ตุลาคม 2555

 
1
2
3
4
10
12
17
19
20
21
22
23
27
30
 
 
All Blog
เสพติดรัก mydarling บทที่20

Chapter 20

สาวหน้าหวานพาร่างบอบบางที่เหมือนไร้วิญญาณเข้ามายืนอยู่ในโรงพยาบาลสถานที่ทำงานของพี่ชายที่พึ่งสุดท้ายที่คิดถึงเสื้อผ้าเปียกปอนไปด้วยน้ำฝน ขอบตาแดงช้ำบวมเป่งทิ้งร่องรอยของการร้องไห้ไว้เมื่อน้ำตาเหือดแห้งพร้อมฝนซาผู้คนที่นั่งอยู่ในบริเวณนั้นพากันมองเธอด้วยความประหลาดใจและใครบางคนรีบตรงดิ่งมาที่เธอ

“น้ำข้าวทำไมเป็นแบบนี้...”ต้นกล้าวิ่งมาประคองน้องสาวไว้ เมื่อเห็นสภาพย่ำแย่น้ำข้าวหันมองหน้าพี่ชายพร้อมน้ำตาทะลักออกมาอีกครั้งด้วยความรู้สึกอยากระบายความในใจเธอโผ่เข้ากอดพี่ชายเพราะต้องการใครซักคนเป็นที่พักพิง

ต้นกล้าประคองร่างบอบบางเข้าไปยังห้องทำงานยังไม่ทันได้เอ่ยถามอะไรวงแขนบางๆ ก็หันมากอดเอวเขาไว้แน่น หน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตาซบลงบนอกอบอุ่นเสียงสะอึกสะอื้นเมื่อครู่ตอนนี้แปรเปลี่ยนเป็นเสียงร้องไห้โฮที่ไม่ต้องเก็บกดไว้อีกต่อไปเธอร้องไห้ออกมาโดยไม่ต้องอายใครอีกแล้ว

“ฮือๆๆๆๆ” น้ำข้าวกอดพี่ชายไว้แน่นเหมือนเธอกำลังได้รับความเจ็บปวดรุนแรงต้นกล้าไม่รู้ถึงสาเหตุที่ทำให้น้องสาวต้องเป็นแบบนี้แต่ความรู้สึกที่สัมผัสและรับรู้ตอนนี้คือเธอคนนี้กำลังอ่อนแอและเจ็บปวดที่สุดเท่าที่เคยพบมา

ต้นกล้าโอบกอดน้องสาวไว้แน่นแทนคำพูดปลอบใจว่าไม่เป็นอะไรเขาอยากถ่ายเทความเจ็บปวดทั้งหมดที่กำลังทำร้ายหัวใจดวงน้อยให้มาทำร้ายเขาแทน เพื่อเธอคนนี้จะกลับมาเป็นสาวน้อยที่ร่าเริงอีกครั้ง

เขาปล่อยให้เธอร้องไห้อยู่อย่างนั้นสิ่งที่เก็บกดเอาไว้ในใจจะได้ระบายออกมาพร้อมกับน้ำตาที่หลั่งไหลไม่ขาดสายจนเวลาผ่านไปเสียงร้องไห้เริ่มทุเลาลง...

“มีอะไรอยากระบายกับพี่ไหม..

“น้ำข้าวรักเขา ฮือๆๆ”

“...”

“แต่ทำไม ฮือๆๆน้ำข้าวต้องเจ็บปวดแล้วก็เสียใจแบบนี้” เสียงสะอื้นไห้ทำใจแข็งแกร่งสะเทือนจนเจ็บปวดต้นกล้าลูบผมน้องสาวเบาๆ

“เราลองคิดทบทวนดูสิความรักที่เรามอบให้เขาไปเรามีความสุขหรือเปล่า เราต้องการได้อะไรกลับคืนจากเขาไหมพี่ไม่รู้ว่าเรามีปัญหาอะไรกันแต่พี่เชื่อว่าตอนนี้เขาคนนั้นก็คงเจ็บปวดไม่น้อยไปกว่าน้ำข้าวเลย”

“...”

