BlogGang.com : : Psycho G : แมวปิลาร์..........ตอนแมวแพนด้า

แมวปิลาร์..........ตอนแมวแพนด้า

ตอน แมวแพนด้า

: GTW

+++

ปิลาร์เป็นแมว
แมวธรรมดาที่ไม่ธรรมดาตัวหนึ่ง
เรื่องของแมวปิลาร์ก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน

+++++

แมวปิลาร์เดินด้อมๆมองๆ อยู่แถวหน้าร้านซุปเปอร์มาเก็ตแห่งหนึ่ง

ที่จริงแถวนั้นมีหมาอยู่หลายตัว แต่ตอนนี้ทุกตัวพอเห็นหน้าแมวปิลาร์ต้องพากันถอยกรูดหูตกหางห้อยกันเป็นแถวอันเป็นผลมาจากเคยเจอฤทธิืบ้าของแมวปิลาร์

หมาตัวหนึ่งหลบหน้าไม่ทันเลยล้มลงนอนงอขาอันเป็นท่ามาตรฐานของหมาที่แปลว่ากลัวแล้วจ้า..ยอมแล้วจ้า…ยอมแพ้อย่างไม่มีเงื่อนไข

แมวปิลาร์เดินยืดเข้าไปหาแบบแมวนักเลง

“ว่าไงน้องมีอารายป่าว ซ่านักเหรอ”
แมวขู่

“เปล่าครับพี่ผมมิบังอาจซ่ากับพี่หรอกครับ”

“แล้วบังอาจมานอนอะไรแถวนี้บังอาจอยากตายหรือไง”

“เปล่าบังอาจครับพี่ผมไปก็ได้ครับ”

ว่าแล้วเจ้าหมาตัวนั้นก็พลิกตัวค่อยๆคู้ตัวถอยห่างออกไปอย่างหวาดระแวงพอเห็นว่าอยู่ในระยะปลอดภัยก็ลุกขึ้นวิ่งใส่เกียร์หมาสุดชีวิต

“เชอะ…”

แมวปิลาร์เชิดหน้ายิ้มที่มุมปากมองตามไปอย่างเหยียดๆ ถ้าแมวปิลาร์เป็นคนอาจจะต้องมีการเตะสั่งสอนกันเล่นแก้กลุ้มแก้เซ็งบ้าง แต่ว่าวิสัยของแมวหมานี่ถ้าอีกฝ่ายยอมแพ้อย่างไม่มีเงื่อนไขแล้วจะต้องได้รับการยกเว้นการซ้อม ต่างจากพวกมนุษย์มากซึ่งบางทีอีกฝ่ายยกมือไหว้ขอความเมตตายังไม่ละเว้น

กลิ่นหอมลอยมาจากในร้าน

แมวปิลาร์ยังไม่มีโอกาสเข้าไปในร้านพวกนี้เพราะที่หน้าร้านติดป้ายตัวโตว่า “ห้ามนำสัตว์เลี้ยงเข้าภายในร้าน” ซึ่งเหมือนเป็นยันต์กันแมวไม่ให้สามารถแฝงกายเข้าไปในร้านได้

ปิลาร์เคยปลอมตัวเป็นตุ๊กตาแมวหวังว่าจะแฝงกายเข้าไปแต่ลืมนึกว่าตุ๊กตาเดินไม่ได้ เลยปลอมตัวใหม่เป็นหุ่นยนต์แมวเดินตัวแข็งๆขั ดๆเข้าไปในร้าน

ผลคือเธอโดนจับไปให้ประชาสัมพันธ์ประกาศหาเจ้าของที่ทำหุ่นยนต์แมวหาย ปรากฏว่าเด็กหลายสิบคนอ้างตัวเป็นเจ้าของมาแย่งกันจนร้านแทบพังกว่าจะรอดมาได้ก็แทบแย่

เป็นธรรมชาติของเด็กๆที่เคยได้เห็นแต่ หมาหุ่นยนต์แต่ยังไม่เคยเห็นแมวหุ่นยนต์เลยแตกตื่นกันยกใหญ่

วันนี้เอาใหม่ จะต้องหาทางเข้าไปอีกครั้ง

ประตูเลื่อนมียามเฝ้า ไม่มีทางหลบไปทางอื่น

ดังนั้นมีทางเดียวอาศัยความรวดเร็ววิ่งเข้าไปให้ได้

แมวปิลาร์เองก็ไม่รู้ว่าจะเข้าไปเพื่อจุดประสงค์ที่แท้จริงอันใด รู้เพียงแต่ว่าเป็นความอยากรู้อยากเห็นของสัตว์โลกตัวหนึ่งเท่านั้น

