Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2553
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
29 ตุลาคม 2553
 
All Blogs
 
29 ตค 53 เวียงจันทน์









          ไปอีสานครั้งนี้ ได้มีโอกาสข้ามโขงไปเวียงจันทน์เป็นครั้งแรกค่ะ
ไปทางสะพานมิตรภาพไทยลาว จังหวัดหนองคาย


เรานำรถยนต์ไปฝากที่รับฝากรถ นั่งรถสกายแลบฟรีมายังชายแดน ผ่านขั้นตอนการตรวจพาสปอร์ต เป็นวันหยุดยาว มีคนผ่านเข้าไปลาวค่อนข้างมาก ระยะเวลารอขั้นตอนการผ่านชายแดน เสียเวลานานมากค่ะ ขาไปเราติดรถทัวร์ของคณะทัวร์ข้ามไปลงที่เวียงจันทน์ สำหรับคนที่ข้ามเองนั้นสามารถนั่งรถโดยสารข้ามชายแดนได้ตลอดเวลาค่ะ รถจะพาข้ามแดนไปยังด่านฝั่งตรงข้าม เมื่อผ่านชายแดนแล้วสามารถหารถโดยสาร หรือรถเช่าท่องเที่ยวต่อไปได้ อัตรารถเช่ารวมทั้งหมด วันละ 950 บาท









หลังจากนั่งรอประทับตราพาสปอร์ตทางฝั่งไทยเรียบร้อย เรานั่งรถข้ามสะพานมิตรภาพ ไทยลาว สองข้างสะพานประดับธงชาติ ทางฝั่งไทยเป็นธงไทย เลยกลางสะพานเป็นฝั่งลาวเป็นธงประเทศลาว กลางสะพานมีรางรถไฟ วิ่งระหว่างไทยลาว ซึ่งวิ่งผ่านประมาณวันละสามเที่ยว เมื่อขบวนรถไฟมาจะปิดถนนไม่ให้รถขึ้น







เมื่อข้ามมาฝั่งลาว รอขั้นตอนการผ่านด่านอีกประมาณ สามสิบนาที วันนี้เรานั่งรถต่อไปเวียงจันทน์ อยู่ห่างชายแดน ประมาณยี่สิบกิโลเมตร บรรยากาศในเมืองเวียงจันทน์ คล้ายเมืองขนาดปานกลางของประเทศไทย แต่ยังคงวัฒนธรรมท้องถิ่นไว้ เครื่องแบบผู้หญิงส่วนใหญ่นุ่งผ้าซิ่นประมาณครึ่งหน้าแข้งรวมทั้งเครื่องแบบนักเรียน





สภาพอากาศร้อน คล้ายประเทศไทยทำให้อ่อนเพลีย ถนนมีฝุ่นจากดินสีแดงกระจายทั่วไป คนขับรถพาไปชมตลาดและตลาดจีน คนลาวมีค่าครองชีพสูงกว่ารายรับมาก หลังจากเดินชมตลาดรู้สึกเหนื่อยมาก จุดที่เหลือที่ตั้งใจไปชมนั้น วันนี้จึงได้เพียงนั่งชมบรรยากาศจากบนรถที่พาเที่ยว ยังไม่มีโอกาสเดินเข้าไปชม หอประดิษฐานพระแก้วมรกต เมื่อครั้งยังอยู่เวียงจันทน์ ซึ่งเป็นหอสูงใหญ่สวยงาม ถ่ายภาพจากในรถ





วัดสีเมือง เป็นวัดที่ประดิษฐานหลักเมืองเวียงจันทน์ และพระพุทธรูป ชาวเวียงจันทน์เคารพนับถือในความศักดิ์สิทธ์





ของไหว้พระภายในอุโบสถ นอกจากบายศรีปากชามขนาดเล็ก ราคา 20 บาท ก็มีเทียนสีเหลือง ที่ทำเป็นดอกไม้สวยงาม ประดับบนซุ้มไม้ ราคา 100 บาท ไม่เคยเห็นที่อื่น เห็นว่าไม่แพง อยากนำกลับเมืองไทย แต่ราคาถูกนี้เป็นแบบเวียนเทียนของวัด นำกลับบ้านไม่ได้ค่ะ





มีหลายแบบหลายขนาดให้เลือก ราคาเดียว เลือกอันไม่ใหญ่เกินไปจะได้ไม่หนักมาก มองไปมาให้ความรู้สึกคล้าย การประดับตกแต่งปราสาทที่ไว้ศพของชาวบ้านทางภาคเหนือค่ะ





ภายในอุโบสถ มีพระพุทธรูปแก้วสีเขียว สวยงามค่ะ ภายในประดับตกแต่งเป็นสีทอง ไม่ละเอียดวิจิตรมากนัก แต่ก็สวยงามพอควร







