DR.MOO CAN DO
Group Blog
 
 
มกราคม 2553
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
24 มกราคม 2553
 
All Blogs
 
พลิกย้อน 10 คดีดัง อาชญากรรมแห่งปี"52








แท็กซี่ทมิฬ-ยิงแม่ลูกหั่นศพ

คนเก็บขยะเกือบกินศพเด็ก
ข่าวที่สร้างความตื่นตะลึง หนีไม่พ้นคดีแม่ทำแท้งสับศพลูกทิ้งแล้วคนเก็บขยะเกือบเก็บเอาไปกินเพราะคิดว่าเป็นเนื้อหมู เรื่องนี้เกิดขึ้นตอนบ่ายวันที่ 25 มี.ค. ตำรวจสภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ จ.ปทุมธานี รุดไปตรวจสอบเหตุพบเศษชิ้นเนื้อมนุษย์ที่เพิงพักของนางชะนี กระจ่างจิตร สาวขี่ซาเล้งเก็บของเก่า แถวสะพานกลับรถห้างโลตัส ธัญบุรี ที่บังเอิญไปเก็บเอาเศษชิ้นเนื้อเหล่านี้มาจากถังขยะหน้าหอพักไม่มีชื่อ แถวตลาดรัตนโกสินทร์ 200 ปี ธัญบุรี ซึ่งตอนแรกเธอตั้งใจว่าชิ้นเนื้อที่พบนี้เป็นเศษเนื้อหมู เนื้อไก่ที่แม่ค้าแถวตลาดทิ้งลงถังขยะ จึงเก็บกลับมาทำอาหารเย็นเลี้ยงลูกๆ กับสามี แต่พอแกะถุงออกมาก็ถึงผงะ เมื่อพบว่าเนื้อในถุงเป็นเศษชิ้นเนื้อมนุษย์ ที่มีทั้งท่อนแขน ท่อนขา นิ้วมือนิ้วเท้าชัดเจนจึงรีบแจ้งตำรวจ
หลังตรวจสอบชิ้นส่วนศพ เจ้าหน้าที่ยกกำลังไปที่หอพักดังกล่าว สอบสวนเจ้าของหอได้ความว่าก่อนหน้านี้เพิ่งให้ช่างมาลอกท่อน้ำที่อุดตัน เมื่อทะลวงท่อจึงไปเจอถุงเศษชิ้นเนื้อเข้า เลยให้คนงานไปทิ้งใส่ถังขยะหน้าหอพัก งานนี้ตำรวจขยายผลจนรู้ว่าในหอพักแห่งนั้นนั่นเอง มีน.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 20 ปี พักอยู่ห้อง 305 เพิ่งแท้งลูกไปหมาดๆ นอนซมอยู่ในห้องจึงเข้าสอบสวน ในที่สุดน.ส.เอก็ให้การรับสารภาพ ว่าทำแท้งลูกด้วยน้ำมือตนเอง ที่เลี้ยงไม่ได้เพราะมีฐานะยากจน จึงซื้อเหล้าขาว ยาทัมใจ ยาสตรีเพ็ญภาคมากินจนแท้งลูก เมื่อเด็กออกมาเสียชีวิต จึงไม่รู้จะจัดการกับศพอย่างไร เลยตัดสินใจใช้มีดสับศพลูกในห้องน้ำ แล้วนำเศษชิ้นส่วนใส่ถุงยัดลงท่อระบายน้ำจนเกิดการอุดตัน จนกระทั่งเจ้าของหอต้องจ้างคนงานมาลอกท่อ จึงพบเศษชิ้นเนื้อลูก
ตำรวจควบคุมตัวดำเนินคดีทันที

