Group Blog
All Blog
|
เสพติดรัก mydarling บทที่17 Chapter 17 ตั้งแต่รัฐเกล้าและน้ำข้าวคบกันมาความสัมพันธ์ค่อยๆพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ เคยห่วงก็ห่วงมากขึ้น จากรักก็รักเพิ่มทวีคูณ ความผูกพันของสองใจก็เพิ่มตามลำดับคล้ายสานสายใยทักทอจนหนาขึ้นเรื่อยๆแต่ทว่าบางครั้งความรักก็อาจทำร้ายใจใครบางคนที่อยู่รอบข้างจนต้องหาทุกวิถีทางให้ได้ความรักมาครอบครองไว้เอง ข้าวเป็นไงบ้างไม่เจอกันซะนานเลยนะเสียงหวานทักทายเมื่อเดินมาหยุดยืนข้างๆโต๊ะหินอ่อนหน้าคณะเรียนที่มีน้ำข้าวนั่งทบทวนหนังสือรอคอยคนรักมารับกลับบ้าน อ้าวพี่นิ่มทำไมมาอยู่แถวนี้ล่ะค่ะน้ำข้าวสบายดีค่ะ พี่นิ่มล่ะสบายดีหรือเปล่า ไม่ค่อยสบายใจเท่าไรพี่แวะมาหาข้าวมีเรื่องอยากคุยด้วยนิดหน่อยพอจะมีเวลาว่างให้พี่หรือเปล่า น้ำข้าวละสายตาจากหนังสือเรียน วางมือจากทุกสิ่งครุ่นคิดชั่วครู่ก่อนตอบคำถาม ได้ค่ะงั้นน้ำข้าวโทรบอกพี่เกล้าก่อนนะ มือบอบบางคว้าเครื่องมือสื่อสารข้างกายพร้อมกดต่อสาย อย่าบอกเกล้านะว่าพี่มาหาพี่ไม่อยากให้เกล้ารู้กลัวเขาว่ามาวุ่นวายกับข้าวหน่ะ น้ำข้าวไม่อยากโกหกพี่เกล้าเลยแต่ไม่เป็นไรค่ะพี่นิ่มจะได้สบายใจ รอแป๊บนะคะน้ำข้าวกดเบอร์โทรศัพท์ต่อสายหารัฐเกล้าด้วยความรู้สึกกระอักกระอ่วนไม่สบายใจ พี่เกล้าเดี๋ยววันนี้น้ำข้าวแวะไปที่คอนโดเองนะน้ำข้าวมีธุระกับเพื่อน (ไปไหนกับใคร?) เอ่อ.. เพื่อนที่ห้องอ่ะจะคุยเรื่องวิชาเรียน (ไม่ให้ไปรับแน่นะ?) ค่ะเดี๋ยวน้ำข้าวไปเองไว้เจอกันนะคะอาจารย์ (อืม ถ้าเปลี่ยนใจก็โทรมานะ) โอเคค่ะงั้นแค่นี้นะคะ ~ตืด ตืด~ ความไม่สบายใจเกาะกุมในใจโทษฐานโกหกคนรัก น้ำข้าวถอนใจเบาๆก่อนหันกลับมายังหญิงสาวเบื้องหน้าที่รอคอยเจรจาเข้าเรื่องราวที่ต้องการพบเจอ เรียบร้อยแล้วค่ะพี่นิ่มเราจะไปคุยที่ไหนกันดี ตรงนี้ก็ได้ พี่คุยไม่นานไม่อยากทำให้ข้าวเสียเวลา ค่ะพี่นิ่มมีไรจะคุยกับน้ำข้าวเหรอ พี่อยากคุยเรื่องเกล้า เรื่องพี่เกล้า..?