|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | |
|
|
|
|
|
|
|
ไมกับรีน 1 (จิ้งจอกทะเลน้อย)
ค่ำแล้ว
ถนนสายนั้นโผล่มาจากดวงอาทิตย์มหึมาที่กำลังจมหายในเทือกเขาขอบฟ้าเลือนรางทางทิศตะวันตก ทอดตัวยาวคดเคี้ยวราวอสรพิษยักษ์ไปตามภูมิประเทศสูงๆต่ำๆกึ่งทุ่งหญ้ากึ่งทะเลทรายก่อนจะหายเข้าไปในเงาทะมืนคล้ายทิวเขาทางทิศตะวันออก
ถนนสายนี้ตายไปแล้ว
เนื่องจากไม่มีผู้คนผ่านมาเนิ่นนาน ฝุ่นบนถนนหนาขึ้นตามวันเวลา อีกไม่นานถนนสายนี้คงกลืนหายไปกับทุ่งหญ้าป่าเขา
สีขาวเหลืองของผืนฝุ่นบนถนน ฉีกแยกออกตามรอยขีดของพาหนะสามคัน ในม่านฝุ่นควันตลบตามหลังมาจนกลายเป็นเมฆฝุ่นบดบังทิวเขา
ที่วิ่งนำหน้าราวกระสุนเหล็กเป็นจักรยานยนต์ คันใหญ่มีดำสนิท คนขับขี่เป็นหญิงสาวปิดใบหน้าด้วยแว่นกันลมขนาดใหญ่ในชุดรัดกุมราวแมวขโมย ความเร็วของรถแทบไม่ลดลงขณะเลี้ยวโค้งแสดงถึงความเชี่ยวชาญในการควบคุมรถ
ในม่านฝุ่นด้านหลัง สายตาสองคู่ส่งแสงเกรี้ยวกราดจากรถยนต์ฝาแผดติดอาวุธสองคันตามมาอย่างกระชั้นชิด บนหลังคาทั้งสองรถติดจรวดนำวิถีที่ถูกยิงออกไปแล้วบางลูก ด้านข้างบริเวณกระจกส่องหลังรถติดด้วยปืนกลหนักที่กระบอกร้อนระผ่าวจากการกระหน่ำยิง
จอภาพบนหน้าปัดของรถยนต์ไล่ล่าเห็นท้ายรถ จักรยานยนต์โฉบไปมาอยู่หน้าจอแต่ยังไม่อาจจับเป้าได้ถนัดเพราะความปราดเปรียวของผู้ถูกล่า
ขณะเข้าโค้งหักศอกบริเวณใกล้กับเนินเขาและโขดหินใหญ่ข้างทาง กระสุนเหล็กแตะเบรค
เสียงยางรถบดถนนคอนกรีตแผดสนั่นหวั่นไหว รถปัดไปมาเหมือนจะเสียการทรงตัว
หลังคารถยนต์คันซ้ายมือสว่างวาบขึ้น
พร้อมการโจนทะยานของจรวดนำวิถีขนาดเล็กสร้างลำอากาศร้อนและไอสีขาวตามหลังกระชั้นสั้นพุ่งเข้าหาเป้าหมาย
หญิงสาวมองเห็นแวบเดียวจากเสี้ยวการมองกระจกหลัง เธอเอียงรถออกมาจากขอบถนนที่กำลังโถมเข้าทับเข้ามาหา มือขวาบิดคันเร่งสุดแรง
ระบบจุดระเบิดพิเศษฉุกเฉินทำงานในเสี้ยววินาที เสียงดังตูมสนั่นหวั่นไหว รถที่ทำท่าเสียหลักจะชนกับไหล่ถนน กลับกระโจนพรวดออกไปอีกครั้ง ราวกระสุนส่งออกจากลำกล้องพร้อมกับเปลวไฟเป็นลำยาวจากท่อไอเสีย
ตามมาคือเสียงครืนกึกก้องกัมปนาทระเบิดเป็นเมฆไฟมหึมาบนโขดหินข้างทางในตำแหน่งที่เพิ่งพ้นมาเมื่อครู่ สะเก็ดหินปะทุกระจายเวียนว่อน ก้อนหนึ่งมีขนาดเท่าศีรษะทารกเฉียดหัวหญิงสาวไปแค่คืบ
"บ้าเอ๊ย
..!!"
