YOU are not afraid. You think YOU are afraid. ~Shantimayi~

ฟังสิฟัง... ในความเงียบ

ใครที่ต้องใช้บริการรถไฟฟ้าก็คงจะรู้ว่าบนรถนั้นมีจอมอนิเตอร์ติดอยู่ตู้ละ 2 อัน และสิ่งที่ปรากฎทางหน้าจอก็จะเป็นพวกโฆษณาต่างๆ ขำบ้าง ล้ำบ้าง เชยบ้าง บางทีก็เป็นพวกมิวสิกวิดีโอ หรือตัวอย่างภาพยนตร์มาให้ชมสับเปลี่ยนกันไป จำไม่ค่อยได้เหมือนกัน ว่าก่อนหน้าที่จะมีจอมอนิเตอร์นี้ขึ้นมา บรรยากาศบนรถไฟฟ้ามันเป็นอย่างไร มันจะเงียบเชียบและผู้คนก็ได้แต่มองหน้ากันเพราะไม่มีอะไรจะให้มองหรือเปล่า

จนกระทั่งเมื่อเช้านี้บนรถไฟฟ้า คนแน่นขนัดเช่นปกติ จอมอนิเตอร์ยังคงส่งเสียงเจื้อยแจ้ว และจ้องมองผู้คนที่กำลังจ้องมองมันอยู่เช่นกัน

แต่แล้ว.. จู่ๆหน้าจอก็ดับวูบลง เสียงทั้งหมดขาดหายไปในทันที คนรถหันมองหน้ากันด้วยสีหน้าแปลกใจ ฉันเห็นภาพใครคนหนึ่งที่กำลังนั่งแหงนหน้ามองหน้าจออยู่ ลดสายตาลงมาปะทะกับลูกตาอีกคู่หนึ่งของคนที่กำลังหอบหิ้วหนังสือกองโตตรงหน้าเข้าอย่างจัง จึงแก้เก้อด้วยการเสนอตัวช่วยถือของให้ ต่อมาไม่นานนักเสียงโทรศัพท์ของใครอีกคนก็ดังขึ้น เจ้าตัวสะดุ้งเล็กน้อยแล้วรีบกดรับอย่างรวดเร็วด้วยอาการเหมือนเวลาเข้าห้องประชุมแล้วลืมปิดเสียงโทรศัพท์ แล้วพยายามคุยโทรศัพท์เสียงเบาๆ ท่ามกลางความเงียบ เหมือนกับกลัวจะรบกวนเพื่อนร่วมทาง

ฉันเพิ่งรู้สึกถึงคำว่า ..เงียบ..
และฉันก็เพิ่งจะรู้สึกว่า ฉันได้ตื่นขึ้น และ 'เห็น' ภาพของผู้คนร่วมทางเป็นครั้งแรก

ท่ามกลางความวุ่นวายและเสียงต่างๆรอบๆตัวอันเป็นเหมือนยากล่อมประสาทนั้น จริงหรือไม่ที่เราทำตัวเอง และความรัก ความรู้สึกบางอย่างหายไป พร้อมๆกับที่เราต่างก็หดกลับเข้าไปอยู่ในตัวเอง เหมือนเต่าหดกลับเข้าไปในกระดอง ในรถไฟฟ้าที่เงียบไปชั่วครู่นั้น มันกลับมีสัญญาณแห่งชีวิตเกิดขึ้น และแสดงออกผ่านความมีน้ำใจ และความเกรงใจออกมาจนกระทั่งฉันสัมผัสมันได้

ดูเหมือนว่า เรากำลังทำความเงียบหายไป และทำชีวิตหายไปด้วยกัน

ถ้างั้น เราลองนั่งเงียบๆดูสักหน่อยดีไหม เผื่อว่าชีวิตที่จืดชืดแห้งแล้งมันจะสดใสขึ้นมาบ้าง




 

Create Date : 12 กันยายน 2551
11 comments
Last Update : 12 กันยายน 2551 6:48:54 น.
Counter : 616 Pageviews.

 

ทุกวันนี้
เดินไปไหน
มีแต่เสียงรบกวน


นอกจาก
รบกวนหู
ยังรบกวนหัวใจด้วยนะครับ





สวัสดียามเช้าครับ

ชอบเรื่องที่ครูเสี้ยวเขียนนะครับ

เกือบแอบเดาว่าพอจอดับและติดขึ้นมาอีกครั้ง
อาจเป็นภาพผู้สมัครเลือกตั้งผู้ว่ากรุงเทพฯ
โผล่ขึ้นมาให้เซ็งเล่นน่ะครับ 55555


 

โดย: ก๋าคุง (กะว่าก๋า ) 12 กันยายน 2551 8:18:51 น.  

 

วันนี้พยายาม"เงียบ" ตั้งแต่เช้าแล้วค่ะ

 

โดย: coji 12 กันยายน 2551 15:21:41 น.  

