deeplove
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]




Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2555
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
21 กรกฏาคม 2555
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add deeplove's blog to your web]
Links
 

 

สุข หรือ ทุกข์ อยู่ที่ตัวเรานี่ล่ะ...



ผ่านมาอีก 1 อาทิตย์ที่เฝ้าถามตัวเองว่าคิดถูกหรือผิดที่ตัดสินใจไม่ลาออกจากงาน ก็เพราะก่อนกำหนดลาออกงานยุ่งงานเยอะไม่มีเวลาคิดอะไร ที่สำคัญช่วงนั้นเป็นช่วงที่มีความสุข แต่พอพ้นกำหนด งานยังยุ่งเหมือนเดิมแต่ความทุกข์เดิมๆ ก็มาซ้ำเติมให้คิดหวนกลับไปถึงเรื่องลาออกน่าจะเป็นหนทางดีกว่าแต่ก็หมดเวลาแล้ว...อดเลยเรา...555555...คงต้องทนอยู่กับความสุขและความทุกข์กับการทำงานจนกว่าจะถึงเวลาเค้าให้ออกซะละมั๊ง...ก็ให้เผอิญมาเจอธรรมะธรรมทาน เรื่อง สุขทุกข์ของเราฝากไว้ที่ใคร เป็นของ The Duang แห่ง A THING BOOK ที่เวป teenee.com อยู่ในโครงการ "ธรรมะธรรมทาน เพื่อสังคมปล่อยวาง" มีหลายตอนด้วยกัน เช่น "ปล่อยวางยังไงธรรมะ" "จุดเทียนยังไงให้ชีวิต" "ทุกข์-สุขยังไงในใจเรา" "รู้-ละยังไงในเวลาชีวิต" "คิดยังไงไม่ให้ทุกข์" แค่ชื่อก็น่าอ่านแล้วค่ะหากใครสนใจก็หามาอ่านกันได้ในเวป หรือสนใจจะสั่งซื้อมาเก็บไว้ก็ติดต่อได้ที่สำนักพิมพ์นะคะ เล่มละ 8 บาทเองอ่านแล้วทำให้คนอ่านได้ข้อคิดเยอะแยะเลยค่ะนั่น...อย่างเรื่อง "สุขทุกข์ของเราฝากไว้ที่ใคร" ที่นำมาลงก็ทำให้ จขบ. เห็นด้วยอย่างแรงว่า ที่เราทุกข์ก็เพราะเราไปยึดติดคนอื่นมาไว้ที่ใจเราเหมือนเรามีชีวิตแบบฝากความทุกข์และความสุขที่คนอื่น..พออ่านจบก็ต้องพยักหน้าอย่างแรง..มันเป็นเช่นนั้นจริงๆ..ต่อไปเราต้องหัดปล่อยวางให้มากกว่านี้ อย่าให้ใครมาทำให้เราทุกข์ได้และความสุขที่ได้ก็เพราะเราสุขไม่ใช่เพราะคนอื่นทำให้เราสุข...ขอบคุณนะคะสำหรับภาพบทเขียนบทความดีๆ แบบนี้...











































การอยู่ร่วมกันในที่ทำงานก็เป็นอีกกรณีหนึ่งที่ต้องระมัดระวัง อย่างบางคนชอบดูทีวีเพื่อดูข่าว บางคนชอบทำงานไปนั่งฟังเพลงไป บางคนชอบดื่มชากาแฟ ในระหว่างงาน ก็อาจมีบางคนไม่ชอบในสิ่งที่คนอื่นทำและเป็น การอยู่ร่วมกันจึงต้องระวังตนเอง อาจทำให้เครียดบ้างหากเจอในสิ่งที่ไม่ชอบ หรือคนอื่นอาจต้องทนในสิ่งที่เราทำ อย่าง จขบ. เป็นคนไม่ทานกาแฟ แต่ก็ทานได้ในบางครั้ง บางโอกาส ชอบรสชาติกาแฟแบบหวานและมัน ถ้าได้กาแฟเย็นยิ่งโปรดปราน กลิ่นกาแฟโดยทั่วไปก็หอมดี แต่กาแฟบางกลิ่นบางยี่ห้อ มีกลิ่นเฉพาะตนเองโดยเฉพาะกาแฟที่ดูแลสุขภาพบางยี่ห้อ ที่มีกลิ่นทำให้ จขบ.วิงเวียน แทบทุกครั้งที่ต้องสูดดม แต่ทำไงได้ในเมื่อคนที่กินเค้าคิดว่าหอมและดื่มเพื่อดูแลสุขภาพกายตนเอง เราก็ต้องทนเพื่อการอยู่ร่วมเพราะหากเหม็นนักก็ลุกหนีไปก่อนแล้วค่อยกลับมาเมื่อเค้าดื่มหมดแล้ว..หรือไม่ก็ต้องฝึกตัวเองให้ทนกับกลิ่นนั้นจนกว่าคนที่ดื่มจะเลิกไปเอง...55555...เลยเก็บเรื่องกาแฟที่บอกนิสัยของคนชอบว่าเป็นคนอย่างไรมาให้อ่านกันค่ะ..

