deeplove
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]




Group Blog
 
 
พฤษภาคม 2553
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
21 พฤษภาคม 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add deeplove's blog to your web]
Links
 

 
น่าเป็นห่วงประเทศไทย (ฉันคือประชาชน)


























































เพลง ฉันคือประชาชน
ศิลปิน พงษ์สิทธิ์ คัมภีร์


ฉันคือ ประชาชนต้องอดทน ได้ทุกอย่าง.
แม้นปัญหา มันคับคั่งประเดประดัง อยู่ในใจ.

ฉันคือ ประชาชนต้องห้อยโหน ทุกวันวี่.
รถเมล์ มันล้นปรี่ร้อนสิ้นดี ก็ต้องทน.

ฉันคือ ประชาชนผู้ดิ้นรน ทุกเช้าค่ำ.
เหงื่อไคล มันไหลฉ่ำหน้าก็ดำ ตัวก็เหนียว.

ฉันคือ ประชาชนที่ผอมโซ เหมือนซังหญ้า.
อยู่ตามทุ่ง ตามป่าไร้ราคา ค่าควรมอง.

ฉันคือ ประชาชนไม่ใช่คน ที่มีเกียรติ.
ไปไหน ต้องละเลียดค่อยๆเหยียด ค่อยๆเงย.

ฉันคือ ประชาชนไม่เหมือนคน ที่ยิ่งใหญ่.
ไปไหน คนก็ไหว้เอามือไขว้ หว่างขา.

ฉันคือ ประชาชนไม่ใช่คน มีอำนาจ.
ไม่เคยคิด ไม่เคยคาด จะผูกขาดประเทศไทย.
เป็นไพร่พล ประชาชนก็คือเบี้ย
แล้วก็โดนเขี่ย แบบลิ่วล้อในหนังจีน


เป็นไพร่พล ประชาชนก็คือเบี้ย
แล้วก็โดนเขี่ย แบบลิ่วล้อในหนังจีน



ได้อ่านบทความ "ปี 2553 จุดจบประเทศไทย" แล้วอึ้งอาจจะนานไปหน่อย แต่เนื้อหาบัดนี้กลายเป็นทันสมัย ทั้งที่คุณนิติภูมิ นวรัตน์ ได้ไปบรรยายเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2543 ที่หอประชุมวัฒนธรรมฯ ในงานคนดีศรีสังคม ก็ผ่านมาเหลือไม่กี่เดือนก็จะเกือบสิบปีแล้วกับสิ่งที่คุณนิติภูมิได้พูดไว้ ซึ่งในหลายปีก่อนหน้านี้คุณนิติภูมิ ได้ทำนายประเทศอินโดนีเชียจะแตกเป็น 6-14ประเทศ และในปี 2542 เหตุการณ์ที่ทำนายก็เริ่มเป็นจริง ประเทศอินโดนีเชียก็แตกเป็น ติมอร์ และ อาเจะ และกำลังจะตามมาอีกหลายประเทศ





คุณนิติภูมิได้พูดถึงประเทศไทยจะต้องแตกเป็นประเทศใหม่อีก 4-6 ประเทศแน่นอน โดยบอกว่าไม่ใช่เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่จะเกิดขึ้นอย่างมีกระบวนการ โดยสถานการณ์จะเริ่มชัดขึ้นในปี 2553 ซึ่งเป็นปีที่ข้อตกลง GATTs (อ่านได้ใน ปล.1) จะเริ่มมีผลสมบูรณ์ การค้าเสรีจะมีผลสมบูรณ์ สินค้าเกษตรต่าง ๆ จากต่างประเทศจะทะลักเข้ามาในประเทศไทยจำนวนมหาศาล

ในขณะที่สินค้าเกษตรไทยขายไม่ค่อยออก เพราะคนไทยและเกษตรกรของไทยจะไม่กินสินค้าเกษตรของไทยด้วยกัน เนื่องจากมีต้นทุนที่สูงกว่าสินค้าเกษตรจากต่างประเทศ ประกอบกับการพัฒนาการเกษตรของไทยได้พัฒนาอย่างผิดทิศทาง เป็นการพัฒนาแบบปลูกพืชเชิงเดี่ยว ทำให้คนปลูกลำใยไทยก็จะปลูกแต่ลำใย จะกินข้าวก็ต้องซื้อข้าวเวียดนามมากิน คนปลูกข้าวไทยก็ต้องไปซื้อหอมกระเทียมจากจีนมากิน คนปลูกหอมกระเทียมจะไม่ซื้อลำใยจากไทยแต่จะไปซื้อจากเกาหลีมากิน เป็นวงจรอย่างนี้ทำให้สินค้าเกษตรของไทยขายไม่ได้

เนื่องจากสินค้าของต่างประเทศมีต้นทุนถูกกว่าสินค้าเกษตรของไทยที่ต้องใช้ปุ๋ยและพันธุ์พืชจากต่างประเทศ และ 10 ปีข้างหน้า(ที่พูดเป็นปี 2543) พันธุกรรมท้องถิ่นจะถูกทำลายจาก GMOs(อ่านได้ใน ปล.2) และเมื่อเกษตรกรไทยซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ร้อยละ 80 ของประเทศอยู่ไม่ได้ วิกฤตที่มหาโหดสุดก็จะเกิดขึ้นกับประเทศไทย

รัฐบาลไทยจะไม่มีปัญญาที่จะแก้ไขปัญหาได้ เพราะมาตรการทางการเงินก็จะใช้ไม่ได้ เนื่องจากธนาคารไทยกลายเป็นของต่างประเทศหมดแล้ว ไฟฟ้าก็แพงขึ้น น้ำมันก็แพงขึ้น โทรศัพท์แพงขึ้นเนื่องจากวิสาหกิจเหล่านี้กลายเป็นของต่างชาติหมดแล้ว เขาสามารถตั้งราคา ได้ตามใจชอบถ้ารัฐบาลไปขอให้ลดราคาก็จะได้รับคำตอบว่า เขาจะไม่มีกำไร ธุรกิจจะอยู่ได้ด้วยกำไรเท่านั้น ถ้าเขาไม่มีกำไรเขาก็จะตัดน้ำ ตัดไฟ ตัดโทรศัพท์ คุณเลือกเอาว่าจะยอมจ่ายในราคาที่แพงหรือว่าจะยอมไม่มีใช้

