deeplove
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]




Group Blog
 
<<
กันยายน 2553
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
27 กันยายน 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add deeplove's blog to your web]
Links
 

 
คำว่าเพื่อน..เป็นความหมายที่ยิ่งใหญ่ (เพลงดอกนกยูง)







"เพลงดอกนกยูง"
"นันทวัน เมฆใหญ่"


เมื่อเวลาที่ลมร้อนกำลังจะพัด จะพัด มา
ต้น ดอกนกยูงก็พา กันผลัด ใบ
ใบแก่ ก็ร่วงหล่นไป
เหลือเพียงดอกไว้..งามเหลือ แสน

เจ้ายืนต้น อาบแดดอาบลม
ให้คนเชยชม งามคล้าย วิมานแมน
ใบอ่อน เกิดมีมาแทน
งามใด ไหนจะแม้น เหมือนดอกนกยูง

ดูสิ งามน้อย หรือไร
ถูกใจ แต่ว่า อยู่สูง
งามแท้ หนอดอก นกยูง
แม้ว่า อยู่สูง ก็ยังได้ชม

ฉันพอใจ ในสี แสนสวย
แม้บุญช่วย คงสิ้น ขื่นขม
ขอให้ร่วง ลงมา กับลม
ให้ฉันได้ชม นะดอก นกยูง







เพลงดอกนกยูงในบล๊อกนี้ได้ฟังจากบล๊อกเพลงโดยไม่ตั้งใจ ฟังแล้วทำนอง เนื้อร้องเพราะดี จขบ.คิดเองนะว่าเป็นทำนองเพลงเศร้าๆ ทั้งที่เนื้อเพลงไม่มีอะไรบอกถึงความเป็นไปของดอกนกยูง เพลงดอกนกยูงคำร้องประพันธ์โดย ครูล้วน ควันธรรม ทำนองดัดแปลงทำนองจากเพลงญี่ปุ่น ขับร้องโดย นันทวัน เมฆใหญ่ เสริชไปเสริชมาเจอเพลงเกี่ยวกับดอกไม้มากมายไม่ว่าเพลงกล้วยไม้ ซึ่งได้ยินพี่ๆ ที่ทำงานร้องตอนออกงานกันเป็นประจำ ฟังจนชินจนร้องได้บางท่อน หรือเพลงปาริชาติ จันทน์กระพ้อร่วง ปาหนัน ก็ล้วนเป็นเพลงเกี่ยวกับดอกไม้ เพลงเก่าๆ ยิ่งฟังยิ่งเพราะนะคะ

สมัยเด็กๆ ก็ตั้งหน้าตั้งตาเรียนหนังสือมีความสุขที่ได้ไปโรงเรียนได้ไปเจอเพื่อน ได้ทำกิจกรรมให้โรงเรียนเมื่อครูเรียกไปช่วยงานโรงเรียน ได้แต่งตัว แต่งหน้าสวยๆ เวลาที่ทำกิจกรรมต่างๆ ของโรงเรียนได้ประสบการณ์การเรียนรู้จากวิชาการ และประสบการณ์ชีวิตที่ไม่เคยได้จากที่บ้านแต่หาได้จากโรงเรียนจากการได้พบปะกับคนอื่นไม่ว่า คุณครู แม่ค้าขายของที่โรงเรียน ภารโรง ผู้ปกครองนักเรียนคนอื่นๆ ที่สำคัญคือได้รู้จักเพื่อน และมีเพื่อนใหม่ในทุกๆ ปีที่เลื่อนชั้น นอกจากเพื่อนแถวบ้านแล้ว เพื่อนที่โรงเรียนนับว่าเป็นเพื่อนที่สนิทที่สุด

เมื่อเรียนจบหางานทำ ได้งานก็มีสังคมใหม่เกิดขึ้นเป็นสังคมการทำงาน ก็มีเพื่อนใหม่เป็นเพื่อนร่วมงานที่ต้องอยู่กันจนเปลี่ยนงานหรือออกจากงานนั่นล่ะ มีทั้งเพื่อนร่วมงานเก่าและใหม่ผลัดกันเข้ามาให้รู้จักและขยายเป็นวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีที่สิ้นสุดเพราะในแต่ละปีจะมีคนเข้าออกงานกันทุกปีและทั้งปี