ชอบกาแฟขมๆ
คนที่ชอบกาแฟรสเข้มจัดนั้น มักจะเป็นคนเอาการเอางาน ช่างคิด ช่างวางแผน มีหัวทางธุรกิจ และชอบการทำงานที่ท้าทาย แต่ก็มักเป็นคนที่มีความเครียดเสมอๆ เพราะเฝ้าครุ่นคิดแต่หนทางที่จะประสบความสำเร็จในสิ่งที่ตัวเองหวัง

ชอบกาแฟรสชาติหวานมัน
คนที่ชอบกาแฟรสชาติเข้มข้น ทั้งหวานและมันถึงใจ แสดงว่าเป็นคนที่เปิดเผย ใจกว้าง ชอบความสนุกสนานในชีวิต เป็นคนร่าเริง ช่างกระเซ้าเย้าแหย่ นอกจากนั้นยังเป็นคนรักความยุติธรรม ไม่ชอบการเอารัดเอาเปรียบ และจะรักษาสิทธิของตัวเองเสมอ

ชอบกาแฟที่กลิ่นหอมแรง
ส่วนคนที่ชอบกาแฟที่มีกลิ่นหอมแรงๆ เข้มข้น แสดงว่าเป็นคนที่ช่างเลือก ชอบแต่สิ่งที่ดีที่สุด มักพิถีพิถันต่อข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัว เป็นคนรักเพื่อน มีทัศนะที่ชัดเจนต่อสิ่งต่างๆ และชอบการอยู่ในสังคมที่มีแต่คนทัศนะตรงกัน

ชอบกาแฟรสอ่อนๆ
คนที่ชอบกาแฟรสชาติอ่อนๆ ขอให้มีกลิ่นกาแฟก็เป็นอันใช้ได้นั้น แสดงว่าเป็นคนที่ชอบความสงบ สุขภาพ ชอบความสะอาด และความปลอดโปร่ง สบายกาย สบายใจ นอกจากนั้นยังเป็นคนเคารพความเห็นของผู้อื่น ไม่ชอบโต้แย้งกับใครโดยไม่จำเป็น

ชอบกาแฟหวานจัด
คนที่ชอบกาแฟหวานมากๆ เรียกว่าหวานนำรสอื่นๆ มาเลยนั้น แสดงว่าเป็นคนที่มีอารมณ์เปราะบาง ปรวนแปรง่าย เป็นคนที่มักจะมีความใฝ่ฝันเกี่ยวกับชีวิตตัวเองที่เป็นอยู่ อยากมีชีวิตที่ดียิ่งๆ ขึ้นไปอีก อยากเป็นคนพิเศษของใครซักคน

ชอบกาแฟรสกลมกล่อม
ส่วนคนที่ชอบกาแฟรสชาติพอดีๆ ไม่หวานเกินไป ไม่มันเกินไป แสดงว่าเป็นคนที่ชอบชีวิตที่ลงตัว มีความพอดีในจิตใจ ไม่ชอบการแก่งแย่งแข่งขัน ไม่ชอบการต่อสู้เพื่อให้รู้ผลแพ้ชนะชนะ มักเป็นคนดูแลสุขภาพ ให้ความสนใจเรื่องการเรียน การศึกษา ชอบการค้นคว้าหาความรู้เพิ่มเติม

