วันเสาร์ที่ผ่านมาเป็นครั้งหนึ่งในหลายๆ ครั้งที่นัดกันไปเที่ยว แต่เที่ยวที่ไหนไม่ได้กำหนด (อีกแล้ว) พอถึงวันจะเดินทาง คืนวันศุกร์จึงถามไถ่กันว่าจะไปไหนดี..บ้าแล้ว...คนที่นัดบอกจัดการเรียบร้อยแล้ว..แต่พอถึงเวลามาถามว่าจะไปไหนดี..เฮ้อ..ตอบไปเลยไม่รู้ไม่ได้คิดเพราะคิดว่าคนอื่นคิดแล้ว นี่ขนาดนัดเมื่อเดือนที่แล้วมีเวลาตั้งเดือนแต่พอถึงเวลาก็เป็นเหมือนอย่างเคยๆ คือจัดกระเป๋าออกเดินทางไปเลย อีกคนบอกไปราชบุรีไปบ่อน้ำพุร้อนไปดูแกะ (ไปดูทำไมเห็นเยอะแยะเวลาที่เค้าจับแพะมาชนแกะไม่ต้องทุรนทุรายไปหรอกนะ...55555...)อีกคนรีบปฏิเสธไม่ไปอยากไปทะเล..อ่าว..ไม่สามัคคีกันแล้ว..สรุปคนกลางแย่ทุกคนพูดฝากไปฝากมา..อะไรกันหนอนี่..ชักโมโห คิดๆๆ ตรูไม่ไปแล้วเบื่อแก๊งค์นี้จริงๆ เป็นแบบนี้ทุกทีสิน่า งอนไม่พูดด้วย นั่นล่ะเค้าถึงคุยกันได้สรุปกันได้..อ่อ..ต้องเล่นแผนนี้ถึงสามัคคี..
สรุปไปทะเลหัวหิน ลุยกันตั้งแต่เจ็ดโมงเช้าเที่ยวนี้ไปรถคันเดียว 6 คนเด็ก 2 ผู้ใหญ่ 4 ตอนแรกจะเอาไปสองคัน (เปลืองน้ำมัน)เติมเต็มถัง 1000 บาท พอดิบพอดีไปกลับหมดไปครึ่งถัง...ไปถึงประจวบคีรีขันธ์เกือบสี่โมงเช้า...แวะไปเพลินวาน
เห็นถังขยะกระดาษมีชื่อเพลินวานมั๊ยล่ะ..เท่ห์ซะ..ส่วนภาพติดกันคือห้องน้ำที่ข้างในก็ไม่ธรรมดาแต่ไม่ได้ถ่ายมา...ยืนคิดว่าจะถ่ายดีมั๊ยน๊อ แต่ก็ไม่ถ่าย...555555....
เจ้าตัวน้อยจอมยุ่งและจุ้น 2 คนที่ไปไหนไปกันตลอด
เห็นกล่องข้าวกับปิ่นโตมั๊ย สมัยนี้แทบจะไม่มีให้เห็นแล้วเพราะมีพลาสติกเข้ามาแทนที่ประเภทใช้แล้วทิ้งแล้วก็เป็นขยะในอนาคตที่ทำลายยากต่อไป...รณรงค์กลับไปใช้ปิ่นโตและกล่องข้าวแบบนี้บ้างก็คงจะดีไม่ใช่น้อยนะ...ด้านบนมีไพ่กระดาษรูปมนุษย์อุลตร้าแมนไม่เคยเห็นเหมือนกัน แต่ชอบหมวกกะโล่ (ไม่รู้เรียกถูกหรือเปล่า) เห็นแล้วนึกถึงคุณเปรมแม่พลอย...ในสี่แผ่นดิน..
ใครไม่เคยอมลูกอมจิ๊ดจ๊าดบ้าง..ซื้อแล้วลองแกะอมดู..เปรี้ยวจนตาหยีได้ใจมาก
สังเกตหน้าแต่ละคนทุเรศได้อีก..555555...กล้ามาก...
