deeplove
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]




Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2553
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
27 กรกฏาคม 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add deeplove's blog to your web]
Links
 

 
....ลองช่วยกันกำจัดขยะในหัวใจบ้างจะดีกว่ามั๊ย...(เธอจะลืมไหม)



เธอจะลืมไหม (Mark Farang)
By AnnaBell





เธอจะลืมไหม
(Mark Farang)
By AnnaBell


เสียงกระซิบ ของเธอ ยังก้องในหูของฉัน เรื่อยไป
และไม่เคยลบเลือนจากใจฉัน
แค่คำพูดเบาๆ ก็มีความหมายมากมาย ทุกคำ
และมันมีค่าเกินกว่า จะหลงลืม

แต่ถ้าต้องมีวันหนึ่ง เราบังเอิญต้องลาจาก
อยากรู้จะเกิดอะไร ถ้าต้องอยู่ ห่างกันนานๆ

เธอจะลืมคำพูด ของเธอหรือเปล่า ที่บอกว่ารักฉัน
เธอจะลืมมันไหม เมื่อเราต้องห่าง ไกลแสนไกล
เธอจะลืมไหม เธอจะลืมไหม สำหรับฉันไม่เคยลืม
ไม่มีวันที่ฉันจะเป็นอื่น ไป เธอเหมือนกันไหม

ไม่ต้องให้สัญญา ว่าเราจะยังรักกันจนกว่า
ตราบดินและฟ้าจะดับสลาย
ขอแค่คิดถึงกัน เก็บฉันที่เธอว่ารักในใจ
อย่าให้คนไหนมาแทนที่ฉันเลย

หากว่าต้องมีวันหนึ่ง เราบังเอิญต้องลาจาก
อยากรู้จะเกิดอะไร ถ้าต้องอยู่ ห่างกันนานๆ

เธอจะลืมคำพูด ของเธอหรือเปล่า ที่บอกว่ารักฉัน
เธอจะลืมมันไหม เมื่อเราต้องห่าง ไกลแสนไกล
เธอจะลืมไหม เธอจะลืมไหม สำหรับฉันไม่เคยลืม
ไม่มีวันที่ฉันจะเป็นอื่น ไป เธอเหมือนกันไหม

ถ้าเธอนั้นมีวันเปลี่ยนไป ฉันจะทำอย่างไร ยังไม่รู้

เธอจะลืมคำพูด ของเธอหรือเปล่า ที่บอกว่ารักฉัน
เธอจะลืมมันไหม เมื่อเราต้องห่าง ไกลแสนไกล
เธอจะลืมไหม เธอจะลืมไหม สำหรับฉันไม่เคยลืม
ไม่มีวันที่ฉันจะเป็นอื่น ไป เธอเหมือนกันไหม


หลังจากได้หยุด 4 วัน...พรุ่งนี้ต้องไปทำงานตามปกติ นึกถึงเรื่องงานแล้วเกิดความรู้สึกท้อใจและรู้สึกเหน็ดเหนื่อย ทั้งที่ได้พักตั้ง 4 วันแต่ทำไมถึงรู้สึกว่า 4 วันนี้ผ่านไปอย่างรวดเร็วเหลือเกิน..

นั่นอาจเป็นเพราะไม่อยากไปทำงาน อยากหยุดอยู่กับบ้านให้สาสมใจอยากของตัวเอง เรื่องราวในที่ทำงานมีมากมายมีร้อยพ่อพันแม่ที่ต้องมาเจอกันมาอยู่ร่วมกัน มีหลากหลายเรื่องราวสารพัดที่ทำให้สุขและทุกข์ วันก่อนมีเรื่องราวที่ทำให้เกิดความรู้สึกท้อใจ เมื่อได้รับรู้ถึงความอคติของคนที่เอาหัวโขนมาใส่ และตัดสินอะไรๆ ในแง่ความคิดตนเองและพวกตนเอง

วันก่อนมีการเรียกประชุมโดยพวกมีหัวโขนทั้งหลาย มีหัวโขนใหญ่สุดคนหนึ่งเรียกพวกเรา 10 กว่าคนไปประจานในที่ประชุมด้วยความไม่ชอบธรรม ที่พวกเราร่วมกันต่อต้านเป็นสิ่งที่ถูกต้องในแง่การทำงาน ซึ่งทุกคนต้องได้รับขวัญกำลังใจในการทำงาน หลังจากผ่านความเหน็ดเหนื่อยกับสารพัดงานและปัญหามากมาย แต่สิ่งที่ได้รับรู้นี้เป็นสิ่งทำลายขวัญและกำลังใจในการทำงาน...