ชอบกาแฟร้อนๆ
สวนคนที่ชอบกาแฟร้อนๆ นั้น มักเป็นคนที่หาความสุขได้อย่างง่ายๆ ชอบความมีชีวิตชีวา กระฉับกระเฉง เป็นคนตื่นตัวเร็วและปรับตัวเก่ง สามารถนำเอาประสบการณ์ต่างๆ ของตัวเองมาปรับใช้และให้ข้อคิดที่ดีกับคนอื่นๆ

ชอบดื่มกาแฟเย็น
ส่วนคนที่ไม่ชอบกาแฟร้อนๆ อุ่นๆ แต่ชอบกาแฟเย็นเจี๊ยบชื่นใจ แสดงว่าเป็นคนชอบการมีเพื่อนเยอะๆ ชอบการได้พักผ่อน ผ่อนคลาย เมื่อเวลาทำงานก็ทำงานก็ตั้งใจทุ่มเท แต่พอเวลาพักก็หาความสุขให้กับตัวเองอย่างเต็มที่ เป็นคนร่าเริงเช่นกัน ใครอยู่ใกล้ก็มักเบิกบานไปด้วย





ตอนนี้มีโรคแปลกๆ ให้พวกเราต้องดูแลตนเองและคนรอบข้าง ตอนนี้โรคที่ฮิตที่สุดในตอนนี้ก็คือ โรคมือ เท้า ปาก เป็นกลุ่มอาการหนึ่งของโรคติดเชื้อเอนเทอโรไวรัส พบบ่อยในเด็กทารก เด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ปี จะมีอาการมีไข้ มีจุดหรือผื่นแดงอักเสบในปาก จากนั้นจะกลายเป็นตุ่มพองใส ไม่คันแต่กดแล้วเจ็บ ซึ่งมักเกิดขึ้นที่ลิ้น เหงือก กระพุ้งแก้ม นอกจากนี้ยังอาจเกิดที่ฝ่ามือ นิ้วเท้า และฝ่าเท้า บางรายที่ติดเชื้ออาจไม่ปรากฏอาการตุ่มพองตามบริเวณที่ระบุข้างต้น แต่กลับมีภาวะแทรกซ้อนรุนแรง เช่น ปอดบวมน้ำ เยื่อหุ้มสมองอักเสบ ก้านสมองอักเสบ กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ระบบหัวใจและระบบไหลเวียนโลหิตล้มเหลว จนทำให้เสียชีวิตได้ ทั้งนี้มีสัญญาณอันตราย เมื่อเกิดอาการต้องรีบส่งแพทย์ คือ ไข้สูงไม่ลด ซึม อาเจียนบ่อย หอบ แขนขาอ่อนแรง และเกิดภาวะอัมพาตคล้ายโปลิโอ การระบาดของโรคมือ เท้า ปาก เกิดขึ้นทั่วโลก โดยเฉพาะเขตร้อนชื้น เกิดแบบประปรายตลอดปี พบบ่อยช่วงหน้าฝนที่มีอากาศเย็นและชื้น การติดต่อมีทั้งได้รับเชื้อจากอุจจาระ ฝอยละอองน้ำมูก น้ำลาย หรือน้ำในตุ่มพองหรือแผลของผู้ป่วยกระเด็นเข้าปาก ส่วนการติดต่อผ่านทางน้ำหรืออาหารมีโอกาสเกิดขึ้นน้อย การแพร่ติดต่อเกิดขึ้นค่อนข้างง่ายในช่วงสัปดาห์แรกของการป่วย แม้อาการทุเลาลงแล้ว ก็ยังคงแพร่เชื้อได้บ้าง เนื่องจากเชื้อจะถูกขับออกมากับอุจจาระต้องใช้เวลานานราว 6-8 สัปดาห์

วิธีการรักษาโรคมือ เท้า ปาก ควรรีบไปหาหมอและหมอจะรักษาตามอาการที่เกิดขึ้น เนื่องจากปัจจุบันยังไม่มียาต้านไวรัสชนิดนี้โดยเฉพาะ โรคนี้หากผู้ป่วยกินได้และพักผ่อนเพียงพอ อาการก็จะไม่รุนแรง และมักหายได้เองในช่วง 7-10 วัน หากผู้ป่วยเป็นเด็กทารก หรือเด็กเล็ก และผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องควรดูแลอย่างใกล้ชิดเพื่อเฝ้าระวังอาการแทรกซ้อนที่รุนแรง หากเป็นเด็กและเข้าโรงเรียนแล้ว ควรแจ้งคุณครูที่โรงเรียนและหยุดรักษาตัวที่บ้าน 5-7 วัน หรือจนกว่าจะหายเป็นปกติ ควรพักผ่อนในที่ที่มีอากาศถ่ายเทดี ใช้ผ้าปิดจมูกเมื่อไอจาม ที่สำคัญผู้ที่ต้องดูแลคนป่วยต้องล้างมือให้สะอาดทุกครั้งหลังสัมผัสน้ำมูก น้ำลาย หรืออุจจาระเด็กที่ป่วย

