ตุลาคม 2555

 
1
2
3
4
10
12
17
19
20
21
22
23
27
30
 
 
All Blog
เสพติดรัก mydarling บทที่3

Chapter 3

ณ ห้างสรรพสินค้า.. การเดินทางสิ้นสุดด้วยเวลาอันรวดเร็วทั้งสามคนเดินตรงไปยังร้านเป้าหมายที่ได้ตกลงกันไว้ตั้งแต่ในรถส่วนตัว SWENSEN ร้านไอศครีมที่คิดไว้เป็นตัวเลือก เมื่อมาถึงหน้าร้านน้ำข้าวไม่รีรอเดินตรงเข้าเลือกนั่งโต๊ะริมกระจกโดยมีสองหนุ่มตามหลังมาติดๆ

“พี่ต้นกับพี่น้ำเชี่ยวเอาไรดีค่ะเดี๋ยวน้ำข้าวสั่งให้เอง” น้ำข้าวเปิดเมนูไอศครีมของโปรดพร้อมจัดแจงสั่งของหวานระหว่างที่น้ำข้าวกำลังเลือกรายกายตามใจและสั่งไอศครีมกับพนักงานด้านในน้ำเชี่ยวหันไปสะดุดกับบางคนด้านนอกกระจก

สาวผมดัดเป็นลอนใหญ่ยาวถึงกลางหลังสีบอร์นทองเงางามสวมแว่นตาแฟชั่นสีดำดูดีมีระดับที่มองยังไงก็เข้ากับชุดลำลองเสื้อเชิตสีขาวผ้าบางแนบเนื้อปลดกระดุมลงโชว์ร่องอกอวดเนินขาวอวบอิ่มมองเห็นรูปร่างเป็นสัดส่วนชัดเจน บวกกับกางเกงยีนส์ขาสั้นเผยเรียวขางามเมื่อใส่คู่กับรองเท้าส้นสูงยาวสามนิ้วดูเซ็กซี่ลงตัวยิ่งนัก

“ไอ้ต้นผู้หญิงคนนี้คุ้นๆว่ะ” ความสวยสะดุดตาของหญิงสาวไม่เคยรอดพ้นสายตาของน้ำเชี่ยวได้เลยแม้ซักครั้งเขามองพร้อมสะกิดเพื่อนสนิทให้หันตาม

“ยังจะสนใจข้างนอกอีกนะน้ำเชี่ยว” ต้นกล้าต่อว่าเพื่อนเล็กน้อยโดยไม่ได้แสดงความสนใจตามสิ่งที่เพื่อนแนะนำให้หันไปดูแต่อย่างใดเพราะสำหรับเขาสิ่งที่สวยงามเวลานี้คงไม่มีใครเกินสาวน้อยตรงหน้าอีกแล้ว

สาวเซ็กซี่ผมลอนรู้สึกว่าตัวเองถูกสายตาจับจ้องถึงจะเป็นความเคยชินไปแล้วก็ตาม แต่ด้วยความรู้สึกครั้งนี้ทำให้หล่อนต้องหันไปยังสายตาจ้องมองด้านในกระจกทันทีที่เห็นเธอรีบถอดแว่นตาสีดำออกเพื่อมองให้แน่ใจว่าเจอคนที่รู้จักเข้าแล้วจริงๆ

“เห้ยไอ้ต้น!! นั่นมันไอวี่นี่หว่า” น้ำเชี่ยวตกใจเสียงหลง เมื่อเห็นเธอคนนั้นถอดแว่นออกและเดินตรงดิ่งเข้ามาทักทายยังด้านในทันทีอย่างไม่ลังเล

“หวัดดีไอวี่” น้ำเชี่ยวยกมือทักทายหญิงสาวเซ็กซี่ที่เดินมาหยุดยืนข้างๆ

“Hi my friend” หล่อนทักทายน้ำเชี่ยวและหันไปส่งยิ้มหวานให้ต้นกล้าที่เหลือบมองเธอด้วยสายตานิ่งๆคล้ายไม่อยากเสวนาเท่าไหร่

