DR.MOO CAN DO
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2553
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
5 พฤษภาคม 2553
 
All Blogs
 

จุดจบ “ผู้พันตึ๋ง” นายพันอันตราย! ทหารนอกรีต! นักฆ่าตามใบสั่ง! ผู้เกิดมาพร้อม “เพชฌฆาตฤกษ์”

ประวัติ “ผู้พันตึ๋ง”


                พ.ต.เฉลิมชัย หรือผู้พันตึ๋ง เกิดเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ.2496 เป็นบุตรของ พ.ท.ยอดชัย-นางบัวกลีบ มัจฉากล่ำ จบการศึกษาระดับ ปวส.ที่วิทยาลัยเทคนิคกรุงเทพ แผนกเทคนิคอุตสาหกรรม ระหว่างที่เป็นนักเรียนอาชีวะ เกิดเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ทางการเมืองเมื่อ 14 ต.ค.2516 นายเฉลิมชัย หรือตึ๋ง ถูก พล.ต.สุตสาย หัสดิน ชักนำเข้าสู่กลุ่ม “กระทิงแดง” ไว้ต่อต้านและคอยปั่นป่วนยุยงกลุ่มพลังนิสิตนักศึกษาในขณะนั้น ซึ่งนายเฉลิมชัย หรือตึ๋ง ก็ไม่ทำให้ พล.ต.สุตสายผิดหวัง หลังเสร็จสิ้นภารกิจ นายเฉลิมชัยได้เข้าทำงานเป็นลูกจ้างชั่วคราวในกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน หรือ กอ.รมน. และต่อมานายเฉลิมชัยเข้าสอบบรรจุเป็นทหารได้ ติดยศว่าที่ร้อยตรี ประจำ ศรภ. หรือศูนย์รักษาความปลอดภัย กองบัญชาการทหารสูงสุด จากนั้นรับราชการเรื่อยมาจนกระทั่ง พ.ศ.2531 ได้เลื่อนยศเป็น “พ.ต.เฉลิมชัย มัจฉากล่ำ” และตั้งแต่นั้นมาชื่อ “ผู้พันตึ๋ง” ก็ปรากฏตามข่าวหนังสือพิมพ์หน้า 1 เป็นประจำที่มีข่าวเกี่ยวข้องกับเรื่องราวของนักเลง-มาเฟีย-ผู้มีอิทธิพล!


                ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อ พ.ต.เฉลิมชัย มัจฉากล่ำ หรือผู้พันตึ๋งนั้น ถือกำเนิดเกิดเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ.2496 เวลา 14.00 น. ตรงกับวันอาทิตย์ แรม 7 ค่ำ เดือน 8 (หลัง) ปีมะเส็ง ตามโหราศาสตร์แล้ว วันเวลาที่เขาเกิด ถือเป็น “เพชฌฆาตฤกษ์” เป็นฤกษ์ของผู้ที่กำเนิดมาเพื่อเป็นเพชฌฆาต และท้ายที่สุดแล้วยังเป็นฤกษ์ของผู้ที่ถือกำเนิดมาให้มีอันต้องสิ้นสุดและจบชีวิตลงด้วยน้ำมือของ “เพชฌฆาต” เช่นกัน! 


“คดีฆาตกรรมโหด นายปรีณะ ลีพัฒนะพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร”


                จุดเริ่มของคดีนี้ เกิดขึ้นเมื่อบ่ายวันที่ 4 มี.ค.2544 และกลายเป็นคดีคึกโครมที่สุดในขณะนั้น เมื่อข้าราชการระดับผู้ว่าราชการจังหวัด ต้องมาจบชีวิตด้วยเหตุฆาตกรรมอย่างน่าอนาถ ขณะเดินทางมาเพื่อร่วมประชุมรับมอบนโยบายของรัฐบาลร่วมกับข้าราชการระดับสูงทุกกระทรวง


