กินไป..ลดไป..ได้ผลค่ะ(เม้าท์เยอะ..รูปเยอะ)

วันนี้มีเรื่องรีดไขมันจะมาเล่าสู่กันฟังค่ะว่าได้ผลดียังงัย หลังจากบอกว่าจะเล๊า จะเล่า หลายทีแล้ว แต่ก็ไม่ได้มาเล่าซักกะที แต่วันนี้อยากเล่าแล้วค่ะ ทีแรกไม่กล้าบอกหรอก กลัวว่าพูดไปเล่าไป แต่ทำไม่ได้ แล้วจะอายอีกอ่ะ แต่วันนี้คิดใหม่ ทำใหม่ ต้องไม่อาย มนุษย์เดินดินทุกคนที่เกิดมาอวบเกินพิกัดก็พยายามเรื่องนี้กันทั้งนั้น ได้ผลมั่ง ไม่ได้ผลมั่ง

เมื่อก่อนที่เคยลดด้วยตัวเองด้วยวิธีงดแป้ง จำกัดแป้งเยอะมาก ได้ผลดีทีเดียว แต่พอลืมตัวตอนย้ายมาอยู่เท็กซัส เป็นแม่บ้านเต็มตัว มีอาหารประเภท soul food หรืออาหารทางใต้นี้แปลกๆใหม่ๆจากที่เคยเห็น เคยกิน ก็มีการตื่นตาตื่นใจไปกับอาหารใหม่ๆ กิน ลอง..หมด แถมยังมาสมัครงานร้านเบเกอรี่ด้วยใจรักการอบอย่างยิ่ง เก่งไม่เก่งไม่รู้ แต่ชั้นชอบอบ!!!! ประมาณนี้ ผลคือ...หลังจากนั้น ต้นแขนเท่าฝรั่งขึ้นมาทันทีภายในหนึ่งปี ด้วยเหตุผลที่ว่า ได้อะไรใหม่ๆจากการอบที่ร้าน ตื่นเต้น กลับมาทำที่บ้าน แล้วใครกิน???? ถ้าไม่ใช่ตัวแอนน์เอง

รู้ตัวตัวเองอีกที ว๊าย..จะไปเมืองไทยแล้วอ่ะ ไม่ได้รู้ล่วงหน้าหลายเดือน พออยากจะไปก็จะไปเลย มีเวลาลดแค่เดือนนิดๆ ลดได้ประมาณเกือบสิบปอนด์

เพื่อ..ไม่อยากให้คนส่วนใหญ่ทักว่า

"อ้วนไปรึป่าว"
"อ้วนขึ้นรึป่าว"
"สามีเลี้ยงดีเหรอ"
"กินอาหารฝรั่งเยอะเหรอ"
"หนักเท่าไรอ่ะ"(ด้วยสีหน้าประมาณว่า...เธออ้วนนะ)

หนักสุด

"กำลังมีน้องเหรอ"

แฮ่ะๆ ไม่เคยโกรธนะ ถ้าให้บอกตามตรง ไม่โกรธจริงๆ และเพราะไม่โกรธเนี่ยแหละถึงได้เลยเถิดเป็นแบบนี้ ทีแรกๆก็มีงอนๆนิดๆ แต่คิดอีกที เอ้า..เราอ้วนจริง เค้าทักจริง ดีกว่าเค้าคิดในใจแล้วไม่บอกเนอะ อิๆ เลยเอาคำพูดเหล่านั้นมาพิจารณาตัวเอง พร้อมกับการกลับมาจากเมืองไทยสู่บ้านตัวเอง"ครัวคาวบอย"กับสิบปอนด์ที่ได้ลดก่อนไป มันก็กลับมาเหมือนเดิม ฮ่าๆๆ

แต่..คำพูดเหล่านั้นไม่ได้สำคัญเท่ากับ วันหนึ่งเจ็บก้นเหลือเกิน ก้นกบอ่ะ นั่งนานหรือไม่นานมันก็เจ็บ(หนักก้น อิๆ) แถมยังหายใจไม่ค่อยสะดวก อ่านในเนท ก็รู้มาว่าคนเวลาอ้วนมากๆ การหายใจจะไม่ค่อยสะดวก เวลากินเสร็จมันจะอิ่มเหมือนตัวจะแตก หนักเข้าตอนไปเมืองไทย อยากได้บราตัวใหม่ ไปลอง ไปวัด โอ้...แม่เจ้า ไม่อยากจะเชื่อ ต้องซื้อคัพ D ใส่เพราะไขมันเติมเต็มเหลือเกิน ปรกติเนี่ยคัพ B มาตลอด ตอนหลังล้น ไปลองไปหาบราที่เมืองไทย เพราะของไทยเราดี รู้ตัวตอนนั้นเลยว่าสงสัยต้องพิจารณาตัวเองแล้วมังเนี่ย

สรุปคือ...เจ็บก้น อึดอัด หน้าอกหน้าใจล้นเกิน หายใจไม่ค่อยสะดวก จะออกกำลังกายก็เหนื่อยง่าย

ว่าจะ ว่าจะ..ลด ก็ไม่ได้ทำซักกะที

จนวันนึงเข้าไปเจอบล๊อคเพื่อนหวานอัพเดทตัวเอง เห็นรูปหวานลดจริง ......เจอแล้วค๊าบ will power เจอแรงผลักดันตัวเองแล้ว พอวันนั้นปุ๊บตัดสินใจทำทันทีเลย แต่หวานเค้าเก่ง เค้าลดได้เร็วมาก มีกฎเหล็ก จัดอาหารให้ตัวเองได้ดี แต่ของแอนน์มีงานที่มันไม่แน่ไม่นอนบางครั้งทำหลาย ชม. และทำอยู่กับอาหารพวกนี้ แถมยังเป็นคนจัดอาหาร ต้องชิมก่อนของจะออกไปอยู่ที่ถาดวอร์มสำหรับเสิร์ฟ ของกินใกล้มือมาก แล้วยังต้องยกนู่นนี่ ใช้แรงเยอะ มิกเซอร์ตัวใหญ่สุดเนี่ย ต้องออกกำลังกายทั้งตัวหมุนกันเลยเชียว ตัวถังต้องเรียกเพื่อนมายกช่วย เลยจะงดแป้ง หรือกินน้อย คงจะยาก

เลยใช้วิธี...

สูตรรีดไขมัน..เพื่อสุขภาพระยะยาว

กะแคลอรี่คร่าวๆต่อวัน
อันนี้ก็ไม่ได้ซีเรียสถึงขนาดต้องมาอ่านวัดแคลอรี่ แต่ว่าเดาๆเอาอ่ะค่ะ กะเอาคร่าวๆ แบบเวลาซื้อของก็เคยดูไงว่าอันนี้แคลอรี่เท่าไร เราก็กะประมาณเอา วันนึงไม่เกิน 1000-1200 kcal อะไรแบบนี้

ไม่ต้องอด
เมื่อเรานับแคลอรี่คร่าวๆ เราก็เลยต้องเลือกกิน ไม่ต้องอด เพราะว่าอดแล้วยิ่งหิวและยิ่งทรมาน รวมทั้งทำลายระบบการเผาผลาญอีกด้วย พอเลือกกินเราก็เลยต้องรู้ว่าอาหารที่ดีกับเรามีอะไร แต่ก่อนอ่านมาเยอะๆ แต่สู้ความอยากไม่ไหว พอเริ่มต้นได้ดี ตอนหลังมันก็ไปได้สวยหน่อย ขุดเอาที่เคยอ่านออกมาใช้แบบคร่าวๆ เน้นผัก เน้นผลไม้ ดื่มน้ำเพื่อช่วยให้การเข้าห้องน้ำสบายหน่อย พอมีผักมีผลไม้เข้ามาแจมกับอาหารแต่ละมื้อ มันก็ทำให้เรากินแป้งกินเนื้อน้อยลง เนื้อก็กะเอาคร่าวๆว่าควรจะประมาณเท่าฝ่ามือเราเนี่ยแหละที่ควรกิน ถ้าอยากกินมัฟฟินเหมือนที่แอนน์ชอบเนี่ย แอนน์ใช้วิธีกินตอนเช้า เพราะรู้ว่าต้องไปใช้แรงงาน อิๆ แต่ถ้าวันสุดสัปดาห์จะกินน้อยลงหน่อย เพื่อจะได้ออกกำลังกายตอนเช้าแบบมีกำลังวังชา ไม่เหนื่อยไม่หิว มีแรงพอจะออกกำลังกาย
เช้า..............เช่น วีทมัฟฟิน ซีเรียลผลไม้นม กาแฟ ออมเล็ต ยังกินชีสอยู่ค่ะ ไม่ได้อดอะไร บางทีก็กินโยเกิร์ตใส่เบอร์รี่ อะไรแบบนี้
กลางวัน........เช่น ข้าวกับผัดนู่นนี่เน้นๆผักหน่อย บางทีก็มาม่าห่อเล็กซักห่อ ทุกครั้งต้องมีเนื้อนิดหน่อย ผักเยอะหน่อย แป้งรองลงมาหน่อย แต่เวิร์คสุดๆเนี่ย ก๋วยเตี๋ยวเลยค่ะ ของแอนน์เนี่ย ขอเลย ไม่งดกระเทียม ไม่งดน้ำตาล คือยังกินอยู่ เพียงแต่ตัดปริมาณของมันลงไป เอาแค่พอหอมปากหอมคอ เพียงแต่เน้นผักเยอะๆหน่อย เส้นก็ยังกินแต่ตัดปริมาณลงไปซักครึ่ง

