วันอาทิตย์ที่ผ่านนัดกันไปชะอำแบบที่ จขบ. สองจิตสองใจไปดีหรือไม่ไปดี ในที่สุดตัดสินใจไปในวันที่ไปนั่นล่ะเมื่อมีคนขับรถมารับถึงบ้านก็จำเป็นต้องไป เจ้าตัวน้อยกระดี๊กระด๊ามากที่สุด เพราะคนชวนบอกว่าจะพาไปสวนสนุก Santorini Park ที่อยู่ก่อนถึงหาดชะอำ ออกจาก กทม.สิบเอ็ดนาฬิกาเกือบครึ่งได้แล้ว ออกจาก กทม. ท้องฟ้ายังแจ่มใส แต่พอเข้า จ.เพชรบุรี ท้องฟ้าก็มืดครึ้ม และมีฝนตกหนักบ้างเป็นบางช่วง รถบนถนนก็เยอะเพราะเป็นวันหยุดยาวสามวันผู้คนจึงหลั่งไหลพาครอบครัวไปเที่ยวกัน..ตามปกติ จขบ. จะไม่ไปไหนในช่วงเทศกาลที่มีวันหยุดเยอะๆ เพราะไม่อยากเจอรถติดและถนนไม่โล่ง ยิ่งตอนฝนตกด้วยแล้วน่าเป็นห่วง...

ไปถึงชะอำแบบหลงหาดไปนิด เลยเสียเวลาไปหน่อย มาถึงหาดชะอำก็เกือบบ่ายสองโมงกว่านิดหน่อยหิวกันจนตาลายโดยเฉพาะเจ้าตัวน้อยบ่นกะปอดกะแปดตลอดทาง..ด้วยความหิวเลยสั่งอาหารกันริมหาดมีทั้งข้าวผัดรวมมิตรทะเลที่มีแต่กุ้งหลายตัวอยู่ กะปลาหมึกและหนวดปลาหมึกเพียบ พร้อมต้มยำน้ำข้นทะเล ถามว่าอร่อยไหมก็อร่อยนะหรือว่าเพราะหิวหว่า...5555...ไม่น่าเพราะกว่าข้าวและต้มยำจะมาก็เป็น ช.ม ระหว่างนั้นก็หาซื้อของทานอื่นได้จากพ่อค้าแม่ค้าที่เดินกันเพ่นพ่านไปหมด ไม่ว่ากุ้ง ปลาหมึก ปู ลวกต้ม แถมยังมีแบบทอดมาให้เลือกซื้ออีก เรียกว่าบนโต๊ะมีครบค่ะ...5555...ก็เป็นเพราะหิวนั่นล่ะ..เจ้าตัวน้อยอยากทานไก่สีเหลืองย่าง...แค่สะโพกและปีกยังไม่ถึงครึ่งตัว ราคาก็ 60 บาทต่อถาดโฟม ทานไป 2 ถาดพร้อมข้าวเหนียวห่อละ 10 บาท เจ้าตัวเล็กทานอย่างเอร็ดอร่อย และต่อด้วยข้าวผัดอีก 1 จานคงหิวน่ะ ที่ติดใจ คือ ปูต้มที่ขายเป็นถุงๆ ละ 200 บาท ในตอนแรกเห็นว่ามีปูไม่กี่ตัว แต่พอเค้าแกะมาให้มันเยอะมาก เรียกว่า จขบ. กินปูเกือบอิ่มแทนข้าวเลยก็ว่าได้...คนไหนอยากเล่นน้ำเล่นไป คนไหนอยากพักผ่อนก็พักผ่อนนอนหลับไปตามถนัด..ส่วน จขบ. นั่งทานอย่างเดียว...55555...กลัวอาหารที่สั่งมาไม่หมดน่ะ..หวังดีนะคะเนี่ย..พร้อมสอดส่ายสายตามองคนที่มารอบๆ ตัวส่วนมากมากันเป็นครอบครัวบางคนเตรียมอาหารน้ำมากันเป็นส่วนมาก มีหลายกลุ่มที่เหมือน จขบ. ไม่ได้เตรียมอะไรมาเลยมากันแบบตัวเปล่าๆ นี่ล่ะเพราะไปเช้าเย็นกลับเลยไม่อยากเตรียมหรือทำอะไรให้ยุ่งยากเหมือนมาคราวที่แล้ว..

