ตุลาคม 2555

 
1
2
3
4
10
12
17
19
20
21
22
23
27
30
 
 
All Blog
เสพติดรัก mydarling บทที่10

Chapter 10

เวลาของค่ำคืนนี้ผ่านไปพร้อมความสุขที่เพิ่งเริ่มต้นขึ้นรัฐเกล้าอุ้มน้ำข้าวเดินมาส่งยังห้องพักโดยที่เธอโอบกอดรอบคอเขาไว้แน่นและซุกใบหน้าซบลงตรงไหล่กว้างรับความอบอุ่นมาตลอดทางร่างบางถูกวางลงบนเตียงนอนอย่างเบามือเมื่อก้าวเข้าไปในห้องพักเป็นที่เรียบร้อย ริมฝีปากฝากประทับรอยจุมพิศไว้บนหน้าผากบอบบาง

“พักผ่อนนะ พรุ่งนี้เจอกัน”รัฐเกล้ามองสบตาคนขาเจ็บ ส่งยิ้มให้อย่างละมุนละไมก่อนก้าวเดินออกจากห้องไปอย่างเชื่องช้าคล้ายอยากอยู่ต่อไม่อยากจากไปไหนให้ห่างไกลสายตา

น้ำข้าวนอนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่สัมผัสได้ถึงความสุขใจ..นี่หรือสิ่งที่ใครหลายคนต้องการ ‘ความรัก’ มันเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขที่สัมผัสได้ระหว่างคนสองคนตอนนี้เธอเริ่มเข้าใจมันขึ้นมาบ้างแล้ว..

รัฐเกล้าเดินตรงไปหาเพื่อนสนิทของคนรักในงานปาร์ตี้ด้วยสีหน้าอารมณ์ดีเป็นพิเศษเพราะมองยังไงก็เห็นรอยยิ้มเบาบางบนใบหน้าเรียบเฉยทำให้สองสาวหันมองหน้ากันด้วยความแปลกใจคล้ายโลกจะแตกเป็นเสี่ยงๆ

“ฝากดูแลข้าวด้วยนะ” รัฐเกล้าพูดด้วยเสียงเรียบนิ่งแต่ฟังแล้วอ่อนโยนเป็นที่สุด

“รับทราบค่ะ ว่าแต่พี่เกล้าเป็นอะไรหรือเปล่าเนี้ย” พริกถามด้วยความสงสัย รัฐเกล้าไม่ตอบอะไรได้แต่ส่งยิ้มเย็นให้ก่อนเดินเลี่ยงไปยังกลุ่มเพื่อนอีกด้านหนึ่งในงานปาร์ตี้

“แกว่าพริกละเมอหรือเปล่าต๊อกแต๊กเมื่อกี้พริกเห็นพี่เกล้ายิ้มด้วยอ่ะ” พริกสะกิดเพื่อนที่นั่งข้างๆโดยที่สายตายังมองตามหลังชายร่างสูงไปแต่ไร้การตอบกลับจนรู้สึกถึงความผิดปกติ

“...”

“เงียบทำไมแกพริกตวาดเสียงใส่ต๊อกแต๊กที่มองตามรัฐเกล้าตาไม่กระพริบ

“หล่อกระชากใจฉันจริงๆแค่ท่าทางเย็นชาที่ว่าเท่แล้ว พอเขายิ้มออกมาฉันยิ่งใจละลายเลยยัยพริก กรี๊ดดด”ต๊อกแต๊กทำท่าละเมอเพ้อเจ้อเหมือนกำลังล่องลอยในความฝัน

“อย่าโอเวอร์ให้มันมากนักแกไม่ได้การล่ะ พริกขึ้นไปหายัยข้าวดีกว่าคงต้องมีอะไรเด็ดๆ แน่นอน พี่เกล้าถึงเปลี่ยนไปขนาดนี้” พริกกระแทกกายลุกขึ้นวิ่งออกจากงานปาร์ตี้อย่างเร็ว ปล่อยให้ต๊อกแต๊กยืนละเมออยู่อย่างนั้นจนวิญญานกลับเข้าร่างเธอหันซ้ายหันขวาพบว่าตัวเองยืนอยู่ลำพังจึงรีบวิ่งตามเพื่อนตาตี่ไปติดๆ