เพื่อนร่วมงานจึงเป็นเพื่อนที่ดูเหมือนว่าจะคบกันนานมากกว่าเพื่อนสมัยเรียนไปซะแล้ว คือถ้าไม่เปลี่ยนงานเลย ก็นับตั้งแต่เข้างานอายุประมาณยี่สิบกว่า จนออกจากงานก็หกสิบได้ สามสิบถึงสี่สิบปีทีเดียวที่ต้องอยู่กับเพื่อนร่วมงาน กว่าจะทำความรู้จักกว่าจะรู้ใจกันก็ใช้เวลาหลายปีอยู่ ถ้าไม่นับการเปลี่ยนงานใหม่ที่ต้องเริ่มทำความรู้จักเพื่อนร่วมงานกันใหม่ทุกครั้งที่ต้องเปลี่ยนงานแต่เป็นการขยายการได้มีเพื่อนเพิ่มขึ้นไปอีก

การวางตัวจึงเป็นสิ่งสำคัญไม่ต้องมีฟอร์มอะไรมากมาย เป็นตัวของตัวเองน่ะดีที่สุด รู้เค้ารู้เรา มีความเกรงใจ มีน้ำใจและสิ่งสำคัญคือ มีความจริงใจให้กัน แค่นี้ก็น่าจะเพียงพอกับการที่จะได้เพื่อนดีๆ สักคนหรือสักกลุ่มหนึ่ง แต่เมื่อได้เพื่อนร่วมงานมาเป็นเพื่อนแล้วก็ไม่ได้หยุดแค่คำว่า มีเพื่อนเพราะการคบหาเป็นเพื่อนกันตลอดไปนั้นยากยิ่งนัก แต่ละคนก็มาจากครอบครัว สถาบันที่แตกต่าง สภาพแวดล้อมที่ไม่เหมือนกัน อุปนิสัยก็แตกต่างกันอีก จึงต้องมีเทคนิคในการทำงานร่วมกับคนอื่นมาช่วยสมานฉันท์

สำหรับตัวเองเมื่อเข้างานใหม่ๆ ด้วยตัวเองเป็นคนมีมนุษย์สัมพันธ์ค่อนข้างดีชอบทักทายคนโน้นคนนี้ด้วยการแนะนำตัวเองและชวนคนอื่นคุย ขณะที่คุยก็พยายามสังเกตคนที่เราคุยด้วยว่าเค้าอยากจะคุยหรือไม่อยากคุยอยู่ในอารมณ์ไหน การคุยที่ดีควรให้เกียรติคนที่เราคุยด้วยอย่าพยายามไปซักประวัติคนที่เพิ่งรู้จัก เพราะคำว่าเพื่อน ไม่มีคำว่าฐานะ การศึกษา เงินตราเข้ามาเกี่ยวข้องในการรู้จักกันอยู่แล้วมีแค่เพียงความรู้สึกดีๆ ให้กันแค่นี้เอง

เมื่อได้รู้จักพูดคุยกันแล้ว ควรสร้างทัศนคติที่ดีต่อกันเพื่อให้เกิดความรู้สึกที่ดีต่อกัน จะทำอะไรให้คิดถึงหัวอกเค้าหัวอกเรา เข้าใจผู้อื่นและตนเอง มีอะไรพอแบ่งปันกันได้ก็แบ่งปัน อย่าเอาหัวโขนใส่เพื่อคบกันเพราะจะทำให้เกิดทัศนคติที่ไม่ดีต่อกัน ถ้าหากมีความในใจต่อกันแล้วการทำงานร่วมกันก็จะไม่เกิดผลดีและไม่ราบรื่นเป็นอุปสรรคต่อการทำงานมากมาย