“กลับมาถึงเมื่อไหร่” ต้นกล้าทักทายเพื่อนสาวเพื่อไม่ให้เสียมารยาท

“...” O_o

“เมื่อวานนี้ ทำไมยูไม่รอไอ หนีกลับมาก่อนได้ไง”สาวเซ็กซี่ผมลอนแสดงน้ำเสียงคล้ายต่อว่าต้นกล้าที่ยังคงแสดงท่าทีนิ่งใส่หล่อนไม่เปลี่ยนแปลง

“พอดีไอ้ต้นมันใจร้อนหน่ะไอวี่อย่าถือสามันเลย” น้ำเชี่ยวเริ่มเห็นสถานการณ์ส่อแววไม่ดีจึงพยายามหาข้อแก้ตัวแทนเพื่อนสนิท

“เอ๊ะ!แล้วนี่ใคร? แฟนยูเหรอน้ำเชี่ยว”

“เปล่าๆ กำลังจีบอยู่หน่ะ”น้ำเชี่ยวพูดทีเล่นทีจริงพยายามทำให้วงสนทนาดูคึกคักแต่ผิดคาด (- -“) คงถึงเวลาที่เขาควรเลิกเล่นและเข้าสู่สถานการณ์จริงจังซะที “นี่น้ำข้าว.. น้องสาวไอ้ต้นมันหน่ะ” น้ำเชี่ยวกล่าวแนะนำด้วยสีหน้าทะเล้นยังคงพยายามสร้างบรรยากาศให้ดีขึ้นแต่ดูท่าทางไม่เป็นผลใดๆ

“สวัสดีค่ะ น้ำข้าวค่ะ”น้ำข้าวทักทายและส่งยิ้มร่าเริงให้สาวผมลอนอย่างเป็นมารยาททางสังคม

“อ๋อ.. ที่แท้ก็น้องสาวยูเองเหรอ” สายตาพราวเสน่ห์ไม่ได้สนใจน้ำข้าวแต่อย่างใด เธอหันสายตาส่งตรงให้ต้นกล้าทำให้ความอึดอัดยิ่งเพิ่มมากขึ้นในวงสนทนา

“นั่งก่อนสิค่ะพี่สาว ทานไอศครีมด้วยกันไหมค่ะ” น้ำข้าวยังคงร่าเริงทำใจดีสู้เสือไม่ได้ใส่ใจว่าไอวี่จะแสดงกริยายังไงกับเธอ

“ไม่หรอก ไอไม่ชอบร้านโลคลาสแบบนี้”สีหน้าร้ายกาจของหล่อนเริ่มแผลงฤทธิ์จนทุกคนเงียบสนิท น้ำข้าวยิ้มกลับให้หล่อนด้วยรอยยิ้มสดใสเก็บอาการโกรธไว้ภายในไม่แสดงออกมาให้ใครรับรู้

“ไอวี่ ต้นว่าถ้ามันโลคลาสมากเธอก็ออกไปอยู่ในที่ของเธอดีกว่านะ เดี๋ยวจะยิ่งอึดอัดมากไปกว่านี้”

“ไล่ไอเหรอสาวผมลอนวีนน้ำเสียงใส่ต้นกล้าทันที

“เปล่า แค่กลัวเธอจะทนไม่ได้ที่ต้องมาอยู่ในสถานที่แบบนี้”ต้นกล้าพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งไม่ต่างจากสายตาที่ไม่ได้หันไปมองเธอที่กำลังวีนใส่แต่อย่างใด

“ไอวี่ ไว้เราค่อยนัดเจอกันดีกว่านะ” น้ำเชี่ยวพูดขัดขึ้นมาเพื่อไม่ให้บรรยากาศดูแย่ไปมากกว่านี้

“ได้ วันนี้ไอจะกลับก่อน ไว้ว่างๆไอจะไปหา”หล่อนพูดพร้อมหันไปแสยะยิ้มให้น้ำข้าวด้วยสีหน้าไม่เป็นมิตรรุนแรง