หล่อนสบถลั่น เศษหินเล็กๆหลายชิ้นฝังอยู่หลังของเธอจนเลือดเริ่มซึมออกมาเป็นทาง
ก้อนหินบางก้อนพุ่งสวนกับรถไล่ล่าจนต้องหลบเป็นพัลวันเช่นกัน เป็นโอกาสให้ระยะห่างระหว่างของการไล่ล่าทิ้งระยะห่างไปอีก
แต่ถนนข้างหน้าที่เคยเป็นคดเคี้ยวกลับเป็นสายตรงก่อนจะเห็นโค้งข้างหน้าอยู่ลิบๆ
ถนนเส้นตรงไม่มีผลดีต่อผู้ถูกล่าแน่นอน
ท่าทางผู้ล่าจะเริ่มใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดแล้วหลังจากเหน็ดหน่ายกับการไล่ล่ามานาน
หญิงสาวก้มตัวแนบการรถบิดคันเร่งเต็มที่
ประกายสว่างวาบขึ้นบนหลังคารถทั้งสองคัน
คราวนี้จรวดสองลูกไม่ได้ยิงตรงไปยังเป้า หากแต่ยิงเป็นเส้นโค้งข้ามเป้าหมายไประเบิดตูมลงด้านหน้าสร้างหลุมลึกและกำแพงกลุ่มควันขนาดใหญ่บดบังสายตาจนหมดสิ้น
หญิงสาวใจหายวาบ
รถเพิ่งแตะเบรคก็พุ่งเข้าไปในกลุ่มฝุ่นควัน ในกลุ่มควันยังมีเศษดินเศษหินใหญ่น้อย เมื่อรถพุ่งข้ามหลุมใหญ่จากแรงระเบิดได้หวุดหวิดพ้นออกมาอีกด้านหลังกลับอยู่ในสภาพพลิกไถลไปตามพื้น..สภาพคลุกฝุ่น
สะเก็ดไฟแตกพร่างพราวตามการขูดเสียดสีระหว่างชิ้นส่วนของรถกับถนนราวไฟพะเนียง
ทางโค้งรออยู่ข้างหน้า ริมถนนมีราวเหล็กกั้น
เลยราวกั้นออกไปเป็นเหวสูงชันข้างทาง พื้นหินรออยู่ข้างล่างในระยะห้าสิบเมตร
แรงเสียดทานไม่อาจเอาชนะแรงเฉื่อย มอเตอร์ไซด์ชนใส่ราวเหล็กดังโครมใหญ่ก่อนพลิกลอยข้ามละลิ่วลงสู่พื้นข้างล่างก่อนกระแทกโขดหินระเบิดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยท่ามกลางเปลวไฟโหมกระพือ
รถล่าสังหารค่อยๆโผล่ออกมาจากกำแพงกลุ่มควันที่สร้างปัญหาให้กับผู้ล่าเช่นกัน มีคันหนึ่งกันชนห้อยร่องแร่ง เศษก้อนหินเล็กๆ จากแรงระเบิดบนถนนบางส่วนยังทะยอยหล่นมาโดนตัวรถดังกึงกังไม่ขาดระยะ
กลุ่มคนแต่งตัวชุดเครื่องแบบคล้ายทหารหรือหน่วยงานอะไรสักอย่าง สี่ห้าคนค่อยทะยอยออกมาชะโงกดูซากรถลิบๆข้างล่าง
ม่านราตรีเริ่มกางปีกปกคลุม เหวข้างล่างอยู่ในเงาทะมึนราวนรก
อาทิตย์ลับฟ้าไปเกือบหมดแล้ว เงาผู้คนบนริมถนนทอดยาวหายไปในเงาทะมืนของหุบเหว ในขณะที่กำแพงฝุ่นควันเริ่มจากลง
บรรยากาศเช่นนั้นใครจะลงไปตรวจดู อย่าว่าแต่การปีนลงผาชันในเวลานี้ ต่อให้เป็นช่วงกลางวันก็นับว่าลำบากยากเข็ญ
ในที่สุดพวกมันหันหลังกลับ สร้างนัยน์ตาลุกจ้านวลเหลืองสองคู่วิ่งคดเคี้ยวจนหายไปกับความมืดขอบฟ้า ถนนสายนี้กลับสู่สภาพความตายอีกครั้ง
หญิงสาวผู้นั้นอยู่หรือตายไปแล้ว?
