Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2550
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
29 มิถุนายน 2550
 
All Blogs
 

ปีกนางฟ้า 13


13.

แล้วในที่สุดเธอกับน้องสาวก็นั่งอยู่บนเครื่องบินที่กำลังจะลงจอดที่สนามบินนานาชาติฮาวายบนเกาะโออาฮู เธออีเมลไปหาไมค์นัดหมายเรื่องวันและเวลาที่จะถึง ไมค์บอกเธอมาว่าจะไปรอรับที่สนามบินด้วยตัวเอง ระหว่างการเดินทางปริมเล่าเรื่องกัปตันไมค์ให้เปรียวฟังว่าเป็นเพื่อนร่วมงาน ที่มีหุ้นอยู่ที่ รีสอร์ทบนเกาะมาวี เขาเลยช่วยจองห้องพักไว้ให้พร้อมทั้งจะเป็นคนพาทั้งสองคนไปเกาะมาวีด้วย

เมื่อทั้งสองผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองมารับกระเป๋าและผ่านด่านศุลกากรเรียบร้อย ปริมก็เห็นไมค์มายืนรอรับอยู่ด้านหน้า เธอโบกมือขึ้นทักทาย

“ไมค์คะ ทางนี้ค่ะ”

“ไฮปริม เดินทางเป็นไงบ้างครับ เรียบร้อยดีนะ” ไมค์เอ่ยทักเธอ

“เรียบร้อยดีเยี่ยมเลยค่ะ ผู้โดยสารไม่มากนั่งกันมาสบายเลยค่ะ ไมค์คะนี่เปรียวน้องสาวปริม”

“สวัสดีครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับเปรียว” ไมค์หันไปยกมือไหว้พร้อมเอ่ยคำว่าสวัสดีเป็นภาษาไทย

เปรียวยกมือขึ้นรับไหว้ไมค์แทบไม่ทัน “สวัสดีค่ะ คุณอายุมากกว่าฉันไม่ต้องยกมือไหว้นะคะ” พร้อมทั้งบ่นอุบอิบว่าอายุสั้นแน่ๆ เลยเรา

แค่เปรียวเห็นสายตาที่กัปตันหนุ่มหน้าตาดีมองพี่สาวเธอก็พอจะรู้แล้วว่าทำไมกัปตันคนนี้ถึงเอาใจพี่สาวเธอ ช่วยจองที่พักและมารับถึงขนาดนี้ แต่ผู้ชายคนนี้จะดีแค่ไหนก็ยังไม่รู้ ขนาดพี่ศัลย์เห็นกันมาตั้งนานยังทำกับพี่สาวเธอได้ เพราะฉะนั้นเธอควรจะกันๆ เอาไว้สักหน่อยดีกว่า

ไมค์จัดการขนกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ที่ปริมลากออกมาเอาไปไว้หลังรถ ส่วนเธอก็เดินลากกระเป๋าใบเล็กตามไปข้างหลัง ปริมหันมาถามว่า

“เปรียว อยากอยู่เที่ยวฮาวายก่อนสักวัน แล้วค่อยข้ามไปเกาะมาวีมั๊ย หรือว่าจะไปเกาะนู้นเลย”

“ถ้าเราเที่ยวที่นี้แล้วเราจะพักที่ไหนละพี่ปริม” เปรียวถามอย่างเป็นห่วง

“ไมค์จะให้เราพักที่บ้านเขาน่ะเปรียว” ปริมยังไม่ทันพูดอะไรต่อ ไมค์ก็เดินเข้ามาแล้วบอกว่า “ไม่ต้องเกรงใจเลยนะครับ ที่พักผมมีสองห้องนอน เดี๋ยวเราไปถึงคุณสองคนก็อาบน้ำให้สบายแล้วผมจะพาไปทานข้าวแล้วเที่ยวรอบเกาะกันเลย กลับมาถึงก็คงเย็นๆ แล้วพรุ่งนี้เช้าเราก็นั่งเครื่องบิน ข้ามไปเกาะมาวีกันแต่เช้า เพราะฉะนั้นไม่ต้องคิดว่าจะเป็นการรบกวนผมเลยนะครับ”

เปรียวเลยยิ้มตอบกลับไปว่า “เอาตามนั้นก็ดีค่ะ”