บรรยากาศยามค่ำคืนยังคงคึกครื้นเฮฮาไปด้วยเสียงเพลงนักศึกษาทั้งหลายยังคงสนุกสนานเต้นรำตามจังหวะดนตรี บ้างก็นั่งสังสรรค์กันกับเครื่องดื่มหลากหลายชนิดนุ่มนิ่มยกแก้วเข้าปากน้ำสีชาไหลลงคอแก้วแล้วแก้วเล่า เธอเองไม่ได้ใส่ใจว่าสิ่งรอบข้างจะเป็นอย่างไรยังคงอยากดื่มเหล้าให้เมาเพื่อจะได้ไม่ต้องคิดถึงใครบางคนที่ไม่เคยเหลียวแลเธอเลยจนเริ่มมีอาการมึนเมาควบคุมสติไม่ค่อยอยู่ น้ำตาไหลอยากระบายปลดปล่อยความรู้สึกที่เก็บไว้ในใจออกมาคำพูดบ่นพึมพำเรียกชื่อคนที่ทำให้เธอรู้สึกเจ็บปวดอย่างมากในเวลานี้

“ทำไมเกล้าถึงไม่เคยเห็นความสำคัญของนิ่มเลยทำไม!!” เธอพูดออกมาพร้อมน้ำตา ฟุบหน้าลงกับโต๊ะทรงตัวไม่ไหวร้องไห้ฟูมฟายจนเพื่อนๆ ที่เดินผ่านไปมาบริเวณนั้นให้ความสนใจ

“ไอ้เกล้า..” เจ้าของชื่อหันมองตามเสียงเรียก “ช่วยไปดูนิ่มหน่อยว่ะเมามากจนไม่รู้เรื่องแล้ว” ลมหายใจถูกพ่นออกทางปากเบาๆ สีหน้านิ่งเรียบกลับมากระทันหัน พยักหน้ารับรู้ก่อนลุกเดินยังบริเวณที่เพื่อนส่งข่าวซึ่งอยู่ไม่ห่างกันมากเท่าไร

“เกล้าทำไมเธอไม่เคยรักนิ่มเลย!!” นุ่มนิ่มยังคงร้องไห้พร่ำเพ้อไม่สนใจเพื่อนคนอื่นที่เดินเข้ามาดูเธออย่างห่วงใยกับสภาวะจิตใจของเธอตอนนี้มือเรียวยาวจับที่ไหล่ดึงร่างเมามายไม่ค่อยมีสติขึ้นมานั่งตรง

“นิ่มเป็นอะไร” รัฐเกล้านั่งลงข้างๆ ประคองร่างกายอ่อนแอไว้ไม่ให้ฟุบลงไปกับโต๊ะอีกครั้งนุ่มนิ่มมองยังเบื้องหน้าเห็นว่าเป็นรัฐเกล้า เธอยิ่งร้องไห้น้ำตาไหลไม่หยุดโผ่เข้ากอดคว้าความอบอุ่นไว้ทันที

“เกล้าเห็นนิ่มอยู่ในสายตาแล้วใช่ไหม”เสียงสะอื้นดังราวจะขาดใจพยายามระบายความในออกมา

“ทำไมทำแบบนี้ เสียงเรียบนิ่งพยายามเรียกสติเธอกลับมา สายตานักศึกษาหลายคู่กำลังมุงดูเหตุการณ์อยู่ใกล้ๆอย่างไม่ละสายตาพากันซุบซิบไปต่างๆ นานา

“ถ้านิ่มไม่เป็นแบบนี้เกล้าคงไม่ใส่ใจนิ่มเลยใช่ไหม! นิ่มคงไม่มีความสำคัญกับเกล้าใช่ไหมน้ำเสียงกระแทกอารมณ์ยังคงระบายสิ่งที่อัดอั้นต่อไปทั้งน้ำตาและคำพูด

“ถ้ายังทำตัวแบบนี้ เราจะไม่ใส่ใจนิ่มอีก” อ้อมแขนที่กอดร่างชายหนุ่มไว้แน่นตอนนี้คลายออกจนเกือบจะหลุดจากกันเสียงร้องไห้ฟูมฟายเมื่อครู่หยุดลงเหมือนได้สติกลับมาอีกครั้งเธอพยายามกลั้นสะอึกสะอื้นไว้ภายในเพราะเสียงเย็นชาที่ดังออกมาจากปากของรัฐเกล้าทำให้เธอกลัวว่าเขาจะตัดเธอออกจากวงจรชีวิตตลอดไปความเจ็บปวดจุกอยู่ในอกต้องพยายามสะกดไว้

“...”