บานประตูเปิดปิดอัตโนมัติเมื่อมีคนเดินเข้าไปใกล้ แต่เมื่อแมวเดินเข้าไปใกล้กลับไม่ยอมทำงานคล้ายกับว่าตัวตรวจจับของประตูตรวจจับได้เฉพาะมนุษย์เท่านั้น ดังนั้นแมวปิลาร์จึงอาศัยจังหวะที่หญิงสาวคนหนึ่งเดินเข้าไปรีบวิ่งตามไปติดๆ

ยามบังเอิญเหลือบมองเห็นพอดี

“เฮ้ย…แมว”

ยามชี้โบ้ชี้เบ้ควงไม้กระบองวิ่งตรงมา หญิงคนนั้นก้มลงมองพื้นเห็นแมวปิลาร์กำลังวิ่งไปมาอยู่แถวขาก็ร้องกรี้ดสุดเสียงกระโดดตัวลอย

“กรี๊ด…….ช่วยด้วยแมว…..ว้าย..”

บังเอิญผู้หญิงคนนี้เป็นโรคกลัวแมว (อะไรจะบังเอิญขนาดนั้น) แต่ทำไมร้องให้แมวช่วยก็ไม่รู้แมวปิลาร์เองก็ไม่มีเวลานึกเพราะตอนที่หญิงสาวหล่นลงมาจากอากาศเท้าทั้งคู่ก็เหยียบลงบนหางของเธอเต็มที่

“เมี้ยวซซซซ์…..”

แมวปิลาร์ร้องสุดเสียงด้วยความเจ็บ ตัดสินใจวิ่งไปตายเอาดาบหน้า

ยามคนนั้นหวดด้วยไม้เต็มที่ตามสัญชาติญาณเพราะการปล่อยให้แมวเข้าไปได้อาจมีผลให้เขาถูกลดขั้นตัดเงินเดือนยึดเมียก็เป็นได้

พลั่ก……..

โดนไม่เต็มที่เพราะความรวดเร็วของแมวปิลาร์ และเพราะถ้าโดนเต็มที่อาจทำให้นิยายเรื่องนี้กลายเป็นนิยายประเภทโศกนาฎกรรมที่จบลงด้วยการเสียชีวิตของแมวตัวหนึ่งก็เป็นได้

พนักงานเก็บเงินสองคนเฝ้าเคาน์เตอร์อยู่เห็นแมวปิลาร์เหมือนกัน ต่างพากันร้องเสียงลั่นด้วยความตกใจ

“ว๊าย…..แมว…….ช่วยด้วยแมว”

ร้องหาแมวอีกแล้ว

อาจเป็นเพราะได้ยินเสียงเอะอะทางหน้าร้าน พอเห็นแมวปิลาร์วิ่งตรงมาทำให้นึกว่าเป็นแมวที่เต็มไปด้วยอันตราย เช่นอาจเป็นแมวที่มีระเบิดพลีชีพติดตัวอยู่ หรือแมวแอนแทรกซ์ หรือแมวผีสิงหวีดสยอง แมวสามบาท แมวสิบสามฝันหวาน อะไรพวกนั้น

ร้องไม่ร้องเปล่าพากันขว้างสิ่งของเข้าใส่ปานห่าฝน มีทั้งปากกาบิน แก้วบิน ห่อขนมบิน ตะกร้าบิน ทุกอย่างที่กำลังคิดเงินอยู่ถูกจับฉวยมาเป็นอาวุธ ถูกบ้างไม่ถูกบ้าง

อะไรกันฟะ…แมวปิลาร์นึกในใจ แค่เข้ามาวิ่งเล่นแค่นี้ต้องทำร้ายกันด้วย พวกมนุษย์นี่ใจร้ายใจจืดใจดำกันจริงๆ

ตะกร้าบินอันหนึ่งลอยมาชนหัวพอดีจากฝีมือการขว้างของสาวหน้าใส

โป๊ก………

แรงกระแทกทำให้แมวปิลาร์เปลี่ยนเส้นทางการวิ่งโดยไม่จงใจ เธอหักเหแนวการวิ่งเข้าหาเข้าหากองนมข้นหวานตราแมวที่กองซ้อนกันเป็นรูปปิรามิดอยู่ด้านหน้าชั้นวางของหมวดอาหารและเครื่องดื่มพังครืนลงมาอย่างสวยงาม

โป๊กๆๆๆพลั่กๆๆ………!!!!

ในจำนวนกระป๋องนมตราแมวที่ร่วงลงมานั้นมีหลายกระป๋องหล่นลงใส่หัวแมวปิลาร์จนทำให้เธอนั่งตาลอยอมยิ้มมึนงงไปชั่วขณะ

ยามที่กำลังวิ่งตรงมาบังเอิญเท้าไปเหยียบเอากระป๋องนมที่กลิ้งอยู่กับพื้นลื่นล้มเสียหลักพุ่งเข้าชนชั้นวางของล้มครืนลงทั้งแถบ

โครม……..
ข้าวของบนชั้นพากันเทกระจาดลงมาเกลื่อนพื้นส่งโครมครามสนั่นหวั่นไหว ยามเคราะห์ร้ายตะกายอยู่ในดงเครื่องกระป๋องดิ้นกระแด่วๆอย่างน่าสงสาร

คนที่จับจ่ายข้าวของอยู่ไม่รู้เรื่องพอเห็นชั้นวางของล้มครืนลง พร้อมกับเสียงร้องของพนักงานเก็บเงินต่างคิดว่าเกิดเหตุร้ายขึ้นแน่นอน เลยพากันร้องเสียงหลงวิ่งกระจัดกระจายไปคนละทิศละทางบ้างล้มกลิ้งลงกับพื้น บ้าง(ถือโอกาส)กระโดดเหยียบฟรีๆบนคนที่กลิ้งลงกับพื้นเพราะโอกาสเช่นนี้มีไม่บ่อยนัก เด็กหลายคนถือโอกาสกินขนมฟรีทันที
คุณยายคนหนึ่งถือโอกาสยัดหม้อหุงข้าวไฟฟ้าเข้าในอกเสื้อ
หลายคนวิ่งไปมาตามช่องทางเดินอย่างตกอกตกใจสอดส่ายสายตาหาของมีค่าไปด้วยตามประสาคนที่ตกใจจนไร้การควบคุม บางคนเห็นเครื่องใช้แพงๆวางกลิ้งอยู่กับพื้นก็ตกใจจนก้มลงหยิบติดมือขึ้นมา สาวคนหนึ่งตกใจจนแกะเครื่องสำอางค์ชั้นดีออกมาส่องกระจกแต่งหน้าเป็นการใหญ่

ยังกับเกิดจราจรย่อยๆ ข้าวของกระจัดกระจายวุ่นวายไปทั่ว ผู้จัดการที่ห้องอยู่ในห้องด้านหลังมองผ่านกระจกเห็นความวุ่นวายภายนอกนึกว่านักเรียนนักเลงบุกมาทำลายข้าวของจึงตัดสินใจกดปุ่มสัญญาณเตือนภัยทันที

แมวปิลาร์ตะกายขึ้นมาจากกองกระป๋องนมตราแมว ยังมึนไม่หายหม้ออะลูมิเนียมใบหนึ่งก็ลอยลงมาครอบตัวพอดี

เคร้ง…..!!!

โลกของแมวปิลาร์มืดมิดไปทันที ความตกใจทำให้เธอออกวิ่งแบบไม่รู้เหนือใต้

ภาพที่หลายคนเห็นคือหม้ออะลูมิเนียมใบหนึ่งวิ่งไปมาบนพื้นเหมือนมีชีวิต ชนโน่นนี่วุ่นวายไปหมดต่างพากันนึกว่าเป็นหม้อผีสิงทำให้เกิดความหวาดกลัวสยดสยองพองขนคิดว่าร้านนี้เป็นร้านผีสิงยิ่งพากันแตกตื่นกรีดร้องกันชุลมุนบางคนชนใส่ชั้นวางของพังลงมาอีก

ยามเห็นแมวปิลาร์โดนหม้อครอบใส่พยายามวิ่งไล่ตี แต่เหยียบข้าวของล้มหัวทิ่มหัวตำไปอีกครั้ง

