ตุลาคม 2555

 
1
2
3
4
10
12
17
19
20
21
22
23
27
30
 
 
All Blog
เสพติดรัก mydarling บทที่5

Chapter 5

ค่ำคืนวันศุกร์.. ลานจอดรถหน้าสถานความบันเทิงพี่ชายเจ้าของวันเกิด พลุกพล่านไปด้วยรถหรูหรา ผู้คนแต่งตัวระดับไฮโซกำลังทยอยเข้าไปด้านในผับแห่งนี้..น้ำข้าวก้าวลงจากรถที่เพิ่งจอดสนิทด้วยชุดเดรสเกาะอกสีขาวสั้นเหนือเข่าเล็กน้อยผมดำเงางามยาวสยายระดับเอว ด้านหน้าติดกิ๊บประดับด้วยเพชรระยิบระยับแวววาวเมื่อต้องกับแสงไฟใบหน้าขาวใสแต่งด้วยสีอ่อนออกชมพูระเรื่อ รองเท้าส้นสูงสีขาวเพิ่มความสูงทำให้ขาเรียวยาวดูทุกอย่างลงตัวสมวัยเป็นที่สะดุดตาของคนที่เดินผ่านไปมายิ่งนักส่วนต๊อกแต๊กเจ้าของรถก้าวลงมาด้วยชุดราตรีสีแดงคล้องคอโชว์แผ่นหลังขาวเนียนน่าสัมผัสกระโปรงยาวผ่าด้านข้างแหวกขึ้นมาระดับน่องเผยให้เห็นขาอ่อนยั่วน้ำลายชายหนุ่มผมซอยสั้นแต่งทรงเก๋ไก๋น่ามอง ไม่เสียแรงที่ยอมสละเวลาช่วงเย็นเพื่อจัดการบรรจงแต่งเสริมความงามทั้งหมดนี้สองสาวพากันเดินเข้าไปในผับเพื่อร่วมงานวันเกิดเพื่อนสาวตามที่ได้รับเชิญมา

“ยัยพริกหวัดดี” ต๊อกแต๊กเอ่ยทักทายเจ้าของวันเกิดที่ยืนรับแขกอยู่ด้านหน้าประตูทางเข้าด้วยชุดราตรีสั้นสีโอรสดูแล้วน่ารักไปอีกแบบ

“ว๊ายยย! แกมากันแล้วเหรอ วันนี้เริ่ดมากเลยนะ มานี่เลยพริกจองโต๊ะไว้ให้รับรองเห็นบรรยากาศรอบงานแน่ๆ”พริกก้าวเท้ายาวเดินมายังเพื่อนสาวสองคนที่หยุดยืนหน้าประตูทางเข้าสถานความบันเทิงด้วยความตื่นเต้น

“พริกนี่ของขวัญ” น้ำข้าวยื่นถุงของขวัญที่เตรียมมาให้เจ้าของวันเกิดรับไปถือไว้

“กรี๊ดดดด ของขวัญสองกล่องแรกเลยนะเนี้ยดีใจจัง ขอบใจนะจ๊ะ จุ๊บๆ” ท่าประจำตัวของพริก จูบอากาศทำให้ต๊อกแต๊กเหล่มองแล้วเอนกายหลบไปอีกทาง

“นี่ยัยพริกน้ำลายกระเด็น เดี๋ยวหน้าฉันเป็นกากเกลื่อนไม่ต้องมาจุ๊บได้ไหมย่ะขอร้อง”

“แหม๋.. แสดงความรักแค่นี้ก็ไม่ได้ใช่สิ๊! พริกมันไม่ใช่หนุ่มหล๊อหล่อของแกนิยัยบ้า!!” น้ำเสียงกระแทกแดกดันทำสีหน้าน้อยอกน้อยใจใส่เพื่อนสาว

