Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2550
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
10 กรกฏาคม 2550
 
All Blogs
 
ปีกนางฟ้า 17


17.

ยูมิขึ้นเครื่องเที่ยวสุดท้ายจากเกาะมาวีกลับมายังเกาะโออาฮู เพื่อที่จะต่อเครื่องไปยังแอลเอในวันรุ่งขึ้น เธอคงทนดูไมค์คอยเอาอกเอาใจยัยแกงจืดไม่ไหว เธอไปจากที่นี่ซะดีกว่า แต่ไหนๆ ก็จะไปแล้วก็กวาดเอาเงินติดตัวมาด้วยซะหน่อย คิโอน่ะไม่กล้าที่จะแจ้งตำรวจหรอก รักเธอกลัวเธอหงอออกอย่างนั้น จะกล้าทำให้เธอลำบากได้ยังไง เสียดายถ้าคิโอรูปหล่อกว่านี้สักหน่อย เธอก็จะพยายามเปลี่ยนใจจากไมค์อยู่หรอก แต่พอนึกถึงรูปร่างของคิโอแล้ว เธอก็ทำใจไม่ได้ถึงแม้ว่านิสัยเขาจะดีอยู่ไม่น้อยก็ตาม ตัวเธอเองก็ใช่ว่าจะขี้ริ้วขี้เหร่ การที่จะหาผู้ชายหนุ่มๆ หล่อๆ สักคนคงจะไม่ใช่เรื่องยากอะไร เดี๋ยวเธอคงจะต้องโทรศัพท์ไปบอกคิโอซะหน่อยว่าเธอจะไปและขอบคุณสำหรับเงินติดกระเป๋าที่เธอได้มา หลังจากนั้นเธอก็ควรที่ จะเล่นงานไมค์สักหน่อยก่อนจากกันไป

ยูมิหาเบอร์โทรศัพท์ออฟฟิสของไมค์ได้ เธอคิดว่าจะโทรไปบอกให้รู้สักหน่อยว่ากัปตันตัวดีที่ไม่ยอมไปบินไปทำงานเพราะกำลังติดสาวอยู่ไม่ได้ป่วยอะไรกันหรอก ใจจริงน่ะเธอไม่อยากจะทำร้ายไมค์หรอกนะ เธออยากจะทำยัยแกงจืดนั่นมากกว่า เธอแต่ก็ไม่รู้ว่าจะจัดการกับยัยนั่นยังไง หงุดหงิดใจซะจริงๆ

คืนวันนั้นเพื่อนของยูมิที่อยู่บนเกาะโออาฮูมาชวนเธอไปเต้นรำที่บาร์มีชื่อบนเกาะ ที่บาร์นี้เองเธอเจอแอร์สายการบินเดียวกับไมค์และปริมหลายคน ยูมิได้ทีก็รีบเล่าเรื่องคนคู่นั้นให้ฟังกันใหญ่ และหนึ่งในนั้นก็มีซินดี้แอร์รุ่นน้องของปริมอยู่ด้วย

“นี่ที่คุณเล่าอยู่น่ะกัปตันชื่อไมค์กับผู้หญิงที่ชื่อปริมเหรอ” ซินดี้ถามด้วยความอยากรู้

“ใช่ ทั้งคู่น่ะอยู่รีสอร์ทที่ฉันทำอยู่เองละ อีตากัปตันนะได้ข่าวว่าหนีงานหนีการไม่ยอมไปบินมัวแต่คลุกอยู่กับยัยคนนั้นทั้งวันทั้งคืน เดินไปไหนมาไหนแทบจะอุ้มแทบจะกอดกันตลอดเวลา น่าเกลียดเหลือเกิน” ยูมิเล่าให้บรรดาสาวแอร์ฟังอย่างสนุกสนาน เอาสิฉันจะทำให้เธอเข้าหน้าผู้คนไม่ติดเลยยัยปริม

