Group Blog
 
<<
เมษายน 2548
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
14 เมษายน 2548
 
All Blogs
 

แมวปิลาร์ .......สุดสายปลายรุ้ง

แมวปิลาร์ (สุดสายปลายรุ้ง)


GTW

++++++

ในเมืองที่มีหมา(ซึ่งเป็นโรคกลัวแมว) อยู่ถึงสองร้อยสิบสามตัว แต่มีแมวเพียงตัวเดียว แมวปิลาร์จึงสามารถคุยได้ว่าตัวเองเป็นแมวที่สวยที่สุดในเมือง

และรับตำแหน่งแมวขี้เหงาที่สุดในเมืองด้วย

วันไหนเซ็งมากๆแมวปิลาร์จะออกไปป่วนบรรดาหมาในเมืองจนวุ่นวายไปทั่ว หมาที่หลังจากโดนฤทธิ์ของแมวปิลาร์บ้าเลือดจนเสียหมากลายเป็นโรคกลัวเมีย..เอ้ย กลัวแมวโดยโดยถ้วนหน้า

ทันที่ที่เห็นเธอเดินผ่านหมาพวกนั้นจะหลบหน้าครางหงิง ตัวไหนหนีไม่ทันก็จะล้มลงนอนหงายขาหดงอเข้าหาตัว แสดงอาการยอมแพ้มาตรฐานสากลของหมาทุกชาติ

แรกๆก็สนุกดี แต่นานไปก็ชัดเบื่อ การรังแกหมาที่ไม่มีทางสู้มันไม่ค่อยสนุกเท่าไร พักหลังเธอจึงนอนเล่นอยู่ในบ้าน หน้าบ้าน หลังบ้าน หลังคาบ้าน ตามแต่อารมณ์แมวจะพาไป

------

ตอนสายที่สดใสของวันหนึ่ง ขณะที่แมวปิลาร์นั่งเล่นบนหลังคาบ้าน มองไปตามถนนพลันเห็นแมวตัวหนึ่งกำลังป้วนเบี้ยนอยู่แถวถังขยะหน้าบ้าน

แมวที่ไหนกัน ก็เมืองนี้เธอเป็นแมวเพียงตัวเดียวนี่นา หรือเทวดาส่งแมวหนุ่มสุดหล่อตัวยาวมาให้เธอแล้ว

ไวเท่าความคิด เธอกระโจนพรวดลงมาจากหลังคา ไต่ลงมาตามต้นไม้ข้างบ้านวิ่งปราดไปดูอย่างรวดเร็ว

แมวตัวนั้นไม่ไช่แมวหนุ่มหล่อเลยสักนิด เป็นเพียงแมวสาวตัวหนึ่งที่ท่าทางอดโซกำลังรื้อถังขยะไปมา

แมวปิลาร์ยืนเอียงคอมองอีกฝ่ายนิ่งอยู่

รู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมากที่ไม่ใช่แมวหนุ่มตัวยาวหน้าคมเข้มปากบางมาดขรึม

แมวตัวนั้นยังคงรื้อขยะไปมาอย่างมีมรรยาทไม่ทำเลอะเทอะ

"เธอทำอะไร.."

แมวปิลาร์ร้องลั่นด้วยน้ำเสียงข่มขู่เต็มที่

แมวสาวผอมโซตัวนั้นสะดุ้งโหยงโดดผลุงออกมาจากถังขยะอย่างตกใจและระแวงภัย

ตอนนี้แมวปิลาร์จึงเห็นอีกฝ่ายเต็มตา

แมวสาวที่ค่อนข้างผอมโซแต่สะอาดสะอ้านเท่าที่จะเป็นไปได้ สีหน้าท่าทางสุภาพเกรงใจ เหมือนแมวที่ได้รับการศึกษามาเป็นอย่างที่ไม่น่าที่จะเป็นแมวข้างถนนเลย

"ขอโทษค่ะ หน้าบ้านคุณเหรอคะ"

"ใช่สิ.. เธอถือดีอย่างไรมารื้อขยะที่นี่"

"ขอโทษค่ะ..พอดี ดิฉันไม่ทราบ"

"ทีนี้ก็ทราบแล้วนะ ทีหน้าทีหลังให้รู้ว่าบ้านใครเป็นใคร…แล้วไม่ต้องมารื้ออีกนะ"

"ค่ะ."

