Group Blog
All Blog
|
เสพติดรัก mydarling บทที่7 Chapter 7 ห้องเรียนมหาวิทยาลัยคณะบริหาร.. ภายในมีนักศึกษานั่งอยู่โหลงเหลงเนื่องจากยังไม่ถึงเวลาของการเรียนการสอนต๊อกแต๊กฟุบลงบนโต๊ะดูเหมือนอาการเมาค้างจากเมื่อคืนยังไม่ดีขึ้น ต๊อกแต๊กเป็นไงบ้างแกไปนอนห้องพยาบาลดีกว่าไหม ดูสภาพแล้วไม่ไหวนะแบบนี้ พริกนั่งข้างๆถามอาการเพื่อนสาวด้วยความเป็นห่วงเป็นใยมือยื่นแตะสัมผัสร่างกายจับหาอาการไข้ของคนหมดเรี่ยวแรง ไม่เป็นไรฉันไม่อยากโดนยัยข้าวด่าว่าแต่ทำไมยัยข้าวยังไม่โผล่อีกล่ะ เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นในกระเป๋าสะพายสองสาวหยุดการสนทนากระทันหัน ฮัลโหล ยัยข้าวว่าไงจ๊ะทำไมยังไม่ขึ้นห้องเรียนอีกล่ะแก (ผมต้นกล้านะครับ..) อ้าวพี่ต้นขอโทษทีค่ะพริกนึกว่ายัยข้าวสีหน้าซีดสนิทเมื่อรู้ว่าทักผิดคนและรอฟังคนปลายสายเจรจาถึงสาเหตุที่ต้องใช้โทรศัพท์เพื่อนสนิทโทรหาตนอย่างสงสัยใคร่รู้ (พอดีผมจะโทรมาบอกว่าน้ำข้าวไม่สบายวันนี้ไปเรียนไม่ไหวยังไงฝากลาอาจารย์ให้น้ำข้าวด้วยนะ) ยัยข้าวเป็นไรมากไหมค่ะพี่ต้น..สายตาส่อแววห่วงใยยังคนไม่สบายที่ถูกเอ่ยชื่อถึง (ก็มีอาการมึนแล้วยังลุกไม่ขึ้นตอนนี้ผมให้นอนพักไปแล้วครับ) ค่ะยังไงฝากดูแลยัยข้าวด้วยนะคะ เรื่องลาเดี๋ยวพริกจัดการให้ค่ะ (ขอบคุณมากครับ) ไม่เป็นไรค่ะฝากบอกยัยข้าวหายเร็วๆ นะคะ โทรศัพท์ถูกวางสายเมื่อจบการสนทนาสายตาเหล่มองยังเพื่อนที่นอนหมอบอยู่ข้างๆต๊อกแต๊กวันนี้ยัยข้าวไม่มานะสงสัยเมาค้าง พริกพูดกับเพื่อนสาวที่เงยหน้าขึ้นมาสบตาด้วยอาการร่อแร่เต็มที รู้งี้ฉันโดดบ้างก็ดี ต๊อกแต๊กระบายคำพูดด้วยน้ำเสียงเซ็งสุดฤทธิ์ ฟุบหน้าลงกับโต๊ะตามเดิม แต่พริกสะใจเรื่องเมื่อวานมากเลยแกยัยข้าวทำได้เริ่ดจริงๆ เรื่องอะไรย่ะยัยพริก.. สาวผมซอยยังมึนงงสมองไม่สั่งการจึงคิดตามไม่ทันเกี่ยวกับเรื่องที่พริกพูดถึง ก็ที่ยัยข้าวสาดน้ำมะนาวใส่หน้านังมารไอวี่ไงล่ะเมื่อวานเด็กที่ผับเห็นเหตุการณ์ตั้งแต่ต้นจนจบเล่าให้พริกฟังว่านังมารไอวี่ยั่วพี่เกล้าแต่เขาไม่สนใจก็เลยไปวีนใส่เขายัยข้าวทนเสียงวีนไม่ไหวเลยสาดน้ำมะนาวใส่ซะ เงียบสนิทเหมือนคนเป็นใบเลยแก นี่ยัยพริกฉันว่านะยัยข้าวของเราต้องเริ่มสนใจพี่เกล้าบ้างแล้วล่ะว่าป่ะ.. ไม่รู้นะเพราะพริกดูยัยข้าวไม่ออกแต่ดูท่าทางพี่เกล้ามีใจให้เพื่อนเราเต็มๆ แล้วล่ะ ก็เมื่อวานอ่ะพอพริกพูดว่าสะใจที่ยัยข้าวสาดน้ำใส่ยัยไอวี่พี่เกล้าเขายิ้มด้วยล่ะแกยิ้มอบอุ่นแบบที่พริกไม่เคยเห็นมาก่อนปกติหน้าพี่เขาจะนิ่งเฉยตลอดเวลาแกว่าป่ะล่ะ อืมคงจะจริง แต่ตอนนี้ฉันเป็นห่วงยัยข้าวจังปกติยัยนี่ไม่เคยขาดเรียนเลยนะดูท่าอาการจะหนัก มัวแต่ห่วงยัยข้าวดูสังขารตัวเองซะก่อนเถอะแก เสียงซุบซิบดังขึ้นภายในห้องเรียนเบี่ยงเบนความสนใจสองสาวให้หันไปมองตามเสียงจนพบต้นตอที่เป็นสาเหตุรัฐเกล้าย่างกายตรงมาหยุดยืนเบื้องหน้าสองสาวที่นั่งมองอยู่ด้วยอาการตกตะลึง ... พี่เกล้ามาหายัยข้าวใช่ไหมค่ะ? พริกชิงถามขึ้นก่อนเพราะรู้จุดประสงค์ของชายหนุ่มอย่างไม่ต้องคาดเดา อืม ข้าวล่ะ? เสียบเรียบนิ่งถามหาสาวหน้าหวานโดยไม่ใส่ใจสายตาหลายคู่ที่กำลังจ้องมองมา ยัยข้าวไม่สบาย พี่ต้นโทรมาบอกพริกเมื่อกี้นี้เอง ข้าวเป็นไร?น้ำเสียงดูมีอาการตื่นเต้นเล็กน้อยแต่พยายามเก็บอาการไว้ไม่แสดงออกมาในใจสับสนร้อนลุ่มรุนแรง ยัยข้าวเมาค้างลุกไม่ไหวก็เลยขาดเรียน ต๊อกแต๊กพูดเสริมขึ้นมาบ้างด้วยสีหน้าอิดโรยแต่ต้องการมีส่วนร่วมในการสนทนากับหนุ่มหล่อ อืม ขอบใจนะ รัฐเกล้าเดินออกจากห้องไปปล่อยให้สายตาหลายคู่มองตามร่างสูงกันเหลียวหลัง รัฐเกล้ากำโทรศัพท์แน่นตัดสินใจไม่ได้ว่าจะกดเบอร์โทรหาน้ำข้าวดีหรือไม่เกรงว่าจะโทรไปรบกวนคนป่วยที่อาจกำลังหลับพักผ่อน แต่ในใจกระวนกระวายด้วยความเป็นห่วงอยากได้ยินเสียง อยากรู้อาการป่วยของเธอว่าเป็นอย่างไรสาหัสแค่ไหนเธอถึงยอมขาดเรียนไปแบบนี้เขาใช้ความคิดอยู่นานจึงตัดสินใจเดินตรงยังลานจอดรถ เกล้ารอนิ่มด้วยสิ เสียงเรียกชื่อเพื่อรั้งคนเดินให้หยุดนิ่งกับที่ นุ่มนิ่ม หญิงสาวร่างบางตัวเล็กลูกสาวของนักธุรกิจใหญ่ เธอเป็นผู้หญิงที่หลงรักรัฐเกล้ามาตั้งแต่เด็กครอบครัวของทั้งสองสนิทสนมจนเคยคิดหมั่นหมายทั้งคู่ให้แต่งงานกันเมื่อถึงเวลาอันเหมาะสมเพื่อผลประ รัฐเกล้าชะลอฝีเท้าลงแต่ไม่ได้หยุดเดินซะทีเดียวจะไปไหน เสียงหวานๆถามชายหนุ่มที่ดูรีบร้อนกระวนกระวายใจ ธุระ.. เสียบตอบเรียบนิ่งแต่ยังคงก้าวเดินต่อเรื่อยๆ ธุระอะไร ไม่มีเรียนแล้วหรือไง ... ไม่มีเสียงตอบใดๆจนหญิงสาวเริ่มร้อนรนอยากรับรู้ถึงสถานที่ที่ทำให้ชายหนุ่มเบื้องหน้ากังวลใจได้มากมายขนาดนี้ ขอนิ่มไปด้วยคนได้ไหมรัฐเกล้าหยุดยืนอยู่หน้าประตูรถของตัวเองส่งสายตาห้ามปรามปฎิเสธถึงสิ่งที่หญิงสาวถามคล้ายขอร้อง ... ไปด้วยไม่ได้จริงเหรอเป็นความลับหรือไง นิ่มกลับไปดีกว่าอย่าเพิ่งมาป่วนเราตอนนี้ สิ้นเสียงพูดจาประตูรถถูกกระชากเปิดพร้อมก้าวเท้าพาร่างกายขึ้นรถและขับออกไปโดยไม่ได้สนใจหญิงสาวที่ยืนมองจนรถพ้นสายตา เกล้าทำไมเธอถึงใจร้ายได้ขนาดนี้เธอมีหัวใจบ้างหรือเปล่านุ่มนิ่มบ่นพึมพำกับตัวเองและหันหลังเดินกลับไปยังที่เดิมของเธอ เวลาเที่ยงกว่าๆ รถยนต์คันหรูจอดสนิทที่หน้าบ้านของสาวหน้าหวานคนที่รัฐเกล้าห่วงใยสุดชีวิตหลังจากดับเครื่องยนต์เรียบร้อยเขาย่างก้าวลงจากรถตรงไปหยุดยืนยังประตูรั้วหน้าบ้านเมื่อเห็นว่าประตูเปิดแง้มไว้ไม่ได้ล๊อคเขาจึงถือวิสาสะเดินเข้าไป เวลานี้เขาไม่สนใจแล้วว่าจะเป็นการเสียมารยาทเข้าบ้านคนอื่นโดยไม่ได้รับอนุญาตเขาสนใจอยู่แค่สิ่งเดียวคือเจอน้ำข้าว.. ภายในบ้านเงียบสนิทมองไปรอบบริเวณไม่เห็นสิ่งมีชีวิตใดอยู่เลยรัฐเกล้าก้าวเดินขึ้นชั้นบนของบ้านตรงไปยังห้องนอนของสาวหน้าหวาน ประตูถูกผลักออกเบาๆคนที่เขาต้องการพบเจอนอนสลบไสลอยู่บนเตียงกว้าง รัฐเกล้าย่างก้าวเดินช้าๆ นั่งยังเก้าอี้ที่วางอยู่ข้างเตียงมองดูน้ำข้าวด้วยความเป็นห่วงเขาค่อยๆ เอามือลูบผมเธอเบาๆ และเอื้อมจับมือบอบบางขึ้นกุมไว้นั่งมองใบหน้าหวานๆ อยู่อย่างนั้น ต้นกล้าเดินกลับมาถึงหน้าบ้านด้วยถุงอาหารเต็มมือหยุดยืนชะงักเมื่อเห็นรถคันเมื่อคืนที่พาน้องสาวกลับมาอย่างหมดสภาพจอดอยู่ความคิดสั่งการให้รับรู้ว่าตอนนี้ชายหนุ่มใบหน้านิ่งเรียบคงอยู่กับน้องสาวเป็นที่เรียบร้อยแล้วเขาเดินเข้าบ้านเชื่องช้าและเดินย่องอย่างเบาเพื่อไม่ให้เกิดเสียงดังหลังจากที่จัดแจงวางสัมภาระที่ซื้อมาเรียบร้อย ต้นกล้าค่อยๆ เดินขึ้นชั้นบนเพื่อแอบดูสถานการณ์บางอย่างและภาพเบื้องหน้าที่เห็นชายหนุ่มกำลังกุมมือน้องสาวไว้ในใจต้นกล้าอยากวิ่งเข้าไปกระชากมือให้หลุดออกจากกันด้วยความหึงหวงแต่ต้องหักห้ามใจเอาไว้แล้วทำจิตใจให้สงบเยือกเย็นเดินถอยลงมายังชั้นล่างเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมา รัฐเกล้านั่งมองหน้าน้ำข้าวอยู่นานจนคนที่นอนหลับรู้สึกตัวลืมตาตื่นขึ้นมาเขาค่อยๆ วางมือเธอลงเบาๆ ให้เป็นอิสระ พี่เกล้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่ค่ะวันนี้ไม่มีเรียนเหรอ สีหน้าประหลาดใจคนตรงหน้าอย่างมากที่นั่งอยู่ใกล้ๆด้วยสายตากังวลใจ ถึงซักพัก.. เป็นไรมากไหม