รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ **กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผม ทาง e-wallet ครับ** **ผมขอสงวนสิทธิการเป็นเจ้าบ้านของ blog ลบข้อเขียนใดๆ ก็ได้ใน blog นี้ตามที่ผมเห็นสมควร**
Group Blog
 
<<
มกราคม 2554
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
5 มกราคม 2554
 
All Blogs
 
เพ่งโทษ คือ ?

การเพ่งโทษ จะมี 2 อย่าง เพ่งโทษที่ไม่ใช่ตัวของตัวเอง และ เพ่งโทษที่เป็นตัวของตัวเอง

การเพ่งโทษที่ไม่ใช่ตัวของตัวเอง เช่น วันนี้ไปทำงานสาย ก็โทษการจราจรที่ติดขัด หรือ โทษว่า ฝนตก น้ำท่วม หรือ โทษว่า คนอื่นเข้าห้องน้ำที่บ้านนาน ทำให้ต้องรอเข้าห้องน้ำนานมากกว่าปรกติ สรุปก็คือ ตัวเองนะดีแล้ว แต่คนอื่นไม่ดี สิ่งอื่นมันก็ไม่ดี

การเพ่งโทษที่เป็นของตัวเอง เช่น พอกิเลสในจิตใจเกิด ก็รู้สึกละอายใจในกิเลสที่เกิดขึ้นในจิตใจ มองตัวเองว่าแย่จริง เรื่องแค่นี้ก็คุมกิเลสไม่ให้เกิดไม่ได้

ไม่ว่าจะออกมาในแบบใดใน 2 แบบนี้ มันก็เป็นการครุ่นคิด อันเป็นจิตปรุงแต่ง ที่ไม่ใช่การปฏิบัติเพื่อการพ้นทุกข์ไปจากสังสารวัฏ

นักภาวนาที่ต้องการหลุดพ้น ควรทำความเข้าใจในเรื่องนี้ให้ถ่องแท้

การปฏิบัติธรรมเพื่อการหลุดพ้นนั้น นักภาวนาสมควรภาวนาให้จิตตั้งมั่น เพื่อควบคุมจิตไม่ให้คิดฟุ่งซ่าน (การคิดเพ่งโทษ นี่ก็เข้าข่ายคิดฟุ่งซ่านเช่นกัน ) และ การฝึกฝนเพื่อควบคุมจิตไม่ให้หลงเข้าไปยึดในความคิดที่เกิดขึ้น

เมื่อท่านอ่านมาถึงตรงนี้ ผมเชื่อว่า จะมีคำถามในใจของบางท่านเกิดขึ้นที่ว่า ถ้าอย่างนั้น การคิดกำจัดกิเลส เพราะเห็นว่ากิเลสมันไม่ดี มันก็เป็นการครุ่นคิด แล้วมันเป็นการปฏิบัติผิดอย่างนั้นหรือ

เรื่องนี้ ท่านสมควรทำความเข้าใจให้ดีอีกเช่นกันครับ อย่าเพียงตอบว่า ใช่ หรือ ไม่ใช่ เพราะมันมีวิธีการ มีเงื่อนไขกำกับอยู่

อันความคิดใด ๆ เช่นความคิดในการกำจัดกิเลสนั้น เป็นความคิดก็จริง เป็นความคิดในด้านดีก็จริง แต่ทว่า ในการปฏิบัติธรรมเพื่อการพ้นทุกข์นั้น ท่านไม่ใช่ไปคิดอยู่ตลอดเวลาว่าต้องกำจัดกิเลส แต่ท่านควรมี sense ของตนเองที่ไม่ใช่การไปครุ่นคิดที่ว่า สิ่งใดควรทำ สิ่งใดไม่ควรทำ การมี sense แบบนี้จะว่าเป็นสัมปชัญญะก็ได้ การรู้สึกผิดชอบชั่วดี เป็น sense ที่ไม่ใช่เป็นการคิดขึ้น แต่เป็น sense ที่รู้ได้เองจากการมีสัมปชัญญะ

ท่านควรมี sense แบบนี้อยูุ่เพื่อการดำรงค์ชีพทีเหมาะสมในทางโลก แต่ไม่ไปคิดถึงเรื่องพวกนี้ แล้วใช้ความรู้สึกตัวที่เป็นธรรมชาติตามกฏ 3 ข้อที่ผมว่าไว้ ฝึกฝนการเจริญสติสัมปชัญญะอยู่เนือง ๆ เพื่อให้เกิดจิตตั้งมั่น

เมื่อท่านฝึกฝนอย่างนี้ จึงจะเข้าทางแห่งมรรค

ให้มี Sense แต่ไม่ใช่การคิดเพ่งโทษ !

