แบกเป้เที่ยวเมืองผู้ดีอังกฤษของ 3 สาว 2 วัย (ตอนที่ 17 # ไปเมือง CAMBRIDGE)
เคมบริดจ์ (Cambridge) เมืองที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองแห่งประวัติศาสตร์ของประเทศอังกฤษอยู่ทางตอนเหนือของลอนดอน โดยเดินทางจากลอนดอนประมาณ 1 ชั่วโมงด้วยรถไฟ เป็นเมืองมีชื่อเสียงทางด้านการศึกษาที่ดีและได้มาตรฐาน อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นเมืองที่มีเสน่ห์ มีสถานที่สำคัญต่างๆที่สวยงามได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งวัฒนธรรม และมีสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมทั้งเก่าและใหม่ที่น่าหลงใหล มีโบสถ์ที่มีชื่อเสียงเช่น Kings college Chapel ตลาดMarket Square ห้องสมุดกลางประจำเมือง พิพิธภัณฑ์ โรงละครเคมบริดจ์มีกิจกรรมให้ทำมากมาย ที่ขาดไม่ได้คือการนั่งเรือค้ำถ่อในแม่น้ำแคมเพื่อชมอาคารเรียนโบราณและบรรยากาศความเป็นเมืองสำคัญในอดีต หรือจะเป็นการพบปะสังสรรค์ในร้านอาหาร เดินเลือกซื้อของในเมืองซึ่งมีร้านค้าต่างๆที่น่าสนใจ ด้วยชื่อเสียงที่โด่งดังของเคมบริดจ์และภาพที่สวยงามตระการตามากมาย จึงทำให้มีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลกันมาตลอดทุกฤดูกาล การเดินทางในเมืองสะดวกสบายไม่ว่าจะเป็นการเดินหรือโดยรถประจำทางและเหมาะสำหรับนักเรียนที่มาเรียนต่ออังกฤษ ที่ชื่นชอบความสงบและเป็นส่วนตัวอย่างมาก
มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ประกอบด้วย 31 วิทยาลัยรวมกัน เข่น St. John College , Emmanuel College,Kings College , Claire College และ TrinityCollege เป็นต้น ความงามด้านสถาปัตยกรรมของวิทยาลัยต่างๆเป็นความงามบนความเก่าแก่ มีเสน่ห์ ปนความขลังของความเก่าแก่โบราณอันทรงคุณค่าตึกของวิทยาลัยส่วนใหญ่จะเป็นสีเหลืองหม่น ขาวหม่น แสดงอายุไขของมันอย่างชัดเจน ด้านในของวิทยาลัยต่างๆจะเป็นสนามหญ้าสีเขียวเรียบเนียน ไร้ร่องรอยการเดินลัดสนามหรือเศษกระดาษแม้เพียงชิ้นเดียวให้เป็นที่รกตาแต่อย่างใด
พวกเราเดินทางโดยรถประจำทาง National express ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงจาก London ก็ถือว่าไม่นานนัก
รถบัสมาจอดริมสนามใหญ่นอกเมือง ขากลับก็มารอขึ้นรถตรงนี้ เหมือนกัน
เข้ามาในเมืองกันแล้ว อาคารเก่าๆ สวยๆ มากมาย
บรรยากาศเมืองการศึกษา รถจักรยานจอดเต็มไปหมด
