ตุลาคม 2555

 
1
2
3
4
10
12
17
19
20
21
22
23
27
30
 
 
All Blog
เสพติดรัก mydarling บทที่6

Chapter 6

เวลาผ่านพ้นไปจนเกือบเที่ยงคืน.. ความสนุกสนานภายในผับยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆสามสาวเลือกโต๊ะนั่งที่วิวพอเหมาะเพื่อไม่ให้เกิดเรื่องอะไรขึ้นอีก มุมโต๊ะนี้สามารถมองเห็นได้รอบด้านและไม่เป็นมุมอับเกินไปรัฐเกล้ามองมายังโต๊ะที่มีน้ำข้าวนั่งอยู่ได้อย่างชัดเจน เขามองเธอตลอดเวลาเพื่อไม่ให้คาดสายตาซักนาทีน้ำข้าวมีอาการมึนอย่างเห็นได้ชัดด้วยน้ำเมาสีสวยที่ต๊อกแต๊กจัดมาประเคนให้ไม่ขาดสายสาวน้อยหน้าหวานลุกเดินไปเข้าห้องน้ำด้วยอาการเดินเซแต่เธอก็พยายามครองสติเอาไว้ ในแต่ละย่างก้าวของเธออยู่ในสายตาใครบางคนด้วยความห่วงใยตลอดเวลา..

หลังจากทำภาระกิจเสร็จสิ้น.. น้ำข้าวเดินออกมาจากห้องน้ำนาฬิกาดังบอกเวลาเที่ยงคืนพอดีไฟทุกดวงดับสนิท เธอเซถลาเพราะความมืดแต่มือแข็งแรงคว้าร่างเธอเอาไว้ได้ทันก่อนจะล้มลง~Happy birthday to you Happy birthday to you ~ เสียงเพลงอวยพรวันเกิดดังขึ้นพร้อมกับแสงสว่างจากเทียนที่ปักลงบนเค้กกลางผับทำให้ความมืดเมื่อครู่เกิดแสงสลัวพอมองเห็นสิ่งรอบกายเล็กน้อยด้วยอาการมึนบวกกับสติที่เริ่มคุมไม่ค่อยอยู่เพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ทำให้น้ำข้าวจำเป็นต้องยึดแขนแข็งแรงที่โอบรอบเอวเธอไว้และอิงซบอกกว้างเพื่อเป็นหลักพยุงตัวไม่ให้ล้มลงสัมผัสอุ่นจากลมหายใจที่รดลงบนใบหน้าค่อยๆ เลื่อนลงมาหยุดใกล้ริมฝีปาก มือเรียวยาวประคองใบหน้าหวานไว้ฝากรอยจูบอ่อนโยนประทับลงบนริมฝีปากชมพูระเรื่อที่ตอบรับอย่างดูดดื่มเหมือนกระหายรสจูบนี้ความอ่อนโยนในรอยจุมพิตเริ่มหนักหน่วงตามอารมณ์ปรารถนาหัวใจสาวน้อยเต้นระรัวเหมือนจะกำลังจะขาด ลมหายใจติดขัด เธอพยายามรวบรวมสติที่มีทั้งหมดเพื่อดึงกลับคืนมาแต่หมดหนทางควบคุมเธอพยุงตัวไม่อยู่เรี่ยวแรงหายไปเหมือนคนหมดสติล้มทั้งยืนในอ้อมกอดของเขา รัฐเกล้า..