ขี้เมาหื่นฆ่าข่มขืนสาวป้ายรถเมล์
เหตุฆ่าข่มขืนกลางกรุงเกิดขึ้นตอนสายวันที่ 1 ต.ค. ตำรวจพบศพน.ส.ศศิประภา หรือ "ติ๊ก" วิงวอน อายุ 30 ปี ถูกฆ่าเปลือยอยู่ด้านหลังป้ายรถประจำทาง ฝั่งตรงข้ามวัดศรีบุญเรือง ย่านหัวหมาก เหยื่อถูกบีบคอจนเขียวช้ำสิ้นใจตายอยู่ในหนองน้ำ ในที่เกิดเหตุตำรวจพบพยานที่เห็นเหตุการณ์ บอกว่าเพิ่งต่อสู้กับคนร้ายมาหมาดๆ คนร้ายไม่น่าจะหลบหนีไปไหนไกล เจ้าหน้าที่จึงปิดล้อมสถานที่เอาไว้ จนกระทั่งไปพบตัวไอ้หื่น นายสุวิทย์ บุญไพโรจน์ อายุ 24 ปี หลบอยู่ในป่าหญ้าในสภาพเมามาย คนร้ายให้การรับสารภาพว่าเป็นคนข่มขืนเหยื่อ อ้างว่าเพิ่งตกงานจึงมาดักรอเหยื่อเพื่อขอเงินที่ป้ายรถเมล์ แต่เกิดมีอารมณ์ทางเพศจึงลากเหยื่อเข้าไปในป่าด้านหลังเพื่อข่มขืนกระทำชำเรา แต่เหยือขัดขืนต่อสู้จึงบีบคอจนแน่นิ่ง หลังจากนั้นก็ลงมือค้นหาทรัพย์สินของเหยื่อได้เงินไป 120 บาทเท่านั้น เป็นจังหวะเดียวกับที่มีคนมาเห็นพอดี จึงเกิดต่อสู้กัน ตนเองสู้ไม่ได้จึงหลบหนีไปซ่อนตัวในป่าจนกระทั่งถูกจับ
ในวันเดียวกันนั้น ตำรวจนำตัวนายสุวิทย์ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ท่ามกลางไทยมุงจำนวนมากจนเกิดความอลหม่าน การจากไปของน.ส.ศศิประภา สร้างความเศร้าใจให้กับคนใกล้ชิด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พ่อแม่ของเหยื่อถึงกับไม่ยอมอโหสิกรรมให้คนร้าย เพราะรับไม่ได้ในสิ่งที่ทำกับลูกสาว คดีนี้กลายเป็นเรื่องใหญ่ ส่งผลทำให้เกิดการล้อมคอกตามจุดเปลี่ยวป้ายรถเมล์และสถานที่ทั่วไปในกรุงเทพฯ ที่สุ่มเสี่ยงกับการเกิดเหตุร้าย
ป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำสอง

"สุพรรณ-อยุธยา"ปาหินมหาภัย
คดีปาหินเกิดขึ้นบ่อยครั้ง เปิดฉากจากกรณีที่คนร้ายปาก้อนหินขนาดใหญ่ใส่รถเก๋งนิสสันซันนี่ ของนายสุรชัย สวัสดี อายุ 39 ปี กับนางสุดารัตน์ เอี่ยมยัง อายุ 34 ปี ที่นั่งมากับสมาชิกครอบครัว ประกอบด้วย นางภาพิมล เอี่ยมยัง มารดานางสุดารัตน์ ด.ญ.รุจิรา สวัสดี อายุ 1 ขวบ ด.ช.ณัฐพล สวัสดี วัย 6 ขวบ และด.ช.เพชรรัตน์ ศรีสุข อายุ 10 ขวบ ได้รับบาดเจ็บสาหัสไปตามๆ กัน แต่ที่โชคร้ายกว่านั้น คือ นางภาพิมล ที่นั่งอยู่เบาะหลังเสียชีวิตคาที่ เหตุเกิดตอนค่ำวันที่ 27 พ.ค. ตรงถนนสายโพธิ์พระยา-อ่างทอง อ.เมืองสุพรรณบุรี