การเรียกไปต่อว่าในแนวประชดประชันและประจานกัน เป็นสิ่งที่คนเป็นผู้บริหารไม่สมควรทำอย่างยิ่ง สิ่งที่ผู้บริหารควรทำเป็นลำดับแรก คือ ต้องพิจารณาว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่กำลังเป็นปัญหานี้เกิดจากอะไร ก่อนอื่นต้องหันกลับมามองดูตัวเองก่อนว่า เราเป็นผู้บริหารอย่างไร ลูกน้องถึงรวมหัวกันต่อต้านคำสั่งแบบไม่กลัวเกรงว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับอนาคตตัวเอง ซึ่งผิดธรรมเนียมของความเป็นลูกน้องที่ต้องเกรงกลัวหัวหน้าอยู่ในที

นอกจากไม่ได้พิจารณาตัวเองแล้ว ยังแสดงท่าทีเป็นปฏิปักษ์กับลูกน้องที่ไม่ตามใจตัวเอง ด้วยการใช้คำพูด ท่าที แสดงอำนาจในฐานะหัวหน้า ซึ่งลืมคิดว่าเมื่อถอดหัวโขนออกไปแล้ว ก็มีเงา มีหัว มีความรู้สึก มีทุกอย่างที่มนุษย์พึงมีเหมือนที่ลูกน้องทุกคนมีเช่นกัน แล้วจะใส่หัวโขนไปเพื่ออะไร กับคำพูดบางคำก็ควรยกเว้น เรื่องราวทั้งหมดเกิดจาก คนไม่กี่คนที่ใกล้ชิดและคิดว่าสักวันตัวเองต้องเป็นใหญ่หรือที่เรียกว่า นายว่าขี้ข้าพลอยก็ได้ มีบางคนเรียกร้องต้องการในสิ่งที่ตัวเองอยากได้ แต่ลืมคำนึงว่าสิ่งที่อยากได้นั้นผู้อื่นครอบครองอยู่และเค้าก็อยู่มาอย่างดี การที่คิดจะครอบครองของๆ ใครโดยลืมคำนึงถึงผลเสียของคนอื่น หวังแต่ผลประโยชน์ของพวกตัวเองจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง และสิ่งที่แย่ยิ่งกว่าคือ ผู้นำบางคนกลับคล้อยตามความคิดนั้น แล้วเอาไปด่าว่าในที่ประชุมว่าคนที่ไม่เห็นด้วยเป็นคนเห็นแก่ตัว...ซึ่งอยากถามมากๆ ว่าใครกันแน่ที่เห็นแก่ตัว...

ในที่สุดผู้คนที่สวมหัวโขนเหล่านั้นก็ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะสิ่งที่ทำนั้นไม่ถูกต้องและยังมีวิธีอื่นที่สามารถทำและหลีกเลี่ยงการกระทบกระทั่งได้ แต่ทำไมตอนแรกไม่เลือกทำ กลับเลือกที่จะทำให้ลูกน้องเกิดความรู้สึกไม่ดีและต่อต้าน เมื่อเค้าร่วมกันต่อต้านก็ด่าว่าเค้าว่าทำไมไม่พูดกันดีๆ ทำไมต้องต่อต้านในรูปแบบนี้..อ่าว..การต่อต้านต้องมีรูปแบบเดียวด้วยเหรอ..เค้าถึงว่ากันว่าอะไรไม่เกิดกับตัวเอง ตัวเองย่อมไม่รู้สึกนั้นเป็นจริงนี่ล่ะชีวิตมนุษย์เงินเดือนอย่างเราๆ..เฮ้อ..