“เฮ้ยยย ผิดคงมั่ง พี่ปริมเขาแต่งงานแล้วนะ” ใครสักคนพูดทักขึ้นมา

“ไม่ผิดหรอกหนีผัวมาเที่ยวละมั่ง ท่าทางใช่ย่อยนี่ ขนาดอยู่กับไมค์ ยังคอยจะส่งสายตาไปให้แขกหนุ่มๆ ที่พักที่นั่นเลยนะ เกือบเป็นเรื่องต่อยกันอยู่ตั้งหลายครั้ง” ยูมิยิ่งใส่ไข่ลงไปใหญ่

“ต๊าย พี่ปริมนี่เห็นหงิมๆ ไม่น่าเชื่อนะว่าจะเป็นไปได้ คงไม่ผิดคนหรอก เพราะได้ข่าวว่าพี่ปริมไปพักร้อนที่เกาะมาวี” ซินดี้ยิ้มอย่างเย็นชา งานนี้ไม่ใครก็ใครต้องลาออกหนีอายกันบ้างละ ข่าวพวกนี้มันกระจายไปเร็วอย่างไม่น่าเชื่อซะด้วยสิ


และก็เป็นไปอย่างที่ยูมิต้องการ เพียงแค่ไม่กี่วันข่าวของปริมกับไมค์ก็เข้าหูผึ้งจนได้ โดยที่รู้มาว่าต้นข่าวมาจากซินดี้ และผึ้งเผอิญบินสวนกับซินตี้ พอเธอเห็นซินดี้ก็แทบจะปรี่เข้าไปตบปาก ผู้หญิงอะไรทำไมปากร้ายนัก ยังดีที่เพื่อนๆ ผึ้งช่วยกันดึงเอาไว้ก่อนที่จะมีเรื่อง เมื่อผึ้งบินมาถึงฮาวาย เธอรีบโทรศัพท์หาฌอนทันที เพื่อที่จะชวนไปหาปริมที่เกาะมาวี โชคดีที่เธอมาคราวนี้ได้พักที่ฮาวายสองคืน ทำให้ไม่ต้องรีบบินไปบินกลับภายในวันเดียว และก่อนที่เธอจะบินไปหาปริม ผึ้งก็ได้โทรศัพท์ไปบอกล่วงหน้า เพียงแต่ว่ายังไม่เล่าให้ปริมฟังว่าทางนี้เกิดเรื่องอะไรขึ้น


ปริมกับไมค์ขับรถไปรับผึ้งและฌอนที่สนามบินเกาะมาวี ส่วนเปรียวช่วงนี้ไปช่วยคิโอดูแลแขกในรีสอร์ทแทบทุกวันเธอจึงขอตัวไม่มาด้วย ไมค์รีบถามฌอนเลยว่า “ที่ออฟฟิสคนขาดหรือไง ทำไมโทรมาซักถามผมใหญ่ว่าอยู่ไหนทำอะไร ทำไมไม่บิน”

ฌอนตอบอย่างอ้อมแอ้มว่า “ได้ข่าวว่ามีคนโทรไปฟ้องออฟฟิสว่าคุณน่ะลาป่วยการเมืองน่ะ”

“ใคร?” ไมค์ถามเสียงเครียด

“ไม่รู้นะ ได้ยินมาอย่างนี้ แล้วโดนทางออฟฟิสตำหนิอะไรรึเปล่าละ” ฌอนถามอย่างเป็นห่วง

“ก็ไม่ถึงงั้นหรอก” ปริมฟังจบเธอก็หันไปมองไมค์แล้วพูดขึ้นมาว่า “ไม่เห็นคุณเล่าให้ปริมฟังเลยนะคะ”