การขายที่ดินราคาถูก ๆ และจำนวนมหาศาลจะตามมา คนที่มีกำลังซื้อก็คือ ชาวต่างชาติ ซึ่งปัจจุบันก็ปรากฏแล้วว่าที่ดินบริเวณภาคตะวันออกได้ถูกต่างชาติกว้านซื้อไปเป็นจำนวนมากแล้ว เกษตรกรไทยที่ขายที่ดินได้ ก็ไม่สามารถนำเงินที่ได้ไปลงทุนให้เกิดรายได้ได้ เพราะธุรกิจอื่นได้ตกอยู่ในกำมือของต่างชาติแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการค้าปลีกก็ตกอยู่ในมือของ Big C, Lotus,Carrefour, ธุรกิจอาหารก็ตกอยู่ในมือของ KFC, Pizzahat, McDonal, สิ่งทอเสื้อผ้าก็ของพวกฝรั่งเศส ฯลฯ

ก็เหมือนเงินตราของไทยถูกดูดออกด้วยธุรกิจพวกนี้ในที่สุดคนจนก็อยู่ไม่ได้ ทำมาหากินไม่ได้เพราะพืชผลการเกษตรขายไม่ได้ราคาขายไม่ออก..เมื่อคนจนอยู่ไม่ได้แบบนี้รัฐจะอยู่ได้หรือ ด้วยเหตุเหล่านี้ทำให้ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จะเป็นแห่งแรกที่จะขอแยกตัวออกจากประเทศไทย เนื่องจากความแตกต่างที่เห็นชัดเจนและความแตกต่างทางวัฒนธรรม ในปี 2553 คนไทยภาคใต้จะเห็นด้วยกับการแยกประเทศ เพราะเห็นความล้มเหลวของรัฐบาลไทย การเมืองไทย การคัดค้านจะน้อยลง การสนับสนุนให้แยกจะทวีความรุนแรงขึ้น จนรัฐบาลไทยไม่สามารถควบคุมได้ถ้ารัฐบาลใช้กำลังทหาร ก็จะถูกต่างชาติส่งทหารมาต่อต้านกองทัพไทย ซึ่งแน่นอนกองทัพไทยไม่มีปัญญาไปต่อสู้อยู่แล้ว การแยกตัวจะสำเร็จได้ในไม่นาน

จากนั้น ภาคตะวันออก บริเวณจันทบุรี ตราด ระยอง ฉะเชิงเทรา จะขอแยกตัวตามมา เนื่องจากที่ดินแถบนั้นกลายเป็นของต่างชาติหมดแล้ว เนื่องจากที่ดินบริเวณดังกล่าวถูกใช้เป็นแหล่งพันธุกรรมของต่างชาติ ทั้งสมุนไพร อาหารต่าง ๆ เมื่อรัฐบาลไทยเป็นอุปสรรคของต่างชาติ การขอแยกตัวก็จะทำได้ไม่ยาก นั่นหมายถึง การซื้อประเทศไทย คล้ายกับที่สหรัฐอเมริกาซื้อรัฐ Alaska จาก Russia ถ้าไทยต่อต้าน เจอทหารต่างชาติแน่

คุณนิติภูมิ เคยมอง อาเจนติน่า ก่อนล่มสลายทางเศรษฐกิจ ก่อนล่มจริง... เขาทำนายการเกิดสงคราม อเมริกากับอิรัค ข้อคิด รวมทั้งอนาคตชาวเชเชนไว้น่าสนใจคนที่เขียนบทความนี้ได้แนะนำให้คนไทยสนับสนุนการซื้อของโชห่วยของคนไทย แทนที่ไปเดิน big-c, lotus, careflour เหตุผลคนเขียนได้บอกไว้ว่า ถ้าเราไป คาร์ฟู เงิน 100 บาทที่เราจ่ายไปจะไปสู่ฝรั่งเศส 86 บาท เหลือให้คนไทย 14 บาท เพราะห้างเหล่านี้เป็นของต่างชาติเกือบ 100 เปอร์เซนต์ ไม่วาบิ๊กซี หรือโลตัสก็เช่นกันต่างชาติถือหุ้นกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ แล้วบางห้าง 86 ปอร์เซ็นต์ และถ้าโชว์ห่วยจะแพงกว่าห้าง 3 บาท ก็ต้องซื้อ หรือแพงกว่า 5 บาทก็ซื้อ เพราะจะเป็นภาษีคนไทย จะกลับมาหาคนไทยเอง

คนเขียนให้มองอาเจนติน่าเป็นตัวอย่าง ห้างต่างชาติบุกไปตั้งมากกว่า 400 ห้าง ทั่วประเทศ คนอาเจนติน่าจึงทำเงินส่ง คาร์ฟู ส่งห้างต่างชาติ เกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ เงินคนทั้งชาติของชาวอาเจน จึงไหลไปหมด ในประเทศจึงไม่เหลืออะไรประชาชนก็จนลง

ผู้เขียนได้อธิบายให้คนไทยปรับมากินของไทยๆ เช่นขนมไทย ไก่ทอดแบบไทยๆ ซึ่งไม่มีค่าลิขสิทธิ์และมีราคาถูกกว่าขนมที่ต้องซื้อลิขสิทธิ์จากต่างประเทศที่วางขายเต็มไปหมดที่บรรจุหีบห่อน่าทานแต่ย่อยสลายยากกว่าจะย่อยได้ต้องใช้เวลานานมากบางอย่างใช้เวลา 200 ปีเลยล่ะ...



ความคิดเห็นของ จขบ.

จขบ. นั่งอ่านแล้วคิดตามซึ่งในพ.ศ 2553 นี้ จขบ. ก็สังเกตมานานแล้วว่าทำไมผลไม้ที่มาจากเมืองนอก เช่นจีน ออสเตรเลีย อเมริกา จึงมีราคาถูกลงไม่ว่าจะเป็นแอ๊ปเปิล พลับ สาลี่ เชอรี่ เมื่อก่อนอยากทานเชอรี่เผอิญเป็นคนชอบทานเชอรี่มากถึงขนาดใครคนหนึ่งต้องหอบหิ้วทะนุถนอมเชอรี่จากสวิสเอามาฝาก...5555...แต่เป็นอดีตไปหลายปีแล้ว ตอนนี้ต้องซื้อทานเองหลายปีก่อนนานๆ จะซื้อเพราะราคาค่อนข้างแพงมาก 1 กิโลราคาตกเกือบพันต้องแยกซื้อเป็นถุงตามที่เค้าแพ็คจำหน่ายถึงจะทานได้ แต่สองสามปีมานี้สามารถซื้อได้ถูกลง 2-3 ร้อยได้จำนวนเชอรี่ถุงใหญ่กว่ามากกว่า ราคาก็แล้วแต่จะส่งมาจากประเทศไหน มีทั้งสีแดงสด สีแดงคล้ำ สีเหลืองอมแดง เป็นคนไม่ค่อยสนใจว่ามาจากที่ไหนทานได้หมด...และทานแปลกด้วยจิ้มพริกกะเกลือ...5555...จนคนขายต่อว่า ว่าทำสินค้าเค้าหมดราคาเอาไปจิ้มพริกกะเกลือซะนี่...