ไม่กินจนพุงกาง
อันนี้สำคัญค่ะ เพราะอาหารที่เราทำมาทั้งหมด รวมทุกหมู่อาหารในหนึ่งจานก็ต้องให้พอดีอิ่ม ไม่ทำให้อิ่มจนพุงกาง พอพุงกางนะ สาเหตุที่เดาได้อีกอย่างคือ พุงจะยื่น เพราะมันได้ถูกยืดออกไป ฮ่าๆๆ แต่พอเรากินพออิ่ม พุงก็เล็กลงบ้าง และมันจะไปสัมพันธ์กับการออกกำลังกาย เพราะถ้าเรากินแต่พอดี ไม่พยายามกินจนพุงแทบแตกเนี่ย เราจะได้ออกกำลังกายได้ คือต้องแพลนล่วงหน้านิดหน่อยว่ากินไรดี เรามีเวลาเท่าไรก่อนออกกำลังกาย อย่างแอนน์เนี่ยทำงาน 7-1 ทำงานเจ็ดโมงเช้าเนี่ย กว่าจะกลับก็บ่ายหนึ่ง แต่ส่วนใหญ่ล่อไปบ่ายสองบ่ายสามอยู่บ่อยๆค่ะ เลยมีการพกเวย์โปรตีนไปชงกินด้วย อันนี้เหตุผลส่วนตัวค่ะ ไม่อยากเบรคนาน ไม่อยากเอาอาหารไป งก..อยากได้ตังค์ ทำงานเยอะได้เงินเยอะ ชงเวย์โปรตีนอยู่ท้องได้ เบาท้องดี มีโปรตีนมาสร้างกล้ามเนื้อ อิๆ แต่ไม่ได้ทำบ่อย ถ้าได้กลับบ้านบ่ายหนึ่งโมง จะกลับมากินข้าวที่บ้าน พักหน่อย บ่ายสี่โมงก็ได้ออกกำลังกายแล้ว
นอกเรื่องอีกนิดนึง เวย์โปรตีนเนี่ย พอดีไปได้ deep marine whey ของซูพรีเดิร์มมาลองดู เค้าว่าทำให้ผิวดี อิๆ อยากลดไปผิวยังสวยงัย เลยอยากลอง แต่ไม่คิดว่าตัวเองจะเข้าสูตรลดของเค้าได้ เลยใช้วิธีกินแบบเป็นอาหารเสริมแค่นั้นเอง แต่จะได้ผลดีเรื่องผิวไม๊ อันนี้คิดว่าคงต้องรอระยะเวลาดูก่อนว่าจะเวิร์คดีหรือปล่าว