“มันไม่มีอะไรหรอกฮะปริม ไม่รู้ออฟฟิสได้ข่าวมาจากไหนเหมือนกัน เลยโทรมาเช็คผมน่ะครับ ผมก็บอกว่าป่วยแล้วก็ขอแลกตารางบินกับเพื่อน คนเราน่ะก็ต้องมีป่วยกันบ้างใช่มั๊ยฮะ ปริมไม่ต้องคิดอะไรมากหรอกนะ” ไมค์ละมือจากพวงมาลัยรถมาจับมือปริม นั่นทำให้ฌอนและผึ้งหันมามองหน้ากันอย่างไม่ได้นัดหมาย

“อ่ะแฮ่ม...” ฌอนทำเสียงให้รู้ว่ายังมีคนนั่งข้างหลังอยู่นะ ไม่ได้อยู่กันสองต่อสองนะคร้าบ

“ไมค์ คุณแวะร้านไหนเงียบๆ นั่งคุยกันหน่อยมั๊ย” ผึ้งพูดขึ้นมาอย่างเป็นการเป็นงาน ซึ่งปริมจับน้ำเสียงนั้นได้จึงหันไปถามว่า “มีอะไรรึเปล่าผึ้ง”

“นิดหน่อยค่ะพี่ปริม ผึ้งมีเรื่องคุยกับพี่กับไมค์ด้วยค่ะ ถึงได้รีบร้อนมาอย่างนี้ อย่าเพิ่งถามเลยนะคะเอาไว้เราไปคุยกันในร้านดีกว่า” ผึ้งรีบตัดบทก่อนที่ปริมจะเอ่ยปากถามเธอ จริงๆ แล้วผึ้งเองก็ยังไม่รู้ว่าจะเริ่มเล่าเรื่องราวพวกนั้นได้อย่างไร ตัวเธอน่ะรู้ว่าพี่ปริมไม่ได้เป็นอย่างนั้นแต่ใครละจะเชื่อ แล้วป่านนี้พนักงานทุกคนก็คงจะเมาท์เรื่องพี่ปริมกันไปจนทั่วแล้วละมั่ง

ไมค์เลี้ยวรถเข้าร้านเล็กๆ เงียบๆ ร้านหนึ่ง หลังจากที่สั่งน้ำและอาหารทานเล่นไปแล้ว ปริมก็ถามผึ้งขึ้นมาทันที

“มีอะไรผึ้ง”

“คืองี้นะพี่ปริม ฟังแล้วอย่าคิดอะไรมาก มันก็แค่ลมปากคนชั่วๆ นะคะ คือว่ามีคนเอาพี่ปริมไปนินทาว่ามาอยู่กับไมค์สองต่อสองบนเกาะนี้ ในขณะที่พี่ปริมเองก็มีสามีอยู่ทั้งคน คือ คนเขาไม่รู้นะพี่เขาก็พูดกันไป เราไม่ได้เป็นอย่างนั้นเราก็อย่าไปสนใจ เพียงแต่หนูอยากจะมาบอกพี่ให้รู้ตัวไว้ เผื่อไปได้ยินจากที่ไหนจะได้ไม่เป็นลมไปซะก่อน” ผึ้งพูดจบก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ นี่ละคือสิ่งที่เธอต้องการบอกกับปริม

“แต่พี่ไม่ได้มาอยู่กันสองคนกับไมค์นะ น้องสาวพี่ก็มาด้วย คนที่เอาไปพูดเขารู้ได้ไงกันละผึ้ง” ปริมหน้าซีดเผือดอย่างเห็นได้ชัด ไมค์รีบกระเถิบเก้าอี้เข้าไปใกล้แล้วโอบไหล่บางเอาไว้

“ผึ้งก็ไม่รู้เหมือนกันนะพี่ปริม แต่ผึ้งรู้ว่าต้นตอน่ะมาจากซินดี้ แต่ซินดี้จะรู้มาจากไหนอันนี้ผึ้งก็จนใจเหมือนกัน”