เกี่ยวกับเรื่องธนาคาร เท่าที่เห็นก็มีธนาคารต่างชาติผุดขึ้นเป็นดอกเห็ดและทำธุรกรรมทางด้านการเงินเรื่องการปล่อยเงินให้กู้ จขบ.คิดว่าคงไม่แตกต่างจากที่คุณนิติภูมิได้บอกไว้ว่าธนาคารไทยกลายเป็นของต่างประเทศไปแล้วเพราะมีประชาชนตั้งแต่ชั้นกลางและระดับล่างส่วนมากเป็นลูกหนี้แบงค์ต่างชาติมากกว่าเป็นลูกหนี้แบงค์ธนาคารของไทยเพราะมีโปรโมชั่นมากมายไม่ว่าดอกเบี้ย ส่วนลด ของแถมการเข้าถึงลูกค้า เป็นต้น

และในยุคนี้ไฟฟ้า น้ำประปา น้ำมัน โทรศัพท์ แพงมากถึงไม่ได้แปรรูปเป็นของต่างชาติก็จริง แต่สาธารณูปโภคพวกนี้ ก็สามารถตั้งราคา ได้ตามใจชอบด้วยสถานะการเป็นรัฐวิสาหกิจที่จำเป็น ถ้าไม่พอใจเค้าก็จะตัดน้ำ ตัดไฟ ตัดโทรศัพท์ และมีสหภาพคอยประท้วงแทน..เอ๊ย..คอยดูแลแทน..ก็ต้องเลือกว่าจะยอมจ่ายซะโดยดี หรือถ้าไม่ยอมก็ไม่มี น้ำ ไฟ โทรศัพท์ใช้...เฮ้อ...แต่ปี พ.ศ นี้รัฐวิสาหกิจพวกนี้ถึงมีราคาแพงหฤโหดอย่างค่าไฟ แต่เค้าก็มีการบริการดีขึ้นถ้าใครเป็นคนไปจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์เองจะเห็นความเปลี่ยนแปลงของรัฐวิสาหกิจพวกนี้ในการบริการตอนที่เราไปจ่ายเงินและไปติดต่อสะดวกรวดเร็วไม่ต้องรอนาน ไม่ต้องรอจนเป็นลม เมื่อก่อนร้อนแสนร้อนนานแสนนานก็ต้องทนถ้าเบื่อไม่จ่ายก็ถูกตัดอีก....5555..ทุกข์ตลอดทุกข์ตั้งแต่ต้องจ่ายเงินแล้วค่ะ...

เรื่องการทุ่มมาซื้อขายที่ดินของชาวต่างชาตินั้นยังดีที่ยังอยู่ภายใต้ ก.ม ไทยอีกมากมายที่กำหนดไว้ถ้าคนต่างชาติจะซื้อที่ดินก็ต้องมีทุนไม่ต่ำกว่า 40 ล้านและเป็นเจ้าของที่ดินได้ไม่เกิน 1 ไร่และต้องได้รับอนุญาตจาก รมต.มหาดไทยด้วย นอกนั้นไม่มีสิทธิ์ถึงแม้จะสมรสกับคนไทยก็ตามก็ยังไม่มีกรรมสิทธิ์ในที่ดิน เท่าที่เห็นคนต่างชาติแถวชลบุรี หรือกทม.จะเป็นเจ้าของห้องชุดกันมากมาย เพราะ ก.ม อนุโลมให้ถือครองได้แต่ทุกอย่างก็ต้องอยู่ภายใต้ ก.ม กำหนดเรื่องการถือครองห้องชุดแต่อย่างนั้น ก.ม ก็ยังมีช่องโหว่ที่ทำให้บางคนเห็นช่องทางทำมาหากินกับคนต่างชาติที่ต้องการจะมีบ้านและที่ดินในผืนแผ่นดินไทยเรื่องนี้ไม่พูดดีกว่าต้องไปเสริชหาอ่านกันเองค่ะ

นั่งมองภาพธุรกิจการค้าปลีก เช่น Big C, Lotus,Carrefour, ธุรกิจอาหารอย่าง KFC, Pizzahut, McDonal เป็นที่นิยมจริงๆ จขบ.เองก็ยังชอบไปซื้อไปทานไปอุดหนุน อ่านดูแล้วน่าตกใจและเห็นด้วยกับผู้เขียนว่าเรากำลังปล่อยให้เงินรั่วไหลออกไปนอกประเทศเพราะการสนับสนุนธุรกิจของคนต่างชาติจริงๆ ด้วยน้อยมากที่เราจะเดินไปซื้อของโชห่วยเพราะการบริการในสินค้าที่เราต้องการแตกต่างกัน ความโอ่อ่าโอ่โถงผิดกันไปแล้วสะดวกสบายแอร์เย็นเจี๊ยบได้ของหมดตามที่ต้องการโดยลืมคิดว่าทุกครั้งที่เราซื้อเงินเราไปที่ไหนบ้างและกลับมาประเทศเราเท่าไร...

ถึงตอนนี้ก็ยากที่จะให้ทุกคนปรับตัวมายอมรับร้านโชห่วยนอกจากปลูกจิตสำนึกให้ทุกคนคำนึงบอกได้เลยว่ายากจริงๆ ถ้าเรายังรักความสะดวกสบายคิดแต่ประโยชน์ตัวเองมากกว่าประโยชน์ที่ประเทศชาติจะได้รับ และเป็นสิ่งที่น่าตกใจว่าทุกอย่างเป็นผลกระทบทำให้เกิดความวิบัติต่อประเทศจนทำให้เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ประเทศถึงจุดจบอย่างที่คุณนิติภูมิว่าไว้

