|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
|
|
|
|
|
|
|
แมวปิลาร์ .......สุดสายปลายรุ้ง
แมวปิลาร์ (สุดสายปลายรุ้ง)
GTW
++++++
ในเมืองที่มีหมา(ซึ่งเป็นโรคกลัวแมว) อยู่ถึงสองร้อยสิบสามตัว แต่มีแมวเพียงตัวเดียว แมวปิลาร์จึงสามารถคุยได้ว่าตัวเองเป็นแมวที่สวยที่สุดในเมือง
และรับตำแหน่งแมวขี้เหงาที่สุดในเมืองด้วย
วันไหนเซ็งมากๆแมวปิลาร์จะออกไปป่วนบรรดาหมาในเมืองจนวุ่นวายไปทั่ว หมาที่หลังจากโดนฤทธิ์ของแมวปิลาร์บ้าเลือดจนเสียหมากลายเป็นโรคกลัวเมีย..เอ้ย กลัวแมวโดยโดยถ้วนหน้า
ทันที่ที่เห็นเธอเดินผ่านหมาพวกนั้นจะหลบหน้าครางหงิง ตัวไหนหนีไม่ทันก็จะล้มลงนอนหงายขาหดงอเข้าหาตัว แสดงอาการยอมแพ้มาตรฐานสากลของหมาทุกชาติ
แรกๆก็สนุกดี แต่นานไปก็ชัดเบื่อ การรังแกหมาที่ไม่มีทางสู้มันไม่ค่อยสนุกเท่าไร พักหลังเธอจึงนอนเล่นอยู่ในบ้าน หน้าบ้าน หลังบ้าน หลังคาบ้าน ตามแต่อารมณ์แมวจะพาไป
------
ตอนสายที่สดใสของวันหนึ่ง ขณะที่แมวปิลาร์นั่งเล่นบนหลังคาบ้าน มองไปตามถนนพลันเห็นแมวตัวหนึ่งกำลังป้วนเบี้ยนอยู่แถวถังขยะหน้าบ้าน
แมวที่ไหนกัน ก็เมืองนี้เธอเป็นแมวเพียงตัวเดียวนี่นา หรือเทวดาส่งแมวหนุ่มสุดหล่อตัวยาวมาให้เธอแล้ว
ไวเท่าความคิด เธอกระโจนพรวดลงมาจากหลังคา ไต่ลงมาตามต้นไม้ข้างบ้านวิ่งปราดไปดูอย่างรวดเร็ว
แมวตัวนั้นไม่ไช่แมวหนุ่มหล่อเลยสักนิด เป็นเพียงแมวสาวตัวหนึ่งที่ท่าทางอดโซกำลังรื้อถังขยะไปมา
แมวปิลาร์ยืนเอียงคอมองอีกฝ่ายนิ่งอยู่
รู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมากที่ไม่ใช่แมวหนุ่มตัวยาวหน้าคมเข้มปากบางมาดขรึม
แมวตัวนั้นยังคงรื้อขยะไปมาอย่างมีมรรยาทไม่ทำเลอะเทอะ
"เธอทำอะไร.."
แมวปิลาร์ร้องลั่นด้วยน้ำเสียงข่มขู่เต็มที่
แมวสาวผอมโซตัวนั้นสะดุ้งโหยงโดดผลุงออกมาจากถังขยะอย่างตกใจและระแวงภัย
ตอนนี้แมวปิลาร์จึงเห็นอีกฝ่ายเต็มตา
แมวสาวที่ค่อนข้างผอมโซแต่สะอาดสะอ้านเท่าที่จะเป็นไปได้ สีหน้าท่าทางสุภาพเกรงใจ เหมือนแมวที่ได้รับการศึกษามาเป็นอย่างที่ไม่น่าที่จะเป็นแมวข้างถนนเลย
"ขอโทษค่ะ หน้าบ้านคุณเหรอคะ"
"ใช่สิ.. เธอถือดีอย่างไรมารื้อขยะที่นี่"
"ขอโทษค่ะ..พอดี ดิฉันไม่ทราบ"
"ทีนี้ก็ทราบแล้วนะ ทีหน้าทีหลังให้รู้ว่าบ้านใครเป็นใคร
แล้วไม่ต้องมารื้ออีกนะ"
"ค่ะ."