“ลุกไหวหรือเปล่า รัฐเกล้าพยุงตัวนุ่มนิ่มให้ลุกขึ้นยืนแต่ยังโซเซจะล้มคล้ายขาไร้ซึ่งเรี่ยวแรงเธอคงเดินไม่ถึงห้องพักในสภาพแบบนี้แน่นอน รัฐเกล้าหลับตาถอนใจเล็กน้อยก่อนอุ้มเธอไว้ในอ้อมแขนนี่คงเป็นหนทางเดียวที่จะพาคนเมากลับถึงห้องพักโดยเร็วที่สุด..

นุ่มนิ่มรู้สึกได้รับความอบอุ่นจากสัมผัสของชายหนุ่มที่เธอหลงรักมานานซึ่งเป็นสิ่งที่เธอรอคอยให้ถึงเวลาแบบนี้อยู่ตลอดและตอนนี้เธอก็ได้รับมันสมใจนุ่มนิ่มโอบสองมือกอดรอบคอรัฐเกล้าไว้แน่น ใบหน้าแนบอกอบอุ่นเพื่อเก็บความรู้สึกดีๆนี้ไว้ รัฐเกล้ายังคงไว้ซึ่งสายตาเย็นชามองตรงไปข้างหน้าโดยไม่รู้สึกหรือสนใจต่อการกระทำใดๆของหญิงสาวในอ้อมแขนเพราะถึงอย่างไรเธอคนนี้ยังคงเป็นได้แค่เพื่อนคนหนึ่งที่ไม่อาจคิดอะไรเกินเลยไปกว่านี้

รัฐเกล้าพานุ่มนิ่มส่งถึงหน้าห้องพักเขาปล่อยร่างเธอลงยืนกับพื้นแต่ยังคงช่วยพยุงร่างกายไว้เพราะเธอยังทรงตัวไม่อยู่นุ่มนิ่มโอบกอดรอบคอรัฐเกล้าไว้แน่นไม่ยอมปล่อย เธอรู้ดีว่าคงไม่มีโอกาสแบบนี้อีกแล้วแขนบอบบางยิ่งกอดรัดแน่นขึ้นเหมือนไม่อยากให้เวลานี้ผ่านไป..

“ปล่อยเราได้แล้ว” รัฐเกล้ายังคงความเฉยชาทั้งสายตาและน้ำเสียง ไม่รู้สึกยินดียินร้ายต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่อย่างใดมือที่ช่วยพยุงร่างบางไว้ค่อยๆ ปล่อยลงข้างลำตัวโดยไม่ได้สัมผัสส่วนใดๆ ของร่างกายหญิงสาวปล่อยให้นุ่มนิ่มกอดรัดร่างเขาไว้แบบนั้นฝ่ายเดียว

“...”

“ปล่อย..” รัฐเกล้าดึงมือที่กอดรัดรอบคอไว้เพื่อให้หลุดเป็นอิสระ

“...”

“พักผ่อนซะ” รัฐเกล้าเดินหันหลังกลับไม่สนใจมองยังนุ่มนิ่มที่ทรุดตัวนั่งลงกับพื้นมือปิดหน้าตัวเองร้องไห้น้ำตาไหลเต็มฝ่ามือ ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกสมเพชตัวเองที่ไปรักผู้ชายเย็นชาอย่างเขา ทั้งๆที่รู้ว่าเขาไม่เคยมีใจให้เลยก็ตาม แต่เธอก็ยังรักเขาหมดหัวใจ

ห้องพักสามสาวเพื่อนสนิทยังคงมีเสียงคุยกันไม่ขาดสายทั้งเรื่องที่อยากรู้อยากเห็นและเรื่องของความสนุกสนานครื้นเครงที่ได้ร่วมปาร์ตี้ยามค่ำคืนถึงสิ่งประทับใจ

“กรี๊ดดดดดฉันดีใจที่เธอยอมรับพี่เกล้าเป็นแฟนแล้ว”ต๊อกแต๊กยังคงโอเวอร์กรีดร้องออกนอกหน้านอกตา

“ต๊อกแต๊กเบาๆ สิแกนั่งกันอยู่แค่นี้เอง” พริกพูดพร้อมหันมองขว้างค้อนใส่เพื่อนด้วยอารมณ์หมั่นไส้กับความตื่นเต้นเกินเหตุ

