Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2551
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
9 ตุลาคม 2551
 
All Blogs
 
นินทาเพื่อนฝรั่ง(ที่ทำงาน..)กันมั๊ย?? เอ๊ย..พูดถึงอ่ะค่ะ




แอนน์ทำงานร้านนี้ค่อนข้างจะมีความสุขมากๆ กับการที่เคยทำงานผ่านมาในชีวิตการทำงาน นับตั้งแต่เรียนจบมา แต่ก็ยังแค่ 7 เดือนเองกับที่นี่ มันจะเหมือนกับว่าผ่านปัญหามาบ้างแล้ว ก็เลยหาทางออกให้ตัวเองได้ หัดหลีกปัญหา หัดมองเลยผ่านไป และรวมทั้งระบบการทำงานของฝรั่งเองทำให้การทำใจมันง่ายขึ้น แอนน์ก็เลยอยู่อย่างมีความสุข ณ ตอนนี้



แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น จริงๆแล้วไม่ใช่จะไม่มีเรื่องบ่นนะคะ มีบ้าง แต่หัดมองข้ามปัญหา หัดมองส่วนที่ดี เพราะแอนน์มองคนจากข้างใน ดูรวมๆทุกคนแล้วน่ะ ค่อนข้างมีจิตใจที่ดี ส่วนที่จะนินทาเนี่ย แอนน์คิดว่ามันมาจากสิ่งที่ถูกเลี้ยงกันมาตามแบบของแต่ละคนตั้งแต่เด็กจนโตมากกว่า หรือ..พฤติกรรม อ่ะค่ะ เช่น คนล้างจาน ที่ผ่านมาเนี่ย ก็มีหลายรุ่นนะคะ จนสุดท้ายก็ต้องจบลงที่เจ้านายไปทำเองค่ะ เพราะไม่มีใครอยากมาล้างจาน ด้วยเหตุผลล้านแปดของแต่ละคน ซึ่งนั่นก็คือเค้าเองก็มองหาสิ่งที่ดีให้กับตัวเค้าเอง ซึ่งอันนี้ไม่มีใครว่าใครอยู่แล้วนะ เรื่องธรรมชาติซะละ แต่เด็กล้างจานหลักๆเนี่ย อายุไม่ถึง 20 เรียนหนังสือ ถือว่าเป็นเด็กดีทีเดียว อายุ 16 หาเงินแล้ว เป็นสิ่งที่ดี แต่เค้ามาได้ช่วงเย็น ช่วงบ่าย 4 โมง แล้วทีนี้ตอนเช้าจานชามก็จะกองกันอยู่ ทีนี้ประมาณว่าบางวันงานไม่ยุ่ง พนักงานหน้าร้านมีเยอะ ว่าง หรือคนออกออร์เดอร์ยืนเฉยๆ เจ้าของร้านก็ให้ไปล้างจาน(อันนี้ต้องโทษเจ้าของร้านด้วยส่วนหนึ่ง..เพราะไม่ได้แจ้งคนงานตั้งแต่ตอนรับ..พอเค้างอน อันนี้เลยต้องโทษเจ้าของร้านนะ) ทีนี้ล่ะ...สิ่งที่แอนน์สังเกตุเห็นนะ หลายคนโกรธ แล้วก็จบลงด้วยการหายไป ไม่มาทำงาน แต่แอนน์เองไม่เคยไปถามเพื่อนหรือนายให้รู้เหตุผล เดาเองก็รู้ได้ และซึ่งไม่รู้จะไปถามให้ได้คำตอบอะไรในเมื่อพอจะเดาออก เพราะ...บางคนนะ ล้างจานไป กระแทกกระทั้นไป เฮ้อ..กรรมของหูแอนน์ เป็นพักๆอ่ะค่ะ แต่ก็ไม่ทุกคนค่ะ บางคนก็หน้าบึ้ง ที่แย่ที่สุดนั่น บางคนเนี่ย ไม่ได้ลาออก ไม่ได้บอก ไม่ได้อะไร เช้ามาในวันทำงานวันต่อไปเนี่ย หายไปในกลีบเมฆเลยค่ะ อันนี้ไม่น่าทำเป็นอย่างยิ่ง แอนน์ถือว่าเสียมารยาท แอนน์คิดว่า จะให้เป็นให้ตายยังงัยชั้นต้องบอก เค้าจะพอใจหรือไม่เรื่องของเค้าเจ้านายหรือเพื่อนอ่ะ ตัวเราที่เจอปัญหา เราต้องทำให้ตรงที่สุด



