๐๐..... ปริศนามาตา บทที่ 56 .....๐๐
บทที่ 56
เราเข้ามาในฮอลล์ใหญ่ เสียงดนตรีอึกทึก หนุ่มสาวหลากหลายแฟชั่นดิ้นกันอยู่กลางฟลอร์ ถัดเข้าไปข้างในหญิงชายวัยกลางคนจับคู่เต้นรำในเสต็ปต่างๆ ละลานตา น่าแปลกที่เสียงเพลงไม่ปะปนกัน
อย่างนี้เขาเรียกอะไร เธค คลับ หรือผับกันแน่ครับ ผมถามข้างหูคุณเด่น
ผมก็ยังงงๆ อยู่นะ โน่น! มุมโน้นเด่นเห็นไหม มีวงดนตรี มีนักร้องเหมือนไนท์คลับในสมัยโบราณ คุณเด่นชี้ให้ผมดูนักร้องสาวกลางวงสปอร์ตไลท์บนเวที เธอในชุดราตรียาวระยิบระยับแต่งหน้าเข้มผมตีโป่งสูง ยืนสะอิ้งจีบปากร้องเพลงอ้อนแขกที่กำลังสโลว์อยู่บนฟลอร์
ไปด้านหน้าเมื่อกี้เหอะ ตรงนี้ไม่ค่อยสนุก ใจผมเริ่มคึกคักตามเสียงดนตรี ผมดึงมือคุณเด่นที่ยืนลังเลมองอะไรสักอย่างอยู่
เดี๋ยวๆ ขอผมดูอะไรก่อน.. คุณเด่นกำลังมองไปที่ชายสองคนและหญิงคนหนึ่งบนฟลอร์ ทั้งสามคนหันหน้าเข้าหากันกับท่าเต้นประหลาด แต่ละคนยืนขาติดพื้นเข่าชิดกัน เหวี่ยงเข่าเหวี่ยงสะโพกและเท้าไปทางเดียวกันสลับซ้ายขวาตามจังหวะเพลง ย่อสะโพกขึ้นลงยกขาขึ้นข้างหนึ่งบ้างแล้วแต่สเต็ปและความมันของแต่ละคน ถ้านึกภาพไม่ออกลองนึกภาพสุนัขยกขาเขย่งเยี่ยวรดเสาไฟฟ้า..นั่นละใช่เลย
จังหวะทวิสท์ใช่ไหมที่พวกเขากำลังเต้นอยู่ อีกแล้วที่ผมมีความเชี่ยวชาญในสิ่งที่ไม่เคยรู้ไม่เคยเห็นมาก่อน
แต่ผมชอบท่าเต้นนั้นมากกว่าครับ ผมสะกิดให้คุณเด่นดูอีกกลุ่มหนึ่งที่กำลังยื่นแขนตรงไปข้างหน้า สลับขึ้นลงสวนกัน สะบัดหัว สะบัดสะโพกขึ้นลงสั่นไปทั้งตัวตามเสียงชึ่งๆ ของเพลงซึ่งคึกคักกว่าจังหวะทวิสท์ วาตูซี่ จังหวะวาตูซี่..ผมอยากเข้าไปเต้นกับพวกเขาจัง
เดี๋ยว! เดี๋ยว! ผมไม่ได้ดูคนเต้นรำ แต่ผมกำลังดูคนที่กำลังเต้นทวิสท์สามคนนั่น คุณเด่นคงรำคาญที่เห็นผมเริ่มยึกยัก
รู้จักเขาหรือครับจ้องเอาจ้องเอา..เค้าหันมามองแล้วนะครับ คุณเด่นไม่จ้องเปล่าเดินรี่เข้าไปหาชายวัยกลางคนที่หันมามอง อีกคนก็พลอยหันมา
รอผมด้วยสิครับคุณเด่น ผมรีบเดินตามคุณเด่นที่ดูเหมือนจะลืมผมไปชั่วขณะ เมื่อเดินเข้าไปใกล้เห็นหน้าถนัดๆ คนแรกผมไม่รู้จักแต่คนที่สองคลับคล้ายคลับคลา
พ่อใช่ไหมครับ? มาทำอะไรที่นี่?..