อย่าเอาเรื่องส่วนตัวมาเกี่ยวข้องกับการทำงาน แยกแยะให้ได้ ทัศนคติเป็นสิ่งสำคัญจงมีทัศนคติที่ดีในการมองเพื่อนร่วมงาน และเกี่ยวกับงานที่ได้รับมอบหมายมาทำ การทำงานที่แบ่งพรรคแบ่งพวกทำให้เกิดทัศนคติการทำงานไม่ดี ด้วยนิสัยของคนบางคนไม่ชอบสุงสิงกับใครถึงเวลาทำงานก็ทำงานอย่างจริงจังเหมือนเช่นคนที่มีเพื่อนและพวกมากมายแต่ด้วยเป็นเพราะนิสัยส่วนตัวเป็นคนรักสันโดษจึงไม่ค่อยมีเพื่อนเป็นกลุ่มก้อน แต่ไม่ได้หมายความว่าคนแบบนี้จะไม่เอาเพื่อน ไม่คบใครเลยถึงเวลาที่ต้องได้รับความร่วมมือคนประเภทนี้ก็โดดเข้าช่วย เหมือนที่คนอื่นๆ ทำแต่คนประเภทนี้มักจะแพ้ถ้าหากมีการออกคะแนนเสียงของคนส่วนใหญ่ นั่นเกิดจากทัศนคติในการรักพวกพ้องตนเองซึ่งเป็นทัศนคติที่ไม่ดีจริงๆ ขาดความยุติธรรม

อย่างที่บอกการมีน้ำใจไมตรีต่อกันเป็นหลักง่ายในการคบกันระหว่างเพื่อนซึ่งมีส่วนช่วยกระชับพื้นที่..เอ๊ยไม่ใช่กระชับความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น อย่ามองข้ามการแสดงน้ำใจให้กันแม้จะเป็นแค่เพียงสิ่งเล็กๆ น้อยๆ เช่นช่วยงานเพื่อน ช่วยเป็นหูเป็นตายามเพื่อนยุ่ง หรือดูงานเพื่อไม่ให้งานผิดพลาดแบบร่วมด้วยช่วยกัน เมื่อเพื่อนมีธุระ เจ็บป่วยไข้ก็ดูแลสอบถามอาการเพื่อน อาจพาเพื่อนไปหาหมอหายาให้เพื่อนกินเพื่อป้องกันในระยะต้น เวลาไปไหนมาไหนก็มีของติดไม้ติดมือมาฝาก ยามที่ได้ไปเที่ยวพักผ่อนกลับมา สิ่งเหล่านี้จะช่วยทำให้เขารู้สึกว่าเราไม่ได้ เป็นแค่เพื่อนร่วมงานอย่างเดียว และต่อไป ถ้าเรามีเหตุที่จะต้องพึ่งพาเขา เชื่อเถอะค่ะว่า เขาจะต้องเต็มใจแน่นอน

เพื่อนบางคนช่างคุยช่างเจรจา บางคนก็ชอบอยู่เงียบๆ บางคนชอบฟังคนอื่นคุย ต้องรู้จักฟังและพูดบ้างเพื่อให้คนอื่นรู้ว่าเรากำลังรู้สึกและคิดยังไง หัดฟังความคิดเห็นของคนอื่นบ้างซึ่ง บางครั้งการได้ฟังความคิดเห็นคนอื่นบ้างก็ดีกว่าคิดเองเออเอง หรือทำอะไรคนเดียว เพราะทุกคนต่างก็มีความคิดเป็นของตนเอง ความคิดแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน การรับฟังความคิดเห็นของคนอื่น จะเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่จำเป็นต่อการทำงาน เพราะจะได้แนวคิดในการทำงานที่แตกต่างไปจากมุมมองที่เรามอง ต้องลองเปิดใจให้กว้างแล้วจะเห็นในสิ่งที่ไม่เคยคิดจะได้เห็น

รู้จักการให้อภัย ในโลกนี้มีใครบ้างที่ไม่เคยผิดพลาดแม้แต่ตัวเราเองก็ไม่รู้ว่าเคยผิดพลาดมากี่ร้อยหน เราต้อง ยอมรับในความผิดพลาด ไม่โยนความผิดให้คนอื่น ไม่ตีโพยตีพายเพราะไม่เกิดประโยชน์อะไรมีแต่ขาดสติ การยอมรับความผิดพลาดเป็นการแสดงให้เพื่อนร่วมงาน ได้เห็นถึงความรับผิดชอบที่มีและทำให้คนอื่นเกิดความรู้สึกดีๆ