หลังจากที่สองสาวนำกระเป๋าไปเก็บและอาบน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้ว ไมค์ก็พาทั้งคู่ไปทานอาหารจีนที่บริเวณไชน่าทาวน์บนเกาะ ทั้งสามคนตกลงกันว่าจะทานร้านที่ขายหมูแดงหมูกรอบ เปรียวถึงกับเอ่ยปากว่า “โอ้โห ยังกะอยู่เมืองไทยแน่ะพี่ปริม เสียดายไม่มีน้ำราดหมูแดงเหมือนบ้านเราเนอะ” แล้วเปรียวก็หันไปถามไมค์ว่า “ที่เกาะนู้นมีอะไรแบบนี้บ้างเปล่าคะ”

“ไม่ค่อยมีครับ แถวๆ รีสอร์ทมีร้านอาหารไทยอยู่ร้านหนึ่ง ผมหามาทานอาหารจีนตุนไว้ก่อน เผื่อว่าไปอยู่เกาะนู้นแล้วจะหาทานยากฮะ”

“เดี๋ยวเราจะไปไหนกันบ้างคะไมค์” เปรียวถาม

“ผมว่าจะพาไปจุดชมวิว แล้วขับรถเล่นรอบเกาะฮะ กว่าจะเสร็จก็คงจะเย็น กลับมาทานข้าวในเมืองกันแล้วไปพักผ่อนดีมั๊ยคะ คุณง่วงกันรึเปล่า ถ้าไงนอนกันในรถก็ได้นะฮะ”

“งั้นเรารีบไปกันเลยมั๊ยพี่ปริม เปรียวอยากเห็นทะเลฮาวายมาน๊านนานแล้ว”

“เราไปดูจุดชมวิวที่เรียกกันว่า Pali Outlook กันก่อนดีกว่านะฮะ อย่าเพิ่งรีบหลับกันนะ ถนนเส้นนี้สวยมากเลยครับจะมีทางลอดอุโมงค์พอพ้น อุโมงค์ออกมาก็จะเห็นทะเลลิบๆ อยู่ข้างล่างเลยครับ ผมไม่อยากให้คุณสองคนพลาดกันน่ะฮะ”

“ก็ถ้าเราหลับ ไมค์ก็ปลุกด้วยสิคะ” เปรียวตอบเสียงอู้อี้มาจากด้านหลัง แสดงว่าเจ้าตัวกำลังจะหลับอยู่แล้วเชียว

“โอเคครับ ผมจะปลุกให้ ปริมถ้าง่วงก็นอนไปก่อนนะฮะ ไม่ต้องห่วงว่าจะอดดูเลย” ไมค์หันมาบอกปริม

“ปริมยังไม่ง่วงหรอกค่ะ เมื่อคืนบนเครื่องบินก็หลับมาตลอดทางเลย ปริมนั่งดูวิวไปเรื่อยๆ ดีกว่า เพลินดีจังค่ะ ถนนเขาสวยมากๆ เลยนะคะ ตัดเข้าไปในหุบเขาอย่างนี้”

“ใช่ครับ ถนนสายนี้ถือว่าเป็นถนนที่สวยมาก........เราเกือบจะถึงกันแล้วนะปริม คุณปลุกคุณเปรียวเถอะ”

ปริมหันไปปลุกเปรียวให้ลุกขึ้นมาดูวิว ขณะนั้นไมค์กำลังขับผ่านอุโมงค์พอดี เมื่อเปรียวลืมตาขึ้นมาก็พอดีกับไมค์กำลังจะขับรถออกจากอุโมงค์

“โอ้โห ทำไมสวยอย่างนี้” เปรียมตื่นขึ้นมาก็ส่งเสียงดังทันที “นี่ถ้าขับรถมาเร็วๆ หลุดโค้งไปก็หล่นตุ๊บลงไปตรงหน้าผานี่เลยสิคะเนี่ย”