“โชคดีค่ะ” น้ำข้าวกล่าวลาพร้อมยิ้มให้หล่อนโดยไม่ได้เกรงกลัวสายตาคู่นั้น

“ไอไปก่อนนะต้น” ไอวี่โน้มตัวลงต่ำเอาปลายจมูกแตะข้างแก้มต้นกล้าโดยที่เขาไม่ทันตั้งตัว

“ที่นี่เมืองไทย... อย่ามาทำอะไรน่าเกลียดแบบนี้ไอวี่” ดูเหมือนหล่อนจะไม่สะทกสะท้านคำต่อว่าใดๆ กลับยิ้มเยาะราวกับตัวเองเป็นผู้ชนะ

“ไอไปนะน้ำเชี่ยว ไว้เจอกัน”หล่อนส่งสายตานางมารร้ายใส่น้ำข้าวอีกครั้งก่อนหันหลังกลับก้าวเดินออกจากร้านไป

“โชคดี ไอวี่” น้ำเชี่ยวพูดโบกมือลาตามหลังเพื่อนสาวด้วยสีหน้าเอือมระอา “น้ำข้าวอย่าสนใจไอวี่เลยนะเขาเป็นสาวมั่นไม่ยอมแพ้ใครแบบนี้ล่ะ” น้ำเชียวหันมามองสาวหน้าหวานที่หันสายตากลับไปสนใจไอศครีมที่อยู่ในถ้วยต่ออย่างไม่แสดงความรู้สึกใดๆออกมา

“อ๋อ ไม่ได้สนใจอะไรนิค่ะพี่น้ำเชี่ยวสาวไฮโซไฟแรงสูงก็แบบนี้ล่ะ น้ำข้าวไม่คิดอะไรมากหรอกค่ะ” มีก็แต่ต้นกล้าที่ยังคงเงียบไม่เอ่ยคำใดๆคงไว้ซึ่งความสงบนิ่ง

เหตุการ์ณเมื่อครู่.. ทำให้ไอวี่อยากเอาชนะชายหนุ่มที่หล่อนตามตื้อตั้งแต่เรียนอยู่เมืองนอกด้วยกันมาถึงแม้เขาจะไม่สนใจหล่อนเลยก็ตาม แต่ด้วยมารยาหญิงสักวันเขาต้องหันมาอ้อนวอนร้องขอความรักสยบแทบเท้าหล่อนแน่นอนยิ่งสิ่งไหนได้มายากหล่อนก็ยิ่งต้องการเอาชนะให้จงได้

การสนทนาระหว่างน้ำข้าวกับน้ำเชี่ยวดำเนินมาตลอดทางตั้งแต่ห้างสรรพสินค้าจนถึงมหาวิทยาลัยส่วนต้นกล้าก็นิ่งเงียบมาตลอดทางเช่นกัน ในใจเขารู้สึกแย่ที่เพื่อนสาวแสดงกิริยาไม่เป็นมิตรใส่น้องสาวแสนรักทำให้รู้สึกกังวลและห่วงใยความรู้สึกของน้ำข้าวเป็นอย่างมาก เพราะเขารู้ดีว่าน้ำข้าวเป็นคนเก็บความรู้สึกไม่ค่อยแสดงออกมาเท่าไหร่ต่อให้เจอเหตุการ์ณแบบเมื่อครู่ น้ำข้าวก็ยังทำอารมณ์ดีเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นจนเขาเองหวั่นใจ...

“ถึงมหาลัยแล้วน้ำข้าวไปเรียนแล้วนะ”น้ำข้าวเปิดประตูก้าวลงจากรถเมื่อจอดสนิทอยู่หน้าคณะเรียน

“จ๊ะเอ๋! ยัยข้าว” ต๊อกแต๊กทักทายเพื่อนสนิททันทีที่เห็นน้ำข้าวลงจากรถและส่งสายตามองในรถด้วยความอยากรู้อยากเห็น

“ไปเรียนกันดีกว่าเดี๋ยวสาย”สาวหน้าหวานดึงมือเพื่อนสนิทให้รีบก้าวเดินตามไปแต่ดูเหมือนไม่เป็นไปตามที่คิดไว้