สายตาประหลาดใจลึกๆ แต่พร้อมรับฟังเรื่องราวต่อ น้ำข้าวคงรู้แล้วว่าเกล้าไม่ค่อยถูกกับคุณพ่อของเขาเท่าไหร่ ค่ะ ทุกวันนี้เกล้าก็ไม่เคยได้กลับไปที่บ้านจนคุณลุงกับคุณป้าไม่สบายใจและก็เป็นห่วงเกล้ามากพี่ขอพูดตรงๆ เลยนะในฐานะว่าที่คู่หมั้น พี่อยากจะบอกข้าวว่า.. พี่ขอเกล้าคืนได้ไหม ... พี่รู้ว่าตอนนี้เกล้าคบกับข้าวมาได้ซักพักแล้วพี่รับรู้เรื่องระหว่างเธอทั้งคู่มาตลอด แต่คุณลุงกับคุณป้ารักพี่และก็ดีกับพี่มากพวกท่านหวังให้เกล้ากลับไปอยู่ด้วยกัน พี่เลยพยายามเกลี้ยกล่อมทำให้เกล้าใจอ่อนและกลับบ้านแต่พอมีข้าวเข้ามาทำให้พี่กับเกล้าต้องห่างเหินกันจนพี่ไม่สามารถเข้าถึงตัวเกล้าได้เลย และถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไปเกล้าก็คงจะหลงระเริงจนไม่นึกถึงใครที่กำลังเป็นห่วงเขาอยู่พี่ขอร้องนะข้าว ปล่อยเกล้าไปเถอะ ถือว่าช่วยพี่ให้ได้ทำหน้าที่คู่หมั้นที่ดีบ้างข้าวคงไม่อยากทำให้ครอบครัวของเกล้าต้องแตกแยกกันใช่ไหม ... พี่ขอร้อง ตัดใจจากเกล้าซะคืนเกล้าให้พี่ ถ้าหวังดีกับเขาจริงๆ ก็ต้องช่วยให้เขากลับไปคืนดีกับพ่อแม่นะ น้ำข้าวไม่มีสิทธิ์คืนหรือยกพี่เกล้าให้ใครเพราะน้ำข้าวไม่ใช่เ เพราะพี่รู้ไงถ้าพี่คุยกับเกล้าตรงๆเขาต้องรั้นและไม่ฟังคำพูดของพี่ เพราะเขายังมีข้าวอยู่ พี่ถึงมาขอร้องข้าวให้ข้าวเลิกยุ่งเลิกติดต่อกับเกล้าซะ เขาอาจเปลี่ยนใจก็ได้ ค่ะน้ำข้าวจะพยายามไม่ยุ่งกับพี่เกล้าอีก เพื่อความสบายใจของพี่นิ่ม ขอบใจมากนะข้าวที่เห็นใจพี่ขอบใจจริงๆ ความเจ็บปวดแทรกซึมตามความรู้สึกมันทรมานเหมือนหัวใจกำลังจะแตกสลายออกเป็นเสี่ยงๆ เสียงหวานๆของนุ่มนิ่มเหมือนยาพิษที่ค่อยๆทำลายความรู้สึกและจิตใจจนพังย่อยยับไม่เหลือชิ้นดี คำพูดที่ตอกย้ำซ้ำแล้วซ้ำเล่าคือเขามีคู่หมั้นแล้วและตอนนี้เ
น้ำข้าวกลับถึงบ้านด้วยอาการเหม่อลอยจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เธอไม่สดใสร่าเริงเช่นทุกวัน จนผู้เป็นแม่แปลกใจในความผิดปกติของลูกสาวพยายามพูดคุยถามไถ่ถึงอารมณ์และจิตใจที่ดูแปรเปลี่ยนไป ข้าววันนี้เป็นอะไรหรือเปล่าลูกทำไมดูหน้าตาไม่สดใสเลย มีเรื่องไม่สบายใจอะไรหรือเปล่า เปล่าจ๊ะแม่น้ำข้าวเพลียนิดหน่อย เหมือนไม่ค่อยสบายน้ำข้าวขึ้นไปอาบน้ำนอนก่อนนะ น้ำข้าวเดินขึ้นห้องคล้ายคนไร้เรี่ยวแรงหมดอาลัยตายอยาก ประตูห้องถูกปิดลงเบาๆ เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นข้างๆน้ำข้าวนอนฟุบหน้าลงกับหมอนนุ่มไม่อยากรับรู้สิ่งใดในเวลานี้ห้องที่มืดมิดมีแค่แสงไฟจากหน้าจอมือถือสว่างขึ้นเป็นจังหวะกับเสียงโทรศัพท์ที่ดังเป็นระยะไม่ขาดสาย รัฐเกล้ากระวนกระวายใจเมื่อปลายสายที่กำลังติดต่อไม่มีท่าทีว่าจะถูกรับแต่อย่างใดเขาไม่เลิกล้มความตั้งใจยังคงพยายามต่อสายโทรศัพท์อยู่อย่างนั้น สายตานิ่งเรียบพลางมองดูนาฬิกาบ่งบอกเวลาสองทุ่มเศษทุกอย่างดูผิดปกติสำหรับน้ำข้าว ในเวลานี้สิ่งที่ทำให้ร้อนรนอยู่ในใจไม่ใช่ความโกรธจนโมโหหรือหงุดหงิดทำให้อารมณ์เสียแต่มันเป็นความสับสนและความห่วงใยกลัวจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นกับเธอคนที่รักมากมาย ความอดทนสิ้นสุดลงเขารอต่อไปไม่ไหวอีกแล้วรัฐเกล้าคว้ากุญแจรถรีบเดินออกจากห้อง ทิ้งอาหารค่ำที่ตั้งใจเตรียมไว้เต็มโต๊ะเพื่อรอคอยสาวหน้าหวานกลับมาร่วมรับประทานแต่ไร้วี่แวว รถหรูจอดลงที่หน้าบ้านของน้ำข้าว เครื่องยนต์ดับสนิทเ แม่สวัสดีครับขอโทษนะครับที่มาดึกๆ ไม่เป็นไรจ๊ะเกล้ามีอะไรหรือเปล่า ข้าวกลับถึงบ้านหรือยังครับ กลับมาตั้งแต่หัวค่ำแล้วล่ะตอนนี้คงหลับไปแล้วเพราะตั้งแต่มาถึงก็เข้าห้องเงียบเลย ทะเลาะอะไรกันหรือเปล่าวันนี้แม่เห็นหน้าตาน้องดูไม่ดีเลย เปล่าครับผมโทรมาก็ไม่รับสายเลยเป็นห่วง ไว้รอน้องสบายใจก็คุยกันดีๆนะลูกนะ ครับข้าวถึงบ้านแล้วก็สบายใจ งั้นผมกลับก่อนนะครับรัฐเกล้ายกมือไหว้ก่อนเดินกลับขึ้นรถ ความสับสนในใจมีมากมาย คำถามหลายคำถามเกิดขึ้นข้าวเป็นอะไร.. เขาทำอะไรผิด.. มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นระหว่างเรารัฐเกล้าตั้งคำถามให้กับตัวเองแต่ยังคงไร้คำตอบ มุมหนึ่งของสถานความบันเทิง.. สงบเงียบไม่ค่อยมีผู้คนผ่านไปมาซักเท่าไหร่รัฐเกล้านั่งนิ่งเอนหลังพิงพนักโซฟา นิ้วเรียวยาวครีบบุหรี่ไว้หลวมๆวางมือพาดบนโซฟาปล่อยให้ไฟแดงๆ เผาบุหรี่สั้นลงเรื่อยๆ มืออีกข้างมีแก้วเหล้าที่ถูกดื่มจนเหลือค่อนแก้วถือไว้แววตาและสีหน้าเหมือนคนหมดแรงและท้อใจสิ่งที่สับสนยังคงวนเวียนอยู่ในใจไม่เลือนหายไป เขาใช้ความคิดอย่างหนักควรทำอย่างไรต่อไปเพราะเธอคนรักไม่เปิดโอกาสให้ได้ปรับความเข้าใจในทุกๆทาง