“คิดอะไรอย่างนั้นนะเปรียว” ปริมพูดปรามน้องสาวขึ้นมา ไมค์หัวเราะอยู่ในลำคอ

“เดี๋ยวเราจะถึงจุดชมวิวแล้วครับ ผมเคยฟังเรื่องเล่ามาว่า คิงมาเฮลามาฮาเคยทำทหารนัรบมาสู้กับพวกชนเผ่าพื้นเมืองเก่า จนกระทั่งตกหน้าผาเสีย ชีวิตกันไปเยอะเลยฮะ และจากการศึกครั้งนั้นทำให้สามารถรวมหมู่เกาะฮาวายเข้าไว้ด้วยกันได้ฮะ”

“น่าสงสารเหมือนกันนะคะ” ปริมพูดกับไมค์

“สวยจังเนอะพี่ปริม พี่ปริมทำงานมาตั้งนานเคยมาเที่ยวบ้างมั๊ยเนี่ย” เปรียวตื่นตากับวิวที่ได้เห็นข้างหน้ามาก ลักษณะเหมือนกับเธอยืนอยู่ยอดภูเขา มองไปด้านหน้าไม่ไกลนักก็คือมหาสมุทรแปซิฟิก มีแนวภูเขาเหลื่อมล้ำกันทั้งซ้ายและขวา

“ไม่เคยมาหรอก พี่มาทำงานไม่ได้มาเที่ยวนี่นา แล้วนี่ก็ไกล รถเมล์ก็ไม่มีมาถึงที่นี่” ปริมตอบ

“ลมแรงเนอะ พี่ปริมตัวผอมๆ ระวังปลิวลงไปละ เดี๋ยวเปรียวเดินไปดูทางนู้นนะคะ ไม่ต้องห่วง” เปรียวเดินถ่ายรูปวิวไปเรื่อยๆ แต่ยังไงก็ไม่ลืมที่จะ หันกลับมาคอยดูพี่สาว เธอเห็นพี่สาวคุยหัวเราะหน้าตาสดใสอยู่กับไมค์ แค่ช่วงเวลาไม่นานหลังจากที่เธอเจอไมค์ เธอก็รู้ว่าผู้ชายคนนี้เป็นคนดี เป็นห่วงเป็นใยพี่สาวเธอมากขนาดนั้น และไม่ใช่เพียงแต่จะสนใจแต่พี่สาวเธอกับเธอเองเขาก็คอยดูแลเป็นอย่างดี ว่าแต่ไมค์รู้รึเปล่านะว่าพี่ปริมเลิกกับพี่ศัลย์แล้ว ขณะกำลังเดินดูวิวและคิดอะไรเพลินๆ ก็ได้ยินเสียงปริมตะโกนเรียกขึ้นมา

“เปรียว ไปที่อื่นต่อกันเถอะ”

“ค่ะ เปรียวจะตามไปที่รถเดี๋ยวนี้ละคะ”

“ชอบมั๊ยฮะเปรียว” ไมค์หันมาถามเธอ

“ชอบค่ะ สวยจังเลย เสียดายพ่อกับแม่ไม่ได้มาด้วยเนอะพี่ปริมเนอะ” เปรียวบ่นคิดถึง

“นั่นสิ ไว้เราโทรไปชวนอีกรอบก็ได้นะเปรียว เผื่อพ่อจะเปลี่ยนใจ”

“เปรียวว่าคงยากละพี่ ว่าแต่เดี๋ยวคุณไกด์จะพาเราไปไหนกันต่อคะเนี่ย” เปรียวหันไปคุยกับไมค์

“ขับรถวนรอบเกาะดีมั๊ยฮะ แล้วคุณสองคนอยากจะให้ผมจอดแวะตรงไหน ผมจะจอดให้ลงไปถ่ายรูปกัน”

“ดีค่ะ เปรียวอยากขึ้นไดมอนเฮด (Dimond Head) ด้วยคะไมค์ พาไปหน่อยได้เปล่าคะ เขาว่าถ้าใครมาเกาะโออาฮูแล้วไม่ได้ขึ้นไดมอนเฮดน่ะเหมือนมาไม่ถึง”

“ผมพาไปได้อยู่แล้วครับ แต่คุณใส่รองเท้าธรรมดามาแบบนี้จะปีนเขาขึ้นไปไม่ไหวนะ เพราะทั้งปีนทั้งลอดอุโมงค์ เล่นเอาเหนื่อยเหมือนกันนะฮะ แล้วคุณสองคนน่ะเพิ่งจะลงจากเครื่องมาด้วยจะไม่มีแรงนะครับ”