ร้านไอติมบนชั้นสองของเพลินวาน ไอติมนมถ้วยละ 35 บาทถ้าเติมเครื่องคิดอย่างละ 7 บาทบางคนเติมไป 3 อย่างแม่จ้าวนับชิ้นได้ 21 บาทคนกินไอติม หรือไอติมกินคนหว่าคะ ไม่อร่อยเลย..รสชาดแปลกๆ คงต้องปรับปรุงว่าแต่ว่าจะมีใครกล้าบอกเค้านะ..
ขวามือบนเป็ฯแมกเนทหลากหลาย..มัวแต่ถ่ายรูปลืมดู เพิ่งมาเห็นในรูปว่าเป็นแมกเนทเสียดายมาก เพราะเป็นคนสะสมแมกเนท..เห็นร้านจำลองร้านขายยากับร้านขายแผ่นเสียงสมัยก่อนมั๊ย ดูๆ แล้วยังไม่โบราณพอ
ดอกชบาแปลกดีบานเป็นดอกลำโพงเลย
ออกจากเพลินวานเกือบเที่ยง ไปหาที่พักขับเลยไปถึงเขาตะเกียบขึ้นไปบนเขาเจอร้านอาหารลาแม เห็นป้ายโฆษณาบอกว่าเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุด..ด้วยความอยากรู้ว่าสวยจริงไม๊..ก็ดูตามภาพและกันค่ะ...
เป็นร้านที่คนดังเข้ามาทานอาหารกัน คนเยอะเต็มร้านไปหมด...ทางขึ้นมาที่ร้านนี้เป็นเหมือนตลาดขายอาหารทะเลสดๆ พวกกุ้ง หอย ปู ปลา แต่ไม่ได้แวะลงไปซื้อชอบความสะดวกซื้อทานน่าจะดีกว่า มื้อกลางวันของวันเสาร์สั่งกรรเชียงปูนึ่งมา 1 จาน..โห..จานละ 400 สั่งผัดผักให้เจ้าตัวน้อย 2 คน ตามด้วยทอดมันกุ้งและปลากะพงราดน้ำปลา 1 ตัวมื้อนี้หมดไป 1320 แพงมาก..อาหารในความรู้สึกไม่อร่อยเท่าที่ควรน้ำจิ้มไม่แซ่บ วันก่อนไปทานที่บางแสนปูนึ่งจานเบ้อเริ่ม 150 เองน้ำจิ้มแซ่บได้ใจมากๆ
หนังท้องตึงหนังตาเริ่มหย่อนกันเป็นแถว แดดก็ร้อนเปรี้ยง ตกลงหาที่พักกันก่อนระหว่างนั่งทานข้าวต่างคนก็เสริชหาที่พักไปด้วยถามที่โน่นที่นี่จนไปเจอกบาลทมอร์ในเวปที่เสริชเจอว่าที่พักคืนละ 2000 ต่อห้องอยู่ใกล้ๆ เขาตะเกียบบรรยากาศสงบเงียบดีก็ตกลงกันว่าถ้าถูกกว่านี้หรือไม่เกิน 2000 ก็ตกลงเพราะเท่าที่ดูในเวปก็ดูสวยงามดีแต่พอไปจริงๆ กลับจะพาข้ามถนนไปอีกฝั่งที่ไม่ติดชายทะเล..เลยตัดสินใจเองว่าไม่พัก..ถ้าหาไม่ได้จะไปพักโรงแรมล่ะในราคาใกล้เคียงกัน เผอิญเหลือบสายตาไปเห็นตึกสูงๆ ก็เลยลองแวะเข้าไปดูเป็นคอนโดมิเนียมเข้าไปถามเล่นๆ เพราะอยู่ติดชายทะเลบรรยากาศดี๊ดี ได้ห้องพัก 1 คืนคิดในราคา 3000 บาทมี 2 ห้องนอนและพาไปดูเห็นปุ๊บตกลงจ่ายเงินทันที..ง่ายๆ แบบนี้ล่ะ
ปรากฏว่าในห้องมีทีวีแต่ดูไม่ได้ ดูได้แต่ดีวีดีที่ต้องออกไปซื้อการ์ตูนมาให้เจ้าตัวน้อย 2 คนดูไปจะได้ไม่ซนไม่งอแงแต่ไหงกลายเป็นพวกเราดูเองส่วนเจ้าตัวน้อยนั่งเล่นเกมส์กันเพลิดเพลินซะนี่...555555...