“พี่เชื่อว่าน้องสาวพี่เป็นคนเข้มแข็งและก็มีเหตุผลอย่าใช้อารมณ์ตัดสินปัญหาถามใจตัวเองก่อนว่าต้องการอะไรแล้วก็ต้องเชื่อมั่นหัวใจตัวเอง”

“ตอนนี้ ฮือๆ น้ำข้าวอ่อนแอจังเลยพี่ต้นอึกๆ” ปากเม้มเป็นเส้นตรงสะกดอารมณ์หวั่นไหว

“ปล่อยให้เวลาผ่านไปซักพักแล้วถามใจตัวเองดูใหม่ว่าต้องการอะไรแล้วเราก็จะได้คำตอบตอนนี้น้ำข้าวกำลังสับสนหลงทางอยู่”

“อึกๆน้ำข้าวควรทำไงดี...”

“ทำใจให้สบายลืมเรื่องที่เป็นอยู่ตอนนี้ซะพอสบายใจแล้วก็ถามใจตัวเองว่ายังรู้สึกดีกับเขาอยู่ไหม ยังอยากเจอเขาอยู่หรือเปล่าแค่นั้นล่ะเราก็จะเจอคำตอบทุกอย่างเอง”

“...”

“แต่ว่าตอนนี้ไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดพักผ่อนก่อนดีกว่าไหมเดี๋ยวไข้หวัดจะถามหาเอานะ เดี๋ยวพี่โทรไปบอกน้าให้เองว่าเราอยู่กับพี่”

“คะ ค่ะ อึกๆ”

“สบายใจขึ้นบ้างไหม”น้ำข้าวพยักหน้ารับเบาๆ แทนการตอบคำถามความรู้สึกเจ็บปวดที่เกาะกุมในใจเวลานี้เหมือนถูกดึงออกไปจนเกือบหมด กำลังใจเริ่มกลับมาอีกครั้ง

สองวันต่อมา..

“กรี๊ดดดดดดดยัยพริกดูสิยัยข้าวมาเรียนแล้ว” ร่างบางเดินมาพาตื่นเต้นแตกตื่นส่งเสียงนำสายตาให้มองตามคนเดินใกล้ ทรุดตัวนั่งร่วมวง

“เป็นไงบ้างแกกกกกกซูบไปเลยนะยัยข้าว”

“ฉันล่ะเป็นห่วงจริงๆพอรู้ข่าวจากพี่ต้นวันนั้นแต่พอได้คุยกับเธอตอนนี้ฉันเป็นห่วงสุดหล่อของฉันมากกว่าอีกนะย่ะ”

“จะรื้อฟื้นอีกทำไมล่ะต๊อกแต๊กน้ำข้าวไม่อยากร้องไห้แล้วนะ” คนโดนกระแทกคำพูดนิ่วหน้าขมวดคิ้วชนกันอยากให้เปลี่ยนเรื่องคุยซะที

“นี่ยัยข้าวฉันขอพูดหน่อยเถอะพี่เกล้าเขารักเธอขนาดนี้ทำไมเธอยังกล้าทิ้งเขาได้ลงคออีกห๊ะแล้วมันไม่ใช่แค่ครั้งเดียวนะ มันสองครั้งนะย่ะ ใครทนไหวก็ไม่ใช่คนแล้ว”

“น้ำข้าวผิดน้ำข้าวทำร้ายเขา น้ำข้าวไร้สาระเอง พอใจหรือยังล่ะ” น้ำเสียงประชดประชันน้อยใจ

“พริกขอพูดมั้งได้ไหมแก...” พริกทำสายตาอ้อนวอนชวนให้น่าสงสาร

“จะพูดอะไรก็พูดมายัยพริกทำหน้าละห้อยอยู่นั้นแหละย่ะขัดใจฉันจริงๆ เลย”

“พริกก็ไม่รู้นะว่ายัยข้าวจะรู้สึกยังไงแต่ถ้าพริกไม่ได้พูดออกมาอกแตกตายแน่ๆเลยแก รู้ไหมตอนนี้พี่เกล้าไม่มาที่ผับหลายวันแล้ว”

“อ้าว!! แล้วสุดหล่อฉันไปอยู่ไหนล่ะย่ะยัยพริก”

“...”

“ติดต่อทางมือถือก็ไม่รับสายนะแกพี่แจ๊คเลยบุกไปที่คอนโดคิดดูสิต้องติดต่อคนดูแลคอนโดเพื่อจะขอเปิดเข้าไปในห้องพี่เกล้าเลยล่ะ”

“แล้วคนดูแลเขายอมเปิดให้เหรอย่ะยัยพริกเจ้าของห้องเขาไม่อนุญาต”

“ไม่ยอมได้ไงล่ะ พี่แจ๊คบอกว่าเพื่อนอกหักจะฆ่าตัวตายเขาเลยต้องรีบหาคีย์การ์ดเปิดให้สิพอเข้าไปในห้องได้นะแก...”