(1)-คนเก็บขยะเกือบกินศพเด็ก

(2)สุพรรณ-อยุธยาปาหินมหาภัย

(3)-ออกหมายจับทีมอุ้มฆ่าอัลรูไวลี่


ต่อมาตอนค่ำวันที่ 1 ก.ค. เกิดเหตุซ้ำที่จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อนักร้องวัยรุ่นชื่อดัง "โจอี้ บอย" ซึ่งนั่งรถไปพร้อมกับเพื่อนๆ ชาวคณะ 7 คน ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ มุ่งหน้าไปแข่งขันร่มบินที่จ.ลำปาง เมื่อรถตู้แล่นมาตามถนนหลวงสาย 347 ปทุมธานี-บางปะหัน หลักก.ม. 31-32 ต.ปากกราน ถูกคนร้ายซิ่งมอเตอร์ไซค์ปาหินใส่ โชคดีที่ไม่มีใครได้รับอันตราย และหลังจากนั้นถัดไป 1 ช.ม. ก็เกิดเหตุร้ายขึ้นอีก คราวนี้เกิดกับนายอาคม เปรมสกุล อายุ 29 ปี คนขับรถตู้ที่นั่งมากับครอบ ครัว 7 คน ขับผ่านถนนสาย 356 ตัดถนนสายปทุมธานี-บางปะหัน ก.ม.7 ต.บ้านรุน ถูกวัยรุ่นซ้อนมอเตอร์ไซค์ปาหินใส่กระจกเป็นรูโบ๋ แต่ไม่มีคนเจ็บ ทั้งนี้ ยังไม่รวมรายอื่นๆ ที่เกิดในจังหวัดทางภาคใต้ และรายที่ไม่ได้เข้าแจ้งความ เพราะไม่อยากเสียเวลาในการเดินทาง
แต่ละครั้งยังจับมือใครดมไม่ได้

ฝรั่งผูกคอสยอง"สะพานพระราม8"
เรื่องที่สร้างความปวดหัวให้ตำรวจอีกเรื่อง คือ การตายของชาวต่างชาติที่ตัดสินใจผูกคอกับราวสะพานพระราม 8 กลายเป็นผีหัวขาด ส่วนลำตัวหลุดลอยไปกับสายน้ำ ในตอนแรกตำรวจกังวลว่างานนี้จะเป็นการฆาตกรรม เนื่องจากผู้ตายทิ้งปริศนาเอาไว้หลายอย่าง ที่ส่อไปในทางนั้น ไม่ว่าจะเป็นการเขียนข้อความบอกลาเป็นภาษาอังกฤษแบบคลุมเครือ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องไขปริศนากันอยู่นาน ประกอบกับสภาพศพส่วนหัวไปทาง ลำตัวไปทาง ยิ่งเหมือนการฆ่าชำแหละศพของพวกแก๊งลูกหมู ฆ่าแขวนศพประจาน
แต่เมื่อเจ้าหน้าที่วิเคราะห์อะไรหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นบริเวณใต้สะพานที่มีรอยกระเซ็นขึ้นด้านบนของเลือด บวกกับการตรวจส่วนหัวและส่วนลำตัวของผู้ตาย พบว่าไม่มีร่องรอยถูกทำร้าย ดังนั้น จึงสันนิษฐานว่าผู้ตายกระโดดจากสะพานลงมาเอง แรงดึงของเชือกบวกกับน้ำหนักตัว ทำให้เกิดการกระชากจนเชือกบาดคอขาด แต่ประเด็นที่ว่าผู้ตายจะผูกคอกระโดดลงมาเอง หรือมีคนบังคับให้กระโดดนั้น ไม่มีใครให้คำตอบได้ เพราะไม่มีหลักฐาน สุดท้ายเรื่องมาจบลงตรงที่ตำรวจไปได้พยานปากสำคัญ คือนางวิมล ใจจง เจ้าของเกสต์เฮาส์ และร้านอาหารชัย เวเก็ตทาเรี่ยน เรสเตอรองต์ ถนนสามเสนซอย 4 ที่ออกมายืนยันว่าศพที่พบน่าจะเป็นศพนายเมาริซิโอ โทซาโดรี อายุ 53 ปี ชาวอิตาลี ลูกค้าที่หายตัวไปก่อนพบศพ 1 วัน โดยวิมล บอกว่า นายเมาริซิโอ มีปัญหาไม่มีเงินจ่ายค่าห้อง ตนเองจึงขอร้องให้ออกไปหาที่อยู่ใหม่ ทำให้นายเมาริซิโอแสดงอาการเศร้าออกมาทันที หลังจากนั้นก็ไม่มีใครพบนายเมาริซิโออีกเลยจนกระทั่งพบศพ
ตำรวจจึงปิดคดีลงที่ฆ่าตัวตาย

