ตุลาคม 2555

 
1
2
3
4
10
12
17
19
20
21
22
23
27
30
 
 
All Blog
เสพติดรัก Mydarling บทนำ

‘ความรักก็เหมือนสิ่งเสพติด..พอได้สัมผัสก็ต้องการมากขึ้นจนขาดไม่ได้

พร้อมยอมทุรนทุรายให้ได้รักมาครอบครองหรือยอมหักดิบเพื่อดูแลหัวใจไม่ให้รักทำร้ายจนอ่อนแอ’

บทนำ

โรงเรียนใหญ่ใจกลางเมือง.. บรรยากาศหลังเลิกเรียนเต็มไปด้วยเสียงดังจอแจของเด็กเล็กเด็กโตที่ทยอยออกจากห้องเรียนเพื่อเดินทางแยกย้ายกันกลับบ้าน‘น้ำข้าว’ เด็กหญิงนัยน์ตาดำกลมโตแววใสวัยสิบขวบ ทุกวันหลังเลิกเรียนเด็กหญิงตัวน้อยหน้าหวานจะเดินเยื้องย่างไปนั่งยังชิงช้าไม้เอนไหวในสนามเด็กเล่นของโรงเรียนเพื่อรอพี่ชายมารับกลับบ้าน“น้ำข้าว พี่มาแล้ว” เสียงแหบห้าวดังเรียกชื่อน้องสาวหน้าหวานให้หันเหความสนใจมายังตนซึ่งเป็นบุคคลที่เด็กหญิงรอคอยอย่างใจจดจ่อ

‘ต้นกล้า’ เด็กชายวัยสิบแปดปีกำลังก้าวสู่ความเป็นหนุ่มเต็มตัวด้วยท่าทางสุขุมนุ่มลึกอารมณ์เย็นไม่ใจร้อนวู่วาม วางตัวนิ่งเป็นผู้ใหญ่กว่าเพื่อนที่มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกันก้าวเดินและหยุดยืนคอยเด็กหญิงเจ้าของชื่อน้ำข้าวผู้มีฐานะเป็นญาติห่างๆ ไม่มีความเกี่ยวพันธ์ทางสายเลือดแต่เพราะทั้งสองถูกเลี้ยงดูมาด้วยกันตั้งแต่เล็กจึงมีความผูกพันรักกันดังพี่น้องแท้ๆ

“เย้ พี่ต้นมาแล้วน้ำเสียงใสดีใจเมื่อเห็นหน้าพี่ชาย น้ำข้าววิ่งปรี่เข้าไปกอดเอวคนตัวใหญ่ด้วยใบหน้าแจ่มใสต้นกล้ายิ้มรับน้องสาวที่วิ่งเข้ามาหาด้วยความเอ็นดู มือแข็งแรงจับลูบไล้ผมเส้นเล็กบางยาวประบ่าที่เอียงคอมองหน้าพี่ชายด้วยตากลมโตใสซื่อทวงถามสัญญาที่พี่ชายเคยให้ไว้

“...”

“วันนี้พี่ต้นสัญญากับน้ำข้าวไว้ว่าอะไรค่ะ”

“เอ๊ะ! สัญญาอะไร” พี่ชายทำหน้ามึนแกล้งลืมคำมั่นสัญญาที่เคยให้ไว้ว่าจะไปทานไอศครีมกันทำเอาน้องสาวหน้าใสบูดบึ้งใส่ เสียงหัวเราะอารมณ์ดีถูกใจที่แกล้งน้องสาวให้งอนได้สำเร็จจนต้องตามง้อกันวุ่นวาย

“...”

“โอ๋ๆ พี่ล้อเล่น ไปทานไอศครีมแล้วกลับบ้านกันดีกว่า”เสียงเฮดีใจพร้อมรอยยิ้มสดใสพากันเดินจูงมือก้าวเดินไปยังลานจอดรถกว้างใหญ่และดิ่งตรงไปยังร้านของหวานซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโรงเรียนของเด็กหญิงมากนัก

