Group Blog
 
<<
มีนาคม 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
4 มีนาคม 2553
 
All Blogs
 

4 มีค 53 เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง ตอนที่สอง

วันนี้พาท่องเที่ยวภูหลวงต่อจากเมื่อวานค่ะ เริ่มที่บริเวณ "ผาเยือง"
"เยือง" เป็นคำพื้นเมือง หมายถึง เลียงผา
บริเวณภูหลวง ยังพบ เลียงผา ได้บ้าง ออกหากินยอดของต้นไม้ เฟิร์นข้าหลวง และกล้วยไม้ ในเวลากลางคืน พบเห็นร่องรอยการกัดกินยอดต้นไม้ได้ทั่วๆไปบริเวณผาเยืองนี้ค่ะ





ผาเยือง อยู่บริเวณด้านหลังค่อนมาทางขวาของพระตำหนัก เป็นบริเวณที่ร่มครึ้ม มีอากาศเย็นสบาย มีลมเย็นพัดขึ้นมาจากหุบเขาด้านล่าง ภาพบรรยากาศ บริเวณผาเยือง มีรั้วป้องกันไม่ให้ตกลงไปด้านล่าง





ภาพพระตำหนัก ถ่ายจากบริเวณผาเยือง



ธงชาติไทยบริเวณด้านหน้าพระตำหนัก ให้อารมณ์และความระลึกได้ถึงความเป็นคนไทย เมื่อหลายสิบปีก่อนบริเวณนี้เคยเป็นสมรภูมิรบนองเลือดของคนไทยที่ต่างความคิดเห็นกัน



ภาพบรรยากาศ ป่าภูหลวงโดยรอบพระตำหนัก







ต้นกล้วยไม้ ตระกูล "สิงโต" บริเวณด้านหน้าพระตำหนัก
"สิงโต" หมายถึง กล้วยไม้ที่มีหัวเดียวใบเดียว






กล้วยไม้ดินบริเวณ หน้าห้องน้ำ
"เอื้องสำเภางาม" มีทั้งดอกสีชมพู และเมื่อเดินเข้าไปในป่าเราพบ ต้นดอกสีเหลืองอีกต้นหนึ่ง เอื้องสำเภางามนี้ไม่สามารถเอาไปปลูกในพื้นราบได้ ถึงใครจะแอบหยิบไปก็ไม่ออกดอกค่ะ










เอื้องคำตาดำ หรือ แววมยุรา





กล้วยไม้สองชนิดนี้ รูปแบบและสีสวยพยายามจดจำชื่อเพื่อมาเล่าต่อให้ได้ค่ะ แต่อีกหลายชนิดจำไม่ได้



สิ่งที่สะดุดตา คือก้อนกลมๆบนต้นไม้ คิดไปเองว่าเป็นปมของต้นไม้ที่บอกถึงอายุที่ยาวนาน เจ้าหน้าที่ป่าไม้ ว่า ชื่อ "ก๊อกมอง" เป็นกาฝากชนิดหนึ่งที่ไม่แทงรากเข้าแย่งอาหารจากต้นที่มันเกาะเหมือนกับกาฝากทั่วไป ที่ทำความเดือดร้อนให้ต้นที่ถูกเกาะ ก๊อกมอง เพียงแต่เกาะเฉยๆ และยื่นรากของตนเองลงไปดูดอาหารจากพื้นดิน







