ถนนสายนี้..มีตะพาบ กม.๔๖ (ตะพาบที่ ๑๑ ของพันวัตต์) โจทย์จากคุณ ต่อ...."สามัคคี...ฤๅจักต้อง โคลนนิ่ง"
หลังจากที่สัตว์ป่า หลายชนิดกำลังลดจำนวนลงจนอยู่ในภาวะใกล้สูญสิ้นไปจากป่าเมืองไทย แต่เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ได้ยินข่าวความสำเร็จของนักวิจัยไทยในการทำ ละมั่งหลอดแก้ว ปราณี: ละมั่งตัวแรกของโลกได้คืนสู่ป่าอีกครั้งแล้ว
เสียงร้องด้วยความดีใจจากผู้ช่วย น.สพ.ผู้โด่งดังน.สพ.: วิชาการสามารถทำให้ สัตว์ป่าที่สูญพันธ์ไปจากป่าเมืองไทยกลับมามีชีวิตแล้วส่งกลับไปสู่ป่าได้อีก...เป็นเรื่องที่เราต้องทำงานกันต่อไป....น.สพ.ผู้ดูแลละมั่งในโครงการผลิตละมั่งหลอดแก้วของส่วนอนุรักษ์วิจัยและการศึกษา ขององค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์พึมพำด้วยความตื่นเต้นจนทำอะไรไม่ถูกกรกมล : ผมขอแสดงความยินดีด้วยครับท่านและคิดว่าทุกคนก็เป็นอย่างนั้น
.อืม...แต่คุณ"ก๋า" เธอว่า ต้องศึกษาเกี่ยวกับต้นไม้บ้างนะครับน.สพ.: ฮ่ะ...อย่างงั้นหรือ?...เราต้องโคลนนิ่งต้นไม้งั้นหรือคุณก๋า? นายสัตวแพทย์ถามผม: ครับ คุณก๋าอยากให้เกี่ยวข้องกับต้นไม้บ้าง เพราะบ้านเมืองเราวันนี้ ทำลายกันจนแทบหมดป่าน.สพ.: ตกลง ผมจะลองดู แล้วจะให้ผมทดลองต้นอะไร...ผมถนัดเรื่องสัตว์นะครับ !!??ผม: ต้นไม้แห่งความสามัคคีไงครับ ระยะนี้เฉาตายไปมาก เกือบสูญพันธุ์แล้วครับ...เห็นทีท่านต้องลองดู...เพื่อสัตว์โลกน.สพ.: โอปราณี: โอกรกมล: โออ่อมันเกี่ยวกับความสามัคคี โจทย์ ตะพาบที่ 46
ก็เพราะเกิดรู้สึกว่า ความสามัคคี กำลังจะสูญพันธุ์ สูญไปจากความรู้สึกคนไทยหรือเปล่า จะมีใครเล่า ที่จะ โคลนนิ่ง เอาความสามัคคีกลับคืนมาสู่จิตใจคนไทยได้อย่างสมบูรณ์ ก็ในเมื่อปัจจุบัน คนไทยแตกแยกออกเป็นฝักฝ่าย ในท่ามกลางบรรยากาศการรณรงค์ให้ รู้รักสามัคคี จนกลายเป็นเกล่อล้นเมืองไปซะงั้น ทั้งๆที่ทุกคนรู้ดี สามัคคี เป็นแต่ประโยชน์ เป็นทางสู่ความสำเร็จ เป็นทางสู่ความสุขที่ทุกคนชอบ ถึงเวลาที่จะต้อง โคลนนิ่งเอาความสามัคคีกลับมาบ้างแล้วละครับ ...ไม่ต้องใช้ทีมงานที่ไหนมาวิจัย เพราะมันสามรถเกิดได้ในใจ เพียงลดความ เห็นแก่ตัว ลงไป ลดลงเยอะๆสืบเส้นสาย สืบพลัง แบบสร้างสรรค์ ร่วมสานฝัน เสริมค่า สู่ฟ้าใหม่ สานมือผอง น้องพี่ ทุกที่ไทย รวมน้ำใจ หันหน้า เข้าหากัน แล้วลบรอย แตกร้าว เมื่อคราวก่อน ที่บั่นทอน คลอนไทย จนไหวสั่น มารวมหมู่ สู้หน้า ร่วมฝ่าฟัน เพื่อป้องกัน อริราช ของชาติเรา ทั่วขวานไทย ต้องคง ดำรงอยู่ ใครลบหลู่ ยุยง จงอย่าเขลา สำนึกรัก สำนึกรู้ ไม่หูเบา อย่าให้เขา ใครหลอก ออกนอกทางมือจับมือ จับใจ ใช้เป็นหลัก อุปสรรค มิหวั่นไหว ให้ฝ่าถาง ด้วยทะนง องอาจ ตามวาดวาง ยืนหยัดอย่าง รู้รัก สามัคคี ภาวะสังคมแบบนี้ ความสามัคคีเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับคนในชาติ องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลเดชมีพระราชดำรัสแก่พสกนิกรชาวไทยให้ รู้รักสามัคคี เพราะความสามัคคีทำให้เกิดความสุขแด่หมู่ชน และให้รักในความสามัคคี อันจักทำให้เกิดความพร้อมในหมู่ชน ความสามัคคีจึงเป็นคุณธรรมสำคัญสำหรับคนในชาติ ที่จักเป็นเครื่องร้อยรัดให้ทุกคนเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ดังพระราชดำรัสของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตติ์ พระบรมราชินีนาถ ได้ทรงพระราชทานแก่ผู้บริจาคโลหิตให้สภากาชาติไทย ณ สวนอำพร วันที่ ๒๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๑๔ มีความตอนหนึ่งว่า... ชาติเปรียบเหมือนครอบครัวใหญ่ ต้องอาศัยความสามัคคีของคนในชาติ ดังปรากฏแล้วในประวัติศาสตร์บรรพบุรุษของไทยได้มีความพร้อมเพรียง กอบกู้ชาติบ้านเมืองไว้ เพื่อดำรงเอกราชอยู่ได้จนทุกวันนี้ ความสามัคคีพร้อมเพรียงเป็นน้ำหนึ่งใจเดียว ในการประกอบคุณงามความดีจึงเป็นสิ่งประเสริฐ ฮะ หรือว่า ความสามัคคี ถึงเวลาจะต้อง โคลนนิ่ง จริงๆ สวัสดีครับเพื่อนที่รัก สวัสดีครับ
ปลื้มอกปลื้มใจ บ่นไปเรื่อยๆ สุดท้าย...ขอขอบพระคุณ ***ทุกๆความรักที่มอบให้แก่กัน *** คุณปานตะวัน (Pantawan) แนะนำวิธิแก้ไขและวางโค้ตเพลง ***เพื่อนชาวบล็อกแก้งค์ทุกๆท่าน ที่แวะมาเยี่ยมชม *** เพลงแผ่นดินของเรา เพลงปลุกใจ...เรียกพลังความสามัคคี ศิลปิน " สันติ ลุนเผ่ " *** "บล็อกก่อน" "หนุ่ม วัย ทอง" และ...ทุกๆความสุขที่จะได้รับในเดือนธันวาคม รักทุกๆท่านนะครับ ฟัง : วิทยุออนไลน์ 95 เอฟเอ็ม...radio.konseo.com ฟัง : คลื่นประชาชน คนนำปัญญา
Create Date : 23 ธันวาคม 2554
103 comments
Last Update : 23 ธันวาคม 2554 0:24:43 น.
Counter : 1924 Pageviews.
พูดถึงในหลวงกับความสามัคคี ผมมักจะนึกถึง "พระราชดำรัส พระราชทานแก่คณะบุคคลต่าง ๆ ที่เข้าเฝ้าฯ ถวายชัยมงคลในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดารโหฐาน พระราชวังดุสิต ๔ ธันวาคม ๒๕๓๔" มากกว่าอันอื่นนะ