cat in the cradle
Location :
พนมเปญ Cambodia

[Profile ทั้งหมด]

ให้ทิปเจ้าของ Blog [?]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]


ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ชีวิตขึ้นกับจังหวะของช่วงเวลานั้นๆ ตอนนี้เรามา"ฝึกปฏิบัติงาน"ที่พนมเปญ กัมพูชา โดยจะสิ้นสุดในสิ้นเดือนสิงหา ตั้งใจว่าจะพยายามบันทึกสิ่งต่างๆที่ได้พบเห็นพร้อมกับความคิดเห็นส่วนตัว บอกเล่าลงในบล็อกให้มากที่สุด เพื่อให้ทั้งตัวเราและคนที่แวะเข้ามาเยี่ยมชมได้รู้จักแผ่นดินแห่งนี้ให้มากยิ่งขึ้น
มาทำความรู้จักแผ่นดินที่เคยเป็นสุดยอดอารยธรรมแถบนี้ด้วยกันเถอะทุกคน!
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add cat in the cradle's blog to your web]
Links
 

 

http://catinthekitchen.exteen.com

ย้ายถาวรไปอยู่ exteen แล้วนะคะ

//catinthekitchen.exteen.com/




 

Create Date : 06 มกราคม 2553    
Last Update : 6 มกราคม 2553 14:30:33 น.
Counter : 942 Pageviews.  

ย้ายบ้านโลด ไป multiply ดีกว่า

เนื่องจากไปหลงรัก multiply มาระยะหนึ่งแล้ว แมวจึงขอปิดบ้านบล็อกแก๊งเพื่อย้ายถาวร (โดยไม่ขนข้าวของไปด้วย) ไปยัง //catinthecradle.multiply.com นะจ๊ะ

ผู้ใดว่างจัดหรือดวงตกหลงเข้าบ้านแมวที่นี่ หากยังคิดว่าดวงตกไม่พอก็แวะไปเยี่ยมได้นะจ๊ะ ที่โน่นตั้งใจไว้ว่าแต่ละ entry จะพิมพ์สั้นๆ จะได้ไม่ยาวเกินทน (หรือเปล่า) ...

แล้วเจอกัน จ๊วบ จ๊วบ จ๊วบบบบบ......


"""มาแก้แระ"""




 

Create Date : 04 ธันวาคม 2550    
Last Update : 4 ธันวาคม 2550 21:38:45 น.
Counter : 452 Pageviews.  

19 สิงหาฯ 50 มีโอกาสก็ไปใช้สิทธิกันนะจ๊ะ

ไม่เค๊ยไม่เคยที่แมวจะรู้สึกว่าตัวเองโดนริดรอนสิทธิส่วนตัวได้เท่านี้มาก่อน...
...
อยู่เขมรไปลงมติ ไม่รับ-รับ ร่าง รธน.50 ไม่ได้
...
แม้แมวจะยังอ่านบทสรุปร่าง รธน.50 ไม่จบ (ฉบับจริงไม่อ่านเพราะยาว รธน.บ้าอะไรใส่เข้าไปเสียทุกอย่าง...แล้วจะมี กม.ลูกออกมาทำแป๊ะไรวะ) แต่ส่วนตัวก็อยากใช้สิทธิน่อยๆ ที่ปกติไม่ค่อยจะมีโอกาสใช้กับเขามั่ง
...
แปลกแต่จริง...ร่าง รธน.ของไทย แต่คนไทย(ต่างแดน) ไม่มีสิทธิให้ความเห็น
...
น้อยใจหน่อยๆ ที่พอขาอวบๆ ของแมวพ้นสิ่งที่เรียกว่าพื้นที่ประเทศไทยแล้ว...แมวก็หมดสิทธิในฐานะคนไทยไปทันที
...
แง่ว...ไม่อยากพูดไรมาก แต่ผู้ได๋อยู่เมืองไทยก็จงไปใช้สิทธิในฐานะ "คนไทย" เถอะ จะไม่รับ-รับก็แล้วแต่ท่าน
...
แต่แมวมีคำตอบกับตัวเองกึ่งๆ แระ (ยังไม่ตัดสินใจ 100% เพราะยังอ่านสรุปไม่จบ) แม้จะไม่มีโอกาสได้ใช้สิทธิก็เหอะ

...แล้วเจอกัน...