เวลาที่เราเกิดความทุกข์ วิตกกังวล กระวนกระวาย ไม่สบายใจ ไม่ปลอดโปร่งแบบนี้เรียกว่า...ขยะหัวใจ....นั่นเป็นเพราะคนเราชอบแบกความคิดและไม่ยอมปลดปล่อย ไม่ปล่อยวาง ไม่ปรับเปลี่ยน จนกระทั่งในที่สุดกลายเป็นขยะรกหัวใจ เป็นคราบสกปรกที่เกาะติดเข้าไปเจือปนอยู่ในหัวใจ

คนเราส่วนมากไม่ค่อยรู้ตัวว่า ตอนนี้เราได้ซ่อนขยะลงไปในใจตัวเอง หรือไปรับขยะของคนอื่นมามาใส่ไว้ในหัวใจ สิ่งเหล่านี้เป็นขยะหัวใจที่พวกเราทุกคนควรกำจัดให้ออกไปจากใจเรา คือ


ความไม่พอใจ
ไม่ว่าไม่พอใจในตัวเอง และไม่พอใจคนอื่น ความไม่พอใจคนอื่นมีโอกาสเกิดได้มากกว่าความไม่พอใจในตัวเอง เป็นเพราะธรรมชาติของคนเรา ย่อมรักตัวเองมากกว่ารักคนอื่น ย่อมโทษคนอื่นก่อนโทษตัวเอง ย่อมเห็นความผิดของคนอื่นได้ก่อน และได้ชัดมากกว่าความผิดของตนเอง

จงจำไว้ว่าโลกนี้ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ มีขาดและมีเกิน ดังนั้นจึงควรมองข้อดีของแต่ละคนให้มากกว่าจุดบกพร่อง ซึ่งจะทำให้เกิดความพึงพอใจ นับถือซึ่งกันและกัน เป็นสิ่งที่สร้างสรรค์ มากกว่ามานั่งจับผิดกันที่เป็นหนทางไปสู่การมีเรื่องราวตามมาอีกมากมาย


ความผิดหวัง
นั่นเพราะคนเราชอบตั้งความหวัง ที่เป็นไปได้และไม่น่าจะเป็นไปได้ กับอดีตที่ผ่านมามีบางคนรู้สึกผิดหวังและท้อแท้ จงคิดไว้ว่าอดีตเป็นสิ่งที่ไม่สามารถย้อนคืนกลับมาได้ดังเดิม แต่อดีตมีสิ่งที่ดี คือเป็นบทเรียนที่คอยเตือนและให้สติ อดีตทำให้เราได้เรียนรู้ถึงความผิดพลาดที่ผ่านมาเพื่อให้ปัจจุบันและอนาคตไม่เกิดอีกและทำทุกอย่างในวันนี้และวันหน้าให้ดีกว่าอดีตที่เคยผ่านมา

ส่วนอนาคตก็อย่าไปคาดหวัง เพราะไม่มีใครรู้ถึงอนาคต แต่ก็เป็นสิ่งที่สามารถพอจะคาดเดาได้ว่าจะเป็นอย่างไรจากผลที่กระทำในปัจจุบัน และไม่ว่าอนาคตจะสมหวัง หรือผิดหวังก็อย่าทุกข์ท้อใจ จมอยู่กับความเศร้าเสียใจและเก็บเป็นขยะในหัวใจ


ความอิจฉาริษยา
ถือเป็นขยะที่รกใจคนเรามากที่สุด โดยเฉพาะความอิจฉาริษยาคนอื่น โดยเฉพาะเห็นคุณอื่นได้ดีมีความสุข ร่ำรวยเงินทอง เกียรติยศมากกว่า จงหยุดคิดสักนิดว่าทุกครั้งที่อิจฉาริษยาใคร ตัวเราเองก็จะหมดความนับถือตัวเองลงไปทุกที จงหยุดอิจฉา แล้วลองเปลี่ยนแนวคิดใหม่ จงชื่นชมยินดีเมื่อเห็นคนอื่นได้ดีและมีความสุข และควรยินดีกับเขา