                ในเบื้องต้น ตำรวจตั้งปมสังหารว่าอาจเป็นคดีฆ่าชิงทรัพย์ แต่ยังไม่ทิ้งประเด็นขัดแย้งโครงการบ่อบำบัดน้ำเสียที่จังหวัดยโสธร นอกจากนี้ยังมีปมโยงไปถึง พ.ต.เฉลิมชัย มัจฉากล่ำ หรือ “ผู้พันตึ๋ง” นายทหารคนดังผู้กว้างขวางกับลูกน้องว่าเป็นกลุ่มฆาตกรที่รับงานมาฆ่าแต่ยังขาดพยานหลักฐาน จนเมื่อ นางอัญคนางค์ หรือน้อย สุนทรวิภาค คนใกล้ชิดของนายปรีณะเข้ามามอบตัวอ้างว่าเป็นคนสังหาร ก่อนมากลับคำให้การซัดทอดว่า “ผู้พันตึ๋ง” กับสมุนเป็นคนลงมือฆ่า แต่ขู่เธอให้ยอมรับผิด คดีที่มัดเกลียวแน่นจึงเริ่มคลี่คลายลง และนำไปสู่การจับกุม “ผู้พันตึ๋ง” กับลูกน้องในที่สุด ซึ่งคดีนี้นับเป็นคดีลือลั่นที่จุดประกายไปสู่การแก้ไขข้อตกลงร่วมระหว่างกระทรวงมหาดไทย กับกระทรวงกลาโหม เรื่องการจับกุมและควบคุมตัวทหารที่ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีอาญา


ชั้นพนักงานสอบสวนสืบสวน



 


                ในเบื้องต้น ตำรวจตั้งปมสังหารว่าอาจเป็นคดีฆ่าชิงทรัพย์ แต่ยังไม่ทิ้งประเด็นขัดแย้งโครงการบ่อบำบัดน้ำเสียที่จังหวัดยโสธร ทางสืบสวนโยงไปถึง พ.ต.เฉลิมชัย มัจฉากล่ำ หรือ“ผู้พันตึ๋ง” นายทหารคนดังผู้กว้างขวางกับลูกน้องว่าเป็นกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุแต่ยังขาดพยานหลักฐาน


                จนเมื่อนางอัญคนางค์ หรือน้อย สุนทรวิภาค สาวคนสนิทของนายปรีณะเข้ามามอบตัวอ้างว่าเป็นผู้ลงมือสังหาร ก่อนมากลับคำให้การซัดทอดว่า “ผู้พันตึ๋ง” กับสมุนเป็นคนลงมือฆ่า แต่ขู่เธอให้ยอมรับผิด คดีที่เขม็งเกลียวแน่นจึงเริ่มคลี่คลายลง และนำไปสู่การจับกุม “ผู้พันตึ๋ง” กับลูกน้องในที่สุด โดยคดีนี้ยังนำไปสู่การแก้ไขข้อตกลงร่วมระหว่างกระทรวงมหาดไทย กับกระทรวงกลาโหม เรื่องการจับกุมและควบคุมตัวทหารที่ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีอาญา



 


ชั้นศาล


                ปลายปี 2544 พนักงานอัยการยื่นฟ้อง น.ส.อัญคนางค์ สุนทรวิภาค, พ.ต.เฉลิมชัย มัจฉากล่ำ หรือ “ผู้พันตึ๋ง”, ส.อ.มานิตย์ ศรีสะอาด และ ส.อ.สุวัฒน์ คำเหง้า สองลูกน้องคนสนิท ต่อศาลอาญาในความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และไตร่ตรองไว้ก่อน


                ในชั้นพิจารณาคดี อัยการโจทก์นำพนักงานโรงแรมเบิกความยืนยันว่าพวกจำเลยเข้ามาเปิดห้องพักโดยใช้ชื่อปลอม นอกจากนี้ยังนำสืบจากหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ที่พบว่า DNA จากคราบเลือดที่ก๊อกน้ำห้องพักของพวกจำเลย ร วมทั้งคราบเลือดที่รองเท้าผ้าใบของจำเลยที่ 3 และที่แป้นเบรกของรถยนต์อีซูซุ ทรูเปอร์ ทะเบียน 3965 เชียงใหม่ ของจำเลยที่ 1 ตรงกับ DNAผู้ตาย