“โอ๊ยยย ยัยพริกรีบเล่ามาฉันไม่อยากลุ้น!!”

“พี่เกล้าเป็นอะไรเหรอพริก น้ำข้าวถามด้วยน้ำเสียงห่วงใย

“พี่เกล้าเมาไม่เป็นผู้เป็นคนเลยไข้ขึ้นสูงใครเข้าใกล้เขาก็ไล่ตะเพิดหมดขนาดพี่แจ๊คยังไม่กล้าจัดการอะไรเลยเพราะพี่เกล้าเปลี่ยนเป็นคนละคนอ่ะแก”

“...”

“แล้วรู้ไหมยัยคุณหนูนุ่มนิ่มขอคีย์การ์ดจากพี่แจ๊คไปหาพี่เกล้าทุกวันแต่ก็เห็นต้องมานั่งร้องไห้เพราะโดนพี่เกล้าไล่กลับมาทุกวัน”

“...”

“สมน้ำน่าแล้วล่ะย่ะอยู่ดีไม่ว่าดีหาเรื่องดีนัก”

“ยัยข้าว...” พริกเอื้อมมือมาจับมือน้ำข้าวเอาไว้แล้วส่งสายตาเหมือนต้องการขอร้องกับน้ำข้าว

“อือ...” น้ำข้าวรู้สึกจิตใจไม่สงบเมื่อรู้ข่าวคราวของรัฐเกล้ากับอาการไม่ปกติเพราะเธอเป็นคนทำให้เขาเป็นแบบนั้นสมองกำลังคิดทบทวนถึงคำพูดของพี่ชายที่ว่าใครคนนั้นก็เจ็บปวดไม่ต่างกันตอนนี้เธอรับรู้แล้วว่าเขาเจ็บปวดมากกว่าเธอหลายเท่า ข้างกายเธอมีทั้งเพื่อนทั้งมีพี่ชายและก็แม่ที่คอยปลอบใจเวลาที่เธอเป็นทุกข์หรือมีปัญหาแต่เขาไม่มีใครเลยและเขาก็ไม่ยอมเปิดรับใคร

“ยัยข้าว พริกขอร้องล่ะแกทำให้เขากลับมาดีเหมือนเดิมได้ไหม...”

“น้ำข้าวจะไปหาพี่เกล้า”

“ห๊า!!! ว่าไงนะยัยข้าว” เสียงหนักแน่นทำต๊อกแต๊กตกใจตื่นเต้นหันมองหน้าพริกเพื่อยืนยันความจริงเพราะไม่เชื่อในสิ่งที่ตัวเองได้ยิน

“น้ำข้าวบอกว่าจะไปหาพี่เกล้า”

“ผีเข้าสิงหรือเปล่าย่ะยัยข้าวทำไมบทจะพูดจากันรู้เรื่องง่ายดายก็ไม่ต้องเปลืองน้ำลายเลย”

“นั่นสิแก...”

“น้ำข้าวรู้ใจตัวเองแล้วล่ะเดี๋ยวเลิกเรียนแล้วน้ำข้าวจะไปหาเขา”

“โอ๊ยยยฉันดีใจจังเลยสุดหล่อของฉันจะกลับมาเป็นคนเดิมแล้ว”

“ใช่ๆคนอื่นได้เลิกเป็นห่วงพี่เกล้าซะทีว่าไหมแก”

น้ำข้าวยิ้มให้เพื่อนทั้งสองกำลังใจที่เธอได้รับจากคนรอบข้างทำให้ความเจ็บปวดที่เคยมีจางหายไปถึงเวลาที่เธอต้องนำกำลังใจและความรู้สึกดีๆที่มีไปเติมเต็มให้กับหัวใจอีกดวงที่กำลังบอบช้ำและรอการเยียวยารักษาแผลให้หายดี