 

Create Date : 06 สิงหาคม 2550    
Last Update : 6 สิงหาคม 2550 11:00:11 น.
Counter : 491 Pageviews.  

ตะลุยเดี่ยวบุกตลาดแขมร์

ตั้งชื่อบล็อกให้เท่ห์ไปงั้นแหละ ความจริงแมวตัวอ้วนๆที่ชอบกินๆนอนๆน่ะ จะให้ไปลุยแบบนักเที่ยวมืออาชีพก็ย่อมเป็นไปไม่ได้
...จริงมะ จริงมะ...

เรื่องของเรื่องมันต่อเนื่องและสืบเนื่องมาจากการที่คุณป้าจะไม่อยู่สองวัน (6-7 พฤษภาคม 2550) คือวันอาทิตย์และจันทร์ ดังนั้น แมวและเพื่อนจึงกลายเป็นเด็กถูกทิ้งร้างกลางเมืองที่เพิ่งมาอยู่ได้ไม่ถึง 64 ชั่วโมงไปในทันที
...เราจะทำยังไง...เราจะทำยังไง...หากคุณป้าไม่อยู่...ลัลล้า...ฮืออ

เพื่อนร่วมชะตากรรมสรุปได้ทันทีว่า
...ใช้ชีวิตกินๆนอนๆอยู่ในโรงแรมก็สิ้นเรื่อง มีทั้งสระว่ายน้ำ ห้องออกกำลังกาย ซาวน่าฯลฯ ...
...ทำไมจะต้องออกไปข้างนอกเองให้เสี่ยงชีวิตในเมืองเล็กๆแห่งนี้ด้วย...

แมวคอตกเออออไปด้วยเพราะตัวเองก็ไม่มีปัญญาไปไหนเช่นกัน

โดดเดี่ยววันแรกในพนมเปญ

...เช้าตรู่กะจะตื่นสายเสียหน่อย เลยตื่นมาเสียเก้าโมงกว่าๆ ลงไปทานอาหารเช้าแล้วกลับขึ้นมากลิ้งๆดูทีวี ชีวิตว่างเปล่า...

สิบโมงกว่าๆเพื่อนโทรมาบอกว่าเพิ่งขึ้นมาจากการทานอาหารเช้า และเนื่องจากทานอาหารเช้าสาย เลยกะว่าจะยกยอดอาหารเที่ยงไปทานมื้อเย็นตั้งแต่สักสี่ห้าโมง แมวเออออนอนดูทีวีต่อ

...เบื่อมากเลยหยิบโน้ตบุ๊คมาพิมพ์จดหมายถึงแม่กับน้องๆ กะไปส่งที่สถานทูตวันอังคาร...

...มื้อเที่ยงคุ้ยอะไรกินน้า...ผ่านมาสองอาทิตย์ จำไม่ได้แล้ว รู้แต่ว่ามีนมถั่วเหลือง made in Cambodia(วันหลังจะรีวิว เป็นอาหารให้แมวรอดตายมาหลายครั้งแล้วตั้งแต่มาอยู่ที่นี่) อ้อ กล้วยด้วย...

...แล้วก็แวะไปเดินเล่นที่ City Top Supermarket ที่ตั้งอยู่หน้าโรงแรม...เฮ้อ ไม่ค่อยมีอะไรขายเลย...

...เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า...
ใกล้ห้าโมงเย็น เพื่อนโทรมาชวนออกไปทานข้าว แมวลัลล้าดีใจได้ออกจากห้องนอนแคบๆ
...ทายซิว่าไปกินไหน...
...ปิ๊งป่อง ไม่ต้องเดาก็รู้...โคคาสุกี้หน้าโรงแรม...