หลังจากเดินชมบริเวณรอบนอกแล้ว ต่อไปจะผ่านประตูทางเข้าเพื่อชมป่าภูหลวง เป็นระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร ซึ่งควรมีเจ้าหน้าที่ป่าไม้นำทาง เพราะมีทางแยกหลายทาง อาจหลงทางได้ วันนี้เราขึ้นมาวันสุดท้ายของวันหยุด นักท่องเที่ยวไม่มากนัก ครั้งก่อนที่ขึ้นมานั้นนักท่องเที่ยวและชมรมถ่ายภาพต่างมาตั้งกล้องถ่ายภาพกันจนแน่นทางเดิน ซึ่งทางเดินเที่ยวภายในป่านี้เป็นทางแคบๆ กว้างประมาณ 1-1.5 เมตร บนทางเดินเป็นก้อนหินสลับกับทรายละเอียดสีขาว สองข้างทาง เป็นก้อนหินและต้นไม้ กล้วยไม้ต่างๆ ซึ่งทะยอยกันออกดอก นับเป็นเสน่ห์ของภูหลวง ที่ชักชวนให้อยากขึ้นมาดูตลอดทั้งปี เพราะแต่ละช่วงเวลาของปี จะพบดอกไม้ต่างชนิดกัน



ปิดท้ายด้วยการนำทางของเจ้าหน้าที่ป่าไม้ กำลังจะพาเข้าชมป่าภูหลวง ผ่านประตูที่ลานสุริยัน ซ้ายมือเป็นต้นสนต้นใหญ่ รูปทรงสวยงามค่ะ




 

Create Date : 04 มีนาคม 2553
2 comments
Last Update : 4 มีนาคม 2553 20:52:31 น.
Counter : 2832 Pageviews.

 

สวัสดียามบ่ายครับ

แวะมาชมดอกกล้วยไม้สวยๆ ที่ภูหลวงครับ ผมเคยไปแต่ภูกระดึงแต่ภูหลวงนี่ ยังไม่เคยไปเลยครับ เพราะรู้สึกว่าน่าจะเหมาะกับการไปเดินป่าศึกษาธรรมชาติดูพันธุ์ไม้สวยๆ ซะมากกว่าที่จะไปชมวิวทิวทัศน์สวยๆ แบบภูกระดึง และอีกอย่างต้องขออนุญาติเข้าชมด้วยใช่ไหมครับ เพราะเป็นแค่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ไม่ได้เป็นอุทยานแห่งชาติ

 

โดย: NET-MANIA 5 มีนาคม 2553 15:02:25 น.  

 

-ภูหลวงเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าค่ะ ไม่เหมือนอุทยานแห่งชาติ ฟังจากเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ทราบแต่เพียงว่า ที่พักเปิดให้พักฟรี ติดต่อมาล่วงหน้า ไม่มีอัตราค่าเข้าพัก แล้วแต่จะให้ เจ้าหน้าที่ป่าไม้จึงค่อนข้างขาดแคลน งานลำบากอันตรายจากการปะทะกับผู้บุกรุก และไม่มีรายได้พิเศษ ฤดูฝนมักปิดไม่ให้พักเพราะที่พักชื้นเกินไปค่ะ
- มีการเก็บค่าขึ้นชม ที่บริเวณที่ทำการ อัตราไม่แพงตามในรูปค่ะ
-การเดินทางสะดวกกว่าภูกระดึง เพราะรถยนต์จอดได้ถึงที่ เด็กๆนั่งรถไปสะดวกไม่ต้องเดินเหมือนภูกระดึงค่ะ

 

โดย: mcayenne94 5 มีนาคม 2553 22:35:24 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


mcayenne94
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 36 คน [?]




Bangkok

Kyoto

Sydney

Mcayenne94's Diary มีวัตถุประสงค์เพื่อบันทึกเรื่องราวของเจ้าของบ้านและสิ่งแวดล้อม ไม่มีวัตถุประสงค์ เพื่อการ จัดจำหน่าย ต้นไม้ดอกไม้ หรือสิ่งใด อนุญาตให้นำภาพถ่าย พร้อมชื่อMcayenneผู้ถ่ายภาพไปใช้ประโยชน์ได้ และสงวนสิทธิ์ไม่อนุญาตให้นำภาพถ่าย Mcayenne ไปใช้ โดยการดัดแปลงตัดต่อหรือลบชื่อภายในภาพ
Friends' blogs
[Add mcayenne94's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.