เสียงเพลงจบลงแสงไฟจากเทียนวันเกิดถูกเป่าจนดับรอบบริเวณมืดสนิทเสียงเฮและเสียงปรบมือตามมาเป็นจังหวะไฟทุกดวงสว่างไสวขึ้นมาอีกครั้ง ผู้คนส่วนใหญ่ในงานยังคงสนุกสนานกับเพลงที่เปิดคลอไปเบาๆบ้างก็เริ่มทยอยกลับเพราะจวนถึงเวลาเลิกงานเต็มที

“พี่เกล้า.. ยัยข้าวหายไปไหนแล้วค่ะ”พริกถามขึ้นเมื่อเดินสำรวจรอบบริเวณจนเจอรัฐเกล้าที่กำลังจัดเก็บสถานที่ซึ่งเป็นส่วนที่เขาทำงาน

“ข้าวเมา พาไปนอนในรถแล้วล่ะเดี๋ยวพี่พาข้าวกลับเอง” มือยังคงทำงานโดยไม่ได้หันสายตามองคนที่คุยด้วยแต่อย่างใด

“วันนี้แม่ยัยข้าวไม่อยู่ต้องนอนคนเดียวยังไงฝากพี่เกล้าอยู่เป็นเพื่อนยัยข้าวได้หรือเปล่าค่ะ ต๊อกแต๊กคงช่วยอะไรไม่ได้แล้วล่ะเมาแอ๋อยู่โน้นแน่ะพี่เกล้าดูแลยัยข้าว ส่วนต๊อกแต๊กพริกจัดการเอง โอเคนะคะ”

“อืม.. สุขสันต์วันเกิดนะพริกเรื่องคืนนี้พี่ก็ขอโทษ”

“ไม่เป็นไรค่ะพริกสะใจมากกว่าที่ยัยไอวี่โดนจัดการซะบ้าง ยัยข้าวนี่แสบจริงๆ” รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าเฉยชาสร้างความประหลาดใจให้กับพริกเป็นอย่างมากเพราะโดยปกติเธอไม่เคยเห็นมันเลยตั้งแต่รู้จักกันมา

“...”

“พี่เกล้ายิ้มเป็นด้วยเพราะยัยข้าวหรือเปล่าน๊า”พริกหรี่สายตาแซวอย่างล้อเลียนมองใบหน้านิ่งเฉย รัฐเกล้าไม่ตอบสิ่งใดพยายามเปลี่ยนสีหน้ากลับมาเป็นปกติยิ้มที่มุมปากหุบลงและหันมองไปทางอื่น

“...”

“ไม่แซวดีกว่ายังไงก็ขับรถดีๆ นะคะฝากดูแลยัยข้าวด้วย” รอยยิ้มทะเล้นหยุดแซวอย่างรู้ทัน

ระหว่างขับรถกลับบ้านเพื่อส่งสาวหน้าหวาน..น้ำข้าวขดตัวคุดคู้อยู่ตรงที่นั่งข้างคนขับ ด้วยความเย็นจากเครื่องปรับอากาศภายในรถทำให้เธอโอบกอดตัวเองเอาไว้รัฐเกล้าชะลอจอดรถเทียบข้างทางหันไปหยิบผ้าที่เบาะด้านหลังเพื่อห่มกายให้ความอบอุ่นกับสาวหน้าหวานที่นั่งอยู่ข้างๆจนเรียบร้อยจึงเริ่มเดินทางอีกครั้ง

รถจอดสนิทเครื่องยนต์ดับลงเมื่อมาถึงหน้าบ้านน้ำข้าวไฟในบ้านเปิดสว่างโล่บ่งบอกให้รับรู้ว่ามีคนอยู่ภายใน เมื่อคนรอคอยด้วยความกังวลใจเดินไปเดินมาไม่เป็นสุขได้ยินเสียงเครื่องยนต์ดับลงที่หน้าบ้านจึงรีบก้าวเท้ายาวออกไปอย่างเร่งรีบด้วยความเป็นห่วงเป็นใยต้นกล้าเห็นชายหนุ่มกำลังอุ้มน้องสาวเดินมาหยุดยังรั้วหน้าบ้านจึงรีบร้อนเปิดประตูรับทั้งสองเข้ามาภายในบริเวณเขตบ้านทันที

“น้ำข้าวเป็นอะไรทำไมเป็นแบบนี้เสียงถามไถ่ดังเมื่อเห็นน้องสาวมาในสภาพไม่รู้เนื้อรู้ตัว สายตาส่อแววกังวลใจอย่างมากมาย