แมวตัวนั้นรับคำ ก่อนค่อยๆ เดินหลบเดินเลี่ยงไปตามถนนอย่างหงอยๆ คงเป็นแมวพเนจรมาจากเมืองอื่น
ฮี.. จะมาแย่งตำแหน่ง"แมวหนึ่งเดียวในเมือง" ของปิลาร์ได้ไง ปิลาร์ไม่ยอมหรอก อย่างไรปิลาร์ต้องเป็นหนึ่งเดียวเสมอไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน
แมวปิลาร์นั่งหยิ่งในอารมณ์ครู่หนึ่งจนใจคอเป็นปกติ แล้วก็ค่อยออกสำรวจหาที่มาของแมวสาวตัวนั้น เมืองนี้เป็นเมืองเล็กๆ ที่สงบสุข เธอรู้จักถนนทุกสายบ้านทุกหลังต้นไม้ทุกต้น
แมวตัวนั้นอยู่ข้างสนามเด็กเล่นซึ่งเป็นแหล่งเก็บวัสดุหลงเหลือจากการก่อสร้างต่างๆ ถูกนำมากองทิ้งไว้กองพะเนิน
แมวปิลาร์เดินเลียบๆเคียงๆอย่างไว้เชิงไปดูด้วยความอยากรู้
แมวตัวนั่นคงอยู่ที่นี่ แต่ตอนนี้ไม่อยู่แล้ว คงไปเที่ยวรื้อขยะอยู่ตามบ้านต่างๆ เป็นแน่
นั่นไงเดินมาแล้ว หน้าหงอยมาเชียว คงหาอาหารไม่ค่อยได้ล่ะสิ เมืองนี้ส่วนใหญ่แล้วเขาประหยัดไม่ฟุ่มเฟือยตามยุคเศรษฐกิจกินทิ้งกินขว้างไม่ได้หรอก
แมวสาวตัวนั้นเห็นแมวปิลาร์ก็ยิ้มให้อย่างเป็นมิตรเดินตรงเข้ามาทักทาย
"สวัสดีค่ะ มาแถวนี้ทำไมหรือคะ"
"มาดูแลความเรียบร้อยนะสิ แถวนี้มันเขตของฉัน"
"เชิญเข้าในบ้านก่อนก็ได้นะคะ แต่เอ้อ.. แย่จังที่ไม่มีอะไรต้อนรับเลย"
"บ้าน..บ้านเธอ"
แมวปิลาร์ถามอย่างสงสัย แมวตัวนั้นพยักหน้าตอบว่า
"ค่ะ..อาจคับแคบแต่ก็สะอาดค่ะ"
"ไม่ล่ะ" แมวปิลาร์ปฏิเสธ "ฉันชินแต่บ้านใหญ่ๆหรูๆ ว่าแต่เธอไปไหนมา"
"ไปหาอาหารค่ะ"
"ดีแล้ว ทีหลังอย่าไปป้วนเปี้ยนแถวบ้านฉันอีก เดี๋ยวคนอื่นจะหาว่าเธอเป็นเพื่อนฉัน"
ว่าเข้าไปนั่น.. แน่ล่ะ เรื่องอะไรแมวปิลาร์จะยอมคบกับแมวข้างถนน บ้านก็ไม่มีนอนมานอนตามกองไม้เก่าๆเสียชื่อแมวปิลาร์หมด แมวตัวนั้นมีแววตาเสียใจแวบหนึ่ง แต่เธอชินชาเสียแล้วกับการถูกรังเกียจเหยียดหยามเช่นนี้
"ขอบคุณที่มาเยี่ยมนะคะ"
"ใครบอกเธอว่าฉันมาเยี่ยม ฉันมาสำรวจความเรียบร้อยต่างหากล่ะ"
ว่าแล้วแมวปิลาร์ก็เชิดหน้าเดินกลับบ้าน แหม... น่าทุบจริงๆ
.
