Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2550
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
3 กรกฏาคม 2550
 
All Blogs
 
ปีกนางฟ้า 15


15.

“สาวๆ พร้อมกันรึยังฮะ เดี๋ยวผมขับรถไปรอหน้าห้องเลยนะครับ” ไมค์โทรศัพท์มาถามแต่เช้ามืด

“โอเคค่ะ เดี๋ยวเจอกันคะไมค์” ปริมตอบกลับไป หลังจากวางสายโทรศัทพ์เธอก็หันไปถามเปรียว “เลือกหมวกได้รึยังจ๊ะ ไมค์จะมารับแล้วนะ”

“เสร็จแล้วค่า เออ พี่ปริม ยัยยูมิน่ะเป็นแฟนไมค์รึเปล่า ทำท่าหวงจนออกนอกหน้าอย่างนั้น”

“ไม่มั่ง เห็นไมค์บอกมาอ้อมๆ นะ”

“ว่าแต่ เขาพยายามทำคะแนนเต็มที่เลยนะพี่ปริม ถึงกับหยุดงานพาเที่ยว จะมีใครใจอ่อนมั๊ยน๊า ถ้าจะอ่อนก็ต้องเช็คก่อนให้ดีนะว่าโสดสนิทจริงๆ” เปรียวพูดทีเล่นทีจริง

“ก็ดูๆ ไปน่ะเปรียว พี่ไม่รีบร้อนตัดสินใจอะไรหรอก แล้วพี่ก็บอกเขาไปแล้วด้วย ว่ายังไงก็ขอเป็นเพื่อนกันไปก่อน... ไปเหอะๆๆๆ อย่าให้ไมค์รอนานเลย”

“สวัสดีตอนเช้าค่ะ เราจะไปไหนกันคะคุณไกด์กิตติมศักดิ์” เปรียวเอ่ยทักไมค์ ในขณะที่ปริมส่งยิ้มให้

“ผมว่าจะขับรถพาคุณไปถนนฮานาครับ เป็นหนึ่งในสิ่งที่จะต้องทำเลยนะถ้ามาเกาะมาวีเนี่ย”

“มันมีอะไรน่าชมเหรอคะ” เปรียวสาวช่างสงสัยถาม

“ก็เป็นเส้นทางสายหนึ่งเท่านั้นละฮะ ระยะทางประมาณ 83 กิโลเมตร แต่ทางจะคดเคี้ยวไปมาฮะ ลัดเลาะไปริมทะเล แถวนั้นจะเป็นลักษณะป่าดงดิบ ถนนเลนเดียว ใช้ความเร็วในการขับได้แค่ 24 กิโลเมตรต่อชั่วโมงครับ เดี๋ยวเปรียวดูด้วยตาตัวเองดีกว่า แล้วบอกผมด้วยว่าชอบมั๊ย ผมอยากจะพาไปกันแต่เช้าเพราะว่ายิ่งสายรถจะยิ่งเยอะ แล้วจะช้าน่ะครับ” แล้วไมค์ก็หันมาถามปริมว่า “คุณหลับสบายดีมั๊ยฮะเมื่อคืน”

“สบายค่ะ อากาศบริสุทธิ์ดีจังเลยนะคะ แล้วคุณจัดการเรื่องงานเรียบร้อยแล้วเหรอ มีปัญหาอะไรมั๊ย”

“ไม่มีฮะ ผมอยู่พาคุณเที่ยวได้ทั้งเดือน แล้วเดือนหน้าค่อยทำงานใช้เพื่อนครับ ... คุณหิวกันมั๊ย เราแวะซื้อแม็คโดนอลมาทานกันในรถดีมั๊ย”

“ได้เลยค่ะ นะเปรียวนะ”

“ว่าไงว่าตามกันคะพี่ปริม”


“ถึงถนนสายฮานาแล้วครับเปรียว สวยมั๊ย” ไมค์หันไปถามเปรียวที่จองที่นั่งข้างหลังแต่เพียงผู้เดียว

“โหยยย สวยมากเลยไมค์ ถนนสายเล็กๆ แคบๆ ระหว่างทางเป็นป่าดงดิบอย่างนี้เปรียวไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนเลยค่ะ แหม อยากจะลองขับรถบนถนนเส้นนี้จังเลย ให้เปรียวลองได้มั๊ยคะ”

“เอาสิฮะ เดี๋ยวผมหยุดรถแล้วเปรียวมาเปลี่ยนขับได้เลย”

“จะดีหรือคะไมค์” ปริมทัก

“ไม่มีอะไรน่ากลัวหรอกครับปริม เตรียมตัวนะเปรียวผมจะจอดให้แล้วนะ”

“งั้นปริมปีนไปนั่งด้านหลังดีกว่า ไมค์ช่วยเปรียวดูทางด้วยนะคะ ขับดีๆ นะเปรียว”