                นอกจากนี้ยังพบแผนผังห้องพักภายในโรงแรมที่เป็นลายมือของ “ผู้พันตึ๋ง” จำเลยที่ 1 ซึ่งคาดว่าเป็นการวางแผนก่อนลงมือฆ่านายปรีณะ อีกทั้ง น.ส.อังคนางค์ ยังให้การยืนยันว่าขณะที่เธอมาพบผู้ตายที่ห้องพักเพื่อตกลงปัญหาส่วนตัว “ผู้พันตึ๋ง” กับพวกได้บุกเข้ามาแล้วสั่งให้เธอนั่งก้มหน้าแถมยังขู่จะฆ่าหากไม่ปิดปากให้สนิท ทำให้เธอเห็นเพียงปลายเท้าของผู้ตาย ที่ถูกพวกจำเลยจับนอนคว่ำหน้ากับพื้น หลังจากนั้นหนึ่งในพวกจำเลยได้หยิบมีดในกระเป๋าถือของเธอมาเชือดคอผู้ตายหลายครั้ง ก่อนจะใช้ปืนพกของเธอยิงซ้ำที่ศีรษะจนตายสนิท


                ฝ่าย “ผู้พันตึ๋ง” เบิกความต่อสู้ว่า ที่เช่าห้องพักโดยใช้ชื่อปลอมเพราะต้องการหนีจากการตามราวีของภรรยาหลวง ส่วนแผนผังโรงแรมที่เขียนนั้นก็เขียนภายหลังเกิดเหตุเพื่อรายงานต่อผู้บังคับบัญชาถึงสถานการณ์ยาเสพติด เนื่องจากสืบทราบว่า บังรอน พ่อค้ายารายใหญ่ที่หลบหนีการติดตามจับกุมของทางการ แอบนัดพบกับภรรยาของ พล.ต.อ.พรศักดิ์ ดุรงควิบูลย์ ผบ.ตร.(ในขณะนั้น) โดยจำเลยเตรียมทำรายงานต่อผู้บังคับบัญชา และเชื่อว่าเป็นมูลเหตุให้ พล.ต.อ.พรศักดิ์ โกรธแค้นจนสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจใต้บังคับบัญชาทำสำนวนกลั่นแกล้งให้ตนต้องรับโทษ


                ส่วนคราบเลือดที่พบบริเวณก๊อกน้ำห้องพัก “ผู้พันตึ๋ง”อ้างว่าอาจติดมากับพนักงานโรงแรมที่เข้ามาล้างมือหลังจากทำความสะอาดห้องพักผู้ตาย หรือหากจำเลยถูกกลั่นแกล้ง ตำรวจก็สามารถนำคราบเลือดมาใส่ที่อ่างน้ำในห้องจำเลย ส่วนคราบเลือดที่แป้นเบรกรถยนต์ของจำเลยนั้นก็เพราะจำเลยไปเตะสุนัขแล้วขึ้นมาขับรถ


                ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานทั้งสองฝ่ายแล้วเห็นว่าโจทก์มีผลตรวจพิสูจน์คราบเลือดตามหลักนิติวิทยาศาสตร์ สอดคล้องกับพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุและผลการชันสูตรพลิกศพผู้ตาย ส่วนคำให้การของ น.ส.อังคนางค์ แม้จะเป็นจำเลยร่วม แต่ก็รับฟังได้ เชื่อว่าจำเลยเป็นคนร้ายจริง ข้ออ้างของจำเลยเป็นนั้นเลื่อนลอย ไม่มีน้ำหนักหักล้างงพยานโจทก์


                ศาลชั้นต้นลงโทษ จำคุก น.ส.อัญคนางค์ 3 ปี 8 เดือน ฐานรับของโจรและพกพาอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วน “ผู้พันตึ๋ง” ถูกพิพากษาให้สั่งประหารฐานร่วมฆ่าผู้ตาย แต่ให้ยกฟ้องลูกน้องคนสนิท 2 คน


                ศาลอุทธรณ์เห็นตามศาลชั้นต้นในส่วนของ น.ส.อัญคนางค์ และผู้พันตึ๋ง แต่พิพากษาแก้ให้ประหารชีวิต 2 นายทหารคนสนิท


                ศาลฎีกามีคำพิพากษาเป็นที่สิ้นสุด เมื่อวันที่ 29 ก.ย.2549 ยืนตามศาลอุทธรณ์ ให้ประหารชีวิตจำเลยทั้ง 3 คน ปิดตำนานนายทหารผู้กว้างขวางในวงการนักเลงอย่าง “ผู้พันตึ๋ง”