ผลกระทบกับแอนน์อ่ะเหรอ ก็สอนคนทำงานเนี่ย สอนแล้วออกๆ มันก็นะ เบื่ออ่ะ แต่ก็ไม่พูด เลี่ยงๆไป เพราะพูดไปจะได้อะไร ทำขมองตัวเองปวดปล่าวๆปลี้ๆ ปรกติเพื่อนที่ร้านก็บอกว่าแอนน์อารมณ์ดีอยู่ตลอดเวลาเลย จริงๆแล้วแอนน์ก็ไม่ได้ร่าเริงทั้งหมด มีบ้างที่เบื่อๆปัญหาเล็กๆเหล่านี้ แต่ก็คิดในใจอ่ะนะ เรื่องเราก็ไม่ใช่ จะไปเดือดร้อนทำไม ในเมื่อปัญหาแบบนี้เห็นมาตั้งแต่เริ่มทำงานแล้วอ่ะ เซ็งไปก็ทำลายความหยักบนสมองแอนน์ที่มันไม่ค่อยหยักให้มันทู่ลงไปอีกน่ะ


(ทำซอสพาสต้า วันพุธ ทำไว้แต่เช้าเลย ต้มนานถึง 4 ชม. นี่ยังไม่เสร็จ ทำเสร็จ เต็มหม้อเลย)

อันดับต่อมาก็คือ แต่ละคนล้างจานเนี่ย บางทีก็อดไม่ได้ที่จะเข้าไปบอกนะ แต่ไม่ได้บอกอย่างน่าเกลียด แอนน์จะค่อนข้างใช้คำที่นุ่มนวล เพราะ 1.เราไม่ใช่เจ้านายหรือผู้จัดการ 2.ประสบการณ์ที่ผานมาบอกว่าการพูดโดยการเลี่ยงคำบางคำเนี่ย จะทำให้คนฟังยอมทำตาม

เช่น

---->ล้างมีดแล้วพักให้แห้งเนี่ย เกือบทุกคนเอาด้านคม ตั้งขึ้น นึกออกป่าวคะ ปรกติผู้ใหญ่บ้านเราสอนนะให้เอาด้านคมลงพื้น เกิดอุบัติเหตุอะไรขึ้นมา ความเสี่ยงจะน้อยลงงัย เอาง่ายๆ ใครจะรู้จะสะดุดล้มอะไรตอนไหน คนซุ่มซ่ามก็มีเยอะ อย่างแอนน์เป็นต้น ถ้ามันบังเอิญล้มไปในทิศทางที่วางมีดแบบนั้นอยู่ แหม..มีดยาวเสียด้วยนะ แต่จะยาวจะสั้นมันก็มีด ไม่ใช่แค่เจ็บตัวนะ มันจะมากกว่านั้น อันนี้อดไม่ได้ที่ต้องเข้าไปบอกอ่ะ และ..แอนน์สังเกตุนิสัยคนก่อนบอกด้วยค่ะ ถ้าใครที่ดูแล้วมักเอาความคิดตนเป็นใหญ่ แอนน์ก็จะไม่บอก แต่จะไปกลับด้านคมไว้ด้านล่างเอง เพราะอีกอย่าง คือก็ไม่รู้ว่าคนๆนี้จะทำงานได้กี่วันงัย เพราะเท่าที่เห็น ส่วนใหญ่มาทำได้ไม่ถึงอาทิตย์ก็ออก


(เค้กมะพร้าวของโปรด...อบเสร็จใหม่ๆ หอมมากๆเลย สูตรเค้าดีจริงๆ)