แมวตัวนั้นรับคำ ก่อนค่อยๆ เดินหลบเดินเลี่ยงไปตามถนนอย่างหงอยๆ คงเป็นแมวพเนจรมาจากเมืองอื่น

ฮี.. จะมาแย่งตำแหน่ง"แมวหนึ่งเดียวในเมือง" ของปิลาร์ได้ไง ปิลาร์ไม่ยอมหรอก อย่างไรปิลาร์ต้องเป็นหนึ่งเดียวเสมอไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน

แมวปิลาร์นั่งหยิ่งในอารมณ์ครู่หนึ่งจนใจคอเป็นปกติ แล้วก็ค่อยออกสำรวจหาที่มาของแมวสาวตัวนั้น เมืองนี้เป็นเมืองเล็กๆ ที่สงบสุข เธอรู้จักถนนทุกสายบ้านทุกหลังต้นไม้ทุกต้น

แมวตัวนั้นอยู่ข้างสนามเด็กเล่นซึ่งเป็นแหล่งเก็บวัสดุหลงเหลือจากการก่อสร้างต่างๆ ถูกนำมากองทิ้งไว้กองพะเนิน

แมวปิลาร์เดินเลียบๆเคียงๆอย่างไว้เชิงไปดูด้วยความอยากรู้

แมวตัวนั่นคงอยู่ที่นี่ แต่ตอนนี้ไม่อยู่แล้ว คงไปเที่ยวรื้อขยะอยู่ตามบ้านต่างๆ เป็นแน่

นั่นไงเดินมาแล้ว หน้าหงอยมาเชียว คงหาอาหารไม่ค่อยได้ล่ะสิ เมืองนี้ส่วนใหญ่แล้วเขาประหยัดไม่ฟุ่มเฟือยตามยุคเศรษฐกิจกินทิ้งกินขว้างไม่ได้หรอก

แมวสาวตัวนั้นเห็นแมวปิลาร์ก็ยิ้มให้อย่างเป็นมิตรเดินตรงเข้ามาทักทาย

"สวัสดีค่ะ มาแถวนี้ทำไมหรือคะ"

"มาดูแลความเรียบร้อยนะสิ แถวนี้มันเขตของฉัน"

"เชิญเข้าในบ้านก่อนก็ได้นะคะ แต่เอ้อ.. แย่จังที่ไม่มีอะไรต้อนรับเลย"

"บ้าน..บ้านเธอ"

แมวปิลาร์ถามอย่างสงสัย แมวตัวนั้นพยักหน้าตอบว่า

"ค่ะ..อาจคับแคบแต่ก็สะอาดค่ะ"

"ไม่ล่ะ"
แมวปิลาร์ปฏิเสธ "ฉันชินแต่บ้านใหญ่ๆหรูๆ ว่าแต่เธอไปไหนมา"

"ไปหาอาหารค่ะ"

"ดีแล้ว ทีหลังอย่าไปป้วนเปี้ยนแถวบ้านฉันอีก เดี๋ยวคนอื่นจะหาว่าเธอเป็นเพื่อนฉัน"

ว่าเข้าไปนั่น.. แน่ล่ะ เรื่องอะไรแมวปิลาร์จะยอมคบกับแมวข้างถนน บ้านก็ไม่มีนอนมานอนตามกองไม้เก่าๆเสียชื่อแมวปิลาร์หมด แมวตัวนั้นมีแววตาเสียใจแวบหนึ่ง แต่เธอชินชาเสียแล้วกับการถูกรังเกียจเหยียดหยามเช่นนี้

"ขอบคุณที่มาเยี่ยมนะคะ"

"ใครบอกเธอว่าฉันมาเยี่ยม ฉันมาสำรวจความเรียบร้อยต่างหากล่ะ"

ว่าแล้วแมวปิลาร์ก็เชิดหน้าเดินกลับบ้าน แหม... น่าทุบจริงๆ

………….

วันต่อมา

แมวปิลาร์สังเกตว่าแมวตัวนั้นไม่มารื้อถังขยะหน้าบ้านอีกแล้ว สงสัยว่าคงเป็นผลจากการที่เธอไปขู่ไว้เมื่อวานนั่นล่ะ

ความอยากรู้ทำให้แมวปิลาร์เดินไปด้อมๆมองๆที่กองไม้มุมสนามอีกครั้ง

แมวสาวตัวนั้นนั่งอยู่บนกำแพงรั้วข้างกองไม้ด้วยท่าทางระโหยโรยแรง พอเห็นแมวปิลาร์เดินมาก็รีบลุกขึ้นต้อนรับอย่างดีใจ

"เธอเป็นอะไรไปไม่สบายเหรอ"

แมวปิลาร์ถามเสียงห้วนๆเหมือนเจ้านายถามลูกน้อง แมวสาวตัวนั้นยิ้มอย่างอ่อนล้าบอกว่า

"สบายดีค่ะแต่อดข้าวนิดหน่อย เมืองนี้เขาประหยัดกันดีจังเลยค่ะ แทบไม่มีเศษอาหารเหลือทิ้งเลย"

"เมืองนี้แย่หน่อยนะไม่สมควรที่แมวขยะอย่างเธออยู่หรอก ..ว่าแต่เธอไม่ได้กินข้าวเช้าเลยหรือไง"

"ก็นิดหน่อย"

แมวปิลาร์สังเกตว่าอีกฝ่ายดูซูบผอมอ่อนล้าเหมือนเป็นโรคแมวขาดสารอาหารจึงถามอีกว่า

"เธอกินข้าวครั้งสุดท้ายวันไหน"