ออกจากหาดชะอำก็เย็นโขแล้ว ขับรถตรงไปที่สวนสนุก Santorini Park เป็นสวนสนุกสไตล์เมดิเตอร์เรเนียน ที่น่าจะเป็นสถานที่ไปถ่าย Wedding มากที่สุดเพราะมีจุดให้ถ่ายรูปสวยๆ เยอะแยะไปหมด เค้าบอกว่าจุดขายที่นี่ คือ สวนสนุก สำหรับ จขบ. คิดว่ายังไม่น่าใช่เพราะมีเครื่องเล่นอยู่ไม่กี่ชิ้นเท่าที่เห็นก็มีชิงช้าสวรรค์ ม้าหมุน ก็คงไม่แตกต่างจากชิงช้าที่ดรีมเวิร์ลและสวนสยาม มีม้าโยกสำหรับเด็กให้โยกไปทั่วพาร์ก เจ้าตัวน้อยเลือกเล่น Water Ball ค่าบัตรในการเข้าเล่น 7 นาที 120 บาทแต่กว่าจะได้เล่นเข้าแถวซะเหนื่อยอ่อน คิวยาวมากกกกค่ะ เท่าที่ดูด้วยสายตาเห็นมีภาพยนตร์ 4 มิติและ 7 มิติอันหลังต้องซื้อบัตร 2 ใบ มี Giant Swing และ Reverse Bungy สองอย่างนี้ต้องซื้อบัตร 4 ใบต่อการเล่น 1 ครั้ง สองอย่างหลังหวาดเสียวน่ากลัวมากค่ะใครใจไม่ถึงอย่าได้ริเล่นเลยนะคะ...555555...คิดว่าต่อไปเค้าคงพัฒนาเครื่องเล่นในสวนสนุกมากกว่านี้มั๊งคะ เพราะสถานที่กว้างขวางพอสมควรโดยเฉพาะลานจอดรถสะดวกดีค่ะข้างในสวนสนุกก็มีร้านค้าและร้านอาหารต่างๆ พอสมควรกับกิจการเพิ่งเปิดใหม่...กว่าจะออกจากสวนสนุกก็เป็นเวลาทุ่มหนึ่งได้แล้ว..ขากลับไม่มีฝนอย่างขามารู้สึกแป๊บเดียวก็ถึง กทม. แล้ว แต่กว่าจะถึงบ้านก็ 3 ทุ่มกว่าได้แล้วเพราะต้องแวะไปเอาของและแวะทานข้าวก่อนเข้าบ้าน...

จบไปหนึ่งวัน ที่มีคุณค่าทางใจสำหรับเจ้าตัวน้อยที่นานๆ จะได้เจอแม่สักครั้งหนึ่ง วันที่เขียนบล๊อก จขบ. เลยได้อาการไอกระด๊อกกระแด๊กเพิ่มจากเดิม เพราะไปตากแดด ตากลมและตากฝนพรำในสวนสนุกเป็นของแถม ดีนะที่เลือกเที่ยวในช่วงกลางวันหยุด ทำให้วันนี้ได้พักผ่อนบ้าง...

กลับมาบ้านก็มาเจอข่าว เจออะไรๆ ในบรรยากาศเก่าๆ ที่ทำให้ใจหดหู่ เมื่อไรนะบ้านเมืองจะสงบซะทีพวกไม่ดี ที่สร้างความเดือดร้อนให้ประเทศด้วยความเห็นแก่ตัวและพวกพ้องตนเองจะหายไปจากประเทศและโลกนี้ซะที อยากให้พรรคไม่ดีหายสาปสูญไปจากโลกใบนี้..บอกตรงๆ ไม่เคยคิดกับใครแบบนี้เลยในชีวิต แต่ยอมเป็นคนไม่ดียอมบาปหากคำภาวนาเป็นจริงได้...บ้านเมืองจะได้สงบและปรองดองกันได้เสียที...จริงๆ นะ ไม่เอาล่ะหาอะไรที่ทำให้ใจเป็นสุขดีกว่า...ไปเจอบทความเกี่ยวกับอาหารไทยข้างทางที่ต่างชาติที่มาเที่ยวเมืองไทยเห็นแล้วอึ้ง ยิ่งชิมแล้วติดใจจนลือเลื่องว่าต้องมากินเฉพาะที่ประเทศไทยเท่านั้น...จขบ. ไปเจอที่เวป Teenee ดอทคอมและเอ็มไทยดอทคอมเลยเก็บมาฝาก อาหารส่วนมากถ้าเป็นคนไทยส่วนมากก็ต้องเคยลิ้มลองและยอมรับว่าอร่อยและเป็นของไทยเราจริงๆ ชอบรายการอาหารญี่ปุ่น เกาหลีที่มักนำเสนออาหารของเค้า ที่ทำให้เราอยากลิ้มลอง ทีนี้เค้าต้องมาลองอาหารของเราบ้าง แปลกนะวิธีการทำของเราก็ง่ายๆ เช่น ไข่นกกระทาครก หรือกล้วยปิ้ง มันปิ้ง แต่พอเป็นฝีมือคนไทยกลับอร่อยได้วิธีการไม่ได้ยุ่งยากเหมือนชาติอื่น อย่างแกงจืด ต้มยำ น้ำพริกทำง่ายแต่อร่อยติดใจนะคะ มาดูว่ามีอาหารข้างทางอะไรบ้างที่คนต่างชาติลองชิมติดใจแล้วยังอึ้งอีกค่ะ...

