YOU are not afraid. You think YOU are afraid. ~Shantimayi~
เมื่อฉันหลงรัก....รักวิชาปรัชญา....

Man was born free, and everywhere he is in chains.

มนุษย์เกิดมาพร้อมกับจิตวิญญาณเสรี
และในทุกหนทุกแห่งนั้น
ก็ถูกรัดรึงไว้ด้วยพันธนาการ
Rousseau เขาว่าไว้อย่างนั้น
ทำไม...

chains ... พันธนาการ
คือสังคม วัฒนธรรม สายตาชาวบ้าน
อย่างนั้นรึปล่า
หรือว่าในอีกแง่หนึ่ง
มันคือ ความรัก ความแคร์ ความผูกพัน
คือการระวังความรู้สึกคนอื่น

Rousseau บอกว่า พวกนี้มันตามมาทีหลัง
แต่เดิม มนุษย์ในสภาพธรรมชาติไม่ได้แคร์ใคร
ครอบครัวไม่มี สังคมไม่มี รัฐไม่มี
มันเป็นสิ่งประดิษฐ์ทั้งนั้นแหละ
นั่นคือ Roursseau เชื่อว่า
ในแรกเริ่ม มนุษย์ไม่ใช่สัตว์สังคม

Rousseau เรียกคนใน สภาพธรรมชาติว่า
...Noble Savage....คนป่าผู้ทรงเกียรติ
เพราะเขาอยู่เยี่ยงสัตว์ป่า
หากเขาไม่ได้ต้องการมากมาย
เขาจึงไม่แก่งแย่งหรือคิดร้ายกับใคร
ไม่เบียดเบียนกระทั่งสัตว์ป่า
เพราะเขาไม่คิดจะไปกินมันเพื่อการดำรงชีวิต
มนุษย์เหมือนสัตว์ป่าที่อยู่โดดๆ
ไม่ต้องพึ่งใคร ไม่ต้องร่วมมือกับใคร
เพราะทุกอย่างในการดำรงชีวิตมีพร้อมแล้วในธรรมชาติ

เมื่อมนุษย์ไม่คบ ไม่ยุ่งกับใคร มนุษย์จึงมีเสรีภาพ 100%
ทำอะไรได้ตามเสรี ไม่ต้องห่วงอะไร ไม่ต้องกลัวใคร
และเมื่อทุกคนต่างมีเสรีภาพ 100% ทุกคนจึงเสมอภาคกัน


Men are all equal because they are all free

แต่ถ้ามนุษย์เป็นสุข ณ จุดนั้นแล้ว
แล้ว....อะไรทำให้เกิดสังคม
อะไรทำให้มนุษย์มาอยู่รวมกัน
ทั้งๆที่ความสัมพันธ์กับคนอื่นนั้นทำให้เสรีภาพลดลง
พอถึงตรงนี้ Rousseau พูดถึงการเกิดขึ้นของครอบครัว
มัน....ประทับใจ....นักเรียนคนนี้มากๆ

แต่เดิม...
มนุษย์เหมือนสัตว์ป่า ที่มีฤดูผสมพันธุ์
และเมื่อมนุษย์ชายหญิงเจอกันในฤดูผสมพันธุ์
การตอบสนองความต้องการทางธรรมชาติจึงเกิดขึ้น
เสร็จกิจกามก็ต่างคนต่างไป

ความผูกพันที่ชายหญิงมีต่อกัน
หลังจากตอบสนองความต้องการทางธรรมชาติไปแล้วนั้น
ไม่ต่างจากความผูกพันกับ apple ที่เขาเพิ่งกินเข้าไป
ที่มีผลในการตอบสนองความต้องการทางธรรมชาติเหมือนกัน
กินเสร็จก็จบ เสร็จกิจก็ไป
ใครว่าครอบครัวจะต้องเกิดขึ้นเพราะกิจกาม
ลูกที่อาจเกิดขึ้น ใช่ว่าจะเป็นโซ่คล้องใจพ่อแม่ได้

แน่ละ Rousseau โดนด่าเช็ด
ยิ่งถ้ามาพูดในสังคมไทยด้วยล่ะก็
แต่นั่น...
ก็ Rousseau เขากำลังพูดถึงในป่า ในสภาวะดั้งเดิม
ไม่ได้พูดถึงในสังคมศิวิไลซ์เช่นทุกวันนี้

(ยาวไปแล้วรึเปล่า ....คงไม่นะ)