---->ยังคงเรื่องมีดต่อค่ะ เพราะเช้าวันหนึ่ง แอนน์ก็ยังคงไปทำงานก่อนคนอื่นเขาเหมือนทุกวัน แล้วมันก็จะมีชั้นต่างๆไว้พักพวกกระป๋อง เครื่องไม้เครื่องมือ พวกพายยางก็กระป๋องนึงรวมกัน พวก whisk ที่ไว้ตีของเหลวก็อีกป๋องนึง และก็พวกสกู๊ปตักไอติมขนาดต่างๆอีกป๋องนึงรวมทั้งพวกที่ตักพายชนิดเป็นสเตนเลสน่ะ วันนั้นเกือบซวย แต่ดีที่ตาสังเกตุตลอด มองเห็นด้ามดำๆ ไม่คุ้นเหมือนทุกวันอยู่บนชั้นที่เลยหัวขึ้นไปพอตัว มันคือ..............มีด ค่ะ อันนี้อันตรายมาก จำไว้เลย อย่าเอามีดไว้ที่สูงแบบนั้น พร้อมทั้งวางแบบวางไปงั้น นึกออกป่าวคะ เวลาคนจะหยิบอะไร มันอยู่ที่สูง เราต้องยกมาทั้งกระป๋องเพื่อหาสิ่งที่เราต้องการ แล้วทีนี้มีดที่วางอยู่จะตกแหล่ไม่ตกแหล่ เพราะความสะเพร่าเนี่ย มันมีโอกาสหล่นมาปักอวัยวะสักที่ของคนที่จะเอาของ ซึ่งคนซวยก็จะเป็นคนแรกที่เจอนั่นแหละ ไม่ใช่ใคร เพราะแอนน์เป็นคนแรกของวัน อันนี้ไม่ได้โกรธนะ เพราะได้ยินมาว่าคนล้างจานตอนเย็นเป็นเด็ก อันนี้เราควรจะสอนงัย ไม่มีใครที่รู้มาแต่เกิด โดยเฉพาะ ฝรั่งส่วนใหญ่ไม่ค่อยสอนเรื่องพวกนี้ให้เด็กเลยน่ะ ไม่เหมือนบ้านเรา แอนน์เลยจำใจต้องบอกซูซาน(เจ้าของร้าน)ให้บอกเด็ก เพราะถ้าแอนน์ทำเวลาเดียวกับเด็ก แอนน์จะบอกเค้านะ ไม่ได้หรอก อันตราย ดีที่แอนน์เห็นด้ามมีดก่อนน่ะ โชคดีไป


(ก็เพราะสั่งยังงี้กินอ่ะเซ๊....ถึงได้.... แล้วยังมาทำบ่นเนอะ)

---->อันต่อมาเป็นเรื่อง ความไม่มีระเบียบ คำว่า"หยิบก็ง่าย หายก็รู้ ดูก็งามตา"เนี่ย ฝรั่ง 90% คงไม่รู้จักนะแอนน์ว่า เพราะเกือบทุกคนเนี่ย เก็บของ จับของ หยิบของ แล้วก็ไม่วางที่เดิม 99% ใครหยิบอะไรไป ไม่เอามาคืน หรือคืนก็ไปคืนที่อื่น เวลาจะเอามาใช้อีก ก็หาไม่เจอค่ะ มันเปลี่ยนที่นิ แรกๆแอนน์ก็ใจดี หยิบกลับคืนที่ เพราะก็ยุ่งๆกันทั้งนั้น ทีนี้นานๆเข้า ไม่ยุ่งก็เป็น เออ..งั้นก็ปล่อยไว้แล้วกัน ไม่เจอก็ไปหากันเอาเอง หรือไม่ก็แอนน์ก็บอก เพราะส่วนมากแอนน์จะเห็นงัย งานแอนน์ที่สำคัญๆก็เยอะแล้ว ไม่มาเก็บให้แล้วน่ะ


(ชิ้นนึง...แบ่งกินสองครั้ง อิๆๆ..ขอบอก..วิธีทำยุ่งยากหลายขั้นตอนค่ะ..ซื้อกินดีกว่า)

