หลังจากมีอาการผิดปกติ และตรวจพบความผิดปกติด้วยอุลตร้าซาวด์ซึ่งเป็นคลื่นเสี่ยงความถี่สูง น้องหมอเชี่ยวชาญด้านมะเร็งไม่วางใจขอให้ตรวจเพิ่มเติมและได้สอบถามรังสีแพทย์ว่า ระหว่าง CT scan และ MRI อย่างไหนจะให้รายละเอียดได้ดีกว่ากัน สรุปว่า MRI "พี่ MRI มันจะน่ากลัวหน่อยๆนะ พี่หนูเคยทำบอกน่ากลัวมาก ถ้าไม่จำเป็นไม่อยากให้พี่ทำเลยล่ะ "
งดน้ำงดอาหารตั้งแต่เมื่อคืน เมื่อวานก็เจาะเลือดไปครั้งหนึ่งเตรียมตัวทำ MRI เพราะถ้าค่าไต BUN Creatinine สูงผิดปกติก็ทำไม่ได้เพราะต้องฉีดสารบางอย่าง ถ้าไตวายจะเป็นอันตรายขับสารนั้นไม่ออก โชคดีค่าปกติ เช้านี้ไหนๆก็งดน้ำงดอาหารและไปโรงพยาบาลก็เจาะเลือดชุดใหญ่ตามที่หมออายุรกรรมให้ตรวจซะเลย จะได้ไม่ต้องไปหลายรอบ แงๆ สองวันนี้โดนไปสองเข็มแล้ว ยังดีเลือกมือโปรเข็มเล็กๆเจาะทีเดียวได้ หลายคนอยากบริการเชิญนั่งจะช่วยเจาะให้ ต้องขอโทษด้วยไปไม่ได้ เส้นหายากกลัวถูกควานเคยถูกไปสามเข็มเข็ดเลยค่ะ ขอจองตัวคนนี้ล่ะจองมาตั้งแต่เมื่อวาน ขอบคุณมากๆเลยนะคะ
8.00 เปลี่ยนเสื้อผ้า เตรียมตัวทำ MRI เคยแต่สั่งคนอื่นทำ ไม่เคยทำเองสักที เครื่อง CT เป็นวงกลมๆ ก็ยังดูหน้าตาดีกว่านี้เพราะวงยังกว้างขวาง MRI เป็นเหมือนท่อประปา วงกลมยาวๆ แต่เส้นผ่าศูนย์กลางมันเล็กมาก จะต้องเข้าไปทำนานชั่วโมงกว่า ทั้งที่เป็นคนไม่ได้ขี้กลัวอะไรสักอย่าง แต่วงมันเล็กมาก เขาบอกว่ามีแค่สองขนาด 60 กับ 70 เซนติเมตร แต่เครื่องนี้ 60 ซม. โหทำไมไม่ซื้อวงใหญ่ๆล่ะ แล้วคนอ้วนก็เข้าไม่ได้สิ ใช่ครับ คนอ้วนทำไม่ได้
มันเป็นการตรวจที่ทรมานสุดๆเลย นอนหงายลงบนเตียงมีผ้ารองสีฟ้าดำๆ คงไม่เคยซักเลยมั้ง ให้หนุนหมอนสีเขียวแข็งคล้ายๆหินตัวพลาสติกที่คลุมหมอนก็เหนียวหนับสงสัยไม่เคยเช็ด เอาสลิงรัดหน้าท้องแน่นพอดีชนิดหายใจกระเพื่อมบอกให้คลายให้หน่อยหายใจไม่ออก เขาบอกไม่ได้ต้องให้รู้การหายใจด้วย เอาแผ่นรับภาพวางบนร่่างกายส่วนที่จะตรวจที่ละส่วน ช่องท้องส่วนล่าง เอาแผ่นรัดให้ติดแน่นกับตัวอีก เตรียมตัวไหลเข้าไปในอุโมงค์นั้น