คอนโดหรู.. คีย์การ์ดถูกหยิบขึ้นมาจากกระเป๋าน้ำข้าวพกของที่รัฐเกล้าให้ไว้ติดตัวตลอดเวลา เธอเปิดประตูเข้าภายใน ขวดเหล้าวางกระจัดกระจายเต็มโต๊ะกระจกห้องรับแขกเธอเดินหาชายหนุ่มทั่วบริเวณไม่พบร่องรอยอยู่อาศัย สายตาเหลือบมองก่อนเดินยังห้องอีกห้องซึ่งไม่เคยได้ย่างกายเข้าไปซักครั้ง

ประตูห้องเปิดออกแสงไฟสลัวสีส้มทำให้มองเห็นสิ่งต่างๆในนั้นได้ชัดเจนสบายตา เธอค่อยๆ ปิดประตูเบาๆภายในห้องของทุกอย่างจัดวางไว้เป็นระเบียบเรียบร้อยชั้นหนังสือกว้างเต็มพนังกำแพงมีหนังสือเยอะแยะมากมายวางเรียงรายเต็มทุกชั้น ถัดมาอีกด้านเป็นตู้ที่ใส่เครื่องดนตรีหลายๆชนิดรวมกัน เดินขยับเข้าไปอีกนิดพบใครบางคนนอนสลบไสลอยู่บนเตียง เธอหยุดยืนอยู่ข้างๆร่างสูง เอามือสัมผัสที่แก้มเบาๆ ไอร้อนบ่งบอกว่ากำลังมีไข้สูงหน้าตาซูบผอมเห็นได้ชัดเจน เธอรีบดึงมือกลับเมื่อรู้สึกว่าเขาขยับตัว...

“เราบอกว่าอย่ามายุ่ง!!”เสียงแหบตวาดจนสะดุ้งโหย่ง

“...”

“ไปให้พ้น..แล้วนิ่มก็ไม่ต้องมายุ่งกับเราอีก ออกไป!!”

น้ำข้าวเอื้อมมือไปแตะที่แขนคนเพ้อเขย่าเบาๆ

“พี่เกล้า.. นี่น้ำข้าวเองค่ะไม่ใช่พี่นิ่ม” แรงเขย่าทำให้คนหลับรู้สึกตัวลืมตาปรือขึ้นมอง

“ข้าว...” ทันทีที่เห็น รัฐเกล้ายกตัวลุกขึ้นดึงร่างบอบบางกอดไว้แนบอกเขากอดรัดเธอไว้แน่นด้วยความคิดถึงมากมาย

“...”

“ขอโทษ.. อย่าทิ้งเกล้าอีกเลยนะ” เสียงแหบพร่าคร่ำครวญขอร้อง

“น้ำข้าวจะไม่ทิ้งพี่เกล้าไปไหนอีกแล้ว” เธอยกมือขึ้นกอดชายหนุ่มด้วยความรู้สึกเป็นห่วงเป็นใยและปลอบประโลม

“...”

“น้ำข้าวขอโทษนะค่ะที่ทำให้เป็นแบบนี้”

“...” รัฐเกล้ายิ้มดีใจที่คว้าความสุขกลับคืนมาอีกครั้ง

“พี่เกล้าไม่สบายเดี๋ยวน้ำข้าวเช็ดตัวให้นะ” ทั้งสองคลายอ้อมกอดออกจากกัน เธอช่วยประคองคนป่วยให้นอนลงบนเตียง

ผ้าชุบน้ำอุ่นที่จัดแจงหามาวางไว้ข้างๆค่อยๆ เช็ดลงบนร่างกายคนป่วยอย่างเบามือ

“หิวหรือเปล่า” ชายหนุ่มส่ายหน้าเบาๆ

“...”

“งั้นกินยาก่อนนะแล้วค่อยนอนต่อ”ยาที่ถูกเตรียมไว้จับป้อนเข้าปาก ส่งน้ำให้ดื่มกลืนลงคอก่อนปล่อยให้หลับตาพักผ่อนต่อตามเดิม

“...”

