|
||||
เล่ห์ซ่อนใจ : บทที่ 2 บทที่ 2หากทว่าทั้งที่ตั้งใจว่าจะนั่งเขียนต้นฉบับอยู่เงียบๆ คนเดียวในห้องแท้ๆ แต่ชาร์ล็อตก็จำต้องมานั่งอยู่ในบาร์ริมชายหาดของรีสอร์ทพร้อมกับพวกทีมงานของกองถ่ายแฟชั่นเนื่องด้วยเพราะถูกอเล็กซานดราลากออกมาร่วมสังสรรค์กับทีมงานเพื่อสร้างความคุ้นเคยให้แก่กันมากขึ้นตามคำแนะนำของเจนนิเฟอร์ ************************** หนีไปจนได้ แจ็คมองร่างสูงโปร่งที่ลุกจากโต๊ะออกไปด้านนอกแล้วก็นึกขันในใจ ดูเหมือนเขาจะแกล้งแหย่เธอมากเกินไปจนทำให้เธอรูสึกไม่สบายใจจนต้องหนีไปเหมือนอย่างเมื่อตอนค่ำ คงเป็นนิสัยเสียที่แก้ได้ยากของเขาเองที่เวลาเจอใครที่ถูกใจแล้วเขามักจะทดสอบดูว่าถ้าหากเขาลองแสดงความสนใจกับใครแล้วหล่อนจะเดินเข้ามาหรือถอยห่าง และเขาก็ชอบผู้หญิงในแบบหลังมากกว่าในแบบแรก ซึ่งกำลังนั่งเบียดชิดจนแทบจะมาเกยอยู่บนตักของเขาในเวลานี้ แจ็ค... คุณฟังฉันอยู่หรือเปล่า? เสียงของเจนนิเฟอร์ดึงให้สายตาของแจ็คให้กลับมาที่หล่อน เจนนิเฟอร์ขมวดคิ้วมองเขาอย่างสงสัยแล้วก็หันไปมองตามสายตาของเขาแล้วก็หันกลับมามองเขา ดูเหมือนคุณจะเอาแต่มองชาร์ล็อตตลอดตั้งแต่เมื่อเย็นแล้วนะ ตกลงว่าคุณสนใจเธอหรือฉันกันแน่ ผมไม่อยากให้คุณรู้สึกแย่นะ แต่ถ้าหากให้ตอบตามตรงผมคงจะต้องบอกว่าเป็นชาร์ล็อต ถ้าหากว่าคุณสนใจเธอ แล้วทำไมถึงตอบรับคำชวนของฉัน เสียงของเจนนิเฟอร์ห้วนสั้นขึ้นขึ้น เพราะคุณแสดงท่าทางอย่างชัดเจนว่าคุณสนใจผม และผมไม่อยากปฏิเสธคุณต่อหน้าคนอื่นให้คุณรู้สึกเสียหน้า แต่ผมคิดว่าถ้าหากเรานอนด้วยกันคืนนี้บรรยากาศในการทำงานวันพรุ่งนี้คงน่าอึดอัดและไม่เป็นผลดีกับงานแน่ๆ คุณคงเป็นผู้ชายประเภทที่ไม่ชอบให้ผู้หญิงที่เคยนอนด้วยมาสั่งงานคุณล่ะสิ เจนนิเฟอร์แค่นเสียงก่อนที่ดวงตาของหล่อนจะลุกวาวขึ้นมาด้วยความเคืองขุ่นที่ปะทุขึ้น คุณสนใจผู้หญิงคนหนึ่ง แต่ดันมาเล่นเกมแมวหยอกหนูกับผู้หญิงอีกคน หนึ่งเพื่อสนองอัตตาของตัวเองหรือไง ผมไม่ได้เล่นเกมกับคุณนะเจนนิเฟอร์ คุณต่างหากที่กำลังเล่นเกมกับผม คุณรู้ว่าผมมาที่นี่เพื่อทำงาน และผมก็ไม่ได้แสดงท่าทีอะไรกับคุณ แต่เพราะคุณเป็นคนรุกเข้ามา ผมก็แค่รักษาหน้าให้คุณด้วยการเล่นไปตามน้ำ เขาโต้กลับหล่อนด้วยสีหน้าที่จริงจัง หากก็ปรับน้ำเสียงให้อ่อนลง และผมยอมรับว่าจากที่เราคุยกัน ผมชื่นชมคุณในแง่ของผู้หญิงที่มีแง่คิดในการทำงานหลายๆ ด้านที่น่าชื่นชม และผมก็อยากเป็นเพื่อนกับคุณ ไม่ต้องมาพูดปลอบใจฉันแบบนั้นก็ได้ ถ้าบอกกันมาตรงๆ แต่แรกว่าคุณไม่เล่นด้วยฉันก็จะไม่เกี้ยวคุณให้เสียเวลาแถมยังต้องมาเสียหน้าหรอก เจนนิเฟอร์ถอนหายใจออกมาอย่างปลงตก อย่างน้อยก็ดีที่คุณพูดอะไรออกมาชัดเจนจะได้ทำใจง่ายหน่อย แต่อย่ามาเปลี่ยนใจทีหลังก็แล้วกัน เพราะฉันไม่ปล่อยให้ตัวเองต้องมาเสียหน้าเพราะเจ้าเล่ห์คนแบบคุณอีกแน่ แจ็คหัวเราะพลางพยักหน้ารับคำกล่าวหาของเธอก่อนที่จะยกแก้วขึ้นดื่ม ดูท่าทางสนิทกับชาร์ล็อตดีนะครับ เธอเป็นคนยังไงเหรอ? ชาร์ล็อตน่ะเหรอ? หล่อนมองเขาอย่างพิจารณาก่อนที่จะกล่าวต่อ เธอเป็นคนนิสัยดี ตั้งใจทำงาน สมถะไม่ค่อยฟุ้งเฟ้อเท่าไหร่ มนุษย์สัมพันธ์ก็ดี เสียแต่ว่า... เสียแต่ว่ายังไงเหรอครับ เธอไม่ค่อยพูดเรื่องส่วนตัวมากเท่าไหร่ ถึงแม้ว่าจะรู้จักกันมาตั้งแต่เธอเข้าวงการใหม่ๆ แต่พวกเรารู้เรื่องส่วนตัวของเธอน้อยมาก แปลกนะครับที่ปกติคนทำงานสายนี้น่าจะอยากเป็นที่รู้จักให้มาก เรื่องส่วนตัวหรือปูมหลังก็สามารถใช้โปรโมทตัวเองได้ส่วนหนึ่งด้วย คนดังหลายๆ คนก็ไม่อยากให้ใครมายุ่มย่ามเรื่องส่วนตัวมากจนเกินไปเหมือนกันนะคะ และนั่นก็อาจจะเป็นเหตุผลของเธอก็ได้ แล้วเจนนิเฟอร์ก็จ้องมองเขาด้วยสายตาจริงจัง นี่แสดงว่าคุณสนใจเธอมากจริงๆ ใช่ไหมคะเนี่ยถึงได้ถามขนาดนี้ แจ็คมองคนที่กำลังจ้องมองมาที่เขาก่อนที่จะยกมุมปากยิ้มพร้อมกับพยักหน้ายอมรับแต่โดยดี ครับ ผมอยากรู้จักเธอให้มากกว่านี้ บรรณาธิการแฟชั่นนิ่งงันไปกับคำตอบของเขา หากเพียงครู่เดียวริมฝีปากของเธอก็บิดยิ้มและตามมาด้วยเสียงหัวเราะในลำคอด้วยความชอบใจ บอกไว้ก่อนเลยนะแจ็ค ถ้าหากคุณคิดจะจีบชาร์ล็อตล่ะก็ ไม่ว่าจะเป็นนายแบบที่หล่อกว่าหรือนักธุรกิจที่รวยกว่าคุณต่างก็เคยคิดจะจีบเธอแต่พวกเขาก็ไม่เคยทำสำเร็จเลยสักคน ฉันไม่รู้หรอกนะว่าเธอผ่านอะไรมาบ้างชีวิตแต่กำแพงของชาร์ล็อตน่ะสูงเกินกว่าที่คุณคิดเอาไว้มาก ความรู้ใหม่เกี่ยวกับชาร์ล็อตที่เขาได้รู้นั้นทำให้เขาเลิกคิ้วขึ้นก่อนจะยกมุมปากยิ้ม ถ้าหากเป็นอย่างที่คุณว่าจริงผมก็ถือว่ามันเป็นเรื่องที่ท้าทายพอที่ผมจะลองพยายามดูว่าผมจะก้าวข้ามกำแพงนี้ไปได้ไหม ************************ ลมทะเลที่พัดโกรกเข้ามาและอากาศที่เย็นลงในยามค่ำคืนนั้นทำให้ชาร์ล็อตต้องลูบแขนตัวเองเมื่อรู้สึกหนาว