เป็นคอนโดส่วนตัวใต้ตึกมีสระว่ายน้ำที่น้ำเย็นเจี๊ยบด้วยไม่เคยถูกแดดเลยลงไปต้องปรับตัวตั้งนานกว่าจะชินกับน้ำเย็นกลัวเป็นตะคริวกันแทบแย่ หรือใครจะไปเล่นน้ำทะเลก็ได้เพราะอยู่หน้าตึกนี่เองเดินลงไปก็เป็นหาดแล้ว
เห็นความทะลึ่งของผู้ใหญ่ที่รุมแกล้งเด็กกันมั๊ยล่ะ...น่าสงสารเจ้าตัวน้อยจริงๆ ที่ตกเป็นเหยื่ออารมณ์ผู้ใหญ่...55555...
สนุกสนานจากชายหาด มาอาบล้างเอาทรายและน้ำทะเลออก บางคนก็กระโจนลงสระต่อเลย แม้แต่เจ้าตัวน้อยก็ บ่ ยั่นลงกะเค้าด้วยน้ำเย็นมากก็ไม่สะทกสะท้าน...
น้ำเย็นได้ใจมากขอบอกกว่าจะลงกันได้จุ่มโน่น นี่ นั่น ตั้งนานกว่าจะตัดสินใจลงเล่น
อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าพักผ่อนรอเวลาก็ไม่นานเพราะเล่นน้ำกันจนเหนื่อยอ่อนหิวกันเป็นแถวๆ ได้เวลาออกตระเวณหาที่ทานข้าว..ตอนไปห้างสังเกตเห็นก่อนถึงที่พักมีร้านอาหารเจ๊เขียว มีคนบอกว่าร้านนี้อาหารอร่อยคนเต็มร้านทุกวัน...ก็เลยหมายมั่นว่าเสร็จเรา (หรือเราเสร็จเค้านะ) คืนนี้เจอกัน...เย็นวันนี้ก็เลยมาดมั่นที่จะประลองฝีมืออาหารร้านเจ๊เขียว..โห...ไม่ธรรมดา..คนแน่นร้านมากๆ แม้ร้านอาหารจะไม่สวยงามเหมือนร้านเมื่อตอนกลางวัน แต่ฝีมือและราคาไกลกันลิบ มื้อนี้ด้วยความหิว..และคนแน่นร้านทั้งที่บริกรเยอะแยะแต่ก็ไม่พอกะลูกค้าอาหารค่อยๆ ทะยอยมาก็เลยทะยอยหมดโดยลืมถ่ายรูปมาซะนี่ เผลออีกทีหมดครบทุกจานมีสั่งเบิ้ลคือ ทอดมันปลาอินทรีย์ อร่อยจังมื้อนี้สั่งปูนึ่งมา 2 ตัว ปูนิ่มผัดผงกะหรี่ ปลาทรายทอดกระเทียมพริกไท หมึกนึ่งมะนาว (เปรี้ยวจิ๊ดจ๊าดได้ใจมากๆ) ทอดมันปลา 2 จาน (แทนปลาทรายทอดกระเทียมที่ไม่มี แต่ไม่ยักกะมาบอกปล่อยให้รอเก้อซะงั้น)ผัดผักอีก 1 จานค่าเสียหายมื้อนี้ 900 บาทเป๊ะมีคนเมาอาหารทะเลขอกลับไปนอน ก็เลยตัดสินใจกลับไปเล่นเกมส์กันต่อ..แต่ปรากฏว่านั่งกันได้แป๊บเดียวตาปรือกันเป็นแถว ทีวีก็ไม่มีดูจะดู af กะเชียร์เยอร์มัน ก็ดูไม่ได้อีก..เซ็งเลยนอนดีกว่าที่ดูไม่ได้เพราะเค้าเพิ่งยกเลิกเคเบิ้ลบอกว่าถ้าคราวหลังจะมาให้โทร.มาบอกล่วงหน้าก่อนจะติดตั้งไว้ให้..มีอย่างนี้ด้วยแฮะ..555555....พอหัวถึงหมอนก็พร้อมใจกันหลับสนิท..