---->ยังเรื่องเดิม เรื่องความไม่เป็นระเบียบ คือคนล้างจาน เก็บของมาไว้ที่หลังจากแห้งแล้วใช่ป่ะ แล้วทีนี้เก็บเหมือนกับโยนไปงั้นแหละ ของแบบเดียวกัน แต่ต่างไซส์ก็น่าจะเอาเล็กลงล่างใช่ป่ะ เช่น กาละมัง เป็นต้น คนเก็บก็อันไหนมาทีหลังก็วางทับกันขึ้นไป เล็กใหญ่ไม่สน ทีนี้บางทีอ่ะค่ะ เมื่อของที่วางมันไม่ลงล๊อค มันก็เกิดอาการหล่นลงมาใส่หัว หรือที่พื้นดังโพล๊งเพล๊ง ก็ขำดีน่ะ ก็ให้หล่นใส่หัวพวกเค้าเองแล้วกันน่ะ ของบางอย่าง อย่างกระบะที่ทำสลัด ไซส์เดียวกันหมด เราก็คว่ำลงไปทางเดียวกันมันก็จบ ไม่ล้ม แต่ก็ไม่ทำ คือโยนลงไปได้ก็โยนไปเลย


(ที่ร้านเค้าก็จะมีแต่ของอ้วนๆแบบนี้แหละ..ที่ไม่อ้วน เห็นจะเป็นสลัดเท่านั้นนะ)

---->เป็นกันทุกคนที่หยิบของไปแล้วก็วางแหมะไว้ที่ใหม่ โทรศัพท์ไร้สายก็เหมือนกัน รับเสร็จพวกเค้าก็วางมันตรงที่ไปน่ะแหละ พอเสียงโทรศัพท์ดังอีก ก็ลืมที่วาง แล้วก็หากันวุ่น ซึ่งทั้งหมดเค้าเป็นกันค่ะ แอนน์ก็..นะ ขำอีกแหละ อยู่เมืองไทย ทำงานแบงค์ ทุกอย่างเรียบหรูมาก มีโครงการตลอด ทุกอย่างต้องเรียบร้อย มีประกวดสาขาดีเด่น เรียบร้อย ก็ได้กันประจำ อยู่ร้านน้าก็ไม่มีรกมากแบบนี้ ไม่เคยเจอแบบนี้นัก แต่พอทำงานกะเค้าก็ต้องมองผ่าน เพราะจริงๆแล้วพวกเค้าโตกันมาแบบนี้อ่ะ ในเมื่อเค้าเป็นกันหมด เราไม่เป็นอยู่คนเดียว อันนี้ก็ต้องคิดเองแล้วค่ะ ว่าใครกันแน่..ที่ผิดปรกติ......คำตอบคือ...........แอนน์อ่ะสิ ที่ผิดปรกติ อิๆๆ



---->เรื่องต่อมา งานหลักของแอนน์จริงๆเรียกว่า bakery ซึ่งแอนน์เป็นตัวหลักคนเดียว นอกนั้นจะมาช่วย และมีซูซานเจ้าของร้านเนี่ยเป็นหัวเรือใหญ่อีกที แล้วทีนี้งานแอนน์มันก็เยอะ ล้นมือนะ หาคนมาช่วยทีไร เค้าก็ลาออกไปทุกที เพราะส่วนใหญ่ไม่มีใครอยากทำงานไปเสียทุกอย่างแบบนี้ ส่วนเราอ่ะ ทำเพราะ อยากทำ สนุก อยากรู้ อยากเป็น และที่สำคัญ...........อย่างที่เคยบอก เวลาทำงานกับฝรั่ง ทำเป็น ชม. นับเงินก็นับกันเป็นนาทีไปเลย ถ้าเราทำไปเรื่อยๆ มันก็เป็นเงินทุกนาที เลยไม่ต้องมานั่งปวดหัวให้เสียเวลา เสียสมองเล็กๆอันนี้ และถ้าหากมันเลยเวลาที่ตกลง มันก็กลายเป็นโอที ซึ่งมันก็ราคาสูงขึ้นไปอีกเท่าครึ่ง แอนน์เลยไม่ได้สนใจว่าใครอยากทำไม่ทำ ทำคนเดียวก็ดี มีที่เยอะ เหมือนสวรรค์เป็นของเรา แอนน์ถึงได้ชอบมาทำงานตอนเช้า เพราะอยู่คนเดียว ทุกอย่างมันเรียบร้อย เป็นระเบียบดี ที่ทางมีเยอะให้ทำนู้นทำนี้ เพราะปรกติเมื่อมีคนอื่นมาทำงาน(แม้แต่เจ้าของร้านก็เหอะ....) ทำอะไรเสร็จ ไม่มีใครเก็บอ่ะ หลังๆแอนน์ก็ปล่อยไว้งั้น เมื่อเราต้องการใช้พื้นที่นั้นเราก็ค่อยย้ายไปเรื่อยๆ เห็นมั๊ย..เลยทำงานได้อย่างมีความสุข บางทีต้องหัดมองข้ามสิ่งเหล่านั้น(ก็เป็นกันหมดทุกคนนี่คะ เราไม่เป็นอยู่คนเดียว เราก็ต้องหัดทำใจเองสิคะ)


