Be a master of your destiny, not a slave of your own fears.
 
พฤษภาคม 2549
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
23 พฤษภาคม 2549

การตลาดองค์รวม (Holistic Marketing)

โลกแห่งดุลยภาพของอุปสงค์ (Demand) และอุปทาน (Supply) เริ่มการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ในช่วงสองทศวรรษที่ผ่าน โลกของอุปทานขยายตัวอย่างรวดเร็ว โรงงานต่างๆ สามารถผลิตสินค้าได้ในปริมาณที่มากขึ้น มีคุณภาพมากขึ้นและหลากหลายชนิดมากขึ้น โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า การเพิ่มของอุปทานของโลกก้าวไปได้เร็วกว่าการเติบโตของอุปสงค์อย่างขาดสมดุล ผลคือปัจจุบันเราสามารถผลิตสินค้าหลากหลายชนิดได้มากกว่าความต้องการที่เป็นอยู่ ตัวเลือกที่มากขึ้นย่อมส่งผลให้ผู้บริโภคในปัจจุบันมีทางเลือกในการใช้สินค้าที่พวกเขา ต้องการมากขึ้นเช่นกัน

ดังนั้นการตลาดในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมาจึงพยายามให้ผู้บริโภคเกิดความพึงพอใจสูงสุดโดยขณะเดียวกันบริษัทก็สามารถอยู่รอดได้จากกำไรที่ได้จากการขายสินค้าและบริการ แนวคิดที่เดิมใช้กันอย่างแพร่หลายเริ่มกลายเป็นแนวคิดที่ตกยุค เนื่องจากความพึงพอใจของลูกค้าในปัจจุบันไม่ได้ต้องการแค่ตัวของสินค้าและบริการที่พวกเขาได้จ่ายเงินซื้อหามาเท่านั้น แต่พวกเขาต้องการที่จะได้สินค้าและบริการในภาพองค์รวมคือการได้รับสินค้าและบริการขององค์กรทั้งระบบ ไม่ว่าจะเป็นการบริการหลังการขายที่เยี่ยมยอด การตอบขอสงสัยหรือข้อโต้แย้งอย่างเป็นมิตร นอบน้อมและอดทน ความต้องการสินค้าที่เฉพาะและเป็นบริการส่วนตัว การหาซื้อสินค้าที่สะดวกและได้รับการบริการเหมือนเป็นลูกค้าคนสำคัญ หรือความรู้สึกว่าสินค้าและบริการที่ซื้อไปนั้นไม่เป็นอันตรายและส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม โจทย์เหล่านี้ทำให้แนวคิดการตลาดในทศวรรษนี้เปลี่ยนไป นั่นคือนักการตลาดจึงต้องมองภาพการทำการตลาดแบบองค์รวม (Holistic Marketing)

การทำตลาดแบบองค์รวม (Holistic Marketing) นั้นไม่ได้ให้ความสำคัญแค่หน่วยงานการตลาดเท่านั้น แต่เป็นแนวคิดที่ว่า หน้าที่การตลาดนั้นไม่ได้จำกัดอยู่แต่เฉพาะฝ่ายการตลาดแต่ทุกคนในองค์กรต้องทำการตลาดด้วย ไม่ว่าจะเป็นผู้บริหาร ฝ่ายบัญชี ฝ่ายผลิต หรือแม้กระทั่งพนักงานส่งสินค้าของบริษัทก็ยังต้องรู้จักที่จะทำการตลาดให้กับองค์กรด้วย การบริหารลูกค้าไม่ใช่กลยุทธ์ทางเลือกอีกต่อไป แต่เป็นสิ่งที่องค์กรต้องทำและต้องทำให้ดีกว่าคู่แข่งเสียด้วย แนวคิดใหม่นี้ผลักดันให้การตลาดผสานเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตในการทำงานอย่างแยกกันไม่ออก

เพราะเหตุนี้เราจะเห็นความวุ่นวาย สับสน ท้อแท้ เกิดขึ้นในองค์กรหลายแห่งที่ไม่สามารถปรับตัวให้ทันกับแนวคิดใหม่ดังกล่าว องค์กรที่ช้าและไม่พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงก็ต้องล้มหายตายไปจากระบบธุรกิจ องค์กรที่สามารถปรับเปลี่ยนได้เร็วและทำได้อย่างมีประสิทธิภาพก็จะสามารถยืนหยัดอยู่ในธุรกิจและพร้อมที่จะตอบรับกับการเปลี่ยนแปลงนี้ได้อย่างมั่นคง

ถ้าเปรียบลูกค้าเป็นดั่งผีเสื้อแล้ว เราคงจะรู้ว่าผีเสื้อนั้นไม่เคยภักดีต่อดอกไม้ดอกใดดอกหนึ่ง ถ้าดอกไม้นั้นหมดความหวาน ผีเสื้อก็จะบินจากไปและไม่รู้อีกเมื่อไรที่จะกลับมาอีกครั้ง แต่มีเหตุผลเดียวที่ผีเสื้อตัวนั้นจะกลับมาเยี่ยมเยือนดอกไม้ดอกนี้อีกก็คือ เมื่อใดที่มาก็จะได้ลิ้มรสความหอมหวานจากดอกไม้ดอกนี้เสมอ ถ้าเปรียบองค์กรเป็นดอกไม้แล้ว องค์กรของท่านจะปรับตัวให้ไปสู่ดอกไม้แห่งจุดหมาย (Destination) ของผีเสื้อของในทศวรรษนี้ได้อย่างไร

บุริม โอทกานนท์


Create Date : 23 พฤษภาคม 2549
Last Update : 23 พฤษภาคม 2549 20:27:03 น. 0 comments
Counter : 1556 Pageviews.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Jazz-zie
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]





ค้นหาใน GOOGLE.CO.TH
[Add Jazz-zie's blog to your web]