หลังจากนั้น หลังจากการตกลงในหุบเหว หลังการถูกไล่ล่าด้วยรถยนต์ติดอาวุธหนัก มือขาวๆคู่หนึ่งก็ค่อยโผล่ขึ้นมาจากริมถนน ดึงร่างที่บอบช้ำในชุดรุ่งริ่งขึ้นมา
เธอยังไม่ตาย แต่นับว่าฉิวเฉียดกับความตายจนแทบจะทักทายกันได้
ในช่วงที่กระเด็นข้ามรั้วกั้นเริ่มร่วงลงสู่นรก เธอพลิกตัวดึงมีดออกมาจากเอวแทงใส่ผนังหน้าผาใช้ด้ามมีดเป็นที่ยึดเกาะ แต่ผนังเป็นหินปนดิน ในที่หลุดมีดทนน้ำหนักไม่ได้หลุดถอนออก
ผนังธรรมชาติไม่ราบเรียบดั่งกระจก ยังมีปุ่มปมแง่หินยื่นออกมา มือของหญิงสาวยามนั้นกลับกลายเป็นมือตุ๊กแกเกาะแง่หินอย่างเหนียวแน่น
คนที่มีสติหนักแน่นมั่นคงเช่นนี้มีไม่มาก
ดังนั้นมือตุ๊กแกจึงพาเจ้าของมือขึ้นมานอนหงายมองดวงดาวพราวระยิบด้วยอาการปางตาย
แต่เมื่อยังมีชีวิตอย่างไรต้องลองลุกขึ้นมาอีกสักครั้ง
น้ำค้าง-สายลมเย็นเฉียบ แต่หัวใจของหญิงสาวกลับเย็นยิ่งกว่า
รอบข้างยามนี้มีแต่ความมืด ถนนสุมทุมพุ่มไม้ล้วนหายไปในปีกรัตติกาล แต่เมื่อสายตาเริ่มปรับตัวกับความมืด อาศัยแสงสว่างจากดวงดาว ยังพอมองเห็นถนนเลือนลางคดเคี้ยวหายไปในเงาทะมืนของทิวเขา
เธอเริ่มเดิน
.
++++
ตอนเช้าของวันต่อมา
หลังจากหญิงสาวลากสังขารอ่อนล้าตลอดคืนเพื่อมาพบปลายถนน นับว่าการเดินทางอันยาวนานสิ้นสุดลง โดยปราศจากอาหารและน้ำ
เมื่อมาถึงปลายถนน เธอก็แทบหมดแรงจนต้องทรุดลงนั่ง
พ้นจากเนินเขา
ข้างล่างที่มองเห็นคือหาดทรายสีขาว
ถัดออกไปคือพื้นน้ำสีครามจรดขอบฟ้า
ดวงอาทิตย์กลมโตแตะเส้นแบ่งน้ำกับฟ้าจ้องมองมาเหมือนจะเย้ยหยันแทบไม่น่าเชื่อว่าถนนสายนี้มาสิ้นสุดที่ทะเล ไม่มีทางแยกไปทางอื่นอีก ถ้าจะมุ่งหน้าต่อไปก็คือเดินลงทะเล
นกที่จับกลุ่มโดยบินบนท้องฟ้า บางส่วนจิกหัวดิ่งลงทะเลเพื่อจับปลาเป็นอาหาร
หญิงสาวกลืนน้ำลายลงลำคอแห้งผาก บางทีเธออาจจะจับนกเป็นอาหารสักตัว แต่อาวุธก็หล่นลงไปพร้อมกับมอเตอรไซด์คู่ชีพแล้วตั้งแต่เย็นวาน
เธอเลือกต้นสนริมทะเลต้นหนึ่ง พอเอนหลังพิงต้องสะดุ้ง
บาดแผลที่กลางหลังจากสะเก็ดระเบิดและสะเก็ดหินสร้างความบอบช้ำไม่ใช่น้อย แต่เธอแต่ค่อย ๆ เอนหลังพิงอย่างระมัดระวังหลับตาพักผ่อนเป็นครั้งแรก เพราะรู้สึกว่าตนเองแทบไม่มีอะไรจะทำแล้ว
เดินกลับ
.