ออกหมายจับทีมอุ้มฆ่า"อัลรูไวลี่"
แล้วคดีอุ้มฆ่านักธุรกิจซาอุดีอาระเบียคนดัง "นายมูฮัมเหม็ด อัลรูไวลี่" ที่ยืดเยื้อยาวนานมากว่า 19 ปี ก็เดินมาถึงจุดที่พนักงานสอบสวนขออนุมัติออกหมายจับกุม 5 ผู้ต้องสงสัย ที่อาจเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของนายมูฮัมเหม็ด อัลรูไวลี่จนได้ โดยผู้ต้องสงสัย ประกอบด้วย พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม ผบช.ภาค 5, พ.ต.อ.สรรักษ์ หรือสมชาย จูสนิท หน.สำนักงานผบช.ภาค 5, พ.ต.อ. ประภาส ปิยะมงคล ผกก.สภ.น้ำขุ่น จ.อุบลราชธานี, พ.ต.ท.สุรเดช อุดมดี (ออกจากราชการไปแล้ว) และจ.ส.ต.ประสงค์ ทอรั้ง ได้เข้ารับฟังข้อกล่าวหาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนของการพิจารณาคดี ซึ่งคดีนี้เกือบจะหมดอายุความในอีกไม่กี่เดือนนี้ แต่ยังดีที่พนักงานสอบสวนดีเอสไอ สามารถรวบรวมพยานหลักฐาน จนสามารถขออนุมัติออกหมายเรียกผู้ต้องสงสัยเอาไว้ได้
กล่าวถึงเบื้องหลังของคดี นายมูฮัมเหม็ด อัลรูไวลี่ ถูกอุ้มหายตัวไปเมื่อวันที่ 12 ก.พ. 2533 โดยคาดว่าจะเกี่ยวเนื่องกับคดีฆ่านักการทูตซาอุฯ ซึ่งเกิดเหตุเมื่อวันที่ 1 ก.พ. ในปีเดียวกัน แต่ไม่ได้เกี่ยวข้องในฐานะผู้ต้องสงสัยหรือผู้บงการ เพียงแต่นายอัลรูไวลี่อาจเป็นผู้ไขความลับในคดีนี้จึงถูกอุ้ม การดำเนินคดีอุ้มฆ่านายอัลรูไวลี่ กลายเป็นหนังม้วนยาวขึ้นมาทันที ก่อนหน้านี้ผ่านพนักงานสอบสวนมาแล้วหลายชุด หลายรัฐบาลต่างพยายามหาเบาะแสการหายตัวไปของนายมูฮัมเหม็ด อัลรูไวลี่ แต่ทว่าทุกอย่างก็เงียบหายไปทุกครั้ง จนกระทั่งกรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง อดีตอธิบดีดีเอสไอ ได้รับคดีนี้เป็นคดีพิเศษ เมื่อปี 2547 จึงพยายามรวบรวมหลักฐานซึ่งถือได้ว่าชัดเจนที่สุด จนสามารถขออนุมัติออกหมายจับผู้ต้องสงสัยทั้ง 5 คนเอาไว้ได้







(4)-บิ๊กสีกากีฉาวฮั้วเช่าซื้อรถตร.(5)-ตะลึงจับขีปนาวุธเกาหลีเหนือ(6)-สิ้นดาราฮอลลีวู้ด-เดวิดคาราดีน