วันต่อมา
แมวปิลาร์สังเกตว่าแมวตัวนั้นไม่มารื้อถังขยะหน้าบ้านอีกแล้ว สงสัยว่าคงเป็นผลจากการที่เธอไปขู่ไว้เมื่อวานนั่นล่ะ
ความอยากรู้ทำให้แมวปิลาร์เดินไปด้อมๆมองๆที่กองไม้มุมสนามอีกครั้ง
แมวสาวตัวนั้นนั่งอยู่บนกำแพงรั้วข้างกองไม้ด้วยท่าทางระโหยโรยแรง พอเห็นแมวปิลาร์เดินมาก็รีบลุกขึ้นต้อนรับอย่างดีใจ
"เธอเป็นอะไรไปไม่สบายเหรอ"
แมวปิลาร์ถามเสียงห้วนๆเหมือนเจ้านายถามลูกน้อง แมวสาวตัวนั้นยิ้มอย่างอ่อนล้าบอกว่า
"สบายดีค่ะแต่อดข้าวนิดหน่อย เมืองนี้เขาประหยัดกันดีจังเลยค่ะ แทบไม่มีเศษอาหารเหลือทิ้งเลย"
"เมืองนี้แย่หน่อยนะไม่สมควรที่แมวขยะอย่างเธออยู่หรอก ..ว่าแต่เธอไม่ได้กินข้าวเช้าเลยหรือไง"
"ก็นิดหน่อย"
แมวปิลาร์สังเกตว่าอีกฝ่ายดูซูบผอมอ่อนล้าเหมือนเป็นโรคแมวขาดสารอาหารจึงถามอีกว่า
"เธอกินข้าวครั้งสุดท้ายวันไหน"
"สองวันที่แล้วค่ะ
"
สองวัน..แมวปิลาร์ร้องในใจ แมวอะไรอดข้าวได้ตั้งสองวัน สองวันนี้นานพอที่จะทำให้แมวตัวหนึ่งผอมจนหายวับไปได้เลยไม่ใช่หรือ
"แย่จัง..แต่ฉันคงจะช่วยอะไรเธอไม่ได้หรอกนะ"
"ขอบคุณค่ะ เดี๋ยวดิฉันจะลองไปค้นดูอีกที่บ่ายนี้เผื่อมีอะไรเหลือบ้าง"
แมวปิลาร์นึกถึงอาหารมื้อเช้า-เที่ยง-เย็น-กลางคืน ของเธอ มากมายอุดมสมบูรณ์ไม่ขาดดีๆทั้งนั้นแต่บางทีเธอยังงอแงในการกินเลย
"ทำไมเธอมาที่เมืองนี้ล่ะ"
"ดิฉันติดมากับรถบรรทุกค่ะ"
"เธอก็ใช้วิธีนี้ออกจากเมืองนี้ก็ได้นี่ อยู่นี้เธออาจอดตายนะ"
"ค่ะ
คงต้องรอโอกาสดีก่อนค่ะ"
แมวปิลาร์มองหน้าซีดเซียวของอีกฝ่ายหนึ่ง แล้วขอตัวกลับมาบ้านพลางนึกถึงแมวตัวนี้ไปตลอดทาง แล้วอีกสิบนาทีต่อมาแมวปิลาร์ก็กลับมายังกองไม้อีกครั้ง แมวตัวนั้นคงคงนอนคางเกยกำแพงอยู่อย่างเดิม
"มีธุระอะไรหรือคะ"
เธอลุกขึ้นต้อนรับแมวปิลาร์หากมองอย่างสงสัย
"ก็... ไม่มีอะไรบังเอิญฉันเห็นเศษไก่ย่างชิ้นหนึ่งทิ้งอยู่ในถังขยะข้างบ้านฉัน บางทีเธออาจจะต้องการ "
อีกฝ่ายตาเป็นประกายแห่งความหวังดีอกดีใจขึ้นมาทันที
"ที่ไหนนะคะ"
"ถัดจากบ้านฉันมาหลังเดียว ลองไปดูสิ"
"ขอบคุณค่ะ"
เธอรีบวิ่งไปทันทีสักพักก็กลับมาพร้อมกับคาบไก่ย่างครึ่งตัวมาด้วย เธอวางมันลงบนกำแพงตรงหน้าแมวปิลาร์ ก่อนเงยหน้าขึ้นมา มองประกายตาแห่งความมีชีวิตความหวังและความกะตือรือล้น ฉาบฉายอยู่บนใบหน้า
"ดีใจจังเลยค่ะเรามาแบ่งกันนะคะ"
"โอ้ย..ไม่หรอก" แมวปิลาร์โบกเท้า "ฉันต้องกินจากจานแพงๆหรูๆอย่างนี้กินไม่ลงหรอก"
"เอ้อ.. งั้นขออนุญาตกินก่อนนะคะ"
"ตามสบาย..ฉันไปล่ะ"