ออกกำลังกาย
เมื่อตัวเราเบา การออกกำลังกายมันก็ลื่น มีความมั่นใจ ไม่เหนื่อย ความรู้สึกพร้อมก็มีเยอะขึ้น เพราะอิ่มมากก็มีแต่อยากจะนอน อยากจะนั่งพักดูทีวี แล้วไปจบลงที่ .. ง่วง!! ตื่นมาอีกที เอ้า..ต้องไปทำอาหารละ(อันนี้ขาดไม่ได้ ต้องทำเอง ไม่อยากไปซื้อกิน ส่วนใหญ่ที่บ้านกินอาหารไทย หาซื้อไม่ได้ ซื้อได้ก็เปลืองตังค์กินข้าวนอกบ้าน เสียเวลาออกกำลังกาย และการทำงานฝีมือด้วย)
แอนน์ออกกำลังกายแบบแล้วแต่อารมณ์ ที่บ้านมีหมด
-เทปเต้นของ Beach Body ที่มีเกือบสิบปีมาแล้ว ยังใช้อยู่ ไม่อยากซื้อใหม่
-เครื่องวิ่ง
-อิลิปติคอล
-จักรยาน
-blowflex เครื่องยกน้ำหนักแบบสายระโยงระยางของพี่เคลย์
-บาร์โหน

บอกแล้ว มีหมด ฮ่าๆ พี่เคลย์ใช้ทั้งนั้น สองอันหลังแอนน์ไม่ใช้อ่ะ เดี๋ยวกลัวมีคนมาเชิญไปประกวดสาวงามด้วยกล้ามเนื้อ กลายเป็นอาร์โนลด์สาวไปซะ

วันนี้แอนน์อยากออกอันไหนแอนน์ก็ตามอารมณ์จริงๆ บางวันล่อไปสามอย่างเลย แต่รวมกันแล้วก็ประมาณ 1-1.5 ชม. แต่ก็แล้วแต่อีก บางวันทำงานมาหลาย ชม. เมื่อยมาก บางทีแค่เดิน 40 นาทีก็พอ บางวันไม่ได้ออกเลยก็มี แต่น้อยมาก อย่างวันนั้นของเดือนของแอนน์เนี่ย มันปวดท้องมากๆ มียาจากหมอมากิน พอกินยานี้จะเวียนหัวและง่วง แต่หายปวดชงัด ก็จะไม่ได้ออก คือพูดง่ายๆไม่ซีเรียสมาก แต่ก็พยายามออกกำลังกาย เพราะเป็นผลดีกับสุขภาพตัวเองและยังรีดไขมันเป็นผลพลอยได้ที่ดี ที่หวังจริงๆก็ทั้งสองอย่าง


ทั้งหมดนี้ ทำแล้วอาจเห็นผลช้ามาก บางทีเกือบท้อว่าทำไมมันไม่ลดซักกะที แต่ใจเย็นๆ ถือว่าทำไปเรื่อยๆ อย่างน้อยก็เบาท้องน่ะ แล้ววันนึงเดือนที่สองเราก็จะเห็นผลเริ่มชัดเจนขึ้น ต้องปรับสิ่งเหล่านี้ให้เข้ากับชีวิตประจำวันของเราค่ะ เพราะว่าคนแต่ละคนเนี่ยมีชีวิตประจำวันที่แตกต่างกันไป ทำให้การจะกินจะอยู่เนี่ยมันจะเหมือนกันมันก็ยากนะ




แต่ของแอนน์มาถึงวันนี้ ถ้านับแบบจริงๆจังๆ ก็เริ่มตั้งแต่ต้นเดือน สค.นะ ตอนนี้ก็สองเดือนกว่า ลดไป 14 lbs ก็คงราวๆ 6 กก.หน่อยๆ ก็ดีนะ ตัวเราค่อยๆปรับไป ไม่ทรมานด้วย เรื่องนี้ใจล้วนๆ แอนน์รู้ว่าแอนน์ใจไม่แข็งพอที่จะหักดิบลดทีละเยอะๆได้ แถมยังต้องทำงาน เลยต้องขอบายสูตรต่างๆ มาใช้วิธีปรับเปลี่ยนชีวิตประจำวันดีกว่า




เคล็ดลับ..ของแอนน์

ทุกคนคงมีเคล็ดลับไม่เหมือนกันนะคะ หรืออาจจะเหมือนกัน มันขึ้นอยู่กับหลายอย่าง อย่างของแอนน์เนี่ย

วันแรกๆ...เป็นการวัดใจมากเลยค่ะ คนที่เคยกิ๊น กิน อยู่ดีๆมาให้จำกัด ยากหน่อยค่ะ แต่แค่สองสามวันแรกค่ะ มีความรู้สึกว่าวันแรกกินลดลงครึ่งหนึ่งแล้วตัวเราจะรู้สึกเบา แล้วทำให้เรารู้สึกอยากออกกำลังกายมากกว่าเดิมได้ค่ะ ไม่เชื่อลองดูค่ะ แอนน์ใช้วิธีเย็นวันแรกๆนะคะ กินสมูตตี้ที่ทำจากโยเกิร์ต กล้วยหอม น้ำส้ม สตรอเบอร์รี่ อะไรแบบนี้อ่ะค่ะ แก้วนึงใหญ่ๆเต็มๆ ใครกินน้ำผักผลไม้ได้คงดี แต่แอนน์ไม่กินค่ะ ไม่ชอบ อิๆ ไม่อยากฝืน เช้ามาเราตัวเบาสบายท้องดี ทำให้วันต่อมาความรู้สึกมั่นใจที่จะตั้งใจรีดไขมันมันมีแรงผลักดันดีค่ะ เดินเหินรู้สึกตัวเองคล่องตัว ทั้งที่ตัวเองก็หนักเท่าเดิม แต่แรกๆต้องอาศัยความรู้สึกพวกนี้เข้ามาช่วยค่ะ แล้วผ่านไปหนึ่งเดือนจะรู้ว่าได้ผลจริงๆ

วันต่อๆมา...ก็จะเริ่มกินแบบเลือกมากขึ้น แต่เคล็ดลับอมตะตลอดกาลของสาวๆเวิร์คสุดสำหรับแอนน์คงจะเป็น ก๋วยเตี๋ยวตอนกลางวัน ต้มเอง จัดการแคลอรี่เองได้เลย ส่วนตอนเย็นเนี่ยน้ำพริกกับผักต้มเนี่ย เวิร์คมาก แซ่บด้วย อิ่มด้วย เบาด้วย ทำให้เข้าห้องน้ำดีด้วย โปรดสุดเนี่ยคงจะเป็นกะหล่ำปลีกับบร๊อคโคลี่ต้มกรอบๆมากินกับน้ำพริกกะปิ อูย..แซ่บ และอีกเมนูเนี่ยเป็นหมูต้ม พริกน้ำปลา ผักสด แซ่บๆจริงๆเลย

เวลาออกกำลังกายเต้นตามเทป อันนี้คงแล้วแต่คนชอบ ของแอนน์ชอบๆแนวๆบู๊ทแค๊มพ์นิดนึง ไม่ค่อยเต้นเหมือนตอนสาวๆ ฮ่าๆๆ เบลลี่แด๊นซ์ยังเงี๊ยะ แอนนาเต้นไม่เป๊นนนนน แอนน์ก็จะมีกระจกยาวๆมาตั้งไว้ให้เห็นตัวเองตอนเต้นไปด้วย มันไม่จำเป็นหรอก แต่จำเป็นสำหรับใจตอนเดือนที่สามค่ะ เพราะว่าตัวเราเริ่มเปลี่ยนจริงๆด้วย เริ่มแรกเลยพุงเล็กลงกว่าเดิมหน่อย เราก็ได้เฮแล้ว

เลือกกินอาหาร

เช้า............อย่างที่บอกต้นๆ ว่ามีไรก็กิน มัฟฟิน ข้าวราด อะไรก็แล้วแต่ แม้แต่ขนมปังทาครีมชีสก็กิน แต่พยายามไม่กินบ่อยๆ แต่ตอนนี้อะไรเหลือในตู้เย็นก็กิน แต่มัฟฟินจะทำเอง แป้งวีทด้วย ใส่ผลไม้เข้าไป แต่อย่างมัฟฟินเนี่ย กินชิ้นนึงกับกาแฟครึ่งแก้ว อะไรแบบนี้นะ คนทำงานอย่างเรา อาหารเร็วๆแบบนี้มันง่าย ใส่เวฟสิบวินาทีก็ได้กินเลย ไปทำงานแต่เช้าๆท้องจะได้สบายๆ แอนน์คนนึงล่ะที่ขาดอาหารเช้าไม่ได้เลย