เปิดเมนูกัน ไม่รู้จะกินอะไร เพื่อนเลยเสนอทางออกสุดท้าย
...มาร้านสุกี้ก็ต้องกินสุกี้...
...เริ่มจากกินน้ำกินท่าเสียก่อน...



...ชุดสุกี้ที่สั่งมาแล้ว..มีผักหน้าตาแปลกๆมาด้วย...



...นั่งรอซุปเดือด เลือกไว้สองชนิดคือต้มยำกับซุปไก่...



...อ่ะ แจกท่านผู้หลงเข้ามาอ่านบล็อกแมวคนละถ้วยจ้ะ...



กินเสร็จอิ่มหนำเรียกคิดตังค์ ตกออกมาคนละ 8 เหรียญ อืม...คูณสี่สิบบ้านเราแล้วเพื่อนบอกว่าราคาพอสูสีกัน
...โอ้ ใครว่ากัมพูชาค่าครองชีพถูก ดัชนีสุกี้โคคาขอยืนยันว่าไม่ฮ่ะ...

กลับเข้าโรงแรม แวะร้าน Bakery ชั้นใต้ดินที่ได้รับคำแนะนำว่าหลังหกโมงเย็นจะลดครึ่งราคา
...อืม ขนมปังไม่ชอบ...อืม เบื่อเค้กอ่ะ เดี๋ยวอ้วน(กว่านี้อีก)...
...สุดท้ายตัดใจ(?) ซื้อมาคารูนกับคุ้กกี้ถั่วหน้าคาราเมลอย่างละสามชิ้น...
...ลดราคา 30%...
...แพงกว่าซื้อเค้กก้อนใหญ่อีก...

กลับขึ้นห้องนอน อาบน้ำเสร็จนอนเอกขเนกดูทีวี เจอรายการของ Johny Junior’s แหม Kat-tun นี่ดูๆไปก็น่ารัก ยั่วน้ำลายป้า (?) ดีแท้ ต่อด้วยละครทีวีของไต้หวันที่ไม่รู้ชื่อ ฟังก็ไม่รู้เรื่องแต่สนุกจริงๆ
...จบแล้วก็หลับปุ๋ย หมดไปหนึ่งวัน...

โดดเดี่ยววันที่สองในพนมเปญ

ตื่นมาแต่เช้าตรู่เพราะตั้งใจว่าวันนี้ต่อให้เพื่อนไม่ออกไปไหนด้วย
...แมวก็จะลุยเดี่ยว...

...แบบว่าอยู่โรงแรมไม่ไหวแล้ว ไม่ชอบออกกำลังกาย ว่ายน้ำก็ว่ายไม่เป็น เดินซะทั่วโรงแรมแล้วอีกต่างหาก...

...เริ่มด้วยเติมพลังมื้อเช้าอย่างพอเพียง ข้าว เนื้อผัดผัก ไข่ดาวสองฟอง(บอกพ่อครัวไม่ทันว่าเอาฟองเดียวก็เลยต้องเลยตามเลย) พริกน้ำปลาและผลไม้...



...กาแฟหนึ่งแก้วแล้วทำโรแมนติกชมบรรยากาศ...



เมื่ออิ่มจนจะกลิ้งได้แล้ว ก็ดุ่ยๆไป Help Desk (หรือจะชื่ออะไรก็ไม่รู้ แมวรู้แค่เค้าพูดกับแมวรู้เรื่อง) คุยๆถามๆจะไป Psar Tol Tom Poung ด้วยมอเตอร์ดุ๊ค (มอเตอร์ไซรับจ้างบ้านเค้า)
เจ้าหน้าที่มองหน้าแล้วถามย้ำว่าแน่ใจเหรอ ทำไมไม่ใช้มอเตอร์ไซที่ลากรถด้านหลัง
...แมวถามราคา...
...โอ้ ห่างกันเกือบเท่าตัว...มอเตอร์ดุ๊คจ่ายสามพันเรียล แต่มอเตอร์ไซลากรถจ่ายหนึ่งดอลล่าห์ขึ้นไป..
แมวจึงดื้อยืนยันว่าไปคนเดียวมอเตอร์ดุ๊คประหยัดกว่า เจ้าหน้าที่ถอนใจแล้วเตือนเรื่องข้าวของและแก๊งมอเตอร์ไซฉกกระเป๋าที่ทำให้คนพนมเปญเสียชีวิตมาหลายคน แมวพยักหน้าหงึกหงัก จดจำข้อควรระวังอย่างตั้งใจ