ชีวิตของสองพี่น้องดำเนินไปตามปกติเป็นกิจวัตรประจำวันอย่างนี้เรื่อยมาด้วยนิสัยของน้ำข้าวที่เป็นเด็กน่ารักพูดจาออดอ้อนเก่งดูไร้เดียงสาทำให้ต้นกล้าหลงรักน้องสาวคนนี้เข้าอย่างจังและด้วยความรักความห่วงใยที่มีให้น้องสาวตรงหน้าเขาสัญญากับตัวเองว่าจะคอยดูแล ทะนุถนอมมอบความรัก ความอบอุ่น และเป็นกำลังใจให้กับน้องสาวคนนี้ตลอดไป ตลอดการเดินทางที่นั่งรถกลับบ้านด้วยกันน้ำข้าวชวนต้นกล้าคุยไม่หยุดตามประสาเด็กช่างจ้อรอยยิ้มละมุนและความสดใสของเธอทำให้ต้นกล้าหัวเราะและมีความสุขเสมอ ความน่ารักอ่อนโยนยิ่งผูกมัดจิตใจเขามากขึ้นจนเริ่มสงสัยตัวเองแล้วว่าที่ใจเต้นแรงไม่เป็นจังหวะและมีความสุขเวลาได้อยู่ใกล้น้องสาวคนนี้มันมากเกินกว่าคำว่าพี่น้องไปหรือเปล่าเขายังตอบตัวเองไม่ได้

“แม่ น้ำข้าวกลับมาแล้ว”เด็กหญิงหน้าหวานหอบพาร่างเล็กบอบบางวิ่งนำพี่ชายเข้าบ้านตรงดิ่งกอดผู้เป็นแม่ทันทีที่เจอมืออบอุ่นโอบร่างเล็กไว้ในอ้อมแขนพูดคุยถามไถ่ตามประสาแม่ลูก เสียงใสเจื้อยแจ้วตอบคำถามอย่างไร้เดียงสาดูน่ารักน่าชัง

“สวัสดีครับน้า” ต้นกล้ากล่าวทักทายพร้อมยกมือไหว้น้าสาวที่เสมือนญาติผู้ใหญ่คนหนึ่งด้วยท่าทางอ่อนน้อมมีมารยาท

“เป็นไงได้ข่าวว่าจะไปเรียนต่อแพทย์ที่เมืองนอกได้กำหนดวันไปหรือยัง”น้าสาวรับไหว้พร้อมถามไถ่ลูกชายเพื่อนสนิทเมื่อรู้ข่าวเกี่ยวกับการเดินทางไปศึกษาต่อเพื่ออนาคต

“กำหนดเดินทางอาทิตย์หน้าครับ”ต้นกล้ายิ้มน้อยๆ ตอบคำถามก่อนหันไปทางน้องสาวที่มองด้วยอาการสงสัย สายตาส่อแววคล้ายรู้ทันว่าพี่ชายต้องจากไปอยู่ห่างไกลเป็นแน่

“พี่ต้นจะไปไหนค่ะ..” น้ำเสียงกังวลใจตั้งคำถามยังพี่ชาย ผู้เป็นแม่ถอนใจคงต้องหาคำพูดปลอบประโลมลูกสาวตัวน้อยไว้เมื่อเห็นอาการไม่ค่อยดีสีหน้าแสดงออกว่าเสียใจ ขอบตาแดงก่ำ น้ำตาเริ่มไหลเอ่อออกมาเป็นทาง

“พี่ต้นต้องไปเรียนหนังสือนะลูกไม่นานเดี๋ยวพี่เขาก็กลับมาหาน้ำข้าวนะลูกนะ” ผู้เป็นแม่โอบกอดลูกสาวเอามือลูบไล้ตบหลังปลอบใจเมื่อเห็นน้ำตาใสๆไหลนองไม่หยุด พาพี่ชายยืนนิ่งเงียบทำตัวไม่ถูกไม่รู้จะเริ่มพูดคุยกับน้องสาวอย่างไรเมื่อเห็นแววคงไม่หยุดร้องไห้ง่ายๆ‘ฮือ ฮือ’ เสียงสะอื้นดังต่อเนื่องไม่ยอมรับคำปลอบโยนใดๆเอาแต่ร้องไห้งอแง วิ่งหนีหายหอบร่างกายบอบบางขึ้นไปยังชั้นสองของบ้าน

“ต้นขอไปคุยกับน้องก่อนนะครับ”สายตากังวลใจของต้นกล้าส่งตรงคล้ายขออนุญาต น้าสาวพยักหน้าพร้อมแสดงสีหน้าเหนื่อยใจในความเอาแต่ใจของลูกสาวเมื่อได้รับสัญญาณตกลงต้นกล้าไม่รอช้ารีบก้าวเท้ายาวตรงยังบันไดตามน้องสาวขึ้นไปยังห้องส่วนตัว