“ข้าวดื่มเยอะไปเลยเมา”เสียงเรียบเฉยตอบคำถามพี่ชายของสาวหน้าหวานที่หลับไหลในอ้อมแขน

“แล้วเพื่อนคนอื่นล่ะ ต้นกล้าถามต่อเพราะอยากรู้เหตุการณ์ทั้งหมด เสียงกระวนกระวายร้อนใจเดินตามใบหน้าเรียบเฉยอย่างกระชั้นชิด

“หมดสภาพเหมือนกัน” รัฐเกล้าหยุดเดินเมื่อเข้ามายืนอยู่หน้าบันไดภายในบ้านส่งสัญญาณให้พี่ชายน้ำข้าวเดินนำขึ้นยังห้องนอนของสาวหน้าหวาน

เขาวางเธอลงบนเตียงกว้างอย่างเบามือเพื่อไม่ให้คนหลับรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา“ขอบคุณครับเดี๋ยวที่เหลือผมจัดการต่อเอง”ต้นกล้าพูดตัดบทน้ำเสียงออกอาการไล่เป็นนัยๆ

“ครับ งั้นผมกลับล่ะ” รัฐเกล้าวางตัวนิ่งเฉยไม่แสดงอารมณ์ใดๆ และเดินออกจากห้องลงมายังหน้าบ้านทันที

รถหรูถูกสตาร์ทเครื่องยนต์และขับออกไปด้วยความเร็วจนเสียงค่อยๆห่างไกล ต้นกล้าตรวจดูแลความเรียบร้อยปิดล๊อคประตูก่อนกลับขึ้นไปยังห้องนอนน้องสาวเขาเกิดความสับสนในใจเป็นอย่างมากทั้งกังวลใจเกี่ยวกับน้ำข้าวถึงสาเหตุที่เมาหมดสภาพมาในวันนี้และอีกสาเหตุคงไม่พ้นเรื่องชายหนุ่มที่เพิ่งกลับไป เขาควรหาทางแก้ปัญหาที่ยังไม่รู้สาเหตุเพื่อรับมือหรือจะปล่อยให้มันเป็นไปตามวันเวลาของมันแบบนี้เรื่อยไปเขายังตอบตัวเองไม่ได้ว่าควรจะทำอย่างไร...

ณ สถานความบันเทิงแห่งเดิม.. เมื่อชั่วโมงเศษที่ผ่านมายังพลุกพล่านไปด้วยผู้คนมากมายแต่เวลานี้หลงเหลือเพียงแค่เสียงเพลงคลอเบาๆ กับพนักงานที่อยู่ภายในไม่กี่คนรัฐเกล้าจอดรถที่หน้าผับก้าวออกจากรถและปิดประตูอย่างแรงด้วยอารมณ์ไม่ปกติ เขาเดินตรงเข้ายังด้านในสถานความบันเทิงกระแทกร่างกายนั่งลงบนโซฟาด้วยความรู้สึกร้อนลุ่มเหมือนไฟสุ่มอยู่ในอก ใบหน้านิ่งเฉยกำลังใช้ความคิดอย่างหนักไม่สนใจสิ่งแวดล้อมรอบข้างแต่อย่างใด

เสียงส้นสูงกระทบลงบนพื้นตามจังหวะการก้าวเดินเยื้องย่างไม่เร็วมากนักหยุดลงข้างชายหนุ่มใบหน้าเฉยชาในมือถือขวดเหล้าบรั่นดีพร้อมแก้วเปล่าสองใบวางลงบนโต๊ะกลม

