Honda City 2020 turbo โฉมใหม่ล่าสุด


Honda City 2020 โฉมใหม่ เปิดตัวครั้งแรกในโลก เครื่องยนต์ใหม่ 3 สูบ 1.0 ลิตร เทอร์โบ 122 แรงม้า ราคาเริ่มต้น 5.795 แสนบาทถึง 7.39 แสนบาท
Honda City 2020 โฉมใหม่  เจนเนอเรชั่นที่ 5 มาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นรูปลักษณ์ใหม่ สปอร์ต และเส้นสายชัดเจนมากขึ้น 
โดยมีการลดขนาดของเครื่องยนต์จากเดิมเบนซิน 1.5 ลิตร 4 สูบ เป็น 1.0 ลิตร 3 สูบแทน เพื่อให้เข้าโครงการ Eco Car Phase 2

สำหรับรูปลักษณ์ภายนอกของHonda City 2020มีความสปอร์ตและสง่างามมากขึ้น ไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED และไฟท้ายแบบ LED 
กระจังหน้าแบบโครเมียม เสาอากาศแบบครีบฉลาม และล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ขนาด 15 นิ้ว

ภายในห้องโดยสารของCity 2020ได้รับการออกแบบพื้นที่ให้สอดคล้องกับสรีระสำหรับทุกที่นั่งทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร มาพร้อมความหรูหราและสวยงามยิ่งขึ้นในโทนสีดำ 
หรือเบาะหนังและภายในสีทูโทน ไอเวอรี่/ดำ (เฉพาะรุ่น SV) คอนโซลหน้าแบบ Piano Black  มือจับเปิดประตูด้านในตกแต่งโครเมียม

มาตรวัดเรืองแสงพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch 
รองรับการเชื่อมต่อ  Apple CarPlay และระบบสั่งการด้วยเสียง SIRI พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชัน 
พร้อมปุ่มควบคุมระบบเครื่องเสียงและปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์ ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ เป็นต้น

Honda City รุ่นใหม่ยังมาพร้อมชุดแต่งสไตล์สปอร์ตแบบ RS รอบคัน โดดเด่นด้วยกระจังหน้าแบบ Gloss Black และสัญลักษณ์ RS 
มาพร้อมกันชนหน้าและกระจังหน้าสไตล์สปอร์ต ไฟหน้าดีไซน์ใหม่แบบ LED พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED ไฟตัดหมอกแบบ LED 
กระจกมองข้างสีดำแบบสปอร์ตพร้อมไฟเลี้ยวในตัว สปอยเลอร์หลังแบบ Gloss Black พร้อมสัญลักษณ์ RS และล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตขนาด 16 นิ้ว

ภายในห้องโดยสารสะท้อนความสปอร์ตยิ่งขึ้นด้วยเบาะหนังกลับดีไซน์ใหม่ตกแต่งด้วยด้ายสีแดง 
พร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ พร้อมมาตรวัดเรืองแสงสีแดง และดึงดูดทุกสายตาด้วยสีภายนอกใหม่ สีแดงอิกไนต์ (Ignite Red) เฉพาะรุ่น RS

มาดูกันที่สเปกเครื่องยนต์กันบ้าง บล็อกเบนซิน 3 สูบ ขนาด 1.0 ลิตร DOHC VTEC TURBO 12 วาล์ว 
มาพร้อมเทอร์โบชาร์จ มอบพละกำลังสูงสุด 122 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 173 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 – 4,500 รอบต่อนาที 
ให้สมรรถนะการขับขี่ที่เหนือกว่าเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร (เมื่อเทียบกับรุ่นเดิม) และแรงบิดเทียบเท่าเครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร

ผสานการทำงานกับระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง (CVT) มีอัตราความประหยัดน้ำมันที่ 23.8 กิโลเมตร/ลิตร 
มีระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัยแบบ 7 สปีด สะดวกสบายด้วยระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ 
โดยเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมตามมาตรฐานไอเสียยูโร 5 (EURO 5) ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ 99 กรัม/กิโลเมตร และสามารถรองรับน้ำมัน E20 ได้อีกด้วย

ระบบความปลอดภัยครบครันด้วยโครงสร้างตัวถังนิรภัย G-Force Control หรือ G-CON ปกป้องห้องโดยสารจากการชนรอบทิศทางด้วยถุงลม 6 ตำแหน่ง ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS)  พร้อมระบบกระจายแรงเบรก (EBD)  ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (Vehicle Stability Assist – VSA) ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (Hill Start Assist – HSA) และกล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมองได้ 3 ระดับ (Multi-angle Rearview Camera)

ตัวถังภายนอกมีให้เลือกทั้งหมด 6 สี ได้แก่ สีใหม่ 
สีแดงอิกไนต์ (เมทัลลิก) เฉพาะรุ่น RS 
สีขาวแพลทินัม (มุก) เฉพาะรุ่น RS และรุ่น SV 
สีดำคริสตัล (มุก) สีเงินลูนาร์ (เมทัลลิก) 
สีเทาโมเดิร์นสตีล (เมทัลลิก) 
และสีขาวทาฟเฟต้า เฉพาะรุ่น V และรุ่น S

Honda City ใหม่ ออกจำหน่ายทั้งหมด 4 รุ่น โดยมีราคาดังนี้

รุ่น RS ราคา 7.39 แสนบาท
รุ่น SV ราคา 6.65 แสนบาท
รุ่น V ราคา 6.09 แสนบาท
รุ่น S ราคา 5.795 แสนบาท



Create Date : 26 พฤศจิกายน 2562
Last Update : 26 พฤศจิกายน 2562 1:43:23 น.
Counter : 1177 Pageviews.

1 comments
  
https://ttp2900.wixsite.com/liferoad/blog แว่นตากันแสงสีฟ้าราคาถูก
โดย: สมาชิกหมายเลข 5591001 วันที่: 26 พฤศจิกายน 2562 เวลา:13:18:31 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

dragbike2002
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



สวัสดีครับ
ขอบคุณที่เข้ามาดูblogครับ




พฤศจิกายน 2562

 
 
 
 
 
1
2
3
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
21
22
23
24
27
28
29
30
 
All Blog