“เลิกทะเลาะกันได้แล้วสาวๆ” น้ำข้าวส่งเสียงห้ามปรามเพื่อนที่กำลังจะตีกันตายก่อนงานจะเริ่ม

“พริกไม่กัดด้วยแล้ว ไปรับแขกก่อนนะแกแล้วจะแวะมาหา”

“ไปไป๊!! ฉันจะได้มีเวลามองหนุ่มซะที” สายตาระดับเรด้าของต๊อกแต๊กเริ่มสำรวจไปรอบงาน

บรรยากาศคึกคักไปด้วยผู้คนและเสียงเพลงที่เปิดคลอด้วยจังหวะซอฟต์ๆคนในงานส่วนใหญ่จะเป็นระดับไฮโซหรูหรา เนื่องจากครอบครัวพริกดำเนินธุรกิจติดอันดับต้นของประเทศสังคมระดับสูงจึงเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง ผู้คนเลยดูหนาตาในงานคืนนี้

“ยัยข้าว! ดูสิคนนั้นก็หล่อ คนนี้ก็เท่ คนโน้นก็แมน อ๊ายยยยน่ากอดจริงๆ เล้ย”สายตาส่อแววแพรวพราวเริ่มสอดส่องไปรอบๆ บริเวณ

“นี่ต๊อกแต๊กอย่าบ้ากามได้ไหม..”

“นี่หล่อนว่าฉันบ้ากามได้ไงย่ะ!!”ต๊อกแต๊กตวาดเสียงแหลมใส่เพื่อนสนิทแสดงอาการโกรธเล็กน้อย

“ก็จริงนิ เห็นคนหล่อไม่ได้เลยอาการกำเริบระวังเลือดกำเดาพุ่งนะ”

“กรี๊ดดดดด ยัยข้าว มันไหลออกมาแล้วหรือเปล่าดูให้ฉันหน่อยสิฉันรู้สึกร้อนวูบวาบไปทั้งตัวเลย” น้ำข้าวนั่งหัวเราะเพื่อนที่รีบยกมือขึ้นจับใบหน้าเพื่อสำรวจตัวเอง

“...”

“ไม่คุยกับเธอแล้วยัยข้าวประสาทเสียตายแกล้งฉันซะหมดความมั่นใจเลย มองคนหล่อต่อดีกว่า” ต๊อกแต๊กทำเป็นเมินหน้าหนีแต่โดนมือบอบบางของเพื่อนสาวดึงเอาไว้ก่อนจะได้แกล้งงอนใส่

“น้ำข้าวล้อเล่นน่า...”

“อยากกินอะไรไหมย่ะ เดี๋ยวฉันไปเอามาให้”ต๊อกแต๊กยอมสละเวลาใช้เรด้า หันมาห่วงใยเพื่อนสาว

“อะไรก็ได้ แต่ห้ามเอาของแรงมาให้นะ”

“โอเค พวกค๊อกเทลแล้วกันรอนี่นะยะห้ามไปไหน อย่าให้รู้นะว่าแอบไปกุ๊กกิ๊กกับหนุ่มหล่อที่ไหน” ต๊อกแต๊กชี้นิ้วตรงมายังหน้าน้ำข้าวอย่างออกคำสั่ง

“บ้าเหรอ น้ำข้าวไม่ใช่พวกบ้ากามเหมือนต๊อกแต๊กนะ”ระหว่างที่น้ำข้าวกำลังยืนมองตามหลังเพื่อนสาวอยู่นั้น ก็มีชายแปลกหน้าเดินตรงมายังโต๊ะที่เธอนั่งส่งสายตามองมาแปลกๆ

“สวัสดีครับ เอ่อ คุณ..”