หากเหตุบังเอิญก็มีอันเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา
เมื่อชายหญิงจำต้องมาอยู่ด้วยกัน
นานเกินความจำเป็นที่ธรรมชาติของร่างกายเรียกร้อง
เป็นต้นว่า เมื่อเกิดต้องมาติดอยู่ในถ้ำในฤดูผสมพันธุ์พอดี
ท่ามกลางพายุสามวันสามคืน ฝนตกหนักตลอดเวลา
เสร็จกิจกามแล้ว ก็ออกไปไหนไม่ได้
ทำอะไรก็ไม่ได้ ไปหาของกินก็ไม่ได้

เมื่อมันเกินเวลา เมื่ออยู่ด้วยกันนานเกิน
มนุษย์พัฒนาความรู้สึกอย่างหนึ่ง
ที่ Rousseau เรียกว่า sentiment ได้
สามวันสามคืนในถ้ำที่อยู่ด้วยกันนั้น
หากเคมีของชายหญิงตรงกัน มันจะเกิดอะไรบางอย่าง
ซึ่ง Rousseau เรียกความรู้สึกนี้ว่า
....the sweetest sentiment....

จนฝนซา ฟ้าใส ถึงเวลาออกจากถ้ำ
ชายจะไปทาง หญิงจะไปทาง เหมือนที่เคยทำๆมา
หาก sweetest sentimental ที่เกิดขึ้นโดยไม่ตั้งใจ
เมื่อต้องอยู่กับ "คู่นอน" เกินความต้องการทางธรรมชาติ

และนี่คือ "การเลือก"
เลือกว่า...จะกลับไปหา "เสรีภาพ" ของคุณ
หรือว่า...จะอยู่กับคนที่ร่วมพัฒนา sentiment ดังกล่าว
มนุษย์มี "เสรีภาพ" ที่จะเลือก ต่างๆกันไป
ต่างคนต่างใจ บ้างอยู่บ้างไป ธรรมชาติไม่บังคับ
เพราะมนุษย์ไม่มีเงื่อนไขใดๆเลย ที่ต้องอยู่ด้วยกัน
นอกจาก sentiment ที่เกิดขึ้นโดยบังเอิญ เท่านั้นเอง

ถึงตรงนี้ ครอบครัว และความรัก
กลายเป็นสิ่งที่มีคุณค่ามากที่สุด
เป็นประจักษ์พยานในเสรีภาพของมนุษย์
เพราะมันเกิดจากการที่มนุษย์ใช้เจตน์จำนงเสรี
ในการเลือกมาอยู่ด้วยกัน
เป็นความสมัครใจ อันเกิดจากความรู้สึกล้วนๆ
ไม่ใช่เงื่อนไขบังคับใดๆที่ทำให้คนสองคนต้องมาอยู่ด้วยกัน

....เธอไม่ใช่เงื่อนไขบังคับที่ทำให้ฉันมีชีวิตอยู่
เราไม่จำเป็นต้องเลือกกันและกันก็ได้
ถึงฉันจะมีเสรีภาพเต็ม 100% ที่จะไป
และก็รู้ดีว่า การเลือกที่จะอยู่ด้วยกันนั้น
มันจะทำให้เสรีภาพของเราแต่ละคนลดลง
เมื่อมือของเราจับกัน
และฉันอยากจะไปทางขวา
แต่เธออยากจะไปทางซ้าย
ต้องมีใครสักคนยอม
นั่นคือความอิสระเสรีที่เราจะเสียไป
แต่เมื่อลองเทียบกับความรู้สึกที่เกิดขึ้นแล้ว
That sweetest sentimental
Oh...it's so beautiful...
then I know...
I'd love to be with you...
.
ใช่ ฉันก็เลือกที่จะอยู่กับเธอ....


Freedom Allow Me to be In Love with You

ทั้งหมดนี้ ไม่มีอะไรเบื้องหน้าเบื้องหลัง
เป็นเพียงความซาบซึ้งกับบทเรียนในห้องเรียน
เป็นคำตอบให้กับคำถามหลายๆอย่าง
ที่เคยถามอยู่ในใจตัวเองเงียบๆ แล้วไม่เคยได้รับคำตอบ
ขอบคุณมากมาย ...Merci beaucoup, Monsieur.





Create Date : 13 กันยายน 2550
Last Update : 14 มกราคม 2551 9:30:21 น. 17 comments
Counter : 981 Pageviews.

 
it is so nice.

thank you for putting this here...


โดย: KS IP: 125.24.216.94 วันที่: 13 กันยายน 2550 เวลา:20:14:10 น.  

 
หวัดดีจ๊ะ แวะมาเยี่ยมจ๊ะ



โดย: orcahappy (orcahappy ) วันที่: 13 กันยายน 2550 เวลา:20:59:52 น.  