เธอตัดสินใจเดินเลี่ยงจากด้านริมชายหาดหลบลมทะเลไปยังส่วนหย่อมของรีสอร์ทที่แต่งสไตล์โมเดิร์นโอเรียนทอลดูสวยงามและลงตัวแม้ว่าเวลานี้จะเป็นตอนกลางคืนแล้วก็ตาม แต่ที่สะดุดตาเธอนับเมื่อก้าวเข้ามาในส่วนนี้ก็คงจะเป็นสวนหย่อมที่มีแนวไม้พุ่มที่สูงจนดูเหมือนเป็นกำแพงและตรงกลางของแนวกำแพงนั้นมีประตูโค้งทรงกลมหรือที่เรียกกันว่ามูนเกทซึ่งทาสีขาวดูเด่นออกมาจากแนวกำแพงไม้พุ่ม เธอก้าวผ่านประตูเข้าไปด้านในสวนแล้วพบว่าด้านในนั้นเป็นลานสนามหญ้ากว้างที่มีพุ่มไม้ดอกปลูกเป็นรูปทรงเรขาคณิตเว้นช่องจังหวะการจัดวางอย่างสวยงาม เห็นแล้วอดไม่ได้ที่จะลองใช้เท้าเปล่าสัมผัสผืนหญ้าหนานุ่มราวกับพรมธรรมชาติดูสักครั้ง ชาร์ล็อตถอดรองเท้าแตะแบบสานของตนออกแล้วค่อยๆ ย่างเท้าเปล่าของเธอลงบนพื้นหญ้าที่ชุ่มไปด้วยหยดน้ำค้างก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้ายามค่ำคืนที่เต็มไปด้วยดาวแล้วก็คลี่ริมฝีปากยิ้มด้วยความพึงพอใจกับความนุ่มเย็นที่อยู่ใต้ฝ่าเท้า หากทว่าอารมณ์ที่รื่นรมย์ของเธอก็ต้องถูกขัดจังหวะเมื่อเหลือบไปเห็นเงาของใครบางคนที่กำลังเดินเข้ามาในสวน เนื่องจากสภาพรอบตัวที่ค่อนข้างมืดสลัวนั้นก็ทำให้เธอมองเห็นไม่ถนัดนักว่าเป็นใคร ประกอบกับเพิ่งนึกได้ว่าการอยู่ในสวนหย่อมที่มีกำแพงพุ่มไม้ล้อมรอบเพียงลำพังในเวลาค่ำคืนเช่นนี้ก็น่าอันตรายอยู่ไม่น้อย แม้ว่าในรีสอร์ทหรูระดับห้าดาวนี้จะรับประกันความปลอดภัยมากเพียงใดก็ตาม นั่นใครน่ะ เธอเอ่ยถามคนที่กำลังเดินตรงมาหาเธออย่างระมัดระวัง แล้วก็ค่อยๆ ก้าวถอยหลังเมื่อบุคคลนั้นยังคงก้าวเดินตรงมาทางเธอ ผมเองครับ น้ำเสียงห้าวทุ้มฟังดูคุ้นหู และเมื่อเขาเดินเข้ามาใกล้พอที่ชาร์ล็อตมองออกว่าคือใคร เธอก็ผ่อนคลายท่าทีระมัดระวังลง แต่ก็ยังไม่ใช่ทั้งหมด ทำไมถึงมาเดินในสวนตอนกลางคืนคนเดียวแบบนี้ล่ะครับ อันตรายออก ฉันนึกว่าคุณจะอยู่กับเจนเสียอีก เธอถามเขากลับแล้วก็ถอยหลังไปอีกก้าวเมื่อเขายังไม่ยอมหยุดเดินเข้ามาใกล้เธอ แต่แล้วเธอก็ต้องร้องอุทานเมื่อสะดุดอะไรบางอย่างและคงหงายหลังล้มไปแล้วถ้าหากว่าแจ็คไม่คว้าข้อมือของเธอและออกแรงดึงให้ร่างของเธอจนแรงดึงนั้นทำให้เธอถลาเข้าสู่อ้อมกอดของเขา คุณไม่เป็นอะไรนะ เสียงห้าวทุ้มของเขาดังอยู่เหนือศีรษะซึ่งทำให้เธอรีบเงยหน้าขึ้นมามองเขาในทันที ชาร์ล็อตไม่ใช่ผู้หญิงที่เตี้ยเพราะเรื่องความสูงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับอาชีพนางแบบอยู่แล้ว หากทว่าเมื่อยืนอยู่กับเขาด้วยร้องเท้าแตะสานส้นเตี้ยแบบนี้แล้วเธอก็รู้สึกเหมือนตัวเล็กขึ้นมาในทันตา จากการคะเนด้วยสายตา แจ็คคงจะสูงไม่ต่ำกว่าร้อยแปดสิบห้าเซนติเมตรและถึงแม้ว่ารูปร่างของเขาจะไม่ได้บึกบึนเต็มไปด้วยมัดกล้ามแบบนายแบบแต่ก็ไม่ใช่คนผอมเก้งก้างแต่อย่างใด โดยเฉพาะช่วงไหล่ของเขาที่กว้างจนแทบจะบังร่างของเธอไว้ได้ทั้งตัว แต่ตอนนี้มันใช่เวลาที่จะมาพิจารณารูปร่างของอีกฝ่ายเสียเมื่อไหร่กันเล่า! เธอเอ็ดตัวเองในใจก่อนที่จะขืนตัวออกห่างจากอ้อมกอดของเขาซึ่งแจ็คก็ยอมปล่อยเธอแต่โดยดี ขอบคุณที่ช่วยนะคะ แต่ว่าคุณมาที่นี่ทำไม รีสอร์ทหรูและสวยขนาดนี้ ใครบ้างล่ะครับที่ไม่อยากจะออกมาเดินเล่น แต่ฉันไม่เชื่อคุณหรอกนะว่าคุณแค่อยากมาเดินชมสวน คุณมีปัญหาอะไรกับฉันหรือเปล่าถึงได้เอาแต่มองฉันทั้งที่คุณกำลังมีเดทกับเจนอยู่ ไม่ใข่ว่าที่ผมมองคุณน่ะเป็นเพราะผมจับได้ว่าคุณแอบมองผมก่อนหรอกเหรอ? ชาร์ล็อตอ้าปากค้างก่อนที่ใบหน้าจะร้อนผ่าวขึ้นมาด้วยความอายเพราะมันก็จริงอย่างที่เขาว่าที่เธอแอบมองเขาอยู่ แต่นั่นก็เป็นเพราะคุณมองฉันอยู่ก่อนแล้วต่างหากล่ะค่ะ และฉันขอพูดตามตรงนะว่าฉันไม่ชอบสายตาที่คุณมองฉัน เขาเลิกคิ้วขึ้น ผมมองคุณแบบไหนเหรอครับ? ก็แบบที่... เธอหยุดคำพูดแล้วสะบัดหน้าหนีพร้อมกับพ่นลมหายใจฮึดฮัดอย่างขัดใจที่ถูกเขาไล่ต้อนไปเสียได้ ก็แบบที่ทำให้ฉันรู้สึกว่ากำลังถูกคุณคุกคาม ผมไม่ได้คิดจะคุกคามคุณหรอกนะชาร์ล็อต แล้วคุณมองฉันแบบนั้นทำไม น้ำเสียงของเธอเริ่มห้วนเมื่อโทสะเริ่มปะทุขึ้นหากก็พยายามควบคุมเอาไว้และรู้สึกว่าเสียเวลาเปล่าถ้าหากจะปล่อยให้เขาเล่นเกมแมวจับหนูกับเธอแบบนี้ เธอแค่นเสียงขึ้นจมูกแล้วก็หันหลังกลับจะเดินหนีเขาไปหากทว่าก็ถูกเขาคว้าข้อมือเอาไว้ได้เสียก่อน ปล่อยนะ! เธอหันมาถลึงตาใส่เขาอย่างเอาเรื่อง มืออีกข้างที่ว่างอยู่เตรียมพร้อมที่จะป้องกันตัวเองถ้าเกิดว่าเขาคิดจะทำมิดีมิร้ายอะไรขึ้นมา นี่ ใจเย็นๆ ก่อนสิครับ ผมไม่ได้จะทำอะไรคุณสักหน่อย ชาร์ล็อตนิ่งงันเมื่อได้ยินเขาพูดภาษาไทยกับเธอด้วยสำเนียงที่ชัดเจน ริมฝีปากอิ่มเผยอค้างและมองเขาด้วยความตกใจ ทำไมคุณถึงพูดภาษาไทยได้ แม่ของผมเป็นลูกครึ่งไทย แล้วผมก็เคยอยู่ที่เมืองไทยตอนเด็กๆ อยู่พักหนึ่ง