แมวปิลาร์ขอตัวกลับเพราะไม่ต้องการเป็นมารคอหอยในการกินของใคร คิดดูก็อดแปลกใจตัวเองไม่ได้ แทนที่จะคาบไก่ย่างตัวนั้นมาให้ตรงๆ กลับสร้างฉากเอาไปทิ้งในถังขยะ แล้วค่อยมาบอก ดีที่หมาเมืองนี้เป็นโรคกลัวแมว ไม่งั้นอาจโดนคาบไปก่อนแล้ว
หลายวันผ่านไปเหตุการณ์ยังคงเป็นเช่นเดิม แมวปิลาร์ แมวปากร้ายใจดี จะแบ่งอาหารที่มีอย่างเหลือเฟือไปทิ้งในถังขยะ เพียงแต่เธอไม่ต้องคอยไปเตือน เพราะแมวตัวนั้นฉลาดพอที่จะมาด้อมๆมองๆถังขยะในเวลาอันเหมาะสมเสมอ เธอค่อยดูเป็นแมวที่เริ่มอ้วนน่ารักขึ้นตามที่ควรจะเป็น
แต่แมวปิลาร์ยังคงรักษาระยะห่างของความสัมพันธ์ไว้เช่นเดิม.. เธอยังคงรับบทแมวเกเรแถมพาลอีกต่างหาก แต่แมวตัวนั้นก็ไม่ได้ถือสาอะไร เกิดเป็นแมวข้างถนนสอนให้เธอเป็นแมวอ่อนน้อมถ่อมตน สงบเสงี่ยมเจียมตนเสมอ
กับแมวปิลาร์เธอยอมเป็นลูกไล่ อ่อนข้อให้ตลอด อย่างน้อยแมวปิลาร์ก็เป็นเพื่อนตัวแรก และตัวเดียวในเมือง เธอไม่เคยคิดที่จะอิจฉาแมวปิลาร์ ที่เกิดมาในครอบครัวร่ำรวยสมบูรณ์ครบถ้วนเลย ตรงข้ามกับมองอย่างชื่นชมรักใคร่
แมวปิลาร์เองพักหลังก็มักจะมาคุยกับเธอบ่อยๆ แมวพเนจรมีเรื่องเล่าให้เธอฟังมากมายหลายหลาก โลกภายนอกที่มีทั้งความดีและเลวร้าย
"ดิฉันพร้อมที่จะเดินทางต่อไปแล้วล่ะ"
เธอบอกกับแมวปิลาร์ในวันหนึ่ง
"อยู่ที่นี่มานานแล้ว บางทีมันคงถึงเวลาที่จะต้องไปต่อแล้วล่ะค่ะ"
"เธอจะไปไหน"
แมวสาวชี้เท้าไปยังท้องฟ้าครามที่สดใส
"ที่โน้นไงคะ"
"ที่ไหน" แมวปิลาร์มองตาม
"เห็นไหมคะ.รุ้งเส้นนั้น..สุดปลายสายรุ้งนั่นคือจุดมุ่งหมายปลายทางของดิฉัน ไม่ว่าจะไปถึงหรือไม่ หรือมีอะไรรออยู่
.ชีวิตใหม่หรือความตาย อะไรก็ได้ เพียงแต่ชีวิตยังคงอยู่ดิฉันคงต้องไป"
"บ้าล่ะสิ คิดบ้าๆ.. ทำไมเธอต้องไปด้วย"
แมวปิลาร์ฟังแล้วรู้สึกใจหายชอบกล
"มันเป็นเส้นทางของแมวข้างถนนอย่างดิฉันค่ะ. ตั้งแต่วันที่เกิดมาแล้ว ดิฉันตั้งใจว่าจะเดินทางหาจุดหมายปลายรุ้งให้ได้..ไม่ว่าจะกี่วันกี่เดือนก็ตาม"
แมวปิลาร์มองหน้าอีกฝ่าย ใบหน้าของแมวสาวสวยซึ้งดวงตาเจิดจรัส แฝงด้วยความหม่นเศร้าบางชนิด การใช้ชีวิตอยู่เพื่อไล่ตามความฝันสุดสายปลายรุ้ง ก็เหมือนกับคนบ้าที่ไล่ตามเงาตัวเอง แมวปิลาร์คิด
หรือนั่นเป็นชะตาชีวิต
"เธอจะไปวันไหน"
แมวปิลาร์ถามเสียงอ่อยๆ แมวตัวเดียวที่เธอรู้จักกำลังจะจากเธอไปแล้ว แมวที่สวยวันสวยคืนจนน่าจะมาเป็นคู่แข่งเธอได้ กำลังจะจากไปแมวปิลาร์น่าจะดีใจนี่นา แต่ทำไมใจมันหายชอบกล
"พรุ่งนี้ค่ะ..เราคงไม่ได้เจอกันอีกแล้ว"