“สวัสดีค่ะ น้ำข้าวค่ะ” สาวหน้าหวานยิ้มและกล่าวทักทายเพื่อไม่ให้เป็นการเสียมารยาท

“ผมธนพัฒน์ ยินดีที่ได้รู้จักครับมาคนเดียวเหรอครับคุณน้ำข้าว” สายตาล่อแหลมเหล่มองน้ำข้าวตลอดเวลาทำให้เธอรู้สึกอึดอัดขึ้นมา

“มากับเพื่อนค่ะ พอดีเพื่อนเดินไปเอาเครื่องดื่ม”

“ถ้าไม่รังเกียจผมขอเลี้ยงเครื่องดื่มซักแก้วจะได้ไหมครับ”

“เอ่อ.. ขอโทษนะคะ ไม่ดีกว่าคะพอดีน้ำข้าวไม่ค่อยชอบดื่มของพวกนี้เท่าไร” เธอตอบปฏิเสธไปด้วยความเกรงใจและคงดูไม่น่าเกลียดจนเกินไปสำหรับคนแปลกหน้าที่เพิ่งรู้จักกันได้ไม่ถึงสองนาที

“นะครับ ผมรู้สึกถูกชะตากับคุณมากเลยยังไงก็ดื่มกับผมสักแก้วจะได้คุยทำความรู้จักกันไงล่ะครับ”

“...” ไม่มีเสียงใดๆออกจากปากน้ำข้าวนอกจากสายตาไม่สบายใจที่รู้สึกเหมือนโดนมัดมือชก

“รอผมสักครู่นะครับ เดี๋ยวผมไปเอาเครื่องดื่มมาให้”ชายแปลกหน้าหันหลังเดินไปยังบาร์เหล้าเพื่อสั่งเครื่องดื่ม น้ำข้าวมองหาทางหนีทีไล่นึกถึงเพื่อนสาวขึ้นมาสงสัยมัวแต่ไปเพลิดเพลินกับหนุ่มหล่อที่โดนเรด้าดักจับไว้ได้ที่ไหนซักแห่งถึงได้ทิ้งเธอเอาไว้คนเดียวแบบนี้ไม่นานเท่าไรชายแปลกหน้าคนเดิมก็กลับมาพร้อมกับเครื่องดื่มสองแก้ววางลงตรงหน้าเธอ

“นี่ครับของคุณ” แก้วเครื่องดื่มสีชายื่นมาตรงเบื้องหน้าทำให้เธอต้องรับไว้อย่างปฏิเสธไม่ได้ชั่ววินาทีที่แก้วสัมผัสถึงมือน้ำข้าว ก็มีมือใครอีกคนคว้าไปครอบครองก่อนยกดื่มเข้าปากจนหมดน้ำข้าวมองแก้วใบนั้นไล่ตามความสูงขึ้นไปจนพบว่าใครคือคนที่เข้ามาช่วยเธอจึงรู้สึกโล่งใจหายหนักอกแต่ยังไม่ทันได้เอ่ยพูดอะไรมือเรียวยาวอีกข้างของคนคุ้นเคยจับคางเธอเชิดขึ้นเบาๆพร้อมก้มลงมาสัมผัสริมฝีปากบางชมพูระเรื่อด้วยเรียวปากของเขาประกบไว้แนบชิดกัน ของเหลวที่มีรสฝาดจนขมค่อยๆไหลลงคอ สัมผัสซาบซ่านลึกล้ำผสมความดูดดื่มหอมหวานทำให้เธอแทบจะพยุงตัวไม่อยู่ มืออีกข้างของเขาที่ถือแก้วไว้ตวัดโอบรัดรอบเอวเพื่อประคองร่างบางในอ้อมแขนใบหน้าร้อนผ่าวใจเต้นรัวไม่เป็นจังหวะ หายใจติดขัดราวจะขาดใจ ริมฝีปากค่อยๆเคลื่อนห่างออกจากกันเมื่อสิ่งที่ส่งผ่านจากปากต่อปากไหลลงลำคอจนหมด..

