Group Blog
 
 
กุมภาพันธ์ 2548
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728 
 
20 กุมภาพันธ์ 2548
 
All Blogs
 
จุดเริ่มต้น...หรือจุดจบ

จุดเริ่มต้นหรือจุดจบ

โดย GTW

++++

สายลมชมเฉื่อยฉิว พลิ้วไม้ไกวไหวเอน ผิวน้ำระยิบระยับล้อแสงตะวันยามบ่าย ใบไม้ปลิวปลิวลิ่วเรียงรายในสายน้ำ ลมเย็นและสดชื่น หากชายหนุ่มและหญิงสาวซึ่งนั่งริมน้ำกลับไม่มีสีหน้าท่าทางกลมกลืนไปกับความงดงามของธรรมชาติแม้แต่น้อย

ความตึงเครียดอึดอัดเก็บกดรอเวลาจะประทุระเบิด

แปดปีแล้วที่ทั้งสองรู้จักกัน

ในจำนวนตัวเลขนั้นมากกว่าจำนวนครึ่ง ซึ่งทั้งสองอยู่กันใกล้ชิดสนิทแนบแบบมากกว่าคนรู้จักกันธรรมดา แปดปีแห่งการรู้จักคุ้นเคย สนิทสนม ชื่นมื่น ซาบซึ้ง เบื่อหน่าย ขันติและอดทน เวลาขนาดนั้นอาจไม่มากพอจะรู้จักนิสัยใจคอกันหมดสิ้น แต่ก็ไม่น้อยเกินไปในการจะรู้จักข้อดีข้อเสียที่สำคัญของกันและกัน

ชายหนุ่มหยิบก้อนหินริมน้ำขึ้นมาก้อนหนึ่งอย่างไม่ตั้งใจ และขว้างออกไปสุดแรง

“แปดปีกว่า...” เขาตะโกนไล่หลังก้อนหินเคราะห์ร้าย มองดูมันลอยเป็นเส้นโค้งตกลงในน้ำสร้างคลื่นกระจายเป็นวงกลมแผ่กว้างออกไปเหมือนความขุ่นมัวในหัวใจขณะนั้น

“แปดปีกว่าที่ผมต้องทนนอนฟังเสียงกรนสุดแสนทรมานโสตประสาทของคุณ แสนทนกับการนั่งรอคุณแต่งตัวเป็นชั่วโมง แสนเบื่อกับความเป็นเจ้ากี้เจ้าการในบ้านจัดโน่นย้ายนี่ แถมพูดมากปากร้ายแบบทศนิยมไม่รู้จบของคุณอีก มันอะไรกันนี่โว๊ย....!!!!”

ประโยคหลังเขาแหกปากสุดเสียง จนคนในสวนสาธารณะซึ่งนั่งนอนเล่นแถวนั้นพากันหันมามองว่าไอ้บ้าที่ไหนมาตะโกนอยู่แถวนี้ หญิงสาวหน้าตาสะสวยคนนั้นนั่งหน้าซีด แทบไม่น่าเชื่อว่าคนสวยๆแบบนั้นจะมีพฤติกรรมอย่างที่หนุ่มหน้ามนคนนั้นสาธยายสรรพคุณ

“แปดปีที่ทรมาน ทำไมผมต้องทนมาขนาดนี้นะ”

น้ำเสียงเปลี่ยนเป็นแผ่วโหย ซบหน้ากับฝ่ามือปิ่มว่าใจจะขาดลงบัดนั้น

“ทนฝีมือทำกับข้าวที่แม้แต่โยนให้หมามันยังวิ่งหนีไม่คิดชีวิต ทนเดินหอบข้าวของพะรุงพะรังตามก้นคุณหลายชั่วโมงในห้องสรรพสินค้าในขณะคุณกรีดกรายเลือกสินค้าห้าชั่วโมงด้วยสีหน้าเปี่ยมสุข ไม่เห็นใจลูกผู้ชายตาดำๆสักน้อยนิด แถมทำท่าอ้วนขึ้นเรื่อยๆ มันเหลือทนแล้ว”

“มันจะมากไปแล้วนะ”

ในที่สุดโทสะของหญิงสาวก็ระเบิด ใบหน้าแดงกล่ำ นัยน์ตาแววโรจน์เหมือนจะขย้ำอีกฝ่ายเป็นอาหารว่าง

“แปดปีที่ฉันต้องทนกับความไม่เป็นระเบียบของคุณ เสื้อผ้าทิ้งเรี่ยราดกระจัดกระจาย ทนกับคืนที่คุณเมาจนลืมโลกอ้วกแตกอ้วกแตน กินมูมมามเหมือนตายอดตายอยากทุกมื้อมอมแมมยิ่งกว่าเด็กอนุบาล เมาแล้วหลับ การบ้านไม่ยอมทำกลิ่นเหล้าหึ่งเต็มห้อง ยังมีหน้ามาว่าคนอื่นนอนกรนอีก ทีคุณหลับลงเมื่อไร กรนสนั่นยิ่งกว่ารถด่วนวิ่งผ่าเข้ามากลางบ้าน พุงก็ห้อย มันเหลืออดเหมือนกัน เบอร์โทรสาวๆเต็มกระเป๋า...โธ่โว๊ย!!!”