คำพูดสั้นๆง่ายๆ ไม่ว่าคนหรือแมวตัวไหนก็พูดได้ แต่ทำไมคำพูดแบบนี้มันฟังดูไม่ดี และสะเทือนความรู้สึกอย่างประหลาด
..ไม่เจอกันอีกแล้ว ..ในความหมายนี้แทบไม่ต่างจากสภาพการตายจากกันเลย
มีหลายคนที่ยังคงมีชีวิตอยู่ ที่เคยรู้จักกัน คุ้นเคยกัน แต่พอไม่มีโอกาสเจอ-ติดต่อกันอีกแล้วชั่วชีวิตนี้มันช่างดูไม่ต่างจากการตายจากกันไปแล้วเลยสักนิด
++++
ตอนเช้าของวันนั้น
เบื้องบนท้องฟ้ามืดมัววิปริต ช่วงเช้าซึ่งควรจะสดใสกระจ่างกับหนักอึ้งหม่นหมอง ลมเย็นพัดผ่านชักชวนใบไม้ปลิดปลิวตามลมซบพื้น มีแต่ใบไม้ที่ตายแล้วจึงปลิดปลิวกับลมแรงง่ายดาย
แมวปิลาร์คาบไก่ย่างชิ้นใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยทำไปยังขยะ เมื่อคืนเธอนอนฝันร้ายทั้งคืน วันนี้จะมีเรื่องอะไรไม่ดีเกิดขึ้นกันแน่นะ
วันนี้แมวปิลาร์ไม่ได้คาบไก่ย่างตัวใหญ่ไปทิ้งลงถังขยะเหมือนเดิม แต่คาบตรงไปยังกองไม้ของแมวสาวผู้ที่กำลังจะออกเดินทางเพื่อค้นพบจุดมุ่งหมายที่สุดสายปลายรุ้งงดงามเส้นนั้น
แมวปิลาร์กำลังจะกลายเป็นแมวตัวเดียวที่สวยที่สุดและน่ารักที่สุดอีกครั้ง
และเป็นแมวที่เหงาที่สุดในเมืองด้วยเช่นกัน
ชีวิตของแมวปิลาร์ความจริงก็คล้ายกับแมวตัวอื่น มีสุขมีทุกข์ ผิดหวังสมหวัง รอยยิ้มและหยดน้ำตาดีใจเสียใจ มีหัวใจที่เต็มไปด้วยมิตรภาพกับผู้อื่น มีความเข้มแข็งและอ่อนแอในบางครั้ง
นั่นล่ะคือชีวิต เพราะมีชีวิตจึงมีหัวใจ เพราะมีหัวใจจึงรับรู้ความรู้สึกมากมายหลายหลากปนกันไป
+++++
แมวปิลาร์โดดขึ้นไปบนกองไม้ที่เคยเห็นแมวสาวตัวนั้นนอนรับแสงแดดยามเช้าอยู่ทุกวัน
แมวปิลาร์โดดปราดขึ้นไปบนกองไม้ แต่แล้วหัวใจกลับตกวูบลง ไก่ย่างร่วงหล่นจากปาก
แมวตัวนั้นเลือดท่วมตัว ขนที่เคยสะอาดสวยงามกลับเต็มไปด้วยเลือดและฝุ่น ดวงตาสดใสตอนนี้ขุ่นมัวบอกให้ทราบว่า ม่านปีกแห่งมรณะกำลังคลี่ตัวลงมาปกคลุมเต็มทีแล้ว
"เธอเป็นอะไรไป"
แมวปิลาร์ร้องอย่างตกใจ
แมวตัวนั้นพยายามลุกขึ้นต้อนรับแมวปิลาร์เหมือนทุกครั้งแต่เธอลุกไม่ไหวเสียแล้วแค่ลุกขึ้นได้นิดหน่อย ก็เซล้มลงไปกองแต่ท่าทางเธอดีใจที่เห็นแมวปิลาร์
"เธอไปโดนอะไรมานี่ดูสิเลือดเต็มไปหมดแล้ว"
แมวปิลาร์ไม่เคยคิดเลยว่าจะมาเจอสภาพแบบนี้ เธอตั้งใจจะมาส่งแมวตัวนี้เดินทางออกจากเมืองแท้ๆ แต่ทำไมเหตุการณ์มันเป็นเช่นนี้
แมวตัวนั้นฝืนยิ้มพยายามส่งเสียงบอกแมวปิลาร์ว่า
"วันนี้ดิฉันมีของฝากให้คุณด้วยค่ะ ดูบนกองไม้ข้างหลังดิฉันสิคะ"
เนื้อย่างชิ้นนั้นเป็นเนื้อย่างของร้านเนื้อย่างที่ดี และแพงที่สุดในเมือง เธอเอามาได้อย่างไร....
แมวปิลาร์ตรวจดูร่างกายของแมวตัวนั้นอีกครั้ง บาดแผลของเธอดูเหมือนไม่ได้เกิดจากรถชน แต่มันเหมือนกับถูกอะไรบางอย่างฟาดหลายๆครั้งอย่างหนักมากกว่า และน่าจะเป็นของมีคม
แมวปิลาร์เริ่มเข้าใจอะไรบางอย่าง
"เธอไปขโมยเนื้อชิ้นนี้มาเหรอ" แมวปิลาร์เอ่ยด้วยเสียงสั่นเครือน้ำตาเริ่มคลอ
"ฉันมองไว้ตั้งหลายวันแล้วก่อนไปอยากจะทำอะไรเพื่อเธอสักครั้งเท่านั้นและฉันก็ทำได้แล้ว"
"ทำไมเธอต้องทำเช่นนี้ด้วย"
แมวปิลาร์มองเห็นภาพแมวตัวหนึ่งที่พยายามเข้าไปในร้านเนื้อย่างก่อนขโมยเนื้อย่างออกมาและโดนคนดูแลร้านทำร้ายอย่างหนัก อาจเป็นมีดทำครัวหรือของมีคมอะไรสักอย่าง
"เพราะคุณเป็นเพื่อนดิฉันไงคะ .แต่ยังไงก็ดีใจที่ได้ทำอะไรกับเพื่อน..คุณเห็นฉันเป็นเพื่อนบ้างไหมคะที่ผ่านมา"
" ทำไมจะไม่เป็นล่ะ ไม่งั้นฉันจะมาหาเธอทุกวันเหรอ"
"ขอบคุณมากค่ะ"
"เธอเป็นเพื่อนของฉันตลอดเวลาที่ผ่านมาเลยนะ"
ปิลาร์เริ่มร้องไห้ เลียบาดแผลอีกฝ่ายไปมาอยู่เช่นนั้น
แมวตัวนั้นฉายแววแห่งความปลื้มใจภายใต้แววแห่งมรณะที่กำลังมาเยือน
"นั่นเป็นคำพูดที่อยากได้ยินสักครั้ง .ตอนแรกดิฉันนึกว่าคุณจะรังเกียจเสียอีก ขอบคุณมากสำหรับอาหารทุกวัน ที่คุณกรุณาเอาไปทิ้งไว้ในถังขยะเพื่อดิฉัน..ดิฉันรู้ค่ะ"
น้ำตาแมวปิลาร์ไหลพรากอาบแก้ม แมวตัวนี้รู้ความจริงเสมอมา แต่เธอก็รักษามารยาทที่ดีตลอดเวลา ไม่แสดงอาการว่ารู้ให้ปิลาร์อับอาย
ทำไมเวลาที่ผ่านมาเธอไม่แสดงความเป็นเพื่อนกับแมวตัวนี้เท่าที่ควรนะ
ทำไมเธอต้องทำเช่นนั้นด้วย การพยายามปิดบังความรู้สึกดีๆภายในใจ การซ่อนเร้นมิตรภาพอันงดงามไว้ ภายใต้ท่าทีหยิ่งๆถือตัวของเธอ
"ถ้าดิฉันตายไปช่วยฝังดิฉันไว้แถวๆนี้นะคะ มีบางทีพื้นดินไม่แน่นเกินไป ดิฉันอยากอยู่ไกล้คุณปิลาร์แค่นี้ก็พอใจแล้วค่ะ
อย่างน้อยการตายครั้งนี้ดิฉัน ก็ไม่ได้ตายอย่างโดดเดี่ยวข้างถนน เหมือนเพื่อนหลายตัว"
"เธอจะตายไม่ได้นะ"
แมวปิลาร์ พยายามเลียใบหน้าที่มอมแมมอีกฝ่ายอย่างไม่รังเกียจเลือดที่เลอะเทอะ ท่าทางของแมวตัวนั้นอ่อนล้าลงเต็มทีแล้ว
"เธอยังคงต้องเดินทางไปที่สุดสายปลายรุ้งไม่ใช่เหรอเธอยังต้องเดินทางไปตามความฝันของเธออยู่จะมาตายอย่างนี้ไม่ได้"
"สุดสายปลายรุ้ง"
แมวตัวนั้นมองไปบนท้องฟ้า ยามนี้ปรากฏสายรุ้งงดงามที่สุดเส้นหนึ่งขึ้น ราวเป็นสะพานเชื่อมฝันไปสู่จุดหมายไกลแสนไกล
"ชีวิตดิฉันเหนื่อยเต็มทีแล้วค่ะ กับการเดินทางที่ยาวนานทั้งชีวิตที่ยังค้นไม่พบตัวเองเลย..ดิฉันคงจะเดินทางต่อไปในอีกโลกหนึ่งที่บางทีอาจไม่ยากลำบากเช่นตอนนี้ อย่าลืมทานเนื้อย่างให้หมดด้วยนะคะนั่นเป็นสิ่งเดียวๆจริงๆที่ดิฉันจะตอบแทนคุณได้"
"เธอไม่จำเป็นต้องทำอย่างนี้เลย" แมวปิลาร์สะอึกสะอื้น
"ไม่จำเป็นจริงๆเธอเป็นอย่างนี้เพราะฉันแท้ๆขอโทษนะ"
"อย่าคิดมากเลยค่ะ..เป็นอย่างนี้ก็ดีแล้วเพื่อมิตรภาพที่ดีของเรา ไม่อาจเอาอะไรมาตีเป็นราคาค่างวดได้หรอกคะ แต่กับดิฉันดีใจที่ได้ทำเช่นนี้ค่ะ. "
แมวปิลาร์ยิ่งร้องไห้หนัก รู้สึกผิดที่ตลอดเวลาผ่านมาไม่เคยแสดงอาการเช่นนี้เคย ทำไมมันยากเย็นนักหรือกับการแสดงออกซึ่งมิตรภาพ
"เธอเป็นเพื่อนตัวแรกและตัวเดียวของฉันในเมืองนี้ ใจฉันยอมรับอย่างนี้ตั้งแต่วันแรกแล้วล่ะ แต่ฉันมันไม่ดีเอง ที่ไม่เคยแสดงความเป็นเพื่อนต่อหน้าเธอเลยขอโทษนะ"
"ฉันดีใจจริง
ที่ได้ยินคำนี้ นี่แหละเป็นสิ่งที่ฉันต้องการที่สุดแม้จะแลกด้วยอะไรก็ได้ "
ในเงามืดของความตาย กำแพงม่านกั้นใจพังทลายลงสิ้นเหลือเพียงความรู้สึกที่แท้จริงเท่านั้น
"เธอจะตายไม่ได้นะ...ไว้เธอหายฉันจะพาเธอไปเที่ยวทุกที่ ถนนทุกสาย เนินเขาหลังเมืองเราจะไปไล่จับสัตว์เล็กๆเล่นกันดีไหม ไว้เธอหายก่อนนะ ฉันจะพาเธอไปทุกที่เลย เธอไม่ต้องนอนที่นี่แล้วไปนอนในบ้านฉันก็ได้ เราจะนอนคุยกันบนเตียงที่อ่อนอุ่นมีอาหารดีๆทุกเช้านะ เช้าๆเราจะปีนกำแพงเล่นให้ทั่วเมืองเลย"
เสียงแมวปิลาร์ขาดหายเพราะแรงสะอื้น
"ขอบใจมากจ้ะ..ฉันไม่มีโอกาสเช่นนั้นแล้วล่ะ ขอบใจมากๆ
ลาก่อนนะแมวปิลาร์คิดถึงฉันบ้างนะอย่าลืมกินเนื้อที่เอามาฝากด้วยดูแลตัวเองให้ดี"
สายรุ้งโค้งต่ำลงจรดดิน สะพานเชื่อมฝัน ที่สวยงามไปสู่อีกภพหนึ่ง
แมวตัวนั้นพยายามเลียตามเนื้อตัวของแมวปิลาร์ ที่เปรอะไปด้วยเลือดของเธอ ยังมีแต่ใจเป็นห่วงอีก ช่วงเวลาแห่งมิตรภาพอันงดงามทำไมมันกระชั้นสั้นเหลือเกิน ราวสายรุ้งบนฟากฟ้า ที่ไม่นานก็จางหายหากคงอยู่ในหัวใจนานเท่านาน
แมวที่น่าเวทนาตัวนั้นสิ้นใจอย่างสงบ
รุ้งเส้นนั้นมลายหายไปกลับแสงแดดยามสายแล้ว
แมวปิลาร์ร้องไห้จนไม่มีน้ำตาจะไหล
ช่วงเวลาไม่นานที่รู้จักกันทำไมความผูกพันมันแนบแน่นขนาดนี้.. มิตรภาพบางทีมันมีจังหวะของมันเอง เพียงจะไขว่คว้าได้หรือไม่เท่านั้น
++++++
แมวปิลาร์ขุดดินอีกครั้ง เหมือนที่เคยขุดฝังลูกหมาตัวน้อยริมชายหาด
ความรู้สึกไม่ต่างกันเลย ทำไมแมวปิลาร์ถึงต้องพลัดพรากเพื่อนที่ดีอยู่เสมอก็ไม่รู้ เธอฝังไก่ย่างชิ้นใหญ่และดีที่สุดลงไปด้วย ทุกความลึกที่ขุดลงไปแต่งเติมด้วยหยดน้ำตา ไม่สนใจว่าเล็บเท้าจะเต็มไปด้วยเศษดิน และการฉีกขาดของอุ้งเท้า