ชายแปลกหน้าที่ยืนอยู่ถึงกับชะงักทำอะไรไม่ถูกสีหน้าซีดเผือกเหมือนไก่ต้ม มองเห็นภาพเหตุการณ์เบื้องหน้าที่ผ่านไปเมื่อครู่ วงแขนที่โอบรัดรอบเอวอ้อนแอ้นค่อยๆคลายออกแต่ยังประคองไว้หลวมๆ เพื่อยึดกายเธอไว้และเอาร่างเป็นหลักให้เธอได้อิงแอบแนบพิงด้วยเกรงว่าเธอยังพยุงตัวไม่ค่อยอยู่

“แก้วนี้ความแรงมันดีกรีเท่าไหร่!! นี่นายจงใจจะมอมผู้หญิงเหรอ!!” เสียงแผ่รังสีอำมหิตของรัฐเกล้าทำให้ชายแปลกหน้ารู้สึกละอายที่ถูกต่อว่าแบบรู้ทันอย่างจังจึงรีบหันหลังกลับเดินหนีหายไปในกลุ่มคนทันที

“เป็นไงบ้างเสียงเรียบเฉยแฝงไว้ด้วยความอ่อนละมุนถามไถ่

“น้ำข้าวไหวค่ะ พี่เกล้ามาอยู่ที่นี่ได้ไงเธอพูดพร้อมพยายามพยุงตัวด้วยสติที่ดึงกลับคืนมา

“ถ้าไม่อยู่แล้วข้าวจะทำยังไงใครให้กินอะไรก็จะกินว่างั้น...”

“ก็..”

“ยัยข้าวววว เกิดเรื่องอะไรต๊อกแต๊กวิ่งหน้าตื่นเมื่อเห็นรัฐเกล้าประคองน้ำข้าวไว้แนบชิด

“มีคนจะมอมเหล้าข้าว..”รัฐเกล้าตอบคำถามต๊อกแต๊กทันทีอย่างไม่ลังเล

“อ๊ายยยย ตายแล้วยัยข้าว..!!”

“น้ำข้าวไม่เป็นไรแล้วต๊อกแต๊กอย่าส่งเสียงดังสิอายคนอื่นเขา” น้ำข้าวพูดเสียงแผ่วเบาคล้ายกระซิบและบอกเพื่อนสนิทให้ทำตามอย่างว่าง่าย

“แล้วเธอไปทำอิท่าไหน พวกโรคจิตถึงจะมอมเหล้าเธอ” ต๊อกแต๊กลดเสียงลงกระซิบกระซาบหาเพื่อนสาวทันทีตามคำสั่ง

“ก็แค่คนมาทักทายเฉยๆล่ะมั้ง ไม่มีอะไรหรอกน่า”

“มานี่..” ยังไม่ทันตั้งตัว รัฐเกล้าดึงมือบอบบางแกมบังคับทำให้น้ำข้าวต้องขยับขาก้าวตามไปโดยมีต๊อกแต๊กเดินตามติดๆ ด้วยความห่วงใย

รัฐเกล้าจัดเก้าอี้หน้าบาร์ให้น้ำข้าวนั่งอยู่ใกล้ๆเพราะเป็นห่วงความปลอดภัยและไม่อยากให้เธอห่างจากสายตาเขาซักวินาที

“งานพิเศษที่พี่เกล้าบอกคือบาร์เทนเดอร์เหรอ”น้ำข้าวมองหน้าเขาด้วยดวงตากลมโตแวววาว

“อืม” รัฐเกล้าตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉยไม่ได้มองหน้าเธอ มือเรียวยาวยังทำหน้าที่ผสมเหล้าของเขาไปเรื่อยๆ

“พี่เกล้าสุดหล่อของต๊อกแต๊กทำงานที่นี่จริงๆ เหรอค๊าเสียงแหลมเล็กแสดงความแปลกใจอย่างที่สุด