แล้วเขาก็ปล่อยมือของเธอพร้อมกับกลั้นยิ้มเอาไว้กับสีหน้าของเธอ ผมแค่อยากจะคุยกับคุณเฉยๆ เพราะผมเองก็ไม่คิดว่าคุณจะพูดภาษาไทยได้เหมือนกัน เห็นในประวัติที่เอเจนซี่ของคุณบอกเอาไว้ว่าคุณเป็นคนอเมริกัน คุณย่าของฉันเป็นคนไทยน่ะค่ะ เธอตอบด้วยท่าทีที่คลายความระมัดระวังลงเมื่อรู้จุดประสงค์ของเขา นี่อย่าบอกนะว่าที่คุณเอาแต่มองฉันตลอดก็เพราะเหตุผลนี้เองเหรอคะ? ผมก็แค่สงสัยเรื่องนี้ แต่จะหาโอกาสพูดคุยกับคุณตามลำพังก็ดันมาโดนขัดจังหวะเสียก่อน แต่ท่าทางคุณดูเหมือนจะไม่ได้เดือดร้อนกับการขัดจังหวะเท่าไหร่เลยนี่คะ แล้วนี่ทิ้งเจนไว้คนเดียวแบบนี้มันจะดีเหรอคะ? เธอไม่เป็นไรหรอกครับ... หรือคุณคิดว่าผมกำลังเดทกับเธออยู่ ก็ที่เห็นมันเป็นแบบนั้นไม่ใช่หรือไงล่ะคะ? เธอย้อนและพยายามทำเป็นไม่สนใจสายตาของเขาที่จ้องมองลึกเข้าไปในดวงตาของเธอ อาชีพแบบผมต้องอาศัยความคุ้นเคยและความไว้ใจซึ่งกันและกัน ไม่ว่าจะทั้งคน สถานที่ หรือแม้กระทั่งสัตว์ป่า ในเมื่อผมทำงานให้กับนิตยสารแฟชั่นก็ควรจะต้องทำความคุ้นเคยกับคนที่เป็นบรรณาธิการเพื่อที่จะได้รู้ว่างานที่ต้องทำจะออกมาในรูปแบบไหน ผมได้คุยกับเจนอย่างชัดเจนไปแล้วว่าไม่สามารถตอบรับไมตรีในแบบที่เธอเสนอให้ได้ และอีกอย่างหนึ่ง... การเป็นคู่นอนเพียงแค่คืนเดียวไม่ใช่รสนิยมของผมด้วย ด้วยสีหน้าและสายตาที่ดูจริงจังขึ้นเวลาพูดของแจ็คนั้นทำให้ชาร์ล็อตเกิดรู้สึกผิดเหมือนเด็กกำลังโดนผู้ใหญ่ดุขึ้นมาทั้งที่จริงๆ มันก็ไม่ใช่ความผิดของเธอเลยที่จะคิดแบบนั้น เพราะเห็นกันอยู่ว่าเจนนิเฟอร์ทอดสะพานเสริมใยคอนกรีตให้ขนาดนี้ แถมตัวเขาเองก็ยังทำท่าตอบรับไมตรีอีกฝ่ายแต่โดยดีแถมยังนั่งพูดคุยกันแบบแทบจะเกยขึ้นไปอยู่บนตัวของเขาแบบนั้นแล้วจะให้คิดเป็นอย่างอื่นไปได้ยังไง คำพูดของคุณมันฟังดูดีนะคะ แต่ว่าที่ฉันเห็นน่ะมันไม่ได้ช่วยให้ฉันคิดไปในทางที่คุณว่าเลย ถ้าอย่างนั้นคงเป็นความผิดของผมเองที่ไม่ประพฤติตัวให้เหมาะสม ฉันไม่มีสิทธิ์จะมาตัดสินคุณหรอกค่ะว่าผิดหรือถูก แค่รู้สึกว่าการกระทำของคุณมันสวนทางกับสิ่งที่พูดก็เท่านั้น น้อมรับคำวิจารณ์เพื่อไปปรับปรุงตัวครับ เขาพูดพลางแกล้งค้อมศีรษะให้เธออย่างอ่อนน้อม อย่าถือคำพูดของฉันเป็นคำวิจารณ์เลยค่ะ ฉันก็แค่พูดในสิ่งที่ฉันคิดและเห็น บางทีมันอาจจะไม่ได้มีค่าหรือมีประโยชน์อะไรเลยด้วยซ้ำ ผมถือว่าคำพูดของคนที่กล่าวกับผมอย่างตรงไปตรงมาน่ะมีค่ามากกว่าคำชม แล้วเขาก็มองไปรอบๆ สวนสวยดีนะครับ แต่ถ้าหากเป็นตอนกลางวันน่าจะสวยกว่านี้ ผมจะลองไปคุยกับเจนดูว่าพรุ่งนี้เราเซ็ตฉากถ่ายรูปในสวนนี้ได้หรือเปล่า ที่นี่น่ะเหรอคะ? เธอถามพลางเลิกคิ้วมองเขา ก็ยังไม่แน่หรอกครับ แล้วเขายกมือขึ้นลูบต้นคอตัวเองก่อนที่จะหัวเราะเก้อๆ ใส่เธอ แย่จริง กลายเป็นว่ามาวกพูดเข้าเรื่องงานจนได้ หญิงสาวยิ้มขันเมื่อเห็นท่าทางเก้อเขินของเขาและดวงตาของเขาก็ฉายแววขี้เล่นเหมือนอย่างที่เธอเคยเห็นเมื่อเช้าของวันนี้ ซึ่งนั่นก็ทำให้ชาร์ล็อตรู้สึกคลายความระมัดระวังตัวเองต่อเขาลงบ้าง เธอก้มลงมองนาฬิกาที่อยู่บนหน้าจอโทรศัพท์แล้วเงยหน้าขึ้นกล่าวกับเขาเมื่อสำนึกได้ว่าเธอใช้เวลาอยู่ที่นี่นานเกินไป โดยเฉพาะอยู่กับเขาตามลำพังในที่ปลอดคนเช่นนี้ พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้า ฉันว่าฉันกลับไปที่ห้องแล้วดีกว่า ชาร์ล็อตกล่าวพร้อมกับยิ้มให้กับเขาเป็นเชิงขอตัวแล้วเดินกลับไปทางเดิมที่เธอเข้ามา หากทว่าก็ต้องพบว่าแจ็คเองก็กำลังเดินตามหลังเธอมาเช่นกัน ดึกแล้วเดินไปคนเดียวคงไม่ปลอดภัย ให้ผมเดินไปส่งคุณเถอะนะ น้ำเสียงที่เขากล่าวนั้นฟังดูเหมือนเป็นประโยคบอกเล่ามากกว่าจะเป็นประโยคคำถามที่รอให้เธอตอบว่าได้หรือไม่ ซึ่งชาร์ล็อตก็ไม่คิดจะปฏิเสธเพราะเธอเองก็คิดว่ามีเพื่อนเดินไปด้วยก็คงปลอดภัยกว่าเดินกลับไปที่ห้องเพียงลำพังจริงๆ แกล้งหลอกให้ตายใจก่อนแล้วค่อยตลบหลังหรือเปล่านะ... ยังไงหมอนี่ก็ยังไว้ใจไม่ได้อยู่ดีนั่นแหละ ************************ ขอบคุณนะคะที่เดินมาส่ง เธอกล่าวเมื่อแจ็คเดินมาส่งเธอถึงหน้าห้องพัก ไม่เป็นไรครับ คุณเข้าห้องไปเถอะครับ ผมจะยืนรอจนกว่าคุณจะปิดประตูและล็อคให้เรียบร้อย หญิงสาวมองแจ็คด้วยความประหลาดใจเพราะตอนแรกเธอคิดว่าเขาจะแกล้งทำตัวเป็นสุภาพบุรุษกับเธอเสียอีก แต่นี่พอมาส่งถึงหน้าห้องแล้วดันไล่ให้เธอรีบเข้าไปในห้องเสียได้ และดูเหมือนแจ็คจะอ่านสายตาของเธอออกว่าเธอคิดอะไรอยู่ เขาจึงยกมุมปากยิ้ม ผมไม่คิดว่าคุณจะแกล้งลองทดสอบผมด้วยการชวนเข้าไปหาอะไรดื่มในห้องของคุณหรอกนะ เธออ้าปากค้างก่อนที่จะรีบแหวใส่เขาเสียงลั่น จะบ้าเหรอคะ ฉันไม่คิดจะทำอะไรอย่างที่คุณว่ามาหรอก ถ้าอย่างนั้นก็รีบกลับเข้าไปในห้องสิครับ ขืนยืนอยู่ตรงนี้นานๆ เดี๋ยวผมเปลี่ยนใจแล้วจะหาว่าไม่เตือนไม่ได้นะ ชาร์ล็อตตวัดค้อนกับคำพูดของเขาด้วยความเคืองขุ่นแล้วก็เสียบคีย์การ์ดเปิดประตูและเดินเข้าไปในห้องโดยที่ประตูยังเปิดค้างไว้อยู่ ฉันเข้าห้องแล้ว พอใจหรือยังคะ? เธอถามพลางเอียงคอใส่เขาอย่างจงใจกวนโมโหเขา ซึ่งเขาก็เพียงแค่หัวเราะกับท่าทางยียวนเป็นเด็กๆ ของเธอเท่านั้น ราตรีสวัสดิ์ครับ เธอเม้มริมฝีปากกับรอยยิ้มของเขาก่อนที่จะพึมพำตอบด้วยประโยคเดียวกันพร้อมกับปิดประตูและล็อคกลอนให้เรียบร้อยตามที่เขาบอก หลังจากนั้นชาร์ล็อตก็เดินไปที่ห้องนอนและทิ้งตัวลงแผ่บนเตียง ตอนแรกเธอตั้งใจว่าจะนั่งเขียนนิยายต่อ แต่ว่าพันช์ผลไม้ที่ดื่มไปกำลังทำให้เธอรู้สึกง่วงนอน ดวงตาของเธอเหม่อมองเพดานห้องพักปล่อยให้ความคิดล่องลอยไปกับคนที่เธอเพิ่งบอกราตรีสวัสดิ์เมื่อครู่ เธอไม่เชื่อในว่าเขาอยากทำความรู้จักกับเธอเพราะรู้ว่าเธอมีสายเลือดของคนไทยปะปนอยู่เหมือนอย่างที่เขากล่าวอ้างมา จากที่โลดแล่นอยู่ในวงการแฟชั่นซึ่งเต็มไปด้วยผู้คนมากมายที่พยายามเข้าถึงตัวเธอมาหลายปีมีหรือจะมองไม่ออกว่าเหตุผลของเขาไม่ใช่เพียงแค่นั้น เพียงแต่ท่าทีของเขาก็ทำให้เธอมองไม่ออกว่าเขาคิดยังไงกับเธอกันแน่ ถ้าหากไม่คิดจะจีบแล้วทำไมก่อนหน้านี้ต้องมองเหมือนจะจับเรากินทั้งเป็นอย่างนั้นด้วยล่ะ เธอถามตัวเองในใจพลางพ่นลมหายใจออกมายาวเหยียดแต่ถึงยังไงหลังจากจบงานนี้ก็คงต่างคนต่างแยกกันไปคนละทางอยู่ดี ได้ร่วมงานกันแค่ครั้งนี้แค่ครั้งเดียว เขาก็คงไม่ได้คิดจะจริงจังอะไรอย่างที่นึกกลัวไว้ก็ได้ ถ้าหากเราระวังตัวให้ดีก็คงไม่เป็นอะไรหรอกมั้ง ชาร์ล็อตพ่นลมหายใจยาวเหยียดและปัดความคิดพวกนี้ทิ้งไปก่อนที่จะยันตัวลุกขึ้นจากเตียงเพื่อไปผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมตัวเข้านอนเพื่อที่จะได้พร้อมสำหรับการทำงานในวันพรุ่งนี้แทน **************************
*************************
***********************
*************************
โปรดติดตามตอนต่อไป
ตอนที่ 2 มาแล้ว อ่านแล้วคิดยังไงมาคุยกันนะคะ แวะทักทายคุยกันค่ะ ![]() รักคนอ่านค่ะ ![]() ![]() ![]()
|
ตัว(Z)
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ลมหนาว ฟ้าใส หาดทราย ใบไม้เปลี่ยนสี Group Blog All Blog
Friends Blog
Link |
|||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |