จุดจบ ผู้พันตึ๋ง นายพันอันตราย! ทหารนอกรีต! นักฆ่าตามใบสั่ง! ผู้เกิดมาพร้อม เพชฌฆาตฤกษ์
ประวัติ ผู้พันตึ๋ง พ.ต.เฉลิมชัย หรือผู้พันตึ๋ง เกิดเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ.2496 เป็นบุตรของ พ.ท.ยอดชัย-นางบัวกลีบ มัจฉากล่ำ จบการศึกษาระดับ ปวส.ที่วิทยาลัยเทคนิคกรุงเทพ แผนกเทคนิคอุตสาหกรรม ระหว่างที่เป็นนักเรียนอาชีวะ เกิดเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ทางการเมืองเมื่อ 14 ต.ค.2516 นายเฉลิมชัย หรือตึ๋ง ถูก พล.ต.สุตสาย หัสดิน ชักนำเข้าสู่กลุ่ม กระทิงแดง ไว้ต่อต้านและคอยปั่นป่วนยุยงกลุ่มพลังนิสิตนักศึกษาในขณะนั้น ซึ่งนายเฉลิมชัย หรือตึ๋ง ก็ไม่ทำให้ พล.ต.สุตสายผิดหวัง หลังเสร็จสิ้นภารกิจ นายเฉลิมชัยได้เข้าทำงานเป็นลูกจ้างชั่วคราวในกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน หรือ กอ.รมน. และต่อมานายเฉลิมชัยเข้าสอบบรรจุเป็นทหารได้ ติดยศว่าที่ร้อยตรี ประจำ ศรภ. หรือศูนย์รักษาความปลอดภัย กองบัญชาการทหารสูงสุด จากนั้นรับราชการเรื่อยมาจนกระทั่ง พ.ศ.2531 ได้เลื่อนยศเป็น พ.ต.เฉลิมชัย มัจฉากล่ำ และตั้งแต่นั้นมาชื่อ ผู้พันตึ๋ง ก็ปรากฏตามข่าวหนังสือพิมพ์หน้า 1 เป็นประจำที่มีข่าวเกี่ยวข้องกับเรื่องราวของนักเลง-มาเฟีย-ผู้มีอิทธิพล! ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อ พ.ต.เฉลิมชัย มัจฉากล่ำ หรือผู้พันตึ๋งนั้น ถือกำเนิดเกิดเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ.2496 เวลา 14.00 น. ตรงกับวันอาทิตย์ แรม 7 ค่ำ เดือน 8 (หลัง) ปีมะเส็ง ตามโหราศาสตร์แล้ว วันเวลาที่เขาเกิด ถือเป็น เพชฌฆาตฤกษ์ เป็นฤกษ์ของผู้ที่กำเนิดมาเพื่อเป็นเพชฌฆาต และท้ายที่สุดแล้วยังเป็นฤกษ์ของผู้ที่ถือกำเนิดมาให้มีอันต้องสิ้นสุดและจบชีวิตลงด้วยน้ำมือของ เพชฌฆาต เช่นกัน! คดีฆาตกรรมโหด นายปรีณะ ลีพัฒนะพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร จุดเริ่มของคดีนี้ เกิดขึ้นเมื่อบ่ายวันที่ 4 มี.ค.2544 และกลายเป็นคดีคึกโครมที่สุดในขณะนั้น เมื่อข้าราชการระดับผู้ว่าราชการจังหวัด ต้องมาจบชีวิตด้วยเหตุฆาตกรรมอย่างน่าอนาถ ขณะเดินทางมาเพื่อร่วมประชุมรับมอบนโยบายของรัฐบาลร่วมกับข้าราชการระดับสูงทุกกระทรวง ในเบื้องต้น ตำรวจตั้งปมสังหารว่าอาจเป็นคดีฆ่าชิงทรัพย์ แต่ยังไม่ทิ้งประเด็นขัดแย้งโครงการบ่อบำบัดน้ำเสียที่จังหวัดยโสธร นอกจากนี้ยังมีปมโยงไปถึง พ.ต.เฉลิมชัย มัจฉากล่ำ หรือ ผู้พันตึ๋ง นายทหารคนดังผู้กว้างขวางกับลูกน้องว่าเป็นกลุ่มฆาตกรที่รับงานมาฆ่าแต่ยังขาดพยานหลักฐาน จนเมื่อ นางอัญคนางค์ หรือน้อย สุนทรวิภาค คนใกล้ชิดของนายปรีณะเข้ามามอบตัวอ้างว่าเป็นคนสังหาร ก่อนมากลับคำให้การซัดทอดว่า ผู้พันตึ๋ง กับสมุนเป็นคนลงมือฆ่า แต่ขู่เธอให้ยอมรับผิด คดีที่มัดเกลียวแน่นจึงเริ่มคลี่คลายลง และนำไปสู่การจับกุม ผู้พันตึ๋ง กับลูกน้องในที่สุด ซึ่งคดีนี้นับเป็นคดีลือลั่นที่จุดประกายไปสู่การแก้ไขข้อตกลงร่วมระหว่างกระทรวงมหาดไทย กับกระทรวงกลาโหม เรื่องการจับกุมและควบคุมตัวทหารที่ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีอาญา ชั้นพนักงานสอบสวนสืบสวน