“เดี๋ยวก่อนสิฉันยังไม่ได้ทักทายคนหล่อของฉันเลยยัยข้าว” กระจกรถด้านคนขับเลื่อนต่ำลงมาทำให้เห็นใบหน้าคนที่อยู่ในรถชัดเจน“พี่ต้นสุดหล่อสวัสดีค่ะ” คำกล่าวทักทายดังขึ้นพร้อมยกมือไหว้ตามมารยาท

“ว่าไงต๊อกแต๊กจะไปเรียนแล้วสิ”

“ค่ะ ยัยข้าวบังคับให้รีบไป แต่ต๊อกแต๊กอยากทักทายพี่ต้นก่อน”

“เอ่อ.. นี่เพื่อนพี่ ชื่อน้ำเชี่ยว” ต้นกล้าแนะนำเพื่อนสนิททันทีที่เห็นสายตาความกะล่อนกำเริบและสะกิดให้เขาเป็นตัวกลางช่วยแนะนำทำความรู้จัก

“สวัสดีครับ ต๊อกแต๊กชื่อน่ารักนะครับ”

“สวัสดีค่ะ พี่น้ำเชี่ยว” สาวผมซอยส่งสายตาและยิ้มหวานใส่น้ำเชียวทันทีที่ถูกชมก่อนหันไปมองหน้าเพื่อนข้างๆที่ยืนมองดูการสนทนาแบบนิ่งๆ

“ตั้งใจเรียนนะครับสองสาว” น้ำเชี่ยวโบกมืออำลาให้สองสาวโดยไม่ลืมส่งสายตาหวานให้ต๊อกแต๊กอย่างรู้สึกถูกใจเป็นพิเศษ

“ไปเร็วๆ ต๊อกแต๊กเดี๋ยวสาย”น้ำข้าวไม่สนใจรีบหันหลังกลับเดินขึ้นตึกเรียนอย่างรวดเร็ว

“ต๊อกแต๊กไปก่อนนะคะสุดหล่อบายค๊า” เสียงเล็กๆ พูดพร้อมส่งสายตาให้น้ำเชี่ยวก่อนวิ่งไปหาเพื่อนสาวที่เดินนำไปก่อนแล้ว

“รอด้วยยัยข้าว! จะรีบไปตามแมวที่ไหนย่ะ เดินไม่รอฉันเลย”

“ก็ชักช้านิ”

“นี่ยัยข้าวเธอไปอารมณ์เสียมาจากไหนย่ะ”

“วันนี้น้ำข้าวไปเจอเพื่อนพี่ต้นมาพูดจาไม่เป็นมิตรเลย”

“ทำไมล่ะเพื่อนเขาไม่เป็นมิตรยังไงเล่าให้ฉันฟังหน่อยสิย่ะ” น้ำข้าวเล่าถึงเหตุการณ์ที่ไปเจอมาให้เพื่อนฟังระหว่างพากันก้าวเดินยังห้องเรียน

“ร้ายกาจมากเลยยัยแมลงวี่คนนี้นังมารร้ายชัดๆ อย่าให้ฉันเจอนะแม่จะจัดการให้หงายท้องเลย” ต๊อกแต๊กรู้สึกอารมณ์เสียขึ้นมาทันทีเมื่อได้ฟังเหตุการณ์ของเพื่อนข้างๆที่ประสบพบเจอมา

“เธอจะไปทำอะไรเขาต๊อกแต๊ก”น้ำข้าวมองเพื่อนสาวที่ทำหน้าเครียดแค้นด้วยรอยยิ้มที่แสดงออกอย่างสบายใจได้ระบายความโมโหออกไปจดหมดสิ้น

“ก็จัดการให้รู้ไปเลยไงว่าพวกโลคลาสเขาเป็นยังไงจะได้ไม่ต้องมาดูถูกกันอีก”

“ช่างเขาเถอะปล่อยเขาไป อย่ามายุ่งกันเลยจะดีกว่าต่างคนต่างอยู่ดีแล้ว” น้ำข้าวพยายามปลอบใจให้เพื่อนลดความโมโหลงซักพักเสียงข้อความจากโทรศัพท์มือถือดังขึ้น น้ำข้าวละสายตาจากเพื่อนสาวหันมาสนใจข้อความที่โทรศัพท์แทน