...ก่อนอำลายังขอให้เค้าช่วยเขียนชื่อโรงแรมเป็นภาษาขแมร์อีกต่างหาก...
...กันไว้ก่อนอ่ะ เผื่อคุยกันไม่รู้เรื่องจะได้กลับบ้านถูก...

เดินดุ่ยๆออกมายังไม่ทันพ้นเขตโรงแรม มอเตอร์ดุ๊คคันหนึ่งโฉบเข้ามาทันที
แมวพยักหน้าแล้วบอกที่หมาย

“Four Thousands” สารถีตอบโดยไม่ต้องคิด
แง่ง ไม่ยอมหรอก “Two Thousand Riel” แมวโต้

สารถีมองตาเหลือก นักท่องเที่ยวตัวกลมคนนี้มันงกกว่าที่คิด น้ำมันลิตรละสี่สิบบาทไทย แกจะจ่ายค่ารถไป Tol Tom Poung แค่ยี่สิบบาท (1,000 riel เท่ากับ 10 บาทโดยประมาณ)

“Three Thousands and Five Hundreds” สารถีโต้ด้วยภาษาอังกฤษอย่างคล่องแคล่ว

แมวส่ายหน้า ทำท่าจะเดินหนี “Three Thousands”

สารถีถอนใจพยักหน้าตกลง แมวปีนขึ้นรถฮัมเพลงในใจ

นั่งรถดุ่ยๆไปได้ประมาณสิบนาทีก็ถึง Psar Tol Tom Poung (ออกเสียงประมาณ โตล ตม โปง)หรือ ตลาดรัสเซีย
...แมวมองไปรอบๆ แล้วหันไปถามสารถีให้แน่ใจ...
...ทำไมมันเหมือนเพิงสังกะสีมาเรียงต่อๆกันจังเลยแฮะ...

...จะสงสัยไปก็ไม่มีประโยชน์ แมวตัดสินใจเดินดุ่ยๆเข้าตลาด...



...ภายในตลาดค่อนข้างอบนิดหน่อย ด้วยความเป็นคนจมูกกระแดะ(แพ้อากาศ) แมวรู้ได้เลยว่าที่นี่...
...ฝุ่นเยอะมาก...

...ภายในตลาดขายของหลากหลาย ตั้งแต่ซีดี(เถื่อน) เสื้อผ้า รองเท้า พลอย เงิน ของที่ระลึกแบบต่างๆที่หลายชนิดและหลากวัสดุ...หลายชิ้นน้ำลายหกเพียงแค่แวบแรกที่เห็น...แต่หลายชิ้นก็เมินได้เพราะมันเหมือนของในจตุจักร...เดินๆไปได้โปสการ์ดมา 2 ชุดได้ไงก็ไม่รู้...เงินออกจากกระเป๋าล่ะ...



...แมวเดินๆอยู่ก็เจอเด็กชายตัวน้อยๆห้อยตะกร้าใส่หนังสือมาขาย...
คุยไปคุยมา แถมด้วยเจ้าของร้านเครื่องเงินคนหนึ่งช่วยต่อราคา สุดท้ายแมวสอยมาสองเล่มในราคา 5 ดอลล่าห์

...หนังสือภาษาอังกฤษที่นี่เป็นฉบับ illegal ล้วนๆนะจ๊ะ...