“ไม่สบอารมณ์อะไรมางั้นหรือเกล้า” เสียงหวานของหญิงสาวที่นั่งลงข้างๆ ถามขึ้นพร้อมเทเหล้าบรั่นดีลงในแก้วและเลื่อนแก้วส่งไว้ตรงหน้าชายหนุ่มที่มองแก้วเหล้าด้วยสายตานิ่งเรียบอารมณ์ของเขาตอนนี้ยังไม่พร้อมจะคุยกับใครทั้งนั้น “รู้นะว่าอารมณ์ไม่ดีมีอะไรก็ระบายบ้างเถอะเก็บไว้เดี๋ยวก็อกแตกตายพอดี”เธอพูดพร้อมยกแก้วเหล้าในมือขึ้นจิบลงคอ

“อย่าเพิ่งมายุ่งตอนนี้” รัฐเกล้ายังคงวางสีหน้านิ่งเรียบแต่น้ำเสียงสัมผัสได้ถึงอารมณ์ขุ่นเคืองที่อยู่ภายใน

“กลับบ้านบ้างก็ดีนะ ช่วงนี้คุณลุงไม่ค่อยสบาย” เธอยังคงพูดต่อโดยไม่ใส่ใจชายหนุ่มที่อารมณ์กำลังใกล้ปะทุเต็มที

“ไปให้พ้น..” เขายังคงยืนยันว่าเขายังไม่พร้อมที่จะคุยกับใครตอนนี้

“เกล้าเคยใส่ใจอะไรรอบข้างบ้างไหม?นิ่มเป็นห่วงเกล้านะ..”คำพูดและน้ำเสียงวิงวองร้องขอให้เขาหันมาสนใจเธอบ้างก็เท่านั้น

“บอกว่าไปให้พ้น!!” เสียงเย็นชาตวาดความอำมหิตใส่จนหญิงสาวนิ่งอึ้ง เธอมองรัฐเกล้าด้วยสีหน้าเจ็บปวดสายตาอาลัยอาวรณ์และยอมลุกเดินจากไปแต่โดยดีเมื่อเห็นว่าเขาไม่เคยแม้แต่จะชายตามองมาที่เธอ

รัฐเกล้ายังคงวางสีหน้าสงบเยือกเย็นซึ่งแตกต่างกับสิ่งที่สุ่มแน่นอยู่ในอกราวฟ้ากับดิน เขายังคงคิดถึงแต่เรื่องของน้ำข้าวกับความสงสัยที่ว่าตอนนี้เขาอยู่ในฐานะอะไรสำหรับเธอเวลาที่อยากปกป้องคอยดูแลเธอใกล้ๆ กลับทำอะไรไม่ได้เลย ยิ่งคิดยิ่งปั่นป่วน แก้วเหล้าที่วางอยู่ตรงหน้าถูกจับยกใส่ปากรวดเดียวหมดในเวลานี้คงไม่มีอะไรหยุดความบ้าคลั่งที่ยังวนเวียนอยู่ภายในใจเขาได้อีกแล้ว

เช้าวันใหม่.. น้ำข้าวตื่นขึ้นมาด้วยอาการเมาค้างหัวแทบจะระเบิดทั้งมึนทั้งวิงเวียนจนบ้านหมุนได้รอบ แต่เท่าที่พอลำดับเหตุการณ์ได้ เมื่อคืนเธอยังคงอยู่ในงานวันเกิดของพริกภาพทั้งหมดค่อยๆ ไหลกลับเข้ามา ตั้งแต่มีชายแปลกหน้าชวนดื่มน้ำเมาจนรัฐเกล้ามาช่วยไว้ด้วยวิธีที่สร้างความหวั่นไหวต่อจิตใจอย่างมากแล้วยังจะเรื่องที่สาดน้ำมะนาวใส่ยัยแมลงวี่ชื่อที่ต๊อกแต๊กตั้งฉายาให้จนโดนวีนแตกเกือบทำให้งานกร่อยแล้วยังต้องโดนบังคับให้ดื่มของมึนเมาที่ถูกส่งมาประเคนไม่ขาดสายจนเดินโซเซ ความจำเริ่มเลือนลางไม่ชัดเจนเธอพยายามรื้อฟื้นช่วงเวลาที่ออกจากห้องน้ำจนแสงสว่างดับลงแล้วอ้อมกอดของใครบางคนที่คว้าตัวเธอไว้กับริมฝีปากอบอุ่นที่แตะสัมผัสกันอย่างอ่อนโยนจนกลายเป็นจูบที่ดูดดื่มลึกซึ้ง มันไม่ได้เป็นการช่วยเหลือเพื่อปกป้องเหมือนกับครั้งแรกแต่มันเป็นความต้องจากการส่วนลึกในใจเหมือนกับที่เธอก็ต้องการสัมผัสและลิ้มลองน้ำข้าวเลื่อนมือขึ้นแตะริมฝีปากแห้งผากนึกถึงความอ่อนละมุนที่เขามอบให้ แล้วเหตุการณ์หลังจากนั้นสติก็ไม่รับรู้อะไรอีกเลยแต่เวลานี้เธออยู่บนเตียงนอนในห้องของตัวเองได้อย่างไร คำถามเกิดขึ้นในใจ..