พ่อ! ผมหูผึ่งทันทีเมื่อได้ยินเสียงคุณเด่นทักชายคนแรก
ไม่! ชายคนนั้นมองคุณเด่น มองผม แล้วแหวกคนเข้าไปในฟลอร์ คุณเด่นรีบสาวเท้าตามโดยมีผมตามไปติดๆ..เราเดินวนหากันสักพักแต่ไม่มีวี่แววของพ่อคุณเด่น เอ่อ..พ่อผมด้วยละซี
กรุ๊กกริ๊ก! กรุ๊กกริ๊ก! ไม่น่าเชื่อว่าท่ามกลางเสียงอึกทึกนั้นผมจะได้ยินเสียงสร้อยลูกปัดของพี่ตุ๊กตาถนัดถนี่
อ้อ! อยู่ตรงนี้เอง ฮึ! ผู้อำนวยการงานสร้าง ไม่เพียงแต่ ฮึ ที่คุณเด่นเอาของผมไปใช้ นิสัยเปรียบเปรยประชดประชันก็เอาไปด้วย..เพิ่งรู้ตัวว่าไม่ดีเลย
พี่ตุ๊กตาเหลียวมามองยิ้มกวนประสาท สะบัดหัวสะบัดตัวเต้นรำต่อไปอย่างเมามัน
ออกไปข้างนอกเถอะ คุณเด่นคว้าข้อมือผมลากออกจากฟลอร์ เราแหวกผู้คนต่างชนิดต่างรูปแบบออกมา
ฮะ..ฮะ.. ผมอดขำไม่ได้ที่เห็นแก้มและลำตัวคุณเด่นมีรอยลิปสติกหลากสีติดอยู่
อะไร? หัวเราะอะไร.. คุณเด่นก้มดูตามสายตาที่ผมมองอยู่ นี่แน่ะ! เอื้อมมือป้ายแก้มผม หันให้ดูสีลิปสติกบนมือ เด่นก็มีเหมือนกัน แต่ไม่ขำอย่างผม
อย่าเครียดสิครับ..ผมเสียอีกที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยเกี่ยวกับที่นี่ยังไม่วิตกอะไร ผมเลิกหัวเราะ
ผมก็ไม่ได้รู้อะไรมากกว่าเด่นสักเท่าไหร่ แต่เมื่อกี้คือพ่อผมนะ..พ่อเด่นด้วย มาทำอะไรที่นี่ ไม่อยู่ในที่ทางที่ควรอยู่..แต่..ช่างเถอะ!..ผมลืมไปว่าเวลาผ่านไป ภพต่างกัน สายสัมพันธ์คงไม่เหมือนเดิม คุณเด่นลากผมไปมุมมืดห่างจากกลุ่มคน
ก็ไม่เสมอไปนะครับ ทีแม่ บ๊วย หรือตัวคุณเด่นเองยังผูกพันกับผมทั้งที่เรา..อยู่คนละภพกันแล้ว
ก็เพราะเด่นยึดผมไว้ไม่ยอมให้จากไป..
เฮ้ย! อย่าโมเมงั้นสิครับ ใครกันแน่ที่ไม่ยอมให้ทุกอย่างจบลงตามกฎเกณฑ์ของธรรมชาติและกระแสกรรม ผมเหลียวมองผู้คนที่ยืนคุยอยู่ประปราย ไม่ห่างจากเรานัก
ผมเอง!..ผมเอง ที่ไปไหนไม่ได้ ติดอยู่กับเด่น..ผมเอง.. คุณเด่นยอมรับเสียงอ่อน เบียดตัวเข้าชิดหาไออุ่น..อากาศเย็นเหมือนกันเมื่ออยู่ห่างจากกลุ่มคนและแสงไฟ
พ่อคงมีเหตุผลอะไรสักอย่างที่ไม่ปรากฏตัวให้เห็น ผมเปลี่ยนเรื่องสนทนาเกรงคุณเด่นจะทำขายหน้า
เด่นนะ! คุณเด่นรู้ทัน กอดผมดื้อๆ ไม่อายสายตาใคร เมื่อไหร่จะมีโอกาสอย่างนี้ พี่ตุ๊กตาคงเต้นมันจนลืมเรา..ให้ผมกอดหน่อยนะ..ผมอาจจะไม่ได้กอดเด่นอีกถ้าเราแก้ปัญหาไม่ตก ผมยังนึกไม่ออก มืดแปดด้านอยู่เลย
ว่ากันว่าปัญหามีไว้ให้แก้ ถ้าเราตั้งใจจริงวันหนึ่งคงหลุดพ้นจากปัญหานี้ ผมไม่ขัดขืนอะไรกับอ้อมกอดของคุณเด่น นึกสงสารความรู้สึกแน่วแน่ที่ได้รับ..ความรู้สึกตอกย้ำให้ผมต้องรับผิดชอบและจากไปไหนไม่ได้เช่นกัน