สังขารปางตายอย่างนี้เธอคงกลายเป็นโครงกระดูกริมทางจากความร้อนและขาดอาหาร ยังไม่นับกับการเผชิญกับกลุ่มไล่ล่าอีกต่างหาก เดินต่อ
คือลงทะเล
ถ้าอยู่ต่อที่นี่..ก็คือการรอความตาย
ทางสามแพร่งนี้ไม่มีเส้นทางใดดีจริงๆหญิงสาวนึกถึงภาพของเธอกลายเป็นโครงกระดูกนั่งพิงต้นสน จ้องมองสู่ทะเลงดงาม ฟังเสียงคลื่นลมขับกล่อม บางทีการพบจุดจบอย่างนี้ก็นับว่าน่าประทับใจไม่น้อย
อาจมีสักวันที่มีคนมาพบเธอกลายเป็นโครงกระดูกจ้องมองไปทางทะเลคล้ายซาบซึ้งเหลือแสน
.
ขณะที่นั่งหลับตาพักอย่างเหนื่อยอ่อน
ประสาทอันฉับไวของหญิงสาวรู้ว่าอะไรบางอย่างพุ่งตรงมาที่ใบหน้า
เธอพลิกกายหลบไปด้านข้างด้วยปฏิกิริยารวดเร็วเหลือเชื่อราวแมวขโมยก่อนย่อตัวตั้งท่าเหมือนเตรียมรับการจู่โจมจากศัตรู เปลี่ยนจากความอ่อนล้าเป็นปราดเปรียวแบบคาดไม่ถึง
ปลาตัวหนึ่งดิ้นกระแด่วอยู่ที่พื้น
ห่างออกไปเด็กสาวคนหนึ่งอายุยืนเอียงคอมองมาอย่างสงสัย ใบหน้ามอมแมมในชุดหาปลานั่นบอกว่าเธอคงเป็นชาวประมง
"เอ๊ะ
นึกว่าตายไปแล้ว เห็นนั่งพิงต้นสนอยู่เงียบๆ"
หญิงสาวเหยียดกายขึ้น ท่าทีผ่อนคลายลงเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเป็นเพียงเด็กสาวธรรมดา
"เธอเป็นใคร"
เอ่ยปากถาม เด็กสาวคนนั้นยิ้มกว้าง นัยน์ตาเรียวคมคู่นั้นแฝงแววฉลาดอย่างร้ายกาจ เธอเดินมาหยิบปลาใส่ในถุงที่คล้องบ่าอยู่
หญิงสาวถอยห่างออกมานิดหนึ่งตามสัญชาติญาณ ที่ไม่ไว้ใจคนง่ายๆ
"คนที่จับปลาก็ต้องเป็นคนจับปลา แล้วเธอเป็นใคร ท่าทางเหมือนถูกหมาบ้าไล่ฟัดมา"
หญิงสาวสะดุ้ง ปากคอเด็กสาวคนนี้เราะร้ายไม่เบา
"จับปลาแถวนี้น่ะเหรอ"
"ทำไมล่ะ
.ท้องทะเลกว้างใหญ่ ฉันจะพอใจไปจับปลาที่ไหนก็ได้"
พอใจ
.คำนี้เป็นที่สุดแห่งเหตุผลจริงๆ พอใจคือพอใจ จะหาเหตุผลใดอีก
"เรือหาปลาเธออยู่ไหน"
"จับปลาต้องใช้เรือหาปลาเสมอไปหรือไง ฉันพอใจใช้เบ็ดคันเดียวก็พอแล้ว"
ใช้เป็ดคันเดียว ออกหาปลาในสถานที่ไม่น่าจะมา มันเป็นเรื่องเกินกว่าจะยอมเชื่อ
แต่หากอ้างว่าพอใจก็ไม่รู้ว่าจะหาเหตุผลอะไรอีกแล้ว
เด็กสาวชาวจ้องมองด้วยสายตาแปลกๆครู่หนึ่งในที่สุดเธอก็เอ่ยขึ้นมาลอยๆ
"ฉันมีน้ำมาขวดหนึ่ง ขนมปังชิ้นหนึ่ง ต้องการขาย"
เด็กสาวคนนี้เหมือนเกิดมามองตาก็รู้ใจคน ซ้ำยังมีคุณสมบัติแม่ค้าที่ดี เสนอสินค้าได้โอกาสอย่างยอดเยี่ยม
หญิงสาวรู้สึกว่าลำคอที่แห้งผากเกิดอาการกำเริบโดยกะทันหัน หน้าท้องเหมือนติดราบไปกับแผ่นหลัง
"ฉันขอซื้อ"
เด็กสาวเอื้อมมือไปด้านหลัง ดึงขวดน้ำมาจากกระเป๋าสะพายหลัง ยิ้มพลางบอก
"น้ำขวดนี้ขายให้ถูกๆ ราคาพันเหรียญ"
"พันเหรียญ
!!"