ประโยคสุดท้ายตะโกนสุดเสียงพร้อมกับหยิบก้อนหินแถวนั้นปาไปสุดแรง จะโดนหัวหมาหัวคนหัวใครก็ช่างมันเพราะกำลังโกรธ

“คุณกล้าทำแบบนี้ได้ยังไง..” ฝ่ายชายตวาดเสียงลั่น
“นิสัยหยาบคายแบบนี้ คุณทำได้ยังไง....เป็นผู้หญิงพูดวะพูดโว๊ย”

“แล้วทีคุณล่ะ วิเศษอะไรกันนักกันหนา เอะอะอะไรก็โทษแต่คนอื่นไม่ยอมมองดูตัวเอง ชอบเอาแต่อารมณ์มาข่มขู่”

“แล้วคุณจะเอาไง????”

“คุณจะเอาไงก็ว่ามาเลย” หญิงสาวโต้ตอบไม่ลดละ บรรยากาศตึงเครียดจนหลายคนซึ่งด้อมๆมองๆอยู่เตรียมหาโทรศัพท์โทรบอก 191

“แปดปีกว่า....” ชายหนุ่มกัดฟันกรอด
“เวลามันมากพอที่ผมจะรู้จักคุณมากเกินกว่าที่คุณจะปกปิด”

“ฉันเคยปิดอะไร คุณนั่นล่ะเป็นฝ่ายเปิดตลอดเวลาที่เราอยู่ด้วยกัน”

“โธ่โว๊ย...!!!!!”

ร้องไม่ร้องเปล่าหยิบก้อนหินก้อนเขื่องขว้างออกไปสุดแรงแบบไม่ตั้งใจ ทำเอาไทยแอบมุงซึ่งหลบอยู่พุ่มไม้ข้างๆ เผ่นกระเจิง หวิดหัวร้างข้างแตก อะไรมันจะบังเอิญขนาดนั้น

“ผมเหลือทนแล้วนะ”

“จะเอาอย่างไรก็ว่ามา”

“คุณอย่ามาท้านะ”

“จะท้า จะทำไม”

“โว๊ย...!!!!มันอะไรกันนี่”

ชายหนุ่มทรุดตัวลงกับพื้นด้วยท่าท่ารวดร้าว ภาพเก่าๆและใหม่ๆปะปนกันสลับวูบวาบเข้ามาในความคิด เกือบสิบปีเป็นเวลาที่ไม่น้อยกับการกล้ำกลืนฝืนทน ทำไมถึงทนมาได้ขนาดนี้นะ

มันควรจะถึงเวลาแล้วที่จะตัดสินใจเด็ดขาด

สองเท้ายืนหยัดมั่นคงอีกครั้ง จ้องมองหน้าหญิงสาวคู่กรณีเขม็ง

“คนอย่างคุณ” พูดด้วยน้ำเสียงเหมือนคำราม

“คนอย่างฉันเป็นไง” อีกฝ่ายลอยหน้าท้าทาย

“ผมตัดสินใจเด็ดขาดแล้ว ที่จะแต่งงานกับคุณให้เป็นกิจจะลักษณะเสียที เกือบสิบปีกว่าที่ผมทนคุณมาได้ หรือที่คุณทนผมได้ เราต่างทนกันได้ ทำไมจะเราจะทนกันต่อไปอีกตลอดชีวิตไม่ได้ แถมมีลูกสามคนแล้ว..”

“คุณท้าฉันเหรอ นึกว่าฉันไม่กล้าหรือไง”

“แน่จริงก็แต่งงานกันให้รู้แล้วรู้รอดเลยสิ อยู่กันเกือบสิบปีแล้วยังมีหน้ามาทนกันรับสภาพกันได้อีก”

“ก็ได้” หญิงสาวลากแขนชายหนุ่มเดินลิ่วออกไปทันที

“ไปจดทะเบียนกันเดี๋ยวนี้เลยให้รู้แล้วรู้รอด”

แล้วต่างฝ่ายต่างยิ้มให้กัน ควงแขนกันเดินจากไป หลายคนซึ่งแอบดูอยู่พากันยืนเกาหัวอย่างไม่เข้าใจ และผิดหวัง

สายลมชมเฉื่อยฉิว พลิ้วไม้ไกวไหวเอน ผิวน้ำระยิบระยับล้อแสงตะวันยามบ่าย ใบไม้ปลิวปลิวลิ่วเรียงรายในสายน้ำ ลมเย็นและสดชื่น ชายหนุ่มหญิงสาวเดินห่างออกไปกลมกลืนและเป็นหญิงเดียวกับแมกไม้และสายลม แมลงปอและผีเสื้อเริ่มโบยบินอีกครั้ง

++

จบ




Create Date : 20 กุมภาพันธ์ 2548
Last Update : 20 กุมภาพันธ์ 2548 21:53:43 น. 1 comments
Counter : 402 Pageviews.

 
หักมุขได้เยี่ยมยอดจริง ๆ ค่ะ
ปรบมือชื่นชมอย่างใจจริง
เป็นเรื่องที่น่ารักมาก ๆ อีกต่างหาก


โดย: พรายทราย วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2548 เวลา:23:52:09 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Psycho G
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [?]




Friends' blogs
[Add Psycho G's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.