"สองวันที่แล้วค่ะ…"

สองวัน..แมวปิลาร์ร้องในใจ แมวอะไรอดข้าวได้ตั้งสองวัน สองวันนี้นานพอที่จะทำให้แมวตัวหนึ่งผอมจนหายวับไปได้เลยไม่ใช่หรือ

"แย่จัง..แต่ฉันคงจะช่วยอะไรเธอไม่ได้หรอกนะ"

"ขอบคุณค่ะ เดี๋ยวดิฉันจะลองไปค้นดูอีกที่บ่ายนี้เผื่อมีอะไรเหลือบ้าง"

แมวปิลาร์นึกถึงอาหารมื้อเช้า-เที่ยง-เย็น-กลางคืน ของเธอ มากมายอุดมสมบูรณ์ไม่ขาดดีๆทั้งนั้นแต่บางทีเธอยังงอแงในการกินเลย

"ทำไมเธอมาที่เมืองนี้ล่ะ"

"ดิฉันติดมากับรถบรรทุกค่ะ"

"เธอก็ใช้วิธีนี้ออกจากเมืองนี้ก็ได้นี่ อยู่นี้เธออาจอดตายนะ"

"ค่ะ…คงต้องรอโอกาสดีก่อนค่ะ"

แมวปิลาร์มองหน้าซีดเซียวของอีกฝ่ายหนึ่ง แล้วขอตัวกลับมาบ้านพลางนึกถึงแมวตัวนี้ไปตลอดทาง แล้วอีกสิบนาทีต่อมาแมวปิลาร์ก็กลับมายังกองไม้อีกครั้ง แมวตัวนั้นคงคงนอนคางเกยกำแพงอยู่อย่างเดิม

"มีธุระอะไรหรือคะ"

เธอลุกขึ้นต้อนรับแมวปิลาร์หากมองอย่างสงสัย

"ก็... ไม่มีอะไรบังเอิญฉันเห็นเศษไก่ย่างชิ้นหนึ่งทิ้งอยู่ในถังขยะข้างบ้านฉัน บางทีเธออาจจะต้องการ "

อีกฝ่ายตาเป็นประกายแห่งความหวังดีอกดีใจขึ้นมาทันที

"ที่ไหนนะคะ"

"ถัดจากบ้านฉันมาหลังเดียว ลองไปดูสิ"

"ขอบคุณค่ะ"

เธอรีบวิ่งไปทันทีสักพักก็กลับมาพร้อมกับคาบไก่ย่างครึ่งตัวมาด้วย เธอวางมันลงบนกำแพงตรงหน้าแมวปิลาร์ ก่อนเงยหน้าขึ้นมา มองประกายตาแห่งความมีชีวิตความหวังและความกะตือรือล้น ฉาบฉายอยู่บนใบหน้า

"ดีใจจังเลยค่ะเรามาแบ่งกันนะคะ"

"โอ้ย..ไม่หรอก" แมวปิลาร์โบกเท้า "ฉันต้องกินจากจานแพงๆหรูๆอย่างนี้กินไม่ลงหรอก"

"เอ้อ.. งั้นขออนุญาตกินก่อนนะคะ"

"ตามสบาย..ฉันไปล่ะ"

แมวปิลาร์ขอตัวกลับเพราะไม่ต้องการเป็นมารคอหอยในการกินของใคร คิดดูก็อดแปลกใจตัวเองไม่ได้
แทนที่จะคาบไก่ย่างตัวนั้นมาให้ตรงๆ กลับสร้างฉากเอาไปทิ้งในถังขยะ แล้วค่อยมาบอก ดีที่หมาเมืองนี้เป็นโรคกลัวแมว ไม่งั้นอาจโดนคาบไปก่อนแล้ว

หลายวันผ่านไปเหตุการณ์ยังคงเป็นเช่นเดิม แมวปิลาร์ แมวปากร้ายใจดี จะแบ่งอาหารที่มีอย่างเหลือเฟือไปทิ้งในถังขยะ เพียงแต่เธอไม่ต้องคอยไปเตือน เพราะแมวตัวนั้นฉลาดพอที่จะมาด้อมๆมองๆถังขยะในเวลาอันเหมาะสมเสมอ เธอค่อยดูเป็นแมวที่เริ่มอ้วนน่ารักขึ้นตามที่ควรจะเป็น

แต่แมวปิลาร์ยังคงรักษาระยะห่างของความสัมพันธ์ไว้เช่นเดิม.. เธอยังคงรับบทแมวเกเรแถมพาลอีกต่างหาก แต่แมวตัวนั้นก็ไม่ได้ถือสาอะไร เกิดเป็นแมวข้างถนนสอนให้เธอเป็นแมวอ่อนน้อมถ่อมตน สงบเสงี่ยมเจียมตนเสมอ

กับแมวปิลาร์เธอยอมเป็นลูกไล่ อ่อนข้อให้ตลอด อย่างน้อยแมวปิลาร์ก็เป็นเพื่อนตัวแรก และตัวเดียวในเมือง เธอไม่เคยคิดที่จะอิจฉาแมวปิลาร์ ที่เกิดมาในครอบครัวร่ำรวยสมบูรณ์ครบถ้วนเลย ตรงข้ามกับมองอย่างชื่นชมรักใคร่

แมวปิลาร์เองพักหลังก็มักจะมาคุยกับเธอบ่อยๆ แมวพเนจรมีเรื่องเล่าให้เธอฟังมากมายหลายหลาก โลกภายนอกที่มีทั้งความดีและเลวร้าย

"ดิฉันพร้อมที่จะเดินทางต่อไปแล้วล่ะ"

เธอบอกกับแมวปิลาร์ในวันหนึ่ง

"อยู่ที่นี่มานานแล้ว บางทีมันคงถึงเวลาที่จะต้องไปต่อแล้วล่ะค่ะ"

"เธอจะไปไหน"

แมวสาวชี้เท้าไปยังท้องฟ้าครามที่สดใส

"ที่โน้นไงคะ"

"ที่ไหน" แมวปิลาร์มองตาม

"เห็นไหมคะ.รุ้งเส้นนั้น..สุดปลายสายรุ้งนั่นคือจุดมุ่งหมายปลายทางของดิฉัน ไม่ว่าจะไปถึงหรือไม่ หรือมีอะไรรออยู่….ชีวิตใหม่หรือความตาย อะไรก็ได้ เพียงแต่ชีวิตยังคงอยู่ดิฉันคงต้องไป"

"บ้าล่ะสิ คิดบ้าๆ.. ทำไมเธอต้องไปด้วย"

แมวปิลาร์ฟังแล้วรู้สึกใจหายชอบกล

"มันเป็นเส้นทางของแมวข้างถนนอย่างดิฉันค่ะ. ตั้งแต่วันที่เกิดมาแล้ว ดิฉันตั้งใจว่าจะเดินทางหาจุดหมายปลายรุ้งให้ได้..ไม่ว่าจะกี่วันกี่เดือนก็ตาม"

แมวปิลาร์มองหน้าอีกฝ่าย ใบหน้าของแมวสาวสวยซึ้งดวงตาเจิดจรัส แฝงด้วยความหม่นเศร้าบางชนิด การใช้ชีวิตอยู่เพื่อไล่ตามความฝันสุดสายปลายรุ้ง ก็เหมือนกับคนบ้าที่ไล่ตามเงาตัวเอง แมวปิลาร์คิด

หรือนั่นเป็นชะตาชีวิต

"เธอจะไปวันไหน"

แมวปิลาร์ถามเสียงอ่อยๆ แมวตัวเดียวที่เธอรู้จักกำลังจะจากเธอไปแล้ว แมวที่สวยวันสวยคืนจนน่าจะมาเป็นคู่แข่งเธอได้ กำลังจะจากไปแมวปิลาร์น่าจะดีใจนี่นา แต่ทำไมใจมันหายชอบกล

"พรุ่งนี้ค่ะ..เราคงไม่ได้เจอกันอีกแล้ว"

คำพูดสั้นๆง่ายๆ ไม่ว่าคนหรือแมวตัวไหนก็พูดได้
แต่ทำไมคำพูดแบบนี้มันฟังดูไม่ดี และสะเทือนความรู้สึกอย่างประหลาด

..ไม่เจอกันอีกแล้ว ..ในความหมายนี้แทบไม่ต่างจากสภาพการตายจากกันเลย

มีหลายคนที่ยังคงมีชีวิตอยู่ ที่เคยรู้จักกัน คุ้นเคยกัน
แต่พอไม่มีโอกาสเจอ-ติดต่อกันอีกแล้วชั่วชีวิตนี้มันช่างดูไม่ต่างจากการตายจากกันไปแล้วเลยสักนิด

++++

ตอนเช้าของวันนั้น

เบื้องบนท้องฟ้ามืดมัววิปริต ช่วงเช้าซึ่งควรจะสดใสกระจ่างกับหนักอึ้งหม่นหมอง ลมเย็นพัดผ่านชักชวนใบไม้ปลิดปลิวตามลมซบพื้น มีแต่ใบไม้ที่ตายแล้วจึงปลิดปลิวกับลมแรงง่ายดาย

แมวปิลาร์คาบไก่ย่างชิ้นใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยทำไปยังขยะ เมื่อคืนเธอนอนฝันร้ายทั้งคืน วันนี้จะมีเรื่องอะไรไม่ดีเกิดขึ้นกันแน่นะ


วันนี้แมวปิลาร์ไม่ได้คาบไก่ย่างตัวใหญ่ไปทิ้งลงถังขยะเหมือนเดิม แต่คาบตรงไปยังกองไม้ของแมวสาวผู้ที่กำลังจะออกเดินทางเพื่อค้นพบจุดมุ่งหมายที่สุดสายปลายรุ้งงดงามเส้นนั้น

แมวปิลาร์กำลังจะกลายเป็นแมวตัวเดียวที่สวยที่สุดและน่ารักที่สุดอีกครั้ง

และเป็นแมวที่เหงาที่สุดในเมืองด้วยเช่นกัน

ชีวิตของแมวปิลาร์ความจริงก็คล้ายกับแมวตัวอื่น มีสุขมีทุกข์ ผิดหวังสมหวัง รอยยิ้มและหยดน้ำตาดีใจเสียใจ มีหัวใจที่เต็มไปด้วยมิตรภาพกับผู้อื่น มีความเข้มแข็งและอ่อนแอในบางครั้ง

นั่นล่ะคือชีวิต เพราะมีชีวิตจึงมีหัวใจ เพราะมีหัวใจจึงรับรู้ความรู้สึกมากมายหลายหลากปนกันไป

+++++

แมวปิลาร์โดดขึ้นไปบนกองไม้ที่เคยเห็นแมวสาวตัวนั้นนอนรับแสงแดดยามเช้าอยู่ทุกวัน

แมวปิลาร์โดดปราดขึ้นไปบนกองไม้ แต่แล้วหัวใจกลับตกวูบลง ไก่ย่างร่วงหล่นจากปาก

แมวตัวนั้นเลือดท่วมตัว ขนที่เคยสะอาดสวยงามกลับเต็มไปด้วยเลือดและฝุ่น ดวงตาสดใสตอนนี้ขุ่นมัวบอกให้ทราบว่า ม่านปีกแห่งมรณะกำลังคลี่ตัวลงมาปกคลุมเต็มทีแล้ว

"เธอเป็นอะไรไป"

แมวปิลาร์ร้องอย่างตกใจ

แมวตัวนั้นพยายามลุกขึ้นต้อนรับแมวปิลาร์เหมือนทุกครั้งแต่เธอลุกไม่ไหวเสียแล้วแค่ลุกขึ้นได้นิดหน่อย ก็เซล้มลงไปกองแต่ท่าทางเธอดีใจที่เห็นแมวปิลาร์

"เธอไปโดนอะไรมานี่ดูสิเลือดเต็มไปหมดแล้ว"

แมวปิลาร์ไม่เคยคิดเลยว่าจะมาเจอสภาพแบบนี้ เธอตั้งใจจะมาส่งแมวตัวนี้เดินทางออกจากเมืองแท้ๆ แต่ทำไมเหตุการณ์มันเป็นเช่นนี้

แมวตัวนั้นฝืนยิ้มพยายามส่งเสียงบอกแมวปิลาร์ว่า

"วันนี้ดิฉันมีของฝากให้คุณด้วยค่ะ ดูบนกองไม้ข้างหลังดิฉันสิคะ"

เนื้อย่างชิ้นนั้นเป็นเนื้อย่างของร้านเนื้อย่างที่ดี และแพงที่สุดในเมือง เธอเอามาได้อย่างไร....

แมวปิลาร์ตรวจดูร่างกายของแมวตัวนั้นอีกครั้ง บาดแผลของเธอดูเหมือนไม่ได้เกิดจากรถชน แต่มันเหมือนกับถูกอะไรบางอย่างฟาดหลายๆครั้งอย่างหนักมากกว่า และน่าจะเป็นของมีคม

แมวปิลาร์เริ่มเข้าใจอะไรบางอย่าง

"เธอไปขโมยเนื้อชิ้นนี้มาเหรอ" แมวปิลาร์เอ่ยด้วยเสียงสั่นเครือน้ำตาเริ่มคลอ

"ฉันมองไว้ตั้งหลายวันแล้วก่อนไปอยากจะทำอะไรเพื่อเธอสักครั้งเท่านั้นและฉันก็ทำได้แล้ว"

"ทำไมเธอต้องทำเช่นนี้ด้วย"

แมวปิลาร์มองเห็นภาพแมวตัวหนึ่งที่พยายามเข้าไปในร้านเนื้อย่างก่อนขโมยเนื้อย่างออกมาและโดนคนดูแลร้านทำร้ายอย่างหนัก อาจเป็นมีดทำครัวหรือของมีคมอะไรสักอย่าง

"เพราะคุณเป็นเพื่อนดิฉันไงคะ .แต่ยังไงก็ดีใจที่ได้ทำอะไรกับเพื่อน..คุณเห็นฉันเป็นเพื่อนบ้างไหมคะที่ผ่านมา"

" ทำไมจะไม่เป็นล่ะ ไม่งั้นฉันจะมาหาเธอทุกวันเหรอ"

"ขอบคุณมากค่ะ"

"เธอเป็นเพื่อนของฉันตลอดเวลาที่ผ่านมาเลยนะ"

ปิลาร์เริ่มร้องไห้ เลียบาดแผลอีกฝ่ายไปมาอยู่เช่นนั้น

แมวตัวนั้นฉายแววแห่งความปลื้มใจภายใต้แววแห่งมรณะที่กำลังมาเยือน

"นั่นเป็นคำพูดที่อยากได้ยินสักครั้ง .ตอนแรกดิฉันนึกว่าคุณจะรังเกียจเสียอีก ขอบคุณมากสำหรับอาหารทุกวัน ที่คุณกรุณาเอาไปทิ้งไว้ในถังขยะเพื่อดิฉัน..ดิฉันรู้ค่ะ"

น้ำตาแมวปิลาร์ไหลพรากอาบแก้ม แมวตัวนี้รู้ความจริงเสมอมา แต่เธอก็รักษามารยาทที่ดีตลอดเวลา ไม่แสดงอาการว่ารู้ให้ปิลาร์อับอาย

ทำไมเวลาที่ผ่านมาเธอไม่แสดงความเป็นเพื่อนกับแมวตัวนี้เท่าที่ควรนะ

ทำไมเธอต้องทำเช่นนั้นด้วย การพยายามปิดบังความรู้สึกดีๆภายในใจ การซ่อนเร้นมิตรภาพอันงดงามไว้ ภายใต้ท่าทีหยิ่งๆถือตัวของเธอ

"ถ้าดิฉันตายไปช่วยฝังดิฉันไว้แถวๆนี้นะคะ มีบางทีพื้นดินไม่แน่นเกินไป ดิฉันอยากอยู่ไกล้คุณปิลาร์แค่นี้ก็พอใจแล้วค่ะ…อย่างน้อยการตายครั้งนี้ดิฉัน ก็ไม่ได้ตายอย่างโดดเดี่ยวข้างถนน เหมือนเพื่อนหลายตัว"

"เธอจะตายไม่ได้นะ"

แมวปิลาร์ พยายามเลียใบหน้าที่มอมแมมอีกฝ่ายอย่างไม่รังเกียจเลือดที่เลอะเทอะ ท่าทางของแมวตัวนั้นอ่อนล้าลงเต็มทีแล้ว

"เธอยังคงต้องเดินทางไปที่สุดสายปลายรุ้งไม่ใช่เหรอเธอยังต้องเดินทางไปตามความฝันของเธออยู่จะมาตายอย่างนี้ไม่ได้"

"สุดสายปลายรุ้ง"

แมวตัวนั้นมองไปบนท้องฟ้า ยามนี้ปรากฏสายรุ้งงดงามที่สุดเส้นหนึ่งขึ้น ราวเป็นสะพานเชื่อมฝันไปสู่จุดหมายไกลแสนไกล

"ชีวิตดิฉันเหนื่อยเต็มทีแล้วค่ะ กับการเดินทางที่ยาวนานทั้งชีวิตที่ยังค้นไม่พบตัวเองเลย..ดิฉันคงจะเดินทางต่อไปในอีกโลกหนึ่งที่บางทีอาจไม่ยากลำบากเช่นตอนนี้ อย่าลืมทานเนื้อย่างให้หมดด้วยนะคะนั่นเป็นสิ่งเดียวๆจริงๆที่ดิฉันจะตอบแทนคุณได้"

"เธอไม่จำเป็นต้องทำอย่างนี้เลย"
แมวปิลาร์สะอึกสะอื้น

"ไม่จำเป็นจริงๆเธอเป็นอย่างนี้เพราะฉันแท้ๆขอโทษนะ"

"อย่าคิดมากเลยค่ะ..เป็นอย่างนี้ก็ดีแล้วเพื่อมิตรภาพที่ดีของเรา ไม่อาจเอาอะไรมาตีเป็นราคาค่างวดได้หรอกคะ แต่กับดิฉันดีใจที่ได้ทำเช่นนี้ค่ะ. "

แมวปิลาร์ยิ่งร้องไห้หนัก รู้สึกผิดที่ตลอดเวลาผ่านมาไม่เคยแสดงอาการเช่นนี้เคย ทำไมมันยากเย็นนักหรือกับการแสดงออกซึ่งมิตรภาพ

"เธอเป็นเพื่อนตัวแรกและตัวเดียวของฉันในเมืองนี้ ใจฉันยอมรับอย่างนี้ตั้งแต่วันแรกแล้วล่ะ แต่ฉันมันไม่ดีเอง ที่ไม่เคยแสดงความเป็นเพื่อนต่อหน้าเธอเลยขอโทษนะ"

"ฉันดีใจจริง…ที่ได้ยินคำนี้ นี่แหละเป็นสิ่งที่ฉันต้องการที่สุดแม้จะแลกด้วยอะไรก็ได้ "

ในเงามืดของความตาย กำแพงม่านกั้นใจพังทลายลงสิ้นเหลือเพียงความรู้สึกที่แท้จริงเท่านั้น

"เธอจะตายไม่ได้นะ...ไว้เธอหายฉันจะพาเธอไปเที่ยวทุกที่ ถนนทุกสาย เนินเขาหลังเมืองเราจะไปไล่จับสัตว์เล็กๆเล่นกันดีไหม ไว้เธอหายก่อนนะ ฉันจะพาเธอไปทุกที่เลย เธอไม่ต้องนอนที่นี่แล้วไปนอนในบ้านฉันก็ได้ เราจะนอนคุยกันบนเตียงที่อ่อนอุ่นมีอาหารดีๆทุกเช้านะ เช้าๆเราจะปีนกำแพงเล่นให้ทั่วเมืองเลย"

เสียงแมวปิลาร์ขาดหายเพราะแรงสะอื้น

"ขอบใจมากจ้ะ..ฉันไม่มีโอกาสเช่นนั้นแล้วล่ะ ขอบใจมากๆ…ลาก่อนนะแมวปิลาร์คิดถึงฉันบ้างนะอย่าลืมกินเนื้อที่เอามาฝากด้วยดูแลตัวเองให้ดี"

สายรุ้งโค้งต่ำลงจรดดิน สะพานเชื่อมฝัน ที่สวยงามไปสู่อีกภพหนึ่ง

แมวตัวนั้นพยายามเลียตามเนื้อตัวของแมวปิลาร์ ที่เปรอะไปด้วยเลือดของเธอ ยังมีแต่ใจเป็นห่วงอีก ช่วงเวลาแห่งมิตรภาพอันงดงามทำไมมันกระชั้นสั้นเหลือเกิน ราวสายรุ้งบนฟากฟ้า ที่ไม่นานก็จางหายหากคงอยู่ในหัวใจนานเท่านาน

แมวที่น่าเวทนาตัวนั้นสิ้นใจอย่างสงบ

รุ้งเส้นนั้นมลายหายไปกลับแสงแดดยามสายแล้ว

แมวปิลาร์ร้องไห้จนไม่มีน้ำตาจะไหล

ช่วงเวลาไม่นานที่รู้จักกันทำไมความผูกพันมันแนบแน่นขนาดนี้.. มิตรภาพบางทีมันมีจังหวะของมันเอง เพียงจะไขว่คว้าได้หรือไม่เท่านั้น

++++++

แมวปิลาร์ขุดดินอีกครั้ง เหมือนที่เคยขุดฝังลูกหมาตัวน้อยริมชายหาด

ความรู้สึกไม่ต่างกันเลย ทำไมแมวปิลาร์ถึงต้องพลัดพรากเพื่อนที่ดีอยู่เสมอก็ไม่รู้ เธอฝังไก่ย่างชิ้นใหญ่และดีที่สุดลงไปด้วย ทุกความลึกที่ขุดลงไปแต่งเติมด้วยหยดน้ำตา ไม่สนใจว่าเล็บเท้าจะเต็มไปด้วยเศษดิน และการฉีกขาดของอุ้งเท้า

ต่อไปนี้จะไม่ได้เจอเพื่อนแมวที่เรียบร้อยสงบเสงี่ยมเจียมเนื้อเจียมตัวอีกแล้ว น่าเสียดายที่เธอกำลังจะกลับสู่สภาพแมวที่สมบูรณ์สวยงามแท้ๆ

"รอฉันอยู่ที่สุดสายปลายรุ้งนะ ฉันจะไปหาเธอ"

แมวปิลาร์กระซิบกับหลุมศพ

ลมเย็นโชยมาอีกแล้ว พัดผ่านหัวใจที่ว่างเปล่าเงียบเหงาและเยือกเย็น

++++++++

แมวปิลาร์หายไป

หายไปกับลมหนาวที่มาเยือน ละอองเย็นฉ่ำของสายฝนหายไปพร้อมกับรุ้งที่งดงามเหล่านั้นก็หายไปด้วย

ในเมืองเล็กนี้ไม่มีแมวปิลาร์ที่ทั้งน่ารักทั้งซุกซนตัวนี้อีกแล้ว แมวตัวหนึ่งหายไปไม่มีผลกระทบอะไรกับสังคมแห่งนี้ทุกอย่างยังดำเนินไปตามวิถีทางที่ควรจะเป็น แสงแดดยังส่องฝนยังตกลมยังคงโชยพัด

แต่อย่างไรเมืองนี้ไม่มีแมวอีกแล้ว

ภาพแมวตัวยาววิ่งเที่ยวบ้านโน้นออกบ้านนี้ เหลือไว้เพียงความทรงจำที่งดงามสำหรับคนที่คุ้นเคยรู้จัก เหลือเพียงสายไยแห่งมิตรภาพยังคงโยงไยตลอดกาล

บางทีเธออาจเดินทางตามหาความหมายและตัวตนที่แท้จริงของตัวเองที่สุดสายปลายรุ้ง

การเดินทางที่ยาวนานแค่ไหนใครเลยคาดเดาได้ เธอจะพบสิ่งที่คาดหวังหรือไม่อย่างไรไม่มีผู้ใดทราบได้ ทางเดินบนสายรุ้งจะสวยสดงดงามเพริดพรายหรือไม่ เพียงไร ต่างไม่มีใครรู้

เมืองนี้ไม่มีแมวอีกแล้วจริงๆ มีเพียงบันทึกตำนานเล็กๆ แต่ทรงคุณค่าในหัวใจของผู้ที่รู้จักแมวปิลาร์ตัวนี้

++++


จบตอน




 

Create Date : 14 เมษายน 2548
16 comments
Last Update : 14 เมษายน 2548 21:46:15 น.
Counter : 442 Pageviews.