“นั่นสิเบาๆ ก็ได้น้ำข้าวยังไม่ตื่นเต้นแบบต๊อกแต๊กเลยนะ”

“จริงเหรอย่ะที่บอกไม่ตื่นเต้นแหม๋.. หน้าระรื่นเชียว” เสียงหัวเราะคิกคักสนุกสนาน

“วันนี้พริกเห็นพี่เกล้ายิ้มอีกแล้วนะแกต๊อกแต๊กยังเพ้อเลยนะ”

“ไปทำอะไรให้พี่เกล้าเขายิ้มล่ะน้ำข้าวเลิกคิ้วถามเพื่อนทั้งสอง

“นี่เธอไม่รู้จริงๆเหรอยัยข้าว” น้ำข้าวส่ายหน้าให้เพื่อนสนิท “เขายิ้มเพราะเธอไง” หน้าหวานๆ มีสีแดงฝาดขึ้นบนใบหน้าน้ำข้าวอมยิ้มหันหน้าหนีไปทางอื่นแก้เขิน

“ยัยข้าวจงภูมิใจไว้ซะแกทุกรอยยิ้มของพี่เกล้าแกเป็นคนทำให้มันเกิดขึ้น”พริกพูดเพราะเธอรู้ดีว่าสิ่งที่เกิดกับรัฐเกล้าไม่ว่าจะอารมณ์ไหนก็มาจากเพื่อนสาวของเธอ“พริกว่าดีนะแกที่เราสามารถทำให้คนๆ หนึ่งมีทั้งรอยยิ้ม เสียงหัวเราะอารมณ์โมโหหึงหวง ทุกๆ ความรู้สึกเพื่อเรา อยากมีบ้างจังเลยแก..”

“พริกอยู่ใกล้ต๊อกแต๊กมากเกินไปหรือเปล่าเริ่มเพ้อเจ้อเหมือนกันแล้วนะ” น้ำข้าวแซวพริกที่ยิ้มยินดีส่งให้

“อย่ามาลงที่ฉันนะยะยัยข้าวฉันไม่ได้เพ้อเจ้อ ไม่คุยด้วยแล้วออกไปดูข้างนอกดีกว่า เดี๋ยวมานะ”

“พริกอาบน้ำนอนแล้วนะแกเอากุญแจไปด้วยกลับมาจะได้ไม่ต้องปลุกคนอื่น” กุญแจถูกยื่นส่งให้ต๊อกแต๊กเก็บไว้ก่อนเธอจะเดินพ้นจากห้องไป

สาวผมซอยเดินตรงเข้างานปาร์ตี้ที่ยังมีเสียงเพลงเปิดคลอเบาๆนักศึกษาหลงเหลืออยู่ไม่มากนัก เธอก้าวเดินไปเรื่อยเปื่อยเก็บภาพบรรยากาศจนได้ยินเสียงซุบซิบแว่วมาเกี่ยวกับคนรักของเพื่อนสนิทด้วยความอยากรู้อยากเห็นก่อตัวในใจทำให้เธออยู่ไม่เป็นสุขต้องค้นหาความจริงของเรื่องที่ตกเป็นข่าวอยู่ขณะนี้

“นี่เธอ มีเรื่องไรกันเหรอเห็นพูดถึงพี่เกล้า”ต๊อกแต๊กดิ่งตรงยังกลุ่มที่กำลังซุบซิบนินทาเม้าส์กันอย่างเมามันส์

“ต๊อกแต๊กไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์เมื่อกี้เหรอคำถามถูกส่งกลับคล้ายหยั่งเชิง

“เหตุการณ์อะไรล่ะย่ะเร็วๆ เล่ามาซิอย่าอมพนำ” ต๊อกแต๊กแสดงออกด้วยท่าทางอารมณ์หงุดหงิดอยากรับรู้เรื่องราวเต็มที

“เมื่อกี้รุ่นพี่ที่ชื่อนุ่มนิ่มกินเหล้าเมาเรียกร้องความสนใจพี่เกล้าแน่นอนฉันคอมเฟิร์มได้เพราะพี่เกล้าไม่สนใจเจ๊แกไงเลยต้องประชดกินเหล้าเมาร้องไห้จนพี่เขาต้องอุ้มไปส่งที่ห้อง”

“อุ้มเลยเหรอน้ำเสียงแหลมตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน

“ใช่สิ เมาจนเดินไม่ได้เซจนจะล้มยืนไม่ไหว ไม่ให้อุ้มแล้วจะให้ลากเจ๊แกไปหรือไงต๊อกแต๊ก ฉันเห็นแล้วหมั่นไส้แทนจริงๆนี่ถ้าฉันเป็นยัยข้าวนะคงจะวีนแตกไปแล้วล่ะ ผู้ชายตามจีบตัวเองอยู่ทุกวันแต่ต้องตกมาเป็นเรื่องเม้าท์กันสนุกปากกับผู้หญิงอื่นแบบนี้”

“...” ต๊อกแต๊กนิ่งเงียบรอฟังเหตุการณ์ต่อ

“พี่เกล้าก็อีกคนไม่น่าทำตัวแสนดีหลงกลเจ๊แกเลยกลางวันอุ้มยัยข้าวอยู่แท้ๆ พอตกกลางคืนอุ้มหญิงอื่น แล้วแบบนี้คนอื่นเขาจะมองกันยังไงล่ะ”

“แล้วเธอรู้ป่ะว่ายัยนุ่มนิ่มอะไรนั่นอะหล่อนกินเหล้าแล้วร้องไห้ทำไม”ต๊อกแต๊กเริ่มส่งคำถามร่วมสนทนาจริงจัง ข้องใจในเรื่องราว

“ฉันก็ไม่รู้หรอกว่าเจ๊แกเป็นอะไรได้ยินแต่ ทำไม ทำไม เธอไม่รักฉัน อะไรแบบนี้ล่ะ”

“อืมขอบใจมากนะยะที่เล่าให้ฟัง” ต๊อกแต๊กยื่นมือตบบ่าแทนคำขอบคุณ

“ยังไงก็เตือนยัยข้าวบ้างนะอย่าไว้ใจเจ๊แกมากปล่อยไว้ใกล้พี่เกล้ามากๆระวังจะโดนเจ๊แกคาบไปซะก่อน”

“ฉันว่าพี่เกล้าคงไม่ทำอะไรแบบนั้นหรอกย่ะ”

“ไว้ใจได้เหรอต๊อกแต๊กผู้ชายนะไม่ใช่พระอิฐพระปูน เจอผู้หญิงยั่วหน่อยก็เสร็จทุกราย”

“ยังไงก็ขอบใจนะที่เล่าให้ฟังฉันไปก่อนล่ะ” ต๊อกแต๊กรู้สึกหวั่นใจเกี่ยวกับเรื่องที่ได้ฟังมาเมื่อครู่เพิ่งได้รับข่าวดีจากปากเพื่อนสนิทอยู่ไม่กี่นาที ตอนนี้ต้องมาได้ยินเรื่องเลวร้ายเธอรู้สึกสับสนข้องใจจนเก็บอาการไว้ไม่ไหวออกเดินหาชายหนุ่มที่ตกเป็นข่าวในวงขาเม้าส์ทันที

ต๊อกแต๊กเดินหารัฐเกล้าด้วยใจกระวนกระวายจนทั่วบริเวณปาร์ตี้แต่ไม่เห็นวี่แววของชายหนุ่มจนคิดไปต่างๆ นานาหรือเรื่องที่เพื่อนบอกจะเป็นความจริง ตอนนี้รัฐเกล้าอาจกำลังเจอกับดักของนุ่มนิ่มอยู่ก็เป็นได้ความรู้สึกเริ่มหงุดหงิดจนทนไม่ไหว เธอรู้สึกโกรธแทนเพื่อนตัวเองมากมาย ขณะกำลังเดินกะฟัดกะเฟี้ยดสายตาที่ติดสัญญาณเรด้าเหลือบเห็นชายหนุ่มที่กำลังตามหายืนสูบบุหรี่อยู่ใต้ต้นไม้เธอรีบตรงดิ่งเข้าไปอย่างไม่รีรอ

“พี่เกล้ารบกวนเวลาแปบได้หรือเปล่าค่ะ” รัฐเกล้ายกบุหรี่ในมือจี้กับต้นไม้โยนทิ้งลงถังขยะที่อยู่ใกล้บริเวณนั้น สายตานิ่งเรียบส่งมองมายังสาวผมซอย

“...”