ต่อไปนี้จะไม่ได้เจอเพื่อนแมวที่เรียบร้อยสงบเสงี่ยมเจียมเนื้อเจียมตัวอีกแล้ว น่าเสียดายที่เธอกำลังจะกลับสู่สภาพแมวที่สมบูรณ์สวยงามแท้ๆ
"รอฉันอยู่ที่สุดสายปลายรุ้งนะ ฉันจะไปหาเธอ"
แมวปิลาร์กระซิบกับหลุมศพ
ลมเย็นโชยมาอีกแล้ว พัดผ่านหัวใจที่ว่างเปล่าเงียบเหงาและเยือกเย็น
++++++++
แมวปิลาร์หายไป
หายไปกับลมหนาวที่มาเยือน ละอองเย็นฉ่ำของสายฝนหายไปพร้อมกับรุ้งที่งดงามเหล่านั้นก็หายไปด้วย
ในเมืองเล็กนี้ไม่มีแมวปิลาร์ที่ทั้งน่ารักทั้งซุกซนตัวนี้อีกแล้ว แมวตัวหนึ่งหายไปไม่มีผลกระทบอะไรกับสังคมแห่งนี้ทุกอย่างยังดำเนินไปตามวิถีทางที่ควรจะเป็น แสงแดดยังส่องฝนยังตกลมยังคงโชยพัด
แต่อย่างไรเมืองนี้ไม่มีแมวอีกแล้ว
ภาพแมวตัวยาววิ่งเที่ยวบ้านโน้นออกบ้านนี้ เหลือไว้เพียงความทรงจำที่งดงามสำหรับคนที่คุ้นเคยรู้จัก เหลือเพียงสายไยแห่งมิตรภาพยังคงโยงไยตลอดกาล
บางทีเธออาจเดินทางตามหาความหมายและตัวตนที่แท้จริงของตัวเองที่สุดสายปลายรุ้ง
การเดินทางที่ยาวนานแค่ไหนใครเลยคาดเดาได้ เธอจะพบสิ่งที่คาดหวังหรือไม่อย่างไรไม่มีผู้ใดทราบได้ ทางเดินบนสายรุ้งจะสวยสดงดงามเพริดพรายหรือไม่ เพียงไร ต่างไม่มีใครรู้
เมืองนี้ไม่มีแมวอีกแล้วจริงๆ มีเพียงบันทึกตำนานเล็กๆ แต่ทรงคุณค่าในหัวใจของผู้ที่รู้จักแมวปิลาร์ตัวนี้
++++
จบตอน
Create Date : 14 เมษายน 2548 |
|
16 comments |
Last Update : 14 เมษายน 2548 21:46:15 น. |
Counter : 442 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: พรายทราย IP: 61.90.55.2 14 เมษายน 2548 22:41:26 น. |
|
|
|
| |
โดย: yui500 16 เมษายน 2548 13:32:46 น. |
|
|
|
| |
โดย: GTW 16 เมษายน 2548 14:27:17 น. |
|
|
|
| |
โดย: C o jz N IP: 210.86.206.104 16 เมษายน 2548 20:11:56 น. |
|
|
|
| |
โดย: C o jz N (C o jz N ) 16 เมษายน 2548 20:20:33 น. |
|
|
|
| |
โดย: พรายทราย 18 เมษายน 2548 14:14:37 น. |
|
|
|
| |
โดย: GTW IP: 61.90.92.211 19 เมษายน 2548 11:13:23 น. |
|
|
|
| |
โดย: yui500 IP: 203.188.10.125 20 เมษายน 2548 1:26:13 น. |
|
|
|
| |
โดย: prncess 20 เมษายน 2548 9:12:32 น. |
|
|
|
| |
โดย: พรายทราย 23 เมษายน 2548 12:07:18 น. |
|
|
|
| |
โดย: GTW 23 เมษายน 2548 23:32:44 น. |
|
|
|
| |
โดย: หวานใจฯ IP: 203.144.215.193 20 พฤษภาคม 2548 10:49:17 น. |
|
|
|
| |
โดย: nasb IP: 113.53.38.136 9 มกราคม 2553 22:33:39 น. |
|
|
|
|
|
|
|
เจอตอนนี้จนได้สินะ ฮือ ฮือ
.......ต้องถือว่าคนเขียนนอกจากจะใจร้ายกับแมวปิลาร์ แล้ว ยังใจร้ายกับคนอ่าน