...แต่แมวว่าคุ้มเพราะถ้าซื้อเองต้องเล่มละสามสี่ร้อยขึ้นไป นี่เล่มละไม่ถึงสองร้อยแต่ทำรูปเล่มออกมาดีเชียว...
...เล่มหนึ่งเกี่ยวกับ S-21 ค่ายคุมนักโทษสุดโหดของเขมรแดง อีกเล่มเกี่ยวกับใครซักคนที่เขียนเกี่ยวกับพอล พต...
...ไว้(ชาติหน้า)อ่านจบจะมารีวิวจ้ะ...

เดินเล่นลึกเข้าไปเรื่อยๆจนถึงบริเวณที่ขายของแห้ง...มีตั้งแต่สากกระเบือยันเรือรบอย่างที่เค้าว่าจริงๆ ...ทุกอย่างหาซื้อได้ที่ตลาด..แถมถูกอีกต่างหาก...มิน่า Supermarkets บ้านเค้าถึงไม่รุ่นเรืองเหมือน กทม.บ้านเรา...

...ลึกเข้าไปอีกเป็นส่วนของตลาดสด...โอ้ ตลาดแขมร์เก๋เป็นบ้า...ซื้อได้ทุกอย่างจริงๆ...

...มาตลาดหนึ่งครั้งก็ซื้อตั้งแต่ของสดราคาไม่ถึงสิบบาทไปทำกับข้าวยันซื้อของหรูๆราคาเหยียบแสนพร้อมกันทีเดียว...

...แต่คงต้องพกเงินสดกันเป็นฟ่อนล่ะนะ...เมืองนี้เขานิยมระบบเงินสดจ้ะ...

ก่อนออกจากตลาด แมวแวะซื้อเหรียญเงินที่เขาใช้กันก่อนเขมรแดงบุกพร้อมกับโปสการ์ดอีกหนึ่งชุด
...แล้วก็ขอถ่ายรูปเจ้าของร้านมาหนึ่งภาพ...



ใกล้เที่ยงเริ่มร้อนแถมหิวอีกต่างหาก จะกลับที่พักก็ไม่มีอะไรกิน แมวเลยออกจากตลาด โบกมอเตอร์ไซจะไป Paragon Cambodia เพราะร้อนมาก อยากตากแอร์ตามประสาเด็กบางกอกจอมดัดจริต

...แบบว่ารู้จักอยู่ที่เดียวทั้งเมืองอีกต่างหาก...

...ประตูทางเข้ามีข้อห้ามต่างๆที่น่าสนใจ...ปืน มีด ระเบิดมือ(เฮ้ย!?!) กล้อง หมา แมวและบุหรี่...



...เดินดุ่ยๆ ตรงขึ้นชั้นสามกะจะไปหาอะไรกิน...

>>>เบรก>>>...หากท่านผู้อ่านติดตามบล็อกที่แล้วของแมวมา ตอนนี้คงทราบแล้วว่าห้างพารากอนที่นี่...
...มันมีสามชั้นจ้ะ...อิอิ...<<<จบเบรก<<<

...ขึ้นไปถึงชั้นสาม เดินสำรวจร้านอาหารใน food court เจอกลุ่มคนหน้าตาคุ้นๆเลยยกมือไหว้...อ้าว ท่านที่ปรึกษาพาณิชย์กับพี่ก้อนั่นเอง...
...และด้วยเหตุนี้ แมวจึงได้ทานข้าวเที่ยงฟรีไปเฉยเลย...

...เมื่อทานข้าวเที่ยงของเขา...ก็ต้องไปช่วยเขาขายผลไม้ต่อ...คนแขมร์ชอบทานผลไม้ ซื้อกันคนละ 4-5 กิโลกรัม...ภาพนี้เป็นบู้ทขายที่ตั้งอยู่หน้า supermarketของห้าง...