ปัจจุบัน


                “ผู้พันตึ๋ง” ยังคงถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำบางขวาง แต่ที่น่ายินดีคือหลังจากใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญของนักโทษประหารในการยื่นถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.50 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ลดโทษประหารเหลือจำคุกตลอดชีวิต


                “ผู้พันตึ๋ง ” ถือเป็นบทเรียนสำหรับนายทหารรุ่นหลังที่กำลังเอาเวลาราชการไปรับงานนอกรีต ไม่ว่าจะเป็นคุมผับ คุมบ่อน ทวงหนี้ ไล่ที่ รื้อตลาด และแม่สุดท้ายนายพันนักฆ่าผู้นี้จะรอดชีวิตจากแท่นประหาร แต่เขาก็ต้องดักดานอยู่ในคุกไปตลอดชีวิต สาสมแล้วกับผลกรรมที่ได้ทำเอาไว้




 

Create Date : 05 พฤษภาคม 2553
17 comments
Last Update : 5 พฤษภาคม 2553 9:10:24 น.
Counter : 13386 Pageviews.

 

แล้วนายทหาร นายตำรวจ อีกหลายๆ คน ที่กำลัง ลืมหน้าที่ ลืมความเป็นคนไทย ย่ำยี่ประเทศ อยู่ขณะนี้ จะโดนอย่างนี้ บ้างหรือไม่

 

โดย: Monnamon 5 พฤษภาคม 2553 9:59:23 น.  

 

แปลกเน๊ะ เค้าไม่เคยเรียนทหาร แต่มีโอกาสรับราชการจนได้ยศสูงต่างจากบางคนที่พยายามแทบตายกว่าทั้งสอบ ทั้งรอตั้งหลายปีจะได้ยศมา เค้ามีโอกาศแต่ใช้ในทางที่ผิด

 

โดย: j a r n i k 5 พฤษภาคม 2553 10:03:50 น.  

 

ขอบคุณค่ะ

 

โดย: ปิ่นพระศิวะ 5 พฤษภาคม 2553 10:19:03 น.  

 

รับทราบ และขอบคุณสำหรับรายละเอียด

กรรม... - -!

 

โดย: cat IP: 125.25.149.54 5 พฤษภาคม 2553 10:54:27 น.  

 

เราต้องเลี้ยงคนเลวที่มีความผิดชัดแจ้งอย่างนี้ไปตลอดชีวิต ด้วยเงินภาษีอากรของเรา

ค่าอาหารนักโทษทั่วประเทศ มีราคาเท่ากับอาหารของนักเรียนโรงเรียนเด็กพิการและนักเรียนด้อยโอกาส

 

โดย: คนไทย IP: 113.53.177.118 5 พฤษภาคม 2553 11:37:48 น.  

 

 

โดย: Scorchio 5 พฤษภาคม 2553 13:04:44 น.  

 

สงสัยเรื่องอภัยโทษหน่ะครับ ว่าถ้าหากมีการให้อภัยโทษกันทุกปี พวกที่ติดคุกตลอดชีวิต หรือติดหลาย ๆ ปี มีสิทธิที่จะลดจำนวนปีลงมาอีกหรือเปล่า ?

 

โดย: น้องหนู IP: 61.7.162.154 5 พฤษภาคม 2553 13:23:36 น.  

 

สิ่งที่คุณ น้องหนู คิดถูกแล้วครับ อยู่ที่นั้น ชั่วไม่มี ดีปรากฏ ลูกน้องนาย ทำตัวเงียบ เดี๋ยวมันก็หายไปเอง

 

โดย: น้ำเค็ม 5 พฤษภาคม 2553 17:26:49 น.  

 

ทำเขามาเยอะ พอจะโดนบ้าง ก็ขออภัยโทษ
ชายชาติทหารผิดแล้วรับจะดีกว่ามั้ย

.................
ขอบคุณที่นำมาให้อ่านครับ

 

โดย: petchpaper 6 พฤษภาคม 2553 16:39:19 น.  