ไมค์นั่งเงียบไปพักหนึ่งแล้วพูดขึ้นมาว่า “ยูมิ เป็นไปได้นะปริมว่ายูมิอาจจะเอาเรื่องเราไปพูดให้ใครฟังแล้วเรื่องก็ไปถึงพวกเพื่อนๆ คุณ”

ปริมนั่งน้ำตาคลอ มีเรื่องนินทาเกี่ยวกับเธอในทำนองชู้สาว ผู้หญิงมีสามีแล้วหนีมาเที่ยวกับกัปตันสองต่อสอง ใครรู้ใครได้ยินก็คงจะหาว่าเธอเป็นผู้หญิงไม่ดี แล้วอย่างนี้เธอจะไปเจอหน้าใครกันได้ละ ใครจะเชื่อว่าเธอไม่ได้ทำตัวเหลวไหล ของแบบนี้จะพิสูจน์กันได้ยังไง

ไมค์รู้สึกได้ว่าเธอสะอื้น เขาก้มลงมาพูดกับเธอว่า “ไม่เอาปริม อย่าร้องอย่าคิดอะไรมาก ไม่มีใครรู้ดีไปกว่าตัวเราหรอกฮะ เราไม่ได้เป็นอย่างที่เขาพูดกันก็ไม่ต้องไปแคร์อะไร”

ผึ้งกับฌอนเองก็ทำอะไรไม่ถูก ได้แต่นั่งเงียบ แล้วผึ้งก็พูดขึ้นมาว่า “เราคงต้องบอกใครๆ บ้างแล้วนะพี่ปริม ว่าพี่ปริมน่ะเลิกกับพี่ศัลย์แล้ว และสิ่งที่พี่ปริมทำอยู่ก็ไม่ใช่เป็นสิ่งที่ผิดอะไรเลย”

“พี่คิดอะไรไม่ออกแล้วละผึ้ง พี่เบื่อเหลือเกิน เบื่อสังคม เบื่อการที่จะต้องมานั่งรับรู้รับฟังเรื่องราวแบบนี้ ยุ่งมากนักพี่อาจจะกลับไปลาออก”

“ทำไมละพี่ เราไม่ผิดแล้วทำไมเราต้องหนีด้วย พี่ปริมอย่าหนีสิ พี่ปริมต้องสู้ ไมค์ยังไงคุณก็จะช่วยพี่ปริมใช่มั๊ย” เธอหันไปคาดคั้นกับไมค์ตัวต้นเหตุของเรื่องนี้

“ใช่ครับ ผมพร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อปริม คุณต้องไม่อ่อนแอนะ” เขาก้มลงไปพูดกับปริม เขายังคงโอบไหล่เธออยู่ เขาจะไม่ปล่อยให้เธอเผิชญกับปัญหาเพียงคนเดียวแน่ๆ


เมื่อทั้งสี่คนกลับมาถึงรีสอร์ทก็พบว่าเปรียวนั่งรออยู่แล้ว “เกิดอะไรขึ้นรึเปล่าคะเนี่ย ทำไมทุกคนหน้าตาซีเรียสกันเหลือเกิน ... พี่ปริมเป็นอะไรคะ ร้องไห้ทำไมน่ะ”

เปรียวหันมองหน้าคนนั้นทีคนนี้ทีอย่างไม่เข้าใจ “ไหนใครพอจะเล่าให้เปรียวฟังได้บ้างเนี่ย”

ผึ้งรีบเสนอตัวว่า “เปรียวไปเดินเล่นกับพี่ดีกว่า เดี๋ยวพี่เล่าให้ฟัง ตอนนี้ปล่อยพี่ปริมไว้ที่นี้ก่อนเถอะนะไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรหรอก เพียงแต่พี่ปริมต้องทำใจให้ได้เท่านั้นเอง .. ไมค์กับฌอนอยู่เป็นเพื่อนพี่ปริมนะคะ เดี๋ยวผึ้งมา”