ก่อนที่คดีจะหมดอายุความอย่างเฉียดฉิว

ลอบสังหาร"สุนัทที เนื่องจำนงค์"
ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ กับการสังหารนางสุนัทที เนื่องจำนงค์ เศรษฐินีไฮโซประธานกรรมการและกรรมการกลุ่มไพร์ม เนเจอร์ กรุ๊ป เจ้าของหมู่บ้านจัดสรรพันล้าน ซึ่งถูกคนร้ายลอบสังหารดับคารถเก๋งบีเอ็มดับเบิลยู หลังขับออกมาจากการตรวจหมู่บ้านไพร์ม เนเจอร์ วิลล่า ย่านประเวศ ในตอนเย็นวันที่ 29 พ.ย. ที่ผ่านมา ถูกคนร้ายจ่อยิง 3 นัด สิ้นใจตายคาที่ การตายของนางสุนัทที เป็นข่าวใหญ่ขึ้นมาทันที เพราะเธอมีดีกรีเป็นถึงนักธุรกิจดัง ในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ของเมืองไทย นอกจากนี้ ยังเป็นภรรยาพล.ต.ต.ปิยะชาติ เนื่องจำนงค์ ลูกชายนายประโยชน์ เนื่องจำนงค์ อดีตส.ส.และรัฐมนตรีอีกด้วย สาเหตุที่ไฮโซสาวผู้นี้ถูกฆ่าตาย มีมากมายหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และเรื่องความขัดแย้งกับเครือญาติคนใกล้ชิด ซึ่งในเรื่องปมธุรกิจ มาจากเรื่องที่ผู้ตายเป็นหนี้นอกระบบจำนวนมหาศาล ขณะเดียวกันก็ยังมีคดีฟ้องร้องกับผู้รับเหมาและลูกค้าเกี่ยวกับเรื่องเงินๆ ทองๆ อีกกว่า 20 คดี ส่วนประเด็นขัดแย้งเครือญาติ ตำรวจก็ให้น้ำหนักไปที่เรื่องนี้ เพราะนายประโยชน์ในอดีตมีภรรยาหลายคน และเป็นนักธุรกิจพันล้านภาคตะวันออก จึงมีธุรกิจให้คนในครอบครัวดูแลแตกแขนงออกไป นอกจากนี้ ยังมีเรื่องที่นางสุนัทที เข้าไปมีปัญหาเรื่องมรดกในตระกูล "เนื่องจำนงค์" เป็นประเด็นล่าสุด ที่ตำรวจกำลังจับตาดูอยู่ ส่วนการตามล่ามือสังหารก็ใกล้ตัวเข้าไปทุกที มีการออกภาพสเกตช์คนร้ายและรวบรวมหลักฐานที่เก็บได้ในที่เกิดเหตุ ไม่ว่าจะเป็นเปลญวนที่คนร้ายผูกอยู่กับต้นไม้เพื่อรอยิงเหยื่อ รวมทั้งก้นกรองบุหรี่สายฝนที่ตำรวจนำไปตรวจหาดีเอ็นเอ เอาไว้เปรียบเทียบกับมือปืนเพื่อปิดคดี
ทุกอย่างกำลังกระจ่างชัดขึ้นเรื่อยๆ

บิ๊กสีกากีฉาว-ฮั้วเช่าซื้อรถตร.
ขบวนการอื้อฉาวในแวดวงสีกากีถูกกระชากโฉมหน้าให้เห็นทันที เมื่อตำรวจกองปราบปรามปฏิบัติการสายฟ้าแลบลุยคดีทุจริตจัดซื้อ-จัดจ้างในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ งานนี้พบว่าราชการเสียหายเป็นวงเงินไม่ต่ำกว่า 12,000 ล้านบาท มูลเหตุมาจากการเช่าซื้อรถจักรยานยนต์และรถยนต์ล็อตใหญ่ของสตช. ในช่วงปี 2550 ซึ่งหลังจากมีการร้องเรียนกันหนาหูว่ามีพฤติกรรมไม่ชอบมาพากลเกิดขึ้น ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงเข้าร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนกองปราบปรามให้สอบสวนเรื่องนี้ กองปราบฯ จึงเดินหน้าทำคดี วันที่ 25 พ.ย. ตำรวจกองปราบปราม แบ่งทีมจู่โจมเข้าตรวจค้นบุคคลที่เกี่ยวข้อง
ทีมแรกไปยื่นหมายเรียกให้นายบัณฑูร สุภัควณิช อดีตผอ.สำนักงบฯ เนื่องจากพบว่าสำนักงบประมาณมีส่วนเกี่ยวพันกับการจ่ายงบในการจัดซื้อจัดจ้างต่างๆ ส่วนกำลังอีกชุดบุกไปที่คฤหาสน์ ย่านปากเกร็ด ของพ.ต.อ.รวมนคร ทับทิมธงไชย อดีตนายตำรวจชื่อดัง ซึ่งผันตัวมาเป็นนักธุรกิจหลายอย่าง ที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับงานประมูลของตำรวจ ส่วนกำลังที่เหลือเข้าค้นบริษัท มิลเลนเนี่ยม มอเตอร์ จำกัด จ.สมุทรปรา การ เป็นโรงงานผลิตรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อไทเกอร์ ที่ชนะประมูลขายรถจักรยานยนต์ให้ตร.แห่งชาติ และเข้าค้นบริษัท อีซูซุ สยามซิตี้ ย่านจตุจักร ที่โยงถึงโครงการเช่ารถตำรวจ และเป็นที่เก็บเอกสารการซื้อ-ขายรถยนต์ที่บริษัทแห่งนี้ การปฏิบัติงานครั้งนี้มีรายงานว่าตำรวจได้หลักฐานเชื่อมโยงระหว่างบริษัทเอกชนกับพ.ต.อ.รวมนคร ซึ่งมีสายสัมพันธ์แนบแน่น และ เป็นหนึ่งในนักธุรกิจที่ร่วมประมูลงานของตำรวจและหน่วยราชการหลายแห่ง โดยเชื่อกันว่ามีนายตำรวจระดับนายพลใหญ่คอยประสานงานให้ความช่วยเหลือ
เป็นอีกเรื่องฉาวโฉ่วงการสีกากี