หญิงสาวร้อง ทำหน้าไม่เชื่อหูตัวเอง จ้องมองอีกฝ่ายเหมือนมองคนเสียสติ
"เธอบ้าไปเหรอเปล่า น้ำขวดเดียวพันเหรียญ แล้วยังมาบอกว่าขายถูก ๆ อีก"
"แพง?
แพงที่ไหนกัน น้ำขวดนี้ถ้าไปขายในทะเลทรายกับคนที่ใกล้อดน้ำตายอย่าว่าแต่พันเหรียญเลย อาจได้ราคาหมื่นหรือแสนเหรียญ
หรือบางทีอาจถึงล้านเหรียญ แล้วจะว่าแพงได้อย่างไง ซื้อไม่ซื้อ..?"
หญิงสาวฝืนยิ้มกับเหตุผลกวนประสาทนั่น พึมพำเบาๆว่า"โจรปล้นชัดๆ"
เด็กสาวหัวเราะเห็นฟันขาวแบมือมาข้างหน้าบอก
"จ่ายสด ไม่ลดแม้แต่เหรียญเดียว"
"เธอมันโจรจิ้งจอกทะเลชัดๆ น้ำขวดเดียวพันเหรียญ
.เอ้า..ตกลงฉันซื้อ"
หญิงสาวควักบัตรแลกเงินออกมาจากกระเป๋าปึกหนึ่ง เลือกใบที่มีมูลค่าพันเหรียญออกมาส่งให้มือเปื้อนๆข้างหน้าก่อนรับน้ำมาดื่มจนเกือบหมดขวด
จิ้งจอกทะเลตัวนั้นอมยิ้มมอง เธอเพิ่งรู้ว่าลูกค้ารายนี้ร่ำรวยกว่าที่คิดมากนัก บัตรแลกเงินยังเหลืออีกเยอะ
ในที่สุดเธอดึงห่อขนมปังออกมาถือเล่น พูดขึ้นมาลอยๆ เหมือนเดิม
"ขนมปังห่อนี้ สองพันเหรียญ ไม่ลดแม้แต่เหรียญเดียว"
หญิงสาวฉุนจัดจนต้องหัวเราะ ส่ายหน้าไปมาอย่างเอือมระอา
แต่ในที่สุดก็ต้องยอมควักบัตรแลกเงินจ่ายไปอีกสองพันเหรียญ
แลกกับขนมปังจวนเสียชิ้นหนึ่ง
"ขนมปังสองพันเหรียญ
.เกิดมาฉันก็เพิ่งเคยได้ยิน
.เธอไม่คิดเหรอว่าถ้าฉันหักคอเธอเสีย เอาน้ำกับอาหารทั้งหมดของเธอ ผลที่ออกมาจะเป็นยังไร"หญิงสาวหันมาถาม
หลังจากกลืนขนมปังราคาแพงสุดชีวิตลงไป แทนที่จะกลัว จิ้งจอกทะเลน้อยกลับหัวเราะ ช่างเป็นคนที่หัวเราะง่ายเสียจริงๆ
"ถ้าเธอทำอย่างนั้น ก็จะอดตายอยู่แถวนี้ กลายเป็นโครงกระดูกเหงาๆ นอนมองท้องฟ้าไม่มีวาสนาแม้แต่หมาแมวมาแทะกระดูก ถ้าเธอเดินเลาะฝั่งไปรัศมีหนึ่งพันไมล์จากที่นี่ไม่มีเมืองสักเมือง หมู่บ้านใกล้ที่สุดอยู่ห่างออกไปร้อยกว่าไมล์คิดหรือว่าเธอจะไปถึง"