“โห ต้องปีนสูงเลยเหรอคะ” เปรียวยังคงสนใจ

“สูงครับ ไม่ใช่เป็นทางเดินธรรมดา คือทางเดินที่ทำไว้ให้น่ะก็มี แต่บางช่วงก็ต้องปีนเองบ้าง ลอดอุโมงค์ต่ำๆ บ้าง แต่พอขึ้นไปเห็นวิวข้างบนก็คง พอจะทำให้หายเหนื่อยได้เหมือนกันละฮะ”

“แหม อยากไปจังนะพี่ปริม เสียดายไม่ได้เอารองเท้าผ้าใบมา ใครจะไปรู้ละเนอะ” เปรียวบ่นงึม

“ถ้าเปรียวอยากขึ้นจริง แวะซื้อรองเท้าผ้าใบกันมั๊ยครับ” ไมค์เสนอความคิด

“พี่ไม่ปีนด้วยละนะเปรียว เดี๋ยวไปเป็นลมอยู่ระหว่างทางละแย่เลย นอนก็ไม่ได้นอน จะเอาเรี่ยวแรงจากไหนกัน” ปริมรีบค้าน

“จริงๆ แล้วที่เกาะนี้ก็มีสถานที่แถวหลายแห่งนะฮะ เสียดายคุณมีเวลาอยู่ที่เกาะนี้น้อย นอกจากคุณอยากอยู่ต่อกันอีกวัน เพื่อเที่ยวที่นี้แล้วมะรืนค่อยไปเกาะมาวี แต่ว่าผมมีบินไงฮะ ถ้าไปวันมะรืนผมคงไม่ส่งคุณที่เกาะมาวีไม่ได้”

“ไม่เป็นไรคะ วันหลังเปรียวค่อยมาเที่ยวที่นี้ใหม่ก็ได้ เอาตามแผนเดิมนั่นละคะดีแล้ว”

“โอเคฮะ งั้นคุณอยากแวะที่ไหนบอกผมนะ จะได้จอดรถให้”

ไมค์ขับรถพาปริมกับน้องสาวเที่ยวจนกระทั่งพระอาทิตย์เริ่มตกดิน เขาจึงพามาทานอาหารบริเวณริมหาดไวกิกิ หาดที่มีชื่อเสียงของหมู่เกาะฮาวาย คืนนี้เขาเลี้ยงต้อนรับสองสาวโดยการพาไปทานอาหารทะเลบาร์บีคิวริมชายหาด

“บรรยากาศดี๊ดีนะคะไมค์ คืนนี้พระจันทร์สวยซะด้วย กระทบน้ำระยิบเลย” ปริมเอ่ยขึ้นมา

“ถือว่าเป็นการฉลองการพักร้อนหนึ่งเดือนไงฮะปริม”

“เอ๊ะ อะไรนะคะ ใครลาหนึ่งเดือน เปรียวหยุดมาแค่สองอาทิตย์เองนะ” เปรียวชักจะงงๆ

“อ้าว เห็นปริมบอกให้ผมจองให้ทั้งเดือนเลยนี่ครับ” ไมค์ชักจะงงเช่นกัน

ปริมหัวเราะ พร้อมตอบว่า “อย่างงกันเลยค่ะ เปรียวน่ะเค้าพักร้อนแค่สองอาทิตย์ แต่ปริมทั้งเดือนอย่างที่ฝากให้จองนั้นละคะ”

“อะไรกันพี่ปริม แล้วพี่จะอยู่กับใครคะ” เปรียวรีบถาม

“พี่อยู่คนเดียวได้น่าเปรียว ไม่ต้องเป็นห่วงพี่หรอก”

“แล้วไม่เห็นบอกเปรียวเลย นี่ไมค์รู้มั๊ย ใครๆ ก็นึกว่าพี่ปริมจะมาแค่สองอาทิตย์ พี่ปริมทำงี้ได้ไงน่ะ แล้วเปรียวจะกลับไปบอกพ่อกับแม่ได้ไงกัน ยิ่งเป็นห่วงอยู่ ลูกสาวคนโปรดซะด้วย” เปรียวชักจะเริ่มไม่สนุกขึ้นมาแล้ว