ผึ้งเดินเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เปรียวฟัง ทำเอาเปรียวหงุดหงิดไปพักใหญ่ พักนี้พี่สาวเธอเป็นไงกันนะดวงตกเหลือเกิน กลับไปสงสัยว่าจะต้องให้เข้าวัดรดน้ำมนต์สะเดาะเคราะห์ซะหน่อยละมั่ง

“พี่ผึ้งแล้วเปรียวจะทำไงดีเนี่ย อีกสองวันเปรียวก็ต้องกลับเมืองไทยแล้ว พี่ปริมเขาจะอยู่ต่อคนเดียว มันจะดีเหรอคะ” เปรียวปรึกษากับผึ้งเพื่อนพี่สาว

“เปรียวคิดดูก็แล้วกัน ขนาดเปรียวอยู่คนมันยังเอาไปพูดในทางไม่ดีได้เลย เพราะฉะนั้นเปรียวจะอยู่หรือไม่อยู่ไม่มีผลอะไรเลยนะ”

“แต่จริงๆ แล้ว เปรียวก็อยากให้พี่ปริมกลับเมืองไทยพร้อมเปรียวนะ พี่ผึ้งช่วยพูดให้หน่อยสิ อีกอย่างอาทิตย์หน้าวันเกิดพี่ปริมด้วยนะ เปรียวอยากให้พี่ปริมกลับไปอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันที่เมืองไทยค่ะ มาอยู่ที่นี่คนเดียวเหงาแย่เลย”

“พี่จะช่วยพูดนะ แต่ไม่รู้พี่ปริมจะว่าไงเหมือนกัน พี่สาวเราน่ะบทจะดื้อใครก็รั้งไม่ไหวหรอกนะ ใช่มั๊ย”

“นั่นสิพี่ผึ้ง กลุ้มจริงๆ”

“เออ แล้วพี่ปริมกับไมค์น่ะ ตกลงเขาอะไรยังไงกัน หวานจี๋กันเลยนะบรรยากาศพาไปหรือไงเปรียว” ผึ้งถามเพราะรู้สึกผิดปรกติในความสัมพันธ์ของทั้งสองคน

“คงงั้นละพี่ผึ้ง แต่คราวนี้คนที่เปรียวเป็นห่วงน่ะไม่ใช่พี่ปริมหรอกนะกลับเป็นไมค์ รู้ละว่ารักพี่ปริมจริง ทุ่มเทหมดใจ แต่พี่ปริมเราสิ ไม่รู้ว่าคิดยังไงแน่ บางครั้งก็ดูเหมือนจะชอบเขา แต่บางครั้งก็ดูเฉยจนเกินไป เปรียวกลัวว่าพี่ปริมจะแค่ยึดไมค์เอาไว้เพราะตอนนี้กำลังเคว้งน่ะสิพี่ผึ้ง ถามทีไรก็บอกว่ายังไม่คิดอะไรกับเขามาก ยังกลัวยังเจ็บอะไรของเขานั่นล่ะ แล้วนี่ไปให้ความหวังเขาเอาไว้เกิดวันหนึ่งไปบอกเขาว่าตัวไม่ได้คิดอะไร ผู้ชายเขาไม่แย่เอาเหรอพี่ผึ้ง”

“พูดยากเนอะเปรียวเนอะ แต่สงสารพี่ปริมละ คนเพิ่งเจ็บมาจะให้เปิดใจเต็มร้อยก็คงไม่กล้านะ ก็ต้องคอยลุ้นให้ไมค์ชนะใจพี่ปริมให้ได้ก็แล้วกัน”

เปรียวพูดต่อว่า “ไม่ใช่แค่นี้นะพี่ผึ้ง เปรียวไม่รู้นะว่าพ่อจะรับได้รึเปล่าถ้าพี่ปริมมีแฟนฝรั่งน่ะ พี่ผึ้งก็รู้พี่ปริมนะสุดดวงใจเขาละ เกิดรักกันจริงมาสู่ขอแต่งงานกันไป พาพี่ปริมไปอยู่ที่อื่น พ่อจะว่าไงก็ไม่รู้ละพี่ ตอนนี้พี่ปริมเจอแต่ปัญหาทั้งนั้นละ”