สแน๊ค........อันนี้คิดว่าสำคัญเหมือนกันนะ เพราะช่วยให้มื้อระหว่างวันสามมื้อเนี่ย เราจะได้ไม่หิวจนตะเกียกตะกายขูดข้างฝาอยากกินเหลือเกิน เคยเป็นค่ะ หิวเกือบตาย กินทุกอย่างที่ขวางหน้า ฮ่าๆๆ เลยต้องใช้วิธีก่อนจะหิวก็ต้องงับอะไรไปพลางๆ เช่นถั่วต่างๆ ผลไม้แห้ง แครกเกอร์ ผลไม้สด แล้วแต่โอกาสจะมีให้หยิบ ดูสุขภาพมากเลยเนอะ แรกๆก็ไม่ได้อร่อย แต่ไปๆมาๆ เออ..ทำไมมันชิน มันอร่อยละ อิๆ

กลางวัน.......บอกแล้วค่ะ ก๋วยเตี๋ยว มาม่า ข้าวราด อะไรก็ได้ แต่เน้นผักมากกว่าเส้น เนื้อพอประมาณ เอารวมกันแล้วไม่เกินถ้วยขนาดกลางก็พอ กะประมาณพออิ่มไม่อิ่มเกิน เพื่อเราจะได้มีเวลาไปออกกำลังกายได้เร็วขึ้น เพราะคนทำงาน วันนึงมีเวลาจำกัดมาก กินเยอะ กว่าจะย่อย ก็นาน เลยต้องกินแต่พอดี ถ้ากินแซนวิช(แอนน์ยังกินชีสอยู่แหละ อิๆ) ก็ไม่เกินคู่นึง ตะก่อนกินเยอะกว่านี้ค่ะ หรือถ้ากินสลัดก็สลัดจานใหญ่ไปเลย ผักทั้งนั้น เดรซซิ่งก็เบาๆหน่อย ถ้าไปกินกับพี่เคเลน กินไปคุยไปทำให้ตัวเราไม่รีบกิน เพราะตัวเราต้องใช้เวลารับรู้ว่าอิ่มเนี่ยตั้ง 20 นาทีเชียวนะ เราเลยต้องกินไปคุยไป หรือถ้าอยู่คนเดียว กินคำ อ่านหนังสือคำ จะได้รับรู้ว่าอิ่มในปริมาณอาหารที่ไม่เยอะ ถ้ารีบๆกิน ก็ตัวเราก็ยังบอกว่าหิวอยู่ ก็จะไปหาอะไรมากินอีก ให้เคี้ยวช้าลงหน่อย แรกๆยากมากค่ะ

เย็น............ผักต้ม เนื้อสัตว์ต้ม นึง น้ำพริก อะไรก็ว่าไป หรือไม่ก็สมูตตี้ ผลไม้ราดเดรซซิ่ง แล้วแต่เบื่ออะไรก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ แต่ตอนหลังมาอ่านเจอ ตอนเย็นถ้าบางคนกินดึกอย่างแอนน์ คือประมาณทุ่ม ทุ่มกว่าอ่ะ เพราะกว่าจะทำอะไรๆเสร็จแต่ละวันกว่าจะได้ทำอาหารกินก็ทุ่ม ทุ่มครึ่ง กินพร้อมพี่เคลย์ค่ะ แอนน์เองเลือกกินแต่ผัก ผลไม้ ถ้าผัดให้พี่เคลย์ก็เลือกแต่ผักค่ะ เค้าบอกว่าก่อนนอนตัวเราจะได้ไม่ต้องทำงานเพื่อย่อยเนื้อ แต่ผักมันย่อยเร็ว ประมาณนั้น หรือพวกเนื้อปลาก็ดี และการผัดเนี่ย แอนน์ใช้น้ำมันมะกอกครั้งละไม่เกินหนึ่ง ชต.ในการผัดต่อกระทะเลยค่ะ