“ไว้พี่โทรบอกพ่อกับแม่เองเปรียว อย่าหงุดหงิดน่าเสียบรรยากาศหมด”

“โหยยย พูดง่ายนะพี่ปริมนะ ตามใจเหอะ โดนดุแล้วจะไม่ช่วยสักนิด” เปรียวพูดเสร็จก็เดินไปหยิบอาหารสดเตรียมเอาไปปิ้ง

ไมค์หันมามองปริมอย่างเป็นห่วง “คุณคิดว่าทุกอย่างจะโอเคเหรอฮะ”

“ไมค์คะ ปริมโตแล้วนะ อายุจะสามสิบเข้าไปแล้ว เปรียวทำยังกะปริมอายุยี่สิบต้นๆ แถมทำตัวเป็นพี่ได้อย่างน่าเกลียดอีกนะนั่น” ปริมพูดยิ้มๆ เธอรู้ว่าที่เป็นอย่างนี้เพราะพ่อสั่งมาให้เปรียวคอยดูแลเธอตลอด แต่เธอจะทำให้ทุกคนรู้ว่าเธอเองก็สามารถดูแลตัวเองได้ ปริมมั่นใจอย่างนั้น ถ้าเธอไม่แสดงให้พี่บ้านเห็นที่บ้านก็คงจะยังมองว่าเธอเป็นลูกสาวตัวเล็กๆ ที่ต้องคอยแทร์แคร์ดูแลกันตลอดเวลา

“ผมจะบอกเปรียวเองว่าไม่ต้องเป็นห่วงคุณ ทางนู้นผมมีเพื่อนที่ไว้ใจได้ มีอะไรคุณก็ปรึกษากับเขาได้นะฮะ แล้วผมไปบินกลับมาเมื่อไหร่ ผมจะแวะไปหาคุณเอง”

“ขอบคุณนะคะ”

“งั้นเดี๋ยวผมมานะ ขออนุญาตไปคุยกับน้องสาวคุณหน่อย แล้วเดี๋ยวผมเอาอาหารมาให้ คุณนั่งเล่นไปพลางๆ ก่อนนะครับ”

“โอเคค่ะ” ปริมตอบออกไปแล้วก็นึกขำตัวเอง ขนาดไมค์คนอื่นแท้ๆ ยังทำกับเธอเหมือนว่าเธอเป็นเด็กเก้าขวบ จะเดินไปทางไหนจะกลัวแต่จะหลงทาง ต้องคอยดูแลกันทุกย่างก้าว เหมือนๆ กับที่ครอบครัวของเธอ น้องสาวของเธอ และศัลย์ ที่คอยเป็นห่วงในแบบนี้เช่นเดียวกัน

ไมค์เดินตามเปรียวไปที่เตาปิ้งบาร์บีคิว พอเปรียวเห็นเขาก็เอ่ยปากออกมาทันทีว่า

“ฉันรู้นะว่าคุณคิดยังไงกับพี่สาวฉัน”

“ใช่ฮะ ผมชอบพี่สาวคุณมาก” ไมค์ตอบอย่างมั่นใจ

“แล้วคุณไม่รู้เหรอว่าพี่สาวฉันแต่งงานแล้ว”

“ผมรู้ฮะ แต่ผมกับปริมก็ไม่เคยเป็นอะไรมากไปกว่าเพื่อน ปริมเป็นผู้หญิงที่วางตัวดีมากๆ คนหนึ่ง เธอไม่เคยทำอะไรเสื่อมเสีย และผมเองก็ไม่เคยคิดที่จะทำให้พี่สาวคุณเสียชื่อเช่นเดียวกัน”

“นอกจากเรื่องพี่สาวฉันแต่งงานแล้ว คุณรู้เรื่องอะไรอีกรึเปล่า” เปรียวถามต่อ

“ผมรู้ว่าปริมกับสามีของเธอกำลังมีปัญหากัน ปริมเศร้าไปมาก ไม่ยิ้มแย้มเหมือนเก่า”

“คุณก็เลยคิดจะปลอบพี่สาวฉันละสิ”

“ผมรู้ว่าผมไม่มีสิทธิ์ ผมทำได้เท่าที่เพื่อนที่จริงใจคนหนึ่งจะทำได้ละฮะ”