“สบายมากพี่ปริม พี่ปริมก็รู้ว่าเปรียวน่ะ นักขับรถมือวางอันดับหนึ่งของบ้านอยู่แล้ว”

“โม้ใหญ่เลยนะ”

“สวยจังเลยค่ะไมค์ แต่ว่าสะพานแต่ละสะพานที่ผ่านมาดูเก่าจังนะคะ จะหักลงไปเมื่อไหร่ก็ไม่รู้” ปริมเอ่ยทักขึ้นมา

“ทุกสะพานแข็งแรงดีครับปริม เขาคอยมาดูแลกันอยู่บ่อยๆ ... เปรียวคุณจอดหลบให้รถสวนไปก่อนครับ สะพานนี้เขาให้ผ่านได้ทีละคัน” ไมค์หันไปบอกเปรียว

“น้ำตกเล็กๆ เยอะจังเลยนะคะไมค์ ... ขับรถไปนะเปรียวไม่ต้องดูซ้ายดูขวา อยากอาสาขับทำไม อดดูวิวเลยเห็นมั๊ยเราน่ะ” ปริมพูดกับน้องสาว

“แต่ขับสนุกดีจังนะพี่ปริม เดี๋ยวเลี้ยวซ้ายเดี๋ยวเลี้ยวขวา ขับอย่างนี้ไม่มีทางหลับในแน่ๆ”

ไมค์เล่าให้สองพี่น้องฟังว่า “สะพานทั้งหมดมีคนนับเอาไว้ฮะ มีทั้งหมด 54 สะพาน 600 โค้ง ปริมอยากนับมั๊ยว่าถูกหรือผิด”

“ไม่เอาละคะ ปริมเชื่อที่คุณเล่า ไม่ต้องนับเช็คกันอีกครั้งหรอก เสียดายไม่ค่อยมีที่จอดรถสำหรับถ่ายรูปนะคะ”

“ฮะ ทางมันแคบนะ ... เปรียวขับรถเก่งจริงๆ สมเป็นมือวางอันดับหนึ่งเลยครับ ขับจนสุดถนนเลย เหนื่อยมั๊ย เดี๋ยวคุณขับรถไปจอดตรงด้านซ้ายนั่นนะ แล้วเราลงไปเดินเล่นชมทะเลกันสักพัก แล้วผมขับกลับให้”

“สนุกมากเลยไมค์ งี้ให้ขับมาทุกวันก็ยังได้นะเนี่ย”

“เดี๋ยวผมจะพาไปอีกที่หนึ่ง คุณสองคนก็จะต้องชอบอีกแน่ๆ เลยฮะ”

“งั้นเดี๋ยวให้เปรียวกับพี่ปริมถ่ายรูปแถวนี้สักพัก แล้วเราไปกันนะไมค์นะ” เปรียวรีบหันไปเร่งพี่สาวให้ถ่ายรูปเร็วๆ เธอชักจะถูกใจกัปตันไมค์คนนี้มากขึ้น เขาสนใจใส่ใจและช่างเอาใจพี่สาวเธอมาก ถ้าดีจริงอย่างนี้ได้ตลอดก็ดีน่ะสิ สมมุติว่าถ้าพี่ปริมจะตัดสินใจใหม่อีกครั้งกับผู้ชายคนนี้ พ่อจะว่ายังไงนะ พี่ปริมน่ะเป็นลูกรักของพ่อ พ่อจะรับได้มั๊ยถ้ามีเขยเป็นฝรั่ง แล้วต้องพาพี่ปริมไปอยู่ไกลจากบ้าน เฮ้อ พี่ปริมอย่าไปชอบคนนี้เลยนะ ไม่งั้นละปัญหาตามมาอีกเยอะ

ไมค์บอกพี่น้องสองสาวว่า จะพาไปภูเขาเฮเลอาคาลา เปรียวได้ยินชื่อปุ๊บก็พูดออกมาทันทีเลยว่า

“อะไรนะคะ ชื่อภูเขาอะไรนะ โอ๊ย ทำไมมีแต่ชื่อเรียกยากๆ ทั้งนั้น เมื่อวานก็ทีหนึ่งแล้ว หาดคะน้าปลาเค็ม วันนี้อะไร กะลา กะลา นะคะ พูดช้าๆ ให้เปรียวฟังใหม่อีกรอบสิ เดี๋ยวจะต้องจดเอาไว้ละ” เธอรีบหยิบกระดาษ ปากกา มาเตรียมจดชื่อภูเขา

ไมค์บอกชื่ออีกรอบอย่างช้าๆ ทีละคำ “เฮ-เล-อา-คา-ลา ครับผม”

“โอเคๆ แปลได้ว่า เฮาไปเอากะลา” เปรียวพยายามแปลให้เป็นภาษาไทย ซึ่งทำให้ไมค์งง หันไปถามปริมว่า “เปรียวแปลเป็นภาษาไทยว่าไงฮะ”