ตื่นมาประมาณตึห้า..เข้าห้องน้ำแต่งตัวรัดกุมออกไปเดินเล่นชายหาดคนเดียวเห็นคนวิ่งและเดินออกกำลังกายกันพอสมควร ดีจังมีพระมาบิณฑบาตรและมีคนใส่บาตรด้วยแต่ตัวเองไม่ได้ใส่อะไรเพราะไม่ได้เตรียมด้วยไม่รู้ว่ามีพระมาบิณฑบาตรทุกเช้า หมายมาดว่าถ้าคราวหลังมาจะเตรียมตัวให้ดีกว่านี้...55555....
เห็นท้องฟ้ายามฟ้าสางกันบ้างมั๊ย เหมือนทิวเขาจดขอบฟ้า ความจริงเป็นแค่ก้อนเมฆยามเช้าเท่านั้นเอง น่าเสียดายที่มาเที่ยวแค่วันเดียวเห็นบรรยากาศแบบนี้แล้วอยากอยู่สัก 1 อาทิตย์ล่ะ
คอนโดที่พักในมุมมองหนึ่งกับทะเลยามใกล้รุ่งฟ้าสวยจริงๆ
เป็นภาพที่ไม่เคยเห็น...ไม่คิดว่าจะได้เห็น...เสียดายมากๆ ที่ไม่ได้เตรียมอะไรสำหรับตักบาตรตอนเช้า
เดินไปเดินไปเจอกลุ่มหมาหมู่ แต่แปลกแฮะไม่ยักกะเป็นหมาลอบกัด เหมือนคนบางคนที่เป็นคนไม่ชอบชอบเป็นหมาคอยลอบกัดเค้าไปทั่ว...อ่าว...ใครเหรอ..ไม่ต้องให้บอกค่ะรู้ๆ กันอยู่.....55555...ดูตัวอย่างหมานะคะมันยังดีกว่าคนบางจำพวกที่ทำร้ายคนอื่นแล้วไม่ยอมรับหนำซ้ำยังวิ่งหูตูบ ไปเรียกพรรคพวกมารุมกัดคนอื่นเป็นที่น่าเวทนายิ่งนักคนที่ทำยิ่งกว่าหมา อายหมามั๊ยคะนั่น...555555.....
ภาพชายทะเลแถบเขาตะเกียบจะเหมือนแถบอื่นหรือไม่นั้นไม่รู้ แต่ภาพที่เห็นดูแล้วสบายตาสบายใจจริงๆ ด้วยตัดสินใจไม่ผิดที่เลือกพักที่นี่...
เดินอยู่ริมหาดตั้งแต่ตีห้าครึ่งถึงเจ็ดโมงเช้าแดดเริ่มร้อน สังเกตดูมีรูปูลมมากมายพอเราเดินผ่านจะมีเงาวูบวาบไหวไปไหวมาให้สังเกตเลยลองนั่งสังเกตดู...อ่อ..ปูลมนี่เองเต็มหาดไปหมดเลยถ่ายรูปซะเลย นางแบบเช้านี้ของเราก็นะเหมือนรู้ว่าจะเอาไปลงบล๊อกเลยวิ่งออกมาให้ถ่ายซะดีๆ ซะงั้นล่ะแต่มันตัวเล็กเกินเลยไม่เห็นว่ามันนุ่งทูพีชวันพีชออกมาถ่ายรูปหรือเปล่าค่ะ...55555....สังเกตกันเอาเองและกัน...คนที่ผ่านไปผ่านมา...