หญิงสาวใช้สายตาคมกล้าเขม้นมอง.. เดินเข้าไปหาจนใกล้ กำหมัดแน่นจนเสียงดังกร๊อบ..ชกไปที่ปลายคางอีกฝ่ายเบาๆก่อนใช้เสียงที่เหมือนคาดคั้นถามว่า
"แล้วเธอมาจากไหน"
เด็กสาวยังคงยิ้ม ประสานสายตาอย่างไม่เกรงกลัว เอื้อมมือมาจับคางอีกฝ่ายเขย่าเบาๆบ้าง
"มาจากไหนไม่สำคัญหรอก แต่ถ้าเธอจะไปที่นั่น
.หนึ่งหมื่นเหรียญ"
รู้สึกการค้าขายรายนี้ไม่รู้จักจบสิ้นเลย เด็กสาวรู้สึกอยากหักคอจิ้งจอกทะเลตัวนี้จริงๆ โทษฐานค้ากำไรเกินควร ฉวยจังหวะโก่งราคาเอาเปรียบลูกค้าสาหัส
"ยังมีอีกนะ
..รู้สึกว่าเธอจะบาดเจ็บ ฉันมีสมุนไพรรักษาแผดสดแผลอักเสบ ราคาสองพันเหรียญ ค่าทำแผลอีกพันเหรียญรวมเป็นสามพันเหรียญ"
"นี่เธอคิดจะสูบเลือดฉันจนหมดตัวเลยหรือไง แม่จิ้งจอกทะเล"
เด็กสาวทำตาโตก่อนยิ้มบอก
"ที่จริงเธอควรจะดีใจด้วยซ้ำนะที่มีคนเสนอสินค้าและบริการที่ดีให้ในเวลาอย่างนี้ ทางที่ดีเธอควรรีบตัดสินใจเดี๋ยวนี้เลย
"สามพันเหรียญค่ารักษาพยาบาลบวกกับอีกหนึ่งหมื่นเหรียญค่าที่ฉันจะพาเธอไปยังที่ที่ฉันมา รวมเป็นหนึ่งหมื่นสามพันเหรียญแล้ว 'ตอนนี้' อ้อ
ถ้ายังลังเลใจเดี๋ยวฉันขึ้นราคาอีกนะ "
"ค่าของเงินนี่เปลี่ยนเร็วจริงนะ"
หญิงสาวกัดฟันพูดเด็กสาวชะโงกมองข้ามไหล่หญิงสาวย่นคิ้วอย่างสงสัย
"เอ๊ะ
รู้สึกจะมีคนมานะ แปลกจัง ถนนสายนี้ไม่มีใครมาเป็นปีแล้ว บางทีอาจเป็นลูกค้ารายใหม่"
ระหว่างภูเขาเตี้ยๆคือเนินเขาที่มีถนนตัดผ่านฝุ่น ควันตะลบคละคลุ้งพ้นเนินเขามาบอกให้ทราบว่ารถอะไรสักอย่างกำลังวิ่งตรงมายังสุดถนนสายนี้ในม่านฝุ่นควันก่อตัวเป็นกำแพงมรณะ
รถล่าสังหารค่อยๆ โผล่พ้นเนินเขาขึ้นมา
หญิงสาวกระชากแขนคู่กรณีร้องบอกเร็วปรื๋อ
"ไปจากที่นี้เดี๋ยวนี้..!!!!"