การป้องกัน โรคนี้ก็ยังไม่มีวัคซีนป้องกัน ดังนั้นจึงต้องรักษาสุขอนามัยส่วนบุคคลให้ดี เช่น ล้างมือด้วยน้ำและสบู่หลังขับถ่าย ทว่าเชื้อไวรัสก่อโรคมือ เท้า ปาก ก็ถูกทำลายได้ไม่ยาก โดยแสงอุลตราไวโอเล็ตในแสงแดด ในสภาพที่แห้ง เชื้อจะมีชีวิตอยู่ไม่นาน รวมถึงการทำลายโดยการต้มที่ 50-60 องศาเซลเซียส นาน 30 นาที, ถูกน้ำยาซักล้างทั่วไป, และโดยวิธีทำให้ปราศจากเชื้อ

สำหรับโรคนี้ผู้ใหญ่สามารถติดโรคนี้จากเด็กได้หากเป็นไวรัสที่ตนเองยังไม่มีภูมิต้านทาน เนื่องจากผู้ใหญ่มักมีภูมิต้านทานโรคนี้จากการได้รับเชื้อขณะเป็นเด็ก หากเป็นแล้วส่วนใหญ่มักไม่แสดงอาการหรือมีอาการเล็กน้อย แต่สามารถแพร่เชื้อไปยังเด็กหรือผู้อื่นได้ กรณีหญิงตั้งครรภ์ได้รับเชื้อ เพื่อความปลอดภัยก็ควรพบแพทย์ แต่ที่ผ่านมา ยังไม่เคยมีการรายงานว่า มีผลทำให้แท้งบุตร หรือเด็กพิการ

เก็บคำพูดดีๆ หาได้จากเวป teenee.com เป็นคำพูดจากหนังหลายๆ เรื่องที่หลายคนอาจเคยดูและผ่านตามาบ้างแล้วมาฝาก ชอบนะกับคำพูดจากหนังเรื่อง ส.ค.ส สวีทตี้ ที่ว่า "ในชีวิตนี้ผมรักผู้หญิงได้มากที่สุดแค่ 2 คนครับ..คนแรกอ่ะ...ผมไม่ได้เลือก...เพราะผมเกิดเป็นลูกชายเค้า คิดดูดิ..ขนาดคนที่ผมไม่ได้เลือก "ผมยังรักเค้ามากขนาดนี้" แล้วถ้าเป็นคนที่ผมเลือก..ผมจะรักเค้ามากขนาดไหน??" อ่านแล้วคิดถึงคนที่คิดคำพูดนี้ว่าคิดได้ยังไงเนี่ย..คำคมจริงๆ คมจนกระชากใจหญิงเลยล่ะว่าป่ะคะ....555555....ยังมีอีกหลายคำคมที่อ่านแล้วรู้สึกดีจริงๆ แฮะ..อ่านเลยค่ะ...

















































ช่วงเวลา

ช่วงเวลา ที่นานที่สุด คือช่วงเวลาที่ฉันได้ให้
ได้ให้เธอไป ให้หมดทั้งใจ ให้ได้ทั้งชีวิต
แต่ช่วงเวลา ที่สั้นที่สุด คือช่วงเวลา ที่เธอบอกรัก
เธอจบมันลง ด้วยความเฉยชา ไม่เหมือน ดังวันก่อน

เปลี่ยนไปทำไม ในเมื่อก็รักกันดีๆ
เปลี่ยนไปแบบนี้ก็คงต้องขอยอมตัดใจ
มันจบแล้ว ช่วงเวลาต้องทน ท้อ
ไม่ต้องรอ หัวใจใคร ที่เคยฝากเอาใว้ ทุกคืน ก่อนนอน