ปริมซึ่งมัวแต่หัวเราะกับชื่อภูเขาที่น้องสาวตั้งใหม่ซะสวยหรู หันไปตอบไมค์ว่า “คุณอย่ารู้เลยค่ะ ปริมไม่รู้จะอธิบายให้ฟังยังไงถูก เอาเป็นว่ามันตลกมากๆ ก็แล้วกัน”

“แหม อย่างงี้ผมก็หมดสนุกสิ ไว้ต้องไปเรียนภาษาไทยซะหน่อยดีกว่า ภาษาของคุณเพราะมากเลยนะครับ เวลาฟังคุณคุยกันเป็นภาษาไทยแล้วฟัง เหมือนพวกคุณกำลังร้องเพลงเลยล่ะ”

“จริงเหรอคะ คงเพราะภาษาเรามีวรรณยุกต์เลยทำให้เสียงแตกต่างกันน่ะค่ะ” ปริมตอบ

“พวกคุณอยากฟังนิทานระหว่างทางไปภูเขานี้กันมั๊ยฮะ”

“ฉันโตแล้วนะคะไมค์ ไม่ต้องเอานิทานมาล่อหรอก แต่ว่าไปแล้วฉันก็ชอบฟังนิทานนะ อย่าชักช้ารีบเล่าซะดีๆ”เปรียวส่งเสียงมาจากด้านหลัง พร้อมทั้งขยับตัวขึ้นมาตรงกลางยื่นหน้าเข้ามาฟังใกล้ๆ

“กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว นานมาก นานแสนนาน....”

“เล่ามาดีๆ นะไมค์ อย่าทำโยเย้อย่างนี้ เห็นคนอยากฟังแล้วเล่นตัวเหรอ” เปรียวบ่นงึม

ไมค์หัวเราะ “โอเคฮะ คือเขาว่ากันเขา สมัยก่อนน่ะคนที่อาศัยอยู่บนภูเขาลูกนี้ มีปัญหากันว่าตากผ้าไม่เคยแห้งสักที ก็เลยโทษไปยังพระอาทิตย์ หาว่าพระอาทิตย์น่ะตกดินเร็วเกินไปทำให้ผ้าพวกเขาไม่แห้ง ก็เลยมีผู้ชายคนหนึ่งไปจัดการจับพระอาทิตย์เอาไว้ และขอให้พระอาทิตย์สัญญาว่าจะเคลื่อนที่ช้าๆ กว่านี้ ถ้าไม่ให้สัญญาเขาก็จะไม่ปล่อยพระอาทิตย์ไป พระอาทิตย์ก็เลยให้สัญญาเอาไว้ เขาก็ว่ากันว่า บนยอดเขาที่นี่พระอาทิตย์จะอยู่นานกว่าที่อื่นสิบห้านาทีนะครับ นิทานก็จบลงเพียงเท่านี้”

“ทำไมนิทานสั้นจัง ไม่เห็นมีเจ้าหญิงเจ้าชายเลยนะคะ” เปรียวยังบ่นต่อ

“เอาละครับ เรากำลังจะขับรถขึ้นเขาเฮเลอาคาลากันแล้วนะ ภูเขาลูกนี้เคยเป็นภูเขาไฟมาก่อนนะครับ แต่นี่ดับไปนานแล้วละ ถนนที่ขึ้นภูเขาลูกนี้ เรียกว่า Stairway to Haven เลยนะครับ เส้นทางจะคดเหมือนเป็นผ้าพับเอาไว้มาตลอดทางจนถึงยอดเขา ภูเขาลูกนี้สูง 10,023 ฟีต แต่ระยะทางจากตีนเขาไปถึงยอดแค่ เพียง 57 กิโลครึ่งเท่านั้นเอง ถือว่าเป็นระยะทางที่สั้นมากเลยนะครับ ... ตายละ ผมลืมบอกให้คุณหยิบเสื้อแจ็กเก็ตติดกันมาด้วย เพราะเดี๋ยวขึ้นไปข้าง บนจะหนาวกันน่ะครับ เสื้อผมเองก็ไม่มีติดรถไว้สักตัว”

“ไม่เป็นไรค่ะไมค์ ถ้าหนาวนักเราก็รีบๆ ดูแล้วขึ้นมาอยู่ในรถกันก็ได้นะ” ปริมตอบอย่างสบายใจ วิวสองข้างทางสวยเหลือเกิน เหมือนวิวที่ในยุโรป ภูเขาเขียวๆ เหลื่อมล้ำกันจนสุดสายตา “สวยจังเลยค่ะไมค์ เนอะเปรียวเนอะ ไมค์หยุดรถตรงริมทางข้างหน้านี่นิดนึงได้มั๊ยคะ ขอปริมลงไปถ่ายรูป เก็บไว้สักหน่อย ไม่รู้เมื่อไหร่จะมีโอกาสมาที่นี่อีก”