“เมื่อกี้ต๊อกแต๊กได้ยินข่าวมา”

“ข่าว เสียงละมุนทวนคำพูด สายตาแปลกใจส่อแววรอฟังคำอธิบายเพิ่มเติม

“ใช่ ข่าวที่พี่เกล้าอุ้มนุ่มนิ่มไปส่งที่ห้องอย่าว่าต๊อกแต๊กสอดเลยนะ แต่ต๊อกแต๊กอยากรู้ความจริงจากปากพี่เกล้าเพราะต๊อกแต๊กไม่อยากให้ยัยข้าวรับรู้เรื่องนี้ไปแบบผิดๆแล้วจะพาเข้าใจผิดกันหมด”

“อยากรู้อะไรล่ะ ใบหน้าคมคายละสายตาลดลงต่ำสีหน้าปรับเข้าสู่โหมดเย็นชา

“พี่เกล้ามีอะไรกับพี่นิ่มหรือเปล่า คำถามตรงประเด็นไม่อ้อมค้อมเพื่อตอบปัญหาคาใจ

“ไม่มี” สีหน้ายังคงนิ่งเรียบเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“แล้วทำไมพี่เกล้าต้องสนใจนุ่มนิ่มด้วยล่ะ”

“เพื่อนกัน แล้วนิ่มก็เมามากพี่เข้าใจว่าเธอห่วงข้าวแล้วพี่ก็รู้ว่าเธอได้ยินอะไรมาแต่พี่กับนิ่มเป็นแค่เพื่อนกันพี่รักข้าวและไม่มีวันทำให้ข้าวเสียใจ” รัฐเกล้าหันมามองหน้าต๊อกแต๊กสายตาบ่งบอกให้รู้ถึงความหนักแน่นว่าเขารักเพื่อนเธอมากแค่ไหน

“พี่เกล้าพูดจริงใช่หรือเปล่าพี่เกล้าสัญญากับต๊อกแต๊กแล้วนะว่าจะไม่ทำให้ยัยข้าวเสียใจ”

“อืม สัญญา”

“ได้ยินแบบนี้ต๊อกแต๊กก็สบายใจขอบคุณพี่เกล้านะคะที่ยอมคุยกับต๊อกแต๊ก”

“...” รอยยิ้มบางๆผุดขึ้นที่ใบหน้าคมคาย

“ยัยพริกพูดว่าพี่เกล้ามีรอยยิ้มได้เพราะยัยข้าวต๊อกแต๊กว่าคงไม่ผิดเพราะตั้งแต่ที่เจอพี่เกล้ามาต๊อกแต๊กเองก็ไม่เคยเห็นพี่เกล้ายิ้มเลยเพิ่งเห็นก็วันนี้แหล่ะ พี่เกล้าต้องยิ้มบ่อยๆ นะเพราะพี่ยิ้มแล้วหล๊อหล่อ” เสียงเจรจาพูดแซวพร้อมส่งยิ้มหวานให้พารัฐเกล้าหลุดหัวเราะออกมาเบาๆในลำคอ

“ดึกแล้วพี่ว่าเธอไปพักผ่อนได้แล้วมั้ง” การร่ำลาถูกเอ่ยก่อนแยกย้ายกลับยังห้องพัก 




Create Date : 16 ตุลาคม 2555
Last Update : 8 พฤศจิกายน 2555 21:36:23 น.
Counter : 494 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

มาโซคิส
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 16 คน [?]



เ ร า ต่ า ง กั น แ ส น ไ ก ล

Blood A_Blood Type Series
เรียบง่าย อยู่บนเหตุและผล สันติ ยุติธรรม

ถ้าในฝันนั้น.. ฉันได้มีเธอ.. ขอนอนหลับไม่ตื่นได้ไหม..
เ ว ล า คิ ด ถึ ง ใ ค ร บ า ง ค น ม า ก ๆ อ ย า ก ดึ ง เ ค้ า อ อ ก ม า จ า ก โ ล ก แ ห่ ง ค ว า ม ฝั น แ ล้ ว ก อ ด ซ ะ !! ใ ห้ ห า ย คิ ด ถึ ง





หากวันใด อ่อนแอ ท้อแท้ ผิดหวัง ให้ลองย้อนนึกถึงวันที่เคยตะเกียกตะกาย . .



ถ้าคนๆ หนึ่ง มีอิทธิพลมากพอที่จะทำให้เรายิ้มออกมาได้โดยไม่ตั้งใจ.. มานก็ไม่แปลกเลยที่เขาสามารถทำให้เราน้ำตาไหลได้โดยไม่รู้ตัว..

Online Now




New Comments