พี่ชายหยุดยืนนิ่งถอนใจไล่ความกดดันก่อนเปิดประตูเข้าไปยังห้องนอนของน้องสาวก้าวเดินพาตัวเองนั่งลงบนเตียงข้างๆ เด็กหญิงตัวน้อยที่นั่งร้องไห้ไม่ยอมหยุด

“น้ำข้าวฟังพี่นะ พี่ไม่ทิ้งน้ำข้าวไปไหนพี่สัญญาจะกลับมาหาน้ำข้าวไวๆ นะเด็กดี” เด็กหญิงหันหาพี่ชายด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตาพยายามกลั้นสะอึกสะอื้นขอบตาแดงช้ำจนดูบวมเป่งคล้ายผ่านการปาดเช็ดน้ำตาอย่างหนัก

“พี่ต้นอย่าโกหกน้ำข้าวนะคะ”นิ้วก้อยที่ดูแข็งแรงและมั่นคงยื่นยังเบื้องหน้าเด็กหญิงตัวน้อยเพื่อรอการตอบรับมือเล็กเปียกชุ่มไปด้วยน้ำตาที่เพิ่งปาดไปเมื่อครู่ยื่นออกมาเกี่ยวนิ้วก้อยตอบกลับเพื่อเป็นการยืนยันสัญญากับพี่ชายแสนรัก

การปรับความเข้าใจของทั้งคู่เป็นไปด้วยดีสองพี่น้องพูดคุยกันได้ปกติดังเดิม ทำให้ความกังวลที่เคยมีจางหายไปจากใจ ทั้งสองนั่งคุยหยอกล้อจนเวลาล่วงเลยจนพลบค่ำต้นกล้าส่งน้ำข้าวเข้านอนเรียบร้อยจึงเดินลงมาร่ำลาน้าสาวเพื่อขอตัวกลับบ้าน

“ยังไงก็ตั้งใจเรียนให้จบเร็วๆนะต้นจะได้เป็นเสาหลักให้พ่อกับแม่” มืออบอุ่นตบบ่าส่งกำลังใจให้ลูกชายเพื่อนสนิท

“ครับน้า แล้วยังไงพรุ่งนี้ต้นมารับน้ำข้าวไปส่งโรงเรียนเหมือนเดิมนะครับ”

“จ๊ะ กลับบ้านไปพักผ่อนเถอะ ขับรถดีๆนะ” ต้นกล้ายกมือไหว้อำลาก่อนก้าวหันหลังเดินออกไปขึ้นรถเพื่อเดินทางกลับบ้านตัวเองโดยมีน้าสาวรอส่งอยู่หน้าบ้าน เครื่องยนต์ถูกสตาร์ท รถค่อยๆเคลื่อนตัวห่างออกไปจนลับตา

ระยะทางระหว่างบ้านน้ำข้าวถึงบ้านต้นกล้าไม่ไกลกันมากนักตลอดทางเขารู้สึกกังวลใจเป็นห่วงน้องสาวคนละสายเลือดมากมายเมื่อถึงเวลาต้องห่างไกลกันจริงๆเขาจะรู้สึกอย่างไร ความลังเลเริ่มเกาะกุมจิตใจ เมื่อถึงจุดหมายรถจอดเทียบหน้าบ้านเสียงเครื่องยนต์ดับสนิทพร้อมต้นกล้าก้าวลงจากรถและเดินเข้าในบ้านซึ่งมีพ่อและแม่นั่งดูทีวีอยู่ด้วยความเพลิดเพลิน

“ต้นกลับมาแล้วครับ” เสียงแตกหนุ่มดึงดูดความสนใจทำให้ผู้เป็นแม่หันเหสายตาจากทีวีมองมายังลูกชาย

“กินข้าวมาหรือยังต้น”หญิงสาวส่งคำถามห่วงใยถึงการกินอยู่อาหารมื้อเย็นของลูกชายคนเดียวที่เดินเข้ามานั่งยังโซฟาข้างๆ

“เรียบร้อยแล้วครับ”

“น้องรู้เรื่องไปต่างประเทศแล้วสิ”ผู้เป็นแม่ถามถึงเด็กหญิงที่ชอบงอแงเอาแต่ใจเป็นเด็กติดพี่ชายคนละสายเลือดเป็นที่สุดอย่างคาดเดาเหตุการณ์ได้ล่วงหน้า