ทันทีที่น้ำข้าวพลิกตัวหันมองรอบห้องมือเล็กๆเลื่อนสัมผัสโดนใครอีกคนที่ฟุบหน้าลงบนเตียงข้างๆ ต้นกล้ายังคงเฝ้าเธอทั้งคืนจนเผลอหลับน้ำข้าวมองหน้าพี่ชายที่ปิดตาสนิท ผมดำตกปกคลุมใบหน้าเล็กน้อย มือบอบบางเอื้อมเกลี่ยผมที่ตกลงมาเบาๆทำให้คนนอนหลับอยู่รู้สึกตัวตื่นขึ้น

“ตื่นแล้วเหรอเป็นไงบ้างพี่ชายตั้งคำถามแสดงความห่วงใยทันทีที่เห็นหน้าน้องสาว

“น้ำข้าวปวดหัว บ้านหมุนติ้วเลยอ่ะพี่ต้น”เธอพูดพร้อมขยับกายพิงหมอนอยู่ในท่ากึ่งนั่งกึ่งนอนมองตรงมายังพี่ชายที่ดูสีหน้าไม่ค่อยปกติ

“ทำไมถึงทำตัวแบบนี้ เมาจนไม่รู้เรื่องถ้าเป็นอะไรขึ้นมาจะทำยังไง!!”เสียงต่อว่าดังขึ้นพร้อมสายตาที่มีแววความโกรธภายในแต่ทุกคำแสดงให้รับรู้ถึงความห่วงใยน้ำข้าวนิ่งอึ้งหาคำพูดไม่เจอเพราะเธอรู้ดีว่าสิ่งที่ทำมันผิดมหันต์

“...”

“น่าโกรธไหมแบบนี้น้ำเสียงพี่ชายเริ่มอ่อนลงคลายความตึงเครียด เมื่อเห็นสีหน้ายอมรับผิด

“น้ำข้าวขอโทษ น้ำข้าวรู้ตัวว่าผิดแต่พี่ต้นอย่าโกรธน้ำข้าวเลยนะ” เสียงแหบแห้งเจรจาขอร้องพี่ชายให้อภัยกับความผิดครั้งนี้

“เฮ้อ!อย่าทำให้พี่เป็นห่วงแบบนี้อีกได้ไหม..” เสียงถอนใจแสดงคำพูดขอร้องเป็นนัยๆ

“น้ำข้าวสัญญาค่ะน้ำข้าวจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว” ต้นกล้ามองหน้าน้องสาวที่ทำหน้าสลดสายตาที่เขามองเธอไม่ได้มีความโกรธใดๆ แต่เพราะเป็นห่วงและกังวลใจ ถึงมีอารมณ์ต่อว่าออกไปแบบนั้นพอเห็นว่าเจ้าตัวสำนึกผิดและขอโทษทำให้เขารู้สึกสบายใจขึ้นเพราะน้ำข้าวเองก็ไม่ได้มีอันตรายอย่างที่กังวล