การกล่าวชมเชย การขอโทษ การพูดคำว่าเสียใจ การพูดคำว่าขอบคุณ คำเหล่านี้ทำให้คนรอบตัวรู้สึกดีและสามารถเปลี่ยนสถานการณ์ที่เลวร้ายให้กลายเป็นดีได้ เช่น การกล่าวชมผู้อื่นทำให้คนๆ นั้นรู้สึกดี มีกำลังใจจะทำในสิ่งที่เรากล่าวชมเค้ามากยิ่งขึ้น ถ้าเป็นเรื่องงานทำให้กระตือรือล้นที่จะทำงานมากกว่าเดิมและอาจทำให้งานประสบความสำเร็จซึ่งเป็นสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่ไม่ควรมองข้าม เรื่องแค่นี้ไม่ลองไม่รู้และถ้าใครประสบความสำเร็จในการครองใจผู้อื่นโดยเฉพาะเพื่อนร่วมงานก็แวะมาบอกที่บล๊อกนี้ด้วยนะคะ...











































Create Date : 27 กันยายน 2553
Last Update : 22 ตุลาคม 2553 11:41:06 น. 22 comments
Counter : 2222 Pageviews.

 
สวัสดีค่ะ
เป็นคนเพื่อนน้อยค่ะ อาจเป็นเพราะข้อเสียของตัวฉัตรเองก็ได้ จากที่เป็นคนที่คิดมาก(เกินไป) บางครั้งแค่รู้สึกว่าเค้าไม่พอใจเรา หรืออาจไม่อยากคุยด้วย ก็จะถอยห่างออกมาทันที เพราะกลัวคนอื่นจะรำคาญ...ยอมอยุ่โดดเดี่ยวดีกว่าเป็นคนน่ารำคาญของคนอื่นประมาณนั้นค่ะ
จากที่คิดมาก เพราะเราคิดไปเอง ซึ่งคนรอบข้างหรือเพื่อนยๆ เราเค้าก็ไม่รุ้ตัวด้วยซ้ำ เลยกลายเป็นคนเพื่อนน้อยไปโดยปริยาย อิอิ
สบายดีหรือป่าวคะ
แวะมาส่งเข้านอนค่ะ ฝันดีมากๆ นะคะ







โดย: ณ ปลายฉัตร วันที่: 27 กันยายน 2553 เวลา:22:50:04 น.  

 

คำว่าเพื่อนเป็นความหมายที่ยิ่งใหญ่จริงๆ ค่ะแวะมาอ่านก่อนนอนจ้า


โดย: อุ้มสี วันที่: 27 กันยายน 2553 เวลา:23:47:17 น.  

 
สวัสดีค่ะ..

เรายังเป็นเพื่อนกันอยู่นะค่ะ..

และคิดว่าจบข.ก็มีเพื่อนมากมายเหมือนกัน..

มีความสุขมากๆในทุกๆวัน



โดย: คนผ่านทางมาเจอ วันที่: 27 กันยายน 2553 เวลา:23:56:47 น.  

 
สวัสดีครับ แวะมาเยี่ยมครับ
เพื่อนพัชสบายดีนะ...อิอิ...เพื่อนพัชสู้ๆนะ


โดย: บูรพากรณ์ วันที่: 28 กันยายน 2553 เวลา:0:47:49 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับพี่ภัทร


บล้อกนี้ของพี่ภัทร
อ่านแล้วได้แง่คิดมุมมองที่ดีมากเลยครับ










โดย: กะว่าก๋า วันที่: 28 กันยายน 2553 เวลา:6:33:50 น.  

 
แวะมาทักทายหลังเลิกงานค่ะ

ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนในสถานะเช่นไร
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือความจริงใจ นะคะ

สองสามวันนี่งานรึ่มเลยค่ะ
ว่างแล้วจะแว่บมาหาอีกนะคะ คุณภัทร







โดย: อิ่ม_Aim วันที่: 28 กันยายน 2553 เวลา:16:31:00 น.  

 
หวัดดีค่ะพี่สาว..