 

หงะ หงะ
เจอตอนนี้จนได้สินะ ฮือ ฮือ
.......ต้องถือว่าคนเขียนนอกจากจะใจร้ายกับแมวปิลาร์ แล้ว ยังใจร้ายกับคนอ่าน

 

โดย: พรายทราย IP: 61.90.55.2 14 เมษายน 2548 22:41:26 น.  

 

มารดน้ำดำหัวผู้ใหญ่วันสงกรานต์ค่ะ ปะแป้งด้วย เย็นชุ่มฉ่ำๆ ^^


...

 

โดย: ขอบคุณที่รักกัน (blueberry_cpie ) 15 เมษายน 2548 11:29:23 น.  

 

เศร้าอีกแล้วอ่ะ..สงสารปิลาร์จัง คนเขียนใจร้ายจัง T_T

 

โดย: yui500 16 เมษายน 2548 13:32:46 น.  

 

เปล่าใจร้ายครับ แฮ่ะๆ
เย็นๆคนรดน้ำด้วย ฮ่ะๆ

 

โดย: GTW 16 เมษายน 2548 14:27:17 น.  

 

^-^

 

โดย: C o jz N IP: 210.86.206.104 16 เมษายน 2548 20:11:56 น.  

 

ไม่ค่อยเห็นงานของอาจารย์ที่ไหนเลย

แต่เคยเข้าเว็บของอาจารย์หนนึง

เมื่อนานมาแล้ว เป็นเว็บโรงเรียนสักแห่ง

 

โดย: C o jz N (C o jz N ) 16 เมษายน 2548 20:20:33 น.  

 

แวะมาด้อม ๆ มอง ๆ
แบบท่าแมวปิลาร์ แหะ แหะ

เมื่อไหร่จะมีตอนสนุก ๆ ป่วน ๆ มันส์ ๆ อีกหนอ

 

โดย: พรายทราย 18 เมษายน 2548 14:14:37 น.  

 

กลับมาแล้ววววววววววววคร๊าบบบบบบบบบ

 

โดย: GTW IP: 61.90.92.211 19 เมษายน 2548 11:13:23 น.  

 

แวะเข้ามาอ่านตอนใหม่ก่อนเข้านอนอ่ะ..
-___-

 

โดย: yui500 IP: 203.188.10.125 20 เมษายน 2548 1:26:13 น.  

 

โธ่...

 

โดย: prncess 20 เมษายน 2548 9:12:32 น.  

 

อาจารย์ไปไหนมาคะ

สบายดีมั้ยคะ

คิดถึงๆๆๆๆ

 

โดย: yadegari 22 เมษายน 2548 3:10:55 น.  

 

สวัสดีค่ะ มาเยี่ยมค่า

 

โดย: แม่มดน้อย23 22 เมษายน 2548 4:40:05 น.  

 

มามอง ๆ ด้อม ๆ
หาเนื้อย่างที่ฝากไว้ อิอิ อิอิ

 

โดย: พรายทราย 23 เมษายน 2548 12:07:18 น.  

 

สวัสดีครับทุกท่าน

ผมไปต่างจังหวัดมาครับ
สนุ๊กสนุก อิอิ

ขอบคุณทุกท่านที่มาเยือนครับ

 

โดย: GTW 23 เมษายน 2548 23:32:44 น.  

 


ฮือๆๆๆๆ ฮึกๆๆๆ สะอึกสะอื้น !!

คนเขียนใจร้าย U jai rai ๆๆๆๆ
ทำร้ายความรู้สึกแมวยังไม่พอ
ยังมาทำร้ายความรู้สึกคนอ่านอีก
ตอนนี้เศร้าจังเลยค่ะ หวานใจฯ
อ่านไป กลั้นสะอื้นไป
โป้งอาจารย์จีขาแล้ว !!! โป้งๆๆ

ปล. ถึงจะเป็นแมวข้างถนน
แต่ก็มีหัวใจน๊ะ...ฮึๆๆๆ

 

โดย: หวานใจฯ IP: 203.144.215.193 20 พฤษภาคม 2548 10:49:17 น.  

 

ง่ะ ในที่สุดก้อขุดเจอตอนนี้จนได้
จากที่เคยอ่านเมื่อหลายปีมาแล้ว
แล้วบอร์ดที่อ่านดันปิด หุหุ

ไม่เจอกันนานนะ ยังซึ้งเหมือนเดิม

 

โดย: nasb IP: 113.53.38.136 9 มกราคม 2553 22:33:39 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Psycho G
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [?]




Friends' blogs
[Add Psycho G's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.