ไข่นกกระทาครก ที่ชาวต่างชาติบอกว่า ดูน่ารักน่ากินเป็นที่สุด งงกันไปเลย เคยกันแต่กินไข่ฟองใหญ่กันเป็นอาหารเช้า มาเจอไข่เล็กๆ กินกันเป็นขนมกินเล่นของบ้านเรา ถึงกับชอบกันเลยทีเดียว

แมลงทอด ชาวต่างชายคู่หนึ่งได้บรรยายถึง ขั้นตอนการทอดว่า"เขานำแมลงลงไปคั่วเบาๆ และใส่สมุนไพรลงไป และนำมาใส่ซอสมันกรอบกำลังดี แต่ที่หน้าอึดอัดใจมากคือ ตอนขาของมันติดคอ” ฟังดูแล้วคิดว่าน่าจะเป็นขาของเจ้าตั๊กแตนแน่ๆ เลย

ขนมเบื้อง ขนมโบราณของเรา แต่ชาวต่างชาติไม่เคยเห็น แต่เขาได้บอกว่า มันก็เหมือนๆ แพนเค้กบ้านเขาเพียงแต่แผ่นมันเล็กๆ บางๆและข้างในนั้นมีครีม แต่ที่ไม่เหมือนยิ่งไปกว่านั้นคือของเรามีฝอยทองที่เป็นไส้หวาน และมะพร้าวที่ทำเป็นไส้เค็ม นั้นเอง

ขนมตาล ขนมที่เหมือนเค้กฟองน้ำที่ทำมาจากลูกตาล (Palm hearts) รสชาติหวานกำลังดี ที่หากินที่บ้านเขาไม่ได้

ผลไม้ เช่น มะพร้าว แอปเปิ้ล มังคุด ซึ่งชาวต่างชาติมักต้องเสียเงินเป็นจำนวนมากๆ เพื่อซื้อผลไม้กินในบ้านเมืองของเขา แต่ในไทยนั้น ผลไม้หาทานได้ง่ายและมีราคาถูกมาก

หมูยอ ชาวต่างชาติถึงกับงง เมื่อเขารู้ว่านั้นคือไส้กรอกหมู (pork sausage) เขาต้องถึงกับสงสัยว่าไส้กรอกหมูหรอ ทำมัยมันถึงเป็นก้อนใหญ่ขนานนั้น และทำมัยต้องอยู่ในใบตองแบบนั้น และต้องแปลกใจเมื่อแกะออกมา ไม่ได้ใหญ่เหมือนกับตอนอยู่ในห่อ

ขนมไข่นกกระทาทอด ขนมลูกกลมๆ ที่ดูเหมือนว่าข้างในจะมีไส้อะไร แต่พอกัดไปแล้วกลับไม่มีไส้อะไร

กล้วยปิ้ง มันปิ้ง ราคาเพียง ไม้ละ 10-15 บาท เท่านั้น รสชาติก็หวานจากตัวกล้วยและมัน พร้อมกับกลิ่นหอมๆ ของการปิ้ง

ไวน์ผลไม้ มันจะเป็นไปได้อย่างไร ที่คุณจะซื้อไวน์ได้ ในราคาเพียงแค่ 1 ดอลลาร์ (ประมาณ 30 บาท) แถมรสชาติยังดีอีกด้วย เพราะบ้านเรานั้นมีทั้งไวน์สตอเบอรี่ ไวน์องุ่น ไวน์แอปเปิ้ล

ไข่ป่ามหรืออ็อกไข่ เป็นไข่ที่อยู่ในใบตอง มีหน้าต่างๆ แปลกตา หาทานได้ที่ภาคเหนือของเรา อย่างที่เชียงใหม่

ลูกชุบ ขนมหน้าตาน่ากิน ปั้นเป็นรูปผักผลไม้ต่างๆ ข้างในมีถั่วบดชุบด้วยวุ้น รสชาติอร่อยไปอีกแบบ

เฉาก๊วย ถือว่าเป็นขนมที่ทำให้ชาวต่างชาติ ถึงกับงง และไม่กล้าลองมากที่สุด เพราะเป็นขนมหวานที่ดูไม่น่ากินเอาซะเลย Grass jelly (วุ้นหญ้า) แค่ชื่อมันก็ไม่ค่อยน่าลองซะเท่าไรแล้ว แต่พอได้ลิ้มลองกลับเป็นที่ถูกอกถูกใจ เป็นที่สุด เพราะมีทั้งความหอมของน้ำตาลทรายแดง และน้ำแข็งเย็นๆ พร้อมกับวุ้นที่รู้สึกนุ่มลิ้น

ความจริง จขบ. คิดว่ายังมีอาหารอื่นๆ ที่อยู่ตามข้างทางอีกมากมายที่ชาวต่างชาติได้ลิ้มลองแล้วติดใจ เช่น ข้าวเหนียวหมูปิ้ง ขนมชั้น ถั่วแปบ ก๋วยเตี๋ยวถังแตก เป็นต้น จขบ. เคยเห็นเค้ายืนรอคิวซื้อและทานอย่างเอร็ดอร่อย งั้นเอาใหม่พวกเราลองหันมามองอาหารพื้นๆ บ้านเราที่มีรสชาติดีชวนน้ำลายไหลทุกครั้งที่ได้กลิ่นและชิมนะคะ..