“...” รัฐเกล้าตอบคำถามด้วยการพยักหน้า

“ว๊าววว เพอร์เฟคที่สุด!ยัยข้าวทำไมนั่งนิ่งเป็นผีตายซากแบบนั้นล่ะ เฮฮาหน่อยสิย่ะ” ต๊อกแต๊กหันไปต่อว่าเพื่อนที่นั่งนิ่งเฉย

“น้ำข้าวปวดหัวนิดหน่อยเดี๋ยวก็หายต๊อกแต๊กอยากไปสนุกก็ไปเถอะ น้ำข้าวนั่งรอนี่นะ”

“ไหวไหม รัฐเกล้าถามเมื่อเห็นสีหน้าของเธอซีดผิดปกติ เขาเป็นห่วงเธอในทุกอิริยาบถ

“ไหวค่ะ สบายมาก” น้ำข้าวส่งยิ้มหวานให้ รอยยิ้มสะดุดใจจนไม่อยากละสายตา

“นี่ยัยข้าว.. ยังไงก็รอให้ร้องเพลงอวยพรวันเกิดยัยพริกก่อนนะแล้วค่อยกลับ” ต๊อกแต๊กเตือนสติเพื่อนสาวเกรงว่าจะเบี้ยวขอกลับบ้านก่อนงานเลิก

“อือ ไปสนุกเถอะต๊อกแต๊ก”

น้ำข้าวนั่งมองบรรยากาศไปรอบๆ ด้วยอาการมึนเล็กน้อยเหตุการณ์เมื่อครู่วิ่งผ่านเข้ามาในสมองทำให้เธอนึกถึงริมฝีปากอ่อนโยน ของมึนเมาที่ว่าขมจนฝาดกลับกลายเป็นรสหวานน่าลิ้มลองและอยากสัมผัสอีกครั้งจนเผลอยกมือขึ้นมาแตะที่ริมฝีปากตัวเองจูบแรกของเธอโดนขโมยไปซึ่งหน้า...

“เป็นอะไรหรือเปล่า..”รัฐเกล้าถามเมื่อเห็นน้ำข้าวนั่งใจลอยดูเหม่อแปลกๆ จนเธอสะดุ้งเล็กน้อย

“เอ่อ.. ไม่มีอะไรค่ะ น้ำข้าวขอไปห้องน้ำหน่อยน่ะ”น้ำข้าวดึงสติออกจากภวังค์หาทางเลี่ยงคำถาม

“ไปเป็นเพื่อนไหม

“ไม่เป็นไร พี่เกล้าทำงานเถอะน้ำข้าวไปเองได้”

“ระวังตัวด้วยนะ..” รัฐเกล้ามองตามหลังร่างบอบบางไปด้วยความเป็นห่วง

น้ำข้าวรู้สึกจิตใจสับสน ปั่นป่วน จนเธอไม่เข้าใจตัวเองว่าที่ใจเต้นแรงแบบนี้มันเพราะอะไรแล้วสัมผัสรอยจูบอ่อนโยนที่ได้รับเมื่อครู่ทำไมเธอถึงโหยหาอยากจะสัมผัสมันอีกครั้ง สาวน้อยหน้าหวานเปิดก๊อกน้ำล้างหน้าเพื่อเรียกความสดชื่นกลับคืนมาแต่อาการมึนเมาไม่มีทีท่าว่าจะลดลงเลย มิหน่ำซ้ำมันยิ่งเพิ่มความเจ็บปวดและวิงเวียนที่ศรีษะให้เธอมากขึ้นอีกทวีคูณ

หลังจากที่จัดการแต่งหน้าแต่งตาพร้อมสำรวจความงามกลับมาในสภาพน่ารักสดใสดังเดิมเป็นที่เรียบร้อยเธอเดินออกจากห้องน้ำตรงมายังบาร์เหล้าและทรุดตัวนั่งลงยังที่เดิม

“เป็นไงเสียงนิ่งเรียบถามถึงอาการอย่างห่วงใย

“ดีขึ้นแล้วค่ะ”