แต่ช่วยอะไรมากไม่ค่อยได้เนื่องจากพูดขแมร์ไม่รู้เรื่อง...สุดท้ายต้องถอยมาเป็นทัพหลังคอยช่วยแบกหามลังกับชั่งน้ำหนักผลไม้แต่ละถุงแทน



คุยเล่นกับช่วยเขายกของสักพักเริ่มเหนื่อย จึงขอแวบออกไปด้านหน้าห้างเพื่อไปดื่มกาแฟสักแก้ว
...คุ้นไหมกับเครื่องหมายการค้าอันนี้...



...เครื่องดื่มประจำร้านที่อร่อยชื่นใจ ไม่จืดชืดเหมือนน้ำล้างแก้วที่สาขาศูนย์ประชุมสิริกิตติ์...



เมื่ออิ่มพุงและอิ่มใจ แมวก็กลับมาช่วยป่วนบู้ทผลไม้จนเย็นย่ำค่ำมืด พี่ก้อจึงไล่ให้ไปลองดูการแสดงที่เวทีด้านหน้าห้างเพื่อจะได้เห็นวัฒนธรรมการฟังเพลงของคนที่นี่



...โดยส่วนตัวแมวคิดว่า...เหมือนเพลงลูกทุ่งบ้านเราแฮะ...

กลับมาป่วนบู้ทผลไม้ต่อจนใกล้สามทุ่ม...ผลไม้ใกล้หมด...พี่ก้อปิดบู้ทแล้วลากขึ้นไปชั้นสามเพื่อหาข้าวเย็นทาน

...มากันที่บู้ทอาหารนี้...อาหารไทยจากคนไทยจ้ะ...



...ข้าวผัดกุ้งกันคนละจาน ซุปคนละถ้วยกับน้ำสตรอเบอรี่คนละแก้ว...สุขีอิ่มพุง...



ขากลับเจ๊ก้อใจดีอาสาขับรถไปส่ง...แบบว่าถ้าไม่ส่งแมวก็นอนพารากอนล่ะ โดนขู่ไว้เยอะว่ากลับคนเดียวอันตราย นอนห้างแล้วแอบแฮ๊บขนมในซุปเปอร์เขากินท่าจะดีกว่า เคี้ยก เคี้ยก...

กลับถึงที่พักโทรรายงานตัวเพื่อนเพื่อไม่ให้ตกใจว่าหายตัวไป แล้วอาบน้ำ นอนดูทีวีจนง่วง
...ปิดไฟนอน หลับปุ๋ย มีความสุข...

แมวเหมียวชวนชิม: ประเดิมด้วยมาคารูนและคุ้กกี้พีนัตของที่พัก””



ด้านซ้ายคือมาคารูน ด้านขวาคือพีนัตคุ้กกี้
มาคารูน: หวานเลี่ยนๆ แมวกัดคำแรกก็สรุปได้เลยว่าไม่ถูกชะตากับชิ้นนี้...สงสัยจะไปไฮโซที่ฝรั่งเศสไม่ได้เสียแหล่ว ลิ้นไม่รับ...
พีนัตคุ้กกี้: อร่อยมาก คุ้กกี้ช็อคโกแลตผสมถั่ว ท็อปปิ้งเป็นพีนัตคาราเมลราดช็อคโกแลตทับเป็นเส้นบางๆ แม้จะเป็นขนมขายลดราคาหลังหกโมงเย็น แต่รสชาติอร่อย หวาน มันกำลังดี ชิ้นนี้รับประกันจ้ะ

...แถมด้วยภาพเมื่อคนทั้งสถานทูตไม่อยู่...แม้แต่เพื่อนแมวก็ไปทำงาน...เหลือแมวที่ท้องเสียนั่งหง่าวอยู่คนเดียว เหงาจังเวลาไม่มีใคร...
...เลยเดินไปถ่ายบางมุมที่ตามปกติแม้ไม่เห็นตัวคน แต่ก็ยังได้ยินเสียงเดินหรือพูดคุยกัน...