 

บางครั้ง การอยู่ในความเงียบ มันก็ทำให้เราเข้าใจความคิดตัวเอง และปลดตัวเองจากพันธนาการภายนอกได้เหมือนกันนะคะ

ขอบคุณสำหรับมุมมองที่นำมาฝากกันค่ะ

 

โดย: แค่คนหนึ่งคน 12 กันยายน 2551 16:18:00 น.  

 

:)

 

โดย: KS IP: 125.25.113.98 13 กันยายน 2551 0:10:14 น.  

 

พอเสียงจอแจเงียบลง
เสียงจากหัวใจก็ดังขี้น

เรื่องที่เขียนพอคิดเป็นภาพแล้วสวยจังค่ะ

 

โดย: SevenDaffodils 13 กันยายน 2551 8:28:20 น.  

 

รู้สึกอย่างเดียวกันค่ะ บรรยากาศในรถไฟฟ้าเดี๋ยวนี้ต่างไปจากเมื่อก่อนมากมาย...บางคนคุยโทรศัพท์มือถือ บางคนฟังเพลงจากเครื่องเล่น mp3 คนที่ไม่มีกิจกรรมส่วนตัวทำ ก็นั่งมองจอโทรทัศน์ น้อยคนที่จะสนใจคนรอบข้างตนเอง... เป็นอย่างนั้นจริงๆค่ะ

ป.ล. ขอแอดเป็นเพื่อนเลยนะคะ

 

โดย: discipula 13 กันยายน 2551 16:27:55 น.  

 

ถ้าเงียบแต่พอดีก็พอได้
แต่ถ้าเงียบสนิทนาน ๆ
แม้แต่ชีวิตและจิตใจก็โดนกัดกร่อน

 

โดย: รายารีย์ IP: 125.25.38.159 13 กันยายน 2551 22:55:22 น.  

 

อ๋อ พี่ตั้งใจให้เป็นอย่างนั้นเองล่ะค่ะ

ภาพเหงาๆเลยต้องใส่เพลงเศร้าๆลงไป

ขอบคุณนะคะที่ชอบ

 

โดย: t_karnya 14 กันยายน 2551 4:08:05 น.  

 

ใครเอ่ย? จัดแสดงแกลเลอรี่..ด้วย




 

โดย: t_karnya 14 กันยายน 2551 15:33:36 น.  

 

แนะนำให้ไปขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดิน ที่นั่นยังไม่มีจอมอนิเตอร์ทั้งในและนอกตัวรถไฟฟ้า

บรรยากาศคล้ายเดิม คล้ายบนรถไฟฟ้า คนก็ยังคงไม่สนใจกันอย่างที่เป็น

เท่าที่เราสังเกต หูฟังต่างหากที่บั่นทอนความเงียบระหว่างมนุษย์
เคยนั่งนับในรถไฟฟ้าโบกี้เดียว รวมได้ 30 คน

เสียงเพลงจากเครื่องเล่นเล็กจิ๋วนั่นขโมยเสียงแห่งสังคม (โอเค อาจจะไม่น่าฟังนัก) ไปจนไม่เหลือช่องว่างระหว่างแทรค

หรือไม่ก็โทรศัพท์มือถือ เสียงปลายสายขโมยเสียงรอบข้างไป ไม่น่าขุ่นเคืองใจเท่ากับ Mp3 player mode ...

สายตามองจอมอนิเตอร์
หูฟังเสียงจากโทรศัพท์

ใจอยู่ตรงไหนกันก็ไม่รู้

มีอยู่วันนึง เรานั่งรถกลับมาบ้าน
ต้องนั่งมอเตอร์ไซค์ต่อ
บอกพี่วินว่าอะไรรู้อยู่แก่ใจ ไม่ได้เข้าหูสักนิด เพราะถูกเพลงจากหูฟังกลบหมด
เราถูกบังเสียงจากทุกแห่ง
แม้แต่เสียงจากตัวเอง

หลังจากวันนั้น ก็ไม่มองจอมอนิเตอร์ และไม่ฟัง mp3 ขณะเดินเท้าอยู่ที่ไหนอีกต่อไป

 

โดย: Dinner31 14 กันยายน 2551 20:15:37 น.  

 

บางที เราก็อยากอยู่คนเดียวเงียบๆ
แต่ในบางที เราก็ไม่อยากอยู่คนเดียว..

ก็คงจะต้องมีทั้งสองอย่าง ผสมผสานกันไปในชีวิตล่ะเนาะ..

 

โดย: nods 14 กันยายน 2551 20:35:44 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


gluhp
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 16 คน [?]




Here...
I'm on the rooftop

Between...
pavement and stars.

Here's...
hardly no day
nor hardly no night

There're things...
half in shadow
and half way in light

It's where...
I gather my thoughts
and grow my dreams

which...
are scattered
all around

In my words,
my songs,
my dance.

คน นั่งจ้องชีวิต
Group Blog
 
<<
กันยายน 2551
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
12 กันยายน 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add gluhp's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.