โดยที่เขาไม่มีทางได้รับรู้ว่าทำอะไรผิดหรือเคืองใจกันด้วยสาเหตุใด เสียงถอนหายใจเหนื่อยล้าคล้ายหมดหนทางเยียวยา พี่เกล้าหรือเปล่าค่ะ เสียงใสทำลายความฟุ้งซ่านที่กำลังเตลิดไปไกลชายหนุ่มมองกลับไปยังหญิงสาวคนหนึ่งที่ยืนอยู่ตรงหน้า ... พี่เกล้าจริงๆ ด้วย ... เขาปรับสีหน้าเรียบเฉย สายตาเย็นชาส่งไปยังหญิงสาวเหมือนเป็นคำถามว่าเธอคือใคร พอดีแวะมาเที่ยวเดินหาห้องน้ำไม่เจอจนหลงมาทางนี้โชคดีจังเจอพี่เกล้า ... พี่เกล้าจำเฟริส์ไม่ได้เหรอ ... เฟริส์เป็นเพื่อนห้องเดียวกับยัยข้าวค่ะ อืม รัฐเกล้าหายข้องใจยกแก้วเหล้าดื่มเข้าปากจนหมด วางแก้วลงบนโต๊ะพร้อมจี้บุหรี่ลงกับที่เขี่ยจนไฟแดงดับสนิทห้องน้ำเดินกลับหันหลังแล้วเลี้ยวซ้าย เสียงละมุนเอ่ยโดยไม่ได้หันมองยังคู่สนทนา มือยกขวดเหล้ารินน้ำสีชาลงในแก้วจนเกือบเต็ม ทำไมพี่เกล้ากินเหล้าเยอะจังเครียดอะไรหรือเปล่าค่ะ ... ว่าแต่พี่เกล้ามีคู่หมั้นแล้วจริงเหรอ ... รัฐเกล้าหยุดชะงักแก้วที่กำลังยกเข้าปาก หันกลับมามองสาวตรงหน้าที่กำลังนั่งลงบนโซฟาอีกฝั่งรอคอยคำตอบเพื่อจะสนทนาต่อ ก็พี่ปีสี่คนนั้นไงชื่ออะไรน๊า นิ่ม... สายตาเย็นชาเก็บอารมณ์ความรู้สึกวางสีหน้านิ่งเรียบ ยกแก้วเหล้าดื่มตามปกติ ใช่ๆ พี่นุ่มนิ่ม ไปเอาข่าวมาจากไหน ก็เฟริส์ได้ยินจากปากพี่สาวเขาเลยนะ ... เมื่อเย็นเห็นพี่เขาเดินมาคุยกับยัยข้าวเฟริส์นั่งอยู่ตรงนั้นพอดีแต่ไม่ได้แอบฟังจริงๆ นะ เขาว่าไงบ้าง พี่สาวบอกกับยัยข้าวว่าเขาเป็นว่าที่คู่หมั้นพี่เกล้าอะค่ะแล้วก็บอกให้ยัยข้าวเลิกยุ่งกับพี่ แล้วยังมีเรื่องพ่อแม่พี่อีกด้วยเฟริส์ได้ยินไม่ถนัด รัฐเกล้าใจกระตุกหวั่นไหว นี่คงเป็นเหตุผลที่ทำให้น้ำข้าวไม่ไปตามนัดและไม่ยอมรับโทรศัพท์ทั้งคืนสาเหตุมาจากคำพูดของนุ่มนิ่มเพื่อนสาวที่เขาไม่เคยคิดมีใจเป็นอื่นได้อีกแล้ว พี่เกล้าเฟริส์ถามจริงๆพี่สาวเขาเป็นคู่หมั้นพี่จริงหรือเปล่า ไม่จริง นั่นไงว่าล่ะเฟริส์เห็นพวกพี่มาตลอด เฟริส์ก็ไม่อยากจะเชื่อเพราะถ้าพี่เกล้ามีคู่หมั้นแล้วคงไม่มาคบกับยัยข้าวหรอกแต่สงสารยัยข้าวจังคงรู้สึกไม่ดีมากๆ แต่ก็ยังเข้มแข็งได้อีกถ้าเป็นเฟริส์คงร้องไห้ขี้มูกโป่งแน่ๆ ... เนี้ยมีรุ่นน้องมาจีบยัยข้าวตั้งหลายคนแหน่ะ ... รัฐเกล้ากำแก้วในมือไว้แน่นในใจรู้สึกหงุดหงิดอารมณ์เสียขึ้นมากะทันหัน แต่เชื่อไหมยัยข้าวพูดมาเต็มปากเต็มคำว่ามีแฟนแล้ว รุ่นน้องพวกนั้นหน้าจ๋อยไปเลย ... ความรู้สึกร้อนวูบในใจดับลงทันที เขาระบายยิ้มออกมาจางๆ เฟริส์ไม่กวนพี่เกล้าแล้วดีกว่าไปเข้าห้องน้ำก่อนลืมไปซะสนิทป่านนี้เพื่อนหากันแล้วมั้ง ขอบใจนะ ขอบใจเฟริส์เรื่องอะไรค่ะ เรื่องที่เล่าให้ฟัง โอ๊ยไม่ต้องขอบใจเฟริส์หรอกค่ะเฟริส์ต่างหากที่ต้องขอบคุณพี่ที่บอกความจริงเรื่องที่ข้องใจอยู่เฟริส์ไปก่อนนะคะพี่เกล้า อืม... รัฐเกล้าพยักหน้าให้หญิงสาวก่อนเธอเดินจากไป ความสับสนเปลี่ยนเป็นความหวั่นไหวที่ก่อตัวขึ้นภายในใจเป็นห่วงและคิดถึงคนที่รักมากมาย ตอนนี้เธอคงเจ็บปวดกับสิ่งที่ใครบางคนคิดจะทำลายความรักที่มีให้พังลง เช้าวันต่อมา.. รัฐเกล้าเดินมายังหน้าคณะบริหารเขาไม่ได้นอนทั้งคืนเพราะเป็นห่วง กังวลใจเรื่องน้ำข้าว ถ้าเป็นคนอื่นเขาคงปล่อยเหมือนสลารในอากาศแต่นี้เพราะเป็นเธอเขาถึงร้อนรนทนไม่ไหวต้องหาวิธีปรับความเข้าใจให้รู้เรื่องโดยเร็วที่สุดรัฐเกล้าตรงดิ่งคว้ามือน้อยๆ ให้ลุกเดินตามไปอย่างว่าง่าย อยากคุยด้วย ร่างบางลุกเดินตามโดยที่รัฐเกล้าไม่ได้หยุดฝีเท้าแต่อย่างใดยังคงเดินต่อไปเรื่อยๆ พี่เกล้าจะพาน้ำข้าวไปไหน ตามมา เราต้องคุยกัน น้ำข้าวไม่มีอะไรจะคุย แต่เกล้ามี เสียงเข้มเย็นชาทำให้เธอเงียบสนิทและเดินตามไปแต่โดยดีรัฐเกล้าพาน้ำข้าวเดินมายังห้องดนตรีของคณะ เขาปล่อยมือที่ยึดกุมไว้เมื่อเข้ามาอยู่ภายในห้องตามลำพังน้ำข้าวยืนหลังชิดกำแพงใกล้ประตูทางออกที่เปิดแง้มไว้ เธอก้มหน้านิ่งไม่ยอมสบตาชายหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงหน้าและไม่มีคำพูดใดๆจะเอ่ยออกมา ... ข้าวเป็นอะไร ... ทำไมไม่มาติวตามนัดโทรศัพท์ก็ไม่รับสาย รัฐเกล้ายืนมองสาวหน้าหวานที่เวลานี้บนใบหน้าไม่มีรอยยิ้มสดใสให้เห็นกลับตีสีหน้านิ่งเฉยไร้ความรู้สึก พอดีน้ำข้าวไม่สบายนิดหน่อยเลยรีบกลับบ้านค่ะโทรศัพท์ก็ปิดเสียงเอาไว้เลยไม่ได้ยิน ข้าวมีเหตุผลที่ไม่พูดความจริงหรือเปล่า ... น้ำข้าวชะงักนิ่งเงยหน้ามองตรงยังคนที่ยืนตรงหน้า สบตาชั่วครู่มองเห็นรอยความเจ็บปวดแฝงอยู่ในแววตาเย็นชาคู่นั้น ทำไมเราไม่คุยกันดีๆ ... ความเจ็บปวดเริ่มคืบคลานเข้ามาเกาะกุมความรู้สึก ใจสั่นสะเทือนแต่พยายามสะกดมันไว้เสมือนว่าเข้มแข็งทั้งที่จริงกำลังอ่อนแออยากโผ่เข้าหาความอบอุ่นเพื่อเติมเต็มกำลังใจจากเขาที่ยืนอยู่ตรงหน้า ข้าว... รัฐเกล้าจับมือบอบบางกุมไว้เบาๆ พี่เกล้าไม่สบายหรือเปล่า น้ำข้าวถามเมื่อสัมผัสถึงความร้อนวูบที่มือเพราะมันอุ่นจนร้อนเกินกว่าที่เคยได้สัมผัสสายตามองกลับมาที่คนรักยกมืออีกข้างที่ไร้พันธนาการขึ้นอังที่หน้าผากของเขา ... พี่เกล้าไม่สบายจริงๆด้วย เกล้าไม่เป็นอะไร รัฐเกล้าจับมือที่อังหน้าผากยึดกุมไว้อีกข้าง ตัวร้อนแบบนี้ยังจะบอกไม่เป็นไรอีก เอาข้าวคนเดิมกลับมาได้แล้ว...เสียงแหบพร่าราวกระซิบกระซาบขอร้อง
ได้ไหม... พี่เกล้า เราเลิกคบกันแบบนี้เถอะ... คำพูดที่ต้องอดทนฝืนความรู้สึกพูดออกมา เธอรู้ดีว่ามันทำร้ายจิตใจของเขาและตัวเอง ทำไม... ความรู้สึกชาไปทั้งร่างกายบวกกับความเจ็บปวดที่หัวใจเจ็บจุกจนพูดอะไรไม่ออก มีคนที่เขาเป็นห่วงรอพี่เกล้าอยู่พวกเขาต้องการพี่เกล้ามาก แต่เกล้าต้องการข้าว น้ำเสียงแผ่วเบาอ้อนวอนเหมือนคนหมดเรี่ยวแรง ... เธอกำลังพ่ายแพ้ต่อความรู้สึกใจอ่อน เมื่อได้ยินคำพูดแผ่วเบาแต่สายตาเย็นชากลับจริงจังหนักแน่น เกล้าทำผิดอะไรข้าวถึงอยากเลิกคบ เปล่าค่ะ พี่เกล้าดีกับน้ำข้าวทุกอย่างตั้งแต่รู้จักกันมาจนถึงตอนนี้แต่ข้าว... ไม่อยากทำร้ายใครแต่ยอมทำร้ายใจตัวเองงั้นเหรอ รัฐเกล้าพูดออกมาอย่างรู้นิสัยของเธอดี น้ำข้าวหลบสายตาที่จ้องมองมาและหันมองไปทางอื่น ... รู้ไหมข้าวทำร้ายเกล้า น้ำข้าวเปล่าทำร้าย... เธอรีบหันสายตากลับมามองสบตากับเขาทันที ... ข้าวหวังดีและอยากทำในสิ่งที่น่าจะดีสำหรับทุกคน น้ำข้าวดึงมือออกจากการจับกุมพร้อมเอื้อมคว้าประตูให้เปิดกว้างออก แต่ประตูถูกดันไว้และปิดสนิทลงหมดหนทางหนี รัฐเกล้ายื่นฝ่ามือแข็งแรงยันประตูข้างๆสาวหน้าหวานจนเธอขยับมายืนหลังพิงกำแพงตามเดิมและมืออีกข้างของรัฐเกล้าก็ยกขึ้นมายันกำแพงดักไว้อีกข้างเพื่อไม่ให้เธอหนีไปไหนได้อีก