ต้นอ้อเห็นด้วยกับพี่ภัทรเรื่องของการไม่เอาเรื่องส่วนตัวมาเกี่ยวกับเรื่องงาน ส่วนมากทุกคนย่อมเข้าใจในแง่ทฤษฎี แต่จะหาคนปฎิบัติได้ก็ยากเหมือนกัน เพราะตรงกับที่ทำงานต้นอ้อตอนนี้เลยค่ะพี่ภัทร ตัวเองเป็นผู้ใหญ่กว่าและอยู่ในตำแหน่งสูงกว่า แต่คงเป็นเพราะอยู่นานเลยได้ตำแหน่งมาซะมากกว่า

แยกไม่ออกระหว่างเรื่องงาน เรื่องส่วนตัว แม้กระทั่งเรื่องการเมือง ที่เห็นตรงข้ามกับเรา แต่แทนที่จะวางตัวเฉยๆไม่พูดเรื่องนี้ในที่ทำงาน เพื่อรักษาบรรยากาศหรือไม่ก็เพื่อมิตรภาพ แต่ที่ใหนได้ ชีกลับใช้โอกาสที่ตำแหน่งสูงกว่า ด่าว่ากระแทกหรือเหน็บแนมเราในเรื่องที่ไม่เป็นเรื่องเพราะไม่ชอบเราที่อยู่คนละขั้วกับตัวเอง...บางทีก็โดนตอกกลับไปบ้างเพราะคนละเรื่อง พาลยันจะปิดสาขาหรือย้ายสาขาก็มีค่ะพี่ภัทร...

ลืมไปว่าตัวเองเป็นพนักคนหนึ่งเ่ท่านั้นไม่ได้เป็นเจ้าของบริษัทซักหน่อย ชิชะ

ทนไปเรื่อยๆค่ะพี่ภัทรไม่เอามาใส่ใจคนพวกนี้...

วันนี้ยาวหน่อยนะคะไม่ได้เม้นอะไรยาวๆมานานมาก พี่ภัทรกลับจากทำงานหรือยังคะ คืนนี้ขอให้หลับฝันดีั มีความสุขมากๆ่ค่ะ


โดย: ต้นอ้อท้าลม วันที่: 28 กันยายน 2553 เวลา:19:26:44 น.  

 
ชาลีแวะมาฟังเพลง
พร้อมกับอ่านแง่คิดดีๆ
เกี่ยวกับเพื่อน ^^


โดย: sierra whiskey charlie วันที่: 28 กันยายน 2553 เวลา:20:20:37 น.  

 
คุณภัทรมาวันนี้พร้อมกะเรื่องเพื่อน

มุมมองดีๆที่เราอาจรู้ แต่หลายครั้งเราอาจลืมได้

มาอ่าน เตือนใจตัวเองกันอีกครั้งเนอะ

อา..มีดอกหางนกยูงที่นักล่าฯชอบด้วย

คิดถึงค่า...



โดย: นักล่าน้ำตก วันที่: 28 กันยายน 2553 เวลา:21:31:06 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับพี่ภัทร











โดย: กะว่าก๋า วันที่: 29 กันยายน 2553 เวลา:7:05:18 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณภัทร์

...เพื่อน...

...เพื่อน...

...เพื่อน...

เพื่อน... ไม่มีหลักไม่มีเกณฑ์ตายตัวนักสำหรับคนสองภาค ออกจาอธิบายยากอยู่สักหน่อยแต่สรุปแล้วอาจคล้ายๆ ว่าจะใกล้เคียงคุณฉัตร (๕๕๕+) แต่ก็ไม่ใช่เสียทีเดียว ๕๕๕+ (ฮาฝืดน่ะ)

บางทีอาจเพราะเข้าเราและเข้าใจเขามากเกินไปเลยทำให้เราดูเหมือนเป็นคนคบยากอยู่สักหน่อยล่ะมั้ง ๕๕๕+

สรุปว่าตัวชั้นบ้า... (เพลงค่ะเพลง ๕๕๕+)


โดย: คนสองภาค วันที่: 29 กันยายน 2553 เวลา:15:48:18 น.  

 
ฝันดีนะคะพี่


โดย: blog pu วันที่: 29 กันยายน 2553 เวลา:20:29:30 น.  