****************
เรื่องท้ายบท

เมื่อนักภาวนาฝึกฝนจนควบคุมจิตได้แล้ว ปัญหานี้จะจบลงไป นักภาวนาจะไม่มีการเพ่งโทษในสิ่งใด แม้แต่การเพ่งโทษตัวเองก็ไม่มีอีก

การควบคุมจิตใจได้ ก็มาจากสถานเดียว คือ การฝึกฝนสติสัมปชัญญะจนจิตตั้งมั่นเท่านั้น แล้วทุกอย่างจะดำเนินไปตามวิถีทางแห่งธรรมชาติของเขาเอง ปัญญาในทางธรรม นักภาวนาจะเห็นได้เอง ไตรลักษณ์ของขันธ์ 5 ก็เห็นได้เอง ซึ่งทุกอย่างล้วนมาจากจิตที่ตั้งมั่นเท่านั้น ไม่ใช่การคิดเองแต่อย่างใด

เพียงจิตที่ตั้งมั่นเห็นเองตามธรรมชาติ นี่คือภาวนามยปัญญาตามพุทธพจน์ที่ว่า

ภิกษุทั้งหลาย เธอจงเจริญสมาธิเถิด เมื่อจิตตั้งมั่นเธอจักเห็นธรรมตามความเป็นจริง

*******************


Create Date : 05 มกราคม 2554
Last Update : 29 มกราคม 2555 15:09:48 น. 3 comments
Counter : 2455 Pageviews.

 
อนุโมทนาสาธุครับ


โดย: shadee829 (shadee829 ) วันที่: 5 มกราคม 2554 เวลา:21:13:33 น.  

 
อนุโมทนาคะ


โดย: Nim IP: 110.168.42.197 วันที่: 6 มกราคม 2554 เวลา:21:05:11 น.  

 
ผมจำเป็นต้องปิดการเขียนของท่านผู้อ่าน เนื่องจากกฏหมายอินเตอร์เนท
ที่อาจมีสิ่งผิดกฏหมายใส่เข้ามาใน blog

ท่านที่จะสนทนา หรือ ถามคำถาม ขอให้ส่ง email ถึงผมได้ที่
asknamasikarn@gmail.com

หรือสำหรับสมาชิก pantip จะส่งมาทางหลังไมค์ก็ได้เช่นกัน


โดย: นมสิการ วันที่: 29 มกราคม 2555 เวลา:15:25:07 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะ VIP Friend
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

นมสิการ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 142 คน [?]




หลักปฏิบัติ ...รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ

มากกว่า 20 ปีที่ไปหลงทำสมถภาวนาแบบสมาธิแบบฤาษีโดยที่ไม่รู้จักกับคำว่า อะไรคือสัมมาสติ สัมมาสมาธิ ผลที่ได้คือความสงบขณะกำลังนั่งสมาธิจนตัวนิ่งแข็งเป็นก้อนหิน แต่ผลข้างเคียงตามมาก็คือการเป็นคนเจ้าโทสะอย่างรุนแรงขณะเวลาไม่ได้นั่งสมาธิ และ ที่อยู่ในชีวิตประจำวัน....

จนได้พบกัลยณมิตรแดนไกล ที่ได้ชักนำให้มารู้จักวิธีปฏิบัติแบบหลวงพ่อเทียน จนได้พบกับพระอาจารย์ในสายหลวงพ่อเทียน ที่ผมได้เรียนการปฏิบัติจากท่าน จนเข้าใจว่า สัมมาสติ สัมมาสมาธิ คืออะไร แล้วลงมือฝึกฝน การปฏิบัติก็รุดหน้าและได้ลิ้มรสสิ่งบริสุทธิในจิตใจอันเป็นผลจากการปฏิบัติด้วยเวลาเพียง 5 ปี

ธรรมปฏิบัติจากฆราวาสเขียนเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ยากในสังคมไทย ผมรู้ได้จากที่เขียนใน blog ผมได้พบกับการก่อกวนใน blog การเขียนเหน็บแนม กระแหนะกระแหน ตำหนิการการปฏิบัติที่ผมเขียนใน blog ว่าผิดทาง เขียนแบบคาดเดาเอา ไม่รู้จริง ให้ผมหยุดเขียนแนวนี้ได้แล้ว และไปโมทนาสาธุแนะนำการปฏิบัติสมาธิแบบฤาษีให้กับผมอีกว่านี่คือทางที่ถูกต้อง ...

บทความใน blog จึงเกิดขึ้นมา เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ในการภาวนา
แก่ผู้อื่นที่กำลังเดินทางในสายแห่งอริยมรรคนี้

เมื่อท่านได้เข้ามาอ่านข้อเขียนใน blog กรุณาอย่าได้เชื่อผมจนกว่า ท่านได้ทดลองปฏิบัติแล้วและพิสูจน์ด้วยตัวท่านเอง

**กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผมทาง e-wallet ครับ **

******
บทความต่าง ๆ ใน blog นี้
ขอสงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537
ห้ามนำไปดัดแปลง ลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต

****
New Comments
Friends' blogs
[Add นมสิการ's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.