“ครับ ต้องปลอบตั้งนานกว่าจะยอมนิ่ง”เสียงถอนใจหนักหน่วงสอแววกังวลใจออกมาให้เห็นชัดเจน

“เด็กคนนี้ติดตาต้นมากเลยนะพ่อว่าไหม”ผู้เป็นแม่ส่งสายตายังชายอีกคนที่อยากดึงเข้าร่วมสนทนาด้วย

“ก็อยู่กับเจ้าต้นมาตั้งแต่เล็กแต่น้อยเป็นธรรมดาที่ต้องงอแง”ชายหนุ่มวัยกลางคนหันมาตอบสนองร่วมวงกับภรรยาและลูกชาย

“ต้นเป็นห่วงน้องเหมือนกันแต่ซักวันน้องคงเข้าใจ”

“เวลามันเดินเร็วนะลูกยังไงต้นก็ต้องสร้างอนาคตไว้ก่อนวันข้างหน้าจะได้มีความภูมิใจแล้วถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปซะก่อนต้นก็จะมีทุกอย่างทั้งหน้าที่การงานแล้วก็ความรักนะลูก” หญิงสาวพูดสิ่งที่ตรงใจลูกชายเพราะด้วยสายสัมพันธ์แม่ลูกคงสัมผัสและรับรู้ถึงความรู้สึกที่ลูกชายมีต่อเด็กหญิงเป็นอย่างดี

อาทิตย์ถัดมา.. ณ สนามบิน วันนี้เป็นวันที่ต้นกล้าต้องเดินทางไปเรียนต่อต่างประเทศน้ำข้าวยังคงดูเศร้าสร้อยไม่สนุกสนานร่าเริงเหมือนเช่นทุกวัน ทำให้ต้นกล้ารู้สึกกังวลใจห่วงใยน้องสาวอย่างหนัก

“น้ำข้าวยิ้มให้พี่ดูหน่อยสิเด็กดี”ต้นกล้าพยายามทำให้ความร่าเริงของเด็กหญิงกลับคืนมาแต่ดูไม่เป็นผลใดเด็กหญิงตัวน้อยไม่ยอมพูดจาได้แต่มองหน้าพี่ชายด้วยน้ำตาคลอเบ้า สายตาวิงวอนขอร้องไม่อยากให้พี่ชายต้องจากไปไหนจนไกลสายตา

“น้ำข้าวยิ้มให้พี่เขาหน่อยสิลูกทำแบบนี้พี่เขาไม่สบายใจนะ” ผู้เป็นแม่หันไปเตือนลูกสาวเมื่อเห็นเธอเงียบและไม่ยอมเจรจากับพี่ชายจนเวลาพูดคุยจวนใกล้หมดเต็มที

“น้ำข้าวไม่อยากให้พี่ต้นไปนิค่ะน้ำข้าวคิดถึงพี่ต้น” น้ำตาใสๆ ไหลออกมานองแก้ม เด็กหญิงตัวน้อยโผ่เข้ากอดคอพี่ชายที่ย่อตัวลงมานั่งอยู่เบื้องหน้าเธอซบลงบนบ่าร้องไห้

“ไม่ร้องนะเด็กดี” ต้นกล้ากอดน้องสาวหน้าหวานไว้แน่นแนบอก ใจสั่นหวั่นไหวตาม

“...”

“พี่สัญญาแล้วไงว่าจะกลับมาหาน้ำข้าวไวๆ” ต้นกล้าพูดพลางเอามือลูบไล้ผมน้องสาวตัวน้อยไว้เป็นการปลอบใจเนิ่นนาน น้ำข้าวพยายามฝืนเก็บความสะอึกสะอื้นไว้

“ค่ะ น้ำข้าวจะเป็นเด็กดีของพี่ต้นอึกๆ น้ำข้าวจะไม่ร้องไห้แต่พี่ต้นต้องกลับมาหาน้ำข้าวไวๆ นะคะ อึกๆ”

“อืม พี่สัญญา..”การร่ำลาเพื่อจากกันแสนไกลจบลงเมื่อเครื่องบินทยานขึ้นสู่ท้องฟ้า ค่อยๆเคลื่อนตัวห่างออกไปจนลับตา

ตั้งแต่ต้นกล้าจากไปน้ำข้าวดูไม่สดใสร่าเริงเหมือนเคยพูดจาน้อยลงคงเพราะไม่มีพี่ชายให้ออดอ้อนอีกแล้ว เธอกลายเป็นเด็กหญิงนิ่งเงียบ บางครั้งบางคราวก็นั่งเหม่อลอยคล้ายคิดถึงคนไกลแต่ถึงอย่างไรเธอยังคงดำเนินชีวิตต่อไปเรื่อยๆโดยไม่มีพี่ชายคอยดูแลจนทุกอย่างเริ่มลงตัวและคุ้นเคยกับการต้องอยู่โดยลำพัง

เวลาผ่านไปจากวันเป็นเดือน จากเดือนเป็นปีระหว่างที่อยู่ห่างไกลกัน ต้นกล้ายังคอยส่งข่าวกลับมาให้ที่บ้านรับรู้ถึงชีวิตความเป็นอยู่ตลอดเวลาไม่เคยห่างหายหรือขาดการติดต่อกับน้ำข้าวก็เช่นกัน สองพี่น้องยังคงสื่อสารพูดคุยกันทั้งทางโทรศัพท์และจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ไม่เคยขาดเวลาว่างหลังจากเรียนหนังสือหรือวันหยุดน้ำข้าวจะถ่ายรูปเก็บไว้ เมื่อติดต่อกับต้นกล้าเธอจะส่งรูปที่ถ่ายไว้ให้พี่ชายดูเป็นระยะ ต้นกล้าได้รับรู้และเห็นความเปลี่ยนแปลงของน้องสาวจากเด็กหญิงตัวน้อยค่อยๆโตเป็นเด็กสาววัยรุ่นพัฒนาแปรเปลี่ยนไปตามกาลเวลาที่เดินผ่านไปเรื่อยๆ ทำให้ต้นกล้าแน่ใจและเข้าใจความรู้สึกของตัวเองชัดเจนแล้วว่าเขาหลงรักน้องสาวคนละสายเลือดมาโดยตลอด ไม่ว่าเวลาที่เขามีความสุขหรือมีเรื่องท้อแท้ในใจเขาจะคิดถึงน้องสาวคนนี้เสมอเธอคือคนที่คอยเป็นกำลังใจให้เขา ความร่าเริงของน้ำข้าวเหมือนพลังชีวิตที่เติมเต็มความสุขและความรู้สึกดีให้มีความอดทนมุมานะเพื่อสร้างอนาคตต่อไป




Create Date : 05 ตุลาคม 2555
Last Update : 8 พฤศจิกายน 2555 21:29:21 น.
Counter : 471 Pageviews.

2 comments
  
ซึ้งค่ะ ขอสมัครเป็นแฟนคลับเรื่องนี้ไว้ก่อนนะคะ
โดย: fahtsuki วันที่: 11 พฤศจิกายน 2555 เวลา:12:04:44 น.
  
ได้ค๊า ยินดีอย่างยิ่งเลยค๊า
โดย: มาโซคิส วันที่: 11 พฤศจิกายน 2555 เวลา:18:52:47 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

มาโซคิส
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 16 คน [?]



เ ร า ต่ า ง กั น แ ส น ไ ก ล

Blood A_Blood Type Series
เรียบง่าย อยู่บนเหตุและผล สันติ ยุติธรรม

ถ้าในฝันนั้น.. ฉันได้มีเธอ.. ขอนอนหลับไม่ตื่นได้ไหม..
เ ว ล า คิ ด ถึ ง ใ ค ร บ า ง ค น ม า ก ๆ อ ย า ก ดึ ง เ ค้ า อ อ ก ม า จ า ก โ ล ก แ ห่ ง ค ว า ม ฝั น แ ล้ ว ก อ ด ซ ะ !! ใ ห้ ห า ย คิ ด ถึ ง





หากวันใด อ่อนแอ ท้อแท้ ผิดหวัง ให้ลองย้อนนึกถึงวันที่เคยตะเกียกตะกาย . .



ถ้าคนๆ หนึ่ง มีอิทธิพลมากพอที่จะทำให้เรายิ้มออกมาได้โดยไม่ตั้งใจ.. มานก็ไม่แปลกเลยที่เขาสามารถทำให้เราน้ำตาไหลได้โดยไม่รู้ตัว..

Online Now




New Comments