“ปวดหัวหรือเปล่าค่ะ”ไม่มีคำตอบใดๆ นอกจากเอื้อมคว้ามือเล็กๆ ไปจับกุมไว้บนอก

น้ำข้าวนั่งมองหน้าคนรักอยู่เงียบๆเนิ่นนาน เธอเอามือลูบไล้ผมเส้นเล็กเสยขึ้นเบาๆ เพื่อไม่ให้มันตกลงมาปกปิดใบหน้าที่ดูดีจนน่าหลงใหลเธอค่อยๆ เลื่อนมือลงมาที่ใบหน้าคมคายความร้อนที่สัมผัสได้เวลานี้ดูจะทุเลาลงไปกว่าเดิมคงเพราะได้เช็ดตัวไล่ความร้อนบวกกับยาแก้ไข้ที่เพิ่งทานเข้าไปเมื่อครู่ สายตากวาดมองใบหน้าที่ดูซูบผอมอิดโรยจากพิษไข้นิ้วเรียวเล็กค่อยๆ เลื่อนไล้ไปตามสันจมูกลากผ่านถึงริมฝีปากของคนหลับไหล รอยแตะสัมผัสเบาๆทำให้คิดถึงจุมพิศที่โหยหารสชาติดูดดื่มตรึงใจ ใบหน้าหวานๆ ค่อยๆ โน้มกายลงช้าๆปากแตะปากเป็นสัมผัสที่อบอุ่นอ่อนโยน มันเป็นความต้องการที่มาจากส่วนลึกในจิตใจ

กลางดึก.. รัฐเกล้าฟื้นจากอาการไข้อุณหภูมิในร่างกายที่เคยสูงจัดตอนนี้ลดลงจนเกือบเป็นปกติเพราะฤทธิ์ยาที่ช่วยเอาไว้เขากำลังย้อนลำดับความคิดเกี่ยวกับความฝันที่ได้เจอ คลับคล้ายว่าได้โอบกอดคนรักจนรู้สึกอบอุ่นหัวใจรอยสัมผัสบนใบหน้าที่เธอคนนั้นฝากเอาไว้ยังรู้สึกถึงความอ่อนโยนมันเป็นฝันดีที่มีความสุข

ร่างเล็กขยับตัวซุกกายเข้าหาไออุ่นทำให้รัฐเกล้าตื่นเต็มตาความฝันเมื่อคืนเป็นความจริง เธอกลับมาหาเขาและโอบกอดปลอบประโลมคนที่เจ็บช้ำจนเกือบขาดใจให้หายดีเธอเติมเต็มกำลังใจด้วยความรักความอบอุ่นทำให้คนที่อ่อนแอกลับมาแข็งแรงดังเดิม รัฐเกล้าคว้าร่างเล็กไว้ในอ้อมกอดอย่างทะนุถนอมตรึงใจ

“พี่เกล้าเป็นไงบ้างค่ะไข้ลดลงหรือยัง” คนนอนหลับรู้สึกตัวตื่นยกหลังมือขึ้นแตะสัมผัสที่หน้าผากคนป่วย

“...”

“ไข้ลดแล้วนิ”รัฐเกล้าคลายอ้อมกอดไว้หลวมๆ ก้มหน้ามองสบตาสาวในอ้อมแขนจนเธอต้องหลบสายตาซุกหน้าเข้าหาอกอบอุ่นทำให้เขาหัวเราะเบาๆในลำคอ

“เมื่อคืนฝันดี...” มือยกขึ้นลูบไล้ผมยาวสยายไปมา

“ฝันว่าอะไรค่ะ

“ฝันว่าข้าวมาหาแล้วกอดไว้บอกจะไม่ทิ้งเกล้าไปไหนอีกแล้ว”

“...”

“ไม่ทิ้งไปไหนแล้ว.. จริงหรือเปล่า

“ก็แค่ฝันไม่ใช่เรื่องจริงซะหน่อย”เธอยังคงซบหน้าที่อกกว้างนอนอมยิ้มน้อยๆ

“แล้วแบบนี้ล่ะ.. ความฝันหรือความจริง”รัฐเกล้าจับที่ไหล่บอบบางพลิกกายเธอเบาๆ ให้นอนหงายอยู่ระหว่างอก แขนสองข้างของเขาวางค่อมระหว่างแก้มนวลเนียนปลายนิ้วเรียวยาวไร้เกลี่ยไรผมบริเวณหน้าผาก สายตาสองคู่มองสบกัน ความเงียบทำให้ได้ยินเสียงเต้นของหัวใจสองดวงรัวเป็นจังหวะน้ำข้าวเริ่มสั่นหวั่นไหวเมื่อใบหน้าคมคายโน้มใกล้แนบชิดจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นริมฝีปากค่อยๆ เคลื่อนลงมาประกบชิดติดกัน อาการใจเต้นรัวกลับมาอีกครั้งเมื่อสัมผัสดูดดื่มเร่งเร้าตามแรงปรารถนา..

