใจที่เขาไม่เก็บเงิน มารู้ทีหลังว่า นั่นเป็นกฎของรถโพธิ์ทองที่ว่า เป็นดุลยพินิจของรถ ที่จะไม่เก็บเงินพระภิกษุ สามเณร และผู้พิการ ค่ะ ก็เลยโอ เค
แต่ที่หนูคิด คือ ไม่ว่าจะพิการหรือปกติ ขอให้มีสิทธิ์เท่าเทียมกัน อย่ายกเว้นเลย เพราะรู้สึกขัดอกขัดใจอย่างไรก็ไม่รู้ บอกไม่ถูก แต่ก็ไม่เป็นไรค่ะ มันเป็นกฎก็คือกฎ เข้าใจแล้ว ขอให้เขาพาเรามาส่งถึงที่โดยปลอดภัยก็พอ
ก็ ขอฝากไปถึงทุก ๆ ท่านที่กำลังอ่านด้วยนะคะ หากท่านมีบุตรที่พิการทางสายตา ลองปล่อยให้เขาลองใช้ชีวิตแบบคนปรกติดูบ้าง เขาจะไม่เป็นภาระของสังคมในอนาคตค่ะ สวัสดีเจ้า
Create Date : 08 มิถุนายน 2552 |
|
14 comments |
Last Update : 8 มิถุนายน 2552 9:32:27 น. |
Counter : 1310 Pageviews. |
|
|
|
ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