ตะลึงจับขีปนาวุธเกาหลีเหนือ
ข่าวครึกโครมส่งท้ายปีหนีไม่พ้นการจับอาวุธสงครามล็อตใหญ่ ที่ตำรวจไทยสามารถจับกุมอาวุธสงครามที่ขนมากับเครื่องบินลำเลียงแบบทหาร ขนาด 4 เครื่องยนต์ รุ่น ไอแอล 76 สัญชาติจอร์เจีย ที่มาจอดแวะเติมน้ำมันที่สนามบินดอนเมือง ในวันที่ 12 ธ.ค. ที่ผ่านมา โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้รับรายงานว่า จะมีการลักลอบขนอาวุธจำนวนมากมากับเที่ยวบินนี้ จึงรุดเข้าตรวจสอบพร้อมอายัดอาวุธสงคราม ประกอบด้วย หัวจรวด ท่อส่งจรวด จรวดอาร์พีจี รวมทั้งท่อส่งจรวดชนิดที่ยิงจากพื้นสู่อากาศ หรือที่เรียกว่า" กราวด์ มิสไซล์" เอาไว้ได้ ซึ่งอาวุธทั้งหมดเป็นอาวุธทำลายล้าง มีน้ำหนักรวม 35 ตัน มีมูลค่าประมาณ 500 ล้านเหรียญ นอกจากอาวุธร้ายแรงเหล่านี้ เจ้าหน้าที่ยังจับกุมชาวต่างชาติ 5 คน ที่มากับเครื่องบินไว้ดำเนินคดีในข้อหามีอาวุธและเครื่องกระสุนที่ไม่สามารถให้มีไว้ในครอบครองได้ ซึ่งถือเป็นข้อหาหนักในเมืองไทย
จากการสอบสวนบุคคลทั้ง 5 ให้การว่าไม่รู้เห็นอะไร พวกตนเป็นเพียงพนักงานบริษัทรับจ้างขนส่งสินค้าทางอากาศเท่านั้น เข้าใจว่าของเหล่านี้เป็นท่อส่งน้ำมัน ไม่ใช่อาวุธ และที่แวะเมืองไทยก็เพื่อแวะเติมน้ำมันจนกระทั่งมาถูกจับ แต่ในทางลับเจ้าหน้าที่สืบพบว่าพวกนี้ทำเป็นขบวนการ บินไปรับอาวุธเหล่านี้มาจากประเทศเกาหลีเหนือ เพื่อไปส่งให้ที่จุดหมายปลายทาง การจับกุมอาวุธเหล่านี้ จะต้องปฏิบัติตามมติสหประชาชาติ (ยูเอ็น) คือ เมื่อพบอาวุธที่ละเมิดมติยูเอ็นก็จะต้องยึดไว้ หากเป็นอาวุธร้ายแรงจะต้องถูกทำลาย ซึ่งในชั้นนี้รัฐบาลไทยกำลังพิจารณาอยู่ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
จะทำลายอาวุธเหล่านี้หรือจะเก็บเอาไว้ใช้เป็นเขี้ยวเล็บของประเทศ!!?