นั่งมองปูที่วิ่งไปมา ก็เหลือบไปเห็นเปลือกหอยเต็มหาด เป็นเปลือกหอยกระจิ๋วหลิวที่กลาดเกลื่อนไปทั่วหยิบมาพิจารณาดู..อืมมม..น่ารักดีเหมือนกันด้วยไม่มีอะไรทำก็เลยได้ตามภาพนั่นล่ะค่ะ ให้ทุกคนที่แวะมาที่บล๊อกนี้และกัน...5555555....รักนะทุกคน....
กลับเข้าที่พักเตรียมตัวกลับ กทม. โดยมีข้อตกลงกันว่า อยากแวะที่ไหนก็แวะตามใจชอบ..แต่ดูเจ้าตัวน้อยสองคนไม่ยอมให้ความร่วมมือเล่นเกมส์กันน่าดำคร่ำเครียด..วันนี้เจ้าตัวน้อยของเราเสียสละเครื่องให้สาวน้อยเล่นโดยไม่เกี่ยงงอน ตามปกติแกล้งน้องแย่งน้องตลอดเวลานะเนี่ย..ดูท่าครุ่นคิดของเค้าสองคนสิคะ....นึกว่าเล่นเกมส์อะไร..เล่นเกมส์ตกปลา แบบเอาปลาเล็กตกปลาใหญ่ เหมือนใครกันหนอที่ชอบออกมาตรการโน่น นี่ นู่น ให้ประชาชนตายใจ...มีใครบ้างที่หว่านพืชแล้วไม่หวังผล...แต่ก็ไม่แน่นะ..แต่ที่แน่ๆ มีบางคนล่ะที่หว่านพืชเพื่อเหยื่อชิ้นโตกว่า...ใครหว่าๆๆๆ...
โอ้เอ้ไปโอ้เอ้มากว่าจะออกได้เกือบเที่ยงแล้ว..มื้อเช้าที่ผ่านมาตัวใครตัวมันมีนมมีขนมให้เลือกหยิบทานกันตามถนัด..มื้อกลางวันเลยส่ายตาหาที่ทานอาหารอร่อยๆ อีกมื้อก่อนกลับ...ขับไปเจอร้านแซ่บอีหลี ตั้งอยู่หน้าค่ายนเรศวรใหม่ ใกล้กับบ้านกาแฟ (กาแฟ มอคค่า ไมโล อร่อยมากขอบอกมิน่าคนแน่นร้านเลย) ยิ่งกินยิ่งถูกมื้อนี้หมดไป 500 ถ้วน..อร่อยด้วยขอบอกตอนเข้าร้านคนมีพอประมาณนั่งสั่งอาหารยังไม่ได้อาหารสักพักรถทัวร์ลงคนแน่นร้านทันตาเห็น โชคดีที่มาก่อนสั่งก่อน..คนเริ่มทะยอยกันมาจนที่จอดรถไม่พอคนแน่นร้านไปหมด...นั่งคุยกันสงสัยคงอร่อยคนเยอะขนาดนี้คนที่ไปด้วยบอกไม่ต้องสังเกตคนมากหรอกสังเกตพนักงานในร้านเยอะมาก ถ้าพนักงานเยอะขนาดนี้แสดงว่าเป็นร้านที่ขายดี...อืมมม..จริงๆ ด้วยมื้อนี้สั่งข้าวเหนียวมา 3 กระติ๊บ ส้มตำไข่เค็ม แหนมซี่โครงหมูทอด หมูยอทอด(สั่งทอดเพราะเจ้าตัวน้อยจะได้ทานได้เค้าจะมีป้ายแนะนำหมูยออร่อยก็อร่อยจริงๆ ด้วย) คอหมูย่าง ไก่ย่างครึ่งตัว ปลานิลอบเกลือ
แล้วก็เหลือเป็นหลักฐานตามภาพนี้ค่ะ อิ่มแปร้กันถ้วนทั่วหน้าพอขึ้นรถปุ๊บเหมือนนัดกันนอนกันเรียบ ยกเวันคนขับกะคนนำทาง...55555...หันไปตกใจเลยมิน่าถามอะไรไม่มีใครตอบสักคน...เอาเปรียบจริงๆ
ไม่ยอมๆ ต้องปลุกให้คนที่หลับตื่นมาเป็นเพื่อนกัน ก็เลยแวะอุทยานสิ่งแวดล้อมนานาชาติสิรินธร อยู่ในค่ายพระรามหก ค่ายนี้คุ้นป่ะคะ...555555...ด้วยอากาศร้อนจะไปเที่ยวป่ามฤคทายวันซะหน่อยแต่แดดร้อนเปรี้ยงเลยสู้ไม่ไหวเข้าไปได้แต่เดินกะจักรยานขืนถีบหรือเดินเข้าไปคงเป็นลมกันเป็นแถว..ถอยดีกว่า..ไม่เอาดีกว่า..เพลงของอ้อม ที่af7 อาทิตย์นี้มีร้อง..กะแวะชะอำดีกว่า ก่อนไปชะอำก็แวะแม่บุญล้นเอาของมาฝากคนที่อยู่ กทม.
พอออกมาก็ตรงดิ่งกลับ กทม.เลยดีกว่าไม่แวะที่ไหนแล้ว กลับถึงบ้านบ่ายสามโมงเองก็คิดกันจะไปดูหนังต่ออีกที่สยามพารากอน แต่มีคนโยเยจะไปว่ายน้ำสระต่อ พอดีที่หมู่บ้านเป็นสระนอกตัวอาคารขืนว่ายตอนนี้มีหวังสุก ก็เลยแยกย้ายกันไปว่ายน้ำต่อที่คอนโดของใครบางคน เป็นอันจบทริปนี้ด้วยรอยยิ้มและประทับใจในรสชาติอาหารที่ดุ่มๆ พักและดุ่มกินโดยไม่ได้กะอะไรล่วงหน้าเหมือนทุกครั้งที่นัดกันเที่ยว...555555...ขอบันทึกการเที่ยวครั้งนี้ไว้ตรงนี้ค่ะ...
เข้าเนทอ่านข่าวน้องมาร์ค v11 ที่ไม่ได้ลงแข่งอาทิตย์นี้แล้วเศร้าใจกับสังคมประเทศไทย ดูช่างปัญญาอ่อนกันเหลือเกินที่คนพวกหนึ่งคอยตามล้างตามผลาญน้องที่มีอายุแค่ 17 ปีเป็นเยาวชนที่น่าจะมีวุฒิภาวะต่างๆ คงจะน้อยกว่าคนที่หาเรื่องเด็กคอยโพสคอยจิกด่าว่าขับไล่น้องเค้าให้ออกจากบ้าน af สำหรับในความคิดของ จขบ. แล้วถือว่าคนประเภทนี้เป็นคนประเภทปัญญาอ่อนว่างงานไม่มีอะไรจะทำจะคิดเหมือนที่ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองนี้ชอบทำ เรื่องโง่ๆ ล่ะถนัดนัก นี่ไงเป็น ต.ย ให้เห็น พวกนี้เลยโง่ตามเมื่อไรจะไปๆ เสียที ไม่น่าอยู่เป็น ต.