ในร้านพากันตื่นตกใจปั่นป่วนไปหมดแต่กลับมีคนวิ่งออกมาน้อยมาก ส่วนใหญ่จะตกใจแบบแปลกๆ เช่น เด็กๆ ตกใจจนต้องกินขนม ผู้ชายคนหนึ่งตกใจจนเอาเหล้าราคาแพงมาเปิดขวดดื่มเอาอย่างไม่คิดชีวิต หญิงสาวคนหนึ่งตกใจมากถึงกับถอดเสื้อเก่าๆที่เธอสวมอยู่ออก(นั่น..หลายคนตาลุกวาว…) แล้วสวมเสื้อตัวใหม่ราคาแพงที่แขวนโชว์ไว้แทน
(ว้า….หลายคนเสียดาย….เสื้อดายเสื้อน่ะ )

ประชาสัมพันธ์คว้าไมโครโฟนขึ้นมาจะประกาศในทุกคนอยู่ในความสงบ เธอตั้งใจจะกรอกเสียงหวานๆอ้อนๆลงไปตามแบบฉบับของการออกเสียงประชาสัมพันธ์ในห้างทั่วไป

ยังไม่ทันได้ประกาศ
หม้ออะลูมิเนียมใบหนึ่งก็วิ่งมาชนขาโต๊ะดังโครมก่อนจะกระเด้งกระโดดขึ้นมาบนโต๊ะตัวหม้อลอยกระเด็นออกไปตามแรงกระแทก ที่เหลืออยู่บนโต๊ะกลับเป็นแมวตัวหนึ่ง

สาวสวยคนนี้เคยเห็นแมว แต่ไม่เคยเห็นแมวในหม้ออย่างนี้มาก่อนเลยกรีดร้องออกมาสุดเสียง

“กรี้ดดดดดดดดดดดดซซซซซซซ………….”

เสียงของเธอผ่านเครื่องขยายเสียงดังสนั่นไปทั่วร้าน แต่เป็นเสียงร้องที่แปลกมากและรับรองว่าไม่มีใครเคยได้ยินเนื่องจากเธอตั้งใจจะประกาศด้วยเสียงหวานๆอ้อนๆพอกรีดร้องเลยกลายเป็นเสียงกรี๊ดร้องที่หวานๆอ้อดอ้อนอ่อนหวานยาวเหยียดจนคนฟังขนลุกขนพอง

ใครคนหนึ่งวิ่งชนหม้ออะลูมืเนียมไปนั้นลอยกลับมาครอบลงบนหัวประชาสัมพันธ์สาวพอดี

ยามมะหงุมมะงาหรามาเจอหม้อที่เคยครอบแมวปิลาร์ก็ไม่ทันคิดอะไรเพราะมัวแต่โมโหเลยแพ่นไปที่หม่อใบนั้นด้วยกระบอกไม่ยั้ง

เพล้งๆๆๆๆๆๆ

สงสารประชาสัมพันธ์สาวหัวสั่นหัวคลอนไปตามแรงตี ดีที่ว่ามีหม้อครอบหัวอยู่จริงไม่ค่อยเจ็บ แต่หูลั่นเปรี้ยะไปด้วยเสียงกึกก้องเต็มหู กว่าจะเหวี่ยงหม้อออกไปได้ก็แทบตาย

"อ้าว..ขอโทษครับนึกว่าแมว"

ยามหนุ่มหน้าซีดเหลือสองนิ้ว เพราะตัวเองก็กำลังจีบประชาสัมพันธ์สาวคนนี้อยู่พอดี อนาคนสดใสความรักดับแน่คราวนี้

"ตายซะเถอะแก๊...ไอ้บ้า..!!!"

หญิงสาวคว้าหม้ออะลูมิเนียมได้ก็ไล่ตียามด้วยความแค้นถึงขีดสุด ยามวิ่งหนีหัวซุกหัวซุนอย่างน่าเวทนา

ส่วนคนในร้านพากันเสียสติพากันอุ้มข้าวของต่างๆทั้งวิทยุ พัดลม ตูเย็น ทีวี กล่องอาหารและเครื่องดื่มวิ่งออกมาจากภายในทันที แต่มาออกกันอยู่ที่ทางออกคิดเงินซึ่งเป็นทางแคบๆ

เสียงไซเรนรถตำรวจวิ่งมาจอดหน้าร้าน ตำรวจหลายสิบนายกรูลงมาจากรถพร้อมอาวุธครบมือรายล้อมหน้าร้านไว้ใจหมด