“น้ำมะนาว” น้ำข้าวรับแก้วที่รัฐเกล้าส่งให้ดื่ม มันคงพอช่วยให้อาการมึนทุเลาลงได้บ้างไม่มากก็น้อย

“Hi ขอวอดก้า” สาวสวยเสียงเซ็กซี่ ส่งสายตาเย้ายวนกระชากใจบาร์เทนเดอร์หนุ่มหล่อ สีหน้าเขายังเรียบเฉยไม่มีปฎิกิริยาตอบโต้ใดๆยิ่งทำให้เธออยากยั่วยวนเขามากขึ้น

“ว่าไงรูปหล่อ คืนนี้เลิกงานแล้วว่างหรือเปล่าอยากไปเดทต่อไหมสายตาพราวเสน่ห์มองชายหนุ่มอย่างไม่ละสายตา

“...” เงียบสงบ

“ว่าไงคิดนานจัง...”

“...” เงียบได้อีก

“จะยั่วโมโหไอหรือไง ถามดีๆทำไมไม่ตอบ” น้ำเสียงยั่วยวนเริ่มโมโหกระแทกเสียงดังขึ้น

“ไม่ว่าง” หน้านิ่งไร้อารมณ์พูดออกมาโดยสายตาไม่คิดมองกลับมายังเธอที่กำลังยั่วยวน

“ต้องใช้เงินเท่าไรถึงจะว่างเพื่อไอ..”

“แค่ฝันก็อย่าคิด” เสียงเย็นชาเริ่มมีรังสีอำมหิตก่อตัวขึ้นลุกโชนต่อเนื่อง

“นี่แก!! จะมากไปแล้วนะ ฉันจะสั่งให้เจ้าของที่นี่ไล่แกออก!!”

“เชิญ..”

“กรี๊ดดดด” หล่อนวีนแตกเพราะรู้สึกเสียหน้าเป็นอย่างมากที่ชายหนุ่มตรงหน้าไม่ยอมสยบลงแทบเท้าทั้งที่ยื่นข้อเสนอให้เพื่อแลกกับเวลาของคืนนี้หล่อนคว้าแก้ววอดก้าตรงหน้าเตรียมยกสาดใส่เขา...

~ซ่า~ กลิ่นมะนาวตลบอบอวลน้ำใสๆ เปรอะเปื้อนตั้งแต่หน้าผากลงไปถึงลำคอ เสียงกรีดร้องเมื่อครู่เงียบสนิทเหมือนโดนสะกดให้เป็นใบ้ผู้คนรอบข้างที่อยู่ใกล้บริเวณนั้นต่างพากันหันมามองด้วยความสนใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต๊อกแต๊กวิ่งด้วยความรวดเร็วมาหยุดอยู่ตรงหน้าคู่กรณีทั้งสามคนรัฐเกล้าหันไปมองน้ำข้าวด้วยอาการตกตะลึงเล็กๆหลังจากที่สติของสาวเซ็กซี่กลับคืนมา เธอจึงกรีดร้องเหมือนคนบ้าอีกครั้ง..

“กรี๊ดดดดดดดด อีเด็กบ้าแกกล้าสาดน้ำใส่ฉันงั้นเหรอ!!”ความโกรธแค้นกระแทกเสียงใส่อย่างคนเอาแต่ใจไม่ยอมใคร

“ยัยข้าวเกิดอะไรขึ้น..”จ้าของงานวันเกิดและพี่ชายรีบวิ่งมาดูความวุ่นวายที่เกิดขึ้นพริกตรงเข้ากอดเอวน้ำข้าวไว้โดยไม่ได้สนใจคนที่กรีดร้องแต่อย่างใด

“กรี๊ดดดดดดดด ไอไม่ยอมนะคะแจ๊คอีเด็กพวกนี้ทำร้ายไอ” หญิงสาวก้าวยาวไปยืนกอดแขนเจ้าของผับอย่างจงใจหาที่พึ่ง