เคล็ดลับอีกอันคือ...ออกเนทค่ะ คือเล่นเนทแล้วนั่งจมเลยค่ะ สามารถนั่งได้เป็นวันๆ แล้วก็..เจ็บก้น เพราะฉะนั้นอันดับแรก ตัดใจจากเนทค่ะ อันนี้คงเป็นบางคน แอนน์รู้ตัวเองว่าติดคุย ก็จะออกไปเลย เพื่อนจะถามหาเลยแหละ หายไปไหน เป็นไรป่าว แต่ไม่เป็นไรค่ะ ทำงานเยอะๆเข้าไว้ ออกกำลังกาย ทำกับข้าว วันนึงหมดแล้วค่ะ เพิ่งมามีช่วงนี้ที่พอจะมีเวลาบ้าง เพราะมีคนมาทำงานช่วยเพิ่มขึ้นค่ะ

แถมบางวีคเอนด์ แอนน์ก็ไปกินนอกบ้านกับพี่เคลย์ค่ะ แต่ไปกินก็ตัดปริมาณลงครึ่งหนึ่งค่ะ บางทีก็อยากออกไปสวีทอ่ะค่ะ อิๆ อันนี้เป็นเรื่องของจิตใจของคนมีคู่ ไม่มีลูกค่ะ

แถมอีกนิด...แอนน์กินวิตามินเสริม one a day-woman และ vitamin E ค่ะ แล้วดื่มน้ำต่อวันเพิ่มขึ้นอีกหน่อย แต่แอนน์ไม่สามารถดื่มมากถึงแปดแก้วหรอกค่ะ เอาแค่พอรับได้ ไม่งั้นมีปัญหาฉี่บ่อย รั่วอีก ร่างกายคนเราคงรับได้ไม่เท่ากันมังคะ วันนึงแอนน์ดื่มได้ประมาณหกแก้วมั๊ง แต่น้ำในอาหารที่กินอีกมันคงถึงนะ

V
V
V
V


















บางครั้งก็ซื้อน้ำเต้าหู้ฝรั่งมาไว้ดื่มด้วยค่ะ เป็นอาหารระหว่างมื้อก็ได้ หรือออกกำลังกายเสร็จซักครึ่ง ชม. ดื่มซักแก้ว ก็ดีนะคะ จะได้เอาไปซ่อมแซมกล้ามเนื้อส่วนที่สึกหรอ พูดถูกไม๊เนี่ย










มีกินนอกบ้านดินเนอร์ด้วยค่ะ แต่เน้นคุยๆ ที่เหลือห่อกลับบ้าน คุยไปเลือกเรื่องมันๆหน่อยนะคะจะได้คุยเยอะ ฮ่าๆ คุยไปตักให้พี่เคลย์ไป เรากิน 1/5 ได้


มีฮอทดอกเหลือมานานละ ต้องเอามากินให้หมด เลยออกมาเป็นแบบนี้


ซูกินี่เค้กแผ่นนึง โยเกิร์ตกับเบอร์รี่ อิ่มพอดีเลยค่ะ


เวลาได้ผลไม้สวยๆมา ก็จะกินสองสามวันเลย ดีต่อผิวนะ












ถ้วยนี้มีประวัตินะคะ คือวันก่อนหน้านี้เพื่อนมากินข้าวที่บ้าน แล้วทำต้มยำกุ้ง แล้วทีนี้วันต่อมาน้ำต้มยำเหลือ เราก็บอกพี่เคลย์ว่าเดี๋ยวทำต้มยำซุปให้กินนะ พี่เคลย์ก็ยี้ บอกแอนน์ว่า"ชั้นไม่ชอบกินซุป" แอนน์เลยบอก น่านะ..ไว้ใจนะ เดี๋ยวชั้นจัดการ ถ้าคุณไม่กินจริงๆ ครั้งต่อไปชั้นจะไม่ทำอีก ปรากฎว่า "สามชามโตๆ"ค่ะ อิๆ ภูมิใจนะเนี่ย เค้าไม่ชอบเห็ด เค้าไม่ชอบพริกเบล แต่นี่เค้ากินได้สามชามเนี่ย ไม่ให้ภูมิใจได้ยังงัย