สิ้นดาราฮอลลีวู้ด"เดวิด คาร์ราดีน"
ชื่อของ "เดวิด คาร์ราดีน" พระ เอกหนังกังฟูชื่อก้องโลกถูกลบออกจากสารบบดาราฮอลลีวู้ดทันที หลังจากพบศพดารารุ่นเก๋าวัย 73 ปี เสียชีวิตปริศนาภายในห้องพัก 352 โรงแรมปาร์คนายเลิศ ย่าน ถ.วิทยุ เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. ที่ผ่านมา ขณะเดินทางมาถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องสเตรตช์ ในประเทศไทย สภาพศพ "คาร์ราดีน" ตายสุดพิลึก พิลั่น ศพอยู่ในท่านั่งไม่สวมเสื้อผ้า ซุกอยู่ในตู้เสื้อผ้าภายในห้องนอน มีเชือกสีเหลืองผูกรอบลำคอ ปมชี้ไปทางด้านหลังลักษณะเป็นเงื่อนรูดได้ ที่ข้อมือทั้ง 2 ข้างแขวนอยู่กับตู้เสื้อผ้า โดยมีเชือกสีดำเส้นเล็ก ผูกต่อกับเชือกสีเหลืองจากบริเวณลำคอมัดดึงรั้งที่ปลายองคชาต และถุงอัณฑะ ใบหน้ามีเลือดคั่ง และพบบาดแผลถลอกจากการถูกรัดที่บริเวณรอบลำคอ และข้อมือทั้งสองข้าง ในห้องนอนไม่พบร่องรอยการต่อสู้ใดๆ ทรัพย์สินไม่มีอะไรสูญหาย
การจากไปของ "คาร์ราดีน" เกิดเสียง วิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง สำนักข่าวทั่วโลกพากันให้ความสำคัญ รายงานข่าวนี้กันหลายประเด็น โดยมีการตั้งข้อสังเกตว่าดาราอเมริกันรายนี้อาจจบชีวิตเพราะพลาดพลั้งจากการเสพกามวิตถาร ที่เรียกว่า "ออโต้อีโรติกา" หรือการจงใจทำตัวเองให้ขาดอากาศหายใจ เพื่อปลุกอารมณ์เพศให้ถึงจุดสุดยอด อย่างไรก็ตาม ก็หนีไม่พ้นข้อกังขาที่ญาติๆ มองว่าคาร์ราดีนอาจถูกแก๊งมาเฟียกังฟูใต้ดินฆาตกรรม หรือไม่ก็เป็นผลงานของกะเทยคู่ขาเป็นคนลงมือฆ่าโดยจัดฉากให้ดูเหมือนฆ่าตัวตายอย่างแนบเนียน แต่สุดท้ายก็ไม่มีใครออกมาคัดค้านหรือติดใจในการตายของ "เดวิด คาร์ราดีน"
ตำรวจไทยจึงสรุปสำนวนว่าน่าเชื่อว่าไม่มีผู้ใดทำให้เสียชีวิต



ขอขอบคุณข้อมูลจากข่าวสด


Create Date : 24 มกราคม 2553
Last Update : 7 กุมภาพันธ์ 2553 10:44:22 น. 1 comments
Counter : 5171 Pageviews.

 
พวกคนร้ายพวกนี้ต้องกำจัดวะ
ถ้าพ่อแม่มันโดนมั่งละ


โดย: เมรี IP: 125.27.248.18 วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:15:17:54 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

DR.MOO CAN DO
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 42 คน [?]