“ใจเย็นๆ ก่อนไอวี่ มันเกิดเรื่องบ้าอะไรว่ะไอ้เกล้าแจ๊คซึ่งเป็นผู้ชายที่กำลังถูกไอวี่ตามคั่วอยู่นั้นถึงกับตะโกนออกมาด้วยอารมณ์ฉุนเชียว

“ถามผู้หญิงคนนี้แล้วกัน” รัฐเกล้ายังคงวางสีหน้านิ่งเฉยคว้ามือน้ำข้าวเดินออกจากวงของความยุ่งเหยิง

“เดี๋ยวก่อนค่ะพี่เกล้า” พริกเรียกให้ทั้งสองหยุดเดินและยืนอยู่กับที่ “พริกขอให้ยัยข้าวอยู่ในงานจนกว่าจะร้องเพลงอวยพรวันเกิดพริกก่อนได้ไหมค่ะพี่เกล้า”เสียงขอร้องอ้อนวอนมองด้วยสายตาละห้อย

“...” น้ำข้าวมองหน้ารัฐเกล้าด้วยสายตาวิงวอนแค่ชั่ววินาทีที่เห็นแววตาของเธออารมณ์รุนแรงที่อยู่ภายในใจเขาก็สงบลงรัฐเกล้าคลายมือที่กุมกระชับไว้แน่นจนมือเธอหลุดพ้นพันธนาการ

เหตุการณ์สงบลงกลุ่มคนที่มุงดูเริ่มแยกย้ายไปสนุกกันเช่นเคยส่วนคู่กรณีทั้งหลายพากันเดินเข้าห้องส่วนตัวเพื่อเจรจาปรับความเข้าใจ...

“มันเกิดอะไรขึ้นทำไมถึงเป็นแบบนี้!!”เจ้าของสถานความบันเทิงระบายอารมณ์ที่เก็บเอาไว้นานออกมาด้วยสายตาเกรียวกราดส่งมองทุกคนที่ยืนอยู่อย่างต้องการคำตอบว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น

“...”

“ไอ้เกล้า มึงจะเล่าให้กูฟังได้หรือยังว่ะ”สายตาคาดคั้นส่งตรงยังใบหน้าคมคายที่ยืนตีสีหน้านิ่งไม่สนใจคำถามเท่าไร

“บอกให้ถามผู้หญิงคนนั้นไง”สายตายังคงนิ่งเรียบไม่สะทกสะท้านต่อสิ่งใด

“ไอวี่ผิดเองค่ะแจ๊ค เรื่องทั้งหมดไอวี่ผิดเองซิกๆ” น้ำตามารยาหญิงของนังมารร้ายเริ่มทำงานเธอพยายามพูดจาหว่านล้อมชายที่เธอโอบแขนแนบแน่นขอความเห็นใจ

“ไอวี่ไม่ร้องนะครับ เดี๋ยวผมจะจัดการให้เองนะ” ผู้ชายคนหนึ่งแสดงความโง่เขลาคล้ายคนหลงผิดตกหลุมพรางนังมารร้าย ปลอบประโลมเอาอกเอาใจกันยกใหญ่

“เลิกแล้วต่อกันได้ไหมค่ะพี่ไอวี่เรื่องจะได้จบ” พริกเจรจาสงบศึก

“โอเคจ๊ะน้องพริกพี่ไม่เอาเรื่องแล้วก็ได้” หล่อนพูดสีหน้าละห้อยแต่นัยน์ตาแฝงไว้ด้วยความอาฆาตหมาดร้ายสาวหน้าหวานเอาไว้

“น้ำข้าวก็ขอโทษทุกคนด้วยนะคะที่ทำอะไรวู่ว่ามจนเกิดเรื่องใหญ่โต”สีหน้าสำนึกผิดพูดออกมาด้วยน้ำเสียงอ่อยราวกระซิบ