รัฐเกล้าถอนรอยจูบขึ้นมองใบหน้าหวานที่ตอนนี้ขึ้นสีแดงระเรื่อที่แก้มด้วยอาการเขินอายจนเธอไม่กล้ามองสบตาใจสั่นไหวเต้นระรัวตามแรงตื่นเต้น

“ข้าว...” เสียงแผ่วเบาเรียกชื่อเพื่อให้เธอหันมาสบตา

“...”

“รักเกล้าหรือเปล่า..น้ำข้าวยกมือขึ้นแตะที่แก้มสองข้างคลี่ยิ้มให้บางๆ

“น้ำข้าวรักพี่เกล้า” เสียงกระซิบอ่อนหวานนำมาซึ่งความสุข เขาและเธอแลกจูบที่ดื่มด่ำเนิ่นนาน...

อารมณ์รักใคร่ที่พยายามควบคุมให้อยู่ในกฏเกณฑ์เวลานี้มันพ่ายแพ้ต่อความต้องการกันและกันอย่างราบคาบรัฐเกล้าฝากรอยรักสัมผัสไปตามเรือนร่างนวลเนียน ความรู้สึกวาบหวามทำให้สั่นหวั่นไหวเธอในอ้อมกอดยอมปล่อยใจให้เขาได้รุกล้ำผ่านความบริสุทธิ์ตามความต้องการของอารมณ์ที่ไม่อาจหยุดยั้งไว้ได้อีกแล้วแรงปรารถนาของเขาและเธอแสดงออกมาเป็นจังหวะรักที่อ่อนโยนและนุ่มนวลร่างสองร่างผสานรวมเป็นหนึ่งเดียว

เขาได้ครอบครองเธอทั้งตัวและหัวใจ..

ความรู้สึกที่เคยมีให้แก่กันมันเป็นความห่วงใยคอยดูแลอยากอยู่ใกล้แต่เวลานี้และตลอดไปคือการมอบความรักทั้งใจและหวงแหนไว้ไม่ให้ใครครอบครอง..

คนรักกันโอบกอดซบความอบอุ่นซุกกายใต้ผ้าห่มหนารัฐเกล้ากระชับวงแขนแนบแน่นส่งผ่านความรักหมดใจให้เธอได้รับรู้มือลูบไล้สัมผัสผมนุ่มนวลกล่อมให้เธอหลับไหลในอ้อมกอดที่พร้อมจะปกป้องดูแลตลอดไป...

แสงแดดอ่อนส่องผ่านกระทบม่านบอกเวลายามเช้ารัฐเกล้ายังคงนอนมองสาวหน้าใสอ่อนหวานที่หลับสนิทในอ้อมกอดด้วยความรู้สึกหลงใหลในความอ่อนโยน เธอยังบริสุทธิ์ผุดผ่องเพื่อเขาคนเดียว น้ำข้าวขยับตัวลืมตาขึ้นมาพบว่าตัวเองอยู่ในอ้อมกอดของคนที่เธอได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตเขาไปเรียบร้อยแล้วสายตาหวงแหนนอนมองใบหน้าหวานๆ ทำให้เธอรีบหลบหน้าซบเข้าหาแผ่นอกกว้าง ใบหน้าร้อนวูบวาบใจเต้นหวั่นไหวขึ้นมาทันที

“หลบทำไม เสียงแหบห้าวกระซิบแหย่คนในอ้อมกอดที่เอียงอายด้วยรอยยิ้มบางๆ

“แล้วพี่เกล้าจ้องน้ำข้าวทำไมล่ะ” เธอยังคงซุกหน้าไว้ที่อกอบอุ่น ดึงยึดผ้าห่มขึ้นแนบกายแน่น

“มองภรรยาตัวเองผิดตรงไหน ฝ่ามืออุ่นลูบไล้ไหล่กลมมนเบาๆ ก่อนยกขึ้นมาละเลงผมสลวยอย่างเอ็นดู คนถูกกระทำได้แต่กระชับกอดร่างสูงไว้แก้เขิน

“จำวันที่ข้าวมาหาเกล้าที่ผับได้ไหม”

“อือ”

“ที่ข้าวบอกว่า ไม่เข้าใจความรู้สึกเวลาเกล้าอยู่ใกล้ใครมันหงุดหงิดอยากร้องไห้ตอนนี้รู้หรือยังคืออะไร”

“รู้แล้ว ทำไมค่ะ”