ความยึดมั่นถือมั่น
เป็นขยะที่คอยฉุดรั้งให้คนติดยึดในสิ่งที่ไม่จีรัง ไม่ว่าการยึดมั่นในทรัพย์สมบัติ คน สิ่งของ จนไม่สามารถปล่อยวางจนทำให้ใจเกิดทุกข์ถ้าหากไม่เป็นอย่างนั้น ก็ทำให้คนยึดมั่นถือมั่นเกิดความทุกข์เพราะใจไปปรุ่งแต่งให้เกิดความรู้สึกไปเองว่านั่น นี่ โน่น เป็นของเรา ลองลบขยะกองนี้ออกไปจากใจเราด้วยการยอมรับความจริงว่า อะไรๆ ในโลกนี่ก็ไม่ใช่ของเราทั้งสิ้น แม้กระทั่งร่างกายของเราก็เช่นเป็นแค่ของที่ยืมมา ใช้ได้ชาตินี้ชาติเดียว เดี๋ยวก็เสื่อม ก็แก่ ก็เจ็บ และตายไปในที่สุด ทุกสิ่งมีเกิดก็ย่อมมีวันดับ เป็นแบบนี้ตลอดสังขารเป็นของไม่เที่ยง ต้องคืนร่างกายสังขารนี้สู่สภาพดิน น้ำ ลม ไฟ เน่าเปื่อยผุพังไป สิ้นความสวยความหล่อ ลาภยศ สรรเสริญเป็นแค่ภาพลวงตาเท่านั้นเอง


ความกลัว
เป็นขยะที่เกิดจากใจคนเราปรุงแต่ง เช่น กลัวจะไม่มีใครรัก กลัวจะไม่มีเงินใช้ กลัวความมืด กลัวตกงาน กลัวโน่นกลัวนี่ แล้วกลัวไปทำไม เพราะเรื่องบางเรื่องก็เกิดขึ้นเอง เป็นเรื่องที่เราไปห้ามไม่ให้เกิดไม่ได้ มันอยู่นอกเหนือการควบคุม กลัวไปก็เท่านั้น ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น ในบางเรื่องไม่มีวันเกิดก็กลัวล่วงหน้าไปแล้ว บางคนกลัวจนเจ็บป่วยไข้ก็มี แบบนี้เรียกว่ากลัวจนเป็นโรคประสาท วิธีที่ดี คือทำใจยอมรับทุกอย่างที่เกิดเพื่อไม่ให้เป็นขยะรกใจเรา


ความอยาก
เป็นขยะที่มีกันทุกคน ความอยากไม่มีวันสิ้นสุด แต่จง " อยาก " ให้พอดีกับกำลังกาย กำลังทุน และกำลังสติปัญญาของตัวเอง อย่าอยากจนเกินกำลัง เพราะจะทำให้สิ้นกำลังได้ง่าย แล้วกลายเป็นคนพ่ายแพ้ อ่อนแอ หมดสิ้นความทะเยอทะยานอยากในชีวิต ทางที่ดีจงเป็นนายของความทะเยอทะยานอยาก รู้ว่าต้องจำกัดความอยากที่มีไว้แค่ไหนให้พอเหมาะกับตัวเองจะได้ไม่มีขยะรกเรื้อในใจเรา...


วิธีทำให้ใจของเราสะอาด..ขั้นแรกก็ด้วยการปล่อยวาง อย่าไปยึดติดและอยู่กับปัจจุบันกับความเป็นจริงในปัจจุบันให้มากที่สุด อยู่กับสิ่งที่ถูกต้องควรจะเป็น การปล่อยวางสิ่งต่างๆ ลง เท่ากับการเทขยะทิ้ง การอยู่กับปัจจุบัน เท่ากับการปิดฝาถังขยะ ไม่เปิดรับขยะใหม่ๆ ให้ใจต้องสกปรกรกรุงรังอีก


เมื่อได้ทิ้งขยะที่มีอยู่ในใจเราแล้วเราควรหาอะไรทำ เพื่อให้ชีวิตไม่ว่างพอที่จะไปเก็บขยะมารกหัวใจเราอีก เช่น หาอะไรที่น่าตื่นเต้นทำในแต่ละวัน มีข้อแม้ว่าเป็นสิ่งดีที่ทำให้ชีวิตดีมีค่าขึ้นนะคะ อาจไปเที่ยวในที่ๆ ไม่เคยไปกับคนที่รู้สึกดีๆ พอเหมาะกับเงินในกระเป๋า