ฮะแอ้ม!.. ใครคนหนึ่งเข้ามาขัดจังหวะ
คุณน้า! คุณเด่นร้องด้วยความประหลาดใจ ปล่อยมือจากผมซึ่งถึงบางอ้อ..มิน่าถึงคุ้นๆ คุณน้าผู้ชายที่ไปงานศพเบื๊อกที่กรุงเทพฯ นั่นเอง
น้าอยากมาชี้แจงเรื่องพ่อไม่ไปที่บ้าน คุณน้าพูดไม่เงยหน้า ผมสังเกตเห็นรอยซ่อมหลายรอยบนใบหน้า ลำคอและช่วงแขน
สวัสดีครับคุณน้า..เมื่อไหร่ครับนี่? ผมไหว้ทักทาย ตายังอยู่ที่รอยซ่อม นึกเดาสถานะของคุณน้า
ไม่นานหลังจากกลับจากกรุงเทพฯ..อุบัติเหตุน่ะครับ คุณน้าพูดจาเรียบร้อยลดท่าทางประกอบเกือบหมด
เสียใจด้วยครับ ผมพูดในฐานะคนปกติ
ไม่เสียใจหรอกครับ ผมได้มาอยู่กับพ่อเด่นแล้วไง..อีกอย่างทุกคนต้องตาย ตายแล้วก็เหมือนคนเป็นๆ นี่แหละครับ อยู่ปนกันกับคนปกติ แต่จะทุกข์หรือสุขนั้นอีกเรื่อง แล้วแต่บาปบุญที่ได้ทำเมื่อยังมีชีวิตอยู่ คุณน้ายิ้มปลงๆ
จริงหรือครับ? ผมชักทึ่งกับความรู้ใหม่
จริงแน่นอนครับ..เด่นลองมองรอบๆ ตัวสิ บางคนอาจตายไปแล้วก็ได้ แต่ยังใช้ชีวิตอย่างคนธรรมดา โดยเฉพาะคนเลวคนโหดร้าย..นั่นนะผี ไม่ใช่คนหรอกครับ คุณน้ายิ้มเป็นนัยๆ
คุยกันจัง!.. คุณเด่นตัดบท สำเนียงหวงๆ ไหนล่ะครับเรื่องของพ่อ?
พ่อพยายามไปที่บ้าน.. คุณน้าหันไปทางคุณเด่น แต่มีใครไม่รู้ตัวดำๆ สองคนห้ามไม่ให้เข้าไป..พ่อเด่นเล่าว่าพวกเขารังเกียจและกลัวว่าจะนำความคิดผิดๆ มาปลูกฝังให้เด่นหล้า ดูเขาเป็นห่วงเด่นหล้ามากกว่าเด่นเก้า
พี่ตุ๊กตา! ฮึ่ม!.. คุณเด่นกัดกรามพูด
ใครหรือ?..แฟนเด่นหล้าหรือ? คุณน้าถามผม
เฮ้ย! ผมสะดุ้งเฮือก สะดุ้งเพราะคำถามของคุณน้าและภาพพี่ตุ๊กตาที่กำลังสางขุมเข้ามา
คุณน้าช่วยบอกพ่อด้วยนะว่าผมเข้าใจพ่อดีแล้วทุกอย่าง ยังรักพ่อเสมอไม่ต้องเป็นห่วงพวกเรา อยู่ในที่ๆ พ่ออยากอยู่ คุณเด่นรีบพูดเพราะรู้ดีว่าจะเกิดอะไรขึ้น ผมฝากดูแลพ่อด้วยนะครับ คุณเด่นร้องบอกคุณน้าที่เลือนหายไปอย่างรวดเร็ว
กรุ๊กกริ๊ก! กรุ๊กกริ๊ก!
สาวสวยสี่คนเดินตามหลังพี่ตุ๊กตามา ยังไม่ทันที่ผมและคุณเด่นจะตั้งตัว พี่ตุ๊กตาชี้มือไปที่คนที่น่ารักที่สุด ทำสัญญาณให้เข้ามาหาผม คนสวยรองลงมาเข้ากอดคุณเด่น สองคนที่เหลือพี่ตุ๊กตาคว้าไปนัวเนียไม่ห่างจากเรานัก
อะไรกันนี่! ความรู้สึกในใจเราสองคนสื่อสารถึงกัน...
Create Date : 12 ธันวาคม 2551 |
|
6 comments |
Last Update : 13 ธันวาคม 2551 8:29:48 น. |
Counter : 612 Pageviews. |
|
|
|
พี่ตุ๊กตายังคงใจร้ายต่อไป
ตามหลักการของโซบ๊อปครับ
และตามหลักการของคนทั่วไปส่วนมาก...
ผมจะพยายามช่วยนะครับ...
ดีน ครับ.....