ในเบื้องต้น ตำรวจตั้งปมสังหารว่าอาจเป็นคดีฆ่าชิงทรัพย์ แต่ยังไม่ทิ้งประเด็นขัดแย้งโครงการบ่อบำบัดน้ำเสียที่จังหวัดยโสธร ทางสืบสวนโยงไปถึง พ.ต.เฉลิมชัย มัจฉากล่ำ หรือผู้พันตึ๋ง นายทหารคนดังผู้กว้างขวางกับลูกน้องว่าเป็นกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุแต่ยังขาดพยานหลักฐาน จนเมื่อนางอัญคนางค์ หรือน้อย สุนทรวิภาค สาวคนสนิทของนายปรีณะเข้ามามอบตัวอ้างว่าเป็นผู้ลงมือสังหาร ก่อนมากลับคำให้การซัดทอดว่า ผู้พันตึ๋ง กับสมุนเป็นคนลงมือฆ่า แต่ขู่เธอให้ยอมรับผิด คดีที่เขม็งเกลียวแน่นจึงเริ่มคลี่คลายลง และนำไปสู่การจับกุม ผู้พันตึ๋ง กับลูกน้องในที่สุด โดยคดีนี้ยังนำไปสู่การแก้ไขข้อตกลงร่วมระหว่างกระทรวงมหาดไทย กับกระทรวงกลาโหม เรื่องการจับกุมและควบคุมตัวทหารที่ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีอาญา
ชั้นศาล ปลายปี 2544 พนักงานอัยการยื่นฟ้อง น.ส.อัญคนางค์ สุนทรวิภาค, พ.ต.เฉลิมชัย มัจฉากล่ำ หรือ ผู้พันตึ๋ง, ส.อ.มานิตย์ ศรีสะอาด และ ส.อ.สุวัฒน์ คำเหง้า สองลูกน้องคนสนิท ต่อศาลอาญาในความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และไตร่ตรองไว้ก่อน ในชั้นพิจารณาคดี อัยการโจทก์นำพนักงานโรงแรมเบิกความยืนยันว่าพวกจำเลยเข้ามาเปิดห้องพักโดยใช้ชื่อปลอม นอกจากนี้ยังนำสืบจากหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ที่พบว่า DNA จากคราบเลือดที่ก๊อกน้ำห้องพักของพวกจำเลย ร วมทั้งคราบเลือดที่รองเท้าผ้าใบของจำเลยที่ 3 และที่แป้นเบรกของรถยนต์อีซูซุ ทรูเปอร์ ทะเบียน 3965 เชียงใหม่ ของจำเลยที่ 1 ตรงกับ DNAผู้ตาย นอกจากนี้ยังพบแผนผังห้องพักภายในโรงแรมที่เป็นลายมือของ ผู้พันตึ๋ง จำเลยที่ 1 ซึ่งคาดว่าเป็นการวางแผนก่อนลงมือฆ่านายปรีณะ อีกทั้ง น.ส.อังคนางค์ ยังให้การยืนยันว่าขณะที่เธอมาพบผู้ตายที่ห้องพักเพื่อตกลงปัญหาส่วนตัว ผู้พันตึ๋ง กับพวกได้บุกเข้ามาแล้วสั่งให้เธอนั่งก้มหน้าแถมยังขู่จะฆ่าหากไม่ปิดปากให้สนิท ทำให้เธอเห็นเพียงปลายเท้าของผู้ตาย ที่ถูกพวกจำเลยจับนอนคว่ำหน้ากับพื้น หลังจากนั้นหนึ่งในพวกจำเลยได้หยิบมีดในกระเป๋าถือของเธอมาเชือดคอผู้ตายหลายครั้ง ก่อนจะใช้ปืนพกของเธอยิงซ้ำที่ศีรษะจนตายสนิท ฝ่าย ผู้พันตึ๋ง เบิกความต่อสู้ว่า ที่เช่าห้องพักโดยใช้ชื่อปลอมเพราะต้องการหนีจากการตามราวีของภรรยาหลวง ส่วนแผนผังโรงแรมที่เขียนนั้นก็เขียนภายหลังเกิดเหตุเพื่อรายงานต่อผู้บังคับบัญชาถึงสถานการณ์ยาเสพติด เนื่องจากสืบทราบว่า บังรอน พ่อค้ายารายใหญ่ที่หลบหนีการติดตามจับกุมของทางการ แอบนัดพบกับภรรยาของ พล.