(ถึงห้องเรียนหรือยังคิดถึง...พี่เกล้า)

“ยิ้มอะไรย่ะยัยข้าวใครส่งแมสเซจมาหา” ต๊อกแต๊กถามเมื่อเห็นเพื่อนจับโทรศัพท์แล้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่

“อ๋อ พี่เกล้าอ่ะ”

“ส่งมาว่าอะไรยิ้มอารมณ์ดีเลยนะยะ”

“ไม่มีอะไรหรอกน่า”น้ำข้าวยิ้มเขินหน้าใสๆ มีเลือดฝาดที่แก้มแต่สายตายังคงจับจดที่หน้าจอโทรศัพท์

“ทำเป็นปิดบังอย่าให้เห็นโทรศัพท์นะฉันจะเอามาเป่าประกาศให้ทั่วเลย”

“เป่าประกาศอะไร บ้าหรือไงต๊อกแต๊ก” น้ำข้าวยังคงให้ความสนใจที่โทรศัพท์ต่อเนื่อง เธอกดส่งข้อความกลับถึงรัฐเกล้าและเลิกสนใจเพื่อนสาวที่ชะเง้อคอมองดูอย่างให้ความสนใจ

(ถึงห้องเรียนแล้วค่ะอาจารย์มาสอนแล้วขอบคุณนะคะที่คิดถึง..น้ำข้าว)

ตั้งแต่วันที่รัฐเกล้าขอคบเป็นแฟนทำให้น้ำข้าวเริ่มสนใจและใส่ใจรายละเอียดในตัวเขามากขึ้นสิ่งเล็กน้อยในคำพูดของชายหนุ่มถึงแม้จะดูเรียบเฉย เย็นชา แต่แฝงไว้ด้วยความห่วงใยที่เธอสัมผัสได้เธอเริ่มรู้สึกดีกับเขามากขึ้นแต่เวลานี้เธอยังคงต้องเก็บความรู้สึกเหล่านั้นเอาไว้ในใจ..

“น้ำข้าวเรียนเสร็จแล้วกลับบ้านเลยหรือเปล่า” ต๊อกแต๊กถามขึ้นเมื่ออาจารย์ประจำวิชาเดินออกจากห้องหลังหมดชั่วโมงเรียน

“กลับเลยเพราะแม่น้ำข้าวไปธุระกลับดึกไม่มีใครอยู่บ้านต้องกลับไปเฝ้าบ้านด้วย” น้ำข้าวจัดเก็บหนังสือและสัมภาระลงกระเป๋าพรางหันไปตอบคำถามเพื่อนสนิท

“เออนี่.. อาทิตย์หน้าวันเกิดยัยพริกเขามีเลี้ยงกันที่ผับของพี่แจ๊ค เธอจะไปด้วยหรือเปล่าย่ะ” คำถามถูกส่งตรงยังสาวหน้าหวานที่ทำท่าทางครุ่นคิดในความไม่แน่ใจ

“ขอคิดดูก่อนนะ ไว้นัดกันอีกทีดีกว่าเนอะ”

“ได้ เดี๋ยวไว้รอยัยพริกมาชวนอีกทีค่อยว่ากันนะยะ”น้ำข้าวรีบยกกองหนังสือขึ้นมาหอบพร้อมสะพายกระเป๋ามองหน้าต๊อกแต๊ก ส่งสัญญาณให้เดินลงไปยังชั้นล่างพร้อมกันวันนี้เธอนัดพี่ชายให้มารับหลังเลิกเรียน

“เธอนี่ดีจังนะยะ คนรอบข้างมีแต่คนหล๊อหล่อทั้งนั้นเลย”

“ก็หาสิ ต๊อกแต๊กก็มีหนุ่มมารุมล้อมเยอะแยะไม่สนใจเองนั่นล่ะ”

“ก็ไม่เป็กนิย่ะไม่เหมือนพวกพี่ๆ เธอ เพอร์เฟคที่สุดแล้วเท่าที่ฉันเคยเจอมา” น้ำข้าวหันมองเพื่อนข้างๆ แล้วส่ายหน้ายิ้มให้บางๆ

“...”