ทุกอย่างมันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นมานานเป็นกระบวนการจริงๆ บางอย่างก็ร้าวลึกบั่นทอนความรู้สึกและจิตใจประชาชนมานานอย่างสถานการณ์ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่เกิดจากความแตกต่างทางวัฒนธรรมความเป็นอยู่ หรือความแตกแยกที่เกิดระหว่าง รบ. กับประชาชน ระหว่างคนรวยกับคนจน โดยเฉพาะที่ผ่านมานี้ที่คนเสื้อแดงที่ไม่ยอมรับการบริหารงาน รบ. นี้ที่บริหารงานแบบ 2 มาตรฐาน ไม่มีความชอบธรรมในการเข้ามาเป็น รบ. แบ่งพวกแบ่งฝ่ายอย่างเห็นได้ชัดเจน บริหารงานไม่เป็นตั้งแต่เข้ามารับตำแหน่งก็มีแต่การกู้และโกงกินจนขึ้นเป็นข่าวหน้าหนึ่งมาตลอด จนเกิดการเรียกร้องให้ รบ. นี้ยุบสภาจนเกิดการสลายการชุมนุมทำให้มีคนบาดเจ็บล้มตายกันมากมาย เพราะการตัดสินใจของผู้นำที่ยังขาดวุฒิภาวะของการเป็นผู้นำที่ดี จนทำให้เป็นบาดแผลร้าวลึกที่ยากเกินแก้ไข แต่ก็ต้องทำใจเมื่อไม่สามารถสู้กับ รบ.เผด็จการที่ใช้กองทัพมาจัดการกับผู้คนที่มาชุมนุม เรื่องนี้ต้องพูดได้ว่า อาวุธน้อยย่อมแพ้อาวุธมากมาย แทนคำว่า น้ำน้อยย่อมแพ้ไฟ ล่ะ

อ่านดูแล้วเป็นสิ่งที่น่าตกใจที่คุณนิติภูมิได้พูดไว้ว่าในปี 2553 คนไทยภาคใต้จะเห็นด้วยกับการแยกประเทศ เพราะเห็นความล้มเหลวของรัฐบาลไทย การเมืองไทย การคัดค้านจะน้อยลง การสนับสนุนให้แยกจะทวีความรุนแรงขึ้น จนรัฐบาลไทยไม่สามารถควบคุมได้ถ้ารัฐบาลใช้กำลังทหารเหมือนที่ใช้อีก ก็จะถูกต่างชาติส่งทหารมาต่อต้านกองทัพไทยเพราะตอนนี้ต่างชาติก็จับตามองไทยอยู่ และไม่แน่ใจกับคุณนิติภูมิที่บอกว่ากองทัพไทยไม่มีปัญญาไปต่อสู้ ดูจากการต่อสู้สงครามกลางเมืองที่ทหารตกเป็นเครื่องมือของฝ่าย รบ.สิต้องใช้เวลานาน มากมายกว่าจะสลายการชุมนุม ซึ่งอาจเป็นเพราะทหารบางหน่วยไม่เห็นด้วยกับการสลายครั้งนี้ก็ได้ แต่ถ้าเป็นการป้องกันประเทศก็ไม่แน่เพราะอย่าลืมว่าทหารไม่ได้มีแค่ทหารบกหน่วยงานเดียว เรายังทหารอากาศ ทหารเรืออีก แล้วการแยกตัวจะสำเร็จได้หรือไม่นั้นก็อยู่ที่ความสามัคคีคนในชาติด้วย..แต่ถ้ามี รบ. นี้บริหารประเทศต่อไปความคิดเห็นของผู้คนก็ยังแตกแยกเหมือนเดิมก็อาจทำให้คำทำนายคุณนิติภูมิเป็นไปตามพูดก็ได้ค่ะ

หรือจากเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดมันช่างสนับสนุนคำพูดของคุณนิติภูมิที่ได้พูดไว้จนน่าตกใจจริงๆ จขบ.ยังรู้สึกได้ถึงความไม่ถูกต้องของการตัดสินของนายกที่สั่งให้สลายเข้ามาปราบปรามกลุ่มผู้ชุมนุมด้วยกำลังทหาร ไม่สนใจว่าหลังการสลายการชุมนุมจะมีผู้คนสูญเสียอย่างไรจะมีทรัพย์สินเสียหายเท่าใด ที่สำคัญจิตใจของผู้คนที่ต้องเจ็บร้าวลึก เหมือนที่ จขบ.เองก็เจ็บร้าวลึกกับการตัดสินใจของคนใน รบ.นี้ ทำแล้วยังโผล่หน้ามาพูดทับถม ซ้ำเติมกล่าวหายัดเยียดให้คนที่แพ้เป็นผู้ก่อการร้ายเป็นสิ่งที่ไม่ถูกไม่ควรอย่างยิ่ง น่าจะหวนดูตัวเองบ้างว่าบริหารงานประเทศอย่างไรถึงทำให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้จนทำให้ประเทศชาติฉิบหายวายป่วงได้ขนาดนี้...น่าอายมาก...

แต่ก็ขึ้นอยู่ที่จิตสำนึกของคนที่บางคนไม่อายยังโผล่หน้ามาแจกแจงสิ่งที่ตัวเองรู้ว่าสิ่งไหนคือ เท็จ จริง รบ. อาจแกล้งไม่รู้แต่ประชาชนรู้บอกได้แค่นี้...เป็นสิ่งที่ร้าวลึกในใจและไม่มีวันลืมแน่นอน..ว่าจะไม่พูดเรื่องนี้แล้วก็อดไม่ได้อีกนั่นล่ะ..จบง่ายๆ ดีกว่าเรื่องที่คุณนิติภูมิได้กล่าวถึงมาตั้งแต่ปี 2543 อ่านดูแล้วคิดอะไรกันได้บ้าง..อย่าแสวงหาอำนาจ ตำแหน่ง และกดผู้คนให้อยู่ภายใต้อำนาจเผด็จการของตัวเองนักเลย เพราะนั่นเป็นหนทางนำประเทศไปสู่ความฉิบหายเหมือนเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านมาได้วันสองวันนี้เอง..ออกไปเหอะ เบื่อ ประชาชนเบื่อและไม่ต้องการผู้บริหารประเทศแบบนี้อีกต่อไปแล้ว...จงออกไป...

ปล.1 GATT ย่อมาจากคำว่า General Agreement on Tariffs and Trade คือ ข้อตกลงทั่วไปว่าด้วยภาษีศุลกากรและการค้า เป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงพหุภาคีว่าด้วยการค้าสินค้า โดยข้อตกลงว่าด้วยการค้าสินค้านี้ จะประกอบไปด้วย GATT 1994 ข้อตกลงว่าด้วยการเกษตร ข้อตกลงว่าด้วยสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม และข้อตกลงว่าด้วยกฎเกี่ยวกับแหล่งกำเนิดสินค้า

เนื่องจากการเจรจารอบที่ 8 ที่เรียกว่า "รอบอุรุกวัย" (Uruguay Round) เกิดปัญหาซับซ้อนและใช้เวลาเจรจากันนานถึง 7 ปี (พ.ศ. 2529-2536) และได้รับการต่อต้านมากที่สุดโดยเฉพาะเกษตรกรชาวฝรั่งเศส ผลการเจรจามีการตกลงลดภาษีมากถึงร้อยละ 40 และมีผลให้เกิดการจัดตั้งองค์การนานาชาติขึ้มาใหม่คือ "องค์การการค้าโลก" (WTO) เพื่อทำหน้าที่เกี่ยวกับเรื่องนี้โดยตรง

เค้าว่ากันว่าข้อตกลง GATTs กับ การค้าเสรี จะทำให้ ธุระกิจขนาดเล็กจนถึงขนาดกลาง ตายหมดเพราะสู้ต่างชาติไม่ไหว เมื่อต่างชาติเข้ามาค้าขายเขามีรัฐบาลหนุนทุนเต็มตัว แต่ไทยเราไม่มีใครหนุนแถมโดนรีดภาษีอีก และข้อตกลงของ GATT มาตรา III ห้ามไม่ให้ประเทศสมาชิกเลือกปฏิบัติต่อสินค้าของประเทศอื่นด้วยเหตุผลว่า สินค้านั้นผลิตมา อย่างไร ...