นี่ล่ะค่ะจานเด็ดสำหรับคนอยากจะรีดไขมัน ทั้งแซ่บ ทั้งอิ่ม ทั้งรีดไขมันได้ดี


แบบฝรั่งหน่อยก็มีค่ะ..กินหมด อิๆ




ไก่อบพามีซานที่อบไว้ ใช้ได้หลายอย่างเลย แซนวิชก็ได้ สลัดยังงี้ก็ดีค่ะ มองดีๆ มีถั่ววอลนัทด้วยนะคะ


แกงเขียวหวานก็ยังกินอยู่ค่ะ แต่น้ำแกงน้อยๆค่ะ เวลาครอบครัวเค้ามากินข้าวกันครอบครัวใหญ่กับอาหารไทย ยังงัยก็ต้องมีแกงกะทิค่ะ ชอบกันมาก เลยต้องเลือกกินแบบนี้


ไก่อบพามีซานอีกแล้วค่ะ


รู้นะว่าถ้าไม่เอาชีส และไม่เอาเดรซซิ่งมาจิ้ม มันคงจะดีกว่า แต่ว่ายังทำไม่ได้ตอนนี้อ่ะ อิๆ ไว้ก่อนเนอะ


อ๊ะ..ไม่ได้กินไข่ทั้งหมดนะคะ วางไว้เฉยๆค่ะ แล้วไปแบ่งพี่เคลย์กิน


เทปของป้าเด๊บบี้ ซีเบอร์ที่แอนน์ใช้อยู่เกือบสิบปีแล้วค่ะ



ย้ำนะคะว่า การลดของแต่ละคนอาจไม่เหมือนกัน ด้วยความชอบที่แตกต่างกัน ด้วยวิถีชีวิตที่แตกต่างกัน ความเชื่อที่แตกต่างกัน วิธีการที่ถูกต้องของแต่ละคนย่อมต่างกันไป เลือกที่เข้ากับตัวเองที่สุดก็พอค่ะ แอนน์ไม่ได้เป็นผู้รู้ แต่แอนน์เป็นผู้ที่อ่านแล้วลองเอาความรู้พอจำได้จากผู้รู้จากแหล่งต่างๆมาปฏิบัติดู ก็แค่นั้นเองค่ะ เมื่อได้ผล เราก็มาบอกเพื่อนต่อ เผื่อว่าใครบางคนอาจจะได้ไอเดียอะไรไปบ้าง เหมือนที่แอนน์ไปอ่านที่บล๊อคเพื่อนหวานมา แล้วมีคลิกพอดีกับจังหวะที่แอนน์ต้องการพอดี การเริ่มต้นของแอนน์เลยเกิดขึ้นอีกครั้ง!!

ไม่สัญญากับตัวเองว่าจะต้องทำให้ได้เท่าไร ไม่สัญญาว่าวันหน้าจะเป็นยังงัย ไม่กล้าสัญญาจากประสบการณ์ที่ผ่านทำให้ไม่กล้าสัญญา กลัวผิดสัญญา อิๆ สิ่งสำคัญไม่ได้อยู่ที่ลดไปได้เท่าไร ในเวลาเท่าไร แต่สำคัญที่ว่าลดได้แล้ว จะรักษามันไว้ได้ตลอดไปยังงัย ทำมันให้เป็นชีวิตประจำวัน ทำมันให้พอดี

เห็นไม๊คะ...รู้หมด

แต่...จะทำได้หรือปล่าว

อันนี้อยู่ที่ใจแล้วค่ะ

โชคดีนะคะ..ส่วนแอนน์ จะทำวันนี้ให้มันดีที่สุดก่อนค่ะ ไม่อยากคาดหวัง กลัวไม่สมหวัง ฮ่าๆ

สุดท้าย..แอนน์ไม่ใช่นักเขียนนะคะ เขียนอาจวกไปวนมา อย่าถือสานะคะ (^^)และไม่อ่านเลยก็ไม่ว่าไรค่ะ เพราะมันยาว ฮ่าๆๆ ตามใจคนมาเยี่ยมทุกคนค่ะ

Create Date : 17 ตุลาคม 2552		19 comments
Last Update : 17 ตุลาคม 2552 22:58:18 น.
Counter : 2872 Pageviews.
Share Tweet