...เหงาได้ยี่สิบนาที ท่านที่ปรึกษา...ก็เดินตัวปลิวเข้าห้องฝั่งตรงข้ามห้องแมว...
...เฮ้อ โล่งใจ รู้สึกอุ่นใจจังเมื่อรู้ว่ามีคนรู้จักอยู่ใกล้ๆ อิอิ...





 

Create Date : 24 พฤษภาคม 2550    
Last Update : 24 พฤษภาคม 2550 19:02:08 น.
Counter : 1261 Pageviews.  

วันที่สองกับงานสังคมงานแรก

...ภาพหนึ่งภาพแทนคำพูดได้นับพันคำ...
อ่ะ หนึ่งภาพ ด้วยรักจากแมวเหมียว...


......
...ใครคิดคำพูดนี้ฟะ ขนาดแมวดูเองยังงงเลยว่าคนถ่ายอย่างแมวถ่ายไปทำไม...
เอ๊ะ แต่ส่องดีๆจะเห็นความหมายที่ซ่อนเร้นของผู้ถ่าย(แหวะ)

...นั่นคือ ณ ตอนนั้น...แมวกับเพื่อนอยู่ที่งาน Thai Food and Fruits Fair at Paragon Cambodia...
หึหึ มาถึงพนมเปญได้ไม่ถึงยี่สิบสี่ชั่วโมงแมวก็ออกงานสังคมแล้ว

...ออกงานตอนสิบเอ็ดโมงครึ่ง แดดเปรี้ยงกลางลานจัดงานหน้าห้างเลย...

เท่าที่จับใจความได้...งานนี้ DEP ของไทยจัดขึ้นเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนสินค้าด้านอาหารและผลไม้ของไทย โดยเฉพาะผลไม้ซึ่งราชอาณาจักรกัมพูชานำเข้าจากประเทศไทยเป็นจำนวนมาก ด้วยเหตุนี้ จึงมีการจัดงานขึ้นเพื่อกระตุ้นความนิยมสินค้าของไทยให้มากขึ้นไปอีก

อืม...งืม...แมวนั่งฟังท่านฑูตพาณิชย์ไทยสลับล่าม สลับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรเขา สลับล่ามไปเรื่อย จิบน้ำเปล่าแก้ร้อนไปเรื่อย พลางฟังเสียงเล่าเรื่องอาหารในตลาดท้องถิ่นจากพี่ที่นั่งข้างๆไปเรื่อย...อืม...งืม...
...เมื่อไหร่จะปล่อยตูเข้าห้างฟะ ร้อนอ่ะ...หิวด้วย...

...ว่างๆก็นั่งสังเกตรัฐมนตรีบ้านเขา...


อืม รัฐมนตรีเขาดูเท่ห์ไม่หยอกเนอะ ถูกใจแมว ภูมิฐาน สง่าและอยู่ในวัยกลางคน


เมื่อท่านทูตพาณิชย์ไทย รมต.เกษตรบ้านเขาและล่ามช่วยกันพูดจนหมดแรง(พูดจบนั่นแหละ) การแสดงก็เริ่มขึ้น
...การแสดงโชว์ผลไม้ไทยโดยสาวสวยชาวขแมร์...


...ไหนๆ ใครกันที่ว่าสาวขแมร์ไม่สวย ปากนิด จมูกหน่อย ตาโตหวานฉ่ำเชียวนะ...


...ต่อกันด้วยการแสดงโชว์ผลไม้ไทยจาก “ฉาว”สวย(?) ชาวขแมร์...อันนี้แมว proudly presented จ้ะ...


...ดูดีๆสิว่าเจ๊คนนี้ถืออะไรไว้ อย่าทำเจ๊โกรธเชียวนะ เดี๋ยวโดนขว้างใส่...