ความแตกต่างระหว่าง Gatt กับ WTO ต่างกันตรงไหน

1. GATT เป็นเพียงแต่ความตกลงการค้าพหุภาคี (multilateral) ที่ประเทศภาคีในสัญญาให้คำมั่นว่าจะปฏิบัติตาม ในขณะที่ WTO มีสภานะเป็นนิติบุคคลตามกฏหมายอย่างสมบูรณ์ทัดเทียมกับองค์การระหว่างประเทศอื่นๆ คือ เปรียบเสมือนการรวมกลุ่ม อาฟต้า นาฟต้า หรือ APEC

2. GATT มีหน้าที่ควบคุมดูแลเฉพาะการค้าสินค้าเท่านั้น ในขณะที่ WTO มีหน้าที่ที่จะดูแลกว้างกว่า คือ นอกจากเรื่องสินค้าแล้ว ยังครอบคลุมถึงการค้าบริการ สิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและมาตราการลงทุนที่เกี่ยวกับการค้าด้วย

3. GATT มีการครอบคลุมความตกลงหลายฝ่ายฉบับต่างๆ ซึ่งเป็นผลจากการเจรจารอบโตเกียว แต่ไม่ได้บังคับให้ประเทศภาคี GATT ต้องเป็นสมาชิก ในขณะที่ WTO จะครอบคลุมความตกลงอื่นๆ ที่เกิดขึ้นในรอบอุรุกวัย โดยทุกประเทศมีพันธกรณีต้องเป็นสมาชิกและปฏิบัติตามทุกความตกลง จะเลือกเป็นสมาชิกเฉพาะเรื่องที่ตนได้ประโยชน์ไม่ได้

4. WTO ได้มีการแก้ไขปรับปรุงกฏระเบียบในแกตต์เดิม และเรียกชื่อใหม่ว่า GATT 1994 เพื่อให้มีความชัดเจนและรัดกุมยิ่งขึ้นด้วยระบบของ WTO จะสามารถหาข้อยุติข้อพิพาทได้ค่อนข้างรวดเร็วและสามารถดำเนินการแก้ไขข้อพิพาทได้ง่ายกว่าระบบของแกตต์ เช่น เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2541 ไทยชนะคดีสหรัฐฯ กรณีห้ามนำเข้ากุ้งซึ่งกุ้งถือเป็นสินค้าอุตสาหกรรมดังที่กล่าวมาแล้ว แต่การที่ไทยเข้าเป็นภาคีองค์การการค้าโลกก็ได้รับความคุ้มครอง คือไทยไม่ถูกสหรัฐกระทำฝ่ายเดียว แต่สามารถใช้เวทีองค์การการค้าโลกเป็นเวทีในการต่อสู้เพื่อสิทธิที่ไทยเป็นภาคีดังกล่าว และสหรัฐถึงแม้จะเป็นประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจแต่ก็ต้องทำตามหลักสากลอยู่โดยในเรื่องนี้กฏหมายที่สหรัฐน่ามาบังคับใช้มาตร 20 เป็นการเลือกปฏิบัติโดยไม่มีเหตุผลสมควรและสหรัฐต้องปรับกฏหมายให้สอดคล้องกับพันธกรณีภายใน GATT/WTO

5. WTO ยกเลิกนโยบายปกป้องในเรื่องที่มีความละเอียดอ่อน เช่น ความตกลงจำกัดการส่งออกสิ่งทอ การปฏิรูปการค้าสินค้าเกษตร และการยกเลิกการจำกัดการส่งออกโดยสมัครใจ (Voluntary Export Restriction : VERs) เป็นต้น

6. WTO นั้นจะมีสมาชิกครอบคลุมทั่วโลกมากกว่า GATT โดยคาดว่าในที่สุด จะมีสมาชิกประมาณ 150 ประเทศ

ปล.2 GMOs (Genetically Modified Organisms) คือผลผลิตจากความก้าวหน้าของวิทยาการทางด้านเทคโนโลยีชีวภาพและชีววิทยาระดับโมเลกุล (molecular biology) เพื่อพัฒนายกระดับคุณภาพชีวิตของประชากรโลก ทั้งทางด้านโภชนาการ การแพทย์ และสาธารณสุข หรือจะเรียกง่ายๆว่า การตัดต่อยีนส์ด้วยการดัดแปรพันธุกรรมก็ได้

ปล.3 ประกาศๆๆ จขบ.อยากได้โค๊ดเพลงไผ่แดงมากๆ เลยค่ะที่มีอยู่เป็นของคุณจิ๊ก เธอเกเรมากเดี๋ยวฟังได้เดี๋ยวฟังไม่ได้ และ จขบ. เป็นคนขี้เกียจคลิกเพลงฟังเองค่ะ อยากได้เพลงไผ่แดงที่เปิดเข้ามาแล้วขึ้นเพลงเองเลยไม่ทราบว่าใครพอมีบ้างคะ ขอความกรุณาบริจาคโค๊ดไว้หลังไมค์ด้วยค่ะ..พรีส...ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ...เรื่องคุณนิติภูมิเสริชในเน็ท..ขอบคุณค่ะ





ขำขำ...ผู้ก่อการร้ายหนังสะติ๊ก + สาก....





คนออสเตรเลียบางส่วนต่อต้านการฆ่าคนไทยกันเอง






Create Date : 21 พฤษภาคม 2553
Last Update : 24 ตุลาคม 2553 12:30:26 น. 15 comments
Counter : 949 Pageviews.

 
มาเยี่ยมท่านวันศุกร์ครับ


โดย: nuyect วันที่: 21 พฤษภาคม 2553 เวลา:18:25:43 น.  

 
เฮ้อ...เคยอ่านมาเหมือนกัน สงสารคนจน


โดย: nawiya วันที่: 21 พฤษภาคม 2553 เวลา:19:28:34 น.  