(บราวนี่..ชิ้นนึงเท่าฝ่ามือเลยค่ะ อร่อยมากค่ะ แอนน์ทำเอง อิๆๆ ทำทีละ 4-5 ถาดต่อรอบ บางวันทำ 2 รอบ ก็ 8-9 ถาด ถาดนึงมี 24 ชิ้น อ้วนนนนนน)

ที่สำคัญ

แอนน์มองเพื่อนร่วมงานจากในใจเค้าค่ะ ส่วนใหญ่ที่ทำอยู่คงทนกันทุกวันนี้ นี่พูดถึงรายที่เหลือๆอยู่นะคะ ไม่ได้ลาออก อยู่ทำงานร่วมกันมาเกือบปี อยู่ครบเดือน นึกออกป่าวคะ เพราะส่วนใหญ่ทำไม่ถึงอาทิตย์ ไม่ถึงเดือนก็ลาออกกันไปหมด ที่เหลือเนี่ย ถึงเค้าไม่เรียบร้อยนะ แต่เพื่อนเหล่านี้จิตใจดีอ่ะ คือ..จะบอกงัยดี แบบว่ามันมองออกนะว่าคนเค้าจิตใจดีอ่ะ


(ซุปนี้อร่อย ถ้าชอบถั่ว ถั่วขาวนี้อร่อยดี แต่กินเยอะไม่ได้ มันเลี่ยนอ่ะ ครีมล้วนๆ สูตรจากเจ้าของร้านผู้ชายเค้าอ่ะ)

และก็มีบางทีนะ ทำของให้หน้าร้านไม่ทัน แอนน์ก็ไม่เร่งตัวเองจนตัวเองหัวหมุนหรอกนะ เพราะแก่ตัวแล้ว อิๆๆ พอไม่ค่อยทันเดี๋ยวก็มีคนมาจัดการเองอ่ะ เค้าเองก็ดูเราอยู่งัย มีหลายครั้งที่เจ้าของร้านและผู้จัดการต้องมาลงมือทำซุปเอง ทำคุ๊กกี้เอง จัดหาคนหน้าร้านมาปั้นคุ๊กกี้ช่วย ก็บอกแล้วงัย งานมันไปเรื่อยๆ มันเป็น ชม. ทำเยอะ เงินก็เดินหน้า ไม่ต้องคิดมากเลยอ่ะ มีงานอ่ะดี ไม่ต้องกลับบ้านก่อนเวลา มันก็กลายเป็นเงิน เพราะกลับบ้านมา แอนน์ก็มางมกับเนทเนี่ยแหละ หมกมุ่นมากไป ว่างก็กิน อะไรแบบนี้ ไปทำงานน่ะดี มีงานตลอดอ่ะดี ไม่ต้องกินจุบจิบ(ขนาดไม่กินจุบจิบนะเนี่ย..อยู่บ้านเฉยๆยังๆไม่อ้วนเท่านี้เลย อิๆ)

นี่แหละค่ะ คือ..ทั้งหมด ที่แอนน์อยากจะนินทาให้อ่าน รวมทั้งวิธีการทำยังงัยให้เรามีความสุขกับงานที่ทำอยู่ เพราะจริงๆแล้วมันทำไม่ยากเลยนะ หากเราจะลองหันไปมองส่วนที่ดีของคนอื่น เพื่ออยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข


(ซุปข้าวโพดสูตรเค้าก็อร่อยใช้ได้เลย)