 

แต่ในหนังสือคมเสธ.แดงบอกว่าผู้พันตึ๋งถูกกลั่นแกล้งเพราะมีปัญหากับคนบางคน เลยโดนใส่ร้าย ทำให้ปลายสายธารบิดเบือน จึงถูกตัดสินตามที่ปรากฎหลักฐาน ไม่รู้อะไรคือความจริงกันแน่

 

โดย: ไม่ขอลงชื่อ IP: 58.64.85.137 24 พฤษภาคม 2553 20:03:25 น.  

 

เมื่อมีการขออภัยโทษได้ ก้อน่าจะมีการขอ ให้รับโทษตามคำตัดสินของศาลได้

 

โดย: คิดอีกที IP: 115.87.203.184 7 มิถุนายน 2553 0:28:08 น.  

 

ไม่น่าอภัยโทษให้มันเลย ประหารให้มันตายไปเลย สัตว์นรก

 

โดย: ss IP: 125.26.187.142 24 กันยายน 2553 14:24:10 น.  

 

ถูกหรือผิดศาลมีความยุติธรรมพอ หลักฐานมี หากหนีความผิดได้ก็หนีเวรกรรมไม่พ้น

 

โดย: หมิว IP: 110.49.205.91 25 มกราคม 2554 14:11:59 น.  

 

ตอนพิพากษาประหารฯ ศาลฯ เหม็นตลบอบอวลด้วยอุจจาระใครซักคน? นี่ก็ได้รับความปราณีให้ยังอยู่รอด
คงต้องแล้วแต่เวรกรรมจะตามสนองให้ทันได้เห็นเถอะ

 

โดย: ปรีชา ตังควัฒนา IP: 58.64.62.144 24 กุมภาพันธ์ 2554 14:03:25 น.  

 

ต ายๆๆๆๆปัยชะอยู่ปัยก้อหนักแผ่นดิน คนเรามีสิทธิ์ได้เกิดมาเป็นคนหน้าจะทำความดี ตายแล้วเกิดก็จะเปลียนกันฆ่าโดยไม่รู้จบเพราะมันเป็นกรรม เราได้เกิดมารวมสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าถือว่าท่านทั้งหลายประเสฐก่วาสัตว์อืนๆๆเเล้วท่านทั้งทำตัวยิ่งสัตว์มันถูกเเล้วหรอ

 

โดย: พระอาจารย์ อดิศักดิ์ อคํวํณโณ IP: 119.31.14.133 28 สิงหาคม 2554 9:02:13 น.  

 

พ.ต.เฉลิมชัย มัจฉากล่ำ หรือผู้พันตึ๋ง ต้องโทษคดีสังหารนายปรีณะ ลีพัฒนะพันธ์ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร ทั้ง 2 คนได้รับพระราชทานอภัยโทษลดวันต้องโทษ เมื่อปี 2550 ได้ลดโทษจากโทษประหารชีวิตเป็นจำคุกตลอดชีวิต, ปี 2553 ได้รับพระราชทานอภัยโทษลดวันต้องอีกครั้ง จากจำคุกตลอดชีวิต เหลือจำคุก 50 ปี และปีนี้ได้รับพระราชทานอภัยโทษลดวันต้องโทษเช่นเดียวกัน จากจำคุก 50 ปี ตามพระราชกฤษฎีกาจะได้ลดวันต้องโทษ ตามลำดับชั้นนักโทษเด็ดขาดตามกฎหมายว่าด้วยราชทัณฑ์คนละ 13 ปี


//www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9540000155653

ถ้าเค้าออกมาได้ ผมกลัวคนดีๆ โดนตามเช็คบิลจริงๆ

 

โดย: เฮ้ออออ IP: 58.9.41.119 7 ธันวาคม 2554 13:22:52 น.  

 

อย่าหวังว่าโลกนี้จะมีความยุติธรรม นี่ละกฎหมาย
บางครั้งการตัดสินคนชั่วก็ไม่จำเป็นต้องใช้วีธีที่ดี

 

โดย: นิรนาม IP: 182.232.204.135 2 พฤศจิกายน 2560 1:02:45 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


DR.MOO CAN DO
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 42 คน [?]