ผมเป็น นิติพยาธิแพทย์ หรือ จะเรียกว่า หมอนิติเวช ก็ได้ครับ นิติพยาธิแพทย์ เป็นแพทย์เฉพาะทางสาขาหนึ่ง ซึ่งเมื่อเรียนจบแพทย์ทั่วไป 6 ปีแล้ว ก็ต้องเรียนต่อเฉพาะทาง นิติพยาธิอีก 3 ปี และเมื่อสอบผ่าน ก็จะได้รับวุฒิบัตรเป็นผู้เชี่ยวชาญสาขานิติเวชศาสตร์ และได้เป็นนิติพยาธิแพทย์ โดยสมบูรณ์
หน้าที่ของหมอนิติเวช แบ่งออกเป็น 2 ส่วนใหญ่ๆ
ส่วนแรก จะเกี่ยวข้องกับผู้ป่วยคดี โดยในผู้ป่วยคดีนั้นแพทย์นิติเวชจะมีหน้าที่ในการตรวจ และให้ความเห็นกับพนักงานสอบสวนเกี่ยวกับบาดแผลที่ตรวจพบ ซึ่งตำรวจจะนำไปใช้ในการตั้งข้อกล่าวหากับคู่กรณี และหน้าที่ต่อมาของแพทย์นิติเวชคือการเป็นพยานในชั้นศาลในคดีดังกล่าว
ส่วนที่สอง จะเกี่ยวข้องกับผู้เสียชีวิต โดยในกรณีผู้เสียชีวิตนั้นแพทย์นิติเวชมีหน้าที่ในการตรวจสถานที่เกิดเหตุในกรณีตายผิดธรรมชาติตามที่กฎหมายกำหนด และหากมีความจำเป็นต้องผ่าชันสูตร ก็จะต้องมีการทำรายงาน และให้ความเห็นเกี่ยวกับสาเหตุของการเสียชีวิต ส่งให้พนักงานสอบสวน สุดท้ายหน้าที่หลักที่สำคัญโดยหลีกเลี่ยงไม่ได้คือการเป็นพยานในชั้นศาลในคดีนั้นๆครับ
ประวัติการศึกษา
1.แพทยศาสตร์บัณฑิต คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
2.วุฒิบัตรผู้เชี่ยวชาญสาขานิติเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
3.ประกาศนียบัตร “Crime Scene Investigation” โครงการร่วมระหว่าง International Law Enforcement Academy กับ Federal Bureau of Investigation Academy
4.ประกาศนียบัตร “การบริหารงานโรงพยาบาล” คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
ผลงาน
1.อาจารย์ประจำภาควิชานิติเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มศว.
2.อาจารย์พิเศษ สอนนักศึกษาชั้นปีที่ 3 โรงเรียนนายร้อยตำรวจ
3.อาจารย์พิเศษ สอนนักศึกษาปริญญาโท สาขานิติวิทยาศาสตร์ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ
4.อาจารย์พิเศษ สอนนักศึกษาปริญญาโท สาขานิติวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร
5.วิทยากร หัวข้อ "ICD-10" ของกระทรวงสาธารณสุข
6.วิทยากร หัวข้อ "การตรวจสถานที่เกิดเหตุ" ของมูลนิธิร่วมกตัญญู และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
7.วิทยากรอบรมหลักสูตรนายร้อยตำรวจอบรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
8.วิทยากร หัวข้อ "KPI รายบุคคล" ให้กับโรงพยาบาลและมหาลัยวิทยาลัย ในภาครัฐ
9.วิทยากร หัวข้อ "Living will" ให้กับโรงพยาบาลในภาครัฐและเอกชน10.วิทยากร หัวข้อ "นิติเวชศาสตร์กับงานด้านโบราณคดี" ให้กับคณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร
11.ร่วมเขียนหนังสือ "KPI รายบุคคล"
12.ร่วมเขียนหนังสือ "มาตรฐาน ICD-10, ICD-9"
13.ที่ปรึกษารายการ "เรื่องจริงผ่านจอ" และ "Redline"
14.บทความทางวิชาการและผลงานวิจัยทั้งในและต่างประเทศ 15 เรื่อง
15.ปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์ ตั้งแต่ ปี พศ.2553
16.ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการศูนย์การแพทย์สมเด็จพระเทพ ฯ คณะแพทยศาสตร์ มศว. ตั้งแต่ปี พศ.2551
ผศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี (DR.MOO CAN DO)
New Comments
Friends' blogs
[Add DR.MOO CAN DO's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.