 
ตอนต้นเรต"ท"
อ่านไปซักพัก ให้"ฉ"
อ่านจนจบ "น" คือ ไปนอนดีกว่า


โดย: เพราะผมไม่มี Time Machine วันที่: 14 กันยายน 2550 เวลา:1:38:05 น.  

 
แวะมาทักทายค่ะ ^___^


โดย: NuiSmiLe IP: 125.25.232.65 วันที่: 14 กันยายน 2550 เวลา:21:11:37 น.  

 
ขอบคุณนะคะ
ได้ความรู้เยอะแยะเลยแฮะ


โดย: เจ้าเหมียวน้อยจอมยุ่ง IP: 84.233.227.59 วันที่: 15 กันยายน 2550 เวลา:13:15:14 น.  

 


โดย: กะว่าก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 15 กันยายน 2550 เวลา:16:05:36 น.  

 
อ่านตอน..เมาขี้ตา
เลย งงๆๆ..อิอิ


โดย: -นู๋จอย- (LomaJoy ) วันที่: 16 กันยายน 2550 เวลา:9:29:58 น.  

 
แวะมาทักทาย ครับ


โดย: boatboat วันที่: 16 กันยายน 2550 เวลา:9:47:38 น.  

 
อ่านยังไงก็อ่านไม่ทันครับ
วันนี้ผมยังอ่านไปได้ 2 เล่ม

วันนี้หยุด
ได้ไปเที่ยวไหนรึเปล่าครับ

ชื่อคุณเท่ดีครับ
ชื่อ เสี้ยว ...


โดย: กะว่าก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 16 กันยายน 2550 เวลา:16:27:57 น.  

 
สวัสดีค่ะนักปราชญ์สาว
ผู้ปาดมาเยี่ยมบ้านเราแต่เช้า อิอิ
emoemo


โดย: หอมกร วันที่: 17 กันยายน 2550 เวลา:9:03:33 น.  

 
ขอบคุณนะค่ะที่แวะไปเที่ยวที่บล็อก

ขอให้มีความสุขมากๆค่ะวันนี้


โดย: โอน่าจอมซ่าส์ วันที่: 17 กันยายน 2550 เวลา:9:44:40 น.  

 


สวัสดีครับ...

มาอ่านทฤษฎี สัมพันธภาพ(....รึป่าว)... ว่าด้วยความสัมพันธ์ ของมนุษย์

สรรพสิ่งล้วนว่างเปล่า...ล้วนแล้วแต่ สมมุติขึ้น....ทั้งนั้นครับ

มีความสุข นะครับ


โดย: เซียน_กีตาร์ วันที่: 17 กันยายน 2550 เวลา:9:51:29 น.  

 
มาอ่านเรื่องรุสโซและความสัมพันธ์ค่ะ เหะๆ


โดย: แพนด้ามหาภัย วันที่: 17 กันยายน 2550 เวลา:12:23:47 น.  

 
หวัดดีค่ะ แวะมาทักทายค่ะ


โดย: รักตาภา วันที่: 17 กันยายน 2550 เวลา:16:53:19 น.  

 
หวัดดีค่ะ ^^
แวะมาอ่าน


โดย: Sand Demon วันที่: 18 กันยายน 2550 เวลา:8:55:04 น.  

 
TYVM ด้วย

เป็นการย้ำให้เรารู้ว่าเรื่องที่เราจะเขียนมันมีคนพูดถึงมาก่อนแล้วไม่รู้กี่ครั้ง

แต่ประเด็นคงไม่ใช่ว่าใครพูดก่อนแต่เป็นเรื่องที่ว่า ความคิดที่ว่ามีอยู่นั้น มันยังคงมีชีวิตอยู่อย่างไร มั้งนะ


โดย: ปุ๊กกู่ IP: 58.8.204.131 วันที่: 24 เมษายน 2551 เวลา:8:02:39 น.  

 
ขอบคุณนะค่ะ

ได้ข้อมูลดีๆเยอะเรย(^/|\\^)


โดย: เด็กหญิงตัวอ้วน IP: 58.8.27.186 วันที่: 1 กันยายน 2551 เวลา:18:48:56 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

gluhp
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 16 คน [?]




Here...
I'm on the rooftop

Between...
pavement and stars.

Here's...
hardly no day
nor hardly no night

There're things...
half in shadow
and half way in light

It's where...
I gather my thoughts
and grow my dreams

which...
are scattered
all around

In my words,
my songs,
my dance.

คน นั่งจ้องชีวิต
Group Blog
 
<<
กันยายน 2550
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
13 กันยายน 2550
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add gluhp's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.