มันเป็นอุโมงค์ที่เล็กมาก ขนาดแทบพอดีกับรอบตัว เราถามเขาว่าถ้าอ้วนกว่านี้ก็เข้าอุโมงค์ไม่ได้สิ เขาบอกใช่ อุโมงค์นี้เส้นผ่าศูนย์กลางแค่ 60 ซม. ลองคิดดูว่านอนอยู่ตรงเส้นผ่าศูนย์กลาง ก็หมายความว่าจากพื้นเตียงมีระยะทางแค่ 30 ซม รวมหมอนรวมหัว ก็ถึงผนังอุโมงค์ด้านใน ต้องนอนห้ามกระดุกกระดิกแม้แต่เล็กน้อย เป็นเวลาชั่วโมงกว่าๆ แขนสองข้างยกขึ้นขนานหูสองข้างบนหมอน เราถามเขาว่าถ้าเราเหนื่อยแน่นหรือมีปัญหาทำไงล่ะ จะร้องเรียกใครก็ไม่ได้ยิน เขาให้ลูกบีบถือไว้กับมือ เราลองบีบมีเสียงดังเบาๆ เอาละวะฝากความหวังไว้กับมัน อย่าได้ทำตกจากมือ ไม่งั้นอุโมงค์นี้พรากวิญญาณแน่
เขาหยิบหูฟังเก่าๆเหนียวๆลักษณะเดียวกันคือคงไม่เคยเช็ดเลย เอามาให้ครอบหู มันจะมีเสียงดังให้ครอบเอาไว้ เตียงค่อยๆเลื่อนเข้าไปในอุโมงค์
ตัวเราทั้งตัวเข้าไปอยู่ในอุโมงค์ ไม่มีส่วนใดโผล่ออกมาเลย ผนังอุโมงค์อยู่ห่างจากลูกตาประมาณ 8 ซม. เกิดมาไม่เคยทรมานขนาดนี้เลย เครื่องเริ่มทำงาน มีเสียงดังลั่นอยู่ในอุโมงค์ เกือบตลอดเวลา เป็นเสียงตอดๆต่างโทนต่างจังหวะ เหมือนเพลง นิวเอจ ดูลมหายใจ พยายามทำสมาธิ ต่อสู้กับความคิดที่เพิ่มความทุกข์ให้ตัวเอง "เราคงเคยทรมานคนไว้มากนะ คงส่งตรวจไว้หลายคน หรือไปทรมานกักขังใครไว้แหง หรือว่าเราฝังทั้งเป็นใครไว้บ้างรึเปล่านะ " ยิ่งอยากนิ่งความคิดฟุ้งซ่านก็ยิ่งประเดประดังเข้ามา อ้อ จิต ความคิดเราบังคับไม่ได้ ลองหยุดคิด อยู่กับลมหายใจ พุทโธ สวดมนต์น่าจะเป็นวิธีดีที่สุด เป็นช่วงเวลาที่เราได้มีเวลาว่างระลึกถึงครูบาอาจารย์ที่เคารพหลายองค์ แผ่เมตตาให้กับคนอื่นๆที่มานอนบนเตียงนี้ คงทรมานไม่แพ้เรา ใครจะเข้าใจ
ความปวดเมื่อยตามต้นคอบั้นเอวหลังและแขนค่อยๆเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ช่วงเริ่มทำใหม่ๆถ้าไม่รู้สึกอายเราคงตะเกียกตะกายออกจากเครื่องกลับบ้านเสียแล้ว แต่ด้วยความอาย บทสวดมนต์ที่คุ้นเคยนำมาสวดไปเรื่อยๆ คนที่ติดอยู่ใต้ซากตึกคงเป็นอย่างนี้เอง กระดุกกระดิกไม่ได้ ครึ่งชั่วโมงแรก นานมากแต่เราก็พอคาดเดาเวลาได้จากบทสวดมนต์ที่เคยสวดว่าเหลือเวลาอีกเท่าไหร่