“ยังปวดหัวอยู่ใช่ไหมเขาถามเมื่อเห็นสีหน้าน้องสาวซีดขาวไร้เลือดฝาดเหมือนกระดาษไม่มีการแต่งแต้มแต่ไม่มีเสียงใดออกจากปากเธอได้แต่พยักหน้ารับเป็นการแสดงคำตอบ “ลุกไหวหรือเปล่าน้องสาวส่ายหน้าเบาๆ ส่งสายตาออดอ้อนยังพี่ชาย “งั้นก็นอนเดี๋ยวพี่หาอะไรร้อนๆ มาให้ นี่น้ำกินซะก่อน ปากแห้งหมดแล้ว” ต้นกล้าพูดพร้อมเทน้ำเปล่าใส่แก้วและส่งให้เธอถือไว้

เมื่อเห็นพี่ชายเดินพ้นออกจากประตูห้องสาวหน้าหวานยกแก้วน้ำในมือดื่มมันจนหมดด้วยความกระหายแก้วเปล่าถูกวางลงบนโต๊ะข้างเตียงนอนเธอค่อยๆ ขยับร่างกายนอนลงบนเตียงด้วยความรู้สึกหนักอึ้งที่ศรีษะจนนั่งไม่อยู่ น้ำข้าวเผลอหลับไปซักพักใหญ่เสียงแง้มเปิดประตูเบาๆ ดังพร้อมกลิ่นหอมของโจ๊กโชยปะทะจมูกทำให้เธอลืมตาตื่นมามองพี่ชายที่ยกถาดใบใหญ่ไว้ในมือ

“ลุกมากินโจ๊กรองท้องก่อนแล้วค่อยนอนต่อ”ต้นกล้าช่วยพยุงตัวน้องสาวให้ลุกนั่งและยกถ้วยโจ๊กขึ้นเป่าให้พออุ่น

“น้ำข้าวทำให้ลำบากหรือเปล่าพี่ต้น”ใบหน้าอิดโรยรู้สึกตัวว่าเป็นภาระให้พี่ชาย

“ลำบากมาทั้งชีวิตแล้วล่ะ เพราะมีน้องสาวดื้อ” เสียงตอบนิ่งเรียบ หน้านิ่งไม่มองสบตาคนถามแม้แต่น้อย

“พี่ต้นยังไม่หายโกรธน้ำข้าวอีกเหรอ” สายตาสลดวูบน้ำตาเริ่มคลอเบ้ารู้สึกเจ็บปวดในใจเมื่อได้ยินคำพูดของพี่ชายที่เสมือนเธอดีแต่สร้างความลำบากใจให้เขาตลอดเวลาต้นกล้ายังคงนิ่งเฉย ช้อนค้นโจ๊กในถ้วยต่อไป

“...”

“พี่ต้น..” เสียงเรียกชื่อพี่ชายแหบพร่าสั่นเครือ ต้นกล้าหันสบตาน้องสาวพร้อมส่งยิ้มให้

“พี่ล้อเล่นน่า” เสียงดังพร้อมความตึงเครียดค่อยๆ หายไปแทนที่ไว้ด้วยความอบอุ่นและรอยยิ้ม “โจ๊กอุ่นแล้ว” ต้นกล้าพูดพร้อมยื่นถ้วยโจ๊กให้น้องสาว

“ป้อนน้ำข้าวหน่อยสิ..”เสียงออดอ้อนส่งยิ้มหวานยังพี่ชาย ต้นกล้าฉีกยิ้มอย่างอิ่มใจ เธอยังคงนิสัยขี้อ้อนไม่เปลี่ยนแปลงไปเหมือนครั้งยังเด็กต้นกล้าค่อยๆ ตักโจ๊กส่งเขาปากน้องสาวด้วยหัวใจพองโต น้ำข้าวจัดการโจ๊กที่พี่ชายป้อนให้หมดเกลี้ยงยาถูกส่งให้ตามด้วยน้ำอุ่น น้องสาวดื่มน้ำจนหมดพร้อมส่งแก้วคืนกลับมา ต้นกล้าจัดแจงช่วยคนป่วยจับท่านอนและห่มผ้าให้เป็นที่เรียบร้อย