ย ไม่ดีแก่เด็กและเยาวชนให้โง่ตาม ไปเมื่อไรคนก็จะได้เลิกโง่ งี่เง่าซะที กับการที่เด็กจะไปด่าว่าใครที่เฟรชบุ๊คที่เป็นที่ส่วนตัวของน้องเค้ามันผิดตรงไหนกันหนอนี่...เข้าใจสิทธิส่วนตัวในการวิพากษ์วิจารณ์บ้างไหม น้องเค้าคิดอย่างไรเค้าก็โพสแบบนั้น ผู้ใหญ่ที่เข้าไปอ่านและมีวิจารญานมากกว่ายังคิดไม่ได้แล้วจะไปสั่งสอนเด็กให้คิดได้ๆ อย่างไรกัน...ก่อนจะด่าว่าเด็ก..ทุกคนที่คิดไม่ดีที่ด่าว่าเด็กก็ลองเอากระจกส่องเงาตัวเองกันดูบ้างนะ...มีใครดีหมดบ้างล่ะหรือคิดว่าตัวเองดีเลิศประเสริฐศรีไม่เคยทำผิดอะไร มีความยุติธรรมในสังคมไม่เคยทำอะไรผิด...จริงเหรอ...ถ้าไม่จริงก็ไม่ต้องไปว่าน้องเค้า หัดรู้จักละอายตัวเองบ้าง...ปล่อยน้องเค้าไปเหอะ ถ้าเค้าไม่ดีเดี๋ยวกรรมตามสนองน้องเค้าเอง หรือคนที่ว่าน้องเค้าไม่เชื่อเรื่องกรรมล่ะเพราะสร้างกรรมไว้เยอะจนกรรม งง ตามไม่ทันเลยไม่รู้จักว่ากรรมเป็นอย่างไรก็เลยไม่เชื่อเรื่องกรรม...หัดสงสารคนอื่นบ้างอย่าเห็นแก่ตัวแก่พรรคแก่พวกตัวเองนักเลยอะไรไม่เกิดกะตัวเองไม่รู้หรอก นี่เป็นกรรมติดพันที่เป็นเหมือนวัฏจักร กลั่นแกล้งผู้อื่นตายไปไม่ได้ผุดได้เกิดหรอกนะ หรือที่กลั่นแกล้งคนอื่นแบบที่ผ่านมายังไม่หนำใจตัวเองล่ะ...นรกจดไว้หมดแล้วจะบอกให้...55555....
เก็บตะวัน
อิทธิ พลางกูร
เก็บตะวัน ที่เคยส่องฟ้า
เก็บเอามา เก็บไว้ในใจ
เก็บพลัง เก็บแรงแห่งแสง ยิ่งใหญ่
รวมกันไว้ ให้เป็น 1 เดียว
เก็บเอากาล เวลาผ่านเลย
สิ่งที่เคย ผิดหวังช่างมัน
1 ตัวตน 1 คนชีวิต แสนสั้น
เจ็บแค่นั้น ก็คงไม่ตาย
ธรรมดาเวลาฟ้าครึ้ม เมฆหม่น
พายุฝน อยู่บนฟากฟ้า
คงไม่นานตะวัน สาดแสงแรงกล้า
ส่องให้ฟ้า งดงาม
หากตะวัน ยังเคียงคู่ฟ้า
จะมัวมา สิ้นหวังทำไม
เมื่อยังมีพรุ่งนี้ ให้เดินเริ่มใหม่
มั่นคงไว้ ดังเช่นตะวัน
ธรรมดาเวลาฟ้าครึ้ม เมฆหม่น
พายุฝน อยู่บนฟากฟ้า
คงไม่นานตะวัน สาดแสงแรงกล้า
ส่งให้ฟ้า งดงาม
หากตะวัน ยังเคียงคู่ฟ้า
จะมัวมา สิ้นหวังทำไม
เมื่อยังมีพรุ่งนี้ ให้เดินเริ่มใหม่
มั่นคงไว้ ดังเช่นตะวัน