ดอกวิสทีเรีย สวยจริงๆ
เดินไปไหนก็เห็นแต่อาคารสวยๆ
ว่ากันว่า แอปเปิ้ลต้นนี้เป้นต้นที่เกิดจากเมล็ดแอปเปิ้ลที่ เซอร์ไอแซค นิวตัน ผู้ค้นพบกฏแรงโน้มถ่วงซึ๋งเคยเป็นอาจารย์อยู่ที่เคมบริดจ์
เข้าไปด้านในกันค่ะ ที่เคมบริดจ์แม้ว่าจะอยู่ในช่วงสอบเหมือนที่ออกซ์ฟอร์ด แต่ก็ยังมีบางส่วนที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้
ภาพนี้ นักท่องเที่ยวสวยชาวจีนเป็นคนถ่ายให้ แล้วเราก็ถ่ายภาพให้เธอด้วย เพราะเธอมาเที่ยวคนเดียว
"BridgeOf Sighs ของ St. John College เป็นสะพานแสดงความงดงามของศิลปกรรมลวดด้วยงานสลักหินลายวิจิตรบรรจงอย่างท้าทายคำว่า Sigh หมายถึงเสียงการถอนใจเมื่อเราผ่านพ้นสิ่งที่ทำให้เราไม่สบายใจ สะพานแห่งนี้ในสมัยโบราณให้นักโทษเดินข้าม ภายนอกมีความงดงามของการแกะสลักหินอย่างละเอียดโชว์ความสามารถของช่างฝีมือโบราณ
พันติ้งคือเรือแบบค้ำถ่อที่เป็นเอกลักษณ์ของเคมบริดจ์การพายเรือนี้ล่องแม่น้ำแคมดูวิวทิวทัศน์ของมหาวิทยาลัยถือเป็นการพักผ่อนหย่อนใจมากกว่าการเดินทางจริงๆ(เพราะไปทางบกเร็วกว่า) คนที่มาพายให้ก็เป็นนักศึกษาของเคมบริดจ์มาหารายได้พิเศษ มีทั้งหญิงและชายค่ะ
Bellis perennis : gänseblümchen คล้ายๆดอกมาร์กาเร็ตแต่จะดอกเล็กมาก ขึ้นปะปนกับต้นหญ้า หรือจะเรียกว่าดอกหญ้าก็คงจะได้ ถ้าไม่ซูมใกล้ๆจะไม่รู้เลยค่ะว่าดอกสวยขนาดนี้ ขึ้นเองนะคะ เจอทุกที่ที่มีหญ้าขึ้น
ขอบคุณข้อมูลจาก blog น้องกาญจน์ ข้ามขอบฟ้า ด้วยค่ะ
ดอก Dadelion ดอกเหลือง ๆ พอแก่เต็มที่แล้วก็จะเป็นแบบนี้ พอมีลมแรงๆ ก็จะปลิดปลิวไปตามสายลม พวกเด็กๆ ชอบเอามาเป่าเล่นกัน
ขอบคุณข้อมูลจาก blog น้องกาญจน์ ข้ามขอบฟ้า ด้วยค่ะ
ส่องดอกไม้กันเพลินไปเลย 555
อำลาบล๊อกนี้ด้วยภาพนี้...การเดินทางของพวกเรายังไม่สิ้นสุด
ขอบคุณเพื่อนๆ ทุกคนที่แวะมาเยี่ยมชมค่ะ หนึ่งปีพอดี ที่ได้ไปเยือนสหราชอาณาจักร แต่ยังเขียนเรื่องราวไม่จบเลย ...แฮ่ๆ
Create Date : 06 พฤษภาคม 2559 |
Last Update : 11 พฤศจิกายน 2559 13:34:04 น. |
|
16 comments
|
Counter : 1175 Pageviews. |
 |
|
พี่เปี๊ยกถ่ายภาพวิวตึกสวยนะคะ
ดอกไม้สีม่วงถูกใจพี่แน่เลย
น้องเมย์สูงกว่าคุณแม่แล้วนะคะ
แล้วที่มาญี่ปุ่นพี่ยังไม่ได้ลงใช่ป่าวคะ
ดอกซากุระอูเอโนะโคเอนอะคะ
โหวตท่องเที่ยวให้พี่นะคะ
ก๊อปไม่ได้อ่ะคะ มือถือก๊อปมาไม่ได้หมดคะ
พูดไม่เก่ง แต่เจ๋งทุกคำ Travel Blog ดู Blog