“เปรียวกลับไปก็เกริ่นๆ ให้พ่อกับแม่ฟังไว้ก่อนก็ดีนะพี่ว่า เออนี้ จะกลับพร้อมพี่เลยมั๊ย พี่กลับพรุ่งนี้เย็นๆ เพราะมะรืนพี่ทำงานเช้า จะได้มีเพื่อนไงเปรียว”

“ก็ดีเหมือนกันค่ะ เดี๋ยวจะลุ้นให้พี่ปริมกลับพร้อมกันพรุ่งนี้อีกคนนะ”


“พี่ยังไม่กลับหรอกเปรียว” ปริมตอบน้องสาว

“จะอยู่ทำไมละพี่ปริม อยู่ตั้งสองอาทิตย์แล้วยังไม่เบื่อเหรอ”

“ยัง พี่ชอบที่นี่นะ สงบเงียบกว่าเกาะโออาฮูตั้งเยอะ”

“แล้วพี่ปริมจะอยู่ต่อคนเดียวได้เหรอคะ กลับพร้อมกันละพี่” ผึ้งรีบช่วยเปรียวพูด

“เธอสองคนกลับกันไปเถอะ ไม่ต้องห่วงพี่ ขอให้พี่ได้ทำอะไรตามใจตัวเองบ้างเถอะ” เธอพูดจบก็เปิดประตูออกไปนั่งข้างนอกห้องถือว่าเป็นการตัดบทในการสนทนาเรื่องนี้
ผึ้งกับเปรียวได้แต่มองหน้ากัน นึกอยู่แล้วเชียวว่าพี่ปริมต้องดื้อไม่กลับด้วยกันแน่ๆ ยังไม่ทันจะเอ่ยปากพูดอะไรออกมา ก็ได้ยินเสียงพี่ปริมตะโกนบอกมาว่า “พากัปตันไมค์กลับไปด้วยก็ดีนะผึ้ง”

“ผมยังไม่กลับฮะ” ไมค์กำลังเดินมาได้ยินประโยคนั้นเข้าพอดี เขาออกจะเสียใจอยู่เหมือนกันที่ปริมไม่อยากจะให้เขาอยู่ที่นี้ต่อ “คุณจะไล่ผมไปไหน ทำไมเราไม่แก้ปัญหาด้วยกัน คุณจะหนีไปถึงไหน หนีไปจนสุดโลกคุณก็ยังคงเจอปัญหาอยู่ดี แต่ถ้าเราร่วมมือกันแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น ทุกอย่างก็จะคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้นนะฮะ”

“ปริมไม่มีปัญหาอะไรต้องแก้แล้วค่ะ ปริมเบื่อ เบื่อคน เบื่อปากคน เบื่อใจคน”

“คุณจะไปแคร์ทำไม ในเมื่อเราก็รู้กันอยู่ว่าเรื่องมันไม่จริง คุณจะทำให้ทุกคนรักชอบคุณไม่ได้หรอกนะ มีคนรักก็ต้องมีคนเกลียด มีคนหมั่นไส้ มันเป็นเรื่องธรรมดาของสังคมนะปริม”

“ฉันรู้ค่ะ แต่นี่มันสังคมเล็กๆ ฉันหายไป คุณหายไป แล้วมีคนมาเห็นว่าเราอยู่ด้วยกัน แล้วเอาไปพูดในทางไม่ดี แล้วฉันจะมองหน้าใครได้อีกคะ ไปแก้ตัวก็เหมือนกับเราทำผิดจริง”