 
งือๆ คุณภัทรจ๋า

รอคุณภัทรมากเลย อยากให้อ่านเรื่องสั้นเรื่องที่แล้ว

ถ้าพอมีเวลาแวะไปอ่านนะคะ เรื่องร้ายกว่าโจรอะค่ะ


โดย: นักล่าน้ำตก วันที่: 29 กันยายน 2553 เวลา:21:38:21 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับพี่ภัทร

อีกหน่อยหน้าที่สอนการบ้านลูก
คงต้องยกให้มาดามครับ
มาดามเป็นฝ่าย "วิชาการ"
ส่วนผมจะสอนแต่ "วิชาเกิน" ครับ 555










โดย: กะว่าก๋า วันที่: 30 กันยายน 2553 เวลา:5:20:22 น.  

 


เพลงนี้เก่ามะมาก ไม่เคยฟังจ้า^^
เมื่อวานนี้ฝนเทลงมาอย่างหนัก
ตกแพล๊บเดียวท่วมตั้งเยอะ
สงสัยจะเป็นฝนสั่งฟ้า
เพราะเช้าๆ บางวันเริ่มเห็นหมอกแล้ว
คงใกล้หน้าหนาวแล้วเน๊าะคุณภัทร...



โดย: I_sabai วันที่: 30 กันยายน 2553 เวลา:8:43:03 น.  

 
รับรองว่าทริปหน้าจุใจแน่ค่ะ จะไปวันที่ 6 นี้ ขี่ไปสิงค์โปร์ค่ะ ยาวเลยหล่ะ

ช่วงนี้ยังฝนชุก ก็ได้แต่หวังว่าจะแข็งแรงพอ ไม่ป่วยระหว่างทางซะก่อน ^^

กลับมาถึงจะรีบทำสกูปให้อ่านเลยค่ะ


โดย: blue passion วันที่: 30 กันยายน 2553 เวลา:16:34:01 น.  

 
อ่านแล้วก็อดนึกถึงเพื่อนไม่ได้ค่ะ


โดย: blog pu วันที่: 30 กันยายน 2553 เวลา:19:11:54 น.  

 
กลบทนาคราชแผลงฤทธิ์ (แบบศิริวิบุลกิตติ์)

เงียบยามดึกนึกมอบตรงขอบหมอน
ตอนขื่นหมองลองนอนพลางวอนว่า
พาเวิ้งว้างล้างลับยามหลับตา
อย่าลอยตามถามหาชีวาเรา

เช้าวันรุ่งพรุ่งนี้ขอมีสม
ขมเหมือนสู่คูถมคู่ลมเป่า
เค้าหลอนปรับกลับปันมาบรรเทา
เหมาบทท่วมรวมเศร้ามาเผาเคียง

เมียงผ่านเคลิ้มเสริมทรวงผันล่วงทุกข์
ผูกแหล่งทางพลางปลุกสนุกเบี่ยง
เสียงไหนเบื่อเหลือล้างอย่าวางเรียง
เยี่ยงวันร้าวก้าวเลี่ยงอย่าเกี่ยงคอย

ฝันดีค่ะคุณภัทร




โดย: ญามี่ วันที่: 1 ตุลาคม 2553 เวลา:1:12:20 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับพี่ภัทร










โดย: กะว่าก๋า วันที่: 1 ตุลาคม 2553 เวลา:7:02:01 น.  

 
สวัสดีวันสีฟ้าค่ะ ชอบบ้านนี้เพราะว่าได้ข้อคิดแบบธรรมชาติดี ทำให้คิดถึงสมัยเมื่อยังทำงานอยู่


โดย: ไผ่สวนตาล วันที่: 1 ตุลาคม 2553 เวลา:10:13:00 น.  

 
แวะมาราตรีสวัสดิ์ค่ะพี่ คืนนี้อยากนอนเร็วๆจัง รู้สึกง่วงมากเลยคะ


โดย: blog pu วันที่: 1 ตุลาคม 2553 เวลา:19:21:34 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับพี่ภัทร









โดย: กะว่าก๋า วันที่: 2 ตุลาคม 2553 เวลา:7:16:35 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.