จบการแสดง ก็ไปต่อกันด้วยพิธีเปิดงานตัดริบบิ้นตามธรรมเนียม อ้อ...สุภาพสตรีในชุดเดรสยาวสีชมพูคือเจ้าของห้าง


...ตัดกันคนละครั้งสองครั้ง...และหลายครั้งเพราะกรรไกรเจ้ากรรมดันไม่คมเสียนี่...แต่สุดท้ายก็ประสบความสำเร็จ พิธีกรจึงประกาศเชิญแขกผู้มีเกียรติขึ้นไปชั้นบนเพื่อรับประทานอาหาร(ฟรี)
...เฮ....ผู้คนกรูขึ้นบันไดเลื่อนไปทันที เว้นแมวกับเจ้าหน้าที่สถานฑูตที่ต้องรอผู้ใหญ่ขึ้นไปก่อน...

รอกันพักใหญ่ๆจึงได้ขึ้นไป ภาพถัดไปคือบริเวณทางเข้าบุฟเฟอาหารไทย



ผ่านซุ้มเข้าไปทางด้านขวามือจะมีโต๊ะจ่ายเงิน โดยคิดเป็นบุฟเฟหัวละ 5 เหรียญ
...แต่ด้วยความผิดพลาดจากการประกาศของพิธีกรซึ่งแทนที่จะเชิญเฉพาะแขกที่มาร่วมพิธีเปิดงาน โดยเผลอประกาศว่าเชิญ “ทุกคนในบริเวณนั้น” มาร่วมทานอาหาร...
...วันนี้จึงกลายเป็นวันกินฟรีไปซะงั้น...



แมวและคณะเจ้าหน้าที่ขึ้นไปถึงส่วนรับประทานอาหารก็ตอนที่ผู้คนจับจองที่นั่งได้กันเกือบหมดแล้ว มองไปรอบๆก็เห็นว่าทางห้างแค่กั้นพื้นที่ส่วนรับประทานอาหารของ Food court เค้าให้บุฟเฟอาหารไทยครึ่งหนึ่ง โดยใช้โต๊ะยาววางผลไม้ไทยไว้เป็นที่กั้น

...ดูเรียบง่ายเป็นกันเองดีจัง...



เมื่อแมวและคณะ (จริงๆต้องเป็น “คณะและแมว”) หาโต๊ะได้แล้ว การไล่ล่าอาหารก็เริ่มต้นขึ้น


...เดินไปตรงไหนก็มีแต่คน แต่อาหารไม่มี...



...แต่สุดท้าย ความพยายามก็บังเกิดผลดังภาพถัดไป...



อาหารไทยที่นำมาจัด มาจากโรงแรมซึ่งเป็นกิจการของคนไทยชื่อ Juliana
...ผัดไทยเปรี้ยวอ้ะ...ใส่น้ำส้มมะขามเสียเยอะเชียว ซักพี่ๆมาได้ความว่าคนที่นี่ชอบ “เปรี้ยว จืด”...
...ถึงว่าต้มยำปลาเหลือเต็มไปหมด...เสร็จโจร เอ๊ย แมว...
...กินกันอิ่มหนำ(ไม่สำราญเพราะรสไม่ค่อยเหมือนบ้านเรา) ก็กลับสถานฑูต นั่งก๊อกๆแก๊กๆจนเย็นจึงได้เวลากลับที่พัก...

...พรุ่งนี้และวันมะรืน คุณป้าจะไม่อยู่เพราะต้องไปรับสิ่งของที่จะเอามาบริจาคให้โรงพยาบาลที่นี่...
...แมวและเพื่อนต้องใช้ชีวิตตามลำพังกลางกรุงพนมเปญที่ขึ้นชื่อเรื่องอันตราย...
...ชีวิตพวกเราจะเป็นอย่างไร โปรดติดตามจ้ะ...



หมายเหตุ DEP คือ Department of Export Promotion ของประเทศไทยนะจ๊ะ




 

Create Date : 16 พฤษภาคม 2550    
Last Update : 16 พฤษภาคม 2550 15:39:57 น.
Counter : 677 Pageviews.  

1  2  
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.