ไม่เป็นไรแล้วค่ะน้ำข้าวได้นอนพักหลายชั่วโมงดีขึ้นแล้วล่ะ แน่ใจ? สาวหน้าหวานพยักหน้าแทนคำตอบ น้ำข้าวแอบดีใจอยู่ลึกๆ ที่เห็นเขาเป็นห่วงแบบนี้ทำให้เธอคิดถึงรอยจูบที่เขาฝากเอาไว้ให้อีกครั้งเธอไม่กล้ามองสบตากับสายตาเฉยชา รู้สึกร้อนวูบวาบที่ใบหน้า ... ทำไมหน้าแดง ตัวร้อนมีไข้หรือเปล่า ปละ.. เปล่าค่ะ เสียงตอบตะกุกตะกักกลัวคนถามจะรู้ทัน ที่หน้าแดงไม่ใช่เพราะพิษไข้แต่เป็นเพราะเขาที่นั่งจ้องมองเธออยู่ข้างๆ ไหนดูหน่อย.. รัฐเกล้าเอื้อมมือแตะสัมผัสหน้าผากสาวหน้าหวานเพื่อวัดระดับความร้อน น้ำข้าวไม่เป็นไรจริงๆน้ำข้าวว่าพี่เกล้ากลับไปเรียนดีกว่านะคะ น้ำข้าวไม่อยากเป็นต้นเหตุให้พี่เกล้าต้องขาดเรียน รัฐเกล้าค่อยๆ ดึงมือกลับและปรับสีหน้าเรียบเฉยมองหน้าเธอนิ่งๆ อืม หายไวๆ นะ เธอถอนหายใจเฮือกใหญ่เมื่อเห็นร่างสูงเดินพ้นประตูไป ใจจริงเธออยากพูดคุยกับเขาให้มากกว่านี้แต่ไม่กล้าสบตาสาเหตุเพราะใบหน้าเฉยชาทำให้ใจเธอหวั่นไหวอย่างมากมาย รัฐเกล้าเดินลงมาชั้นล่างด้วยความรู้สึกผิดหวังทั้งที่กระวนกระวายเป็นห่วงอยากเจอแทบคลั่งแต่เธอกลับผลักไสเหมือนต้องการให้เขาไปพ้นจากสายตาคงเพราะมีคนคอยเอาอกเอาใจดูแลอยู่ใกล้ๆ เธอเลยไม่ต้องการให้ใครมาห่วงใยหรือแท้จริงแล้วเขาอาจไม่เคยอยู่ในใจเธอเลยก็ได้ยิ่งคิดก็ยิ่งเจ็บปวดแต่ถึงจะทรมานใจแค่ไหนก็ยังเทียบไม่ได้กับความห่วงใยที่เขามีให้เธอและความคิดต้องหยุดลงเมื่อเห็นใครอีกคนยืนอยู่เบื้องหน้า... สวัสดีครับ ต้นกล้าทักทายตามมารยาทเจ้าของบ้านที่รับหน้าที่แทนอย่างเต็มใจ เช่นกันครับ ขอโทษที่เข้ามาโดยพลการ อยู่ทานข้าวเที่ยงด้วยกันก่อนไหมครับ พอดีผมมีเรียนต่อขอบคุณที่ชวนขอตัวนะครับ ต้นกล้ามองดูสถานการณ์จนผู้มาเยือนก้าวออกจากบ้านและขับรถหรูออกไปพ้นสายตาเขาจึงเดินกลับเข้าไปยังห้องครัวเพื่อหยิบถาดอาหารกลางวันที่จัดเตรียมไว้ให้คนป่วยขึ้นชั้นบน เช้าวันจันทร์.. น้ำข้าวมาเรียนได้ตามปกติเธอนั่งอ่านหนังสือที่โต๊ะประจำเพื่อรอเพื่อนสาวที่มาสายอีกตามเคยต๊อกแต๊กรีบวิ่งจูงมือพริกมาแบบจรวดเมื่อเห็นน้ำข้าวรออยู่ กรี๊ดดดดยัยข้าวมาเรียนแล้ว ต๊อกแต๊กส่งเสียงดังจนผู้คนบริเวณนั้นแตกตื่นน้ำข้าวยกมือขึ้นปิดหูแสดงสีหน้าต่อว่าเพื่อนสาวจนทำให้คนส่งเสียงหัวเราะชอบใจที่ทำให้เพื่อนหงุดหงิดได้สำเร็จ นี่รู้ไหมคณะเราจะจัดไปแคมป์กันล่ะแกพริกเอ่ยพูดหลังจากได้รับข้อมูลเรื่องการไปเที่ยวพักผ่อนประจำปีที่ทางมหาวิทยาลัยจะจัดขึ้นในไม่ช้า จริงอ่ะยัยพริก!! ที่ไหน เมื่อไหร่ ต๊อกแต๊กทำตาโตประกอบเสียงตื่นเต้นให้ความสนใจกับเรื่องไปเที่ยวเป็นอย่างมาก ไปเขาใหญ่วันเสาร์นี้พริกตอบทุกคำถามที่เพื่อนรอฟังคำตอบอย่างใจจดจ่อ ว๊ายยยยต้องรีบเก็บกระเป๋าโดยด่วนมีเวลาเหลือไม่กี่วันเอง แกจะเวอร์ไปไหนต๊อกแต๊กฟังให้จบก่อนสิขัดใจจริงๆ พริกทำหน้าเบื่อหน่ายจริงจังใส่เพื่อนที่กระดี๊กระด๊าพอโดนต่อว่าต๊อกแต๊กก็ทำท่าสงบเสงี่ยมเจียมตัวนิ่งฟังคำพูดของเพื่อนต่อ พริกจะบอกว่ามีปีสี่คณะอักษรศาสตร์ไปด้วยนะแก แบบนี้สุดหล่อฉันก็..ต๊อกแต๊กเปลี่ยนโหมดตื่นเต้นทำหน้าดีใจแทนราวกับสุดหล่อที่พูดถึงเป็นแฟนเธอหันหาน้ำข้าวเพื่อเรียกร้องความสนใจ นั่นล่ะประเด็นที่พริกอยากบอก พริกทำตาแพรวพราวมองไปยังน้ำข้าวอีกสายตา ยัยข้าว!! เสียงตะโกนดังขึ้นพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย เมื่อเห็นว่าเพื่อนสนิทไม่สนใจฟังเรื่องเมื่อครู่เลย ว่า.. เสียงใสๆ ของน้ำข้าวดังขึ้นแต่สายตายังคงจับจ้องแค่หนังสือตรงหน้า โอ๊ย!! ฉันอยากโดดน้ำตายเธอเป็นหุ่นยนต์หรือไงย่ะไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรกับเขาเลย ต๊อกแต๊กวีนแตกใส่น้ำข้าวทันทีที่เธอยังคงไม่เคยใส่ใจต่อสิ่งใดในโลกนี้ ไม่ตื่นเต้นเลยเหรอยัยข้าว พริกหันถามสมทบอีกแรง ตื่นเต้นเรื่องไรกันเหรอ? ตาโตแววใสยังคงจ้องมองที่หนังสืออย่างใจจดจ่อ พอเลยยัยพริกฉันว่าเลิกพูดกับยัยข้าวเหอะพูดไปก็เท่านั้นไม่ได้สนใจอะไรเล้ยย...ต๊อกแต๊กส่ายหน้าเอือมระอาเพื่อนอย่างหนัก เห้ย!! ยัยข้าวดูโน้นสิ พริกชี้ให้เพื่อนดูสิ่งน่าสนใจที่กำลังเดินผ่านมาทางหน้าตึกด้วยความประหลาดใจ ว๊ายยยย สุดหล่อฉันเดินควงกับใคร!!ต๊อกแต๊กไม่ยอม!! เอาพี่เกล้าของฉันคืนมา!!น้ำข้าวนิ่งชะงักเมื่อได้ยินชื่อรัฐเกล้า เธอหันมองตามจุดสนใจของเพื่อนทันที หญิงสาวร่างบางเดินอยู่ข้างชายหนุ่มสายตาเย็นชาถึงจะไม่ได้ใกล้ชิดกันมากนักแต่ก็ทำให้ใจน้ำข้าวเต้นแรงไม่เป็นจังหวะ นี่ยัยข้าว..