เดินผ่านประตูเข้าไปส่วนใน เป็นเสาหลักเมืองของเวียงจันทน์







ทางผ่านเพื่อกลับเมืองไทย ผ่านประตูชัย หยุดถ่ายภาพเป็นที่ระลึก







พระธาตุหลวงเวียงจันทน์ เรียกเป็นพระธาตุพี่ของพระธาตุพนมที่ประเทศไทยค่ะ ไม่ได้เดินเข้าไปภายใน เพราะอากาศร้อน ไม่ได้รับประทานอาหารในลาว ร้านตามข้างทาง เต็มไปด้วยฝุ่นดินแดง ในย่านท่องเที่ยวมีร้านอาหารหลายแห่ง แต่คนขับรถเล่าว่าร้านอาหารส่วนใหญ่ราคาแพง ยกตัวอย่างอาหารญี่ปุ่นรับประทานสี่คน สามพันกว่าบาท น้ำอัดลมกระป๋องละ 30 บาท


ระหว่างทางได้พูดคุยกับคนขับรถชาวลาว ข้าราชการ ชาวลาวมีรายได้ค่อนข้างน้อย นายทหารยศร้อยเอกได้รับเงินเดือนจากรัฐบาลเดือนละ 800บาท ที่เหลือได้เป็นข้าวสาร การซื้ออาหารสำเร็จรูปนอกบ้านราคาแพง ก๋วยเตี๋ยวราคาเริ่มต้นประมาณ 40 บาท ของอุปโภคบริโภคไม่ได้ผลิตเองในประเทศ ส่วนใหญ่ผ่านมาจากประเทศไทย รถมอเตอร์ไซค์ญี่ปุ่นราคาเริ่มต้นคันละหกหมื่นกว่าบาท ชาวบ้านบางส่วนจึงเลือกใช้รถยนต์มือสองจากเกาหลีราคาคันละประมาณ แสนกว่าบาทแทนมอเตอร์ไซค์ รถยนต์ใหม่ตั้งราคาขายเป็น US dollar ราคาถูกกว่าประเทศไทยเล็กน้อย รพ.ของรัฐไม่มีบริการฟรี ค่ารักษาทุกอย่างชาวบ้านต้องจ่ายเงินเอง ชาวบ้านที่มีฐานะนิยมเข้ามาซื้อของและรักษาพยาบาลที่อุดรธานี และหนองคาย ทำให้รู้สึกโชคดี และ มีความสุขที่ได้เกิดมาเป็นคนไทยค่ะ




Create Date : 29 ตุลาคม 2553
Last Update : 30 ตุลาคม 2553 8:56:41 น. 7 comments
Counter : 3129 Pageviews.

 
แวะมาทักทายและมาตามไปเที่ยวเวียงจันทน์ด้วยครับ


โดย: กัปตันลูกชุบ วันที่: 29 ตุลาคม 2553 เวลา:21:28:34 น.  

 
ปีหน้าว่าจะไปอยู่ค่ะ เลยเข้ามาเก็บข้อมูลไว้ก่อน


โดย: ฟ้าสางที่ปางสวรรค์ วันที่: 30 ตุลาคม 2553 เวลา:0:12:45 น.  

 
ยินดีที่มาทักทายค่ะ เมืองไทยน่าอยู่ที่ซู้ดดด


โดย: mcayenne94 วันที่: 30 ตุลาคม 2553 เวลา:10:31:54 น.  

 
ฮาโหล....ว สวัสดีค่ะ




โดย: ภูผา กะ วาริน วันที่: 4 พฤศจิกายน 2553 เวลา:21:52:13 น.  

 
สวัสดีค่ะ ตามไปเที่ยวเวียงจันทร์อีกทีค่ะ


โดย: ภูผา กะ วาริน วันที่: 8 พฤศจิกายน 2553 เวลา:21:50:20 น.  

 
น่าไปเที่ยวมากครับ


โดย: teeraphan IP: 125.26.194.87 วันที่: 15 พฤศจิกายน 2553 เวลา:6:50:01 น.  

 
ขอบคุณที่มาเยี่ยมชมค่ะ


โดย: mcayenne94 IP: 223.205.90.189 วันที่: 16 พฤศจิกายน 2553 เวลา:7:24:40 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

mcayenne94
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 36 คน [?]




Bangkok

Kyoto

Sydney

Mcayenne94's Diary มีวัตถุประสงค์เพื่อบันทึกเรื่องราวของเจ้าของบ้านและสิ่งแวดล้อม ไม่มีวัตถุประสงค์ เพื่อการ จัดจำหน่าย ต้นไม้ดอกไม้ หรือสิ่งใด อนุญาตให้นำภาพถ่าย พร้อมชื่อMcayenneผู้ถ่ายภาพไปใช้ประโยชน์ได้ และสงวนสิทธิ์ไม่อนุญาตให้นำภาพถ่าย Mcayenne ไปใช้ โดยการดัดแปลงตัดต่อหรือลบชื่อภายในภาพ
Friends' blogs
[Add mcayenne94's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.