“แล้วถ้าคุณรู้ว่าพี่สาวฉันเป็นอิสระ คุณจะพยายามเป็นมากกว่าเพื่อนรึเปล่าคะ”

“แน่นอนที่สุดครับ และผมสามารถให้คำสัญญากับคุณได้เลยว่าผมจะดูแลพี่สาวคุณอย่างดีที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้”

“พี่ศัลย์ก็พูดอย่างนี้มาก่อนนะคะ แล้วไงละ ทำให้พี่ปริมต้องร้องไห้ขนาดนี้ คุณจำที่คุณพูดเอาไว้ก็แล้วกัน วันไหนที่พี่สาวฉันต้องร้องไห้เพราะคุณ ฉันจะตามมาเอาเรื่องกับคุณแน่ๆ” พูดจบเปรียวกำลังจะเดินกลับไปที่โต๊ะ แต่ไมค์ถามขึ้นมาว่า “คุณเปรียว ปริมหย่าแล้วหรือครับ”
เปรียวไม่ตอบ เธอทำแค่พยักหน้าแล้วเดินกลับไป

คืนนั้นเปรียวเล่าให้พี่สาวฟังถึงเรื่องที่ไมค์กับเธอคุยกัน

“พี่ก็พอรู้เหมือนกันละเปรียวว่าไมค์เขาคิดยังไง แต่การที่พี่จะคบเขาเป็นเพื่อนสักคนก็ไม่เห็นเป็นไรไม่ใช่เหรอ เขาก็ดูเป็นคนดีคนหนึ่ง”

“แล้วพี่ปริมชอบเขาบ้างรึเปล่าละ” เปรียวถาม

“ชอบเหรอ ... ก็ชอบนะเปรียว ไมค์น่ารัก คุยสนุก แต่ถ้าจะเปลี่ยนจากเพื่อนมาเป็นแฟน พี่คงยังไม่คิดตอนนี้หรอก ยังเข็ดอยู่เลย”

“แล้วเดี๋ยวตอนเปรียวกลับพี่จะอยู่คนเดียวได้แน่นะ ไมค์เขาจะมาอยู่เป็นเพื่อนพี่ด้วยเปล่า”

“พี่อยู่ได้สิ ไม่ใช่เรื่องใหญ่เลยไม่ต้องห่วง ส่วนไมค์เขาคงแวะมาบ้างเป็นครั้งคราวมั่ง คงจะไม่มาอยู่นานหลายวันหรอก พี่ดูแลตัวเองได้ จริงๆ นะ”

“ถ้าพ่อรู้ว่าพี่ปริมไม่กลับพร้อมเปรียวไม่รู้พ่อจะว่าไงนะ” เปรียวเอ่ยขึ้นมาอย่างเป็นห่วง

“ไว้พี่โทรคุยกับพ่อเอง นอนกันดีกว่าเปรียว พรุ่งนี้ต้องออกแต่เช้านะ”





 

Create Date : 29 มิถุนายน 2550
3 comments
Last Update : 29 มิถุนายน 2550 23:32:26 น.
Counter : 637 Pageviews.

 

ไม่ได้มาแปะนิยายซะหลายเดือน สงสัยจะขาดตอนไปหมดแล้วนะคะ

 

โดย: pim(พิม) 29 มิถุนายน 2550 23:33:35 น.  

 

เกือบลืมไปแล้วจริงๆ ด้วยค่ะ ต้องกลับไปอ่านตอนเก่าว่าถึงไหนแล้วน๊า

 

โดย: ตะเกียงแก้ว 30 มิถุนายน 2550 17:07:27 น.  

 


เย้ๆๆๆ...ในที่สุดคุณพิมก็กลับมาแล้ว ดีใจจังค่ะ อย่าหายไปนานๆอีกนะคะ

 

โดย: แม่หนูพริม IP: 12.23.99.2 30 มิถุนายน 2550 21:03:41 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


pim(พิม)
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]





** ถ้าต้องการรูปจากบล็อคพิม รบกวนบอกกล่าวกันสักนิดนะคะ พิมไม่หวงภาพ เพียงแต่ขอให้บอกกันก่อน อย่าเอาไปโดยพลการนะคะ ... ขอบคุณค่ะ **

++ บทความล่าสุด ++

Friends' blogs
[Add pim(พิม)'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.