แต่ถึงแอนน์จะทำงานได้อย่างมีความสุขยังงัย แอนน์ก็ยังมีความคิดเถลไถลค่ะ ตอนนี้ก็คิดว่าถ้าหากต้นปีหน้าเงินไม่ขึ้นก็ต้องว่ากันใหม่ อิๆ กิเลสยังอยู่ครบค่ะแอนน์ อยากได้เงินเพิ่ม แต่ได้ข่าวมาว่าเค้าไม่ค่อยให้เพิ่มกันหรอก ก็นะ..ต้องดูกันไป แอนน์เองทำมา 8-9 เดือนเนี่ยก็รู้เยอะกว่าแต่ก่อน ความตื่นเต้นก็เริ่มลดลง เลยแอบคิดไปว่า แหม..ใช้แรงเยอะ บางทียกของหนัก(ไหล่ไม่ค่อยดีด้วย..แต่ไม่กล้าบอกอ่ะ) ก็นะ สวัสดิการก็ไม่มี เลยอยากจะไปหางานการที่มีสวัสดิการรับรองหน่อย แต่แค่ยังคลำทางไปไม่ได้แค่นั้นเอง แอบมองงานบัญชีที่ รพ.แถวบ้านไว้ ไม่รู้เค้าจะรับป่าว หรือเค้าจะทำเมินเหมือน walmart อิๆ ใครๆก็อยากได้งานที่นั่นนิ

สรุปคือ..ต้นปีหน้า(ที่รอต้นปี เพราะรอหมดปีนี้ หมดคริสมาสต์ก่อน แบบว่าจะได้ทำโอน่ะ เก็บเงิน ปิดปากเงียบก่อน อิๆๆ)

--คิดไว้ว่าอยากหางานอื่น งานบัญชี เป็นต้น ทั้งที่ประสบการณ์โดยตรงไม่มี แต่มันก็ได้เงินเยอะกว่านี้(ที่จริงเบื่องานออฟฟิซนะ..แต่เพื่อสวัสดิการต่างๆก็ต้องลอง)
--ถ้าหากคิดว่าหายังไม่ได้ อาจทำที่เดิมแต่ขอเปลี่ยน shift เป็นปรกติเหมือนชาวบ้าน ตอนเย็นจะได้ลองไปหาคอร์สสั้นเรียน(ทั้งที่ตั้งใจว่าจะเรียนปีนี้แหละ แต่ด้วยที่ต้องตื่นเช้าไป นอนเร็ว เพิ่งได้งานตอนนั้น เลยไม่กล้าเล่นตัวนักน่ะ เลยไม่ได้เรียนเลย ครั้นจะฮึดรึก็แก่เกินร่างกายจะทานไหว แฮ่ะๆ) ไม่รู้เค้าจะให้หรือปล่าวหรอก

ไอ้ครั้นจะคิดว่า เปิดเองดีกว่า เป็นนายตัวเอง ตามใจตัวเอง แต่ร้านที่ไหนเปิดคนเดียวได้ที่ไหน ครอบครัวเราตรงนี้งานการเค้ามั่นคงอยู่แล้ว เค้าก็ไม่เล่นด้วยกับตรงนี้ ซึ่งก็ถูกของเค้านะ นี่ถ้าเป็นเมืองไทยนะ แป๊บเดียวก็เปิดร้านได้แล้ว อิๆ ไม่ต้องยุ่งยากเหมือนที่นี่หรอก ตอนนี้เลยได้แต่นั่งฝันไปคนเดียวก่อน

สรุป...อีกที follow my heart ไม่ไหว เงินน้อยเกิน อิๆ เพื่อนๆเงินเค้าขึ้นไปถึงสวรรค์ชั้นไหนๆกันแล้ว

ปล.