 
สวัสดีตอนเย็นค่ะพี่ภัทร นั่งอ่านบทความ
แล้วก็อดถอนหายใจเฮือก เฮือก ไม่ได้
ประเทศไทยเปรียบไปก็คงเหมือนชีวิตคนเรา
คนเราเกิดมาเป็นเด็ก โตก็เป็นผู้ใหญ่ และเข้าสู่วัยชรา และตายลงในที่สุด
ประเทศก็คงเช่นกัน ตอนนี้ว่าไปอาจจะเป็นวัยชราของประเทศแล้วก็ได้
วันหนึ่งก็อาจตาย เพื่อที่จะเข้าสู่การเกิดใหม่
ไม่มีอะไรอยู่ค้ำฟ้า เวลาที่ยังมีในวันนี้
จึงต้องใช้ให้คุ้มค่าที่สุด เกิดประโยชน์ที่สุด
คิดให้ดี และทำดี...คงทำได้เท่านี้แหละค่ะพี่ภัทร
...
...
ว่าแล้วก็ไปหาทุเรียนกินดีกว่า
แพงหน่อย ยังไงก็ผลไม้ไทย หุ หุ


โดย: คนที่ใช่ ในวันที่ผิด วันที่: 21 พฤษภาคม 2553 เวลา:19:28:35 น.  

 
จะว่าไปการต่อสู้แบบสันติ อหิงสา
ก็ต้องทำใจอยู่แล้ว กับผลของมัน
ก็ดูอย่างอองซานซูจีสิคะ สู้มาตั้งนาน
ทุกวันนี้ได้อะไร ...
สันติ อหิงสา...มันก็แค่ทำให้เค้ารู้ว่า
ยังมีกลุ่มคนที่ไม่เห็นด้วยกับระบบ
การจะต่อสู้จนชนะ...เป็นเรื่องยาก
ขนาดคนตายขนาดนี้...เค้ายังไม่สะท้านอะไรเลย
บ้านเราเป็นเมืองพุทธ แกนนำยังมีจริยธรรม
ที่ไม่นำพาคนไปตาย ใช้คนเป็นโล่มนุษย์
แต่ผู้นำเราจริยธรรมอ่อนเหลือเกินค่ะพี่
ยังปั้นหน้าเก๋ยืนเท่ห์บนโพเดี้ยมได้สบาย
คิดแล้วเศร้า


โดย: คนที่ใช่ ในวันที่ผิด วันที่: 21 พฤษภาคม 2553 เวลา:20:33:59 น.  

 
มาส่งยำมาม่าค่ะ ทานแ้ก้เบื่อการเมืองนะคะ นอนหลับฝันดี พรุ่งนี้จะมาส่งใหม่ค่ะ อิอิ



โดย: กิวกิวอีกแล้ว อิอิ (LittleKIWKIW ) วันที่: 21 พฤษภาคม 2553 เวลา:21:36:49 น.  

 
มาอ่านจ้า

ไม่รู้เอาอะไรมาเขียนได้นักหนาสิน่ะ น่าทึ่งจริงๆ

แล้วก็ชอบเมนต์คุณคนที่ใช่ฯอีกแระ

จริงๆนะคะ คิดไปคิดมา สันติ อหิงสา ไม่มีวันชนะรบ.หน้าด้านไปได้

แค่โลกรู้...นั่นสิ...แล้วไงต่อ ?

..........



โดย: นักล่าน้ำตก วันที่: 21 พฤษภาคม 2553 เวลา:21:41:57 น.  

 
ฝันดีค่ะ


โดย: blog pu วันที่: 21 พฤษภาคม 2553 เวลา:21:56:29 น.  

 
สิบเก้า พฤษภา ปีห้าสาม
เกิดไฟลาม ลุกไหม้ ในเมืองหลวง
ใต้แผ่นฟ้า ร้างไร้ ซึ่งดาวดวง
หากโชติช่วง ด้วยไฟ บรรไลกัลย์
...
ราชประสงค์กลายเป็นประวัติศาสตร์
ประกาศ สงครามกลางเมือง ของชนชั้น
ชาวไพร่ ประกาศก้อง ไทยเหมือนกัน
ผู้นำ ท่านฆ่าฉัน ด้วยเหตุใด
...
สุทรท่าน อดีตผู้นำ พรรคฝ่ายค้าน
ประกาศลั่น อย่างไม่มี เงื่อนไข
แม้ประชา หนึ่งคน เรียกเรื่องใด
ยังต้องรับ ไว้ซึ่ง พิจารณา
...
พอวันนี้ รับบทใหม่ เป็นผู้นำ
ความจำ ก็เลอะเลือน ทำกังขา
สามัญสำนึก ที่ต้องมาก กว่าคนธรรมดา
พูดออกมา จากปาก ก็ปลิวไป
...
สั่งทหาร กระชับพื้นที่ เข้ารบลุก
เดินหน้าบุก "ขอพื้นที่คืน" ให้จงได้
ชีวิตประชา เสียเท่าไหร่ ไม่เป็นไร
ผู้ก่อการร้าย เป็นแพะให้ ใยกังวล
...
สิ่งต้องห้าม คือประชา ธิปไตย
มิรู้เจียม ต้องกำหราบ ให้ปี้ป่น
มัดมือเท้าปิดตา ทำคน ไม่ใช่คน
สิทธิ มนุษยชน อยู่หนใด
...
สิบเก้า พฤษภา ปีห้าสาม
เกิดไฟลาม กลางสวรรค์ อันยิ่งใหญ่
หลังจากการปราบไพร่ ให้แพ้ไป
จักโทษไพร่ ได้อย่างไร ว่าไพร่ทำ
เมื่อผู้นำ ท่านเลือกสลาย..ประชาชน
...
ขอมาเป็นกาพย์เป็นกลอนซักหน่อย
ตั้งใจว่าพ้นวันนี้ไปจะไม่เขียนการเมือง
แล้วค่ะ ต้องหยุดเติมฟืนสุมฟอนเหมือนกัน
เราคิดอย่างหนึ่ง เพื่อนท่านอื่นก็คิดต่างกันไป
อ่านแล้วเดี๋ยวจะติสขึ้นไปกันใหญ่
ราตรีสวัสดิ์นะคะพี่ภัทร
ฝันดีค่ะ


โดย: คนที่ใช่ ในวันที่ผิด วันที่: 21 พฤษภาคม 2553 เวลา:22:25:36 น.  