เมื่อเจอใครลองยิ้มทักทายทั้งที่ไม่รู้จักบ้างก็ได้ เค้าอาจจะคิดว่ายัยนี่ถ้าจะบ้ามาส่งยิ้มอะไรให้ก็ช่างเค้าขอให้เราได้ส่งยิ้มให้ผู้คนก็พอแล้วเผื่อจะได้คนแปลกหน้าเป็นเพื่อนที่ดีอีกสักคน อาจจะเข้าไปช่วยเหลือใครสักคนเล็กๆ น้อยๆ ลองมองสิ่งต่างๆ รอบๆ ตัวเราบ้างอาจได้พบอะไรที่เป็นความสุขอย่างที่เราไม่เคยสังเกตมาก่อนก็ได้

อาจจะลองอยู่เงียบคนเดียวแล้วนั่งคิด คิดถึงสิ่งที่ผ่านมาหรือคิดถึงอนาคตที่ดีที่จะถึงก็ได้ แต่อย่าคิดจนใจเกิดทุกข์เพราะเรากำลังรีแลกซ์ตัวเอง ลองมองโลกในแง่ดี หรืออาจชวนเพื่อนที่สนิทไปเรียนทำอาหาร วาดรูป หรือนัดไปชอปปิ้ง นั่งดูพระอาทิตย์ตกดินแถวบ้าน หรือชวนกันมาปลูกผักผลไม้และรอผลงานที่ช่วยกันทำก็ได้

อาจนัดเพื่อนๆ ที่ไม่ได้เจอกันมานานมาทำอะไรทานกัน หรือเจอกันที่ร้านอาหารโปรดของแต่ละคนก็ได้เพื่อย้ำเตือนมิตรภาพเก่าๆ เลิกกังวลกับสิ่งต่างๆ รอบตัวจงมีความสุขกับสิ่งรอบตัวที่เรามีเราเป็นให้มากที่สุด หยุดตามกระแสสังคม แล้วทำตามความคิดตัวเองบ้างก็คงดี และให้บอกตัวเองเสมอว่าไม่มีอะไรสายเกินแก้ ลองค้นหาตัวเองด้วยประสบการณ์ดีๆ แปลกใหม่

ฝึกความพอเพียง ก็อาจทำให้เรารู้จักคำว่าพอ เปิดโลกให้ตัวเองด้วยการไปดูหนัง ฟังเพลงกับคนที่รู้สึกดี หรือฉายเดี่ยวก็ได้ถ้าไม่เคยทำก็ให้รสชาติอีกแบบหนึ่ง ที่สำคัญลองรู้จักแบ่งปันความรู้สึกที่ดีให้คนอื่นด้วยการมองโลกในแง่ดีมีแง่คิด พูดกับคนอื่นด้วยคำพูดที่ดีและน่าฟัง มีความรับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองทำเป็นคนรักษาคำพูดและสัญญา แค่นี้ขยะในหัวใจที่เคยสกปรกรกรุงรังก็สามารถทำให้หัวใจได้รับโอโซนที่ดีเข้าไปทดแทนและค่ะ...555555....






Create Date : 27 กรกฎาคม 2553
Last Update : 24 ตุลาคม 2553 10:59:49 น. 18 comments
Counter : 3409 Pageviews.

 
แวะมาเยี่ยมตอนใกล้ค่ำ สวัสดีครับ

ไปต่างจังหวัดเพิ่งกลับมา หยุดสี่วันได้ไปเที่ยวไหนไหมครับ


โดย: **mp5** วันที่: 27 กรกฎาคม 2553 เวลา:18:47:44 น.  

 
นั่นสิค่ะ .. หยุด 4 วัน จะว่านานก็นานนะค่ะแต่ว่ามันก็ผ่านไปไวจัง ขนาดคนไม่ได้ทำงานทำการยังรู้สึกเลย สำหรับคนทำงานเหนื่อยทุกวันยิ่งรู้สึกได้มากกว่านี้แน่นอนค่ะ ..