ปฏิกิริยาของเด็กสาวชาวประมงรวดเร็วทันใจเช่นกัน ไม่มีการยืนตกตะลึงเสียเวลา
ไม่มีการซักถามเหตุผลให้เสียเวลา
เธอหันตัวกลับวิ่งผมสยายนำไปก่อนโดยมีหญิงสาวกวดตามไปติดๆพวกมันคงลงไปสำรวจก้นเหวแล้วไม่พบศพ จึงไล่ล่ามาตามถนนสายนี้
เด็กสาวกระโจนข้ามโขดหินพาลูกค้าลัดเลาะไปตามริมฝั่งอย่างคล่องแคล่วเหมือนจิ้งจอกทะเลอย่างที่หญิงสาวตั้งฉายาให้ ขณะที่ชายหาด คนกลุ่มหนึ่งกรูลงมาจากรถแล้ววิ่งตรงมาพร้อมอาวุธครบมือ
หญิงสาวชำเลืองกลับไปมองด้วยหางตาพอดีเห็นภาพที่ชินตา
แสงแวบ ๆ สว่างขึ้นบนหลังคารถ
หญิงสาวกระโจนสุดแรงไปสองสามช่วงตัวทิ้งน้ำหนักกดไหล่เด็กสาวล้มลงกับพื้นตะโกนใส่หูสุดเสียง
"หมอบลง!!"
เสียงวัตถุแหวกผ่านอากาศข้างบนก่อนถล่มครืนลงที่ชายหาดห่างออกไปสิบกว่าเมตร เสียงระเบิดกึกก้องสะท้านแก้วหูตามด้วยเศษหินดินทรายและน้ำกระจายขึ้นสูงก่อนโปรยปรายลงมาใส่จนมอมแมมเลอะเทอะไปทั้งคู่
ยังดีมีโขดหินใหญ่บังเอาไว้คราวนี้เด็กสาวเป็นฝ่ายกระชากแขนลูกค้าขึ้น
"อีกหน่อยจะถึงแล้ว รีบไปเร็ว"
ไม่ต้องบอกซ้ำสอง
หญิงสาวดีดตัวลุกขึ้นวิ่งตามไปอย่างลืมเจ็บลัดเลาะตามมุมอับระหว่างโขดหินริมน้ำ
มอเตอรไซด์น้ำคันหนึ่งกำลังลอยกระเพื่อมอยู่
เด็กสาวปลดเชือกยึดออกจากเสาเหล็กที่ปักยึดกันไม่ให้คลื่นซัดพาอย่างรวดเร็วก่อนกระโดดคร่อมสตาร์ตเครื่อง
"ขึ้นมาเร็ว
!!"
ยานน้ำลำเล็ก ๆ แค่นี้จะพาเธอไปได้ขนาดไหนกัน แต่หญิงสาวไม่มีเวลาคิด กระโจนพรวดนั่งเกาะเอวคนขับช่วงแรกของการออกตัวมันช่างเชื่องช้าเนินนานเหลือเกินในความรู้สึก
จรวดสองลูกถล่มทลายลงมาใกล้ๆ สร้างคลื่นยักษ์กระแทกใส่จนจักรยานยนต์น้ำเอียงไปมาแทบพลิกคว่ำ แต่จิ้งจอกทะเลน้อยก็แสดงถึงความชำนาญยอดเยี่ยมทั้งที่มีผู้โดยสารถ่วงอยู่อีกคนหนึ่งโฉบซ้ายป่ายขวาตัดแนวคลื่นมุ่งออกสู่ทะเลจนได้
"พวกมันคงไม่ตามมาแล้วล่ะ"
เด็กสาวหันไปมองชายฝั่งอยู่ลิบๆลำน้ำที่พุ่งสูงข้างหลังคงเป็นการยิงอย่างระบายอารมณ์ของผู้ไล่ล่ามากกว่าการหวังผล เด็กสาวควักแว่นตากันลมจากช่องเก็บแถวหน้าปัดยื่นให้อีกฝ่าย
"ขอบใจ""
ห้าร้อยเหรียญนะ"
"เลิกบ้าเสียที"
หญิงสาวตวาดแว๊ดเต็มรูหู แทบจะจับร่างเล็กๆข้างหน้าโยนทิ้งทะเล อีกฝ่ายหัวเราะพลางบอก
"งั้นยกให้ฟรีๆก็ได้เป็นการคืนกำไรแก่ลูกค้า..เหลือหนึ่งหมื่นสามพันเหรียญเหมือนเดิม"
"คืนกำไรบ้าน่ะสิ"
ลูกค้าบ่นอุบ จิ้งจอกทะเลหัวเราะเสียงใสบิดคันเร่งเต็มที่พายานยนต์คู่ชีพฉีกผิวสีเงินของน้ำไปอย่างรวดเร็ว ท่าทางเหมือนคนที่ไม่เพิ่งความเป็นความตายมาแม้แต่น้อย
.