“ทุกคนที่อยู่ในร้านขอให้อยู่ในความสงบสุข… ยกมือขึ้นและยอมให้จับกุมเสียดีอย่าขัดขืนเป็นอันขาด“

เสียงประกาศผ่านโทรโข่งลั่นตำรวจหลายนายหมอบอยู่ตามฝากระโปรงรถ ข้างถังขยะ เล็งปืนและเครื่องยิงระเบิดมาที่ร้านเป็นจุดเดียว

เหตุการณ์ชักไปกันใหญ่ แมวปิลาร์วิ่งไปมาอยู่พักหนึ่งหาทางออก

หลังร้านมีทางออกช่องเล็กๆอยู่มองเห็นแว่บๆ ไม่รอช้าให้เสียเวลา แมวปิลาร์กลับลำวิ่งพุ่งออกไปด้วยความรวดเร็วสุดชีวิต

เปรี้ยง…!!!!!!!

เสียงดังสนั่นหวั่นไหว สะท้านไปทั่วกะโหลก

แมวปิลาร์รู้สึกเหมือนฟ้าผ่าลงมาเต็มหน้าดาวเงินดาวทองวิ่งระยิบยับสลบไปนานกว่านาที

อนิจจา ทางออกที่เห็นโล่งๆนั่นความจริงมีกระจกโปร่งใสปิดอยู่ แต่เพราะไม่ทันดูให้ดีแมวปิลาร์จริงขนเข้าอย่างจังและเต็มแรง

……

เหตุการณ์ทางด้านนอก ตำรวจกำลังเคลียร์พื้นที่ ลูกค้าหลายคนอ้างว่าตกใจจนลืมตัวทำให้ถือข้าวของออกมา คุณยายคนหนึ่งไม่ยอมเอาเตาไฟฟ้าออกมาจากอกเสื้อจนตำรวจต้องขู่ว่าจะเอาสายไฟที่โผล่ห้อยออกมาเสีบปลั๊กไฟฟ้านั่นล่ะแกจึงยอมเอาออกมา

ทุกคนยังมึนๆกันอยู่ว่ากำลังวิ่งหนีอะไรกันแน่เข้าทำนองกระต่ายตื่นตูม

แมวปิลาร์เดินเป๋ออกมาอย่างเบลอๆมึนๆ

“เฮ้ย…..ดูนั่น “

ตำรวจคนหนึ่งชี้มือมาทางแมวปิลาร์ หลายคนหันมามองแล้วพากันหัวเราะ

“นั่นมันแมวแพนด้านี่”

“สงสัยจะมาจากขั้วโลกนะ”

“ใครเอามาเลี้ยงนี่ สงสัยต้องไปหาแมวแพนด้ามาเลี้ยงบ้างแล้ว”

“ท่าทางจะเป็นพันธุ์หายาก แมวแพนด้านี่”

แมวแพนด้าอะไร…แมวปิลาร์แยกเขี้ยวขู่อย่างแค้นเคือง เค้าไม่ใช่แมวขั้วโลกสักหน่อย ทุกคนพอเห็นแมวปิลาร์ต่างพากันหัวเราะ มันเรื่องอะไรกัน

พอดีผ่านกระจกแมวปิลาร์จึงหันไปมองหน้าตัวเองในกระจกเงา

อะไรกันนั่น!!!!

ผลจากการวิ่งชนกระจกโปร่งใสเต็มแรงยังผลให้ขอบตาของเธอทั้งสองข้างช้ำดำเป็นวงดูไปแล้วเหมือนตาของหมีแพนด้าไม่มีผิด อย่างนี้นี่เองคนถึงเข้าใจผิดคิดว่าเป็นแมวแพนด้า

แมวปิลาร์ตะลึงลานอยู่ครู่หนึ่งก่อนออกวิ่งไม่คิดชีวิตกลับบ้านไปด้วยความอับอาย..โ

อย..นี่คุณนายเจ้าของเธอจะจำแมวปิลาร์ได้หรือเปล่านี่ หรือจะเห็นเธอเป็นแมวแพนด้าอีกนะ…

แมวปิลาร์ไม่อยากเดาเลยจริงๆ

และนี่คือวันหนึ่งของแมวปิลาร์

Create Date : 16 มีนาคม 2548

Last Update : 16 มีนาคม 2548 18:58:47 น.

19 comments

Counter : 505 Pageviews.