“ข้าวไม่จำเป็นต้องลดตัวไปขอโทษคนแบบนั้นรัฐเกล้าพูดสวนขึ้นมาพร้อมตวัดสายตาเย็นเฉียบใส่นังมารร้ายไอวี่

“เอาเป็นว่าให้เรื่องจบโดยไม่มีข้อเคืองใจกันได้ไหม แจ๊คถามขึ้นอีกครั้งเมื่อเห็นวี่แววสงบศึกพร้อมหันมองไอวี่ด้วยสายตาหวานหยดย้อย

“โอเคค่ะไอวี่ยอมเพื่อเห็นแก่แจ๊ค แต่ไอวี่ขอตัวกลับก่อนนะคะชุดเลอะหมดแล้ว ซิกๆ” น้ำเสียงออดอ้อนเย้ายวนส่งสายตาพราวเสน่ห์ให้คู่ขาอย่างจงใจ

“โอเคครับ ไอวี่ผมไปส่งนะ.. ไอ้เกล้าพรุ่งนี้มึงต้องมาทำงานนะเว้ยถ้ากูรู้ว่ามึงลาออกหรือไม่ยอมมาทำงานกูจะไปลากตัวถึงบ้านแน่ๆไว้พรุ่งนี้มึงกับกูยังต้องคุยเรื่องนี้กันอีกรอบ” ไม่มีเสียงตอบรับใดจากสายตานิ่งเฉย

“...”

“พริกดูแลงานเลี้ยงด้วยนะ”แจ๊คเดินประคองโอบกอดไอวี่ออกไปเมื่อไหว้วานน้องสาวให้จัดการดูแลความเรียบร้อยยังสถานที่ซึ่งจัดงาน

“พี่แจ๊คจะไปไหนก็ไปเหอะ ไปให้ไกลยิ่งดี” น้องสาวตัดพ้อพี่ชายด้วยสายตามองค้อนที่ยอมถูกนังมารตัวนี้หลอกใช้

“เราออกไปสนุกกันต่อดีกว่า” ต๊อกแต๊กย่างกายเดินมาจูงมือเพื่อนสาวทั้งสองออกไปร่วมงานเพื่อลดความตึงเครียดที่เกิดขึ้นรัฐเกล้ามองตามสาวหน้าหวานด้วยแววตาห่วงใยแต่ในใจกลับรู้สึกดีที่เขาเลือกรักน้ำข้าวยิ่งตอนนี้ได้รู้ใจตัวเองว่าเขารักเธอมากมายจริงๆ 




Create Date : 11 ตุลาคม 2555
Last Update : 8 พฤศจิกายน 2555 21:33:19 น.
Counter : 334 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

มาโซคิส
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 16 คน [?]



เ ร า ต่ า ง กั น แ ส น ไ ก ล

Blood A_Blood Type Series
เรียบง่าย อยู่บนเหตุและผล สันติ ยุติธรรม

ถ้าในฝันนั้น.. ฉันได้มีเธอ.. ขอนอนหลับไม่ตื่นได้ไหม..
เ ว ล า คิ ด ถึ ง ใ ค ร บ า ง ค น ม า ก ๆ อ ย า ก ดึ ง เ ค้ า อ อ ก ม า จ า ก โ ล ก แ ห่ ง ค ว า ม ฝั น แ ล้ ว ก อ ด ซ ะ !! ใ ห้ ห า ย คิ ด ถึ ง





หากวันใด อ่อนแอ ท้อแท้ ผิดหวัง ให้ลองย้อนนึกถึงวันที่เคยตะเกียกตะกาย . .



ถ้าคนๆ หนึ่ง มีอิทธิพลมากพอที่จะทำให้เรายิ้มออกมาได้โดยไม่ตั้งใจ.. มานก็ไม่แปลกเลยที่เขาสามารถทำให้เราน้ำตาไหลได้โดยไม่รู้ตัว..

Online Now




New Comments