“เอาสิฮะ เดี๋ยวผมจอดรถให้”

ปริมกับเปรียวรีบวิ่งลงกันไปถ่ายรูปกันใหญ่ ส่วนไมค์นั่งรออยู่ในรถ เขารู้สึกสนุกและสบายใจที่ได้เป็นไกด์พาสองคนพี่น้องคู่นี้เที่ยว ปริมอ่อนหวาน ในขณะที่เปรียวแก่นกล้า ปริมคงจะเป็นที่รักของที่บ้านมาก ครอบครัวของเธอดูอบอุ่น ผู้ชายคนนั้นทิ้งเพชรเม็ดนี้ไปได้ยังไง แต่ก็ต้องขอบคุณเพราะไม่อย่างนั้นเขาก็คงไม่มีโอกาสได้ใกล้ชิดกับปริม

“ข้างนอกเย็นมากเลยค่ะไมค์ ลงไปแป๊บเดียวก็ตัวสั่นแล้ว” ปริมขึ้นรถมาเล่าให้ฟัง

“ใช่ฮะ ผมผิดเองละที่ลืมบอกให้คุณเอาเสื้อคลุมอีกตัวมาด้วย นี่เราอยู่ค่อนข้างสูงมากแล้วละครับ”

“เอ๊ะ ฝนตกเหรอคะเนี่ย” เปรียวถามขึ้นมาอย่างแปลกใจ

“อ๋อ เปล่าฮะ ตอนนี้เราอยู่สูงเทียมเมฆเลยนะเปรียว ที่คุณเห็นเป็นหยดน้ำนั่นน่ะคือเมฆฮะ เมฆก็คือหยดน้ำมารวมกันไง เดี๋ยวเราแวะศูนย์บริการนัก ท่องเที่ยวกันหน่อยดีมั๊ยครับ เข้าไปดูข้างในกันหน่อย แต่ต้องรีบๆ เดินกันนะ ไม่งั้นเปียกแน่ๆ นะครับ”

“พี่ปริมไปเถอะเร็ว ออกไปเหยียบเมฆกันหน่อยดีกว่า” นี่ละเปรียวสนุกได้กับทุกๆ อย่างที่ผ่านเข้ามา ในบางครั้งเธอแอบอิจฉาน้องสาว เหมือนเปรียวไม่เคยมีความทุกข์ สามารถมองโลกในแง่สนุกสนานได้ทุกเรื่อง ไม่เหมือนกับเธอ เธอเป็นคนคิดมากบางครั้งห่วงพะวงถึงความรู้สึกของคน อื่นจนแทบจะเสียความเป็นตัวของตัวเองไป ปริมตั้งใจว่าจะเปลี่ยนแปลงตัวเองในส่วนนี้ ต้องรู้จักที่จะตามใจตัวเองบ้าง

ข้างในศูนย์บริการนักท่องเที่ยว มีเขียนบอกถึงรายละเอียดเกี่ยวกับภูเขาลูกนี้ ปริมเพิ่งจะรู้ว่าที่นี่คือที่นักท่องเที่ยวนิยมกันมาชมพระอาทิตย์ขึ้นกัน

“ไมค์คะ เมฆเยอะๆ อย่างนี้แล้วเขาจะเห็นพระอาทิตย์กันเหรอคะเนี่ย” เธออดสงสัยไม่ได้

“ใช่ครับ ไม่ได้เห็นกันทุกวันหรอก ต้องวันอากาศดีๆ ฟ้าเปิดนั่นละถึงจะเห็น อีกอย่างที่นักท่องเที่ยวชอบก็คือมาขี่จักรยานลงเขาจากที่นี่กันน่ะครับ จะมีจัดมาเป็นกรุ๊ปเลย ขาขึ้นก็ขึ้นรถกันมาแล้วก็ปั่นกันลงไปฮะ ผมเองก็เคยลองอยู่ครั้งสนุกดีนะปริม คุณอยากลองมั๊ยละ” ไมค์เอ่ยชวน

“ชวนคนผิดแล้วค่ะไมค์ เรื่องพวกนี้คุณต้องชวนเปรียวละค่ะ”

“คุณต้องลองอะไรที่แปลกใหม่บ้างนะปริม ไว้ถ้ามีโอกาสผมจะพาคุณมาแน่ๆ แต่วันนี้เราขึ้นไปตรงจุดชมวิวกันก่อนดีกว่านะครับ... เปรียวฮะ ไปกันเถอะครับ”

ระหว่างทางที่เดินไปยังจุดชมวิว ปริมก็รู้สึกไม่ค่อยสบาย “ไมค์คะ ปริมรู้สึกแปลกๆ มึนหัว หายใจไม่ค่อยสะดวก เหนื่อยจังเลยค่ะ”