นังคนนั้นมันเป็นใคร!! ต๊อกแต๊กหันกลับมาถามน้ำข้าวเหมือนอยากจะกินเลือดกินเนื้อใครซักคน นั่นสิรู้จักหรือเปล่าแก พริกหันกลับมายังเพื่อนสนิทถามถึงความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ที่เห็น น้ำข้าวจะรู้ไหมล่ะอาจจะเป็นแฟนพี่เกล้าก็ได้นิ เธอตอบพร้อมหันหน้ากลับไปที่หนังสือแต่มือสั่นใจสั่นจนไม่เข้าใจความรู้สึกตัวเอง ไม่ได้การล่ะฉันจะไปถามให้รู้เรื่อง!! ต๊อกแต๊กเตรียมพุ่งกระโจนเข้าหาเป้าหมายอย่างใจหวัง อยากรู้สถานะของชายหญิงที่เดินคู่กัน ต๊อกแต๊กอย่าไปยุ่งเรื่องส่วนตัวของคนอื่นได้ไหมแปลกตรงไหนที่เขาจะมีผู้หญิงเดินด้วย พวกเธอก็เห็นสาวๆ มาห้อมล้อมพี่เกล้าออกบ่อยยังไม่ชินกันอีกหรือไง น้ำข้าวปรามเพื่อนไม่ให้ก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวด้วยสายตานิ่งเฉยแต่แฝงความรู้สึกสับสนไว้ภายในจนต๊อกแต๊กหยุดชะงักเหมือนโดนสาปเป็นหิน ใช่ พริกว่าอย่าไปยุ่งเลยเดี๋ยวพี่เกล้าโกรธเอานะแก พริกพูดเสริมพร้อมเหลือบมองไปยังน้ำข้าวเพราะสังเกตุเห็นความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับเพื่อนสาวชัดเจน เราขึ้นเรียนกันดีกว่า น้ำข้าวเก็บข้าวของหอบหนังสือลุกเดินขึ้นตึกโดยไม่ใส่ใจว่าจะมีใครกำลังยืนงงเป็นไก่ตาแตกมองดูเธอด้วยความแปลกใจเมื่อสองสาวตั้งสติได้ก็รีบหยิบสัมภาระวิ่งตามสาวหน้าหวานทันที ยัยข้าวรอด้วยนี่แกเป็นอะไรของแก เพื่อนทั้งสองต่างรู้สึกสงสัยอย่างรุนแรงไม่เข้าใจความคิดของน้ำข้าวเท่าไร ไม่ได้เป็นอะไรก็ถึงเวลาเรียนแล้วนิ น้ำข้าวยังคงก้าวเดินต่อไปเรื่อยๆ โดยไม่หันกลับมองด้านหลังที่มีเพื่อนวิ่งตามในระยะประชิดตัว พริกว่าแกมีอาการแปลกไปป่ะยัยข้าวนี่แกหึงพี่เกล้าหรือไง? เออ!! ฉันก็รู้สึกแบบนั้นนะยัยข้าวต๊อกแต๊กออกความคิดเห็นร่วมด้วยอีกคน น้ำข้าวอึ้งนิ่งเมื่อโดนตั้งคำถามกระชากความรู้สึกอย่างจังเธอถามใจตัวเองว่าสิ่งที่ทำให้เธอหงุดหงิดสาเหตุมาจากชายร่างสูงที่มีหญิงสาวเดินอยู่ข้างกายจริงหรือเปล่า บ้าเหรอ.. น้ำข้าวจะไปหึงเขาทำไมน้ำข้าวไม่ได้เป็นแฟนกับเขานะ น้ำข้าวรีบแก้ตัวกับเพื่อนแต่ยังคงสงสัยในความรู้สึกที่ใจสั่นหวั่นไหวไปกับเขาคนนั้นน้ำข้าวพยายามปัดความคิดพวกนี้ออกจากสมองเดินเข้าไปนั่งในห้องเรียนและไม่ใส่ใจเรื่องของรัฐเกล้าอีกถึงใครจะกำลังวิพากวิจารณ์อยู่ก็ตาม.. |
มาโซคิส
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 16 คน [?] เ ร า ต่ า ง กั น แ ส น ไ ก ล Blood A_Blood Type Series เรียบง่าย อยู่บนเหตุและผล สันติ ยุติธรรม ถ้าในฝันนั้น.. ฉันได้มีเธอ.. ขอนอนหลับไม่ตื่นได้ไหม..
Link |