“คุณอย่าไปแคร์สิครับ ทำได้มั๊ยปริม เราไม่ได้ทำอะไรผิด เรามีสิทธิ์ที่จะรักกัน เราแคร์เฉพาะคนที่เรารักและรักเราเท่านั้นก็พอครับ เชื่อผมนะปริม” ไมค์เดินมาคุกเข่าอยู่ตรงหน้าและคว้ามือของเธอไปกุมเอาไว้ “นะครับที่รัก เชื่อผมสักครั้ง ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ผมขอแค่ให้คุณยืนอยู่เคียงข้างผม ผมพร้อมที่จะสู้ทุกปัญหา”

“ไมค์คะ ขอบคุณมาก คุณดีกับปริมเหลือเกิน ดีจนปริมรู้สึกว่าไม่เหมาะกับคุณเลยจริงๆ”

“ไม่ครับปริม อย่าพูดแบบนั้น คุณเป็นคนที่ผมรัก รักมานานเหลือเกิน”





** ใครแวะมาอ่าน ลงชื่อทักทายกันบ้างสิคะ ^^ **





Create Date : 10 กรกฎาคม 2550
Last Update : 10 กรกฎาคม 2550 5:38:29 น. 7 comments
Counter : 464 Pageviews.

 
สนุกดีค่ะติดตามอ่านทุกตอนเลย


โดย: Piggy IP: 125.25.174.42 วันที่: 10 กรกฎาคม 2550 เวลา:6:16:08 น.  

 
แฮะๆ เหมือนรู้เลยนะคะว่าแอบอ่านอยู่
เข้ามารายงานตัวแล้วค่ะ ว่าติดตามอ่านงานคุณพิม (เอ..หรือว่าจะเรียกคุณเก๋ดีคะ) อยู่ค่ะ แล้วก็ยังติดตามภาพถ่ายจากทริปต่างๆด้วยนะคะ
อยู่ชิคาโกเหมือนกันค่ะ
ว่าจะลองไปถ่าย skyline ชิคาโกดูมั่ง แต่ตอนนี้ขาตั้งกล้องเดี้ยงไปซะก่อน คงต้องรออีกซักพัก เก็บตังค์ก่อน


โดย: Ormmie IP: 68.252.235.74 วันที่: 10 กรกฎาคม 2550 เวลา:7:13:08 น.  

 
ตามอ่านอยู่ค่ะ เข้ามารายงานตัวด้วยคน


โดย: pumpam IP: 58.8.77.88 วันที่: 10 กรกฎาคม 2550 เวลา:11:38:15 น.  

 
ดีใจจังที่อ่านตอน 17 ต่อเลย กำลังสนุกเลยค่ะ

สงสารปริม ที่ไม่รู้จะแก้ปัญหาอย่างไร

ขอบคุณน้องพิมที่แวะไปเยี่ยมนะคะ


โดย: นวลกนก (นวลกนก ) วันที่: 10 กรกฎาคม 2550 เวลา:17:56:17 น.  

 
สนุกดีตกลงไมล์เป็นพระเอกหรือเปล่าเพราะผู้หญิงเรารักแรกก็คงลืมอยากกลัวไมล์อกหักจัง


โดย: คนอ่านนิยาย IP: 222.123.153.63 วันที่: 10 กรกฎาคม 2550 เวลา:18:15:39 น.  

 
มาลงชื่อด้วยคน นะค่ะ


โดย: o i l IP: 58.147.65.98 วันที่: 11 กรกฎาคม 2550 เวลา:0:41:28 น.  

 
ไม่พลาดด้วยคนค่ะ


โดย: MoneyPenny วันที่: 12 กรกฎาคม 2550 เวลา:18:02:53 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

pim(พิม)
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]





** ถ้าต้องการรูปจากบล็อคพิม รบกวนบอกกล่าวกันสักนิดนะคะ พิมไม่หวงภาพ เพียงแต่ขอให้บอกกันก่อน อย่าเอาไปโดยพลการนะคะ ... ขอบคุณค่ะ **

++ บทความล่าสุด ++

Friends' blogs
[Add pim(พิม)'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.