 
ปล...คนที่พี่ภัทรพูดถึง นำมาแปะให้ปายเหมือนกันค่ะ แต่ก็ปล่อยไว้ เห็นว่าเค้า
ไม่ได้มาระรานอะไร แต่ก็ไม่ได้ไปสุงสิง
เดี๋ยวขันติจะเป็นขันแตก แฮะ ๆ ๆ
การเมืองถ้าคิดต่างคิดกันยากค่ะ
ปายเลี่ยงดีกว่า


โดย: คนที่ใช่ ในวันที่ผิด วันที่: 21 พฤษภาคม 2553 เวลา:22:30:34 น.  

 
ก็อาจจะเป็นได้ หากว่าจะต้องย่อย..มันมีเค้า...แต่ขออย่าให้เป็นเลย...

สวัสดีวันหยุดจ้ะ...

นปช ...ก็มอบตัวเรียบร้อย...แต่คนที่สั่งฆ่าประชาชน...ยังลอยหน้าลอยตา....

มันช่างหน้าไม่อายจริง...ด้านอย่างอะไรดีน๊าาา???


สุขสดชื่นนะคะ สำหรับวันนี้




โดย: Opey วันที่: 22 พฤษภาคม 2553 เวลา:7:14:44 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับพี่ภัทร

อ่านแล้วทำให้ต้องคิดหนักๆเลยครับ
ว่าจะเลือกอนาคตประเทศไทยอย่างไรให้ลูกหลานของเรา








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 22 พฤษภาคม 2553 เวลา:8:25:51 น.  

 
ที่มา ข่าวสด
20 พฤษภาคม 2553

หนังสือพิมพ์ข่าวสดฉบับวันนี้ รายงานข่าวว่าสว.ประณามรัฐบาลอภิสิทธิ์หักหลังสภาสูงทั้งที่รับปากแล้วจะเจรจาปรองดองกับนปช. แต่กลับลำปราบปรามเพราะเชื่อว่าจะคุมสถานการณ์ได้ทั้งที่ได้เตือนแล้วว่าอาจเกิดเหตุจลาจลลุกลามตามมา ดังนั้นจึงนับว่ารัฐบาลสิ้นความชอบธรรมแล้ว ต้องรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ทุกอย่างรวมทั้งการจลาจลที่สร้างความเสียหายในเวลานี้

สว.ออกแถลงการณ์ประณามรัฐบาลหักหลังใช้ความรุนแรงเป็นต้นเหตุจลาจล

ข่าวสดรายงานว่า ภายหลังจากแกนนำนปช.ประกาศยุติการชุมนุมและเข้ามอบตัวกลุ่มส.ว.ไม่นิยมความรุนแรงออกแถลงการณ์ว่าขอบคุณและชื่นชมในความเสียสละของแกนนำที่เสียสละอิสรภาพเพื่อแลกกับเสียชีวิตของผู้บริสุทธิ์ และภาพลักษณ์ประเทศชาติโดยรวมวุฒิสภาขอให้คำมั่นว่าจะติดตามการใช้กระบวนการยุติธรรมแก่แกนนำทุกคนและผู้อยู่ในข่ายที่ต้องรับผิดชอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ได้รับความยุติธรรมตามกฎหมาย

วุฒิสภาขอประณามรัฐบาลที่ไม่ตอบรับข้อเสนอด้วยความจริงใจในการเข้าสู่กระบวนการแก้ปัญหาด้วยวิธีสันติทั้งที่ประสานกันไว้แล้ว จนเกิดการบาดเจ็บ สูญเสียชีวิตและทรัพย์สินวุฒิสภาเห็นว่านับจากนี้ต่อไปรัฐบาลมิอาจปฏิเสธความรับผิดชอบต่อการสูญเสียที่เกิดขึ้นครั้งนี้ได้

เตือนแล้วไม่เชื่อจะนำไปสู่จลาจล-ส.ว.ร่วมแถลงจี้รัฐบาลเลิกรุนแรง

พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช ส.ว. สรรหา ตัวแทนเจรจากับกลุ่มนปช.กล่าวว่าการเจรจากับแกนนำนปช.เมื่อค่ำวันที่ 18 พ.ค. ทราบดีว่าแกนนำนปช.ไม่ยอมเพราะคิดว่ามวลชน ผู้สนับสนุน จะตื่นและลุกขึ้นมาทำให้เกิดความวุ่นวายจนถึงสงครามกลางเมืองและสงครามล้างเผ่าพันธุ์ถ้าคนที่สนับสนุนนปช.ที่อยู่ตามจุดต่างๆโดยรอบกทม.และต่างจังหวัดลุกฮือขึ้นมาจริง ภาครัฐมีกำลังไม่เพียงพอแน่รัฐบาลต้องระวัง เพราะถ้าเขาจุดติด ประเทศไทยก็ไม่มีเหลือแต่ขณะนี้มีผู้ใหญ่หลายคนคุยกับรัฐบาลอยู่

เมื่อเวลา 10.45น.วานนี้ที่รัฐสภา นายนิคม ไวยรัชพานิช รองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 นายดิเรกถึงฝั่ง ส.ว.นนทบุรีอดีตประธานคณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปการเมืองและศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พร้อมด้วยส.ว.กว่า 20 คน ในนาม "กลุ่มส.ว.ไม่นิยมความรุนแรง"แถลงเรียกร้องรัฐบาลหยุดใช้อาวุธสงครามดำเนินการกับ ผู้ชุมนุม

นายนิคมกล่าวว่า วุฒิสภานำโดยนายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภาหามาตรการเรียกร้องทั้ง 2 ฝ่ายเจรจา และส่ง 5ส.ว.ไปเจรจากับแกนนำนปช.เมื่อค่ำวันที่ 18 พ.ค. ซึ่งแกนนำนปช.ยินดีหลังจากส.ว.ร่วมกับแกนนำนปช. แถลงรัฐบาลก็แถลงบ้างโดยบอกว่าขอบคุณในความหวังดี แต่ปรากฏว่าเช้าวันที่ 19พ.ค. กลายเป็นว่าการเจรจาช้าไปแล้วเพราะรัฐบาลตัดสินใจใช้ความรุนแรงสลายการชุมนุมซึ่งส.ว.เป็นห่วงความรุนแรงที่จะตามมาในกทม.รวมถึงหลายจังหวัดที่นายกสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านโทร.มาแจ้งว่ามีการก่อความวุ่นวาย จึงขอเรียกร้องรัฐบาลทบทวนให้ดีเพราะการปราบปรามไม่ยาก แต่ความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อชีวิต มีมากขอร้องสังคมช่วยกันเรียกร้องให้หยุดความรุนแรง