“นอนซะ พักผ่อนเยอะๆ วันนี้คงต้องขาดเรียนซักวัน”น้ำข้าวพยักหน้าตอบตกลง วันนี้เธอคงไม่ไหวจริงๆเพราะปกติเธอไม่เคยขาดเรียนซักครั้ง

“...”

“พี่โทรบอกเพื่อนให้เอาไหม..”

“ดีค่ะ แต่โทรหายัยพริกนะน้ำข้าวไม่ไว้ใจต๊อกแต๊กกลัวว่าจะเกเรเหมือนกันโทรศัพท์อยู่ในกระเป๋าถือนะคะพี่ต้น”

“โอเค เดี๋ยวพี่โทรบอกพริกให้เราก็นอนได้แล้ว” มือแข็งแรงเอื้อมลูบไล้ผมน้องสาวเบาๆ

“...”

“แล้วกลางวันพี่จะขึ้นมาดูอาการอีกทีนะ”

“พี่ต้น..” น้ำข้าวเรียกพี่ชายไว้ก่อนที่เขาจะเดินหันหลังไปสายตาคนถูกเรียกมองมายังสาวหน้าหวานรอคอยฟังสิ่งที่น้องสาวต้องการพูดจา “เมื่อคืนน้ำข้าวกลับมาบ้านได้ยังไงเธอถามปัญหาที่คาใจมาตั้งแต่ฟื้นคืนชีพต้นกล้าเงียบเฉยหลบสายตา ที่พยายามซ่อนความรู้สึกรวดร้าวเอาไว้แสร้งมองไปทางอื่น “พี่ต้นเงียบทำไม น้ำข้าวพูดเบาไปหรือเปล่า

“พี่เกล้าของเราไง ที่เป็นคนอุ้มมาส่งในบ้าน”น้ำข้าวนิ่งอึ้งไปเมื่อรู้คำตอบที่ไขข้อข้องใจ “พี่โทรหาพริกก่อนนะ เราพักผ่อนได้แล้ว” ต้นกล้าเดินหันหลังออกจากห้องด้วยความรู้สึกเจ็บปวดที่ใจและต้องทนฝืนเก็บมันไว้เงียบๆ




Create Date : 11 ตุลาคม 2555
Last Update : 8 พฤศจิกายน 2555 21:33:48 น.
Counter : 482 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

มาโซคิส
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 16 คน [?]



เ ร า ต่ า ง กั น แ ส น ไ ก ล

Blood A_Blood Type Series
เรียบง่าย อยู่บนเหตุและผล สันติ ยุติธรรม

ถ้าในฝันนั้น.. ฉันได้มีเธอ.. ขอนอนหลับไม่ตื่นได้ไหม..
เ ว ล า คิ ด ถึ ง ใ ค ร บ า ง ค น ม า ก ๆ อ ย า ก ดึ ง เ ค้ า อ อ ก ม า จ า ก โ ล ก แ ห่ ง ค ว า ม ฝั น แ ล้ ว ก อ ด ซ ะ !! ใ ห้ ห า ย คิ ด ถึ ง





หากวันใด อ่อนแอ ท้อแท้ ผิดหวัง ให้ลองย้อนนึกถึงวันที่เคยตะเกียกตะกาย . .



ถ้าคนๆ หนึ่ง มีอิทธิพลมากพอที่จะทำให้เรายิ้มออกมาได้โดยไม่ตั้งใจ.. มานก็ไม่แปลกเลยที่เขาสามารถทำให้เราน้ำตาไหลได้โดยไม่รู้ตัว..

Online Now




New Comments