ต.อ.พรศักดิ์ ดุรงควิบูลย์ ผบ.ตร.(ในขณะนั้น) โดยจำเลยเตรียมทำรายงานต่อผู้บังคับบัญชา และเชื่อว่าเป็นมูลเหตุให้ พล.ต.อ.พรศักดิ์ โกรธแค้นจนสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจใต้บังคับบัญชาทำสำนวนกลั่นแกล้งให้ตนต้องรับโทษ ส่วนคราบเลือดที่พบบริเวณก๊อกน้ำห้องพัก ผู้พันตึ๋งอ้างว่าอาจติดมากับพนักงานโรงแรมที่เข้ามาล้างมือหลังจากทำความสะอาดห้องพักผู้ตาย หรือหากจำเลยถูกกลั่นแกล้ง ตำรวจก็สามารถนำคราบเลือดมาใส่ที่อ่างน้ำในห้องจำเลย ส่วนคราบเลือดที่แป้นเบรกรถยนต์ของจำเลยนั้นก็เพราะจำเลยไปเตะสุนัขแล้วขึ้นมาขับรถ ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานทั้งสองฝ่ายแล้วเห็นว่าโจทก์มีผลตรวจพิสูจน์คราบเลือดตามหลักนิติวิทยาศาสตร์ สอดคล้องกับพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุและผลการชันสูตรพลิกศพผู้ตาย ส่วนคำให้การของ น.ส.อังคนางค์ แม้จะเป็นจำเลยร่วม แต่ก็รับฟังได้ เชื่อว่าจำเลยเป็นคนร้ายจริง ข้ออ้างของจำเลยเป็นนั้นเลื่อนลอย ไม่มีน้ำหนักหักล้างงพยานโจทก์ ศาลชั้นต้นลงโทษ จำคุก น.ส.อัญคนางค์ 3 ปี 8 เดือน ฐานรับของโจรและพกพาอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วน ผู้พันตึ๋ง ถูกพิพากษาให้สั่งประหารฐานร่วมฆ่าผู้ตาย แต่ให้ยกฟ้องลูกน้องคนสนิท 2 คน ศาลอุทธรณ์เห็นตามศาลชั้นต้นในส่วนของ น.ส.อัญคนางค์ และผู้พันตึ๋ง แต่พิพากษาแก้ให้ประหารชีวิต 2 นายทหารคนสนิท ศาลฎีกามีคำพิพากษาเป็นที่สิ้นสุด เมื่อวันที่ 29 ก.ย.2549 ยืนตามศาลอุทธรณ์ ให้ประหารชีวิตจำเลยทั้ง 3 คน ปิดตำนานนายทหารผู้กว้างขวางในวงการนักเลงอย่าง ผู้พันตึ๋ง
ปัจจุบัน ผู้พันตึ๋ง ยังคงถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำบางขวาง แต่ที่น่ายินดีคือหลังจากใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญของนักโทษประหารในการยื่นถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.50 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ลดโทษประหารเหลือจำคุกตลอดชีวิต ผู้พันตึ๋ง ถือเป็นบทเรียนสำหรับนายทหารรุ่นหลังที่กำลังเอาเวลาราชการไปรับงานนอกรีต ไม่ว่าจะเป็นคุมผับ คุมบ่อน ทวงหนี้ ไล่ที่ รื้อตลาด และแม่สุดท้ายนายพันนักฆ่าผู้นี้จะรอดชีวิตจากแท่นประหาร แต่เขาก็ต้องดักดานอยู่ในคุกไปตลอดชีวิต สาสมแล้วกับผลกรรมที่ได้ทำเอาไว้
Create Date : 05 พฤษภาคม 2553 |
|
17 comments |
Last Update : 5 พฤษภาคม 2553 9:10:24 น. |
Counter : 13386 Pageviews. |
|
|
|