นายดิเรกกล่าวว่ากลุ่มส.ว.ไม่นิยมความรุนแรงขอแถลงการณ์ว่าเมื่อเช้าวันนี้(19พ.ค.)รัฐบาลได้ใช้กำลังทหารและตำรวจพร้อมยุทโธปกรณ์เข้าดำเนินการขอพื้นที่คืนจากผู้ชุมนุมนำไปสู่การเผชิญหน้าและปะทะกันในหลายจุดของกทม.และมีทีท่าว่าจะนำไปสู่การรุนแรงมากขึ้น ส.ว.ห่วงใยต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นคาดว่าจะนำไปสู่การสูญเสียชีวิตการบาดเจ็บของประชาชนและเจ้าหน้าที่จำนวนมาก และยังสูญเสียทรัพย์สินทั้งส่วนบุคคลและทางราชการได้ท้ายที่สุดคือการสูญเสียภาพลักษณ์ประเทศ

ขาดความชอบธรรมบริหารประเทศ

"กลุ่มส.ว.จึงขอเสนอต่อรัฐบาลและกลุ่มผู้ชุมนุมคือ
1.ขอให้ทุกฝ่ายโดยเฉพาะรัฐบาลหยุดใช้อาวุธสงครามดำเนินการกับผู้ชุมนุมโดยทันที

2.ให้รัฐบาลพิจารณาใช้ช่องทางการเจรจาที่วุฒิสภาประสานงานและเตรียมพร้อมไว้แล้วซึ่งเป็นวิถีสันติและช่วยมิให้มีการสูญเสียใดๆทั้งนี้วุฒิสภาเห็นว่าถ้ารัฐบาลยังดำเนินการต่อไปจะนำมาซึ่งการขาดความชอบธรรมที่จะเป็นผู้บริหารราชการแผ่นดินอีกต่อไป" นายดิเรก กล่าว

พล.ต.ท.ยุทธนา ไทยภักดี ส.ว.สรรหา ตัวแทนที่ไปเจรจากับแกนนำนปช. กล่าวว่าแกนนำนปช.รับปากแล้วว่าจะไม่ตอบโต้และเรียกร้องรัฐบาลถอนกำลังส่วนรัฐบาลประสานประธานวุฒิสภาว่าจะเจรจา พวกตนแจ้งแกนนำนปช.ว่าไม่น่าจะใช้กำลังแล้ว แต่พอใช้กำลังเมื่อเช้าวันนี้ส.ว.รู้สึกผิดหวังจึงขอเรียกร้องรัฐบาลหยุดใช้กำลังทันที และหันมาเจรจาต่อ

รัฐบาลต้องรับผิดชอบความสูญเสียทั้งหมด

นางนฤมล ศิริวัฒน์ ส.ว.อุตรดิตถ์ ตัวแทนที่ไปเจรจากับแกนนำนปช. กล่าวว่ารู้สึกผิดหวังที่รัฐบาลเข้าปฏิบัติการทั้งที่นายกฯพูดกับประธานวุฒิสภาให้วุฒิสภาเดินหน้าเจรจา แต่นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต. ประจำสำนักนายกฯ และนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เลขาธิการนายกฯ กลับพูดต่อสาธารณะอีกอย่างหนึ่งทำแบบนี้เหมือนหักหลังวุฒิสภา


นายยุทธนา ยุพฤทธิ์ ส.ว.ยโสธรตัวแทนที่ไปเจรจากับแกนนำนปช. กล่าวว่า เย็นวันที่ 18 พ.ค.ทั้งนปช.และรัฐบาลส่งสัญญาณบวกแต่เมื่อมีการสลายการชุมนุมในวันที่19พ.ค.ชี้ชัดว่ารัฐบาลขาดความจริงใจตั้งแต่แรก เมื่อเช้า(19พ.ค.)นายกอร์ปศักดิ์ประสานมาว่านายกฯระบุเจรจาจบนานแล้ว แสดงว่าฝ่ายบริหารไม่เห็นว่าสภาสูงมีความหมายทั้งนี้สังคมเตือนแล้วแต่รัฐบาลใช้ความรุนแรงจากหนักไปหนักกว่าทุกครั้ง


โดย: deeplove วันที่: 22 พฤษภาคม 2553 เวลา:8:26:48 น.  

 
สวัสดีตอนบ่ายค่ะพี่ภัทร
ขอให้ความเป็นธรรมยังพอหลงเหลือ
อยู่ในโลกใบนี้ด้วยเถอ
จะได้มีผู้เป็นอัศวินลุกขึ้นมาตรวจสอบ
รัฐบาล ถึงความไม่จริงใจในการแก้
ปัญหาครั้งนี้ด้วยวิธีการที่รุนแรง
เหมือนที่รัฐบาลกำลังพยายามตรวจสอบ นปช ว่าเป็นผู้ก่อการร้ายหรือไม่
...
ยิงกันสนั่น มีภาพหลุดของผู้เสียชีวิตมากมาย
แต่มียอดผู้ตายน่ากังขามาก
มิหนำซ้ำก็รีบประกาศเคอฟิวส์
ไม่อยากจะคิดเลย ว่าเพื่อทำลายหลักฐาน
โกยเก็บเหมือนเมื่อพฤษภาทมิฬที่แล้ว
แต่ก็ไม่รู้จะมองไปในแง่ใด
...



โดย: คนที่ใช่ ในวันที่ผิด วันที่: 22 พฤษภาคม 2553 เวลา:12:52:30 น.  

 
รัฐก็คงทำเนียนไปแหละค่ะพี่
ตอนนี้ก็ปล่อยภาพทหารป้อนข้าวผู้ชุมนุมสูงอายุ
เป็นภาพที่น่าประทับใจจริง ๆ
ทีภาพมัดมือปิดตาผู้คนในวัด ไม่เว้น
แม้แต่พระ ไม่เห็นถ่ายนำเสนอบ้าง
...
วันที่เค้าจัดรถไปรับผู้ชุมนุมในวัดปทุม
กลับบ้าน ผู้ชุมนุมถึงกับขอให้พรรคเพื่อไทย
ช่วยเป็นธุระจัดการให้ เค้ากลัวไปไม่ถึงบ้านกันค่ะพี่ อันนี้ปายฟังข่าวจากช่อง
สปริงรายงานออกอากาศเลย
น่าเศร้า
...
บทเรียนครั้งนี้ คงช่วยให้เราตัดสินใจ
ในการเลือกตั้งครั้งหน้าได้เป็นอย่างดี
รู้หน้าไม่รู้ใจ... จริง ๆ


โดย: คนที่ใช่ ในวันที่ผิด วันที่: 22 พฤษภาคม 2553 เวลา:13:44:04 น.  

 
ทักทายในวันหยุดค่ะ


โดย: blog pu วันที่: 22 พฤษภาคม 2553 เวลา:13:56:20 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.