มันจบแล้ว ช่วงเวลาที่มีน้อย
รักเหลือเกิน แต่ต้องปล่อย
ปล่อยไปตามทาง ที่เธอ เลือกเอง

ไม่อยากจะลืม ภาพเธอครั้งเก่า ที่ๆเราเจอกัน ทุกครั้ง
ไม่อยากจะลืม น้ำเสียงที่เคยฟัง บอกรักทุกๆคืน
แต่อยากจะลืม ที่เธอเหินห่าง ที่ว่ารักไม่รู้อยู่ไหน
ทั้งๆที่รู้ว่าต้องเสียใจ แต่ขอยอมจากกัน

เปลี่ยนไปทำไมในเมื่อก็รักกันดีๆ
เปลี่ยนไปแบบนี้ก็คงต้องขอยอมตัดใจ
มันจบแล้ว ช่วงเวลาต้องทนท้อ
ไม่ต้องรอหัวใจใคร ที่เคยฝากเอาใว้ทุกคืนก่อนนอน

มันจบแล้ว ช่วงเวลาที่มีน้อย
รักเหลือเกิน แต่ต้องปล่อย
ปล่อยไปตามทาง ที่เธอ เลือกเอง






 

Create Date : 21 กรกฎาคม 2555
6 comments
Last Update : 22 กรกฎาคม 2555 13:16:59 น.
Counter : 3062 Pageviews.

 

ขอบคุณนะค่ะ ขอเป็นกำลังใจให้ในทุกๆเรื่องค่ะ

 

โดย: น้อยหมู 21 กรกฎาคม 2555 15:29:40 น.  

 

อ่านแล้วเพลินจังคะ

 

โดย: I'm pook 21 กรกฎาคม 2555 20:43:13 น.  

 

อ่านแล้วได้แง่คิดดี ๆ เยอะเลยค่ะพี่ภัทร
แล้วคำคมจากภาพยนต์ก็ชอบหลายอันเลย
บางอัน อ่านแล้วรู้สึกว่า "อืม...ก็จริง"
ตามนั้นเลยค่ะ ^^
ถ้าพี่ภัทรที่แสนจะเข้มแข็งบ่นท้อ
ปายก็ไม่ต้องฮึดสู้แล้วแหละ อิอิ
ขอเป็นกำลังใจให้พี่นะคะ
ในทุก ๆ ปัญหา...ต้องมีทางออกเสมอค่ะพี่ ^^

 

โดย: คนที่ใช่ ในวันที่ผิด 21 กรกฎาคม 2555 21:05:13 น.  

 

แวะมาเยี่ยมยามค่ำคืน...สวัสดีครับ

หายไปนานเลย คิดถึงนะครับ

ขอขอบคุณสำหรับการ์ตูนกับบทความข้อคิดดีๆที่นำมาฝากครับ

 

โดย: **mp5** 21 กรกฎาคม 2555 21:52:28 น.  

 

//www.youtube.com/watch?v=YCzqiKYqh_w

ฉันเฝ้าถามความสุขอยู่ที่ไหน.. ลองหุบร่มที่ถืออยู่สักพักหนึ่ง บนท้องฟ้าไม่มีอะไรแน่นอน เดี๋ยวก็มืด เดี๋ยวก็สว่าง สุขที่เคยเดินทางตามหามานาไม่ได้อยู่ที่ไหน แต่อยู่ที่ใจจะมอง ^____^


แอบดีใจที่พี่สาวยังจำน้องชายคนนี้ได้ อิอิ สำนงสำนวนอะไรไม่มีไม่ดีขึ้นหรอกครับ พิมพ์ออกมาตามความคิดไร้สาระๆนี้อหระครับ 555 เวลาที่เข้ามาอ่านบล็อคของพี่สาวและเพื่อนคนอื่นๆแล้วแอบอิจฉาอยู่เหมือนกัน แต่ละคนไอเดียสุดยอดกันจริงๆ

คืนนี้หลับฝันดี ราตรีสวัสดิ์ครับ

 

โดย: กุหลาบเหมันต์ 21 กรกฎาคม 2555 22:12:46 น.  

 

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


แวะมาทักทายกันจ้าคุณภัทร
ชอบคุณสำหรับโหวตนะคะ

 

โดย: หอมกร 21 กรกฎาคม 2555 23:46:57 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.