ผมเป็น นิติพยาธิแพทย์ หรือ จะเรียกว่า หมอนิติเวช ก็ได้ครับ นิติพยาธิแพทย์ เป็นแพทย์เฉพาะทางสาขาหนึ่ง ซึ่งเมื่อเรียนจบแพทย์ทั่วไป 6 ปีแล้ว ก็ต้องเรียนต่อเฉพาะทาง นิติพยาธิอีก 3 ปี และเมื่อสอบผ่าน ก็จะได้รับวุฒิบัตรเป็นผู้เชี่ยวชาญสาขานิติเวชศาสตร์ และได้เป็นนิติพยาธิแพทย์ โดยสมบูรณ์
หน้าที่ของหมอนิติเวช แบ่งออกเป็น 2 ส่วนใหญ่ๆ
ส่วนแรก จะเกี่ยวข้องกับผู้ป่วยคดี โดยในผู้ป่วยคดีนั้นแพทย์นิติเวชจะมีหน้าที่ในการตรวจ และให้ความเห็นกับพนักงานสอบสวนเกี่ยวกับบาดแผลที่ตรวจพบ ซึ่งตำรวจจะนำไปใช้ในการตั้งข้อกล่าวหากับคู่กรณี และหน้าที่ต่อมาของแพทย์นิติเวชคือการเป็นพยานในชั้นศาลในคดีดังกล่าว
ส่วนที่สอง จะเกี่ยวข้องกับผู้เสียชีวิต โดยในกรณีผู้เสียชีวิตนั้นแพทย์นิติเวชมีหน้าที่ในการตรวจสถานที่เกิดเหตุในกรณีตายผิดธรรมชาติตามที่กฎหมายกำหนด และหากมีความจำเป็นต้องผ่าชันสูตร ก็จะต้องมีการทำรายงาน และให้ความเห็นเกี่ยวกับสาเหตุของการเสียชีวิต ส่งให้พนักงานสอบสวน สุดท้ายหน้าที่หลักที่สำคัญโดยหลีกเลี่ยงไม่ได้คือการเป็นพยานในชั้นศาลในคดีนั้นๆครับ
ประวัติการศึกษา
1.แพทยศาสตร์บัณฑิต คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
2.วุฒิบัตรผู้เชี่ยวชาญสาขานิติเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
3.ประกาศนียบัตร “Crime Scene Investigation” โครงการร่วมระหว่าง International Law Enforcement Academy กับ Federal Bureau of Investigation Academy
4.ประกาศนียบัตร “การบริหารงานโรงพยาบาล” คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
ผลงาน
1.อาจารย์ประจำภาควิชานิติเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มศว.
2.อาจารย์พิเศษ สอนนักศึกษาชั้นปีที่ 3 โรงเรียนนายร้อยตำรวจ
3.อาจารย์พิเศษ สอนนักศึกษาปริญญาโท สาขานิติวิทยาศาสตร์ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ
4.อาจารย์พิเศษ สอนนักศึกษาปริญญาโท สาขานิติวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร
5.วิทยากร หัวข้อ "ICD-10" ของกระทรวงสาธารณสุข
6.วิทยากร หัวข้อ "การตรวจสถานที่เกิดเหตุ" ของมูลนิธิร่วมกตัญญู และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
7.วิทยากรอบรมหลักสูตรนายร้อยตำรวจอบรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
8.วิทยากร หัวข้อ "KPI รายบุคคล" ให้กับโรงพยาบาลและมหาลัยวิทยาลัย ในภาครัฐ
9.วิทยากร หัวข้อ "Living will" ให้กับโรงพยาบาลในภาครัฐและเอกชน10.วิทยากร หัวข้อ "นิติเวชศาสตร์กับงานด้านโบราณคดี" ให้กับคณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร
11.ร่วมเขียนหนังสือ "KPI รายบุคคล"
12.ร่วมเขียนหนังสือ "มาตรฐาน ICD-10, ICD-9"
13.ที่ปรึกษารายการ "เรื่องจริงผ่านจอ" และ "Redline"
14.บทความทางวิชาการและผลงานวิจัยทั้งในและต่างประเทศ 15 เรื่อง
15.ปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์ ตั้งแต่ ปี พศ.2553
16.ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการศูนย์การแพทย์สมเด็จพระเทพ ฯ คณะแพทยศาสตร์ มศว. ตั้งแต่ปี พศ.2551
ผศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี (DR.MOO CAN DO)
New Comments
Friends' blogs
[Add DR.MOO CAN DO's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.