เสียงดังของเครื่องหยุดลง คนเดินเข้ามาในห้อง ปรับแผ่นรับภาพเป็นบริเวณอื่น บริเวณนี้ใช้เวลาน้อยกว่าเดิม เราก็พอทนไหว จะทนต่อไป แม้จะอึดอัดแทบขาดใจ เครื่องหยุดลงอีกครั้ง เจ้าหน้าที่บอกว่าจะฉีดยาเราแล้ว
"ไม่เห็นบอกก่อนเลยจะฉีดยาด้วย ไม่เอาแล้ว ไม่ฉีดยา เดี๋ยวแพ้ยา เห็นแค่ไหนก็แค่นั้น " แค่ไม่ฉีดยาเราก็ทรมานจะแย่อยู่แล้ว ฉีดยาอีกเกิดแน่นหายใจไม่ออก จะทำยังไง กระดุกกระดิกก็ไม่ได้ มัดเราไว้ทั้งตัว ถ้าขยับตัวไปโดนผนังด้านในอุโมงค์ก็จะร้อนอีก "ฉีดยาแล้วตรวจต่ออีกไม่นาน ไม่เคยพบคนเคยแพ้เลยค่ะ ไม่เหมือนที่ฉีดเวลาทำ CT ยาคนละตัว" "ฉีดเยอะมั้ย" "18ซีซี ค่ะ โอยจะไม่ไหวแล้วนะนี่ วันนี้สองวันนี้เจาะไปสองเข็มแล้ว น่าจะใส่ แคทเอาไว้ ไม่ต้องเจาะหลายๆรอบ" แค่ 18 ซีซี "แล้วถ้าแพ้ล่ะ เคยมีคนแพ้มั้ย เขาเป็นยังไงกัน" ถ้าแพ้พบน้อยมาก ก็มีลมพิษ ฉีดปุ๊บก็ขึ้นเลยค่ะ " " เอาฉีดก็ฉีด " " อันนี้น้อยนะคะ CT ฉีดตั้ง 80 ซีซี " เราไม่อยากจะมองเข็มซะแล้ว ไม่รู้สึกเจ็บคงจะมือเบาฝีมือดีนะ ถึงเอามาไว้ห้องนี้ เขาเลื่อนตัวเราเข้าไปในอุโมงค์ ให้ฟังเสียงนิวเอจอีก ฉีดเสร็จแล้วค่ะ ใช้เวลาอีกสักครึ่งชั่วโมง ให้หายใจเข้า หายใจออก หยุดหายใจเป็นครั้งคราว เฮ้อ "มีคนเลิกทำกลางคันกันเยอะใช่มั้ย" "ใช่ครับ" "นั่นสิต้องอดทนมากเลย ถ้าเด็กเล็กทำไม่ได้แน่ๆ มันอึดอัดบอกไม่ถูกเลย" ขอบอกลา MRI ถ้าไม่จำเป็นขออย่าได้มีใครเข้าไปตรวจเลย เราไม่เคยบอกลาการตรวจใดๆสักอย่าง แต่ MRI นี่เข็ดจริงๆทีเดียว ไม่น่าพิสมัยเอาซะเลย
โชคดีที่ผลตรวจไม่พบอะไรมากเกินกว่าที่รู้อยู่แล้ว ไม่มีลักษณะร้ายแรงหรือกระจายไปที่อื่น คาดเดาว่าน่าจะไม่ใช่เนื้อร้าย ก็ติดตามกันต่อไป ช่วงแรกทำอุลตราซาวด์ซ้ำถี่หน่อย ถ้าดูว่าลักษณะไม่น่ากลัว แก่การจะเป็นเนื้อร้ายและสบายดีไม่มีอาการผิดปกติ ก็ติดตามห่างหน่อย ไปเรื่อยๆ ก็ไม่อยากถูกผ่าตัดนินา
อ่านแล้วเข้าใจเลยค่ะ นึกอยากไปตรวจสุขภาพประจำปี
แต่ก็กลัวจะเจออะไรที่ไม่อยากเจอนี่แหละ
ไม่จำเป็นก็ไม่มีใครอยากเข้าโรงพยาบาลหรอกนะออเจ้า