“สงสัยคงจะเป็นเพราะอ๊อกซิเจนเบาบางนะปริม คุณเดินกลับไปที่รถไหวมั๊ย ผมช่วยพยุงมั๊ยครับ” ไมค์โอบไหล่ปริมเอาไว้ เพื่อให้เธอพิงน้ำหนักมายังที่ตัวเขา พร้อมทั้งหันไปตะโกนบอกเปรียวว่า “เปรียวคุณขึ้นไปดูคนเดียวได้มั๊ยฮะ ปริมไม่ค่อยสบายเดี๋ยวผมจะพาไปนั่งรอที่รถ แล้วถ้าคุณรู้สึกเหนื่อยหรือมีอาการอะไรแปลกๆ รีบลงไปที่รถนะครับ”

“อ้าว พี่ปริมเป็นอะไรไปคะ” เปรียวรีบวิ่งมาดูพี่สาว

“คงเป็นเพราะอากาศน้อยน่ะเปรียว พี่ไม่ได้เป็นอะไรมากหรอก เปรียวเป็นไงบ้างรึเปล่า”

“เปรียวโอเคดีนะพี่ พี่ปริมไม่ได้เป็นมากใช่มั๊ย งั้นเดี๋ยวเปรียวขึ้นไปดูแป๊บนึงแล้วจะรีบกลับมาหานะ”

“เปรียวอย่าวิ่งนะ เดี๋ยวจะยิ่งเหนื่อยง่าย” ปริมเป็นห่วงน้องสาว

“ค่ะ งั้นเดี๋ยวเปรียวเสร็จแล้วจะกลับไปหาที่รถเลยนะ ไม่ต้องห่วงเปรียว สบายมากอยู่แล้ว ฝากพี่ปริมด้วยนะคะไมค์”

“คุณเดินไหวรึเปล่าปริม อีกนิดเดียวก็ถึงรถแล้ว” ขณะที่ถามไมค์ยังคงเดินประคองเธออยู่

“ดีขึ้นมากแล้วค่ะ ได้นั่งพักสักหน่อยก็คงจะดีขึ้น ปริมนี่ไม่ไหวเลยนะ ทำไมถึงได้อ่อนแออย่างนี้ก็ไม่รู้ เป็นภาระให้ใครๆ อยู่เรื่อยเลย”

“อย่าคิดอย่างนั้นสิครับ อย่างน้อยที่สุดผมก็เต็มใจที่จะคอยดูแลคุณนะปริม ไม่ได้คิดว่าเป็นภาระอะไรเลย” ไมค์จัดการเปิดประตูรถเอนเบาะลงไป แล้วบอกกับปริมว่า “เอนหลังสักหน่อยนะฮะ เดี๋ยวลงไปต่ำหน่อยคุณจะรู้สึกดีขึ้น ตอนนี้คุณพยายามดื่มน้ำให้เยอะๆ ก่อนนะ”

ปริมเอนหลังนอนปิดตาลง เธอไม่อยากให้ไมค์คอยห่วงใยเธอขนาดนี้เลย เธอกลัวว่าถ้าวันนั้นเธอไม่สามารถจะให้เขาได้มากกว่าความเป็นเพื่อน แล้วจะทำให้เขาเสียใจและเสียเวลากับเธอมากเกินไป เธอรู้ว่าไมค์เป็นผู้ชายที่ดี แต่เธอก็เข็ดและยังกลัวกับความโลเลใจอ่อนของผู้ชาย คงอีกนานกว่าที่เธอจะกล้ารักใครอีกสักคน

“พี่ปริมเป็นไงบ้าง เราลงไปข้างล่างกันเถอะ พี่ปริมจะได้หายเร็วๆ” เปรียวรีบกลับมาดูพี่สาว

“ผมให้ปริมดื่มน้ำไปฮะ คงจะดีขึ้นละ คุณเองก็ควรจะดื่มน้ำมากๆ นะเปรียว” ไมค์พูดพร้อมกับยื่นขวดน้ำมาให้

“ขอบคุณมากนะคะ” เธอชะโงกไปมองปริมถึงเห็นว่าปริมนอนหลับตา เธอพูดกับไมค์ว่า “สงสัยจะหลับแล้วละมั่ง เรากลับกันเถอะค่ะ”

ไมค์มองนาฬิกา “ดีครับ กว่าจะลงไปถึงข้างล่างก็เลยเที่ยงไปหน่อย หาอาหารเที่ยงทานกันดีกว่านะ ลองหาร้านไทยทานกันดีมั๊ยเปรียว”

“ดีสิคะ คิดถึงอาหารไทยจะแย่แล้วนะ”

“ผมเคยเห็นร้านหนึ่งอยู่แถวๆ รีสอร์ทครับ แต่ไม่เคยลองเข้าไปทานหรอกนะ จะอร่อยรึเปล่าก็ไม่รู้ อยากลองมั๊ยครับ”

“ก็ดีนะคะ ... อ้าวพี่ปริมตื่นแล้วเหรอ” เปรียวมองเห็นพี่สาวขยับตัว

“รู้สึกดีขึ้นมั๊ยฮะปริม” ไมค์รีบถามด้วยความเป็นห่วง

“ดีค่ะ ไม่รู้สึกอะไรแล้วค่ะ ปรกติดีทุกอย่าง นี่เราลงจากเขาเรียบร้อยแล้วเหรอคะ”

“ใช่แล้วพี่ปริม เดี๋ยวไปหาอาหารไทยทานกันนะ”
ปริมหันไปมองนาฬิกา “บ่ายโมงแล้วเหรอนี่ ยังไม่รู้สึกหิวเลยเนอะ”

“กว่าจะถึงร้านก็อีกเกือบชั่วโมงละฮะ คุณจะนอนต่ออีกสักนิดก็ได้นะปริม”

“ไม่ละคะ ปริมดีขึ้นแล้วจริงๆ ขอบคุณที่เป็นห่วงนะคะ”



“ทานอะไรดีน๊า” เปรียวบ่นไปดูเมนูไป

“สวัสดีค่ะ คนไทยเหรอคะ” เจ้าของร้านผู้หญิงมาทักสำเนียงด้วยสำเนียงแปร่งๆ

“ใช่ค่ะ” เปรียวหันไปตอบ

“ดีใจจังค่ะ ได้เจอคนบ้านเดียวกัน ฉันเป็นคนลาวค่ะ ย้ายมาอยู่ที่นี่นานแล้วล่ะ ไม่ค่อยเจอคนไทยหรือคนลาวมาเที่ยวแถบนี้กันเลยค่ะ” เจ้าของร้าน ชวนคุยอย่างเป็นกันเอง

“มีข้าวผัดกระเพราด้วยละพี่ปริม เอามั๊ย” เปรียวเอ่ยถาม
เจ้าของร้านรีบตอบว่า “ผัดกระเพราแต่ว่าเราไม่ได้ใส่กระเพรานะคะ ไม่มีกระเพราน่ะค่ะ ทำเหมือนๆ กับผัดพริก ที่นี้ก็อย่างนี้ละคะ มีของไม่ค่อยครบ คุณเลือกกันไปตามสบายนะคะ ฉันขอตัวก่อน”

เมื่อเจ้าของร้านเดินกลับออกไปเปรียวก็หันมาคุยกับพี่สาวว่า “แปลกเนอะพี่ ผัดกระเพราแต่ไม่ใส่กระเพราแล้วมันจะเรียกว่าผัดกระเพราได้ไงเนี่ย เปรียวละงงเชียว”

“งั้นก็สั่งอย่างอื่นสิเปรียว พี่เอาผัดซีอิ๊วก็แล้วกัน”

“งั้นสองที่เลยพี่ปริม”

“ไมค์ละคะ” ปริมหันไปถามไมค์

“คุณสองคนช่วยสั่งให้ผมด้วยก็แล้วกันฮะ ผมขอแบบไม่ค่อยเผ็ดนะ”

ปริมดูเมนูอาหารสักพักแล้วแนะนำว่า “ข้าวผัดก็แล้วกันนะคะ”

“โอเคฮะ”

เปรียวหันไปสั่งอาหาร พร้อมกับน้ำอัดลมสามที่

“มามีกิจการร้านอาหารอยู่ไกลๆ บ้านอย่างนี้ คงจะเหงาแย่เลยนะคะ อย่างปริมมาทำงานอาทิตย์สองอาทิตย์ก็รู้ว่าเดี๋ยวจะได้กลับบ้าน แต่ถ้าต้องย้ายมาอยู่เลย ไม่รู้จะยังไงนะคะ” ปริมพูดชวนคุย

“แล้วถ้าให้คุณต้องจากบ้านมาอยู่ไกลๆ อย่างนี้ คิดว่าอยู่ได้มั๊ยครับปริม” และคำถามนี้เปรียวก็เฝ้ารอคำตอบด้วยเช่นกัน

“ปริมคงยังตอบไม่ได้หรอกค่ะ ยังไม่อยากจะคิดด้วย ตอนนี้ปริมคิดอยากจะออกจากงานกลับไปอยู่บ้านด้วยซ้ำไปค่ะ”

“อย่าเพิ่งคิดตอนนี้เลยฮะ เราเที่ยวกันให้สนุกก่อนดีกว่า เรื่องเครียดๆ ค่อยว่ากันทีหลัง ..อาหารมาแล้วฮะ ทานข้าวกันดีกว่านะ” ไมค์เปลี่ยนเรื่อง เขาไม่อยากได้ยินเรื่องที่ปริมคิดจะลาออก ถ้าเธอลาออกจากงานนี้จริงๆ เขาจะสามารถติดต่อจะเจอเธอได้อย่างไรกัน

เปรียวกระซิบเบาๆ ให้แค่พอได้ยิน “ไม่อร่อยเลยนะพี่ปริม ผัดซีอิ๊วมันเหมือนกับ ลูกครึ่งผัดซีอิ๊วกับผัดไทยนะ พี่ปริมว่ามั๊ย” ปริมพยักหน้าเออออด้วย พร้อมหันไปถามไมค์ว่า “ข้าวผัดคุณเป็นไงบ้างคะ พอทานได้มั๊ย”

“ได้ฮะ อร่อยดีเหมือนกัน”

หลังจากจ่ายเงินค่าอาหารเรียบร้อย กล่าวลาเจ้าของร้านเสร็จ เปรียวก็บอกไมค์ว่า “วันหลังคุณไม่ต้องพามาร้านนี้อีกแล้วนะ ทานอาหารไทยรสชาติอย่างนี้ ฉันยอมไม่ทานซะดีกว่า”

“ฮะ ผมจะจำไว้ ปริมช่วยเตือนผมด้วยนะ” ไมค์หันไปพูดยิ้มๆ กับปริม

“เย็นนี้เรากลับไปพักผ่อนที่รีสอร์ทกันนะฮะ นั่งเล่นกันหน้าห้องพัก ชมวิวทะเลกัน แล้วพรุ่งนี้เช้าผมจะพาไปลองเล่นบอดี้บอร์ดกันนะ”

“ดีค่ะ เปรียวชักง่วงแล้ว เดี๋ยวกลับไปนอนสักตื่นก็คงจะดีละ”

บ่ายวันนั้นหลังจากที่ไมค์พาสองคนพี่น้องกลับมาส่งที่ห้องพักแล้วก็นั่งเล่นนั่งคุยกันอยู่สักพัก เขาก็ขอตัวกลับเพื่อให้ทั้งคู่ได้มีเวลาเป็นส่วนตัวบ้าง ไมค์ทิ้งรถของเขาไว้ให้ใช้ พร้อมทั้งนัดว่าพรุ่งนี้เช้าจะมารับไปเล่นน้ำกัน

ปริมเห็นเปรียวนอนอ่านหนังสือแล้วหลับไป จึงไม่อยากกวนน้อง เธอออกมาเดินเล่นริมชายหาดคนเดียว ขณะที่กำลังเดินคิดอะไรเพลินๆ อยู่นั่น เธอก็เห็นยูมิเดินเข้ามาหา เธอกำลังคิดจะเดินกลับก็ได้ยินเสียงเรียกเอาไว้

“ฉันขอคุยด้วยหน่อยได้มั๊ย” ยูมิถาม

“มีอะไรรึเปล่าคะ” ปริมเอ่ยตอบอย่างสุภาพ

“ฉันอยากคุยเรื่องไมค์ ฉันอยากจะรู้ว่าเธอคิดยังไงกับไมค์ เธอคิดแค่จะควงเขาเล่นๆ ให้เขาพาเที่ยว หลังจากนั้นก็คงจะทิ้งเขาสินะ”

“ฉันกับไมค์เป็นเพื่อนกันค่ะ ไม่ได้เคยคิดที่จะคบเล่นหรือหลอกเล่นเลย คุณไม่ต้องเป็นห่วงหรอก”

“ฉันรักไมค์ เขาจะคิดยังไงกับฉันก็ไม่รู้หรอกนะ แต่เขาก็ไม่เคยทำท่ารังเกียจฉัน จนกระทั่งเธอมานี่ละ ไมค์เขาคงจะคิดว่าเขาจะพิชิตหัวใจเธอได้ละมั่ง ถึงได้ตัดรอนฉันขนาดนี้”

“แล้วมันเกี่ยวกับฉันตรงไหนคะ คุณจะให้ฉันทำยังไงเหรอคะ เราคบกันอย่างเพื่อน ฉันก็บอกคุณแล้ว อยู่ๆ จะให้ฉันเลิกคบกับเขาก็คงจะเป็นไปไม่ได้หรอก ถ้าคุณกับเขาคบหากันอยู่ คุณก็ควรที่จะไปบอกไมค์เองว่าไม่ควรที่จะมาคอยแทร์แคร์ฉัน”

“ถ้าฉันจะขอร้องให้คุณเลื่อนวันกลับให้เร็วขึ้น จะเป็นไปได้มั๊ย” ยูมิเอ่ยถาม

“คงไม่ได้หรอกค่ะ ฉันก็มีแพลนของฉัน อยู่ๆ คุณจะมาสั่งให้ทำอย่างนั้นอย่างนี่ คงจะไม่เหมาะมั้งคะ เรื่องที่คุณจะคุยกับฉันก็คงจะมีเพียงเท่านี้ใช่มั๊ย ถ้างั้นฉันขอตัวก่อนนะคะ” ปริมเดินจากออกมา คิดอยู่แต่ว่าทำไมชีวิตของเธอจะต้องมีคนมาสั่งให้ทำอย่างนั้นอย่างนี่ … พี่ปริมคะ แยมขอให้พี่เลิก กับพี่ศัลย์เพื่อแยมเพื่อลูก หรือไม่ก็ ขอให้เธอยกเลิกการเที่ยวพักร้อนเพื่อให้หญิงชายคู่หนึ่งได้ปรับความเข้าใจกัน ทำไมใครๆ ก็คิดเธอสมควรที่จะเป็นฝ่ายถอย เป็นฝ่ายที่ให้ทุกๆ คนได้สมใจ ... แต่ขอโทษเถอะ ปริมคนนั้นไม่มีอีกต่อไปแล้ว ต่อไปนี้ปริมจะทำทุกสิ่งที่ตัวเองพอใจ เรื่องของไมค์ยูมิก็ควรจะเป็นฝ่ายไปคุยกับไมค์เอง ไม่ใช่ที่จะเอ่ยปากกับเธออย่างนี้

“ยูมิ คุณคุยอะไรกับปริม” เสียงของไมค์ทำให้เธอสะดุ้งสุดตัว เขาเห็นอย่างนั้นหรือ

“ก็ถามไถ่สารทุกข์สุขดิบไปตามเรื่องละคะ คุณไม่ต้องเป็นห่วงแม่คนนั้นเขาให้มากนักหรอก”

“แน่ใจนะว่าคุยกันแค่เรื่องนั้น” ไมค์ยังไม่วายสงสัย

“ฉันจะบอกให้เอาบุญนะไมค์ แม่คนนั้นน่ะเขาไม่สนใจคุณหรอก มันแค่โปรยเสน่ห์ให้คุณตกหลุมรัก พอมันเบื่อมันก็ทิ้งคุณ ไม่ได้จะรักจะชอบคุณจริงหรอกนะ วันไหนอกหักแล้วอย่ามาโอดครวญให้ฉันได้ยินละ ทำไมค่ะ ฉันไม่ดีตรงไหน ฉันสู้มันไม่ได้ตรงไหน คุณบอกฉันมาสิ อะไรที่ฉันทำให้คุณได้ฉันจะทำ ขอเพียงให้คุณหันมามองฉันบ้าง” เธอเดินเข้าไปกอดไมค์ ซบหน้าลงตรงอก แต่ไมค์ผลักเธอออกมาแล้วพูดว่า

“ยูมิ สิ่งที่คุณให้ผมไม่ได้คือความสบายใจไงละ ผมเคยผิดพลาดกับชีวิตครอบครัวมาแล้วนะ ถ้าผมคิดจะมีอีกครั้งผมก็อยากจะทำให้ดี ให้แน่ใจว่าคราวนี้จะไม่เกิดปัญหาขึ้นอย่างครั้งที่แล้ว และผมก็คิดว่าผู้หญิงที่จะเข้ากับผมได้ดีไม่ใช่ผู้หญิงแบบคุณ ไม่ใช่ว่าคุณเป็นคนไม่ดีนะยูมิ แต่เราเข้ากันไม่ได้มากกว่า ผมขอบคุณสำหรับความรู้สึกดีๆ ที่คุณให้กับผม แต่ผมขอโทษที่ผมเองไม่ได้คิดกับคุณอย่างนั้น ผมชอบคุณอย่างเพื่อน แต่ไม่ใช่ในลักษณะคนรัก คุณต้องเข้าใจนะยูมิ แล้วขอความกรุณาอย่าไปยุ่งเกี่ยวกับปริมอีก คิดซะว่าทำเพื่อผมก็แล้วกัน” ไมค์ก้มหัวลงแสดงการกล่าวลา

ยูมิได้แต่ยืนกระทบเท้าอยู่บนหาดทราย “บ้า บ้าที่สุด อยากจะหลงงมงายกับยัยแกงจืดคนนั้นก็ตามใจคุณเถอะ ฉันเองก็เพิ่งจะรู้ว่ารสนิยมของคุณน่ะห่วยแตกมากๆ” ยูมิตะโกนตามหลังไมค์ด้วยอารมณ์โมโหอย่างที่สุด





Create Date : 03 กรกฎาคม 2550
Last Update : 3 กรกฎาคม 2550 5:14:08 น. 1 comments
Counter : 493 Pageviews.

 
มาอ่านต่อค่ะ เขียนต่อเยอะ ๆ นะคะคุณพิม


โดย: MoneyPenny วันที่: 12 กรกฎาคม 2550 เวลา:16:56:21 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

pim(พิม)
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]





** ถ้าต้องการรูปจากบล็อคพิม รบกวนบอกกล่าวกันสักนิดนะคะ พิมไม่หวงภาพ เพียงแต่ขอให้บอกกันก่อน อย่าเอาไปโดยพลการนะคะ ... ขอบคุณค่ะ **

++ บทความล่าสุด ++

Friends' blogs
[Add pim(พิม)'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.