“จริงๆ นะ อย่างพี่เกล้างี้หล่อเพอร์เฟคที่สุดพี่ต้นก็ใช่ย่อยเป็นถึงคุณหมอหล่อสมาร์ท แล้วเพื่อนเขาที่ชื่อน้ำเชี่ยวอีกล่ะดูกะล่อนแต่ก็น่ารักดีนะท่าทางคุยสนุกไม่น่าเบื่อดีฉันว่า”ต๊อกแต๊กพูดเทียบสรรพคุณบรรดาชายหนุ่มในชีวิตเพื่อนสนิทอย่างคล่องแคล่ว

“ดีจริงๆเลยนะเพื่อนน้ำข้าวเนี้ยไม่เสียแรงที่มีเรด้าดักคนหล่อ” น้ำข้าวเอามือปิดปากหัวเราะสาวผมซอยที่หันมองเธอด้วยสายตาร้อนตัว

“นี่ยัยข้าวเธอหลอกด่าฉันหรือเปล่าย่ะ

“เปล่านะ น้ำข้าวชมต่างหากล่ะต๊อกแต๊กอย่าคิดมากสิ” น้ำข้าวส่งยิ้มหันไปจับมือออดอ้อนเพื่อนสาว

“แต่ฉันรู้สึกเหมือนถูกด่ายังไงไม่รู้นะยะ”

“พี่ต้นมาแล้วน้ำข้าวไปก่อนนะไว้เจอกัน”สาวหน้าหวานได้โอกาสหาทางเลี่ยงทันทีเมื่อเห็นพี่ชาย

“โอเค ไว้เจอกันฝากทักทายพี่ต้นให้ฉันด้วยนะยะ”

“ได้เลย” น้ำข้าวยกมือโบกลาเพื่อนสาวแล้วรีบจ้ำเดินเร็วขึ้นเพื่อตรงไปหาพี่ชายที่กำลังรอรับกลับบ้านโดยไม่รู้ตัวเลยว่ามีสายตาคู่หนึ่งมองดูอยู่ห่างๆ รถวิ่งผ่านพ้นหน้าคณะบริหารออกไปรัฐเกล้าซึ่งแอบดูอยู่ไม่ไกลมากนักก้าวเดินกลับไปยังตึกเรียนด้วยความรู้สึกกังวลใจกลัวคำตอบที่รอคอยจากสาวหน้าหวานจะไม่สมหวังเหมือนที่คิดเอาไว้เพราะในความสนิทสนมของพี่น้องคู่นี้ดูยังไงเขาก็เห็นว่าความห่วงใยที่พี่ชายมีให้น้องสาวมันมากเกินกว่าปกติที่ควรจะเป็น..




Create Date : 08 ตุลาคม 2555
Last Update : 8 พฤศจิกายน 2555 21:31:49 น.
Counter : 408 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

มาโซคิส
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 16 คน [?]



เ ร า ต่ า ง กั น แ ส น ไ ก ล

Blood A_Blood Type Series
เรียบง่าย อยู่บนเหตุและผล สันติ ยุติธรรม

ถ้าในฝันนั้น.. ฉันได้มีเธอ.. ขอนอนหลับไม่ตื่นได้ไหม..
เ ว ล า คิ ด ถึ ง ใ ค ร บ า ง ค น ม า ก ๆ อ ย า ก ดึ ง เ ค้ า อ อ ก ม า จ า ก โ ล ก แ ห่ ง ค ว า ม ฝั น แ ล้ ว ก อ ด ซ ะ !! ใ ห้ ห า ย คิ ด ถึ ง





หากวันใด อ่อนแอ ท้อแท้ ผิดหวัง ให้ลองย้อนนึกถึงวันที่เคยตะเกียกตะกาย . .



ถ้าคนๆ หนึ่ง มีอิทธิพลมากพอที่จะทำให้เรายิ้มออกมาได้โดยไม่ตั้งใจ.. มานก็ไม่แปลกเลยที่เขาสามารถทำให้เราน้ำตาไหลได้โดยไม่รู้ตัว..

Online Now




New Comments