มองหน้าเกล้า... เสียงละมุนแต่มีน้ำหนักแกมบังคับทำให้เธอต้องทำตามแต่โดยดี ... รักเกล้าหรือเปล่า? ... ใจเต้นรัวใบหน้าร้อนวูบวาบหลุบตาลงต่ำ เธอกลัวสายตาเย็นชาที่จ้องมองมาจะอ่านความรู้สึกในใจได้ ตอบ... น้ำข้าวรักพี่เกล้าแต่... ริมฝีปากบางถูกประกบปิดไว้ด้วยปากอบอุ่น เขาไม่ต้องการได้ยินอะไรอีกแล้วนอกจากคำว่ารักที่เป็นคำตอบสัมผัสอ่อนโยนดูดดื่มคละเคล้าไปกับกลิ่นบุหรี่จางๆ มือเรียวยาวที่ดันกำแพงไว้เปลี่ยนมาจับที่ไหล่บอบบางอย่างเบามือและอีกข้างเลื่อนไปแตะใบหน้าใสๆอย่างทะนุถนอม แต่ทุกอย่างหยุดกึกเมื่อน้ำข้าวยกมือที่สั่นหวั่นไหวผลักอกกว้างที่อยู่แนบชิดออกเบาๆเมื่อสติเธอกลับคืนมา ... พอได้แล้วค่ะ รัฐเกล้าดึงร่างบางมาโอบกอดไว้แน่นยกมือขึ้นลูบผมเธอเบาๆ แค่รู้ว่ารักไม่อยากฟังอะไรอีกแล้ว เสียงกระซิบดังข้างหู ฟังแล้วพาให้ใจหวั่นไหวต่อเนื่อง พี่เกล้าอย่าทำให้น้ำข้าวลำบากใจอีกเลยเธอพยายามควบคุมความเข้มแข็งไม่ให้ใจอ่อนกับชายหนุ่มที่กำลังโอบกอดเธอไว้ด้วยความรัก ... กลับไปอยู่กับคนที่เป็นห่วงพี่เกล้าและตอนนี้เขาก็เป็นว่าที่คู่หมั้นและต่อไปคือคนที่จะต้องใช้ชีวิตร่วมกันในอนาคต ไม่มีใครเป็นคู่หมั้นและจะไม่มีวันได้เป็น พี่เกล้าลองเปิดใจกับพี่นิ่มบ้างบางทีพี่เกล้าอาจเจอความสุขก็ได้ ความสุขในปัจจุบันและอนาคตอยู่นี่จะให้เกล้าไปหาจากไหนอีก ปล่อยน้ำข้าวไปเถอะ... อ้อมกอดค่อยๆ คลายออกจนร่างกายหลุดพ้นพันธนาการ ... ดูแลตัวเองนะคะพี่เกล้ายิ่งไม่สบายอยู่เดี๋ยวจะป่วยเอาง่ายๆ เธอส่งยิ้มจางๆ และเอามือเอื้อมไปแตะสัมผัสที่แก้มของรัฐเกล้าเบาๆก่อนเปิดประตูเดินออกจากห้องไป ประตูถูกปิดลงพร้อมหัวใจที่กำลังจะแตกสลายเพราะโดนคนที่รักทำลายอย่างอ่อน
โดย: มาโซคิส วันที่: 29 ตุลาคม 2555 เวลา:5:14:02 น.
|
มาโซคิส
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 16 คน [?] เ ร า ต่ า ง กั น แ ส น ไ ก ล Blood A_Blood Type Series เรียบง่าย อยู่บนเหตุและผล สันติ ยุติธรรม ถ้าในฝันนั้น.. ฉันได้มีเธอ.. ขอนอนหลับไม่ตื่นได้ไหม..
Link |
บางฉากเครียดๆแท้ๆ แต่พออ่านในอีกมุมมองเรื่องชื่อ
ทำให้นั่งอมยิ้ม และ หรือ หัวเราะขำ คนเดียวเฉยเลย