ทำงานร่วมกับคนหมู่มาก อยู่ในสังคม ย่อมเจอทั้งคนดีและไม่ดี ตรงใจและไม่ตรงใจเราเอง เราเองก็ไม่สามารถทำให้คนอื่นชอบได้ตลอดเวลา เพราะฉะนั้นเราก็คงต้องทำตัวกลางๆ ฝึกใจให้กว้างๆ เห็นแง่มุมต่างๆ ก็คงต้องเลือกแต่แง่ดีๆ มาเป็นแรงใจส่งกำลังให้เราอยู่ต่อไปอย่างคนมีอารมณ์ดีเรื่อยไปค่ะ


อาทิตย์นี้ AF ดูจะสบายขึ้นนะค่ะ เพลงบางเพลงที่ร้องไม่ได้ ไม่รู้จักมาก่อนก็มาได้รู้จักเอาอาทิตย์นี้ล่ะค่ะ เลยแอบร้องเป็นกับเค้าไปด้วย นี่ก็คงเป็นส่วนดีนะค่ะหนิที่ทำให้เราได้เปิดกว้างรับเพลงใหม่ๆ เฮฮา .. อย่างเพลงคราม จิ๊จ๊ะ และก็ ถ้า เป็นต้นค่ะ 55+


โดย: JewNid วันที่: 27 กรกฎาคม 2553 เวลา:18:53:45 น.  

 
คุณภัทรจ๋า หลับยัง!!

งวดนี้ ไม่ได้ดูAF เลยเชื่อป่ะ

แวะมานั่งอ่านข้อมูลที่บล็อคคุณภัทรจ้า


โดย: I_sabai วันที่: 27 กรกฎาคม 2553 เวลา:20:38:53 น.  

 
มารอบดึกจ้าคุณภัทรนั่งอ่านจนหมดเลย

อย่างว่าอะเน๊าะทำงานกะคนหมู่มากแล้ว

ยิ่งเป็นระบบเงินเดือนอีกแม่เจ้าkimขอลา

เลยแบบนี้อิอิ...แต่มาคิดอีกทีก็ถ้าทายดี

เหมือนกันเพื่อนมาบ่นให้ฟังขยันให้ตาย

สู้เป็นเด็กนายไม่ได้นายชอบอะไรพี่แก

ชอบด้วย..นายอยากได้อารายจัดหามา

ให้ได้ 2ขั้นทุกปี..กำเลยประเทศไทย

นอนหลับฝันดีน่ะค่ะ..บ๊ายบายยย



โดย: kim (นกน้อยจงแกร่ง ) วันที่: 28 กรกฎาคม 2553 เวลา:0:46:04 น.  

 
่สวัสดีวันสีเขียวค่ะ ไปลุยในสวนมาค่ะ เหนื่อยมาก ไปทั้งครอบครัว หมดแรงกันทุกคน ปีหน้าไม่ทำแล้วค่ะ


โดย: ไผ่สวนตาล วันที่: 28 กรกฎาคม 2553 เวลา:13:02:28 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

ดีจ๊ะน้องภัทร พี่ก็พาน้องแปงแปงหยุดไปหลายวันเรยอ่ะ ไปๆมาๆเหมือนพาแปงแปงโดดเรียนซะงั้น (ไม่ได้ตั้งใจเรย)


โดย: พี่แป๊ว (แม่น้องแปงแปง ) วันที่: 28 กรกฎาคม 2553 เวลา:14:25:19 น.  

 
พอนึกถึงที่ทำงานแล้วก็เครียดเลยค่ะ แต่พอนึกถึงเงิน นะ ถึงแม้จะไม่มากมายในแต่ละเดือน แต่ก็บัลดาลทุกอย่างที่อยากได้ เดี๋ยวนี้หลังสวดมนต์ตอนกลางคืนเสร็จ ก็จะท่อง บทเพิ่ม เงิน เงิน เงิน ถึงจะมีแรงใจทำงาน


โดย: blog pu วันที่: 28 กรกฎาคม 2553 เวลา:16:05:48 น.  

 
ขอขอบพระคุณมากๆนะค่ะ..

วันนี้ไปทำบุญและทำความดีเยอะมากค่ะ

แบ่งบุญมาฝากให้ด้วยนะค่ะ..



ขอให้มีแต่ความสุข-ความเจริญนะค่ะ


โดย: คนผ่านทางมาเจอ วันที่: 29 กรกฎาคม 2553 เวลา:0:28:48 น.  