"เธอชื่อไร..."
จิ้กจอกทะเลหันมาถามท่ามกลางเสียงลมพัดจนฟังแทบไม่รู้เรื่อง
"เรียกฉันว่าไมก็แล้วกัน"
"ไม.."
"อื่อ"
"สงสัยเป็นมือสังหารคนนั้นนั่นเอง"
"เธอรู้จักเหรอ"
"ทำไมจะไม่รู้"
แล้วไม่กลัวฉันเหรอ"
จิ้งจอกทะเลหัวเราะเสียงใสพลางบอก
"ถ้ากลัวไม่มาหาหรอก"
ไม่มาหา......เอาล่ะ อย่างน้อยจิ้งจอกทะเลน้อยตัวนี้ก็เผลอบอกออกมาแล้วว่า การพบกันครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญเลยแม้แต่น้อย
Create Date : 12 กุมภาพันธ์ 2548 |
|
32 comments |
Last Update : 14 กุมภาพันธ์ 2548 11:56:49 น. |
Counter : 1725 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: noOne (noOne ) 14 กุมภาพันธ์ 2548 2:06:56 น. |
|
|
|
| |
โดย: พรายทราย 26 กุมภาพันธ์ 2548 21:07:37 น. |
|
|
|
| |
โดย: jaa_aey 3 มีนาคม 2548 20:48:58 น. |
|
|
|
| |
โดย: Snow falling up IP: 210.246.162.157 3 เมษายน 2548 18:06:22 น. |
|
|
|
| |
โดย: พจนารถ๓๒๒ IP: 58.9.189.16 12 ธันวาคม 2551 6:22:35 น. |
|
|
|
| |
โดย: โสมรัศมี 27 ธันวาคม 2551 10:53:47 น. |
|
|
|
| |
โดย: GTW IP: 58.8.156.222 28 มกราคม 2552 18:06:17 น. |
|
|
|
| |
โดย: มนต้นไม้ (mon_m&m ) 1 กุมภาพันธ์ 2552 20:46:57 น. |
|
|
|
| |
โดย: พรายทราย 14 กุมภาพันธ์ 2552 11:42:46 น. |
|
|
|
| |
โดย: พรายทราย 24 กุมภาพันธ์ 2552 22:04:41 น. |
|
|
|
| |
โดย: เขมปัณณ์ IP: 116.58.231.242 1 มีนาคม 2552 2:40:19 น. |
|
|
|
| |
โดย: minuit 14 พฤษภาคม 2552 17:11:40 น. |
|
|
|
| |
โดย: GTW IP: 58.8.157.135 7 พฤศจิกายน 2552 0:47:45 น. |
|
|
|
| |
โดย: อมิธีสท์ 25 ธันวาคม 2552 13:14:12 น. |
|
|
|
| |
โดย: dfdfhgdh IP: 27.130.195.115 10 มกราคม 2554 10:53:56 น. |
|
|
|
| |
โดย: Setakan 14 กุมภาพันธ์ 2554 14:33:08 น. |
|
|
|
| |
โดย: Luktarn IP: 124.122.50.60 31 พฤษภาคม 2554 14:12:18 น. |
|
|
|
| |
โดย: GTW 17 พฤศจิกายน 2554 10:45:00 น. |
|
|
|
| |
โดย: นุ้ย (นารีจำศีล ) 31 ธันวาคม 2554 17:18:41 น. |
|
|
|
| |
โดย: GTW 18 เมษายน 2555 7:00:23 น. |
|
|
|
| |
โดย: มาโซคิส 13 พฤศจิกายน 2555 20:50:45 น. |
|
|
|
|
|
|
|