“บอกให้รู้หน่อยสิ..เกล้าอยากได้ยิน” รอยยิ้มระบายบนใบหน้าทั้งคู่อย่างอ่อนโย

“ฟังดีๆ นะน้ำข้าวพูดหนเดียว น้ำข้าวรักพี่เกล้าและน้ำข้าวก็หึงเวลาที่พี่เกล้าอยู่ใกล้กับสาวคนอื่นด้วย”รัฐเกล้าเอามือสองข้างจับแก้มใสๆ ประทับจูบลงบนหน้าผากอย่างนุ่มนวล

“เกล้ารักข้าว”เธอส่งยิ้มหวานให้เขาก่อนเงยหน้าขึ้นให้ริมฝีปากแตะกันอย่างอ่อนโยน ทั้งสองคนรักกอดกันแนบแน่นด้วยความสุขที่ล้นใจ...




Create Date : 31 ตุลาคม 2555
Last Update : 31 ตุลาคม 2555 21:49:01 น.
Counter : 725 Pageviews.

7 comments
  
แอบมาอ่านครับ
โดย: GTW IP: 171.99.69.135 วันที่: 31 ตุลาคม 2555 เวลา:21:40:50 น.
  
แอบซะไม่เห็นเลยค่ะ 555
โดย: มาโซคิส วันที่: 31 ตุลาคม 2555 เวลา:21:52:28 น.
  
แวะมาเยี่ยมและส่งกำลังใจให้จขบ.ในยามค่ำคืนครับ

ตามมาอ่าน เสพติดรัก mydarling บทที่20 ด้วยนะครับ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
มาโซคิส Literature Blog ดู Blog
โดย: **mp5** วันที่: 31 ตุลาคม 2555 เวลา:22:42:41 น.
  
เอ่อ
อืมม์
คือว่า
ขอแสดงความเห็นนิดหนึ่งนะครับ ผิดถูกอย่างไรขออภัย. เกรงใจคนเขียน
คุณมาโซคิสม์^^..
ติดคำว่า "ที่" มากไปไหมเอ่ย
ความจริงสามารถ หลบ คำว่า ที่ ไปใช้ คำอื่น ได้นะครับ


เผ่นล่ะ...



โดย: GTW IP: 171.99.69.144 วันที่: 31 ตุลาคม 2555 เวลา:22:48:06 น.
  
ขอบคุณนะคะ คุณ **mp5**
โดย: มาโซคิส วันที่: 31 ตุลาคม 2555 เวลา:22:49:31 น.
  
ยินดีอย่างยิ่งค๊า

เดี๋ยวคงต้องปรับเปลี่ยนอีกเยอะเลย แหะๆ

เรื่องเสพติดรัก

เขียนมาสองปี เพิ่งจบเมื่อต้นเดือนนี้ นี่เอง :p

ขอบคุณมากๆ นะคะ
โดย: มาโซคิส วันที่: 31 ตุลาคม 2555 เวลา:22:53:05 น.
  
แวะมาเยี่ยมยามค่ำคืน...หลับฝันดีครับ
โดย: **mp5** วันที่: 1 พฤศจิกายน 2555 เวลา:22:07:03 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

มาโซคิส
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 16 คน [?]



เ ร า ต่ า ง กั น แ ส น ไ ก ล

Blood A_Blood Type Series
เรียบง่าย อยู่บนเหตุและผล สันติ ยุติธรรม

ถ้าในฝันนั้น.. ฉันได้มีเธอ.. ขอนอนหลับไม่ตื่นได้ไหม..
เ ว ล า คิ ด ถึ ง ใ ค ร บ า ง ค น ม า ก ๆ อ ย า ก ดึ ง เ ค้ า อ อ ก ม า จ า ก โ ล ก แ ห่ ง ค ว า ม ฝั น แ ล้ ว ก อ ด ซ ะ !! ใ ห้ ห า ย คิ ด ถึ ง





หากวันใด อ่อนแอ ท้อแท้ ผิดหวัง ให้ลองย้อนนึกถึงวันที่เคยตะเกียกตะกาย . .



ถ้าคนๆ หนึ่ง มีอิทธิพลมากพอที่จะทำให้เรายิ้มออกมาได้โดยไม่ตั้งใจ.. มานก็ไม่แปลกเลยที่เขาสามารถทำให้เราน้ำตาไหลได้โดยไม่รู้ตัว..

Online Now




New Comments