อาทิตย์นี้เค้าขอให้แอนน์ทำงานวันเสาร์ให้ เลยไปลด ชม.วันอื่นๆ เพื่อไปเพิ่มวันเสาร์ค่ะ อดโอทีเลยค่ะ แฮ่ะๆ แต่...อยู่ดีๆออร์เดอร์ยักษ์ก็ตูมเข้ามา อิๆ ครัวซองค์ดินเนอร์ตั้ง 300 ตัว ทุกอย่างให้เสร็จศุกร์นี้ แถมมันหน้าที่เราคนเดียวเลยนี่นาเนี่ย แล้วก็ยังมีบราวนี่ออริจินัลอีกร่วม 10 ถาด เพราะเค้าสั่ง 200 ชิ้น จ๊ากกกก แต่ปรกติทำบราวนี่ครั้งละ 4 ถาดอยู่แล้วอ่ะ ทีนี้ต้องทำสองรอบ รอบนึงกินเวลาเป็น ชม.กว่าๆ + งานอื่นๆอีก ผู้จัดการบอกว่า สงสัยอาทิตย์นี้ยูจะได้ทำโออ่ะนะ เพราะว่างานที่หมดที่ว่าเนี่ย มันของยูทั้งนั้น ถ้ายูไม่ทำ เจ้าของร้านทำคนเดียวเลย ถือซะว่าถ้าได้โอก็ดีไป บอกแล้วววววว ทำงานเป็น ชม. มันคิดไม่ยาก ฮ่าๆๆ ขอให้ได้โอทีเถอะนะ เป็นไปทั้งสองสามเดือนเลย อิๆ พูดยังกะจะมีแรงพอเนอะ

ClayAnn

Because Of You - Reba McEntire Feat. Kelly Clarkson


Create Date : 09 ตุลาคม 2551
Last Update : 9 ตุลาคม 2551 16:19:49 น. 4 comments
Counter : 1510 Pageviews.

 
แวะมาเยี่ยมค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ...


โดย: Suessapple วันที่: 9 ตุลาคม 2551 เวลา:19:22:30 น.  

 
มาเป็นกำลังใจให้ด้วยค่ะ
ซุปข้าวโพดเค้าน่าอร่อยจริงๆค่ะ


โดย: whitelady วันที่: 9 ตุลาคม 2551 เวลา:19:27:38 น.  

 
มาเป็นกำลังใจให้อีกแรงค่ะ คุณแอนขยันจริงๆ เลยนะค๊ะ วิสกี้สนับสนุนเลยค่ะ ยังมีแรงทำโน่นนี่ได้ก็รีบทำนะค๊ะ เก็บเงินไว้เยอะๆ


โดย: วิสกี้โซดา วันที่: 9 ตุลาคม 2551 เวลา:23:52:47 น.  

 
น่ากินทั้งนั้นเลยค่ะ


โดย: Oaka IP: 110.49.125.85 วันที่: 22 สิงหาคม 2552 เวลา:13:15:58 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ClayAnn
Location :
Texas United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]




เป็นคนไทย อยากกินอาหารไทย แต่อยู่ไกลบ้าน เลยต้องหาทำกินบนเวบ ในขณะเดียวกัน ได้ความรู้ได้สูตรมาจากคนอื่นก็อยากบอกต่อ และแบ่งให้คนอื่นเหมือนที่ได้จากคนอื่นๆมาเช่นกัน

ครัวบ้านนี้ไม่มีมาตรฐาน อยากกินยังงัย อยากทำอะไรก็ทำ ตามมีตามเกิด ตามอยาก เสียมากกว่า ไม่คิดมาก เป็นไปตามอารมณ์คนธรรมดาๆคนนึง ตามอารมณ์"แม่ครัวจอมมั่ว"คนนึง

แม่ครัวจอมมั่วก็ไม่ได้หัดทำแต่อาหาร แต่ว่ายังหัดทำงานฝีมือด้วยนะคะ อิๆ แต่ทำอันไหนก็ไม่เป็นชิ้นเป็นอันหรอกค่ะ ถ้าเปิดร้านก็คงต้องชื่อ"ร้านพอใจ"

***ถ้าหากมีคำถามที่ต้องการคำตอบ***
ตามจี้ได้ที่เฟซบุ๊คเพจข้างล่างนี้นะคะ เพราะมันจะได้ไปเตือนให้มาตอบ ฮ่าๆ เพราะปรกติอัพแล้วหายตัวบ่อยอ่ะค่า ^^" ฝากข้อความหลังไมค์ก็ไม่ค่อยได้เช็คเพราะปรกติไม่ค่อยมีใครมาด้วยอ่ะค่ะ ที่เฟซบุ๊คก็มีหลังไมค์ด้วยนะคะ

ขอบคุณเพื่อนๆที่น่ารักทุกคนค่ะ
(^^)
:
:
:
v
Friends' blogs
[Add ClayAnn's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.