 



ขอบคุณพี่พี่พร้อม..........เพื่อนผอง
มาฝากไมตรีกรอง..........ก่อพร้อม
ยามนี้ที่น้ำนอง..............น่าหวั่น
ยามเหนื่อยนี้มี่น้อม.........นับร้อยขอบคุณ

ขอบุญกุศลจิตเอื้อ.........อวยพร
แด่ทุกท่านสุนทร...........ทั่วถ้วน
เป็นสุขสถาพร..............พิพัฒน์ยิ่ง
ประสบโชคดีล้วน..........เลิศล้ำนำคุณ

ขอบคุณทุกคนที่มาทักมี่นะคะ
อิอิยังเหนื่อยๆกับธุระที่ต้องไปทำค่ะ
คืนนี้ฝันดีนะคะพี่ๆทุกคน

...............................ญามี่///...


โดย: ญามี่ วันที่: 29 กรกฎาคม 2553 เวลา:0:46:13 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับพี่ภัทร

การ์ตูนมนุษย์ทำงานนี่น่ารักจังเลยครับ 5555







โดย: กะว่าก๋า วันที่: 29 กรกฎาคม 2553 เวลา:5:48:31 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

ได้คติสอนใจเพียบเลย
มีความสุขมากๆๆครับ


โดย: รมย์รวินท์ วันที่: 29 กรกฎาคม 2553 เวลา:11:50:01 น.  

 
มาชื่นชมและเป็นกำลังใจให้คุณภัทร์ค่ะ สู้ต่อไปนะคะ


โดย: คนสองภาค วันที่: 29 กรกฎาคม 2553 เวลา:14:34:08 น.  

 
สวัสดีวันสีฟ้าค่ะ แวะมาทักทายช่วงสายๆค่ะ


โดย: ไผ่สวนตาล วันที่: 30 กรกฎาคม 2553 เวลา:10:49:48 น.  

 
สวัสดีตอนดึกครับ^_^

ผมก็เป็นมนุษย์เงินเดือนคนหนึ่ง เข้าใจและเห็นใจคุณภัทร ในเรื่องที่คุณเจอ
เพราะผมเองก็เจออยู่บอยๆเหมือนกันอะ
เอาเป็นว่า ผู้บริหารที่ดี คือคนที่ลูกน้องรัก เพื่อนรัก ใครๆก็รักใช่ป่าว
บางทีคนเราก็อาจลืมตัวได้เมื่อมีคนครอบหัวโขนให้
ก็อยู่ที่ว่าท่านจะใส่ไว้บนหัวตลอดเวลา หรือโอบเอาไว้ข้างสะเอว เอิ๊กๆๆ^_^

สุขสันต์วันหยุดที่ผ่านมาของคุณภัทรด้วยครับ ยิ้มเข้าไว้ๆ สู้ๆนะ^_^


โดย: sitsapan วันที่: 31 กรกฎาคม 2553 เวลา:1:40:17 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับพี่ภัทร








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 31 กรกฎาคม 2553 เวลา:7:03:43 น.  

 
วันนี้รู้สึกเบื่อจังเลยค่ะพี่ เหมือนมีอะไรมาสะกิตต่อมเบื่อกำเลิบ


โดย: blog pu วันที่: 31 กรกฎาคม 2553 เวลา:14:39:34 น.  

 
ผมโชคดีครับพี่ภัทรที่ภาษาไม่เอาไหน
แต่มีเมียดี พูดภาษาเก่งครับ 5555
ถือว่าพระเจ้าชดเชยให้ในส่วนที่ขาดครับ 5555

หมิงหมิงเลยเป็นเด็กที่พูดสามภาษาพร้อมกันเลยครับ 5555




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 31 กรกฎาคม 2553 เวลา:19:04:19 น.  

 
สวัสดีค่ะ..

ครอบครัวตัว"ออ"ออกอาละวาดอีกแล้วนะค่ะ

ใช้conceptเสื้อสีชมพูพาแม่ทำบุญค่ะ



โดย: คนผ่านทางมาเจอ วันที่: 31 กรกฎาคม 2553 เวลา:23:30:40 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.